15 กันยายน 2546 17:32 น.
กวินทรากร
กาพย์ห่อโคลง
โครงการขานชื่อเอื้อ...............อาทร
หวังช่วยประชากร.................ยากไร้
คนจนทั่วนคร........................คิดพึ่ง..พาเอย
ดีรึเลวหนอไซร้.....................ราษฎร์ตั้งคำถาม
โครงการ ขานชื่อเอื้อ-..................อาทรเพื่อ ราษฎร
หวังช่วยประชากร........................ผู้ลำบาก และยากเข็ญ
คนจนล้นประเทศ.........................จะเทวษ รึ ร่มเย็น
นโยบาย จักกลายเป็น...................ประโยชน์ให้ ไทยจริงหรือ ?
14 กันยายน 2546 21:10 น.
กวินทรากร
วานวาสิกาคาถา
อลสสฺส น ชายติ มติ ธนญฺจ
มติธเน ยสฺส อสติ อิธ กถํ
โส สุขี ปรมฺหิ จ อปิ จ ทุขี
ตสฺมา อลโส วตน จ ภเวยฺย
เงินทองกองท่วมบ้าน..........บ่ขยัน
ครั้นเกียจกอบโกยปัญ-........เญศด้อย
สุขังยั่งยืนฉัน-....................ใดเล่า..สหายเอย
สมบัติยศหมื่นร้อย..............ย่อมรู้โรยรา
ปัญญาทรัพย์สมบัติเกิดมีแก่คนเกียจคร้านผู้ใด
เมื่อปัญญาและทรัพย์สมบัติไม่มีแก่คนผู้นั้นแล้ว (เสื่อมลง)
ความสุขในชาตินี้แลชาติหน้าจักมีด้วยประการฉันใด
ยศสมบัติเหล่านั้นนักปราชญ์จักปรารภเอาย่อมไม่มี
หมายเหตุ
โคลงสี่สุภาพ ที่แต่งถ้อยความอาจไม่สอดคล้องกับ บาลีด้านบน ขอให้ดู คำแปลเป็นหลัก เพราะโคลงแต่งเสริมจากคำแปลบาลีเป็นไทย อีกชั้นหนึ่ง
11 กันยายน 2546 15:09 น.
กวินทรากร
โกมุทีสี่เหล่าไท้...................ท่านสอน
บ้างอยู่ปริ่มชโลทร...............ท่าน้ำ
บ้างอยู่ ณ สาคร...................เปื้อนเปือก..ตมเอย
มัตสยาหาร, ช้ำ-...................ชอกแพ้พิพิธภัย
มนุษย์มนัสคล้าย..................สโรชา
อันเนื่องแนบในธา-..............ริศนั้น
ใจสูงจึ่งธรรมา-.....................ทิตย์ส่อง..ซาบเอย
ใจต่ำกรรมกีดกั้น..................เกาะเกี้ยวกลางสนาน
ก้านบัวบอกตื้นลึก.................แหล่งชล
เธียร รึ ทาส เพราะผล.........พูดอ้าง
น้ำนิ่งย่อมใสจน.....................ปานกระจก
น้ำขุ่นวน เคว้งคว้าง..............เฉกผู้ผยองธรรม
ทุกคำโคลงใช่เย้ย....................หยันใคร
อย่าพินิจผิดใจ........................จาปจ้วง
จงวิเคราะห์เหมาะนัย..........เนื้อทิพ..สารนา
พุทธะดำรัสท้วง-......................ทักไว้นานสมัย
4 กันยายน 2546 17:15 น.
กวินทรากร
กุ๋ยกุ๋ย ชิ ทุยคึก ............................มิสำนึกสำเหนียกใด
เผลอเผลอ ละเมอนัย.................อติลักษณาการ
เล็งเล็ง เลบง เหตุ......................เพราะทุเรศ ทุรังค์ มาน
เฮ้อเฮ้อ เสนอพาล.....................รึจะแทรก กบาลบน
ข้างข้าง และ คูคู.........................คติ สู พิกลคน
ถูถู และไถจน.............................จะถลำคะมำคลอง
อ้าอ้า ระอาโข..............................ขณะโคลำพองมอง
โอ้โอ้ พิโธ่ผอง.............................อวิชา คละ ครอบงำ
เพลียเพลีย ละเหี่ยจิต..................วิปริตประหลาดคำ
ถุยถุย จะ คุย ธัม...............................มะวิพากษ์สำรากกลอน
27 สิงหาคม 2546 09:38 น.
กวินทรากร
สรณตฺตยํ สรณคตฺต นรํ
วฏ์ฎทุกฺขโต ปโม จ ยนฺเต
นาญสรณํ ยทิโย วทิตวา
อวํ ติสรณ คเมยฺย นโร
สังสารวัฏเวิ้ง.................ทุกขะ
พ้นเพราะไตรสรณะ.......นั่นแท้
เพ็ญไอศวรรยะ..............ยังยาก..ลุเอย
พึ่งพุทธ,ธัมม,สงฆ์,แล้........จึ่งล้างขุกเข็ญ
บุคคลผู้ใดซึ่งถึงไตรสรณะ ย่อมหลุดพ้นทุกข์ในวัฏฏสงสาร
ที่พึ่งอันชื่นเช่นท้าวพระยามหาเสนาบดีจักให้หลุดพ้นจากทุกข์ในวัฏฏสงสารหามิได้
เหตุนั้นผู้รู้แล้วด้วยประการดังนี้
พึงถึงซึ่งไตรสรณะเป็นที่พึ่งแก่ตนเพราะวิเศษยิ่งกว่าที่พึ่งอันอื่น