ดั่งสายรุ้งในดวงใจ..!

พุด

charkarn47.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song774.html
บทเพลงสี่แผ่นดิน

พับกลีบบัวน้ำตาปริ่มอิ่มปิติ!
ร้อยมาลัยพุดซ้อนและกลอนรัก
แทนอ้อมตักอ้อมใจยามไกลแสน
ร้อยมาลัยห่วงหารัดร้อยแทน
อุ่นอ้อมแขนแทนอ้อมขวัญอันห่วงใย
พับกลีบบัวน้ำตาปริ่มอิ่มปิติ
ดอกมะลิลามะลิซ้อนงามอ่อนไหว
อธิษฐานกราบพระพุทธพร้อมพลีใจ
ยอดดวงใจพรากลาอีกคราแล้ว
จิตเกษมหอมห่มธรรมย้ำรอท่า
ทุกทิวาภาวนาใจใสดั่งแก้ว
น้ำค้างฝันจันทร์หวานทั่วถิ่นแนว
กระซิบแผ่วใครคนนี้พลีรักรอ..
มองดูจันทร์ฝันฝากใจนะยอดรัก
จันทร์ใจภักดิ์คงมั่นฝันเฝ้าพ้อ
จะเนิ่นนานสักปานไหนใจเฝ้ารอ
จะมิท้อดอกธรรมหวานบานในใจ
จะส่งจูบส่งใจไปคลายหนาว
ห่มร่างร้าวเหนื่อยนักพักหวั่นไหว
ให้เดือนดาวกระซิบพราวออดอ้อนใจ
ยังมีใครคนนี้ที่รักนัก...
ดอกพุดไพรฝากใจห่มหอมกว่าหอม
หวังจิตหลอมสัญญามั่นขวัญรวมภักดิ์
น้ำค้างพรมลมลูบไล้มาทายทัก
ดาราจักรหมุนวนรอคนดี..
น้ำค้างแก้วพราวใสจับใบไม้
น้ำตาพรายซึ้งเศร้าหนาวคืนนี้
นับวันรอยอดหฤทัยกี่ราตรี
ใจดวงดีกราบขอพรวอนสวดมนต์
ฝากท้องฟ้าโอบกอดแทนห่วงหา
ฝากดาราประจำเมืองทุกเวหน
ฝากคำมั่นสัญญากลางกมล
ฝากเทพดลบันดาลประทานพร
ฝากใบไม้ร่ายฟ้อนแทนคำหวาน
แทนร้าวรานรักรอขอออดอ้อน
ฝากหมอนน้อยคอยเคลียแก้มก่อนจะนอน
กระซิบอ้อนวอนว่านิทรารมย์..นะดวงใจ..
.....................


ค่ำคืนแสนสุขสงบเงียบ
จนแทบได้ยินเสียงเย็นเฉียบของน้ำค้างพรม
ลงบนกลางกลีบดวงดอกไม้ที่แย้มเผยอ..รอ
ดวง...เดินไปเด็ดดวงดอกลั่นทม
บนระเบียงบน 
ที่สลัดใบร่วงหล่นจนเหลือเพียงดวงดอกดก
มาเพียงไม่กี่ดอก
ให้หอมๆแค่ซาบซึ้งตรึงตราอารมณ์ดายเดียว


จุดเทียนทองบูชาพระพุทธ ธ..ผู้ทรงพระพิสุทธิคุณ
น้อมนมัสการถวายดวงดอกบัว
แล้ว..อธิษฐานจิต 
ให้เกิดทิพย์นิรมิตปาฏิหารย์
ได้ทรงบันดาลดลให้ดวงจิตผู้คน
ในแผ่นดินทองแผ่นดินไทยแผ่นดินธรรมนี้
ต่างมีความคิดดี พูดดี ทำดีรู้สมานฉันท์สามัคคีกัน
อย่าได้มีอันแบ่งแยกแตกเป็นหลายฝักหลายฝ่ายเลย


