http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6829.html จากยอดดอย.. คนดี... คืนนี้เดือนเสี้ยว ผมมายืนดายเดียวตรงที่คิดว่า ใกล้แสนใกล้ดวงดาวที่กำลังพราวพร่างเต็มอ้อมฟ้าอย่างที่สุด ผม...แลเห็นจันทร์ครึ่งดวงด้วยใจดวงนี้ ดวงที่แสนว่างเปล่า เหน็บหนาว ดวงที่แสนร้าวรานกับความคิดถึงคุณอย่างที่สุด ดวงใจของผม คุณจำได้ไหม คนดี คืนที่ผมพาคุณขึ้นมาบนนี้ ยอดภูผาที่ถูกเคลียไคล้ด้วยสายหมอก ราวกับว่ากำลังจะโอบกอดอย่างแสนรักใคร่สนิทเสน่หา คุณเคยบอกว่า...ผมคือภูผาอย่างไรเล่า ที่เฝ้าจงรักภักดีพลีหนักแน่นมั่นคง สัตย์ซื่อถือตรงสัจจะ...ทั้งต่อหน้าและลับหลัง จำได้ไหม... จดหมายของผม ที่ใช้ใจเดิมพันใจ...ใจถึงใจ... เพื่อเป็นสายใยรัก ที่... หวังถักทอให้คุณยอมรับรักผม ที่คุณบอก... เป็นจดหมายที่ทำให้คุณต้องหลั่งน้ำตาปิติภาคภูมิครั้งแล้วครั้งเล่า ที่คุณเฝ้ากระซิบว่า ชั่วชีวีที่ผ่านมา คุณไม่เคยได้รับเมตตาจากเทพยดาแลฟ้าดินมากมายเท่าครั้งนี้ ที่ท่านปรานีประทานของขวัญล้ำค่ามาให้ ให้คุณได้มีอ้อมกอดอันแสนโอบเอื้ออบอุ่น ให้คุณได้นอนหลับสนิทฝันดี แบบไม่ต้องมีหยาดน้ำตาเปื้อนรอยแก้มนวล ให้ช้ำหมอง..ครองเศร้าราน..อีกต่อไป จดหมายที่..ผมเองยังรำลึกได้ถึงสัจจาธิษฐานระหว่างเรา ที่จักไม่มีวันมลายหายไป เพราะ ณ..วันนี้ ได้ตราตรึงอยู่..ณ..จิตวิญญาณภายใน ของเราสองแล้ว และ.. เพียงรอวันหวานวันดีวันที่เราน้อมพลีศิระอธิษฐาน ให้เราได้สร้างสานสร้างสรรปันดีแด่โลกนี้แลผองชน ไปจนกว่า เราจะได้พบกัน... ณ..แดนดินแห่งความฝันนิรันดร.ไปตราบชั่วกาล..! ...................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6829.html จากยอดดอย จาก ยอดดอย แดนไกลใครจะเห็น ยาก ลำเค็ญ เพียงใดใจยังมั่น จะปกป้อง ผองภัยชั่วนิรันดร์ สิ้นชีวัน ก็ยังห่วงหวงแผ่นดิน ด้วยหน้าที่ ชีวิตรับผิดชอบ คือคำตอบ ที่รบอยู่มิรู้สิ้น ความภูมิใจ ลึกล้ำด่ำอาจิณ รักแผ่นดิน รักเกียรติศักดิ์นักรบไทย คิดถึงยอด หฤทัยใจจะขาด แต่ไม่อาจ ตัดใจทิ้งไปได้ ด้วยหน้าที่ ศรัทธาสาใจกาย คงความหมาย เกินค่ากว่าชีวี ส่งใจข้ามขอบฟ้า ห่วงหาเสมอ หวังเพียงเธอ นึกถึงผู้อยู่ที่นี่ ขอให้รอ วันรุ่งของพรุ่งนี้ ฟ้าคงมี พรชัยให้กับเรา คิดถึงยอด หฤทัยใจจะขาด แต่ไม่อาจ ตัดใจทิ้งไปได้ ด้วยหน้าที่ ศรัทธาสาใจกาย คงความหมาย เกินค่ากว่าชีวี ส่งใจข้ามขอบฟ้า ห่วงหาเสมอ หวังเพียงเธอ นึกถึงผู้อยู่ที่นี่ ขอให้รอ วันรุ่งของพรุ่งนี้ ฟ้าคงมี พรชัยให้กับเรา... ..................................... แรงบันดาลใจ จากคำทรงค่า *สัจจาธิษฐาน* ให้เพียรตั้งสัจจะวาจารู้ทำความดีวันละนิดละน้อย ก็ดั่งสายธารธาราใสเกษม ค่อยสะสมบ่มเพาะให้เรา... *คิดดีพูดดีทำดี* ซึ่งก็แสนมากมีค่าแล้วสำหรับชีวาชีวิตเรานี้ ที่มีลมหายใจอันแสนสั้นวันแสนดี หาก.. รู้เพียรพลีเสียสละ เมตตา.. แด่.. ทุกน้องพี่ผองชนคนร่วมผืนดินทองแผ่นดินไทย.. ในร่มรัตน์ร่มฉัตร...เดียวกัน ประดุจดั่ง *จิตวิญญาณหลอมรวมรักสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว* และ.. แรงฝันบันดาลใจ *จากบทเพลงจากยอดดอย..* พุดไพร ขอน้อมศิระคารวะแด่นักรบผู้กล้าทุกท่านค่ะ...
