26 กุมภาพันธ์ 2552 11:21 น.
กลิ่นโยทะกา
คนรุ่นก่อนเขาสอนลูกเขาสอนหลาน
ให้เมตตาเพื่อนบ้านเอื้ออาศัย ได้ข้าวปลาอาหารประการใด
จงใส่ใจแลกเปลี่ยนให้แก่กัน
เรียกว่า ทำรั้วบ้านด้วยถ้วยข้าว
ประหนึ่งคอกประหนึ่งเล้าสมานฉันท์
จึงรักใคร่ปรองดองและผูกพัน
ไม่แยกสีแยกชั้นแยกตัวตน
ถึงวันนี้ไม่มี รั้วถ้วยข้าว
เศรษฐกิจที่รุมเร้าอาจส่งผล
เพื่อการอยู่รอดต้องดิ้นรน
ความยากจนเกิดผลต่อน้าใจ
ถึงตรงนี้น่าจะมีความพอเพียง
หลีกเลี่ยงความโลภละวิสัย
มองกันในแง่ดีบ้างป็นไร
ให้อภัยความผิดพลาดอย่าฟาดฟัน
โลกร้อนคนอย่าร้อนไล่ตามโลก
พิจารณาการบริโภคอย่างสร้างสรรค์
เห็นช้างขี้ ขี้ตามช้าง ตามไม่ทัน
มัชฌิมา ก็แล้วกัน เถอะนะโยม ๚ะ๛
23 กุมภาพันธ์ 2552 10:30 น.
กลิ่นโยทะกา
แย้มกลีบ อวลกลิ่น ขจรขจาย
งดงาม เฉิดฉาย ชวนเสน่หา
โดดเด่น เป็นเอก เฉกจันทรา
ข่มรัศมี ดารา ยามรัตติกาล
ดูดั่ง นกน้อย ไร้เดียงสา
แหวกว่าย เวิ้งฟ้า อย่างอาจหาญ
ทิ้งถิ่น ทิ้งป่า ทิ้งวงศ์วาน
ทอดทิ้ง ถิ่นฐาน เพียงเดียวดาย
ดูดั่ง ซึมเศร้า ซ่อนรันทด
แฝงเร้น เก็บกด เรื่องหลากหลาย
ชีวิต ผิดพลาด มามากมาย
หม่นไหม้ เก็บงำ ความกังวล
ดูดั่ง เบิกบาน และเริงร่า
สดใส ราวฟ้า ไร้เมฆฝน
เปิดเผย จริงใจ กับทุกคน
ไร้เล่ห์ ไร้กล ให้พิจารณ์
..................................
น้ำผึ้ง งูพิษ และต้นอ้อ
หลอมรวม เกิดก่อ ผสมผสาน
สั่งสม สรรพสิ่ง ดั่งเชิงพราน
หลอนหลอก ล้างผลาญ ทุกชั้นชน ๚ะ๛
8 กุมภาพันธ์ 2552 08:57 น.
กลิ่นโยทะกา
มันแผ่ แม่เบี้ย ผงกผงาด
สัญชาติ อสรพิษ อหิงสา
แผ่พังพาน ป้องพาล ปกชีวา
ท่วงท่า ข่มขวัญ เพียงหวั่นภัย
ประจันหน้า จนตรอก จึ่งแว้งกัด
ลิ้นแลบ สัมผัส ความเคลื่อนไหว
ระแวด ระวัง ความเป็นไป
โดยวิสัย ซ่อนซุก ไม่รุกราน
มันซื่อ เยี่ยงสัตว์ อย่างชัดแจ้ง
พฤติกรรม สำแดง เดรัจฉาน
สงบสุข สันโดษ โดยสันดาน
หิวหา อาหาร จึงดุดัน
ถิ่นใด รกชัฏ สงัดมนุษย์
ถิ่นนั้น สัตว์สุด ความสุขสันต์
ส่ำสัตว์ หลากชนิด มารวมกัน
การแข่งขัน ต่อสู้ จึงคู่ควร
ถิ่นใด ดื่นดก รกมนุษย์
ที่นั่น คือจุด ความผันผวน
มากมนุษย์ มากมาย ความแปรปรวน
มากมนุษย์ มากล้วน การทำลาย ๚ะ๛
5 กุมภาพันธ์ 2552 10:29 น.
กลิ่นโยทะกา
ไม่มี สำนึกใด ในมนุษย์
จะสูงสุด เท่าสำนึก แห่งภาระ
เป็นคุณธรรม ล้ำเลิศ อมตะ ตั้งสัจจะ รับผิดชอบ หน้าที่ตน
แม้ ภาระ หนักหนา กว่าขุนเขา
หรือบางเบา เฉกขนนก อย่าฉงน
ใช้สำนึก แบกรับ อย่างอดทน ทั้งฝึกฝน ให้คุ้นชิน ด้วยยินดี
ชีวิตกับหน้าที่ ถูกกำหนด
อย่ารันทด หลีกเลี่ยง หรือหลบหนี
สรรพสัตว์ ในโลก ทุกชีวี ทุกอย่าง มี กับ ไม่มี ควบคู่กัน
จงพอใจ ในสิ่ง ที่มีอยู่
เป็นคำกล่าว ดั่งคำครู เพื่อสร้างสรรค์
การแก่งแย่ง ก่อกองทุกข์ สารพัน เพราะยึดมั่น ไม่พึงใจ ความไม่มี
ความพอใจ เป็นกุญแจ ไขชีวิต
เป็นเอกสิทธิ์ จำเพาะ ช่วงวิถี
กำหนด บทบาท ของคนดี ย้ำสำนึก หน้าที่ และภาระ
4 กุมภาพันธ์ 2552 11:38 น.
กลิ่นโยทะกา
ผมเป็นครู สอนลูกศิษย์ มาหลายปี
เห็นลูกศิษย์ ถูกตี แล้วใจหาย
ยิ่งผู้ตี ใช้อารมณ์ ยิ่งอันตราย
เขามีจุด มุ่งหมาย ในเรื่องใด
ผมได้อ่าน สุภาษิต ชาวฮิบรู
เขากล่าวถึง ความเป็นครู น่าเลื่อมใส
จะเฆี่ยนตี ลูกศิษย์ ทุกคราไป
ใช้มือซ้าย สร้างนิสัย เพื่อป้องปราม
ส่วนมือขวา โอบอุ้ม ปลอบประโลม
อย่าฮึกโหม อวดอำนาจ ให้เกรงขาม
การสั่งสอน มิใช่ ทำสงคราม
หรือดุด่า ประณาม ให้เด็กอาย
ผมคิดว่า คนเป็นครู โดยหน้าที่
ต้องสอนเด็ก ไม่ดี ให้ดีได้
ส่วนเด็กดี ต้องดีกว่า อีกมากมาย
มิใช่เลว แล้วทำลาย ให้เลวลง
และควรใช้ เมตตาธรรม มากำหนด
ให้เป็นกฎ กำกับ จุดประสงค์
จิตพิสุทธิ์ ร่วมสร้าง เจตน์จำนง
อย่าลืมหลง หน้าที่ อันดีงาม