ตะวันดวงโต สีส้มสุกจัดเท่ากระด้ง กำลังลอยดวงช้าช้า ลงมาทายทักท้องทุ่งนาสีเขียวไพล ที่กำลัง.. ถูกอาบทาบทาด้วยพรายรัศมีสีทองผ่องอำไพ สู่ข้าวกออ่อนใส ที่ยามลมพัดระบัดโบกราวแพรไหมผืนพรมแสนงดงาม ฟ้าสวย สวยเหลือเกิน สีหวาน ส้มส้มอมชมพูชมพู แล.. สักครู่ที่เฝ้าดูตะวันดวงเดิม ก็พลันกลาย เป็น*ตะวันดวงชมพู* ตะวันที่แปรสีเพียงชั่วครู่ ไปตามม่านเมฆหมอกหม่นสีเทาทึมที่ทอดทาบ เสียงบทเพลงแห่งความรัก ภักดี กำลังลอยละล่องท่องผ่าน เข้าสู่กลางบึ้งใจ..บึงไพร บึงบัว ในท่ามฟ้าสลัวโพล้เพล้ หากใจดวงดี ดวงงาม ก็วาบหวามเกินให้คำนิยามใด มาบันทึก มณีนวล...มีความสุขในยามนี้กับผู้เป็นที่รัก เธอเพิ่งไปไหว้พระที่วัดในโบสถ์คร่ำ*อยุธยา* ด้วยใจดวงศรัทธาปสาทะเต็มเปี่ยม โบสถ์ที่มีเพดานดาว พราวสุกใสระยิบระยับราวอัจกลับแก้วอัญมณี ในคืนค่ำที่ราตรี มีเดือนเพ็ญพูนดวง ลอยเด่น...ประดับเหนือฟ้าราชธานี เมืองเก่าของเราแต่ก่อน ให้.. ใจอาวรณ์อาลัยได้ย้อนรอยถอยหลัง ไปฟังเสียงบทเสภาหวนไห้ระร่ำริน อย่างแสนสุดเทวษถวิล..โศกสะเทือน ศรีสิทธิ์พิศาลภพ เลอหล้าลบล่มสวรรค์ จรรโลงโลกกว่ากว้าง เผยแผ่นผ้างเมืองเมรุ ศรีอยุธเยนทร์แย้มฟ้า แจกแจงจ้าเจิดจันทร์ เพียงพิพรรณผ่องด้าว ขุนหาญห้าวแหนบาท สระทุกข์ราษฎร์รอนเสี้ยน สายเศิกเหลี้ยนล่งหล้า ราญราบหน้าเภริน เข็ญข่าวยินยอบตัว ควบค้อมหัวไหว้ละล้าว ทุกไทน้าวมาลย์น้อม ขอออกออมมาอ่อน ผ่อนแผ่นดินให้ผาย ขยายแผ่นฟ้าให้แผ้ว เลี้ยงทแกล้วให้กล้า พระยศไท้เทิดฟ้า เฟื่องฟุ้งทศธรรม ท่านแฮ อยุธยายศล่มแล้ว ลอยสวรรค์ ลงฤา สิงหาสน์ปรางค์รัตน์บรร เจิดหล้า บุญเพรงพระหากสรรค์ ศาสน์รุ่ง เรืองแฮ บังอบายเบิกฟ้า ฝึกฟื้นใจเมือง เรืองเรืองไตรรัตน์พ้น พันแสง รินรสพระธรรมแสดง ค่ำเช้า เจดีย์ระดะแซง เสียดยอด ยลยิ่งแสงแก้วเก้า แก่นหล้าหลากสวรรค์ โบสถ์ระเบียงมรฑปพื้น ไพหาร ธรรมาสน์ศาลาลาน พระแผ้ว หอไตรระฆังขาน ภายค่ำ ไขประทีปโคมแก้ว ก่ำฟ้าเฟือนจันทร์ เสร็จสารพระยศซ้อง สรรเสริญ ไป่แจ่มใจจำเริญ ร่ำอ้าง ตราตรอมตระโมจเหิน หวนสวาท อกวะหวิวหวั่นร้าง รีบร้อนการณรงค์ แถลงปางบำราศห้อง โหยครวญ เสนาะเสน่ห์กำศรวล สั่งแก้ว โอบองค์ผอูนอวล ออกโอษฐ์ อรเอย ยามหนึ่งฤาแคล้วแคล้ว คลาดคล้ายขวบปี รอยบุญเราร่วมพร้อง พบกัน บาปแบ่งสองทำทัน เท่าสร้าง เพรงพรากสัตว์จำฝัน พลัดคู่ เขาฤา บุญร่วมบาปจำร้าง นุชร้างเรียมไกล จำใจจากแม่เปลื้อง ปลิดอก อรเอย เยียวว่าแดเดียวยก แยกได้ สองซีกแล่งทรวงตก แตกภาค ออกแม่ ภาคพี่ไปหนึ่งไว้ แนบเนื้อนวลถนอม โอ้ศรีเสาวลักษณ์ล้ำ แลโลม โลกเอย แม้ว่ามีกิ่งโพยม ยื่นหล้า แขวนขวัญนุชชูโฉม แบกเมฆ ไว้แม่ กีดบ่มีกิ่งฟ้า ฝากน้องนางเดียว โฉมควรจักฝากฟ้า ฤาดิน ดีฤา เกรงเทพไท้ธรณินทร์ ลอบกล้ำ ฝากลมเลื่อนโฉมบิน บนเล่า นะแม่ ลมจะชายชักช้ำ ชอกเนื้อเรียมสงวน ฝากอุมาสมรแม่แล้ ลักษมี เล่านา ทรามสวยมภูวจักรี เกลือกใกล้ เรียมคิดจบจนตรี โลกล่วง แล้วแม่ โฉมฝากใจแม่ได้ ยิ่งด้วยใครครอง บรรจถรณ์หมอนม่านมุ้ง เตียงสมร เตียงช่วยเตือนนุชนอน แท่นน้อง ฉุกโฉมแม่จักจร จากม่าน มาแฮ ม่านอย่าเบิกบังห้อง หับให้คอยหน สงสารเป็นห่วงให้ แหนขวัญ แม่ฮา ขวัญแม่สมบูรณ์จันทร์ แจ่มหน้า เกศีนีนิลพรร โณภาส งามเงื่อนหางยูงฟ้า ฝากเจ้าจงดี เรียมจากจักเนิ่นน้อง จงเนา นะแม่ ศรีสวัสดิ์เทอญเยาว์ อย่าอ้อน อำนาจสัตย์สองเรา คืนร่วม กันแม่ การณรงค์ราชการร้อน เร่งแล้วเรียมลา .................................... และ.. ท่าม...