29 ตุลาคม 2549 22:14 น. - comment id 620939
สั่งน้องนางรอพี่ขอก่อน อย่าใจร้อนมีใครอื่น ไม่นานหรอกขวัญยืน จะยิ้มรื่นพาแม่พ่อมาขอนาง มาเอ่ยสัจจาธิฐานเล็กๆ น้อยๆ ครับ
29 ตุลาคม 2549 22:26 น. - comment id 620944
ฤทัยทองฤทัยธรรม! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song14.html วันที่..ฟ้าสีฟ้า ฟ้าสีครามงามเข้มกระจ่าง เต็มไปด้วยพรายแดดอ่อนๆอุ่นๆ หัวใจดวงละมุนของผู้ชายชาติไพรดวงเดิมๆดวงดีๆ ดวงที่ติดดิน ได้หมุนโลกมาให้หยุดนิ่งตรงหน้า*ฤทัย* ด้วยน้ำเสียงสดใสด้วยแรงรักแรงเสน่หา ด้วยลีลาแบบเรียบง่ายของคุณ คุณกระซิบบอก*ฤทัย*ว่า..วันนี้อากาศดีเป็นพิเศษ เราสองน่าจะขับรถไปหาอะไรเสพทางจิตวิญญาณ ไปนั่งทานข้าวริมบึงบัวนอกเมืองริมทุ่งรวงทอง ไปนั่งจ้องพระอาทิตย์ลาลับฟ้า ไปฟังเสียงนกการ้องกลับรัง หรือ หากยังไม่อิ่มใจพอก็พากันนอนคลอในเรือนริมน้ำ ดูดาวนับพันพร่างฟ้า รอดูอ้อมนภางดงามยามฟากฟ้าฝันพลันเปล่งประกาย พรายแสงแห่งนวลจันทร์เพ็ญ กับหิ่งห้อย ที่ค่อยๆกระพริบแสงพร้อยพราวพร่างฝัน ออกมาแต้มแตะตามกิ่งก้านกอต้นลำพูราวรอคู่กรรม คนดี.. คุณบอกหากสิ่งสำคัญสุดคือ อยากพา*ฤทัย*ไปวัดในดวงใจ ไปกราบพระประธานพระพุทธองค์ใหญ่ในโบสถ์คร่ำ ที่เราสองเคยไปมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว หากมิเคยเบื่อเพราะมันคือเลือดเนื้อจิตวิญญาณคุณ ที่แฝงฝังจิตนิมิตงามมาตั้งแต่ยามยังเยาว์ ค่าที่คุณเกิดที่นี่ โตที่นี่ เมืองเก่าของเราแต่ก่อน เมืองที่หลอมให้คุณคิดได้คิดให้คิดเป็น ให้คุณเห็นโลกในมิติหนึ่ง ซึ่ง แสนพิเศษพิสุทธิ์ ผิดแผกแตกต่างจากโลกหอมหวานแบบของใครๆ โลกที่คุณเคยบอก*ฤทัยว่า*แสนยิ่งใหญ่ทางจิตวิญญาณ โลกที่หวานหอมห่มบ่มพิสุทธิ์ใสกระจ่าง สอนให้รู้วางว่างด้วยธรรมะ คุณบอกว่า.. เมื่อมาพบ*ฤทัย*สงสัยวิบากยังไม่หมด เลยต้องมาแบกความวาบหวามงามงดสักระยะ และ หากว่า*ฤทัย*เข้าใจรักแท้ มิแพ้กรรมพากันสร้างงามรักขึ้นในนิยามใหม่ ในมิติใหม่แบบเหนือโลกได้แล้ว ก็จะชวนกันพาไปสู่อีกแดนดินหนึ่ง ที่ซึ่งจะเป็นแดนดินถวิลวางว่างแห่งรักนิรันดร์อันไร้ร่าง ไม่ต้องหลงพงกรรมดงกรรมอีกต่อไป คนดี หัวใจคุณ จึงราวคนโบราณย้อนรอยถอยหลังกลับมา คุณยังห่วงโหยหาอาวรณ์ ฉากตอนเรื่องราวย้อนยุคอันแสนงดงาม ที่ตามติดมาให้ระสึกรู้ในสัญญา และในภาพนิมิตนั้นกลับน่าแปลกนัก ที่คุณ..บอกตั้งแต่พบ*ฤทัย*นาทีแรก ทำให้ดวงใจแผกคิดถึงเพลงนี้เลย http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=14 คนเดียวในดวงใจ ศรีไศล สุชาติวุฒิ : : Key C เธอ มาจากไหน เธอจะเป็นใคร ฉันไม่เคยคิด รู้ แต่บัดนี้ เธอมาสถิตย์ มาอยู่ใกล้ชิด ในดวงใจฉัน เธอมาจากไหน จากดินผืนใด หรือจากสวรรค์ ฉันก็จะรัก รักเธอเท่ากัน ไม่เคยจะหวั่นแม้คำนินทา คนเดียวเท่านั้น ในชีวิต คนเดียวสนิท แนบ อุรา คนเดียวที่ฉัน บูชา ยอดปรารถนา คนเดียวในโลก เธอ มาจากไหน เธอจะเป็นใคร ฉันถือเป็นโชค แม้รักเธอแล้ว ฉันต้องเศร้าโศก เป็นคนโชคร้าย ในโลกก็ยอม คนเดียวเท่านั้น ในชีวิต คนเดียวสนิท แนบอุรา คนเดียวที่ฉัน บูชา ยอดปรารถนา คนเดียวในโลก เธอมาจากไหน