วิมาน...บุญ...!

พุด

3194_b1_061108102040.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song20.html


เธอ......ผู้หญิงคนพิเศษพิสุทธิ์ของผม...
กำลังก้าวออกมาจากประตูผู้โดยสารขาเข้า
ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ...
สนามบิน..
ที่แสนทันสมัยขจรไกลให้โลกลือ
สนามบิน...
ที่คนไทยทุกคนถือเป็นความภาคภูมิใจ....
เฉกเช่นชื่อพระราชทานนั้นประดุจกัน
ด้วย..
ลีลาแลทีท่าแห่งความเชื่อมั่น..อย่างช้าช้า 
และด้วย..
นัยน์ตาสงบนิ่งเงียบงัน
แฝงพลังฝันใฝ่ล้ำลึกราวผลึกแก้วเจียรนัย  
ที่..
คอยตามเกี่ยวรัดร้อยใจ*ผม..*เสมอมา
และ..ไม่ว่า...
 กัปป์กาลเวลาจะเคลื่อนคล้อยลอยเลื่อน
เลือนผ่านมานาน...สักกี่วันเดือนปี...ก็ตามที...!


เธอ...ยังคงงามล้ำ 
งามดื่มด่ำ ประทับ...ประดับในดวงใจผม
ที่..
ไม่มีวันจะผันแปร....
มั่นคงดั่งภูผาทายท้าสิ้น
ทั้ง...ฟ้าดิน..พายุฝน..และลมแรง
อุปสรรครักแกล้งหลากหลายเรื่องราว
ให้หนาวเหน็บ
เพียงเพื่อ..
ทดสอบใจ...พิสูจน์รักแท้แห่งสองเรา


และ...
ไม่ว่า....สักกี่ภพชาติกัปป์กาลเวลา
กับ..
โลกย์ที่หมุนโศกสุขเหว่ว้า
ให้..
เฝ้ารอคอย ร่างน้อยๆ อย่างมิท้อถอย 
ด้วย..
*แรงจิตอธิษฐาน*
เพื่อ..
ให้ร่างงามไสวโผเข้ามา
ในอ้อมกอดอ้อมใจของลูกผู้ชายคนนี้ 
ที่ภักดิ์แสนภักดิ์ รักแสนรักเป็นที่ยิ่งนักแล้ว..


เธอ..แย้มยิ้มด้วยนัยน์ตา 
นัยน์ตาที่พาให้ดูราวกับโลกหล้า
ยอมสยบสิ้นรวมทั้งดินฟ้า
ที่ต่างพากันหยุดหมุนเฝ้ามอง
ผม...กางแขนออก
พร้อมกับที่..
เธอโผเข้ามาในอ้อมจิต เป็นขวัญชีวีชีวิตของผมจริงๆ
ในนาทีนี้...ณ..นาทีนี้..


เราสบตากันนิ่งนาน 
ในท่ามโลก
แลความสับสนวายวุ่นรายรอบแห่งวิถีผู้คน
หาก..
กมลภายในกลับ แสนเงียบงาม พร่างแจ่ม 
ราวกับมี..*ลำแสงแห่งความว่าง *
ส่องกระจ่างสว่างเย็น นำทางไสว 
ไปสู่แดนดิน ดินแดนอันแสนไกล..ไกลแสน
 ในว่ายเวิ้งฝันอนันตกาล..อันประมาณหาที่สิ้นสุดมิได้...


ผมกระซิบริมแก้มนวล 
ที่..
ยังหอมอวลด้วยนวลกลิ่น
ดวงดอกไม้ไทย..*ดวงจำปา*
ที่เธอแอบทัดแซมผมมา
ให้..
ผมได้ละเมียดละมุนใจ ในยามนี้
ยามที่..
ผม..ค่อยๆขับรถ..พาเธอออกมานอกชานเมือง
ให้..
เธอคนดีได้เอนอิงทิ้งตาทอดใจ
สัมผัสเส้นทางสายรวงเรียวแสนเปลี่ยวเหงา
หากให้ความงดงามอย่างแสนเรียบง่ายดิบเดิม..


อาทิตย์..กำลังอัสดงลงตรงชายทุ่ง ท่ามเวิ้งวัน
ในแดนดินแห่งความฝันอันสูงสุด...*อยุธยา *
ที่..
ผมกำลังขับรถพาเธอไป
เพื่อ..
กรานกราบองค์พระปฏิมา ในโบสถ์คร่ำ...
ที่..เธอร่ำเรียกร้องในทุกครา
เมื่อมีเวลาขึ้นมาให้ผมรับขวัญ..


หลัง..
วันคืนที่เธอเพียรตรากตรำ
ตั้งใจ..
สร้างสรรทำสิ่งยิ่งใหญ่ทางจิตวิญญาณ
 *วิมานวนา*วิมานที่กำลังปรากฏจริงในโลกหล้า 
เพื่อ...
รอเวลาพัฒนาจิตผองชนเพื่อนมนุษย์
ให้..
พบกับความหลุดพ้น...มิจำต้องเวียนวนหลงว่ายในวิบาก
อย่างหาทางออกมิพบเจอ โดยไม่มีความหวังพลังใจ
ฤาแรงบุญใดมาหนุนนำ..
ให้..
ทุกดวงใจใสงามมิยอมพ่ายเพียร.... 
....................