นวลตะวันลอยเรี่ยดวง เหนือวัดชัยวัฒนารามท่ามทรากศิลา ปรักหักพัง หยาดน้ำตาในดวงใจ..ของมณีนวล.. ก็ระรินหลั่งสังเวย ยามแหงนเงยเห็นพระพุทธรูป ที่ไร้เศียร สิ้นแล้ว.... แววทองแห่งบรรพกาล..บรรพชน... และ.. ได้เพียงก้มศิระกรานกราบอธิษฐานจิต ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทวยเทพเทวานฤมิตทุกทิศา ได้โปรดพิทักษ์ปกปักรักษา *รัตนโกสินทร์ธานี *ในวันนี้ด้วยเทอญ อย่าได้มีวัน..ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ให้แสนสุดโศก..วิปโยคใจ ไทยทุกดวงอีกเลย..!!!!!
12 กุมภาพันธ์ 2550 09:15 น. - comment id 655881
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4258.html (ณ..วันนี้) .................. ดาราราย..ประคองขับรถอย่างช้าช้า ฝ่าฝนพรำสายพรายพลิ้ว..ไปยัง..*อยุธยา* เมืองเก่าของเราแต่ก่อน... และ... ก่อนหน้าที่จะมา... ดารารายได้จองบ้านพักแบบโฮมสเตย์ เพื่อมาค้างคืน..นอนเหว่ว้าดายเดียว..ลำพัง ริมสายน้ำเจ้าพระยาเอาไว้แล้ว ดาราราย มีความสุขมาก จนเผลอครวญเพลงพึมพัมหวานแว่ว คลอเคล้าไปกับเครื่องเสียงในรถ มาตลอดทาง ที่กำลังบรรเลงบทเพลงโบราณ ที่เธอแสนชื่นชอบ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song225.html จุฬาตรีคูณ จินตนา สุขสถิตย์ ข้า แต่ คง คา จุฬา-ตรีคูณ ดวงใจข้าอาดูร หนักเอย ความ งาม วิไล ข้ามิได้ ปรารถนา ข้าชัง หนักหนา เจ้า เอย เพราะช-นนี ข้าวิไล จึงถูกสังเวยเสียในสายชล ด้วยรักเอย จุ ฬา ตรี คูณ ชนนี ชีพ สูญ ในสายจุฬาตรีคูณ นี่เอย ดารารายเลิศโสภา ข้าไม่นำพาเพราะกลัวว่าจะถูกสังเวย โปรดสาปขอให้โฉม อันน่าเชย สิ้นสวยเลย ไร้ค่า ให้ ข้า น่า ชัง สิ้นหวังชื่นชม ขอให้ไร้ผู้นิยม นำพา ขอ ให้ สม ใจ ใน ปรารถ-นา นะจุฬา-ตรี คูณ เจ้าเอย ดารารายเลิศโสภา ข้าไม่นำพาเพราะกลัวว่าจะถูกสังเวย โปรดสาปขอให้โฉม อันน่าเชย สิ้นสวยเลย ไร้ ค่า ให้ ข้า น่า ชัง สิ้นหวังชื่นชม ขอให้ไร้ผู้นิยม นำพา ขอ ให้ สม ใจ ใน ปรารถ-นา นะจุฬา-ตรี คูณ เจ้าเอย. .................... ดารารายชอบฟังเพลงนี้ เพราะคือที่มาแห่งชื่อเธอ..จากบทละคร และ บทหนังอันแสนโด่งดังในอดีต ดารารายรู้สึกสงบใจ ในท่ามม่านฝนหม่นมัวสลัวรางรายรอบ ราวล้อมกรอบให้เธอดูราวลูกนกหลงทาง อย่างแสนอ้างว้างใจ.. ราวกับหลงอยู่ในอ้อมไพร..*เมืองในหมอก* หยาดน้ำตานางฟ้า กำลังพร่างพรมคลี่คลุมไปทั่วผืนนา พาให้ราวแพรไหมพลิกพลิ้ว.. ยามต้องพายุพัดระบัดไหวไกวผ่าน เครื่องปรับอากาศในรถ กำลังผสานกับมวลอากาศหนาวภายนอก บอกให้รู้ว่าร่างเธอ กำลังหนาวเยือก เธอค่อยๆคลี่ผ้าคลุมไหล่ ด้วยพราวไหมใยยวงผืนนวลนุ่มงาม ที่ตามติดชีวิตเธอเสมอมา ในทุกยามเดินทางไกล เครื่องปัดน้ำฝน...