เธอจะเป็นใคร ฉันถือเป็นโชค แม้รักเธอแล้ว ฉันต้องเศร้าโศก เป็นคนโชคร้าย ในโลกก็ยอม... ************ คุณบอกทุกสิ่งที่เมืองเก่าบ้านเกิดนี่แหละ ที่คือภาพจริงราวภาพฝัน ที่รายล้อมหลอมละลายให้คุณคิดคุณเป็น คุณเห็นอะไรแบบพิเศษ มาตั้งแต่ลืมตาดูโลกแล้วละกระมัง และ ทุกคราคราว.. ยามที่ใจดวงร้าวของคุณเศร้าหมอง เมื่อได้รับแรงกระทบจากผู้คนอลหม่าน ในเมืองอันเรืองรุ่งริ่ง กับมากเรื่องราวร้าวราน กับโลกภายนอก ให้หัวใจรวดร้าวบอบช้ำสุดทน คุณก็จะหมุนกมลร่าง มาสถิตทอดตาเหว่ว้าดายเดียวริมฝั่งฝัน ณ...ที่วัดนี้ ที่ยังมีลานลั่นทมให้คุณแฝงฝังร่าง พลางทอดนัยน์ตาเศร้าเฝ้าดูดวงดอกลั่นทม ที่ ทิ้งทอดตัวระย้าย้อยห้อยเหนือซากปรักหักพัง ราวกับจะสั่งลาฝากบางสิ่งทิ้งบางอย่าง ให้กับผู้มาทีหลังได้สำนึกฝังฝากใจ น้อมนำไปสอนจิตเตือนใจ ไปย้ำรอยความรักชาติ ฉลาดที่จะใช้ชีวิต มิให้ซ้ำรอยเดิม มาเติมทุกข์ทนหม่นไหม้ไปทั้งประเทศ คุณบอกชอบมานั่งสเก๊ตภาพฝัน ที่มีแบคกราวน์คือ ลั่นทมดอกเศร้า กับสายน้ำแสนโศกกับโลกอดีตลำพัง ที่พรายผุดความหลัง ที่มีแต่ทรากสลักหักพังทลายไร้ร้าง ให้ยิ่งแสนอ้างว้างเปลี่ยวเหงาใจเป็นยิ่งนักแล้ว หากไม่มีนางใจนางในฝันพลันมาปรากฎสักที.. ที่คุณรอคอยมาแสนนาน ราวชั่วกาลกัปป์กัลป์นั้นเลยทีเดียว และ นะวันนี้...คุณคนดี จึงวอนขอ*ฤทัย*ว่า ให้ใส่ผ้าซิ่นพันทบผืนสวย...ที่ทอมือ รอบเชิงชายปักลายผืเสื้อดอกไม้กรายเกสร ให้งามอรชรว่อนว่ายเป็นชายเชิงอันงามอ่อนหวาน ยามกรายย่างก้าวเดิน ให้เพลินมองราวน้องนางหลุดมาจาก เมืองงามแห่งอดีตอันเคยเรืองรุ่งแสนระยับงามจับใจ เพราะ.. คุณอยากเก็บภาพ*ฤทัยไว้* และเคยหมายตาตั้งแต่เห็น*ฤทัย* ในงานวันลอยกระทงของคณะ ที่ต้องพากันแต่งตัวด้วยชุดไทยทั้งชุด.. เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม คืนนั้น ที่คุณและเพื่อนๆต่างพากันมาเยี่ยม*ฤทัย* ถึงในคณะที่จัดงาน และเพื่อนๆต่างพากันล้อคุณทันที เมื่อเห็นคุณแอบเด็ดดอกลั่นทมดอกงามนะลานฝัน ให้ฤทัยทัดแก้มแซมผม ว่าหัวใจคุณคงหลงทางไปตามลำน้ำเจ้าพระยา ก่อนกระทงแก้วกระทงขวัญ จะพลันพาถึงเวลาลอยลงบูชาพระแม่คงคาเสียด้วยซ้ำ เมื่อคุณแอบสบตาฤทัยแล้วทอดถอนใจ ใจลอยล่องไม่เป็นอันทำอะไรได้แต่เขินอาย และ คนดี.. ผู้ชายผิวสีทองแดง กับหลายปีต่อมา เมื่อคุณตามติดและได้เข้ามาชิดใกล้ สนิทแนบในดวงใจหฤทัยหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวแล้ว คุณ...ถึงกับสารภาพว่า นาทีนั้นราตรีนั้น คุณมองเห็นฤทัย ราวนางใจนางในฝัน หลุดมาจากภาพโบราณภพโบราณ ผ่านในมโนนึกของคุณ ยามที่เห็นฤทัยย่างเท้า แล้วเสียงกำไลข้อเท้ากระทบกันกรุ๋งกริ๋งๆ คุณ.. ยังกระซิบบอกว่า ราวในความคิดได้ยินเสียงมโหรี ดีดสีตีเป่าระทึกย้อนรอยคืนหลัง ให้คุณงันงงสงสัยว่า นั่นคือภาพจริงหรือภาพในนิมิต ฤาว่าคุณกำลังฝันไป และ นั่นแหละคือคุณคนดี คนที่ฤทัยแสนรักเอยแสนรักในกมล คุณ..