16 ธันวาคม 2548 23:14 น.
กล่องดนตรี
หยิบคมมีดกดลงเนื้อ...เบื่อความทุกข์
กดก็ชุกนึกถอนคม...โลหะแข็ง
ง้างปลายคมกดย้ำๆและลงแรง
เนื้อเปราะแจงแฝงเลือดซึม...ปลื้มในใจ
หันข้อมือกดสันคมลงให้ลึก
เป็นรอยปึกถี่เส้นแดงแทรกเนื้อใส
เจ็บลึกๆตามแรงกดแรงเกินไป
เลือดรินไหลไม่ป็นทางตามแนวรอย
หยุดนั่งคอยเลือดไหลรินจนเหือดแห้ง
จิกเล็บแรงซ้ำรอยแผลเดิมยับย่อย
กดให้แรงเส้นแดงเปิดเลือดเป็นรอย
ดูเลื่อนลอยคล้อยความเจ็บพึงในใจ
เนื้อเป็นรอยเล็บจิกใครทำ?
ดูน่าขำช้ำแดงกว่าตรงไหน
ใช้นิ้วลูบตามร่องรอยลึกข้างใน
เลือดยังไหลไม่หยุดยั่งซ้ำรอยเดิม
16 ธันวาคม 2548 22:51 น.
กล่องดนตรี
เหลือแต่เงา ภาพคนเคย ใฝ่ฝันหา
เหมือนมายา ที่พร่าเลือน และจางหาย
เคล้าโครงร่าง ไม่มีเหลือ แม้ร่างกาย
เหมือนสลาย หายไม่หมด จนไม่มี
นึกให้ดี ถึงได้รู้ คนเคยรัก
คนที่หัก ดวงฤทัย ฉันคนนี้
ไม่มีเหลือ อันเยื่อใย ฤๅไมตรี
เพราะไม่มี ความเป็นมิตร หยิบยื่นมา
ด้วยเวลา ล่วงเลย และผ่านพ้น
ใจของคน คือ..ฉัน แคบหนักหนา
ให้ไม่ได้ มิตนไมตรี ละลานตา
เป็นเพราะว่า กลัวยังรัก ยังผูกพัน
21 สิงหาคม 2548 15:05 น.
กล่องดนตรี
กระจกบาง โปร่งแสง และไร้รูป
จะคลำจูบ ก็รู้สึก แต่มองไม่เห็น
ก็เข้าใจ คงเบื่อหน่าย ความยากเย็น
มองไม่เห็น จึงไม่แคร์ ไม่เห็นใจ
คนแล้ว คนเล่า ที่จากหนี
เลยไม่มี ใครมา มอบรักให้
เจ็บก็แล้ว ปวดก็แล้ว ตรงหัวใจ
แต้ก็ไม่ ไม่มี เลยแม้เงา
และแล้ว ก็มีคน เดินเข้ามา
บอกกันว่า "คนไร้เงา ฉันเปลี่ยวเหงา"
อยากให้ช่วย มอบความรัก ช่วยบรรเทา
อาการเหงา ที่ค้างคา มาแรมปี
กระจกโง่ ช่างไม่รู้ จึงได้รัก
เบาหรือหนัก ก็จะช่วย ไม่คิดหนี
"เจ็บปวดไหม?" เฝ้าคอยถาม เธอคนดี
ฉันคนนี้ จะบรรเทา ให้เบาใจ
เพียงไม่นาน อาการเหงา เศร้าเริ่มส่าง
คนเริ่มร้าง ร่างเริ่มหาย พูดเฉไฉ
"ฉันไม่ว่าง ไม่รู้เลย หรืออย่างไร"
ตวาดให้ กระจกเศร้า ร้าวรานใจ
แล้วก็จาก หายไป ไม่มาพบ
กระจกน้อย สบหน้าน้ำตาไหล
ไปอีกแล้ว คนที่ฉันรักจากใจ
จากแสนไกล คงไม่กลับ ย้อนคืนมา
เพียงมองหา จากความใส ของกระจก
ใจก็ตก ปลงความช้ำ เจ็บหนักหนา
คงไม่มี ทางพบ เปล่งวาจา
แล้วกายา ก็แหลกลง เพียงละออง
ผงระยิบ สะท้อนแสง แสนสงสาร
ยังต้องการ จะได้พบ แม้เพียงมอง
แค่อยากเห็น อยากให้ผง พันละออง
ได้จับจอง ที่พักพิง ในใจใคร
16 สิงหาคม 2548 14:14 น.
กล่องดนตรี
เรื่องราวในอดีตที่ผ่านพ้น
หัวใจคนก็หล้นหายไร้ที่ตั้ง
หาไม่เจอ ยิ่งควานหา ยิ่งประดัง
เจ็บอย่างจัง ที่ตรงนี้ ไร้หัวใจ
ก้อนเลือด เนื้อนิ่ม อยู่บนพื้น
ส่วนเจ้าของ กลับนิ่งยืน อยู่ตรงนั้น
ลืมไปแล้ว เจ้าหัวใจ แสนระกำ
ถูกขย้ำ ทิ้งข้างทาง ที่เดินมา
15 กรกฎาคม 2548 22:54 น.
กล่องดนตรี
***ความสำเร็จ ไกลเพียงจิต จะเอื้อมคว้า
แม้กายล้า ใจยังแกร่ง เดินสู่ฝัน
ชีวิตนี้ มีให้พบ และฝ่าฟัน
ตั้งจิตมั่น เดินข้างหน้า สู่หนทาง
อุปสรรค โรคภัย รึไข้พิษ
ทำร้ายจิต บอบบาง เช่นหญ้าฟาง
อย่าใจท้อ ด้วยคำว่า "สิ้นหนทาง"
เพราะบางที ยังมีทาง ให้เดินไป
สู้เข้าไว้ อย่าได้ท้อ ไปทุกเรื่อง
อย่าให้เปลือง คำติเตือน ที่บอกไว้
เจอความทุกข์ แล้วชีวิต จะหาไม่
โถ่ดวงใจ ไม่ได้จริง เลยทีเดียว
ทางยังมี ฝนยังพรำ ธรรมชาติ
ไม่ได้ขาด แต่ทางเดิน มันคดเคี้ยว
เดินซิเดิน มองที่ทาง อย่าเพิ่งเบี้ยว
อย่าลดเลี้ยว เปลี่ยนทาง เฉออกไป
มองเข้าไว้ แม้ยามใด ใจอ่อนล้า
ใช่จะว่า เดินคนเดียว ซะที่ไหน
มองทางนี้ เพื่อนยังมี เดินต่อไป
จะไม่ให้ห่างกัน เคียงกายา
แม้จะทุกข์ ก็ทุกข์ได้ แต่อย่ามาก
รู้ลำบาก ทำใจ ให้หายล้า
แต่อย่าลืม อนาคต อยู่ปลายตา
เดินเถิดหนา เราจะช่วย พยุงไป