ยังคงทำงานอย่างช้าช้า ในขณะที่เธอต้องลดระดับความเร็วของรถลง เพราะทัศนวิสัยข้างหน้าดูช่างพร่ามัว ราวมีหมอกเมฆจนมองแทบไม่เห็นทาง คำเตือนคำสอนของแม่พลันผุดพร่าง ราวพระเบื้องบนรับรู้คอยช่วยปกป้องดูแล *อย่าขับรถฝ่าพายุฝนนะลูกรัก เพราะอันตรายนัก ถ้าเป็นไปได้ หาที่หลบฝนก่อน อย่ารีบร้อนจะไป จำได้ไหม... ญาติเราเสียชีวิตหมู่ที่ประจวบคีรีขันฑ์ เพราะพายุ ทั้งๆที่รถแสนมีประสิทธิภาพ ยังป้ายแดงอยู่แท้ๆ แต่แพ้ถนนลื่นและทัศนวิสัยไม่กระจ่าง จำคำแม่ไว้นะ..ลูกรัก..หาที่พักริมทางก็ยังดี..* เธอ..คนดีจึงมีสติไหวทัน ราวสวรรค์คอยปรานีเสมอมา ค่อยๆประคองขับช้าช้า.. เพื่อหาที่พักริมทาง หาร้านกาแฟสักร้านหลบฝน..... แล้ว.. นั่นไง..เธอเห็นแล้ว ร้านกาแฟ ในฝัน..*บ้านไร่กาแฟ* ที่เจ้าของคนขยัน ชื่อแสนงามนามว่า*สายชล* เป็นสถาปนิกลูกผู้ชาย.. ที่มีไอเดียบรรเจิดพริ้งพรายมาก ได้เนรมิตใช้ความฝันพรสวรรค์พรแสวงเฉพาะตัว บวกความมีวิสัยทัศน์กว้างไกล และ.. กับ..ไอเดียแสนงาม ได้ออกแบบร้านกาแฟให้แลดูแสนแปลกตา ในลีลาเอียงกระเท่เร่ แบบ เท่ห์ อย่าบอกใคร ที่ในวงการสถาปนิก ต่างยกนิ้วให้ ที่กล้าใช้ความคิดแปลกใหม่ มารับกับโลกาทันสมัย โลกกาแฟให้แสนทันเหตุการณ์ทันยุค แถมการออกแบบภายใน ยังมีไอเดียให้สายน้ำค่อยๆพร่างริน ผ่านกระจกเงา ราวกับให้เรานั่งทอดทัศนาฟ้าฝนในทุกฤดูกาล ยามผ่านพบแวะมาพัก หลังจาก ขับรถมาอย่างเมื่อยล้าเหนื่อยล้าเป็นระยะทางแสนไกล ไม่ต้องหลับใน เสียชีวิตไปในอุบัติเหตุมากมีมากมายตามท้องถนนหลวง ในร้านมีขนมอร่อยล้ำ... ที่ดารารายติดใจคือเค้กส้มหอมอร่อยนุ่มลิ้น และ... แสนคุ้นคอกับกาแฟบางยี่ห้อ ที่รสดี..แสนกลมกล่อมหอมอวลไปไกล ให้อารมณ์คนรักกาแฟ..กาแฟ..แสนละไมละมุนลิ้นยามลิ้มลอง ดารายราย..ประคองรถจอดชิดขอบทาง ชิดใกล้ร้านอย่างที่สุด ก่อนที่... จะควานหา เสื้อกันฝนสีเหลืองมะนาวสด แสนเปรี้ยวจิ๊ดตัวเจ็บ ที่กันน้ำฝนและเหน็บหนาวได้อย่างดี เพราะ ทำมาจากผ้าพลาสติกเนื้อหนา ที่เย็บละเมียดมาจากเมืองนอก เสื้อฝนแสนรักนี้ มีที่มาจากเพื่อนคนดี ที่พลีชีวิตไปแต่งงานกับคนญี่ปุ่น และ... รักดารารายรู้จักดาราราย มาตั้งแต่สมัยอยู่เมืองนอกด้วยกัน คนที่... บอกว่าเสื้อฝนตัวนี้นั้น แสนเหมาะกับเธอเป็นที่สุด ตรงที่ เธอคนดี คนนี้ ที่ชื่อดารารายไม่ชอบกางร่ม ไม่ชอบใช้ร่ม เพราะกลัว.. ต้องมัวพะวงกับกระโปรง จะเปิด..เปิ๊ดสก๊าดให้วาบหวามหวิวหวั่น ให้ฝันหายให้อะร้าอร่ามงามแง่ ไปถึงไหนๆ แบบภาพประวัติศาสตร์ของ นางเอกหนัง มาริลีนมอนโรว์ ผู้แสนโชว์ความเซ๊กซี่..ที่หามีไม่แล้ว.. และ เพราะมีหมวกแสนเท่ เก๋ตรงที่สาวไทยไม่นิยมใส่ เวลาเธอใส่ไปไหนๆในยามฝนตก จึงมีแต่คนเหลียวมองแทบตกคลองคู คอยจ้องดูให้แน่ใจว่ามิใช่ตำรวจ หรือช่างประปามาสำรวจดูอะไรข้างทาง เธอ..