คนที่มีหัวใจดวงดีดวงเดิมดวงงาม คนที่เกิดมาเกินกว่าจะรับไหวหวั่นทันโลกอารยะ ที่บ่าโหม มาแปรผันปันทุกข์ในรัก อันมักฉาบฉวยไร้หนักแน่นมั่งคงตรงมั่นจีรัง แบบคนโบราณผ่านภพภูมิเก่า.. ที่โลกเราหมุนเร็วมากเพียงไหน คุณก็บอก ก็ยิ่งหาผู้หญิงทีมีนวลใจละมุนละเมียดยากยิ่งขึ้นทุกวันทุกที ที่มักแพ้กิเลสไปตามแรงเหวี่ยงแห่งกระแสโลกนี้ ที่เห็นค่าวัตถุความสบายกาย สำคัญกว่าเรื่องจิตวิญญาณบ้านภายใน และ กี่ปีนะดวงใจ ที่คุณกับฤทัย ต้องขับรถไปๆมาๆ ระหว่างอยุธยากับทะเลฝัน อันเป็นบ้านเกิดของฤทัย ที่คุณบอกใหม่ๆทำใจลำบากมาก เพราะเกิดมา คุณเห็นแต่นาข้าวรวงเรียวเหลียวไปก็มีแต่แม่น้ำ คุณรักวิถีทางแห่งท้องทุ่งมากกว่าทะเลเค็ม ที่แสนกว้างใหญ่ยากหยั่งถึง ซึ่งคุณชอบนำมาหยอกล้อเปรียบเปรยไว้ว่า *ใจฤทัย*ก็คงราวทะเลเหว่ว้า*คืบก็ทะเลศอกก็ทะเล* ที่คงลึกล้นเหลือคณายากนักยากหนาจะหยั่งถึงก้นบึ้งแห่งห้วงใจ และ คงนานกว่าจะได้เคียงครอง สัมผัสร่างใจไปตราบชั่วนิจนิรันดร์ และนับถึงวันนี้นาทีนี้ ก็ให้คุณรอท่ารับคำรัก มาสักเกือบจะสิบปีเข้านี่แล้วสินะ แต่ ทันทีที่คุณได้สัมผัสแผ่นดิน ที่เรียกกันว่า..เกาะสวาทหาดสวรรค์ หัวใจคุณคนดีก็ราวต้องมนต์มายา ไปกับม่านทะเลกว้างแสนกว้างแลละลิบตรงหน้า กับขอบฟ้าที่ตัดฉับกับน้ำทะเลสีน้ำเงิน...เขียวมรกต..... และโทนสีทะเลที่ค่อยๆไล่สีอ่อนจางลงมาตามลำดับ......... แทรกด้วยฟองคลื่นสีขาว.....เป็นระลอกงาม. มีเรือใบล่องไปในอ่าวที่แสนสงบงาม.. ยามอาทิตย์สนธยา ทั่วทั้งท้องนภาและผืนน้ำ.. เป็นสีส้มเหลือบชมพูแดงรอนรอนอ่อนๆเทาๆทองทอง ส่องอาบทาบทาประกายวะวิบระยิบระยับ งามจับตาทั้งเวิ้งฟ้าแลเวิ้งน้ำ งามเกินคำพรรณา รำพึงรำพัน..ราวสวรรค์ลอยนิรมิต และ มากกว่านั้น คุณยังได้สัมผัสความสงบงาม ในท่ามกลางหุบเขาไพรพะงัน อันคือนาข้าวขั้นบันไดแบบบาหลี ทีมีเสียงดนตรีไพรธรรมชาติ มีสระน้ำราวสระอโนดาตชื่อสระมโนราห์ มีกล้วยไม้ป่าชื่อว่า*มงกุฎไพร*ที่มีชนิดเดียวในโลก ที่ยังมีมีโตรกผา ดอกไม้ป่าดอกไม้ไพรนานาพรรณงามแผก ทีมีเงื้อมเงาง้ำหินแผ่นผาดั่งศิลามณีให้ชมวิว ที่ วันนั้นวันที่*ฤทัยอุตส่าห์พาคุณไปป่ายปีนเพื่อพบงาม คุณถึงกับกระซิบด้วยใจสั่นเสียงสั่น แล้วโอบรับขวัญเคลียเคล้าซุกหน้ากับเรือนผมฤทัย พร้อมคำที่หลั่งท้นออกมาจากดวงใจส่วนลึกบอกฤทัยว่า นี่อย่างไรเล่าสวรรค์มาเยือนหล้ามาทายทักตรงหน้า ที่ทำให้คุณแทบลืมหายใจไปกับทัศนียภาพรายรอบที่แลเห็น จากลานหินกว้าง.. แลไกลออกไปคือโลกสีครามกว้างไกลสุดตา แลลงไปเบื้องล่าง จะมองเห็นทิวมะพร้าวสลับซับซ้อนเป็นหมื่นหมื่นต้น บ้านเรือนซ่อนตัวอยู่ในดงไม้ เงียบสงบ มีก็แต่ควันไฟลอยอ้อยอิ่ง ขับฟ้างามอย่างช้าๆ บนหน้าผา ชะโงกง้ำ ลอยเลื่อนราวทายทักเมฆ จะมีหอระฆัง และพระพุทธรูป ให้กราบไหว้อธิษฐานจิต มีลั่นทมขาวออกดอกพราวไปทั้งต้นบนชะง่อนผางาม ส่งกลิ่นหวานเศร้า อบร่ำให้ใจ นิ่ง เยือกเย็นล้ำลึก อวลมากับสายลมเย็น กับบรรยากาศ เงีบบงาม ที่รายล้อม ราวกับว่าธรรมชาติจำลองฝันสวรรค์ลามาฝากหล้าเยือนโลก มาให้คุณเลิกโศกแสนภูมิใจว่า ได้หลงรักผู้หญิงดิบดิน ที่เกิดมากับไพรพงมีชีวินแสนงามง่ายไร้แสงสี หากทว่า มีธรรมชาติงามกว่าดงเมืองเสียเป็นไหนๆ ค่าที่มีงามไพรงามทะเลพร้อม และได้หลอมละลายให้ดวงดอกจิต มีแต่คิดดีคิดได้คิดให้คิดชอบประกอบไป