*คนดี..เหนื่อยมั้ย
เที่ยวนี้มาพักสมองพักใจ..ให้ผมรักรักรักได้สักกี่วัน*
ผม...ทำนัยน์ตาล้อ พ้อเพ้อ
อย่างคนที่หลงละเมอหวามไหว
อย่างเทใจ ทุ่มใจ ให้เธอจนหมดสิ้น


เธอ..ยิ้มหวาน
ก่อนจะยกมือผมขึ้นประทับจูบอย่างช้าๆ
อย่างเอาอกเอาใจ ....อย่างเข้าใจ..
และ..
เหนือสิ่งใด
ระหว่างเรา...
บทสนทนาใดไหนเล่า
ก็..
คงไม่จำเป็นสักเท่าไร
ในเมื่อได้ผ่านบททดสอบจากกาลเวลา 
ที่ฟ้าดินเฝ้ารับรู้เป็นพยานมาอย่างยาวนาน


และ..
แน่นอนจนเกินจะนับนึก ในทุกอณูรู้สึก
ที่..
เคยได้แลกปลี่ยนแลแบ่งปัน
เกินกว่าฉันท์เพื่อนธรรมกัลยาณมิตรผู้สนิทใจ
อย่าง..
เอื้อโอบเกี่ยวก้อยกันไป
ด้วยความเอมอิ่มเกษมเปรมปรีย์ 


จน..
เกินจักหาคำมารำพันรำพึง
ในซาบซึ้งแห่งปาฏิหารย์รักมหัศจรรย์รอนี้
อัน..
แสนที่จักน่าภาคภูมิใจ 
ในความหนักแน่น สัตย์ซื่อ 
ถือสัจจะคำอธิษฐานอย่างมั่นคง
อย่าง..
มิยอมหลงทาง
ไปท่ามกลางทะเลโลกย์เลือก
เปลือกกิเลสเนื้อหนังภายนอกเป็นสำคัญ
ที่..
จำต้องพบพรากจากลา
และคงแสนอ้างว้างเหว่ว้าใจ 
ไปจนตราบถึงวันสิ้นลม..หากสายเกิน...!


เราสอง...
แวะซื้อมาลัยแสนงาม
ที่..
ร้อยรัดด้วยมะลิหอมกรุ่น
อย่างละมุนละเมียด
และ..
แสนดูเรียบง่ายหากตรงชายอุบะ
กลับแฝงฝังด้วยพลังแห่งความศรัทธา


เพราะ..
มาลามาลัยพวงพิเศษพิสุทธิ์นั้น
ได้รับการร้อยสร้อยโซ่อุบะด้วยบัวตูมบริสุทธิ์
สามดวงดอกแทนการคารวะพระรัตนตรัยทั้งสาม
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ผู้ทรงคุณอนันต์แด่สัตว์ผู้ยาก...
ให้..
ได้ฝากชีพชนม์
มิให้ติดกับหลงวนวิบากว่ายในทะเลโลกย์โศกน้ำตา
อย่างหาทางออกมิพบเจอ
ให้ได้พบพระพุทธศาสนา  
ค่อยๆเพียรพายกระดับจิต ให้ขับเคลื่อนชีวาชีวิต
สู่แดนดินทิพยนิรมิต ดั่งชีวิตเกิดใหม่...


ผม....จอดรถที่วัดชัยวัฒนาราม 
แล้ว..
เดินเกี่ยวก้อยเคียงไหล่...
เดินข้ามสะพานมิติแห่งกาลเวลา
ราว...
ย้อนรอยถอยหลังกลับไปสู่สมัยทอง
*แห่งรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ*
เสียงเสภาลอยแผ่วแว่วหวานมา
อย่างรานร้าวในบึ้งดวงหฤทัย


เมื่อคิดว่า...
 เหตุใดไยเล่าเมืองเก่าของเราแต่ก่อน
จึงต้องพ่ายแหลกแตกยับ
ดับดวงเมืองไปกับความไร้รักสามัคคี..
ที่ในยามนี้...
 เราลูกหลานเหลนโหลนไทย 
ควรได้มองย้อนรำลึกนึกถึงบทเรียน
แห่ง..
นาฏกรรมสุดโศก แสนเศร้า วิปโยค 
อัปยศ สะเทือนใจจนยากหาคำใดมาอธิบาย
หมาย...
เพียงหวังอย่าให้ซ้ำรอย.. 


