http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song556.html http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song685.html (อุทยานดอกไม้...บ้านของเรา) วันนี้...มีราชรถซึ่งมีชายหนุ่ม...รูปงาม อาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดัง มาเทียบเชิญถึงหน้าบ้าน พาไปดูต้นไม้ ต้นไม้ และต้นไม้.... ให้แสนสราญรื่นรมย์ใจ ดวง..หยิบหมวกสานปีกกว้างใบสวยฝืมือชาวบ้าน ที่ซื้อจากหน้าพระลานมาสวมใส่ เพราะ...ต้องฝ่าแดดลมไป..ไกล ในยามบ่าย เราพากันไปถึงย่านพุทธมณฑล ที่ริมถนนทั้งสองข้างต่างดาระดะ เต็มไปด้วย พรรณไม้นานาพรรณมากมาย ทั้ง...ไม้สวน ไม้ประดับ ไม้ใหญ่ยืนต้น... ประเภทที่... นักจัดสวนสามารถนำมาเนรมิตร จัดใส่ให้...*คฤหาสน์รวยไม่เลิก..*ของมหาเศรษฐี กลายกลับเป็น.... วิมานบ้านทรายทองได้ภายในชั่วพริบตา.... แต่...ทว่า... คงต้องแลกด้วยเงินตรามากมายถึงได้มา.... และ... สำหรับดวง ...ก็คิดว่าดีนะ ระหว่างการมี..หรือสะสม...*วัตถุเฟอร์นิเจอร์ไร้ชีวิต*... ที่..แพงแสนแพง... กับ... การนำเงินมาแต่งสวน ให้มีธรรม... ธรรมชาติ รายล้อม ลื่นไหล เข้าไปสู่เนื้อนวลใจ ให้แสนอ่อนหวานละมุนละไมละม่อม และ.... ได้น้อมนำความเขียวขจี ฤาดวงดอกไม้ มากมีมากมายด้วยพลังสีสันอันงดงามนั้น มารังสรร จรรโลงชีวีชีวิต.. ให้.... ได้สนิทชิดใกล้คล้ายดั่งเพื่อนธรรม.. วันนี้.... ดวงเลยถือโอกาส เดินชมสวนไม้ดอกไม้ประดับ อย่างประทับใจ...อย่างแสนอิ่มเอมใจ และ.... พร้อมกับ..... วันฟ้าแจ่ม ...โลกก็..แย้มยิ้มกับดวงอย่างเบิกบานที่สุดแล้ว....! ....................... *สวนขวัญ* วันนี้.... มีความสุขที่สุด มือได้เปื้อนดิน จัดสวน..สวยของใจเรานะ เฟื่องฟ้าสดสีสดใสสดสวยสามสี.. แดง ส้มชมพูและขาวบานแฉล้มแกล้มใจเรา และ ตัดกับท้องฟ้าสว่างไสวสีน้ำเงินเข้ม..แสนงาม..กระจ่างใจ... โมก..สลัดใบกราวเลย เหลือดอกผลิติดก้านกอกิ่ง ขาวนวลพรายพราวหอมละมุน.. การะเวก..เราปล่อยให้เลื้อยพัน พ้นระแนงจนออกดอกดกละออนวลทองสยายพราวราวคนขี้เกียจ.. กล้วย..ต้นใหญ่มาก อวบอิ่มน้ำ ใบเขียวสดสบัดตามลมจนแตกลายรายริ้ว.. เราปลูกพ้อรอคนไกล ตั้งแต่แทงหน่อ ออกปลี ออกเครือ จนวันนี้.. ลูกเหลืองสวยอุดมด้วยวิตามิน..ย้อยระย้า.. รอคนไกลกลับมาปลิดกิน.. หรือไม่ก็ให้เรานี้นำไปบวชชียามชีช้ำใจกินกันวันเศร้าไง ไหนจะมะลิซ้อน มะลิลาช้อนหน้าท้าแดดอ่อนอุ่นโลมเล้า ราวสาวบริสุทธิ์ไร้มือชายเชยชมมาดมดอมหอมนวล.. วาสนา ที่ออกดอกโค้งงอ คลอดิน รอวาสนารักให้สมหวังดั่งฝันดั่งใจนี้.. ที่... เฝ้ารักเฝ้ารอ..มาแสนนาน.... กุหลาบ..แดง ..ดอกใหญ่.. เผยอคลี่กลีบหวานบานออกจากช่อตูมตั้ง สยายฝันรอรับหวานจากหยาดน้ำรัก จากใจมือนี้ที่รินรด..ค่อยๆหยดหยาด..ให้หยดค้างบนกลีบดอก.. ราวหยาดน้ำตาจากฟ้าจากใจขวัญ พุดสามสี..ม่วงโศกราน..บานแข่งกับหวานอมชมพู..