17 เมษายน 2547 15:02 น.
กวินทรากร
ชลาลัยไหลสู่ห้วง.................มหรรณพ
อากาศธาตุแนบซบ...............สถิตฟ้า
ทั่วแดนแผ่นพิภพ................มีคู่
โอ้อนาถนักข้า...................ขาดผู้บำรุงขวัญ
สันเขาสูงเสียดด้าว.............แดนสรวง
เกลียวคลื่นอันงามยวง.........หยอกน้ำ
เถาวัลย์กระหวัดพวง.............ผกามาศ
งามภาพซาบซึ้งย้ำ............ยั่วเย้าหทัยเสมอ
รพีเผลอจูบล้อ....................ธรณิน
ยามตะวันตกดิน.................ดึกแล้ว
จันทร์จุมพิตผืนสิน-...........ธุชื่น..ชมเอย
ควรรึเราคลาดแคล้ว...........จูบสร้างสมานฉันท์
แต่งไว้ใน
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2758141/W2758141.html
8 เมษายน 2547 12:51 น.
กวินทรากร
ในก๊อกบ่มีน้ำ...................ในเรือนซ้ำบ่มีไฟ
น้ำตาของคนไทย.............ก็ไหลหลั่งบ่รอซึม
นายทุนปั่นหุ้นแหลก..........เอาเงินแลกซื้ออึมครึม
สูหวังกำไรตรึม...............รึหวังช่วยประชาชี
คนคราวกร้าวกล้าหาญ......ลุกต่อต้านคร้านเป็นผี
รึไทยไร้คนดี...................จึ่งปล่อยวางอย่างรีรอ
แลไปสะดุ้งปราณ.............รัฐบาลยุคนี้หนอ
นึกไปในใจคอ..................บ่ค่อยดีดั่งนี้ฤา
พี่น้องผู้น่ารัก..................น้ำใจจักไฉนหือ
นั่งนิ่งบ่ติงคือ..................จะใคร่ได้อะไรมา
เมื่อรัฐสมบัติเรา................รอให้เขลาขายหรือหวา
รักชาติเพี้ยงชีวา...............และเหตุใดมาดูแคลน
คนซื่อสัตย์หรือเซ่อ............ผู้ใดเน้อนะดีแสน
ฉลาดทานท่านผู้แทน............ที่ตั้งหน้าตั้งตาโกง
ปิดหูปิดตาเฮา....................ใครนะเจ้าจงเปิดโปง
วิ่งเต้นเส้นสายโยง..............เที่ยวโป้ปดพจน์หอมหวาน
ครุ่นคิดยิ่งคับแค้น................อุระแม้นพระเพลิงผลาญ
เสียทีที่หยุดงาน....................ท่านบ่เห็นประโยชน์ไกล
ในก๊อกบ่มีน้ำ........................ในเรือนซ้ำบ่มีไฟ
สู้ทนเพื่อคนไทย....................อย่าเหน็ดเหนื่อยเมื่อยขาแขน
พายุยิ่งพัดอื้อ.........................ราวป่าหรือราบทั้งแดน
คนงานประมาณแสน...............สิจะพ่ายผู้ใดหนอ
26 มีนาคม 2547 19:50 น.
กวินทรากร
บริษัทมหาชน
คือร้อยคนที่ครอบครอง
กี่คนคุมครรลอง
เป้าหมายเล็งเก็งกำไร
กอบโกยเป็นกอบกำ
ยังเหยียบย่ำอำเภอใจ
ล้านคนถูกปล้นไป
เราป่นปี้เขาปรีดิ์เปรม
สินรัฐสมบัติชาติ
ใครผูกขาดคืออิ่มเอม
หมากกลจึงวางเกม
กุมอำนาจอย่างอาจอง
เศษซากแห่งรากหญ้า
อย่าหวังคว้าความมั่นคง
น้ำทิพย์ท่านพรมลง
หมายหล่อเลี้ยงเพียงคลุมดิน
ไม้ต้นยิ่งเติบโต
อาจอวดโอ่ถึงเมืองอินทร์
ยิ่งหญ้ายังอาจิณ
แค่จมปลักความดักดาน
กับหญ้าแม้หยัดยืน
ย่อมกล้ำกลืนชั่วกัปกาล
ทุกข์ท้อทรมาน
ณ มุมมืดแห่งม่านไพร
แทบเงาที่ครอบงำ
ดินเบื้องต่ำแสงรำไร
ยากเข็ญจำเป็นไป
ประสาหญ้าก้มหน้าทน
ทวี บุญญา (แต่ง)
25/03/2547
21 กุมภาพันธ์ 2547 18:53 น.
กวินทรากร
เรียวรวงพวงพุ่มข้าว...........สีทอง
เหลืองอร่ามงามเกิน...........กล่าวอ้าง
งามทิวทัศน์ตามสอง...........ฝั่งฟาก..ถนนเอย
ผืนพิภพนี้กว้าง...............กว่าเห็น
ชาวนาเหนื่อยยากต้อง.........ตรากตรำ
หยาดเหงื่อดังฝนกระเซ็น....เซาะพื้น
ไถแปรปักกล้าทำ..............เป็นกลุ่ม..กอเอย
พลิกแผ่นดินให้ชื้น............ชุ่มเย็น
เรียวรวงพวงพุ่มข้าว............คือเงิน-
ตราที่เปลี่ยนทุกข์เป็น...........สุขไซร้
สุขใดเท่าได้เดิน................ล่วงบ่วง..หนี้เอย
คำพระท่านอ้างไว้...............เนิ่นนาน
ชาวนานั้นห่วงฟ้า................ห่วงฝน
หนี้เพิ่มดอกเบี้ยบาน............บ่รู้
นายทุนทุรชน...................เลวชาติ
ขูดรีดปล่อยกู้ไร้..................มโนชธรรม
วงจรอุบาทว์ล้น..................สังคม
เอารัดเอาเปรียบสำ-.............นึกสิ้น
ชาวนานั่งระทม..................ทุกขเทวษ
เจ็บป่วยนอนร้องดิ้น..............ดุจหมา
สังเวชประเทศเอื้อ................อาทร
กสิกรรมาลัย......................จะร้าง
ชาวนาพเนจร..................อดอยาก
ต่อแต่นี้เวิ้งว้าง....................วอดหวัง
กสิกรรมาลัย=ที่อยู่แห่งการทำไร่ไถนา,หมายถึงแผ่นดินก็ได้ แต่ในที่นี้ให้หมายถึง ท้องไร่ท้องนา
29 มกราคม 2547 20:19 น.
กวินทรากร
Chaos Theory *
ไก่แจ้ตัวหนึ่งครั้น..........ขยับปีก
ก่อพยุอีกซีก...................โลกสะท้อน
ดอกหญ้าเด็ดมาฉีก.......สะเทือนทั่ว..พิภพเอย
เหตุเล็กเล็กซ้ำซ้อน........ส่งให้โทษมหันต์
สังคมเสื่อมเพราะน้ำ.....มือคน
โรคระบาดมาก มล-.......พิษเคล้า
ปัญหาท่วมถนน.............จะโทษ..ใครเอย
แก้วิกฤตรุมเร้า................อย่าแสร้งลืมหลง
โปรดอ่าน
http://www.thaicivicnet.com/knowlage_chaos.htm
http://www.thaicivicnet.com/interview_Chaos.htm
http://www.duke.edu/~mjd/chaos/chaos.html