   อยุธยายศล่มแล้ว 	ลอยสวรรค์ ลงฤา
สิงหาสน์ปรางค์รัตน์บรร	เจิดหล้า
บุญเพรงพระหากสรรค์ 	ศาสน์รุ่ง เรืองแฮ
บังอบายเบิกฟ้า	ฝึกฟื้นใจเมือง
                              
 	
๓.เรืองเรืองไตรรัตน์พ้น	พันแสง
รินรสพระธรรมแสดง	ค่ำเช้า
เจดีย์ระดะแซง	เสียดยอด
ยลยิ่งแสงแก้วเก้า 	แก่นหล้าหลากสวรรค์
                              
 	
๔. โบสถ์ระเบียงมรฑปพื้น	ไพหาร
ธรรมาสน์ศาลาลาน	พระแผ้ว
หอไตรระฆังขาน	ภายค่ำ
ไขประทีปโคมแก้ว	ก่ำฟ้าเฟือนจันทร์
                              
 	
๕. เสร็จสารพระยศซ้อง	สรรเสริญ
ไป่แจ่มใจจำเริญ	ร่ำอ้าง
ตราตรอมตระโมจเหิน	หวนสวาท
อกวะหวิวหวั่นร้าง	รีบร้อนการณรงค์
                              
 	
๖. แถลงปางบำราศห้อง 	โหยครวญ
เสนาะเสน่ห์กำสรวล	สั่งแก้ว
โอบองค์ผอูนอวล 	ออกโอษฐ์ อรเอย
ยามหนึ่งฤาแคล้วแคล้ว	คลาดคล้ายขวบปี
                              
 	
๗. รอยบุญเราร่วมพ้อง 	พบกัน
บาปแบ่งสองทำทัน	เท่าสร้าง
เพรงพรากสัตว์จำผัน 	พลัดคู่ เขาฤา
บุญร่วมบาปจำร้าง	นุชร้างเรียมไกล
                              
 	
๘. จำใจจากแม่เปลื้อง	ปลิดอก อรเอย
เยียวว่าแดเดียวยก	แยกได้
สองซีกแล่งทรวงตก	แตกภาค ออกแม่
ภาคพี่ไปหนึ่งไว้ 	แนบเนื้อนวลถนอม
                              
 	
๙. โอ้ศรีเสาวลักษณ์ล้ำ 	แลโลม โลกเอย
แม้ว่ามีกิ่งโพยม	ยื่นหล้า
แขวนขวัญนุชชูโฉม	แมกเมฆ ไว้แม่
กีดบ่มีกิ่งฟ้า	ฝากน้องนางเดียว
                              
 	
๑๐. โฉมควรจักฝากฟ้า 	ฤาดิน ดีฤา
เกรงเทพไท้ธรณินทร์ 	ลอบกล้ำ
ฝากลมเลื่อนโฉมบิน	บนเล่า นะแม่
ลมจะชายชักช้ำ	ชอกเนื้อเรียมสงวน
                              
 	
๑๑. ฝากอุมาสมรแม่แล้ 	ลักษมี เล่านา
ทราบสวยมภูวจักรี 	เกลือกใกล้
เรียมคิดจบจนตรี	โลกล่วง แล้วแม่
โฉมฝากใจแม่ได้	ยิ่งด้วยใครครอง
                              
 	
๑๒. บรรจถรณ์หมอนม่านมุ้งเตียงสมร
เตียงช่วยเตือนนุชนอน	แท่นน้อง
ฉุกโฉมแม่จักจร 	จากม่าน มาแฮ
ม่านอย่าเบิกบังห้อง 	หับให้คอยหน
.
.


เสียงสวดมนต์หลายบท...
ด้วยแรงศรัทธาปสาทะสูงสุด
อย่างถวายจิตถวายใจของสองพลังดวงใจ
ที่...
กำลังหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว
 ก้องกังวานไปกับสายลมอยุธยาในยามค่ำ
กับ..
เสียงสายน้ำเจ้าพระยาระรินร่ำ 
ผ่าน...พระตำหนักสิริยาลัย
ที่..
ฟ้าเบื้องบนกว้างไกล 
ณ..บัดนี้...ช่างงามล้ำมลังเมืองเจิดจรัส
ราวรัศมีรุ้งพุ่งพรายพราวเฉิดฉายฉันท์พรรณราย
รอเวลา..
*พูนพระจันทร์เดือนธันวา*
จะประดับฟ้า...ในท่ามราตรีเพ็ญ


ใจดวงงามสองดวง จึ่งพบเย็นกว่าเย็น
งามกว่างาม เกินกว่าที่จักให้ค่านิยามใด
แทนรู้สึกดื่มด่ำล้ำลึกณ..บ้านภายใน
ได้จน..หมดจดหมดใจ


เรา...
ก้มพลีศิระกราน...กราบลาองค์พระพุทธปฏิมา...ในยามพลบ
อย่างอ่อนน้อมอ่อนโยน
ก่อน..
จะเกี่ยวกุมมือกันอย่างแนบแน่นมั่นคงจงรัก
เดินผ่านลานลั่นทมแห่งภักดิ์
ที่....
กำลังปลิดดวงดอกหวานเศร้า
ลงเคล้าคลุกธุลีหล้า  ราวสั่งฟ้าฝากดิน 
ให้รู้ซึ้ง..
ถึงบทเรียนแห่งถวิลเทวษโทมนัส
ที่ผ่านกัปป์กาลเวลา 
ราวให้ย้อนกลับมาสอนสัจจธรรม อันแสนยิ่งใหญ่
ให้ใจไท ไทยทุกดวง
ได้หวนไห้รำลึก ไตร่ตรองรู้สึก
รู้รักสมานฉันท์ปันพลี
ปันดี ก่อนวันที่จักสายเกิน...