ของชวนชม.. กุหลาบทะเลทรายที่ให้ดอกดกพราวราวไร้ใบทั้งปี ให้เรานี้ได้เด็ดดมมาลอยในแก้วสีฟ้าใส ตัดฉับกันกับหวานสวยของดวงดอก..ดอกดวงละมุน.... นั่นไงผีเสื้อ..บินว่อนร่อนถลามาเกาะกิ่งโมก.. แอบดูเห็นนกเขาคู มาเกาะขอบอ่างใหญ่ ที่เราใช้ลอยดอกไม้หวานยามมีงานปาร์ตี้บนระเบียงนี้.. ยังมีอีกมากมวลหมู่พฤกษา ที่... เรานี้หนาพยายามหามาทำให้บ้านเรา ราวอยู่ในไพรพฤกษ์พงดงไม้งาม ให้ใจหวามไหว ไว้เขียนเรื่องรักฝันในจินตนาการ.. ให้หวานหวามตามใจไฟฝันนี้ที่คงยากที่จะมอดดับ... ................... ช่อมาลี..มาลา หอมจำปีระรินปนกลิ่นฝัน แหงนมองจันทร์จันทร์ดายเดียวด้วยเปลี่ยวเหงา เอื้อมมือเด็ดพุดซ้อนซ่อนใจเรา วาสนาเฉาช่อมาลีที่โรยรา.. ช่อมาลี..มาลีลา จากจำจด ช่องามงดกลางใจเคยใฝ่หา มาวันนี้ มาลีงาม อยากหนีหน้า ซ่อนเหว่ว้า อายฟ้าดิน สิ้นทางใจ.. การะเวก พ้อเพ้อ พราวพร่างพื้น รู้กล้ำกลืน ยอมรับ สะเทือนไหว ยอมร่วงหล่น ปนเปื้อนดิน รานร้าวใจ ธรรมดาใจ ธรรมชาติงาม ยามแย้มยล.. ทรุดตัวนั่ง นิ่งนิ่ง มองฟ้าเศร้า ใจดวงร้าว น้ำตาริน ด้วยสับสน ฟ้าไยมืด จันทร์ดูหมอง ฟ้องใจตน ถอดกมล นับวันคอย..จนน้อยใจ..ใครบางคนไม่หวนคืน! . http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song556.html อุทยานดอกไม้ ชมผกาจำปาจำปี กุหลาบราตรี พะยอมอังกาบทั้งกรรณิการ์ ลำดวนนมแมว ซ่อนกลิ่นยี่โถชงโคมณฑา สายหยุดเฟื่องฟ้า ช-บาและสร้อยทอง บานบุรียี่สุ่นขจร ประดู่พุดซ้อน พลับพลึงหงอนไก่พิกุลควรปอง งามทานตะวัน รักเร่กาหลงประยงค์พวงทอง บานชื่นสุขสอง พุท-ธชาติสะอาดแซม พิศ พวง ชมพู กระดังงาเลื้อยเคียงคู่ ดูสดสวยแฉล้ม รสสุคนธ์ บุญนาค นางแย้ม สารภีที่ถูกใจ งามอุบลปนจันทร์กะพ้อ ผีเสื้อแตกกอ พร้อมเล็บมือนางพุดตาลกล้วยไม้ ดาวเรืองอัญชัญ ยี่หุบมะลิวัลย์แลวิไล ชูช่อไสว เร้าใจในอุทยาน พิศ พวง ชมพู กระดังงาเลื้อยเคียงคู่ ดูสดสวยแฉล้ม รสสุคนธ์ บุญนาค นางแย้ม สารภีที่ถูกใจ งามอุบลปนจันทร์กะพ้อ ผีเสื้อแตกกอ พร้อมเล็บมือนางพุดตาลกล้วยไม้ ดาวเรืองอัญชัญ ยี่หุบมะลิวัลย์แลวิไล ชูช่อไสว เร้าใจในอุทยาน... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song685.html บ้านของเรา บ้านของใครของใครก็รัก เรือนเขา บ้านของเราหนอเราก็เฝ้า รักปอง บ้านฉันมีนกร้อง ส่งเสียงทองคล้องขัน มีไม้ไพรพฤกษ์พร้อม พร่างพยอมหอมหวนอวลอ่อน ละมุนละม่อมอ่อนขวัญ มีพลิ้วเพลงผูกพัน เพ้อรักอันรอท่า นกเขามันเฝ้าปราศรัย พิรี้พิไรรักหล้า ฟังเคลิ้มคล้ายกะว่า กล่อมให้อุรารักรังนิทรา เรือนทอง บ้านของใครของใครก็รัก เรือนเขา บ้านของเราหนอเราก็เฝ้า รักปอง บ้านฉันมีนกร้อง ส่งเสียงทองร้องหา เรือนฉันมีรักหวาน โอบชีวิตฉันไว้ในบ้าน แล้วโลมใจร่านลอยล้า มีวิมานอุรา คล้อยค้างคาอารมณ์ เขารู้มันจู้เพลงพ้อ ขันล้อทำคอโคงก้ม ชีวิตหนอพอตรม ก็กลับชื่นชมเพราะเพลินภิรมย์ เรือนทอง...