ตามความงามงดที่ธรรมชาติหยิบยื่นให้มา ให้รู้ค่านวลเนื้อดินนวลเนื้อใจไม่ฟุ้งเพ้อทะเยอทะยาน ไปตามโลกศิวิไลซ์แบบหลงทางห่างธรรม ราวคอยย้ำเตือนตนให้รู้วางกมลลงบนดินมิถวิลวัตถุใด นอกจากเพียงเพียรพาจิตใสลอยเหนือโลกลบโศกครวญ มิหวนวนคืนมารับวงกรรมย้ำรอยเดิมเพิ่มทุกข์ทนอีกต่อไป... ......... คนดี... สองเราขับรถไปเรื่อยๆกับดวงใจที่แสนสงบงาม ในท่ามกลางบรรยากาศริมนาข้าวขจี ที่สองฟากฝั่ง ยังมีดวงดอกชมพูพันทิพย์กรายฟ้อนอ้อนกลีบม่วงบางเบา ยังมีดอกเสลาดอกคูนบานสะพรั่ง ยังมีความหลังแห่งเงางามอดีตเมืองเก่ารอเราไปสัมผัส คนดี วันนั้น ดูคุณเศร้าๆราวดวงใจมีเรื่องสำคัญให้คิดมาก เหมือนรอจะพูดอะไรบางอย่าง ไม่ช่างเล่นช่างเล่าอย่างเคย พอถึงวัด.. คุณจูงมือฤทัยเข้าสู่ วิหาร พาฤทัยไปกราบพระประธาน ด้วยดอกบัวสีขาวพราวพิสุทธิ์ และ.. เราสองก้มลงกราบพร้อมกัน นะเบื้องหน้าพระพักตร์พระพุทธ ที่ทอดสายตามองเราอย่างเมตตาเอ็นดู น้ำมันหอมที่ใช้บูชาพระส่งกลิ่นหอมหวาน คุณอธิษฐานขอประทานอนุญาตจากพระพุทธองค์ ใช้ปลายนิ้วแตะแผ่วเบา ก่อนแต้มลง กึ่งกลางนลาฏของฤทัย เป็นเครื่องหมาย เป็นสัญญลักษณ์ แล้ว กระซิบบอกฤทัยว่า หากฤทัยไปเกิดภพภูมิใดก็ตาม ขอพุทธบารมี โปรดคุ้มครองและนำความสุขกายสุขใจมาให้นิรันดร และ บอกให้*ฤทัย*อธิษฐานตามคุณจะได้ไหม ว่า*หากกายและลมปราณของเราได้แตกดับไปแล้ว ณ ภพนี้ เมื่อวันนั้นมาถึงเราจะไม่เสียใจ เพราะความพลัดพราก หรือ มรณา เป็นสิ่งที่ สรรพชีวิตไม่อาจฝืนลิขิตได้ หากเราทำใจน้อมรับ ยอมรับธรรมชาตินี้ไว้ ค่อยๆ ซึมซับไปเรื่อยๆ เมื่อเหตุการณ์นั้นมาถึง ความสะเทือนใจจะไม่มี และสำหรับเราจะจากก็แต่เพียงกาย จิตเราไม่ได้จากไปไหน จิตไม่มีวันแตกดับ หรือ สลาย จิตจะดูแลกันและกัน และวันหนึ่งเราจะได้พบกัน เป็นการพบกันครั้งที่สองในอีกภพภูมิหนึ่ง บุญทุกอย่าง บารมีที่เราบำเพ็ญ ขอฝากกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้กัน ให้จดจำรักนิรันดร์แห่งใจสองดวง ให้ ติดตัว ไปทุกๆชาติ และ คุ้มครองเราสองให้มีความสุข ด้วยเทอญ.. และนี่แหละ ที่ทำให้ฤทัยยิ่งงงงัน ถามคุณว่ามีอะไรในใจ เมื่อคุณพามานั่งทอดตา ดูดวงดอกลั่นทม ที่กำลังปลิดปลิวลิ่วลอยควะคว้าง แล้วร่วงลงกลางพื้นพรมห่ม หอมพร่างระทมทับใจ คุณบอกว่า..มีเรื่องในใจจะสารภาพ ก่อนที่จะก้มลงเก็บดอกลั่นทมสีขาวทำ*มงกุฎดอกไม้* สวมให้กับฤทัยอย่างแสนรักแสนทะนุถนอม และ บอกฤทัยว่าให้ขึ้นรถไปดูอะไรกับคุณเสียก่อนจะดีกว่า แล้ว คุณก็พาฤทัยมาพบภาพตรงหน้า ที่ฤทัยยิ่งกว่าฝันไปเสียอีก คือภาพทุ่งนาร้างไร้ หากติดชายชลริมฝั่งแม่น้ำอยุธยา ที่มีต้นไม้ที่ตายแล้ว เหลือเพียงกิ่งก้านแผ่กระจายราวกัลปัลหาสีดำ หากทว่าเป็นงามแปลกตา เมื่อมองเห็นความเหว่ว้า ในทะเลนาแห่งนี้ ที่คงเคยเขียวขจีมีชีวิตชีวามาก่อนหน้า ที่ฤทัย..