ฟ้า....งาม ในท่ามเมืองเก่าของเราแต่ก่อน
พาให้หัวใจดวงอรชรอ่อนหวานของเธอ..
คงเผลอ..คิดถึงใครบางคน
*คนในอดีตกรีดใจ*
ที่..
ถือเป็นชาตินักรบทั้งตระกูล
ที่เคยมาเกื้อกูลเกี่ยวพัน 
ให้ก่อเกิดสายใยรัดร้อยดั่งสร้อยโซ่รักโซ่ผูกพัน
ในบุพเพเพรงกรรม ตราบจนถึงวันนี้ ณ..วันนี้
ที่...
ดั่งมียอดดวงใจรักยิ่งใหญ่ร่วมกัน 
ร่วมสายขวัญ สายใจสายหฤทัยแห่งรักแท้นิรันดร์
มาสานฝัน รังสรร ประโยชน์
แด่..
ผืนดินทองแลผองชนผู้ร่วมทนทุกข์ยากในแผ่นดิน
อย่างยากจะแยกออก
.....................


เธอ.....
กำลังเผลอเหม่อยลอยดูกระแสน้ำวนเชี่ยว
ดั่งเกรียวใจมนุษย์ที่ยากแท้หยั่งถึง แห่งก้นบึ้งดวงใจ
ที่...
มากมีสัญญาเดิม สัญญาใจ ผูกพิสวาทกันมา
ให้จำต้องชดใช้
ด้วยการพลัดพรากจากลา 
อย่าง..
สุดที่จะหนีพ้นในพันธนารักนี้...


ผม..พาเธอ มานั่งร้านเล็กๆริมฝั่งชล 
ที่สายน้ำลึกล้นกำลังทอตลิ่ง
เสียงสายน้ำระรินระริกกระซิกกระซี้กระซิบ
อยากบอกทุกสรรพสิ่งแห่งชีวิตให้หยุดนิ่งฟัง
บทเพลงธรรม ธรรมชาติแห่ง*สายน้ำรักนิรันดร์ ได้ระบาย...
ดีกว่า..
ฝากกลายกลับพิโรธ 
ราวอยากสอนให้มวลมนุษย์
ได้หยุดทำลาย แล้วแก้ตัว....เริ่มต้นใหม่...
.....................


กุ้งแม่น้ำ กับหลากอาหารค่ำ 
แกล้มกับเสียงเรไรร่ำพร่ำบอก
ราว..
เสียงสายน้ำแห่งรัก
ที่..
คอยตอกย้ำเตือนให้ตระหนักถึงลมหายใจแสนสุข..
ที่มักแสนสั้น
ให้..
ทุกดวงใจ อย่าได้ไหวหวั่น
มัวประมาทไปกับคืนและวัน..*ที่ยากย้อนหวนคืน*
หาก..
สอนให้รู้รับชื่นรื่นอภิรมย์ ก่อนลมหายใจจักสิ้น..


และ
กับ...ทุกนาทีแสนมีค่า...
ยาม....
ได้พบรักแท้นิรันดร์
ได้ปันแบ่ง ทุกสิ่งแสนงามแสนดีอย่างแสนมีพลังใจ


ผม...
พาเธอมายังคอนโดกลางเมือง 
*อาณาจักรแห่งรักแห่งฝัน*
ยามที่..
ผมเองนั้นยังจำต้องรับบทเป็น
*คนเมืองเรืองรุ่งมุ่งทำงานเพื่อสร้างหลักฐาน*
ให้..
เราได้สานฝันสร้าง
*วิมานลอย*
ที่กำลังคอยให้ฝันนั้นพลันจริง
เพื่อ...
ทิ้งความศิวิไลซ์ 
แล้ว..
ไปสัมผัสวิมานแห่งความสงบสงัดในยามบั้นปลาย
หมายได้ชิดใกล้ธรรมชาติ 
และ...
วาดวงชีวีชีวิตให้สถิตสถาวร..สถาพร..


เพื่อ..
นำบทเรียนธรรม มาสอนใจแด่ทุกเพื่อนมนุษย์..
ไม่ว่า...ชนชาติภาษาใด
อย่าง..
ผู้เข้าใจโลก อย่างผู้อยู่เหนือโลก เหนือโศกสุขทั้งปวง
มิห่วงหาอาวรณ์สิ่งใดแล้ว
รอ...
เวลาร่างโรยร่วง ลงสู่ดิน 
หากจิตวิญญาณดวงแก้วแววประภัสส์
จักโบยบินโบกด้วยแรงบุญแรงกุศลส่ง....
ให้ตรง...ไปยัง
*แดนดินแห่งความว่างเกษมเย็นเป็นนิรันดร์...*
.................