13 ตุลาคม 2549 21:41 น. - comment id 614823
ช่อมาลี มิมีลา ด้วยว่าห่วง ไม่หลอกลวง รักแน่ แค่จอมขวัญ ดอกไม้ยื่น ชื่นใจ มอบให้กัน แถมผูกพัน ติดตรึง รักซึ้งใจ เหมือนอยู่ท่ามกลางดงของสวยพฤกษาเลยค่ะ หอมชื่นใจจัง ชื่นใจจังค่ะ
13 ตุลาคม 2549 21:48 น. - comment id 614826
เสี้ยวหนึ่ง..จาก.. http://www.thaipoem.com/forever/poem.php?poemid=69543&poemdbid=2 ด้วยรักจากสวนแสนขวัญสวรรค์สรวง ................... ............................ ................................. ในความฝัน... อันรางเลือนเสมือนครึ่งหลับครึ่งตื่นด้วยพิษไข้ ทะเล..ได้ยินเสียงคลื่นและใบมะพร้าวซัดส่าย คล้ายกำลังคลี่ไหวโอบประคองเด็กหญิงน้อย.. ในทุกทิวาราตรี...ทีมีเพียงงามดวงใจใครเล่ารู้นี้นานมา ที่เคยมีเสียงนกเขาขันคู ปลุกให้มาดูทะเลในยามเช้า ในม่านหมอกพราวรับสายแสงแรกจากเทพรังสิมันต์ ปลุกให้มารับขวัญคลี่ยิ้มหวานแสนหวาน รับงามรับหยาดน้ำค้างยามเช้าตรู่ในทุกฤดูกาล ในทุกอุษาสางทุกดวงดอกไม้พื้นบ้านบานหวานหลากสี ที่กำลังประดิดประดอยคลี่กลีบสยายอย่างอายเอียง ทะเล... ราวฝันไปใน..เวิ้งว่ายแห่งนิรันดร์รักภักดิ์ดี ว่ามีใครบางคนกอดร่างร้อนรอนรอนร้าวร้าว ที่หนาวในจิตนัก ด้วยหัตถาแห่งปรานี เสียงกระซิบอันแสนอบอุ่นอ่อนหวานห่วงใย ราวลอยล่องมาจากฟากฟ้าแสนไกล หากไยเล่า...มาคลอคะนึงให้ซึ้งซ่านแสนสุข ราวปลอบปลุกอยู่ริมหู และ.. ไหลพร่างพรู รินพลังหวังหวานมิรู้สิ้นในถวิลหวังลงสู่ห้องหัวใจ..ให้หยัดยืน ดวงใจ.. เทพยดาพฤกษ์ไพรในวิมานวนา กำลังเมตตาปรานีประทานพร มาห้อมล้อมให้ฝ่าฟัน ให้ไม้ใบนับร้อยพันใน*สวนสรวงแสนขวัญ* ราวเรือนยอดไม้ได้เริงร่ายระบำ ระบัดพัดพลิ้วร่ายรำรับขวัญรับพรออดอ้อนอวดงาม เถาวัลย์พาดพันเกี่ยวเลี้ยวลด มากระซิบบอกรักทายทักเจ้าของสวนสวยราวสวรรค์สรวง ให้ลาล่วงเมืองหลวงเมืองลวงคืนหลังกลับมา เพื่อรอวันเวลาพร่างพรายธรรมชาติ..ธรรมน้ำใจ..ดับดำ *คล้ายอัญมณีแห่งพะงันงาม* ให้กระจายสายแสงธรรม น้อมนำ*ดีที่จีรัง* ด้วยพลังงามแห่งยอดพระรัตนตรัยอวดชาวโลก ที่กำลังหลั่งไหลหนีโศกมาเติมสุข อยากพ้นทุกข์ด้วยหลงผิด มาเพิ่มทุกข์พันธนาจากอบาย ที่คล้ายกับหนีได้เพียงครู่คราว..หายาวยืนไม่.. และ กับหยาดน้ำตานาทีนี้ ของหัวใจ*ลูกผู้หญิงทะเล* ที่พลีหลั่งรินให้กับผืนดินเกิด ให้.. ทุกเม็ดทราย.. ฟากฟ้าทะเลกว้าง...สายลมพร่างรินได้รับรู้ *คำมั่นสัญญา*..ว่า.. ลูกจะกลับมาจูบผืนดิน และมิสิ้นไร้ไฟฝัน ที่จะคืนหลังกลับมาสร้างสรรสิ่งดีณ.ผืนดินแห่งนี้ตราบชีพยัง และตราบจนกว่าชีพน้อยนิดนี้ จะถูกฝังสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับผืนทราย และมลายลาไปกับตะวัน..ดวงงาม..อย่างดายเดียว........!.