พยายามใส่ภาพฝันในหนหลัง เมื่อเหลียวไปมีกระท่อมไพรเล็กๆน่ารักนัก ที่หลังคามุงจากที่ดูราวยังสดใหม่ไม่นาน ใกล้ๆลานดินติดกับรั้วกั้นด้วยผักตำลึงเลื้อยพันพร่าง มีกอโมกและดงดอกพุดซ้อนอ้อนหวานอยู่ริมชายคากระท่อม และ นั่นมีไก้แจ้ตัวเล็กๆสีสวยมากกำลังแคะไค้ข้าวเปลือก คุณก็ค่อยๆโอบกระชับพาฤทัยเข้าไปเยือนนะภายใน ที่บัดนี้ทำให้ฤทัยใจเต้นราวตีกลองเมื่อสายตาค่อยๆชิน กับทุกสิ่งที่สลัวเลือนรางในม่านแสงสนธยา ที่ส่องผ่านผนังไม้ไผ่ทอดแสงเงารำไรลงมาราวแสงทอง ร่างใครบางคนยืนขึ้น ที่ฤทัยเห็นชัดในนาทีนั้น ว่าคือร่างเด็กผู้ชายกำยำหากทว่าดวงตาอ่อนโยนใสซื่อ เขายกมือไหว้ฤทัยอย่างนอบน้อมก่อนก้าวเลยออกไป ทิ้งให้ฤทัยในดวงตามีคำถาม ฤทัยจำได้คลับคล้ายคลับคลา ว่าเคยเห็นหน้าเด็กคนนี้ ก่อนที่คุณจะกล่าวย้ำเตือนความจำอีกทีว่า จำได้ไหมครับฤทัย.. เจ้า..คนนี้ที่เพื่อนผมว่าความให้แม่เขา ที่เคยเล่าว่า ติดคุกเพราะขโมยอาหารในห้างที่เหลือๆแล้วเก็บกลับบ้าน เพราะความยากจนเพื่อจะให้ลูกๆที่อดอยากได้มีกิน ผม..ไม่ได้เล่าต่อว่าผมตัดสินใจอุปการะเด็กๆไว้ ไม่อยากให้ฤทัยคนใจดีต้องพลอยมารับภาระทางใจ ไปกับการตัดสินใจของผมด้วย และ ผมเลยมาใช้ที่ตรงนี้ ที่เคยจะเตรียมไว้เป็นเรือนรักยามมาพักผ่อนของสองเรา ให้กลายมาเป็นบ้านของเด็กๆแล้วละครับ แล้วให้เขาไปกลับสะดวกโรงเรียนวัดแถวนี้ . คนดี.. คุณคงพอคิดออกแล้ว ที่ผมหนีคุณมาบ่อยๆไม่บอก เพราะเตรียมเอาข้าวปลาอาหารมาให้ครับ เขาอยู่กันได้ปกครองกันได้ดีทีเดียว แบบเด็กเคยลำบากมาก่อน ฤทัย..งงงันและนาทีต่อมา รู้เพียงว่าหยาดน้ำตาแห่งความภาคภูมิกำลังไหลริน นี่ไงล่ะคนดีที่ฤทัยเลือกถวิลรักภักดิ์พลี และ นี่ไงล่ะคนดีที่ฤทัยไม่เคยเสียใจเลย กับการที่ได้เกิดมาเพื่อเคียงข้างเป็นนางใจ ที่จะได้คอยเคียงไหล่ทำความดีพลีเพื่อสังคมแม้นจะน้อยนิด คนดี กุมมือฤทัยแนบแน่น และพาไปยืนนิ่งริมบึงบัวเคียงชายชล ดูความสวยสดหลากสีสัน ของบัวพ้นน้ำที่กำลังไสวชูช่อสงบงาม ดูความเงียบเยียบเย็นฉ่ำของสายน้ำที่กำลังไหลล่อง เห็นโบสถ์คร่ำเคียงฝั่งฝันตรงหน้า ใบระการะยับไหวในท่ามกลางสายลมอ่อนๆอุ่นๆแดดรอนรอนอ้อนอัสดง ที่กำลังไล้โลมไปบนผืนน้ำให้งามอาบไปด้วยสายแสงสีทอง ฤทัยเห็นสายใจเจ้าพระยาราวหมุนวนตรงหน้า แต่ทว่าราวโลกหยุดนิ่ง เมื่อเขาหันมากอดฤทัยแนบแน่นและกระซิบคำ *แต่งงานกับผมเถอะนะ*คนดี นี่คือคำขอแต่งงาน ที่ฤทัยคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่งดงามที่สุดแล้วในชีวิตหนึ่งนี้ เพราะฤทัยรู้จักเขาดี เขารักผืนดินนาแห่งนี้รักลำน้ำเจ้าพระยารักเหว่ว้าโบสถ์คร่ำ รักลำนำแห่งความเหงาเงียบงามใจ รักชีวิตไพรพงที่เคยพร่ำบอก อยากมีกระท่อมเรือนหอ ในท่ามกลางดินนานะดินเดิม แล้วมีฤทัยคอยหุงข้าวใหม่ข้าวหอมใส่บาตรในยามเช้า ให้เขาที่ชอบเฝ้าเขียนบทกวี ฟังดนตรีน้ำค้าง ฟังเสียงดุเหว่าแว่ว แล้วลงนาไปหาผักปลามาพอกินยังชีพชอบ ประกอบการงานที่รักอาจจะสอนหนังสือเด็กๆที่ยากไร้.. คนดี..ดวงใจ แล้วจะให้ฤทัยปฎิเสธคำขอของคุณได้อย่างไรเล่า แม้นว่าดวงใจฤทัยจะยังไม่ทันคิด..คิดไม่ถึงว่า.. จะได้พบคำซึ้งซึ้งราวจะตรึงให้จิตใส และ ราวให้ดวงหฤทัยแสนหวานแทบหยุดเต้น ในนาทีที่แสนยิ่งใหญ่อย่างนี้ และ กับใจดวงที่ยังไม่ทันตั้งตัว ฤทัยเลยเหมือนละเมอตอบไปในอ้อมกอดคุณแบบเหมือนฝัน ว่าตกลงค่ะ..