ราตรีแสนงาม...
กำลังพรายพร่างด้วยดารารายเรียงดวง
เธอ..
ยืนชมวิวบนระเบียงตึกสูง
แลลอยละลิบไปสู่ทิวทิพย์เมฆ


ทอดทัศนา รายรอบวิวทิวทัศน์ วัดวา
ยอดหลังคาโบสถ์อร่ามเรือง เลื่อมพรายพราวดั่งทองทา
โน่น....
พระบรมมหาราชวัง และวัดพระแก้วในยามค่ำ 
แสนมลังเมลืองพราวพร่าง งามระยับจับนัยน์ตา 
ราว..
เมืองฟ้า เมืองสวรรค์ ที่ฟ้านี้ประทานให้


กับ...
ลมหนาวละลิ่วละล่องมาปะทะร่างราน.... 
แลละลิบลงเบื้องล่าง 
แลรายรอบราวเมืองสวรรค์ฝันสับสน.. 
กับ..
ชีวิตผู้คน..อลวนอลเวง..ในเมืองลวง และ..
รอ..
ดาวนำทางใจศรัทธาใจดวงไกล
ที่..
กำลังลอยละลิ่วปลิวด้วยลมรักลอยมาหา
มาปลอบประโลมใจ
ยามที่เราราวธุลีหล้าเล็กนิดเดียว 
ในโลกอันแสนกว้างใหญ่ไพศาลนี้....!


ที่ทุกดวงใจเฝ้าเพียรแต่สงสัย ถามใจตัวเองว่า..
จะมอบนิยามใดให้แก่โลกใบนี้ดี..ละหนอ ละหนา
ที่มีทั้ง ดิ้นรนเหว่ว้าสับสนต่อสู้ 
สุขแสนสุขในบางมุมของโลก
และ..
โศกแสนโศกโลกแทบสะเทือนไหวในบางชีวาชีวิต
ที่ถูกลิขิตไปตามกาลไปตามแกน
ความงามซ่อนอยู่มากมาย 
ความชั่วร้ายก็ซ่อนอยู่มากมี
สุดแต่ใจเรานี้จะไขว่คว้าและ
ชะตากรรมนำพาหมุนวนให้ไปพานพบกับสิ่งใด
บางวันสุขล้นหัวใจอยู่ดีดี..
พออีกนาทีต้องมานั่งเศร้าดายเดียวลำพัง
น้ำตาพร่างพลันพรู
ร้างไร้ผู้ใดรู้เห็น....
โอ้ช่างไฉนเลย  สวรรค์เอ๋ยสวรรค์ลา สวรรค์ปิด


ผมเองเคยพลันคิด..
ฝันใฝ่
ใส่จินตนาการงาม..ให้..เมืองมลังเมลือง 
เบื้องล่างนั้น
คือเมืองสวรรค์ในฝัน....
ที่มี...
แม่น้ำเนรัญชราไหลผ่าน 
มีม่านหมอกราวสายไหม 
มี..
ดวงดอกไม้หวานแอร่มแต้มไพรระดะดวง
มีเส้นทางสายงามทอดทาบราวอาบทองทา 
นำพาไปสู่ป่าหิมพานต์ 


ณ.แดนดินแห่งมนต์ขลัง 
เป็นป่างามสะพรั่งพรรณตระการตา 
มี..
ดวงดาราพร่างดาระดาดกระพริบพราว 
มืทางช้างเผือกงามอะคร้าว
ราวรุ้งเรียวรอรับร่างขึ้นไปไกวชิงช้าเมฆ
เสกรวงดาวหว่านพราวพร่างพรมห่มให้โลกงาม
.................


หยาดน้ำค้างพร่างพรมลมลูบไล้ 
แสงจันทร์ฉายคลายเศร้าคอยเฝ้าขอ 
ไกวชิงช้าเมฆเสกรวงดาวพราวสร้อยคอ 
คล้องขวัญรอขอเกี่ยวใจไปนิรันดร์...
..............


ผม......
ค่อยๆเดินออกมา..
กอดกระหวัดรัดร่างเธอโอบกอดไว้
อย่างแนบแน่น
ด้วย..
แรงรักแสนรัก คิดถึงแสนคิดถึง 
ให้ตราตรึงอบอุ่นณ..ทางเบื้องหลัง
แล้ว..
ไล้คางสากไปตามริมเรียวแก้มหอมหอมหอม
ดอมดอมดอมอย่างดูดดื่มชื่นฉ่ำใจ ..ภักดีใจ..
ในยามนี้..


ที่ฟ้าดินเบื้องบนกำลังเมตตาเป็นใจ
ประสานใจให้ใฝ่เฝ้ารอดูดวงดาวแห่งศรัทธารัก 
ที่..
หวังจักโชนแสงส่อง
มาปลอบประโลมไปตราบชั่วกาลนานเนานิรันดร์.