13 ตุลาคม 2549 21:38 น. - comment id 614829
เขย่งจูบดอกไม้ใกล้ริมแก้ม เขย่งจูบดอกไม้ใกล้ริมแก้ม หอมยั่วแย้มทายทักสลักขวัญ ลั่นทมพร่างพราวกิ่งแย้มเย้ยจันทร์ แสนรักมั่นดวงดอกรักดอกภักดี... ฉันหลงฝันหลงรอหลงพ้อเพ้อ หลงละเมอเก้อกี่กัลป์กับรักนี้ ตามหาเธอผ่านกาลกัปป์นับแสนปี แท้ยังดียังมีเธอให้เพ้อภักดิ์... และ.. เมื่อดวงตาพร่าไหวในรอยโศก ทายท้าโลกดินฟ้าปาฎิหารย์รัก เรื่องของเราคือตำนานผ่านสองโลกนะยอดรัก ผ่านความภักดิ์ผ่านความฝันมิพรั่นใจ.. อย่าร้องไห้นะดวงใจแสนไกลห่าง ฟ้าแสนกว้างดินเดียวกันอย่าหวั่นไหว จันทร์ดวงงามดวงเดียวกันนะดวงใจ เมื่อหัวใจเราสองครองรักแท้!.. จูบซับหยาดน้ำตานะยอดรัก หนาวเหน็บนักหนาวเพียงไหนไม่ยอมแพ้ คืนและวันผันผ่านไปไม่เที่ยงแท้ หากสิ่งแน่คือจิตมั่นฝันนิพพาน... คนดี..สถิตที่กลางใจใช่ไหมเล่า หลอมรวมราวหนึ่งเดียวหวานแสนหวาน มีดวงตามีดวงใจนิ่งเงียบงาม สร้างตำนานมหัศจรรย์รักนี้พลีพร้อมธรรม!.. ....................... ดวงใจ.. วันหนึ่งในยามโพล้เพล้เหว่ว้า ใต้ต้นไม้สูงใหญ่ในไพรพนา ที่เวทีฟ้า กำลังเล่นแสงสวยแสงสี เวทีธรรมชาติพิลาสพิไลเป็นฉากหลัง กับสะพรั่งพรึบพราวขาวนวล ทุกราวกิ่งของเจ้าดวงดอกไม้ไร้ชื่อ หาก หญิงหนึ่งปรารถนาพิสูจน์หอมดอมเจ้าดวงดอกไม้ ใกล้แสนใกล้.. หากเขย่งหอมหาถึงไม่ ด้วย..หัวใจสาวไพรพงผู้พะวงหลงรักพวงพะยอม จึงค่อยๆเขย่งก่อน...ลองดูแล้ว..ไม่ถึงใจค่ะ ก็เลยตัดสินใจกระโดดเลยค่ะ เพื่อต้องหาหอมให้ซึ้งซ่าน ที่อยากรู้นักรู้หนารู้ให้ได้ว่า เจ้านั้นหนาสวยแต่รูป.. ฤาว่า.. *จูบ*แล้วซึ้งซ่านหวานงามพร้อม... หรือเช่นไร..
