**.. เหมือนฟ้าชัง กลั่นแกล้ง สาปแช่งฉัน วันทั้งวัน ฝืนทน ความหม่นไหม้ ทางสองแพร่ง แบ่งฝาก จากหนึ่งใจ คิดครวญใคร่ ลึกซึ้ง อีกหนึ่งที.. **.. ก็เกลียดนัก รักเอ๋ย ไม่เคยสม จึงจ่อมจม ตรมภวังค์ ชังเหลือที่ ซึ่งน้ำใจ ใสล้วน เธอควรมี กลับทวี ต่างช้ำ ด้วยคำลา.. **.. ก็เกลียดยิ่ง ความหวัง ใครตั้งมั่น หลงลืมมัน ฝันเก้อ เผลอเสียท่า ตั้งตาคอย ทำตาม คำสัญญา เหมือนไร้ค่า กับที่หวัง ตั้งตาคอย.. **.. แต่ก็ปลื้ม ในรัก นักใจเอ๋ย สอนให้เคย รู้เหงา รู้เศร้าสร้อย รู้จักแพ้ พ่ายพับ ลงกับรอย และรู้ถอย ตั้งต้น อีกหนนึง.. **.. และก็ปลื้ม ความหวัง ที่พังสิ้น สอนให้ชิน โถมทุกข์ รุกมาถึง ถ้ารู้แต่ ชนะได้ ดังใจพึง หรือจะซึ้ง เท่ากับแพ้ แก่เราเอง... ด้วยความหวังดี ก.นพดล รักษ์กระแส ก.ประแสร์ ศิษยาพร
11 มีนาคม 2550 16:18 น. - comment id 668694
คำว่าแพ้หรือชนะใช่น่าเกลียด ชนหยามเหยียดงมงายและหน่ายหนี สิ่งสำคัญอยู่ที่ใจนะคนดี แพ้สักทีไม่เห็นจะเป็นไร...ฯ ...เราแพ้...เพื่อเป็นผู้ชนะในวันต่อไป... ...แวะมาเยี่ยม..เพื่อนเก่า..นะคะ
11 มีนาคม 2550 18:40 น. - comment id 668748
12 มีนาคม 2550 05:12 น. - comment id 668924
อันความรัก..ย่อมมีทุกข์..เคล้าสุขโศก อย่าวิโยก..หัวใจ..ไปเลยนั่น เมื่อรักเก่า..ไม่ซึ้ง..ตรึงชีวัน คงสักวัน..พบรักใหม่..ที่ใจจริง..