ตกลงค่ะคนดี.. นาทีนั้น ราวสวรรค์ลอยลงตรงหน้า ฟ้าเล่นแสงสีเปิดเวทีแสนสวยพร่างพรโปรยพร ให้คุณอ้อนทั้งโลกและฤทัยพร้อมๆกัน เราต่างรินร่ำน้ำตาปิติในอ้อมกอดกันและกัน ด้วยรอวันนี้มาแสนนาน และ หวังจะตราบชั่วกาลได้เป็นคู่ใจคู่ธรรมคู่ทอง ได้ปองสร้างสรรมีพลังทำคุณงามความดี ได้พลีจิตราวเพื่อนธรรมมากกว่าคำคู่ใจ แค่ได้เคียงไหล่ทำสิ่งงดงามได้ดูแลยามแก่เฒ่า ได้แบ่งปันยามเห็นฝันเห็นงามนิยามโลกย์มิดายเดียวเดียวดาย ก่อนจะเข้าไปสู่ร่มธรรมร่มทองพากันลอยล่องสู่ฝั่งฝันพระนิพพาน คนดี แต่สิ่งที่ตามมาคือ คุณบอกว่าก่อนแต่งงานนั้น คุณได้รับคำสั่งย้ายไปประจำที่ปัตตานี แดนดินที่ฤทัยรู้ดีว่าแสนจะน่าห่วงใย หากคุณเฝ้าปลอบใจฤทัยว่า อย่าคิดมากคนเราเกิดมาชาติหนึ่งตายหนเดียว และ เมื่อแผ่นดินนี้ที่ร่มเย็นให้ชีวิต จงรู้กตัญญูรักผืนดินนี้ที่ให้หยัดยืนมายาวนาน อย่างสงบสุขสงบงามอย่างยุติธรรมอย่างมีร่มฉัตรกั้นเกศ อย่างพิเศษพิสุทธิ์วิสุทธิ์จิต ที่มีพุทธธรรมส่องกระจ่างนำทางจิต ดั่งดวงแก้วนิรมิตในร่มเงาพุทธศาสนา ในร่มฟ้า ที่มีพระเจ้าแผ่นดิน ที่ทรงมีทศพิธราชธรรมทรงมีขันติธรรมอันล้ำเลิศแผ่ไพศาล เกินคำรำพันรำพึง ถึงความงดงามแห่งหยาดน้ำพระราชหฤทัยอันแสนยิ่งใหญ่เหนือโลก เพื่อดับทุกข์ร้อนผ่อนเย็น ที่เน้นน้ำใจให้รู้รักสามัคคีสอนไทยให้เป็นไท ให้รู้ค่าคำความพอดีสมถะมานะบากบั่น ใช้ชีวีเย็นงาม ในขณะเดียวกันก็ให้ตามโลกให้ทัน แบบรู้ทันเท่าแบบเข้าใจ แบบที่ควรจะหันไปรับได้ในความศิวิไลซ์ แบบไม่จำต้องไปเป็นทาสฟุ้งเฟ้อโลกวัตถุ ให้รู้ค่าความพอเพียงเพียงพอ และ ด้วยการทรงมีพระราชจริยวัตรอันแสนงามงด เสียสละให้เห็นเป็นแบบอย่าง ให้ใจไทยทุกดวงได้รับน้ำค้างพร่างริน จากน้ำพระราชหฤทัยอันใสเย็น ราวหยาดฝนราวรวงเพชร ที่ทรงไม่เคยท้อถอยได้ทรงใช้สมองสองมือเพียรสร้างโลก และ หวังให้ลูกหลานไทยให้สามัคคีปรองดองอย่างฉันท์พี่น้อง ไม่ว่าชาติศาสนาใด เมื่อพร้อมใจมารวมกันเราอยู่บนผืนดินเดียวแล้ว ให้ก้าวเดินไปด้วยกันในผืนดินแก้วอันร่มเย็นแห่งขวานทอง ! ให้ทุกศาสนาปรองดองกันเพื่อที่จะสอนให้ทุกคนเป็นคนดี ที่จะพากันส่องนำทางน้อมนำใจไปในทิศทางที่ดีเดียวกัน ไม่มีชนชั้นมากั้นกีดขวาง ที่แสนจะน่าภาคภูมิใจยามได้หยัดร่างดำรงคงเอกราชไว้ ให้ยังเงยหน้าได้ว่าเราคือไทยหัวใจทอง..... ******** รออ่านตอนต่อไปเกิดอะไรขึ้นกับพระเอกของเรานะคะ มาช่วยกันตั้งชื่อพระเอกดีกว่าไหม http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=14 คนเดียวในดวงใจ ศรีไศล สุชาติวุฒิ : : Key C เธอ มาจากไหน เธอจะเป็นใคร ฉันไม่เคยคิด รู้ แต่บัดนี้ เธอมาสถิตย์ มาอยู่ใกล้ชิด ในดวงใจฉัน เธอมาจากไหน จากดินผืนใด หรือจากสวรรค์ ฉันก็จะรัก รักเธอเท่ากัน ไม่เคยจะหวั่นแม้คำนินทา คนเดียวเท่านั้น ในชีวิต คนเดียวสนิท แนบ อุรา คนเดียวที่ฉัน บูชา ยอดปรารถนา คนเดียวในโลก เธอ มาจากไหน เธอจะเป็นใคร ฉันถือเป็นโชค แม้รักเธอแล้ว ฉันต้องเศร้าโศก เป็นคนโชคร้าย ในโลกก็ยอม คนเดียวเท่านั้น ในชีวิต คนเดียวสนิท แนบอุรา คนเดียวที่ฉัน บูชา ยอดปรารถนา คนเดียวในโลก เธอมาจากไหน เธอจะเป็นใคร ฉันถือเป็นโชค แม้รักเธอแล้ว ฉันต้องเศร้าโศก เป็นคนโชคร้าย ในโลกก็ยอม...