13 ตุลาคม 2549 22:12 น. - comment id 614836
หอมกลิ่นดอกไม้จังเลยครับ
13 ตุลาคม 2549 23:08 น. - comment id 614863
น้องผู้หญิงในเงาใจพี่พุด..คะ วิมานดินของพี่พุด นาทีนี้... กำลังหอมสะพรั่ง ด้วยกลิ่นดวงดอกพุดน้ำบุศย์ค่ะ สีเหลืองนวล กับขาวค่ะ... และ มีเสียงกบเขียด หรีดหริ่ง ร้องระงมเลยค่ะ หลังลีลาวสันต์ปรายสายมาเมื่อใกล้ค่ะ พี่พุด ได้ต้นไม้มามากมายค่ะ หนึ่ง ในนั้นคือ*เบิรดออฟพาราไดซ์ หวัง จะปลูกด้วยใจรัก รดน้ำด้วยชีวิต ตัดแต่งด้วยจิตวิญญาณ ให้.. งดงามแตกกอ ก่อพลังใจไฟฝัน ยามพี่พุด หันเห็นค่ะ เพื่อ.. ได้น้อมนำนวลแห่งละออดวงดอกไม้ มาพร่างพรายพร่างพรม ห่มหอมให้เนื้อใจยิ่ง หอม หอม ใสสดชื่น ระริ่นร่ำ ค่ะ เพื่อจะได้ปันพลี งามดวงใจใครเล่ารู้นี้ แด่ทุกคนดี ที่ชิดใกล้ และแด่ทุกดวงใจที่รับงามรับดีได้ ไปด้วยกัน พัฒนาให้รู้รักธรรม ธรรมชาติ และ หวังฝากเพียงสิ่งยั่งยืนจีรังค่ะ หนทางไปสุ่ฝั่งฝัน อันรอเรา..ผู้มิยอมพ่ายเพียรค่ะ พลีเพลงวิมานดิน แด่น้องนะคะคนดี ด้วยรักและซึ้งใจมานานวันแล้วค่ะ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1933.html วิมานดิน นันทิดา แก้วบัวสาย ฝากรักเอาไว้ ฝากไปในแสงดวงดาว ที่ส่องประกายวับวาว วาว อยู่บนฟากฟ้า ให้แสงสุกใส ได้เป็นเสมือนดวงตา คอยส่องมองเธอด้วยแวว ตา แห่งความภักดี เก็บฟ้ามาสาน ถักทอด้วยรักละมุน คอยห่มให้เธอได้อบ อุ่น ก่อนนอนคืนนี้ ให้เสียงใบไม้ ขับกล่อมเป็นเสียงดนตรี คอยกล่อมให้เธอฝันดี ดี ให้เธอเคลิ้มไป เป็น วิมานอยู่บนดิน ให้เธอได้พักพิง พิง และนอนหลับไหล เก็บ ดาว เก็บเดือนมาร้อยมาลัย เก็บหยาดน้ำค้างกลางไพร มาคล้องใจเราไว้รวมกัน ก่อนฟ้าจะสาง ก่อนจันทร์จะร้างแรมไกล ยังอยู่กับเธอข้างเคียง กาย อยู่ในความฝัน ฝากเสียงกระซิบ ฝากไปในสายลมผ่าน ข้ามขอบราตรีที่ยาว นาน ให้เธอฝันดี เป็น วิมานอยู่บนดิน ให้เธอได้พักพิง พิง และนอนหลับไหล เก็บ ดาว เก็บเดือนมาร้อยมาลัย เก็บหยาดน้ำค้างกลางไพร มาคล้องใจเราไว้รวมกัน ก่อนฟ้าจะสาง ก่อนจันทร์จะร้างแรมไกล ยังอยู่กับเธอข้างเคียง กาย อยู่ในความฝัน ฝากเสียงกระซิบ ฝากไปในสายลมผ่าน ข้ามขอบราตรีที่ยาว นาน ให้เธอฝันดี ให้เธอได้อบ อุ่น และนอนฝันดี ให้เธอได้อบ อุ่นอยู่ใน วิมาน...