และ..พลัน..!
ดาวในดวงชีวันก็ส่องกระจ่าง..สว่างไสว..ณ..กลางใจ
ดาวประจำเมือง..ที่สุกไสวราวรักเราสอง
ที่..
รอให้ครองเคียงคู่กันไป
แล้ว..
ลอยละล่องติดปีกฝัน สู่ไพรพฤกษ์พง


เราสอง...หลับตา 
ราว..
ตกอยู่ในเงื้อมเงาแห่งเมตตา
จากหัตถาสวรรค์บันดาลดล
ให้..
ต้องอยู่ในมนต์ขลังภวังค์เสน่หา
และ.
ในมโนนึกอย่างแสนซาบซึ้งรักล้นล้ำเลอค่า


ในแย้มยิ้มยินดี...
เมื่อ*เรามีกันและกันในอ้อมกอด..*
ผม..จึ่งยืนนิ่ง 
ให้เธอพักพิงอิงไหล่อยู่ในอ้อมโอบแห่งรัก
หอมหอมหอมเป็นยิ่งนัก 
ทั้งกรุ่นกลิ่นดอกไม้ไพรในกลางใจเมือง
ที่กำลังไหวกิ่งฝันรับสายแสงจันทร์
และ
กับ..
อวลกลิ่นฝันอันอุ่นไอจากอ้อมอกแนบละมุนละไม..
จากหัวอกหัวใจของผมคนนี้
ที่เธอกระซิบว่า..
ดั่งสุภาพบุรุษลูกผู้ชายชาติอาชาไนยทรนงคงมั่น
สมดั่งสัจจอธิษฐานวาจา...
ให้เธอหนาวคลาย..ให้คลายหนาว..


ให้..
ใจดวงร้าว เลิกดายเดียว ตลอดไป
เราพากัน...ค่อยๆชี้ชวน 
ชมทางช้างเผือก
ที่กำลังทอแสงสว่างกระจ่างเย็น
เป็นลำแสงว่างอย่างโชติช่วงชัชวาลย์
ปานประหนึ่งเพชรพร่างแพร้วพร้อย
พร้อม..
กระซิบพ้อรอรวมพลังรักอธิษฐานใจ.... 
ให้สองดวงหฤทัยแห่งเรา
ได้..
ครองคู่มหัศจรรย์รักยิ่งใหญ่...
ไปทุกภพทุกชาติ..อย่างพิสวาท..มิคลาดคลา...!!!!!!!
..........................................
  

ฉันเห็นเธอในดอกไม้สายลมไหว
มวลนกไพร ในฝนพราย แมกไม้ฝัน
ในดวงดาว ในอุ่นแสง แห่งตะวัน
ในความฝัน ในยามตื่น ชื่นฉ่ำใจ..
ฉันเห็นเธอ ในดวงจันทร์ ฝันเคียงฟ้า
ในเมฆา ในเรียวรุ้ง กระจ่างใส
ในผีเสื้อ ในสายน้ำ ในขุนเขา ในเงาใจ
เธอสถิตอยู่กลางใจในเรียวตาในศรัทธาในรักนี้ มิมีวันจะลบเลือน!. 



ทะเลเมฆเสกรวงดาวละลิบลิ่ว 
ราวโปรยปลิวพริ้วสายไหมทอไยฝัน 
วิมานใดไหนเล่างามเทียมทัน 
ลุ่มหลงฝันวันแสนดีราตรีไพร... 
เดือนหยาดหวานปานโปรยโรยน้ำผึ้ง 
ใจดวงซึ้งซ่านสุขซุกหวามไหว 
กุหลาบงามยามนี้คลี่กลีบหอมยวนใจ 
ดอกไม้ไทยไหวกิ่งก้านหวานรับลม... 
ลั่นทมระทมช่อล้อลมไหว 
หอมเศร้าใจยิ่งไหวหวั่นวันขื่นขม 
ลำธารหอมหลอมระรินกลิ่นลั่นทม 
หมอกพร่างพรมห่มร่างร้าวช่างหนาวใจ.... 
ฝันฝากร่างอ้างว้างกลางไพรพฤกษ์ 
ดาวยามดึกพริบพราวว่าอย่าร้าวไหว 
อีกไม่นานดอกไม้หวานบานรับใจ 
ไม่ห่างไกลทิ้งใจร่างกลางผืนไพรดาวพร่างพรม....!
........................