หัวใจดวงนวลนวล
ดวงนิดดวงน้อย ดวงนี้
ดวงที่มีเพียงรักแท้ล้วนๆ
หวังเพียงพึงปรารถนาดี
พลีให้แก่แผ่นดินนี้
ที่ได้ให้ชีวีเราเกิดมา
ได้มาพบพระผู้ผ่านฟ้า
มาโอบเอื้อแด่พสกนิกรทุกผู้นาม
อย่างไม่เลือกที่รักมักที่ชัง 
หวังเพียงให้คนไทได้มีกินอิ่มท้อง
รู้เมตตาแบ่งปันรักกันฉันท์น้องพี่ 
ครองเพียงความดีความสงบ
พบร่มเย็นเป็นสุขไปทั่วหน้าทุกธุลีหล้าไทย 
ในแผ่นดินทองแห่งทุกผองเรานี้
ด้วยเทอญ...


พรุ่งนี้.....
เป็นวันสำคัญของคนที่เปรียบประดุจดั่ง
สายรุ้งในดวงใจ

ผู้ที่..
มีความหมายยิ่งใหญ่เสมอไปตราบชั่วนิจนิรันดร
ใจ..ดวง..จึงตั้งมั่นจะไปทำบุญ ฟังธรรม 
ใต้ร่มไม้ใบบังที่งามระยิบระยับ
ราวกับชีวีดวงได้ย้อนกลับไปในสมัยพุทธกาล
ยามที่พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงธรรมเทศนา.

ดวง..น้อมศิระด้วยหยาดน้ำตาปิติเกษมซึมซึ้ง
ในทุกครา ที่ได้มีโอกาสกราบลงตรงแทบเท้าหลวงพ่อ
ผู้ก่อเกื้อกรุณา
ให้พุทธศาสนิกชนรู้ค่าคำว่า*กุศลธรรม*
อันล้ำเลอค่า มาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ
จนนับถึงวันนี้ จะเป็นปีที่แปดสิบแล้ว...
หากทว่า..
หัวใจท่านที่แสนสว่างสุกใส
*ราวดวงแก้วมณีประกายพฤกษ์*
ก็ยัง..
มิเคยหยุดพ่ายเพียร..ให้...ความดี
พลีแด่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก ลำบากทางใจ

ได้พบเส้นทางสายทองไสวสว่างกระจ่างสะอาดสงบ
เพื่อสยบโศก โลกมายา
ที่มากผู้คนพากันว่ายวนทุรนทุรายเร่าร้อน
ดั่งนอนนั่งในกิเลสเปลวเพลิงก็มิปาน
ท่านให้หยาดน้ำอมฤตธรรม..
ได้น้อมนำมาพร่างพรม
มาให้สะสมเสบียงบุญ แห่งความปิติเกษมเย็น
เป็นสุขแบบสัจจะแท้
 ใช่..เพียงแค่ เกิดมา แก่เจ็บตาย
เพียงหมายมาสะสมสุขกิเลส
สุขเวทนา หลงในป่าช้าสังสารวัฏฎ
อันคือป่ารกชัฎ..
จนบางคนยากจะหาทางออกพบเจอ


ใจดวง..นิ่ง นิ่ง แล นิ่ง
ด้วยรู้วางทุกข์สรรพสิ่งไว้ภายนอก
หลังเพียรกระซิบบอกดวงจิตให้รู้พัฒนา
ดวงชีวีชีวิตนี้ มาอย่างยาวนาน
มาตรแม้นจะพบราน พบโศก
พบวิปโยคสุดสะเทือนใจสักปานไหน
ใจดวงไสว รักเพียงบุญ
ก็ยังคงรู้ทนรู้ทัน รู้สร้างสรร
หวังเพียงให้หยาดน้ำใจ แด่ทุกใครทุกคนที่ชิดใกล้
ให้ ให้ ให้ ตราบจนกว่าตะวันลาแห่งดวงชีวาจะสิ้น
ให้ ให้ ให้
จนดวงใจแห่งเมตตากรุณาถวิลจำต้องพรากไกล
อย่างไม่มีวันหวนคืนกลับ...
ประดุจดั่ง...*สายน้ำรักนิรันดร์.*
ที่คงไม่มีวันไหลกลับหวนทวนย้อนคืน....
....................