13 ตุลาคม 2549 23:11 น. - comment id 614865
หอมกลิ่นดอกไม้จังเลยครับ มันก็นานตั้งแต่จากลากันครั้งนั้น.... ขอบคุณค่ะ ที่เข้ามาให้พลังใจค่ะ
13 ตุลาคม 2549 23:31 น. - comment id 614873
ในเส้นทางอ้างว้างบนทางฝัน เธอเคียงฉันเกี่ยวเก็บดอกไม้หวาน โลกของเราที่เงียบเหงาด้วยร้าวราน พลันตระการด้วยพลังแห่งความรัก ใจของเราหลอมรวมสอดประสาน เรียนรู้รานรู้เศร้าหนาวเหน็บนัก ลมหายใจปัจจุบันเพื่อเธอนะที่รัก กี่ภพภักดิ์พิสวาทมิคลาดคลา กำไรบุญได้พบกันในวันนี้ ได้เพียรพลีชีวีใหม่เริ่มอุษา ก่อนวันสิ้นลมหายใจไปกับตะวันลา ใจดวงเหว่ว้าแสนอิ่มเอมเกษมนิรันดร์ จัดใจเราเงียบงามแจ่มจรัส พบทางลัดสู่เส้นทางไสวสวรรค์ ดั่งมณีเพชรโชติช่วงตราบชั่วกัลป์ ใจดวงขวัญ...แพร้วพร่างสว่างบุญ.....แล้ว...... (นะ...เจ้าแก้วตา... เจ้าจอมใจ.!!) ................... บุญเหนือโลกย์ลบโศกราน! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song72.html (หนึ่งในร้อย) ............... บุญเหนือบุญคือการรู้จักตนเอง ไร้บทเพลงบรรเลงทุกข์สุขฤาเหงา บุญเหนือบุญใช่วิมานฝันสวรรค์เงา บุญของเราหยุดคิดได้ไร้เศร้าใจ.. บุญอยู่ไหนถามใครอยู่ในนี้ ที่จิตดีจิตว่างกระจ่างใส บุญแบบนี้เรียกว่านิพพานใจ อย่าสงสัยรอแสนชาติคลาดค้นพบ.. ที่เราทุกข์นักหนาเพราะความคิด หลงยึดติดยึดมั่นกิเลสกลบ สร้างบุญญาบารมีเลิกคิดลบ ก็จะพบใจว่างกระจ่างงาม... หากแสนยากหยุดคิดติดฟุ้งซ่าน อุปาทานมากมายคล้ายขวากหนาม ลองหยุดนิ่งรู้หายใจในทุกยาม เฝ้าติดตามปราณพรูรู้เท่าทัน.. สั้นหรือยาวเคล้าหยาบฤาละเอียด ค่อยมาเบียดความคิดจิตเพ้อฝัน พบมหัศจรรย์ว่างวางพร่างปิติพลัน ไร้สวรรค์ฤานรกตกต้องใจ.. รจนาภาษาเรียบง่ายจึ้ตรงจุด สู่วิมุตติหลุดพ้นกว่าคำไหน ตายก่อนตายหยุดคิดได้สว่างใจ ไม่วาบไหวหวั่นหวามตามโลกย์รัก.. หลวงพ่อเทียนนำทางธรรมสั้นกระชับ รู้รำงับจับอิริยาบถให้รู้จัก ความเคลื่อนไหวช้าช้าพาจิตพัก หยุดทุกข์หนักทุกข์หนาพาพบธรรม.. คือ.กุศโลบายให้จิตจ่อ เพียรอย่าท้อรู้ฝึกทุกคืนค่ำ ยามใดเหงาเหว่ว้าวิบากกรรม จงเพียรทำไร้น้ำตาหาใครมาปลอบใจ.. เพราะผู้ใดไหนเล่าจะช่วยเจ้า หลุดพ้นเศร้าดายเดียวยามวูบไหว เจ้าต้องอยู่กับเงาร้าวเปล่าเปลี่ยวใจ ตราบสิ้นลมหายใจใครไปด้วยช่วยบอกที.. มาลำพังไปลำพังอย่าเขลาโง่ จงรีบโผล่บัวพ้นน้ำงามศักดิ์ศรี ฝึกหยุดคิดนิมิตหมายนะคนดี นิพพานที่นี่เดี่ยวนี้สิพบว่างกระจ่างใจ.. ณ..