กลิ่นสไบนางหอม
หอมดอกพะยอมไม่เทียบเปรียบปาน
หอมดอกคัดเค้ารื่นเร้าจิตหวาน 
เมื่อมาประมาณ กลิ่นไม่เทียบทานสไบ
 
กลิ่นสไบนวลนาง
แม้ห่างยังหอมไม่ชืดจืดใจ 
ฉันจากถิ่นฐานมาเสียห่างไกล
โอ้กลิ่นสไบเจ้ายังร่ำไรไม่จาง
กลิ่นสไบใช่แล้วอกเอย
กลิ่นนี้พี่เคยเหมือนกลิ่นที่เชยจูบปราง
เจ้าปัดให้พี่วาง
พลัดปรางแนบใจ พี่ชื่นสไบบัวทอง
กลิ่นสไบนุ่มนวล
หรืออบลำดวน มะลิก่อนครอง
หอมยั่วจิตใจให้คิดใฝ่ปอง
ถ้าอยู่ห่างน้อง กลิ่นเจ้าร่ำร้องตามมา
กลิ่นสไบใช่แล้วอกเอย
กลิ่นนี้พี่เคย เหมือนกลิ่นที่เชยจูบปราง
เจ้าปัดให้พี่วาง
พลัดปรางแนบใจ พี่ชื่นสไบบัวทอง
กลิ่นสไบนุ่มนวล
หรืออบลำดวน มะลิก่อนครอง
หอมยั่วจิตใจให้คิดใฝ่ปอง
ถ้าอยู่ห่างน้อง กลิ่นเจ้าร่ำร้องตามมา


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song20.html
วิมานสีชมพู 
วิมานนี้สีชมพู
สีแห่งรัก งาม หรู
ซึ้งอยู่ในความฝัน
วาง ราก ศิลารัก สลักด้วย ดวง ชี วัน
จารึก ไว้ ร่วมกัน ไม่ มี วัน เสื่อม คลาย
ชื่น ใด เล่า เหนือกว่าใจเรา
เนาว์รัก มิวาย
ขอพลีใจ และกาย
รักเดียวไม่เคลื่อนคลาย
มลาย กลายสีชมพู
วิมานนี้ ฉันปลื้มฤดี เพราะมี เธอคู่
ถึงเข็ญใจ ไม่คลายชมพู เสรีรักอยู่ ชื่นชู ใจ
ชื่น ใด เล่า เหนือกว่าใจเรา
เนาว์รัก มิวาย
ขอพลีใจ และกาย
รักเดียวไม่เคลื่อนคลาย
มลาย กลายสีชมพู
วิ มาน นี้ ฉันปลื้มฤดี เพราะมี เธอคู่
ถึงเข็ญใจ ไม่คลายชมพู
เส รี รัก อยู่ ชื่น ชู ใจ... 
 

3195_b1_061108102200.jpg				
comments powered by Disqus
  • ชัยชนะ

    12 ธันวาคม 2549 18:55 น. - comment id 635480

    พบกับพุด
    โปรแกรมทัวร์ที่ไม่ค่อยพลาดคือแวะไปไหว้พระในวัด
    
    วิมานมองวาดหวัง
    ใส่พลังปาฏิหาริย์
    เทวาฟ้าบันดาล
    ให้พบพานเธอตัวจริง
    
    36.gif36.gif36.gif
  • กระต่ายใต้เงาจันทร์

    12 ธันวาคม 2549 19:13 น. - comment id 635484

    วิมานนี้บางเบาราวเงาหมอก
    ลิ้วระลอกล้อลมผสมผสาน
    หวีดหวิวหวีดกรีดกรายผ่านห้วงกาล
    ผ่านสายธารมวลแมกไม้สู่สายตา
    กลิ่นดอกโมกหอมกระจายที่ปลายผม
    ยามดอมดมกลิ่นยอมเย็นเช่นพฤกษา
    เรียวแขนงามอรชรช้อนสายตา
    ด้วยทีท่าสะเทิ้นอายใต้ตาวัน
    ทะเลเมฆเปล่งประกายดาวรายล้อม
    อยู่ในอ้อมแขนใครใจหวิวสั่น
    หมอกพรมพร่างแสนหนาวร้าวชีวัน
    ม่านแสงจันทร์แนบประคองชมเดือนดาว
    
    36.gif
  • Maimao

    13 ธันวาคม 2549 00:29 น. - comment id 635537

    สิ่งที่ตนทำ
    เกี่ยวเนื่องบุญกรรม
    หากขาดแสงธรรม
    อาจช้ำชอกใจ
  • เพียงพลิ้ว

    13 ธันวาคม 2549 08:02 น. - comment id 635601

    กานต์ขอท่องวิมานสีชมพู วิมานบุญด้วยคนนะคะ
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • มะกรูด

    13 ธันวาคม 2549 09:29 น. - comment id 635638

    *วิมานวนา*
    
    คิดถึงพี่พุด...
  • แมวคราว

    13 ธันวาคม 2549 09:39 น. - comment id 635645

    แวะมาเยี่ยมเยียนครับ
    สบายดีหรือเปล่า..46.gif
  • พุดพัดชา...สาวบ้านนา

    13 ธันวาคม 2549 14:13 น. - comment id 635756

    3057_b1_050110132316.jpg
    16.gif1.gif
    พุดพัดชาขอพลีกำนัล
    เรื่องรจนานี้...แทนคำขอบคุณ
    และซาบซึ้งใจนะคะ
    แด่...ทุกดวงใจที่เมตตาค่ะ
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem90607.html
    
    .................
    คุณชัยชนะ..
    
    ผู้ชนะใจพุดพัดชาตลอดไปค่ะ36.gif
    ...................
    