แสงเทียนยังคงพร่างไสว
ชีวิตคือ..อะไรกันเล่า..
ดวง..เฝ้าค้นหาคำตอบมาอย่างยาวนาน
จน..
ใจดวงเยาว์ดวงใสต้องสังเวยพบรานโศก


และพบว่าโลกทั้งโลก ตรงหน้า 
สอนสัจจธรรมแด่..ใจดวงว่า..
ให้รู้ปล่อยรู้วาง..
ในเมื่อ...
แท้เที่ยงแล้วไซร้
ชีวิต..คือมายา
คือการได้เกิดมาชดใช้วิบากกรรม 


และ..
ได้น้อมนำลมหายใจแห่งชีวิต
มาพบกับพระพุทธรัตนา
มาพบกับคำว่าค่าแห่งคน
คือการรู้พัฒนาตน
ให้เหนือโลกย์พ้นพันธนาทั้งโศกสุข
ดั่งคำสอนแห่งองค์พระบรมศาสดา


พระ..ผู้กล้าประกาศอริยสัจจ
อันคือทางออกแห่งมวลมนุษยชาติ
ให้มี ศีล สมาธิ ปัญญา 
เพื่อพาให้พ้นทุกข์ พบสุขว่างสว่างสงบ
จบด้วยการไร้ยึดมั่นถือมั่น
ให้ดวงจิต พลันพบทางกระจ่าง
ประดุจแก้วใส ไสวชัชวาลย์โรจน์รุ่ง
พุ่งไปสู่แดนพระนิพพาน...


นาทีนี้..
ดวง..จึ่งปิติพลีอ้อมกอดให้*ยอดดวงหฤทัยแห่งดวง*
ที่ประดุจดั่ง...
ดวงดารารายนับพันนับหมื่นสกาวพราวพราย
ดั่งเพชรรุ้ง..เรืองรอง
อันคือทุ่งทิพย์รวงทองระย้าระยับ
อันคือแก้วแวววะวับพิสุทธิ์ใส
อันคือ..
ปวงดวงดอกไม้ไพรหวานหอมทั้งโลกหล้า

และ
ทุกสิ่งแห่งความดีทั่วทั้งฟ้าดิน
ที่ต่างพากันปลาบปลื้มมิรู้สิ้น
ต่างพร้อมพลีพากันเมตตาประทานพร
รับขวัญเจ้า....
แม่นวลอรชร...แม่ยอดเยาวมาลย์..


ให้...
คุ้มขวัญคุ้มใจ..

คุ้ม..กับการได้มีโอกาสยิ่งใหญ่แสนโชคดี
ได้เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทยแผ่นดินธรรม 
แผ่นดินที่มีร่มฉัตรเพชรกางกั้น
ให้...
คุ้มค่าคน เหนือคน นะคนดี...ที่ดวงรักแสนรัก..!!!!
.................


ใต้ร่มไม้ใบระยิบระยับไหว
ฟังธรรมใจรับแดดทองส่องพรายพร่าง
ใจดวงทองรับยอดธรรมส่องนำทาง
ใสกระจ่างอัญมณีทิพย์นิรมิตใจ..
หลับตานิ่งทิ้งทุกสิ่งไว้ภายนอก
ตาในบอกเปิดจิตงามรับพร่างใส
ดอกบัวบุญแย้มคลี่บานกลางบึงใจ
ยอดพระรัตนตรัยดั่งน้ำค้างลงพร่างริน..
ในนิมิตเราเคียงกันลานดอกจิต
น้อมชีวิตกราบกรานถวายสิ้น
มีเพียงว่างวางทุกข์น้ำตาริน
หวังสุดสิ้นทุกข์ระทมเคยห่มใจ..
แกะเปลือกใจพบจิตใสอย่างช้าช้า
แก่นชีวาคือทำดีมิหวั่นไหว
รู้สละออกเพียรรู้ให้น้ำค้างใจ
หอมดวงใจใสเย็นพร่างสร้างรอยบุญ..
เสียงสวดก้องสะท้อนทาบอาบอุ่นนัก
ฝากใจภักดิ์สองดวงจิตอันหอมกรุ่น
ใบไม้ร่วงพรูพร่างกระจ่างใจรับอรุณ
ดอกพุดไพรใจละมุนรับวันพร..
แล้วดวงจิตกระจ่างก็พร่างวับ
งามธรรมจับนวลเนื้อจิตซึ้งคำสอน
สนิทแนบแอบแสนรักฟ้าอวยพร
ให้เราสองล่วงสู่ฝั่งฝันวันนิพพาน..!
...................