โลกนี้นาทีนี้ใช่โลกหน้า เลิกเหว่ว้าลืมทางพรางหวั่นไหว ไม่มีเขาเราอยู่ได้นะดวงใจ เพราะจิตใสสิ้นทุกข์ได้ไร้ตัวตน... ตามรอยธรรมรอยทองของพระพุทธ เพียรรู้หยุดเลิกคิดได้ไร้สับสน มองเข้าไปในจิตวิญญาณบ้านแห่งตน สร้างกมลใสว่างพร่างแสงเพชรอัญมณี..! ............................. ชีวิต คำสอน และปฏิปทาของ*หลวงพ่อเทียน*นั้น เป็นตำนานที่เล่าขานได้ เฉกเช่นพระอาจารย์เซนผู้ยิ่งใหญ่แต่ครั้งโบราณกาล นับเป็นโชคดีหนักหนาที่เรามีโอกาสได้ยินได้ฟัง หรือกระทั่งพบเห็นท่านด้วยตนเอง ทั้งด้วยตาเนื้อ(มังสจักษุ)และตาใน(ปัญญาจักขุ) ทำให้มีความเชื่อมั่นกำลังใจ และ มีชีวิตชีวาในการการปฎิบัติทางจิต ชนิดที่ไม่ต้อเชื่อหรือพึ่งพิงผู้อื่น นอกจากลงมือทำด้วยตัวเอง เห็นตัวเองในตัวเอง และเข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้ ชึ่งเป็นจุดเน้นประการเดียวของท่าน ในยุคโลกาภิวัฒน์และจิตใจของผู้คนพินาศย่อยยับ และยุ่งเหยิงด้วยความครุ่นคิดกังวล จนเป็นวิกฤติทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมไปค่อนโลกเช่นนี้ คำสอนของหลวงพ่อเป็นแสงสว่างนำทาง เทคนิควิธีฝึกจิตใจอย่างได้ผลดียิ่งของหลวงพ่อ เป็นเครื่องมือเดินทางไปบนหนทางสู่ความสิ้นทุกข์ ที่พระบรมศาสดาสัมมาพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ดีแล้ว ผู้น้อมใจลงศึกษาด้วยความถ่อมตนว่าตนยังไม่รู้จักตน ยังมีโอกาส .. *มองตน บอกตนได้ ใช้ตนเป็น เห็นตนชัด..* และ ขจัดมายาภาพของตัวตนได้อย่างแน่นอน *คำนำ..จากหนังสือ*หลวงพ่อเทียน* ........................ พุดพัดชา..ศรัทธาในคำสอน ของหลวงพ่อเทียน และ.... มีปาฎิหารย์หลายสิ่ง พลันพึงบังเกิดกับชีวิตนิดน้อยนี้ ที่ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา.. พบยอดพระรัตนตรัย ที่เป็นดั่งสร้อยธรรมคอยกางกั้นปกป้องคุ้มครองให้จิตใสใจดวงดี ไม่รานร้าวเศร้าชีวีนาน ทุกเรื่องราวเศร้าสุขทุกข์ร้อนร้าย คล้ายแค่พบพายุวิบากกรรม มาพัดผ่านมากระทบเพียงชั่วครู่ ให้จิตภายใน..รำลึกรู้สึกตัว ลบลืม ที่ถือว่าแสนมีโชค ให้ได้พบร่มธรรมร่มทอง มายึดมั่นในทุกพระธรรมคำสั่งสอน ที่ใช่เพียงอ่าน หากทุกคืนค่ำ พุดเพียรฝึกเจริญสติด้วยอิริยาบถความเคลื่อนไหว ที่พุด..อยากพลีใจ ขอมอบธรรมล้ำค่านี้ มาวางพลีบรรณาการแด่ทุกดวงใจ ให้ลองเพียรพยายามดู และ... อาจจะค้นพบบางสิ่ง ที่มหัศจรรย์จิตเกินคำบรรยายค่ะ .........
14 ตุลาคม 2549 00:55 น. - comment id 614881
สวัสดีค่ะ พี่พุด ไม่เจอเจอกันนาน สบายดีน่ะค่ะ กระต่ายแวะมาอ่านงานพี่พุดค่ะชอบดอกไม้ไทยๆ วิวานดินเพลงนี้ โดนขอให้ร้องบ่อย แวะมาร้องเพลง ค่ะ คิดถึงและเคารพที่พุดเสมอ กระต่ายใต้เงาจันทร์
14 ตุลาคม 2549 09:19 น. - comment id 614901
โมก..สลัดใบกราวเลย เหลือดอกผลิติดก้านกอกิ่ง ขาวนวลพรายพราวหอมละมุน.. หอมเหมือนแก้มกานต์เลยค่ะ อิอิ
14 ตุลาคม 2549 11:02 น. - comment id 615021
สวัสดีค่ะ พี่พุด... ดอกไม้ส่งกลิ่นหอม ยามพลิ้วปลิวไหวยามต้องลม...หัวใจก็ไหวตาม.. ในสวนสวยที่เต็มไปด้วยเหล่าแมกไม้ดั่งเช่นในไพรพฤกษ์ คงร่มรื่นเย็นชื่นฉ่ำหัวใจ... มีกลิ่นไอของธรรมชาติ และกลิ่นหอมที่ลอยล่องมาตามลม... คิดถึงพี่พุด รักษาสุขภาพนะคะ