29 ตุลาคม 2549 22:39 น. - comment id 620945
เมื่อสัจจะอธิษฐานได้ผูกแล้ว ขอดวงแก้วมั่นในภักดิ์รักซึ้งหวาน เก็บดวงใจให้ใสนิ่งตลอดกาล สิ้นลมปราณผ่านข้ามภพสยบนิรันดร์ สัจจาธิษฐาน เป็นคำที่งดงาม ลึกล้ำ เข้าถึงใจ ถึงความรักแท้ที่เหนือโลก ไม่หวั่นไหวไปตลอดกาลนาน ขอความนิ่งที่เหนือความนิ่งใดๆในดวงจิต จะเพ่งพิศมองเห็นดวงใจที่คอยรออยู่เสมอ แม้จะต้องผ่านพายุรัก พายุใจ ให้สุดแสนทรมาน เมื่อพ้นผ่าน ใจใสนิ่ง ใจถึงใจ ขอคำอธิษฐาน จงได้สมปราถนา ด้วยเดชแห่งบุญกุศลที่ได้เพียรสร้างมานานแสนนาน
29 ตุลาคม 2549 22:55 น. - comment id 620952
ขอตั้งสัจอธิษฐานวันพบเจ้า รักคอยเฝ้ากู่เพรียกเหมือนเรียกหา ควันธูปพลอยลอยคว้างสู่กลางนภา แต่เจ้าวิวาห์พาหัวใจเป็นใยตรม. แก้วประเสริฐ.
30 ตุลาคม 2549 11:06 น. - comment id 621046
สวัสดีค่ะพี่พุด เมื่อวานนี้บัวไปไหว้ที่โรงเจบ้านบัวมาค่ะ และในศาลเจ้าคนจีนเวลากินเจ จะมีพิธี ป่วงเซียง พิมพ์ถูกป่าวไม่รู้สิค่ะ เป็นพิธีที่คนจีนจะอธิษฐานขอจาก ฮู่โจ้ บัวก็ไปทำมาค่ะ คนที่เล่นงิ้วจะเป็นคนเชิญ ป่วงเซียงมาให้เราเป็นตุ๊กตากับหมวก เขาจะให้เราถือแล้วอธิษฐานขอจากเจ้า สิ่งที่เราต้องการณ์ค่ะ บัวขอให้พี่ๆน้องๆญาติๆของบัวและพี่ๆเพื่อน ในบ้านนี้มีแต่ความสุขสมหวังทุกคนกับคนที่บัวรู้จักและสัมผัสรวมทั้งให้ประเทศสยามจง แคล้วคลายภัยพิบัติทุกประการณ์ แต่บัวกับลืมขอให้ตัวบัวเองสิค่ะ บัวจะมาขอให้ตัวบัวเองกับ พี่พุดนะค่ะ บัวขอให้ตัวบัวจงสำเสร็จในธรรม มองเห็นแสงสว่างทางธรรมให้หลุดพ้น กับกิเลสทุกอย่างค่ะ มีดวงตาเห็นธรรมอย่างแท้จริงนะค่ะ บัวคิดถึงพี่เสมอ
30 ตุลาคม 2549 11:24 น. - comment id 621051
ยกมือกราบพนมบรมพุทธ ผู้บริสุทธิ์ไร้มัวหมอง ทุกชีวิตเป็นไปตามครรลอง ท่วงทำนองสัจธรรมน้อมนำพา บุญกุศลสิ่งทำน้อมนำชัก ให้เป็นหลักยึดมั่นดั่งเหล็กผา สิ่งเลวร้ายที่สิ่งใดชักนำมา ขอเ มตตาพุทธองค์ปกป้องภัย
30 ตุลาคม 2549 13:13 น. - comment id 621114
พี่พุดขา วันลอยกระทงนี้กานต์จะตั้งสัจจาธิษฐานด้วยค่ะ แต่ไม่บอกพี่พุดดีกว่าค่ะ
30 ตุลาคม 2549 22:43 น. - comment id 621376
คนเดียวเท่านั้นในชีวิต คนเดียวสนิท แนบอุรา คนเดียวที่ฉันบูชา ยอดปราถนาคนเดียวในโลก เอมาจากใหน เธอจะเป็นใคร ฉันถือเป็นโชค แม้รักเธอแล้ว ฉันต้องเศร้าโศก เป็นคนโชคร้าย ในโลกก็ยอม......ชอบจัง ...................ยายแม่มด...............