ก้าวลงมาจากรถอย่างรวดเร็ว เพราะ กลัวพายุฝนที่กำลังกระหน่ำหนักขึ้นๆ พาร่างในเสื้อฝนสีสดสว่าง กระจ่างแจ่มไปทั่ว ลงมายืนให้ฝนหยดรั่วในร้านพราว ในท่ามแขกน้อยคนที่เธอยังมิทันใส่ใจสังเกต เด็กในร้าน...รีบเข้ามารับเสื้อไปแขวนให้ พร้อมกับ.. รีบยื่นผ้าเช็ดตัวผืนเล็กสีขาวให้. อย่างว่องไวและมีน้ำใจไมตรี เธอ..กล่าวคำขอโทษ กับเรื่องน้ำฝนที่ทำให้พื้นร้านเปียก หากทว่า... ด้วยรอยยิ้มไมตรี ใบหน้าที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี ให้มีน้ำใจช่วยเหลือแขก...ของเด็กในร้าน... ทำให้เธอรู้สึกดี เธอ..จึงพลียิ้มหวานๆให้อย่างขอบคุณ และ นึกชื่นชม คุณสายชล ที่ช่างอบรมพนักงานได้อย่างดี และ ยังมากมีสิ่งละอันพันละน้อยในหลายเรื่องราว ที่เขาคนนี้ พลีฝากไว้ อย่างคำสอนใจที่แก้วกาแฟ และ.. คือราวเรื่องแสนงามนิยามแสนดี ที่เป็นนิมิตรหมายแห่งเชิงชั้นธุรกิจ ที่ยังยอมอุทิศคืนประโยชน์กลับให้สังคมบ้าง เธอ..สั่งกาแฟ รสประจำ แม้แพงแสน เพราะคิดว่านานๆครั้ง และ.. แสนคุ้มค่ากับบรรยากาศกับการบริการ กับที่พักยามเดินทาง ยามเมื่อยล้าเพื่อพาตัวเอง ให้กลับบ้านได้อย่างปลอดภัย ของนักท่องเที่ยวทั่วไทย อย่างแสนน่าประทับใจ อย่างไม่ต้องไปเสียงภัยภยันตราย และ ในคลองตาช่างงามแปลกดีจัง.. ยามเมื่อเธอแหงนเงย เห็นต้นปีบ ใบระยิบ... ที่กำลัง.. ปลิดปลิวลิ่วลอยควะคว้างพร่างพร้อยพวงดวงดอก ค่อยๆร่วงพราวลงมา ยังพื้นหญ้าริมชายคากระท่อมกาแฟ ที่ยังสดฉ่ำ... จากกระจกบานกว้างที่กางกั้น กลิ่นกลีบกลางเกสร มิให้อวลหอมงามมาถึงนี่ ที่ที่เธอทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้สตูล.. ที่หมุนไปมาได้ และ.. อยากไปเคลียไคล้เชยชิด ไปหยิบมาเสียบแซมผม ให้กมลกรุ่นละเมียดละมุน.. ดาราราย.. ค่อยๆคลี่ปอยผมเปีย ที่มีหยาดน้ำฟ้าเคลียแก้มออก ด้วยกลัวเปียกชื้น..จะเป็นหวัด แล้ว.. ค่อยๆใช้ผ้าขนหนูสีขาว คอยซับพราวหยดน้ำ ก่อนที่จะไม่สบาย แล้ว...ปล่อยให้สยายรุ่ยร่ายรุงรังไปทางเบื้องหลัง เธอ.. หันหลังหมุนตัวไปตามเก้าอี้.. และ.. นาทีนั้น.. พลัน...สายตาสะดุดหยุดลงที่ร่างๆหนึ่ง สุภาพบุรุษ ผิวคร้ามแดด ในชุดกางเกงลำลองสีขี้ม้า เสื้อยืดสีขาว ผมตัดเกรียนสั้น เผยให้เห็นต้นคอที่คล้ำแดด เขากำลังจ้องมองดูเธออย่างนิ่งงัน.. และ...! อย่างช้าช้า เธอเบือนหน้ากลับมา..ด้วยความรู้สึกแสนแปลก *สบตากันชั่วแวบ* หากราวมีกระแสพลัง.. เสมือนราวเคยอธิษฐานจิตภาวนามาแสนนาน ให้ได้มาพานพบกัน ให้ใจเธอดวงเหว่ว้า แปลบปลาบ ราวมี แสงไฟแวบไหลผ่านร่าง ราวใจเธอจะวูบวับ อย่างมิอยู่กับเนื้อกับตัว ดวงตา..สีสนิมเศร้า...แสนโศก ดูนิ่งงันเงียบงาม ราวท้องทะเลสีอำพันแสนลึกล้ำ ที่ซ่อนบางสิ่งอยู่ณ..ภายใน ยากเย็น หากฟ้ามิเป็นใจ ที่ผู้ใดจะหยั่งถึง เขายิ้ม..นิดนิด และ..ก้มศรีษะทายทักเธออย่างมีมารยาท ตรงหน้ามีถ้วยกาแฟสีสวย ควันหอมกรุ่นหมุนวงลอยคว้าง และ... ด้วยความฉลาด...พอที่จะรู้ว่า เธอคนดี กำลังเขินอาย กับผมอันเปียกลู่ดูรกร่ายรุงรังราวนางไม้ นางพรายตานี.... เขาจึงค่อยๆเบือนหน้ากลับไป ไม่ยอมให้ผู้หญิงในชุดดำ ที่เผยไหล่ล้ำให้เห็นผิวพรรณผ่องผุดดั่งหยาดน้ำผึ้งรวง รู้สึกอึดอัด.. เธอ...พยายามรวบผมให้เข้าที่เข้าทาง และ... กับแสงเรื่อรางในร้านกับพรายฝนพรำ ทำให้แก้มอิ่มนั้นเริ่มมีสีสันราวส้มสุก เธอ..จิบกาแฟช้าช้า อย่างละเมียด.. ให้ความอุ่นลิ้น กลิ่นหอมกาแฟค่อยๆซึมซาบ ปลุกให้มีพลังชีวิตชีวา กับนาทีแห่งการรอ..รอ และรอฝนหยุด เขา...คงไม่อยากให้บรรยากาศอึดอัด กับการนั่งนิ่งเงียบ... จึง...เริ่มบทสนทนาอย่างงดงามอ่อนโยน น้ำเสียงที่แสนนุ่มนวลชวนฝันสำหรับสาวๆ ในโลกปัจจุบันที่ช่างแสนหายากยิ่ง ที่สุภาพบุรุษทุกวันนี้ มักลืม ทิ้งกิริยาและการอบรมที่ดี ไม่มีการเจรจาพาที ด้วยความอบอุ่นเอ็นดูกับเพศแม่อีกเลยแล้ว *ฝนคงตกนานนะครับ ไม่ทราบว่าคุณจะต้องเดินทางไปอีกไกลไหม.. ผมกำลังจะไปอยุธยาครับ แต่ไม่อยากฝ่าพายุแรง ตั้งใจจะไปที่วัดมเหยงค์ครับ ผมสัญญากับหลวงพี่ไว้ว่าจะไปถวายร่มในพรรษาครับ..* เธอ.. เลิกคิ้วประหลาดใจ.. *ค่ะ..เช่นกัน..ฉันก็จะไปอยุธยาค่ะ ฝนแรงก็เลยหยุดพักก่อนค่ะ กลัวต้นไม้กิ่งไม้ล้มลงมาด้วยค่ะ* *ส่วนมากทุกวันหยุดวันว่าง ฉันชอบขับรถเพลินๆมาตามเส้นทางสายข้าว มาดูสายน้ำเจ้าพระยาและโบราณสถานค่ะ ฉันผูกพันกับที่นี่ กับวัดวา ปรางค์ปราเจดีย์ มาทีไร ก็น้ำตาไหลทีนั้นค่ะ ฝันเศร้าเลยละค่ะ แต่ก็ยังเวียนวนมาบ่อย ด้วยแรงรักมังคะ...* เขา..ยิ้มเอ็นดูกับคำพูดเธอ ผมชอบ..อยุธยาเหมือนกันครับ หาเหตุผลไม่ได้ ราวกับว่ามีพลังเร้นลับคอยเรียกร้อง สงสัยชีวิตผม... คงต้องเคยเกิดมาเป็นคนโบราณผ่านภพแน่ๆเลย และ.. ที่สำคัญคงเป็นชายเชื้อชาติทหาร เพราะทั้งตระกูลผม พลีชีพรับใช้แผ่นดินมาแสนยาวนานมากแล้วครับ สายเลือดไม่ทิ้งแถวแนวรบเลย* ว่าแล้วเขาหัวเราะตลกกับคำตัวเอง... *คุณ..รู้จัก..วัดมเหยงค์มั้ยละครับ พิกุลงามมาก และมากมีพันธุ์ไม้เลยครับ ผมชอบพิกุล เพราะเป็นดวงดอกไม้โบราณและหวานหอมมาก ผมเห็นพิกุลร่วงทีไร คิดนึกย้อนไปในหนหลังสมัยราชธานี ยังสะพรั่งด้วยยอดเจดีย์ระดะทองเลยครับ คิดถึงภาพนางในวัง ห่มสไบตาด..สไบทอง..คงงามมาก และ.. คงงามมลังเมลือง แค่มีสักนางเสียบแซม..แตะแต้มผมให้หอมพราวด้วย ดาวดวงดอกพิกุลพราย ลายแฉกพราวพร้อยร้อยรัด นะครับ...* เธอ..เริ่มทึ่ง พึงใจในบทสนทนา ที่แสนแปลกนี้ ผู้ชายอะไร ... เธอพิศเธอคิด *ภายนอกดูแสนแข็งแรงและราวเงียบงัน หากทว่า... ภายในจิตนั้นแสนไสวพร่าง ด้วยความอ่อนหวานละมุนละม่อม รู้คิดถึง.. ดวงดอกพะยอมหอมพลีไกล แบบพิกุลไพรพิกุลแกมเกศแก้วกุดั่นดวง ค่ะ..ฉันรู้จักมเหยงค์ดีค่ะ ฉันเคยไปบวชชีพราหมณ์ที่นั่นค่ะ และ.. แสนรู้สึกดีมาก..ประทับใจมาก ฉันรักดอกพิกุลเช่นกันค่ะ และ รักต้นสาละที่ดอกหอมพราวเลยค่ะ ริมชายคาสถานปฎิบัติธรรม ที่เราไปสวดมนต์ทุกเช้าค่ำหน้าพระพุทธองค์ใหญ่ค่ะ บรรยากาศสุขสงบมากค่ะ* *และ... ทุกเช้าและพลบค่ำ ฉันจะนำพวงดอกไม้..มาลัย..บัวบูชา ไปกราบกราน ณ..เบื้องหน้าพระประธานในโบสถ์คร่ำค่ะ และ เดินจงกรม ในนั้นลำพังอย่างเงียบงามค่ะ..* *ฉันคงไม่จำเป็นต้องอธิบาย ความงามสุดบรรยายที่นั่นดอกนะคะ ว่างามมลังเมลืองอย่างไร ในท่ามกลางซากปรักหักพังร้างไร้* โบสถ์.. ที่มีเพดานดาวพราวพรายระยิบในยามค่ำ โบสถ์ที่มีเสาหินใหญ่มาก และราวทายท้าพลังอำนาจแห่งความเร้นลับ มานานนับเนื่องหลายร้อยปี* โบสถ์ที่ทุกคราที่มีศึก * พระนเรศวรมหาราช * จะพาทหารมาสวดพระคาถาพาหุงพลีบูชา เทพยดาฟ้าดิน และ สักการะบูชาเซ่นสรวงแด่ดวงวิญญาณบรรพชน ทหารทุกคนต้องมาดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ณ..ที่นี่ มาน้อมพลีเลือดเพื่อยอมหลั่งรินมิสิ้นสาย ยามต้องพรายพลัดพรากจากบ้านจากเมืองไปกรำศึก ไปรำลึกถึงความดี ความรักแผ่นดิน ที่มิเคยสิ้นสายธารวีรกรรม แห่งวิญญาณอันแสนกตัญญุตา ที่ยอมเทิดหล้า แลกเลือดเนื้อ เพื่อพลีปกบ้านป้องเมือง ไว้ให้มาถึงเราลูกหลานเหลนโหลนไทยในภายหน้า ให้ได้แสนภาคภูมิ ปิติใจ และได้หยัดยืนอย่างทรนง คงค่าคำว่าไท ไทย มาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ* *ขอโทษ..นะคะฉันเล่าเสียยาวค่ะ เพราะรักและผูกพันมากับผืนดินนี้ค่ะ และ ที่ฉันรู้สึกแสนดีคือนานๆที จะพบเจอคน ที่ราวมีดวงจิตวิญญาณราวผ่านภพมาด้วยกันค่ะ* *คุณทราบมั้ยค่ะ ในคืนค่ำวันราตรีมาฆดวง..ที่ผ่านมา.. คืนนั้นเป็นคืนในหอมห้วงแห่งดวงชีวิต ที่จักสถิตแนบแน่นเป็นความทรงจำ ไปกับดวงวิญญาญ์ฉันตราบวันตายค่ะ..* คืนที่ฟ้าพรายพราวส่องแสงระยิบระยับ จันทร์จรัสทอทองรัศมีทรงกลด เหนือฟ้ามเหยงค์เหนือโบสถ์คร่ำ ที่มีพระสงฆ์ใในจีวรเหลืองอร่าม นั่งอยู่ในท่ามแสงเทียนทองทอพราว ที่มีเรา สี่แม่ชี..พลีจิต กำลังอุทิศบทสวดมนต์อธิษฐานภาวนา ด้วยเสียงหวานเศร้าสะเทือนหล้าก้องฟ้าอยุธยา ราวพลีน้ำตาหลั่งริน สังเวยมิสิ้นวิญญาณบุญบรรพชนคนหาญกล้า ให้มาร่วมรับรู้ ทั้งหมู่ทวยเทพไท้ เทวดาและ หมู่คนธรรพ์มากมี เราได้พร้อมพลีจิตสักการแล้ว... ให้ใจดวงแก้วดวงทองของเรา ได้หลุดพ้นพันธนากรรม ราวบัวบูชา ได้พ้นโคลนตมหล่มรัก ได้หอมห่มธรรมมาน้อมนำพาชีวิตลอยล่อง ท่องไปสู่แดนดินสุขาวดี และแดนที่ครองสุขว่าง ไปตราบชั่วนิจนิรันดร์ค่ะ* เขา..นิ่งงันกับคำงาม ในร่างผู้หญิง ที่ดูแสนอ่อนหวานบอบบางอย่างคาดไม่ถึง โลกหนอโลก..โชคหนอโชค.. แล้ว.. วันหนึ่งก็มาถึงจนได้ ให้หัวใจลูกผู้ชายชาติทหารอย่างเขา แสนอ่อนไหวอ่อนหวานยามได้พบเธอ.. ผู้หญิงแปลกหน้า.. ที่ราวกับว่าได้รู้จักกันมาแสนนาน และกับ นาทีนี้ทั้งพาแปลกใจ แปลกคิดแสนพิเศษพิสุทธิ์ จนเขาอยากจะหยุดโลกชะลอ ให้นานนาที ไม่ให้คนดีพรากลาเร็วเกินไป... คุณ..ครับ... ผม..ดีใจนะที่ได้รู้จักและพบคุณ ได้แลกเปลี่ยนทัศนะกัน ผม...ฝันมานานแล้วที่จะได้พบใครสักคน ที่มีดวงกมลคิดแบบเดียวกับผม ผมคิดว่า..วันนี้นาทีนี้ ผมพบแล้วครับ คนที่.. ผมรอคอยมาแสนนานราวชั่วกาลกัปป์กัลป์เลยทีเดียว หากคุณไม่รังเกียจ..นี่ครับนามบัตรผม.. หวังเราจะเป็นมิ่งมิตรกันได้ยาวยืน ในโลกโลกาภิวัฒน์นี้ ที่มากล้นไปด้วยกระแสแห่งความคลั่งวัตถุนิยม หากแล้ว หัวใจทุกคน ก็มักพบแต่ความระทมตรอมตรมมิมีที่สิ้นสุด เพราะ... แท้จริงแล้วไซร้ ความสุขนั้น..อยู่ในนี้ครับที่จิตใสใจเราเอง... ฝนหยุดตกแล้ว สักพักเราคงต้องไปต่อ... ผมจะขอโอกาสคุณรอพบคุณที่วัดนะครับ เราถือโอกาสเป็นกัลยาณมิตรธรรม ไปสวดมนต์ภาวนาอธิษฐานจิตน้อมนำ ไปไหว้พระด้วยกันที่วัดไชยวัฒนารามก่อนก็ได้ ไปดูสายน้ำเจ้าพระยากัน และ.. ผมจะพาคุณเดินผ่านลานลั่นทม ที่เชื่อว่าคงรอพบคนงามอย่างคุณอยู่เป็นแน่ แล้ว... ไปถวายมาลัยบูชา กราบพระพุทธที่โบสถ์คร่ำที่วัดมเหยงค์กันนะครับ ไปรำลึกถึงความหลังแสนงามในยามค่ำของคุณ ผม...จะคอยเคียงข้างเป็นเพื่อนคุณ เป็นองครักษ์พิทักษ์คุณ ให้คุณได้ใช้เวลา กับ จิตใสใจดั่งดวงดอกแก้วหอมกรุ่นของคุณนานๆณ..ที่นั่น แล้ว.. เราจะรอดูพระจันทร์ดวงกลม ที่ทรงกลดสดสีทอรัศมีดาวพรายพร่างพราว ราวเพดานดาราราย คล้ายราตรีก่อนเก่า ให้คุณได้รำลึกนึกย้อนรอย คงงดงามมากนะครับ... แล้ว ผมจะขับรถไปส่งคุณให้ถึงที่พักแรม อย่างมิให้เหลือบยุงริ้นไรไต่ตอมเลยละครับ นี่คือคำสัญญาของมิ่งมิตรหน้าใหม่ ของลูกผู้ชายชาติทหารครับ หวังคุณจะรับคำและเมตตา...* เธอ..ยิ้มขำในทุกคำพูด ที่แสนดี ที่เขาพลีให้ อย่างแสนน่าภาคภูมิใจ ในน้ำใจ ในไมตรี ในงามดีงามใจ ในระหว่างคนสองคน ที่คือ การเริ่มต้นอันแสนงดงาม ในท่ามโลกแล้งไร้ สิ้นความศรัทธาไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน มิยอมปันพลีเผื่อแผ่แด่ผู้ใด *ค่ะ..ตกลง นี่ค่ะเบอร์มือถือค่ะ หากหลงทางกัน นะคะ..แล้วพบกันค่ะ ที่นัดหมายค่ะวัดไชยก่อนนะคะ* ว่าแล้วเธอก็เดินนำหน้า.. พาร่างขึ้นรถเคลื่อนออกช้าๆ ก่อนที่.. จำต้องหยุดรถอีกครา เมื่อ.. เขาคนดีมาโบกมือ..ขวางหน้ารถไว้ให้..ชะลอ พร้อมกับ.. ที่เธอไขกระจก...และ...พบบางสิ่งในมือเขา *ช่อดอกปีบแสนหอมพราว รวมรัดร้อย*อยู่ในมืออันอบอุ่นแข็งแรงของเขา ที่กำลังค่อยๆยื่นส่งให้อย่างช้าช้า และ ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน... ตาสบตา..นิ่งนาน....! ฟ้าและดินเป็นพยาน... โลกหยุดหมุน...... ในท่ามหอมละมุนของดวงดอกปีบ และ.. ในหอมห้วงแห่งสองดวงใจ... รอพลีพร้อมเป็นหนึ่งเดียว..!! .......................................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4258.html ญ ...ดังมี สิ่งใดมาดลใจฉัน ดังใจ โอ้เอยเฝ้าคอยเธอนั้น นานแสนนาน ฮืม จึงมาเจอกัน คล้ายบางสิ่งผูกพัน ร้อยใจเราร่วมกัน ช ...ดังมี สิ่งใดมาดลใจฉัน ดวงใจ โอ้เอย มีเพียงเธอนั้น นับวัน ฮืมจนแรกเจอกัน ใจฉันเพียงต้องการ แต่เธอตลอดมา ช ...ฝากคำสัญญา ฝากวาจา รักเธอไม่เสื่อมคลาย ญ ...หมื่นพันสัญญา ร้อยวาจา หนึ่งเดียวที่เข้าใจ ช ...รอคอย ผ่านวันเนิ่นนานเพียงไหน ญ ...คืนวัน ผ่านไปไม่มีความหมาย พร้อม นับวันนี้เธออยู่ภายในใจ และหวังเพียงได้ครอง รักจนตราบนานตลอดไป ช ...ฝากคำสัญญา ฝากวาจา รักเธอไม่เสื่อมคลาย ญ... หมื่นพันสัญญา ร้อยวาจา หนึ่งเดียวที่เข้าใจ ช ...รอคอย ผ่านวันเนิ่นนานเพียงไหน ญ.... คืนวัน ผ่านไปไม่มีความหมาย พร้อม... นับวันนี้เธออยู่ภายในใจ และหวังเพียงได้ครอง รักจนตราบนานตลอดไป นับวันนี้เธออยู่ภายในใจ และหวังเพียงได้ครอง รักจนตราบนานตลอดไป.
12 กุมภาพันธ์ 2550 09:47 น. - comment id 655911
มาเยี่ยมอ่านรจนาที่งดงามครับ แก้วประเสริฐ.
12 กุมภาพันธ์ 2550 11:09 น. - comment id 655953
ซึ้งใจคุณแก้วนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ ที่ยังเป็นกำลังใจให้พุดเสมอมา แล.. หวังจักเป็นดั่งเมตตาหยาดเย็น ดั่งฝนพรำลงบนบึงใจพุด ตลอดไปนะคะ ด้วยรักคารวะค่ะ พุดไพร และ.. ถึง.. เจ้าของเมล์ แสนน่ารักนี้นะคะ ................ สวัสดีค่ะ พี่พุดพัดชา หนูมีชื่อว่า...นะค่ะ หนูติดตามผลงานของพี่ในเวบ Thaipoem มานานเเล้ว รู้สึกชื่นชอบผลงานของพี่พุดมากๆเลยค่ะ พี่พุดคะ ... คือหนูมีเรื่องรบกวนพี่พุดได้มั้ยคะ คือที่โรงเรียนหนู อาจารย์เค้าให้เเต่งเรื่องสั้น หรือเรื่องเล่า หรือนิทานก็ได้อ่ะค่ะ เเต่ว่าต้องสอดเเทรกภูมิปัญญาไทย หรือว่าภูมิปัญญาชาวบ้านอ่ะค่ะ ซึ่งอาจารย์เค้าเพิ่งมาสั่ง เเล้วต้องส่งภายในวันพุธ ที่ 14 กุมภาพันธ์อ่ะคะ ซึ้งหนูเป็นคนที่ไม่มีพรสวรรค์ในด้านนี้เลยคะ หนูเลยขอรบกวนพี่พุดช่วยเเต่งให้หนูได้ไหมค่ะ ความยาวประมาณ 1 หน้ากระดาษครึ่งอ่ะค่ะ รบกวนพี่พุดช่วยหนูหน่อยนะคะ หนูเเต่งไม่ได้จริงๆอ่ะค่ะ พี่พุดค่ะ ถ้าพี่พุดเปิดเมลล์นี้เเล้ว ถ้าพี่พุดจะกรุณาหนูก็ขอให้พี่พุดเเต่งเรื่องให้หนูเสร็จวันอังคาร(13 กพ. )ได้มั้ยคะ เเต่ถ้าพี่พุดไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะคะ พี่พุดไม่ต้องเเต่งให้หนูดีมากก็ได้นะคะ เพราะหนูเพิ่งอยู่ ม.3 เองอะคะ ขอขอบพระคุณพี่พุดล่วงหน้านะค่ะ .................. . คนดี... พี่พุด..ปิติใจนะคะที่น้องมาอ่านงานพี่พุด และ พี่พุดมีคำแนะนำนะคะว่า ให้น้องไปคลิ๊กอ่านงาน พี่พุดในนามปากกา *สาวบ้านนา*นะคะ และนั่นคืองานที่น้องสามารถจะบ่มเพาะและ นำมาเรียบเรียงเขียนงานส่งอาจารย์ได้นะคะ มีมากเรื่องเลยค่ะ http://www.thaipoem.com/forever/my_poem.php?mid=6042 ลองอ่านดูนะน้องรัก พี่พุดก็ รักน้องค่ะ และแสนขอบคุณนะคะคนดี
12 กุมภาพันธ์ 2550 13:20 น. - comment id 656035
แวะมาอ่านงานงามๆค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ
12 กุมภาพันธ์ 2550 13:55 น. - comment id 656055
ยาวจังนะครับ/ต้องก๊อปไปอ่านที่บ้านแล้วนะ/แวะมาเยี่ยมนะครับ
12 กุมภาพันธ์ 2550 15:25 น. - comment id 656130
นุ่มละมุนฝันจริงๆ ทั้งกวีและบทเพลง
13 กุมภาพันธ์ 2550 08:18 น. - comment id 656306
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem98135.html มนต์รักบ้านทุ่ง ต้นกล้า อันดามัน ปี่ซังข้าวพี่เป่าเพลงเก่าแว่ว แม่ดวงแก้วยินแล้วอย่าเหินห่าง คนตัวเปล่าสิ้นไร้คือไร้ร้าง เอาหัวใจพี่วางไว้ข้างกัน สายลมหนาวยามหนาวยังร้าวหนัก โอ้ยอดรักเจ้าเอยอย่าดับฝัน ไม่เคยหลงใดอื่นทั้งหมื่นพัน เท่าดวงขวัญใบข้าว สาวบ้านนา. .................. กล้าคะ พี่พุดรักบทกวีบทนี้มากค่ะ ตามอ่านงานกล้า และ.. รู้สึกแสนซาบซึ้งจังในยามเช้านี้ เลยขอนำมาวางไว้ณ..ที่นี่ ทั้งๆที่บทนี้.. น่าจะไปฝากงามไว้ในหน้างาน *สาวบ้านนา*นะคะ และ.. พี่พุดขออนุญาตินะคะคนดี ขอแก้คำสุดท้าย จาก.. สาวชาวนาเป็นสาวบ้านนา แบบเข้าข้างตัวเองว่า.. กล้ารจนาให้นะคะ ด้วยรักบทกวีดิบเดิม ดินค่ะ