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song774.html
สี่แผ่นดิน 
คนมี ชีวิตและกายา
ถือ กำเนิดเกิดมา
เป็นหญิง หรือว่าเป็นชาย
ผู้มี พระคุณอันแสนยิ่งใหญ่
กว่า สิ่งใด ก็คือแผ่นดิน
เป็นแดน ที่ให้ชีวา
พึ่งพา อาศัยและอยู่กิน
คุณใด จะเปรียบแผ่นดิน
เอื้อชีวิน จากวันที่เกิด จนตาย
ยามใด ความทุกข์กรายมาเยือน
ทุกข์ใดเล่าจะเหมือน
ความทุกข์เยือน เรือนกาย
หากเรือน ของเรามีทุกข์ กรายใกล้
สุขอย่างไร อย่างไรตัวเรา
ยามดี เราดีตาม
ในยาม มีทุกข์ควรแบ่งเบา
บุญคุณ ยิ่งใหญ่นานเนาว์
หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน
ยามใด ความทุกข์กรายมาเยือน
ทุกข์ใดเล่าจะเหมือน
ความทุกข์เยือน เรือนกาย
หากเรือน ของเรามีทุกข์ กรายใกล้
สุขอย่างไร อย่างไรตัวเรา
ยามดี เราดีตาม
ในยาม มีทุกข์ควรแบ่งเบา
บุญคุณ ยิ่งใหญ่นานเนาว์
หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน
หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน... 
 
 

charkarn4.jpg				
comments powered by Disqus
  • พุด

    3 กุมภาพันธ์ 2550 21:19 น. - comment id 652461

    36.gif16.gifcharkarn17.jpgหอมบุญอุ่นอุษา..!
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song206.html
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song198.html
    (อันเป็นดวงใจ...ปรารถนา)
    
    
    
    อุษาสางแล้ว
    เดือนดวงแจ่ม..ยังค้างฟ้า
    แม่ดวงดอกพุดไพร....
    ลุกขึ้นมาเปิดเพลง..ครูทูล..ทองใจ
    และตั้งใจจะไปวัด...
    ลุกขึ้นมาจัดเตรียมสำรับ
    มาหุงข้าวใหม่มะลิหอม
    และ....
    จัดเตรียมอาหารทั้งคาวหวานผลไม้
    ไปน้อมนำใจ...ไปถวายพระบวชใหม่...
    
    
    ที่..
    งามผ่องพราวไปทั้งลานธรรม
    จน..มลังเมลืองกลายเป็นลานทองผ่องพรายใต้ร่มไม้
    ณ..ลานหินโค้ง..
    ที่มิโล่งแล้ง กลับงามพราว...ระยิบพร่าง
    ด้วยใบไม้ไม้ใบนานาพรรณ
    ที่....
    กำลังฟายฟ้อนอ้อนออดรับอ้อมอวลอุ่น
    จาก..พรายแสงแรกละมุนของดวงอาทิตย์อ่อนอุทัย
    ในยามอุษาฟ้าสาง...
    ที่ทั่วทั้งท้องนภางค์กระจ่างแจ้ง..จากนวลนภาเบื้องบน
    
    
    และ..
    จากระยับจับจิตจากจีวรสงฆ์แจ่มจ้า
    ที่สะท้อนเงาแดดวะวูบไหวในท่ามเงาไม้
    คล้ายดั่งดวงชีวี
    ได้ย้อนรอยถอยหลังกลับไปในสมัยพุทธกาล 
    ยาม..
    ที่พระพุทธองค์ทรงเสด็จเทศนา..ในวันสำคัญๆ
    และ..
    แทบทุกครั้งครา..
    ในท่ามแมกไม้ไพรพฤกษ์ในแทบทุกถิ่นที่
    แห่งแดนดินพุทธชมพูทวีปนี้....
    ที่แสนเงียบงามสงบสุข..
    