14 ตุลาคม 2549 15:13 น. - comment id 615111
สวัสดีค่ะ ดวงดอกไม้ร่ายฟ้อน หอมในใจนวล
14 ตุลาคม 2549 19:01 น. - comment id 615161
พี่พุดค่ะ บัวเพียรพยายามอ่านทุกตัวอักษร ในคำที่พี่พุดชี้แนะไว้ทุกอย่างค่ะ ในหัวใจของเราเองนี้สำคัญมากนะค่ะ กับการที่ต้องลดทิฐิของตัวเราให้ได้ คงเพราะความที่ว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะใจเราเองคิดตลอดเวลา บัวถึงต้องพยายามใช้ธรรม ธรรมชาติ มาปลุกใจให้เย็นลงวันนี้บัวไปสวดมนต์ กราบพระที่วัดเบญจค่ะ ในขณะที่บัวนั่งอยู่หน้าองค์พระในโบสถ์ บัวมองพระองค์ท่านในความคิดของบัว ก้อว่าท่านมองตอบบัวแล้วยิ้ม ท่านไม่มีความรู้สึกเป็นอย่างอื่นในสายตา ของบัวนอกจากแผ่ความเมตตาลงมาให้ หรือในสายตาของท่านมองมาที่บัวแล้วถามว่า ทำไมบัวต้องแบกกับสิ่งที่อยู่ในใจไว้ ไม่หนักหรือ ทำไมบัวไม่มองให้เห็นเป็น เรื่องธรรมดาในความที่เรายังเป็นคน ที่มีลมหายใจอยู่ ก็ต้องเจอกับทุกอย่าง ทำไมบัวต้องต่อต้าน ไม่ปล่อยวางไว้ พี่ค่ะ ความรู้สึกของบัวสับสน บัวปฏิบัติมาก้อมากแต่บัวก็ยัง ไม่ลู่ไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น คงเป็นเพราะบัวหวังว่าสิ่งนี้ดีแล้ว แต่จริงๆกับไม่ใช่ มันก้อทำให้ใจบัวเจ็บมาก ซึ่งตัวบัวเองก้อเป็นคนดื้อรั้นทิฐิ แล้วยิ่งบัวโดนกะทำโดยที่บัวต้องอยู่นิ่งๆ มันก้อไม่ใช่สำหรับบัว บัวเลยเลือกที่ไป ในที่สงบเสียก่อนค่ะ พี่พูดถูกค่ะ บุญเหนือบุญคือการรู้จักตนเอง เป็นบุญอย่างมากที่หยุดคิดได้ แต่ก้อ ยากมากนะค่ะที่เราจะทำได้ สติของเราเองถ้าเราไม่มีสติพอ ทุกอย่างก้อต้องรุนแรงตามไป ก้อเหมือนกับรักมากเกลียดมาก ยิ่งรักยิ่งแค้น นี้แค่เปรียบเทียบนะค่ะพีพุด แต่ที่บัวโดนมันอุบาตเกินไปค่ะ แค่ไม่ใช่มาถึงตัวนะค่ะ ถ้ามาถึงตัวบัว ตายคามือบัวไปแล้วแหละค่ะพี่ แต่ถึงอย่างไรบัวก็จะพยายามฝึกใจตัวบัวเองให้ถึงที่สุดค่ะ ให้หลุดพ้นให้ได้ ให้เหมือนดอกไม้ของพี่ยามแรกแย้มสดใส น่าชื่นชม ยามเหี่ยวเฉาก็ร่วงโรยไปตามกาลเวลาไม่มีอะไรแน่นอน แต่เพียรความดีความถูกต้องจะอยู่กับเรา ไปทุกภพทุกชาติ พี่พุดค่ะบัวลดทิฐิลงแล้วค่ะ บัวรู้ค่ะว่าบัวมีทิฐิไม่ช่วยให้บัวดีขึ้นเลยค่ะ บัวอัดอั้นตันใจเป็นที่สุดค่ะพี่พุด บัวก้อยังห่วงคนรอบข้างบัวเสมอ ในบางครั้งบัวก้อคิดว่าตัวบัวบ้าไปหรือป่าวค่ะ ห่วงทำไมกับคนที่ไม่เคยเห็นหน้า แค่รู้จักเท่านี้เอง แต่ก้อห้ามใจไม่ได้ค่ะพี่ พี่พุดค่ะ บัวชอบเพลง อุทยานดอกไม้มากค่ะ บัวอัพเพลงนี้ไว้ในเครื่องบัวนานมาแล้วค่ะ เวลาบัวฟังบัวจะรู้สึกมีผ่อนคลายมากค่ะ พี่พุดรักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ เวลาบัวร้องให้เสียใจบัวจะมาเปิดอ่าน งานพี่เสมอค่ะ บัวเป็นห่วงพี่นะค่ะ