ลมหนาวผะผ่าวผ่าน กระทบซ่านกระแทกสาว เย็นยิ่งยะเยือกยาว กอดกายาก่อนย่ำเย็น คู่ชิดสนิทแนบ คราใจแคบหรือลำเค็ญ ห่างหายมิเคยเห็น ทุกครั้งนึกระลึกรัก เคยชื่นระรื่นรส จะจำจดจิตประจักษ์ ร้าวรานก็นานนัก เพราะชอกช้ำน้ำคำชาย พักรักสักอึกรู้ ให้หดหู่เหือดแห้งหาย เวลาจะพากาย ละลบเลือนและลืมหลง แต่หนาวผะผ่าวผ่อง ลูบไล้ล่องละลิ่วลง ปลดเปลื้องมิปลดปลง อนงค์คิดพินิจครวญฯ
7 มกราคม 2550 13:52 น. - comment id 643934
เข้ามาชื่นชมบทกลอนครับ......
7 มกราคม 2550 16:01 น. - comment id 643972
แวะมาอ่านเจ้า หนาวใจให้ธรรมคุ้มคงหายหนาวบ้างเนาะ
7 มกราคม 2550 17:14 น. - comment id 644009
พักรักสักอึกรู้ แถมหดหู่อยู่กับหวล รักเก่าเฝ้าเรรวน จึงช้ำนวลไร้หวนคืน อากาศเย็นน่าดู ทุกภาคน่าจะเหมือนกันนะ อิอิ
7 มกราคม 2550 19:00 น. - comment id 644068
แต่งให้เราช่ายม๊า หุหุหุ
8 มกราคม 2550 08:04 น. - comment id 644208
ลมหนาวผะแผ่วผิว ลมล่องลิ่วอุราไหว คิดถึงคะนึงใคร วอนลมให้บอกเขาที
8 มกราคม 2550 10:03 น. - comment id 644253
คอยอ่านงานหวานอยู่นะเฮีย สงสัยต้องเข้าวัดเหมือนคุณ ไรไก่ว่าเนอะ อิอิ.. นวลหนาวเพราะร้าวรัก สุดจะหักห้ามไฉน คิดถึงก็คนไกล ได้แต่คิดและคร่ำครวญ ...หวัดดีคับคุณผู้หญิงไร้เงา...... หวัดดีคุณเปเป้ฯ คงหนาวสิเนาะ.. สักพักเด๋วก็หาย ลมหนาวผะผ่าวแผ่ว พอผ่านแล้วคะนึงหวล คิดถึงก็แต่นวล นานนี้คงพะวงรัก .......หวัดดีคุณเพียงพลิ้ว....