    
    ที่..
    พระพุทธองค์ มิทรงหยุดท้อแท้
    เพื่อจะเผยแผ่พระบรมศาสนา..
    จนตราบล่วงลาถึงพระชนมพรรษาครบแปดสิบปี ...
    จน..
    ตราบถึงวันที่..
    *พระพุทธองค์ทรงบรรทมในท่าสิริไสยาสน์
     ใต้ร่มเงาไม้สาละ...บนศิลาอาสน์
    เพื่อทรงดับขันธ์ปรินิพพาน
    ใต้ม่านไม้ใบบัง...อันแสนหอมเศร้า..เคล้าความโศกสงบ
    แห่งหัวใจพระอรหันต์และชาวพุทธศาสนิกชน
    คนในชมพูทวีปมาอย่างยาวนานตราบจนกาลวันนี้....
    
    
    และ...
    ตั้งแต่ยาม..
    ที่ดวง พระประทีปแก้วแววประภัสสร
    ได้ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน
    ได้...
    ทรงค้นพบอริยสัจจ์สี่ 
    *ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค*
    อันคือสัจจะธรรมจริงแท้
    และ..
    พร้อมพลี..
    เยื้องย่างอย่างแสนลำบากตรากตรำพระวรกาย
    เพื่อไปเผยแผ่...ในทุกธุลีหล้าใต้ฟ้าธรรม...ธรรมชาติ
    ให้..
    ทุกผองชนในสมัยพุทธกาล..และนานเท่านาน
    มาถึงทุกผู้คนในทุกวันนี้
    ได้พบเส้นทางอันแสนสะอาดสว่างสงบ
     ที่ณ..บัดนี้เรียกว่า....
    
    
     สังเวชนียสถานทั้งสี่....
    สถานที่ประสูติ ณ ป่าลุมพินี เมืองกบิลพัสดุ์ เนปาล
    สถานที่ตรัสรู้ ณ ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม พุทธคยา อินเดีย
    สถานที่แสดงปฐมเทศนา ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน สารนาถ อินเดีย
    สถานที่ปรินิพพาน ณ ป่าสาลวัน กุสินารา อินเดีย...
    
    ที่..น่าอัศจรรย์ใจนัก
    ที่พระสงฆ์จำนวนนับพัน
    จะ...พลันมาประชุมพร้อมกัน
    โดยมิได้นัดหมาย..
    
    คล้ายปาฎิหารย์
    จากบุญญาบารมีกฤดาภินิหาร
    จากพลังศรัทธาแห่งความเชื่อ
    ที่เหลือจะกล่าวอธิบาย...ผ่านคำว่า
    เหนือโลกย์ เหนือโศก สุขสิ้นแล้ว...
    ...........................
    
    
    และ....
    วันนี้แม่ดวงดอกพุดไพรจึงตั้งใจ
    จะไปวัดเพียรปฎิบัติธรรม 
    และ..
    ตั้งใจจะทัดช่อละออเข็มขาว..
    ให้หอมหวานบานพราวริมเรียวแก้ม
    และ..
    แถมจะคลี่คลุมไหล่ด้วยผ้าสไบผืนนุ่มสีไพล 
    ที่แสนจะบรรเจิดใจ บรรเจิดจิตแจ่มกระจ่างมาก
    ใน...
    ท่ามมวลอวลอากาศหนาว 
    แล้ว..
    เดินฝ่าม่านหมอกหยอกรวงเรียวดวงดอกข้าว
    ที่กำลังผลิพราวในทุ่งนา
    ใกล้...เมืองธานีแดนทอง
    ที่..
    ยังคงเหลือผืนนาผืนน้อย
    คอยรอท่าท่านนายทุนมาหมุนหว่านเงินงาม
    กวาดล้างสร้างเป็นบ้านจัดสรร..
    