    น้องกระต่ายใต้เงาจันทร์
    
    ผู้รจนาบทกวีได้งามงดหมดจดใจมากเหลือเกินค่ะ36.gif
    
    น้องmaimao
    ใช่ค่ะ แสงธรรมนำทางใจนะคะ36.gif
    
    
    คุณทวารวดีคะ
    พระเอก ไม่ตายตอนจบ ฤาพรากลาแล้วค่ะ
    พอใจมั้ย9.gif
    
    น้องเพียงพลิ้ว คนดีของพี่พุด
    
    สำหรับน้องนั้นจิตดวงทองดวงธรรม
    คงลอยล่องเหนือวิมานใดแล้วค่ะ36.gif
    
    น้องมะกรูด...
    คิดถึงน้องมากมายเช่นกันค่ะ36.gif
    
    คุณแมวคราว
    ดีใจนะคะ ที่คุณมาเยือน36.gif>
    
    มาฟังเพลงนี้ด้วยกันดีกว่านะทุกดวงใจ36.gif16.gif
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song471.html
    
    หนามชีวิต 
    เพ็ญศรี พุ่มชูศรี 
    เกิดมาขื่นขม ระทม อุรา
    ตรมน้ำตา ตรมน้ำตา
    ตรมน้ำตา โศกาทุกวัน
    จะสุขอย่างไร กันนั่น
    สุขเพียง ใฝ่ฝัน หรือไร
    เปรียบดังชีวิต นั้นมีขวากหนาม
    ทรมาน ทรกรรม
    ทรกรรม ฉันจนช้ำใจ
    กว่าเราจะตาย
    มิรู้เมื่อไหร่ โอ้ไฉน
    ชีวิตคอยเป็นนายเรา
    มีแต่น้ำตา มาปลอบหัวใจ
    ให้คลาย ความช้ำทุก ค่ำ เช้า
    เหมือนหนามชีวิต กรีดใจ
    เป็นเป้า ให้เราอับเฉา ระทม
    หวั่นไหวว่าขวากหนาม
    ชีวิตเอย ควรพิเปรย
    ความรักเอย ความรักเอย
    มิเคยภิรมย์ สุขเพียง
    ชั่วคืน ชื่นเพียง
    ชั่วคราว ร้าว ราน
    เหลือข่ม โศรกตรม
    แทบล้ม ประดาตายเอย
    
    มีแต่น้ำตา มาปลอบหัวใจ
    ให้คลาย ความช้ำทุก ค่ำ เช้า
    เหมือนหนามชีวิต กรีดใจ
    เป็นเป้า ให้เราอับเฉา ระทม
    เปรียบดังชีวิต นั้นมีขวากหนาม
    ทรมาน ทรกรรม
    ทรกรรมฉันจนช้ำใจ
    กว่าเราจะตาย
    กว่าเราจะตาย มิรู้เมื่อไหร่
    โอ้ไฉน ชีวิต
    คอยเป็นนายเรา... 
     
    16.gif
  • ดอกบัว

    13 ธันวาคม 2549 16:20 น. - comment id 635795

    อธิษฐานจิตพิชิตธรรมพรมความสุข
    ปลดเปลื่องทุกข์ใจกุศลยลรับผล
    ปราศจากบ่วงกรรมพาลกมล
    จิตดั้นด่นไขว่คว้าหาแสงทอง
    
    สวรรค์ช่างเมตตามาลบโศก
    ผ่อนคลายโลกเศร้าหมองใจผุดผ่อง
    รับสายธารภักดีดั่งใฝ่ปอง
    ครองคู่สองก้าวคล้องสู่ธารธรรม
    
    สวัสดีค่ะพี่พุด บัวคิดถึงพี่พุดค่ะ
    57.gif46.gif36.gif
  • ที่สุดแห่งทางช้างเผือก

    13 ธันวาคม 2549 16:41 น. - comment id 635801

    12.gif36.gif16.gif16.gif
    ชีวิตเดิมในห้วงทุกข์
    ไม่มีสุขมืดมนไร้ความหวัง
    แต่อดทนพากเพียรด้วยพลัง
    อธิษฐานดั่งวันหนึ่งจะพบพาน
    สั่งสมบุญทานด้วยใจโอบเอื้อ
    เพราะมีเชื้อสัญญาเดิมกุศลสาน
    สืบเนื่องสะสมบุญบารมีมายาวนาน
    สวรรค์บันดาลเมตตาในบัดดล
    ส่งเทพกิจลงมาเปิดโลก
    พาพ้นโศกพ้นทุกข์เลิกหมองหม่น
    ใจผ่องแผ้วพ้นผ่านรานกมล
    เลิกว่ายวนในวิบากรักหนักเจียนตาย
    ทรัพย์สรรพสิ่งพลันปรากฎ
    รสรักสมฤดีได้ดังหมาย
    อบอุ่นอิ่มเอิบสุขล้อมราย
    สะพรั่งพรายผ่านพ้นสู่วิมาน,,,,บุญ
    12.gif36.gif16.gif16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน