http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song222.html บทเพลงฉันรักเธอเสมอ ดวงดอกแก้วผลิหอมพร่างในอุษา เหนือขอบฟ้าตะวันหยอกสายหมอกไหม วาสนาบานเคลียต้นเฝ้าปลอบใจ รักลาไกลไปลับหล้าสุดฟ้าดิน หอมหอมดวงดอกไม้สยายกลีบ ทั้งพุดจีบทั้งจำปีในสายถวิล เขาพรากไกลดั่งสายน้ำในวาริณ หวังมิสิ้นคำหวานกับกาลลา ปีผ่านแล้วเจ้าขวัญจอมพะยอมหวาน ลืมโศกรานลืมทุกข์หนักภักดิ์เหว่ว้า มีเพียงรอยหวานฝากไว้กับกาลเวลา แม้นรอท่าสักกี่กัลป์ขอขวัญคืน หวังเป็นคู่พิสวาทหมายปองได้ครองรัก แค่ได้ภักดิ์ได้พบก็แสนชื่น แค่ได้ฝันในรอยกาลรอยั่งยืน ก็.. ระรื่นรมณีย์พร้อมพลีใจ..วาง..ไว้แทบเท้าเธอ...แล้ว เจ้าแก้วดวง....!!! ........................... อรุณ...หวาน ดวงดอกแก้วหน้าบ้านยังยืนต้นบานมานานปี ดอกไม้ที่คู่ใจ สิริมงคล เสมือนกมลใครละหนอที่ได้เคียงชิดใกล้ ปลอบหนาวคลายมาทุกทิวาราตรีพอกัน กี่ฤดูกาล กี่ฤดีขวัญ..ฝัน..ฝัน..ฝัน.. ที่เราได้ชิดใกล้กันเคียงปันพลี ปันดี มีเมตตา เอื้ออุ่นโอบ... แม้นโลกจักแล้งไร้ ผ่านดีร้ายมามากมาย ก็ใช่จักแปรไปตามรอยกาล ในหวานสายใย สายใจรัก และ.. หวังจักเป็นเช่นเฉกนี้...ตราบเราสอง...สิ้นลม...! ............................ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song222.html ฉันรักเธอเสมอ หากตราบใด สายนที ยังรี่ไหล สู่มหา ชลาลัย กระแสสินธุ์ เกลียวคลื่นยัง กระทบฝั่ง เป็นอาจินต์ เป็นนิจสิน ตราบนั้น ฉันรักเธอ เช่นตะวัน นั้นยังคง ตรงต่อเวลา แน่นอนนัก รักท้องฟ้า สม่ำเสมอ เช่นกับฉัน มั่นคง ตรงต่อเธอ ฉันรักเธอเสมอ ฉันรักเธอเสมอ ชั่วนิจนิรันดร์ เช่นตะวัน นั้นยังคง ตรงต่อเวลา แน่นอนนัก รักท้องฟ้า สม่ำเสมอ เช่นกับฉัน มั่นคง ตรงต่อเธอ ฉันรักเธอเสมอ ฉันรักเธอเสมอ ชั่วนิจนิรันดร์... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song839.html (สายน้ำไม่ไหลกลับ) ................. สายน้ำวน... ใกล้ค่ำแล้ว ฟ้าสวยเหลือเกิน หลากสีทั้งแดงส้มชมพู.. ยามนี้ทุกสีสาดสายลงมาไล้โลมยอดหญ้า ดูราวกับว่าเป็นสัญญาแห่งความพรากลา แล้วค่อยเริ่มต้นหมุนมาทายทักในเช้าวันใหม่... นกกาและผู้คนที่จำต้องทุกข์ต้องทน ยังจำต้องว่ายวนเวียนวัฎจักรชีวิต หาเช้ากินค่ำ ต่างพากันรอเวลาบินกลับรังราวนกไพร เป็นดั่งนี้...ตราบชั่วนิจนิรันดร์ เพื่อประทังดำรงท้อง ฤา... หวังหวานหวังว่า จะดำรงร่างใจ ให้มีจิตวิญญาณไสวทำสิ่งแสนดีแสนงาม ฝากไว้ให้โลกหล้าก่อนผืนดินจะกลบหน้า ก่อนที่ฟ้าจะกลายสีพิโรธ ก่อนดินน้ำลมไฟจะเล่นบทโหดไร้ปรานี แด่มวลมนุษยชาติ ที่มากมายมากมีหมายมาดเพียงมาตักตวง อย่างราวจะทวงหนี้บุญคุณ ให้รู้สำนึกลึกซึ้งถึงค่าคำว่า..สายเกิน... ดวงนอนนิ่งนิ่งริมตลิ่งในดงหญ้า ริมชายป่าริมบึงกว้างมิร้างรัก กับฟ้าสีโศกโลกสีไพล กับใจดวงเดิมเดิมดายเดียว กับความเงียบสงบงาม เงียบเสียจนได้ยินเสียงทุกสรรพสิ่งรายรอบ เสียงลมพัดใบไม้ไหว เสียงสายน้ำไหลระริน เสียงนกผกโผผินกลับรัง เสียงราวชายฝั่งกระซิบคำรำพันรำพึงแด่มวลแมกไม้ริมชายชล ได้ยินแม้เสียงกมลเต้นตามจังหวะลีลาหากทว่าว่างเปล่าเบาสบาย ตะแบกยังฟ้อนอ้อนพรายในเงาแดดแสนสวยสีทองสะท้อนตา พาให้ดวงใจไหวหวาม ไปตามเสน่หาแห่งมนตรากลีบกรายในยามตะวันโพล้เพล้... ดวงรัก..แสนรักบึงนี้ ที่แอบเรียกว่า*ทะเลสาบสีเงิน* รักแสนรักสายชล..ที่เรียบนิ่งสงบในยามพลบค่ำ รักเสียงเรไรร่ำ รักเสียงแห่งธรรมชาติไพร ที่เหลือน้อยลงในราวเมือง ราวป่าใหญ่ไพรกว้างพลางแทรกซ่อนซุก ให้เพียงผู้รู้รักคุณค่างามเงียบ..ค้นพบ ดวง... คิดถึงบทเพลงเกี่ยวกับสายน้ำ และบางทีแสนแปลกดี ที่ดวงเกิดมากับทะเลทะเล หาก... ในดวงใจแสนโอละเห่กลับประทับใจทะเลสาบ ที่ราวเป็นภาพในทิพยนิรมิตฝัน อันแสนประเทืองใจในทุกยามเหว่ว้า และ เป็นมาตั้งแต่ยามเยาว์ ที่ยามเหงาใจจะแอบไปนั่งดูปฎิทินภาพ ทะเลสาบและขุนเขาในเงาหมอกหยอกล้อ ด้วยดวงใจแสนเยือกเย็นในทุกยามที่ได้ทอดทัศนา จากร้านกาแฟเล็กๆในตลาด ที่คุณลุงเจ้าของร้านบอกกับดวงว่า ภาพที่มาได้คือภาพจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แดนดินที่งดงาม ด้วยม่านหมอก และ... ดวงดอกไม้ป่าดอกเล็กๆที่ขึ้นพรายพร่างพื้น ไล่ตามเนินหญ้าเขียวขจีไปตามเนินภู และ กับฟ้าที่ดูกว้างกระจ่างใสเขียวคราม มีกระท่อมหิน เรียบง่ายดูแล้วแสนสงบใจ พร้อมกับ ป่าไพรดงสน และทะเลสาบเรียบใสในฤดูคิมหันต์ ดวงจึงค้นพบตัวตนว่า ดวงรักธรรมชาติที่ดิบดินติดดิน ที่ราวร้างไร้ผู้คน หากมีชีวิน ผสานผสมไปกับความสงบสมถะ และ นี่คือที่มา ที่ทุกครายามดวงมีเวลา จะหยิบหนังสือดีดีทั้งของไทยเทศ ที่เกี่ยวกับป่าใหญ่ไพรกว้าง และอย่างเรื่องของลอร่า อิงกัส์ล ไวเดอร์ ที่*คุณสุคนธรส *แปล และมีครบชุดมาอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า... บ้านเล็กในป่าใหญ่ บ้านเล็กในทุ่งกว้าง เด็กชายชาวนา ริมทะเลสาบสีเงิน เมืองเล็กในทุ่งกว้าง ฤดูหนาวอันแสนนาน ปีทองอันแสนสุข สี่ปีแรก... .............. และ เพียรหาหนังฝรั่งดีดี ที่มีชีวิตสัตว์และผู้คนยังดำรงตนย้อนรอยถอยหลังกลับไป ราวเพิ่งเริ่มสร้างบ้านแปลงเมือง ในยุคที่โลกยังมีพรมแดน.และแสนลี้ลับ หากแสนสงัดสงบสุข เกินจะบอกกล่าว ดวงมาเล่ารจนาระบายคลายความเบื่อเมือง เบื่อโลกทุกวันนี้ ที่ดวงกำลังเพียรพยายามจะหนีให้พ้น แม้นอาจจะต้องทน*เป็นปลาผิดน้ำ..*อีกสักนิดสักหน่อย แต่ดวงก็ไม่เคยเลย...ที่จะคิดท้อถอย ยอมยกธง . ยังคงคิดด้วยดวงใจใสซื่อตรงคงมั่น ที่... จะหันหลังคืนกลับ ณ..บ้านป่าบ้านไพร ด้วยดวงใจเต็มร้อย ที่ยังคงละห้อยโหยหารอ... เพียง หวังขอสนิท... สถิตแนบเนา แบบสุขเหงางามเงียบ ได้อย่างกลมกลืนไปตราบชั่วนิจนิรันดร์ ตราบชั่วฟ้าดินสลาย.....!! ............................................. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song839.html สายน้ำไม่ไหลกลับ.... อรวี สัจจานนท์ โอ้ความรักที่ร้าวรานไกล ดุจสายน้ำไหลผ่านไป ลงไหลไปแล้วไม่เคยคืนมา หา สาย น้ำเชี่ยวโกรกไหล วกวนแล้วไหล ไป ไหลไปแล้วไม่กลับมา คิด เปรียบไปก็คล้ายเหมือนว่า รักเอยไม่คืนหวนมา จากลาไปยังหนใด คิด ถึงเมื่อก่อนเคย รักฉันเป็นสุขเอย ไหนเลยจึงต้องจากไกล คอย เฝ้าคอยคร่ำครวญหวนไห้ รักเอยจากไปแล้วไย จากไปเหมือนสายน้ำวน ร้าง ไปร้างไกลสุดหวัง ล่องลอยไปไกลเหมือนดัง สู่วังแม่เอยสายชล ฉัน สิยังคร่ำครวญเพ้อบ่น ไหว้วอนให้สายน้ำวน ช่วยดลให้รักฉันคืน เขา คงไม่กลับมา หัวใจพร่ำเรียกหา น้ำตาหลั่งนองกล้ำกลืน นอนหลับตาต้องผวาตื่น สายน้ำไม่เคยไหลคืน ไม่คืนเสียแล้วรักเอย เขา คงไม่กลับมา หัวใจพร่ำเพรียกหา น้ำตาหลั่งนองกล้ำกลืน นอนหลับตาต้องผวาตื่น สายน้ำไม่เคยไหลคืน ไม่คืนเสียแล้วรักเอย คงไม่คืนเสียแล้วรักเอย
3 กุมภาพันธ์ 2550 11:15 น. - comment id 652317
พี่พุดสวัสดีค่ะ เอมอยากไปในที่ที่เป็นแบบนี้จังค่ะ เงียบเสียจนได้ยินเสียงทุกสรรพสิ่งรายรอบ เสียงลมพัดใบไม้ไหว เสียงสายน้ำไหลระริน เสียงนกผกโผผินกลับรัง เสียงราวชายฝั่งกระซิบคำรำพันรำพึงแด่มวลแมกไม้ริมชายชล ได้ยินแม้เสียงกมลเต้นตามจังหวะลีลาหากทว่าว่างเปล่าเบาสบาย มันคงทำให้ใจสบายขึ้นเยอะเลย ช่วงนี้อากาศหนาวเย็นลงทุกวัน พี่พุดอย่าลืมดูแลสุขภาพนะคะ คิดถึงพี่พุดเสมอค่ะ
3 กุมภาพันธ์ 2550 13:29 น. - comment id 652357
หวานแต่เช้าเรย ได้อารมณ์ดีจริงๆ
3 กุมภาพันธ์ 2550 14:29 น. - comment id 652377
....