    หาใช่..สวรรค์บ้านนาอีกต่อไปไม่แล้ว...!
    
    
    และ..
    ราวดวงใจแม่ดวงดอกพุดไพร
    คิดขอให้..
    เข็มขาวและข้าวนา
    จักพราวพาพร...ให้นำมาเพียรสอนสัจจะใจ
    ให้..
    ไหวงามตามทันทุกผัสสะ 
    มีสติปัญญา..บานเบิกตระการ
    แตกช่อดอกจิตกระจ่างสว่างไสว
    ไปในท่ามกลางความวายวุ่นแห่งวิถีผู้คน
    อันอลหม่านอลวนปากกัดตีนถีบ
    รีบร้อนทุรนทุราย
    คล้ายเต็มไปทั้งม่านมนต์เมืองมายา...เมืองฟ้าอมร..
    
    
    แม่ดวงดอกพุดไพร
    จะ..
    พาร่างใจที่แสนรักความเดียวดายดายเดียว
    และ...หัวใจดวงใสดวงดี..ไปถวายวัด
    ให้..
    จิตภายใน..
    รู้สึกสงบสงัด ชัดแจ่มด้วยพลังบุญ...
    ที่จักละมุน..
    หมุนนวลเนื้อใจ
    ให้หอมกุศลเกษมไปตราบชั่วนิจนิรันดร์...
    
    
    แม่ดวงดอกพุดไพร
    จึงมานั่ง.บนหินใหญ่ใต้ร่มไทรใบหนา
    ที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้นกกาอาศัย
    ในม่านไพรไหวย้อยห้อยรากราย
    ลงมาพรายปรายปกคลุม
    ในท่ามกลางสายลมหนาวที่พัดกรูกราว
    พร่างพราว...
    
    
    ให้..
    ใบไม้ใบนิดๆน้อยๆ
    ค่อยๆพร่างพลิกพลิ้วปลิดปลิว..ละลิ่วลอยลงมา
    ใน..
    ท่ามสายแสงแดดสีทอง
    ละอองอ่อนอุ่นอาบทอทาบทามาในยามอุษา
    และราวกับว่า...
    นั่งอยู่ในท่ามป่าใหญ่ไพรกว้าง
    อย่างแสนสวยงามอ้างว้าง 
    ให้
    ดวงจิตดวงว่างยิ่งงามแสนงาม
    ในครรลองทองผ่องผุด 
    ราว...
    *โลกตรงหน้ากำลังหยุดหมุน*
    ให้
    น้อมรำลึกนึกย้อน
    *ตามรอยพระบาทองค์พระบรมศาสดา*
    องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปในยามสมัยพุทธกาล...
    
    
    และ...
    ในท่ามทิพย์นิรมิตใจนั้น..แม่ดวงดอกพุดไพร
    เห็นแสงจรัสจ้า...
    ประดุจดั่ง..
    สายแสงเพชรพราวพรายฉายฉาน
    โชติช่วงจับฟากฟ้า
    จาก..
    ปวงพลังแห่ง*พุทธธรรมทายาทรังสี*
    ที่..
    พลีพร้อมใจกันมาบวชรวดเดียวกันถึงหกสิบสองรูป
    พลังจิตนั้น
    จึง..
    พลัน...สว่างไสว..ดั่งมณีดวง ช่วงโชติ โรจน์รุ่งรัศมี
    ประดุจรัตนมณีแห่งนาคร ...
    
    
    ให้...
    ดวงใจอรชร..ในนาทีนั้น
    เกิดปิติบุญและอุ่นเอิบไปด้วยความงามจิตงามใจ
    เกินหาค่าคำใดมาบอกกล่าว
    
    ในพราวพราย..
    จากอัญมณีชีวิต..อันแสนนิดหนึ่งน้อยนี้
    ที่ได้สัมผัสพบเห็น...
    
    
    และ..
    หวังเพียรพลี
    ทุกลมหายใจนี้ให้เพียงคิดใฝ่ดี  พูดดี ทำดี 
    และ..
    พร้อมพลีให้...ผองเพื่อนมนุษย์อย่างมิสิ้นสุด...รัก
    
    มิ...สิ้นสุดหยุดศรัทธา..ในคำสอน
    อันคือ*อมตะนิรันดร์*...
    ในสัจจะธรรมแห่งพระบวรศาสนา
    
    
    เพื่อ..
    ให้ชีพชนม์ทุกผู้คนบนผืนหล้า...
    ยังคงดำรงคงความดีประดับฟ้าไทยไปตราบชั่วกาล...
    และ..
    ให้สมกับการ
    ที่ได้เกิดมาในร่มฉัตรร่มพระรัตนตรัย
    ได้มีโชค รู้ดับโศกพ้นทุกข์
    จากทุกคำสอนของพระบรมศาสดา..พระพุทธศาสนา
    
    
    ดั่งบัวขาวพราวหล้า...
    ให้..
    หลุดพ้นจากพันธนาทุกข์โคลนตม
    เป็นบัวพ้นน้ำบัวบูชาชูช่อไสว
    รับทานธรรมนำมาส่องนำทางใจ 
    ไปตราบชั่วชีวีนี้...ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ...!!!
    ..........................
    
    
    
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song206.html
    อันเป็นดวงใจ ครูทูล ทองใจ
    
    ฉันมีเธอนั้นอันเป็นดวงใจ
    โอ้เป็นความรักยิ่งใหญ่
    เหมือนดาวรักใคร่ฟากฟ้า
    เหมือน ดังแสงสุริยา
    สาดแสงส่องพื้นภพหล้า ลงมาจูบทานตะวัน
    เห็นใจเถิดฉันนั้นยังดำรง
    เทิดทูนความรักสูงส่ง
    ซื่อตรงไม่เปลี่ยนแปรผัน
    หวัง ใจได้คู่เคียงกัน
    ตราบนิรันดร์มั่นหมายสวาท
    เป็นทาสความรักเสมอ
    อันเป็นดวงใจมานานแรมปี
    เป็นราชินี แห่งใจฉันนี้คือเธอ
    ทุกๆ ค่ำเช้าเฝ้าละเมอ
    จิตใจพร่ำแต่เพ้อว่า รัก รักเธอรักจริง
    ฉันรักเธอเหมือนดังดวงชีวา
    ไม่เคยจะคิดเลยว่า สัญญาแล้วจะทอดทิ้ง
    เห็น ใจฉันบ้างยอดหญิง
    มอบหัวใจให้แล้วทุกสิ่ง
    ด้วยความสัตย์จริงเสมอ
    แด่เธอ ผู้เป็น ดวงใจ...
    
    
    
  • .

    3 กุมภาพันธ์ 2550 23:36 น. - comment id 652502

    
    							
    							
  • Jervie

    4 กุมภาพันธ์ 2550 03:19 น. - comment id 652538

    It does not matter how much you love, but how much you are loved by others. I love you-
  • โคลอน

    4 กุมภาพันธ์ 2550 17:50 น. - comment id 652670

    6.gif11.gif36.gif
  • เรนเอง..

    4 กุมภาพันธ์ 2550 19:54 น. - comment id 652695

    สิ่งนั้นไม่เคยลบเลือนจากความรู้สึกที่เรนได้สัมผัส..ความอบอุ่น..
    
      พี่พุดพัดชาเป็นพี่พุดที่งดงาม..ของเรน
    เป็นผู้หญิงที่เรนอยากใกล้..
      ..
      ใครคนนั้นที่ได้ใกล้ชิดพี่พุดของเรน..
    ใครคนนั้น..ต้องโชคดีมากๆด้วยดิคะ..
    36.gif..
       เรนคิดถึงนะคะ..

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน