กระท่อมหอมฝน..ให้ฝัน..

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song18.html


นอนนิ่งนิ่งบนแคร่ไม้ในกระท่อมเรียบง่ายชายคาแฝก
มีความสุขสงบใจเหลือจะกล่าวบอกเล่าใคร
ได้ค้นพบความสุขสงบลำพัง 
อยู่กับความเงียบงามในยามค่ำสนธยา
เปิดวิทยุฟังรายการธรรมะ และหลับตาดื่มด่ำ..ตั้งใจฟัง
พร้อมทำใจให้ว่าง...วาง..ทุกข์มายามากมายมากมี
จากมวลมนุษย์มากหน้าที่ยากจะหนีพ้น
ได้ยินเสียงนกเขาไพรมาเกาะกิ่งไผ่พร้อมร้องขันคู 
หาคู่เคียงเสียงกังวานหวานไพเราะ
บ้านชาวสวนหลังบ้าน
ก่อไฟให้ควันลอยอ้อยอิ่ง ทิ้งทอดตัวระทวย
ม้วนเป็นสายสวยลอยลมมา 
ให้ได้บรรยากาศเป็นยิ่งนัก
สายลมเย็นมาทายทักลูบไล้ 
ให้ใจสบายๆ..ได้ผ่อนพักกายใจ
หอมนวลการะเวก ที่แทงช่อมา
ให้พันพ้อพร่างเสากระท่อม
เขียวไพลเขียวใสเขียวละออกับใบอ่อนอ่อนบอบบาง
และ..
นั่นท้องร่องสวนกับนวลใบตอง
ที่กำลังระบัดโบกราวสไบนางฟ้า
และ..
โน่นดงดอกข่า
ที่กำลังชูพวงเป็นรวงเขียวพราวให้ผึ้งเคล้าดอม
ไหนจะไผ่กอที่กำลังซัดส่ายเสียดสี ดั่งดนตรีไพร
ให้ความรู้สึกแสนยิ่งชิดใกล้กับกับธรรมชาติ 
ที่ยังพอมีพอได้สัมผัสรายรอบ
นั่น..
ดวงดอกหญ้าที่นำมาใส่โอ่งดินเผาแดงคร่ำใบใหญ่ไว้
เพื่อให้ได้บรรยากาศ
ราว...
กำลังนอนสยายผมบนลานหญ้าหวานหวานหอมหอม
กับใจดวงอรชรมิแล้งไร้...สิ้นหวัง..
น้ำตาซึม ด้วยความสุขซึ้ง 
จนหัวใจได้ยินบทเพลงหนึ่งในฝันแว่วมา...
ราวกับมี..*ภาพ ขวัญ เรียม *
กำลังขี่ควายไล่ล่องเที่ยวท่องไปในลำคลองท้องทุ่ง
ไปกับรุ่งเรียวรวงสีทอง ...
*นิยายรักอมตะ..ที่นำเสนอครรลองวิถีไทยที่ยัง
งามใสในความจงรักภักดี 
ที่แสนหนักแน่นมั่นคง...	ซื่อตรงไปตราบชั่วกาล....
...........................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song18.html
แสนแสบ...
อกพี่กลัดหนอง พี่หมองดั่งคลองแสนแสบ
เจ็บคำดังหนามยอกแปลบ ๆ แสบแสนจะทน
โอ้ว่ากังหัน ทุกวันมันพัดสะบัดวน
อยากจะรู้จิตคน จะหมุนกี่หนต่อวัน
ย่างเดือนสิบสอง ฟากคลองเจิ่งนองน้ำหลั่ง
อยู่ไกลกันคนละฝั่ง ๆ ยังร้องสั่งกัน
สิ้นเดือนสิบสองน้ำนองแห้งคลองขอดพลัน
สิ้นความรักจากกัน เหมือนกังหันเปลี่ยนทางลม
แสนแสบ แสบแสนเปรียบแม้นชื่อคลอง
นี่เป็นโลงทองของเรียม-ขวัญ เขาฝากชีพจม
แต่คลองยังช้ำเหลือไว้แต่น้ำขุ่นตม
พี่จึงช้ำจึงช้ำขื่นขม ขม ตรมเสียกว่าคลอง
เจ้าจากพี่มา เจ้าลืมทุ่งนาฟ้ากว้าง
เจ้าลืมฟากคลองสองฝั่ง ฝั่ง ลืมทั้งทุ่งทอง
จวบจนบัดนี้ มิเห็นมีน้ำเจิ่งนอง
ชื่อว่าแสนแสบคลอง เหมือนคนหมองต้องแสบแสน
				
comments powered by Disqus
  • ดอกบัว

    4 สิงหาคม 2549 13:24 น. - comment id 595050

    สวัสดีค่ะ พี่พุด46.gif36.gif
    พี่พุดนำธรรมชาติของชีวิตมาฝากอีกแล้วนะค่ะบัวไปสัมผัสกับบรรยากาศแบบนั้น
    จนไม่อยากจะกลับมาเลยค่ะ
    แต่ต้องกลับมาเพราะบัวยังต้องมีภาระนี้ที่
    ของความเป็นคนธรรมดาที่ต้องทำงาน
    หาเลี้ยงปากท้องให้กับตัวเองค่ะ
    แต่บัวก็ไม่ได้คิดดิ้นล้นมากหลอกค่ะ
    แค่ให้พอกินพอใช้และทำบุญนิดหน่อย
    ก็พอสร้างสมไปเลื่อยๆขยันสร้างทุกวัน
    ก็คงไม่หมดนะค่ะ
    พี่พุดค่ะ บ้านพี่สาวบัวปั้นโอ่งด้วยนะค่ะ
    โอ่งมังกรค่ะ พี่พุดดูแลสุขภาพด้วยนะค่ะ
    เวลาพี่จะข้ามถนนมองซ้ายขวาด้วยค่ะ บัวเป็นห่วงนะค่ะ 16.gif46.gif36.gif
  • เพียงพลิ้ว

    4 สิงหาคม 2549 15:57 น. - comment id 595108

    กระท่อมพี่พุดสวยจังเลยค่ะ
    ขอกานต์อยู่ด้วยคนนะคะ
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • สาวบ้านนา

    4 สิงหาคม 2549 16:55 น. - comment id 595129

    36.gif
    น้องดอกบัว...36.gif
    และ
    น้องเพียงพลิ้ว ที่รักคะ36.gif
    
    พี่พุดต้องวอนคนงาน10คนค่ะ
    ถึงสามารถยกกระท่อม
    มาไว้บนระเบียงบนได้
    ตามไอเดียฝันอันแสนบรรเจิดจิตของพี่พุดไพร หัวใจสาวบ้านนาคนนี้
    เพราะ
    ระเบียงบนที่บ้านกว้างมากกกกกก
    สามารถจัดปาร์ตี้ได้เลยค่ะ
    เคยมาทำบาบีคิวบนนี้36.gif
    
    ไม่บางที
    พี่พุด ก็จะมากางเต๊นท์นอน
    ให้วใจดวงอรชรอ่อนหวาน
    ได้สัมผัสชิดใกล้ชาติ อย่างที่สุด
    ก่อนที่จะหลุดพ้นวังวนวิบากเมือง
    ที่รอ รอ รอ ไม่รู้สิ้นรู้จบ
    เพื่อ กลับไปวิมานลอย วิมานวนาค่ะ36.gif
    ก็..
    คงเลยต้องเพียรสร้างวิมานดินใน
    กลางกรุงกรง อย่างมิพะวงแสงสี
    ให้
    *ปลาผิดน้ำ ข้าวผิดนา*
    ได้ยังพอหล่อเลี้ยงชีวีชีวา
    พอได้หายใจ
    ด้วยความละมุนใจละไมฝันฝันฝัน
    ไปวันวันวันค่ะ คนดี36.gif
    
    พอดีหน้าบ้านพี่พุดมีเรือนจำปีแล้วค่ะ
    ต้นไม้ใหญ่มากมายพรรณที่พี่พุดขยันปลูกค่ะ36.gif
    
    และจากระเบียงบน
    หลังบ้านพี่พุดจะเห็นทัศนียภาพ
    กระท่อมชาวสวนแถวนี้ 
    ซึ่งที่ดินตอนนี้ตารางวาละหลายหมื่นแล้ว
    
    ยังกลัวไม่นาน 
    วิมานดินพี่พุด36.gif
    ก็ ...
    คงต้องพบแท่งตึกราวดอกเห็ด 
    ผุดสะพรั่งพรึบค่ะ
    
    ก็..เลยรีบฉลาดตักตวงธรรมชาติ
    ที่ยังพอพิลาสพิไล ให้นานที่สุดค่ะ36.gif
    
    ด้วยรักและรักเกินบอกกล่าวแล้วค่ะในน้ำใจน้องทั้งสองคนนะคะ
    36.gif
    
    พี่พุดไพร 
    ใจ
  • สาวบ้านนา

    4 สิงหาคม 2549 17:01 น. - comment id 595132

    36.gif
    น้องดอกบัวคะ
    มาบอกว่าพี่พุดมีโอ่งดินเผาที่ดูแดงคร่ำดิบเดิมติดดินดีค่ะ
    และกำลังหาลั่นทม ดอกระย้าหลากสี
    โดยเฉพาะพันธุ์สีขาว มาประดับให้พราวหอมเลยค่ะ 
    เลยขอกำนัลด้วย
    เรื่อง*กระท่อมลั่นทม*ในนามสาวนานะคะ
    
    
    36.gif36.gif36.gif
    
    หลายวันมานี้
    ฟ้าฝนดูมัวหม่นเทาทึมมาแทบทุกทิศทาง
    และพระพิรุณก็โปรยปรายฉ่ำชื่นแทบทุกคืนค่ำ
    ทำให้หัวใจสาวนาเลยพลอยเหงาเศร้า
    หนาวๆในอกในใจอย่างไรก็ไม่รู้
    
    
    สาวนา..คนขยันเลยรีบ
    ทำงานในนาแต่วัน
    และงานจิปาถะ
    ให้แล้วเสร็จก่อนตะวันลา
    
    
    และ
    พอยามค่ำ
    ก็จะได้มานอนฟังเสียงสายฝนรินร่ำ
    ยามตะวันโพล้เพล้
    อย่างแสนมีความสุข
    
    
    ได้จุดตะเกียงอ่านหนังสือ
    ธรรมะดีดีที่ยืมมาจากวัด
    
    บางคืนก็ต้องตกใจ
    ด้วยความกลัว
    ว่ากระท่อมโย้เย้จะพังลงมาใส่หัว
    และ
    กลัวลมพายุจะมาพัดหอบปลิวไป
    เพราะว่า
    ลมพายุมาแรงมาก
    จนจำปี..ลำดวน หางนกยูงต้นใหญ่
    ตรงทางเข้ากระท่อมไหวโอนเอนๆ
    
    
    ไหน
    สาวนายังต้องรีบไปดูแลวัวในคอก
    ไม่ให้หลุดออกไป
    และยังจะมีงานอื่นๆอีกมากมาย
    ที่ต้องระดมรับมือ
    เช่นปีนขึ้นไปเปลี่ยนหลังคาจาก
    ที่มุงไว้ให้วัวไม่ต้องเปียกฝนทนหนาว
    ตามประสายาก
    
    
    วันนี้สาวนาจัดกระท่อมใหม่
    ทั้งๆที่ในกระท่อม
    ก็ว่างโล่งแทบไม่มีสมบัติอะไรให้จัดแล้ว
    
    
    สาวนาเพียงเก็บกวาดให้สะอาดสะอ้าน
    ล้างโอ่งดินเผาที่มีมากมายหลายใบริมชายคา
    ที่สำหรับเก็บน้ำไว้ใช้
    ทั้งไว้ต้มดื่มกิน
    
    และทั้งไว้ใช้ประกอบกิจสาระพัด
    ที่สาวนาจะจัดแยกประเภทไป
    
    
    โอ่งไหนไว้ทำกับข้าว
    โอ่งไหนไว้ล้างหน้า
    โอ่งไหนไว้ดื่มกิน..
    โอ่งไหนไว้รับแขก
    
    
    สำหรับโอ่งน้ำดื่มไว้รับแขกนั้น
    เป็นโอ่งโบราณสีเขียวไข่กา
    ที่วางไว้ริมชานกระท่อม
    
    
    ทั้งนี้ทั้งนั้น
    ก็เพราะสาวนาถูกอบรมมาแบบโบราณจากคุณยายว่า
    ต้องมีน้ำดื่มไว้ให้แขกผู้ผ่านมาและกระหายหิวน้ำ
    ตามคำที่ว่าใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ
    
    
    สาวนาจัดแยกเก็บข้าวของตามประเภท
    ไม่ให้ปะปนรกรุงรัง
    เสื้อผ้า
    ก็เช่นกันจะชุดนอนชุดไปเที่ยวไปวัด
    ก็ต้องจัดแยกไว้ให้งาม
    จัดพับอย่างสวยแล้วอบร่ำด้วยกลิ่นดอกไม้แห้ง
    รายรอบกระท่อม
    
    
    ที่สาวนาดัดแปลงทำเองแทนน้ำหอมน้ำอบ
    เพราะชอบกลิ่นมากกว่า
    หากทว่าก่อนจะเก็บต้องตากแห้งเสียก่อน
    แล้ว
    
    
    ค่อยๆห่อกับกระดาษสาซับเก็บไว้
    แล้วถึงซุกไว้กลางกองผ้า
    จะหอมหวนชวนดม
    ด้วยกลิ่นดวงดอกไม้ไทยงามๆ
    แยกหอมตามกลิ่นของดวงดอกไม้นั้นๆ
    เช่นกลิ่นจำปี จำปา กระดังงา ลีลาวดี 
    หรือลั่นทมพุดซ้อน
    กลิ่นมะลิลา มะลิซ้อน ลำดวนดง
    
    
    ที่สาวนามิต้องพะวง
    ไปสิ้นเปลืองซื้อน้ำหอมแบบผสมสารเคมี
    มาใส่มาอบร่ำ
    ซึ่งบางทีก็ทำให้ร่างกายต้องรับสารพิษเป็นผื่นแพ้คัน
    และก็จะได้หอมแผกมากกว่า
    เป็นกลิ่นร่ำตามธรรมชาติไทยๆ
    
    
    หัวใจสาวนานั้นรักการใช้ชีวิตแบบโบราณ
    เพราะว่าไม่ว่ายุคสมัย
    จะผ่านพ้นไปนานสักเท่าไร
    ค่านิยมในความงามอย่างละเมียดละมุน
    อย่างกุลสตรีไทย
    
    
    ที่มีวิถีใจดวงงามอันรู้อ่อนหวานอ่อนโยน
    ช่างปรนนิบัติเอาใจก็หาได้ตกยุคสมัยไม่
    หากเราเรียนรู้จักนำมาสอดใส่ผสานผสม
    ห่มหอมเพื่อเพิ่มเสน่ห์มัดใจ
    แบบที่โบราณว่าไว้ให้มีน้ำสามเรือนสี่
    จะดีแก่ตัวเองเป็นยิ่งนัก
    ให้ใครๆที่มีโอกาสชิดใกล้
    ได้ชื่นชมยิ่งหลงยิ่งรัก
    ในน้ำใจแสนดีมีเมตตา
    
    
    แม้นว่ากาลเวลาและโลกนี้
    จะเปลี่ยนแปลงไป
    และ
    ผู้ชายสมัยนี้คงไม่เรียกร้องต้องการมากมายนัก
    หากเราแค่เพียงยึดหลักความละมุนละม่อม
    รู้ถนอมใจรู้กาละเทศะ
    สร้างโลกครอบครัวโลกแห่งรักให้หอมกรุ่นอบอุ่นเข้าไว้
    
    
    ร่ายมนตราแห่งความดีงามน่าเสน่หา
    ก็ใช่ว่าเสียเวลาอะไร
    แต่จริงๆบางครั้งสาวนาก็สับสน
    ที่ไยอ้ายยังไปหลงแสงสีเนื้อหนังมังสาอวบอึ่ม
    ของสาวชาวกรุง
    
    
    ก็ช่างเถอะนะหัวใจกับส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรม
    สาวนาฟังเพลงนี้แล้วก็ปลงได้เลย
    หากเขาไม่รักเราแล้วก็ช่างต้องปล่อยเขาไปปล่อยเขาไป
    
    
    
    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=495
    ส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรม 
     
    ส่วน ของ หัวใจ
    ที่คุณแบ่งให้
    มัน น้อย เกิน ไป สำหรับใจฉัน
    คุณ ให้ ไม่ ถึง เศษหนึ่งส่วนพัน
    รัก เรา จึง สั้น สิ้นสุดกัน แค่นื้
    สิ้นสุดกันที สิ้นสุดกันที
    ส่วน ความ ช้ำ ชอก 
    ที่คุณตอกย้ำ
    มาก เกิน จด จำ ลึกล้ำเหลือดี
    ย่อย ยับ แค่ ไหน ใยไม่ปราณี
    หวัง เพียง ข-ยี้ ให้ฉันนี่ แดดิ้น
    สิ้นสุดกันที สิ้นสุดกันที
    วันนี้มันสาย เกินไป
    สายเกินไปกว่า
    จะมาเริ่มรักกันใหม่
    ป่วยการหลอกกัน ต่อไป
    มันจบเกมส์แล้ว จนใจ
    สิ้นสุดไม่เหลือตั้งแต่เมื่อวาน
    ส่วน ของ หัวใจ
    ที่คุณแบ่งให้
    เชิญ รับ คืน ไป ฉันไม่ต้องการ
    คุณ ให้ ฉัน น้อย
    น้อยเหลือประมาณ
    รัก จึง ตาย ด้าน
    สิ้นสุดกันแค่นี้ 
    สิ้นสุดกันที สิ้นสุดกันที
    
    วันนี้มันสาย เกินไป
    สายเกินไปกว่า
    จะมาเริ่มรักกันใหม่
    ป่วยการหลอกกัน ต่อไป
    มันจบเกมส์แล้ว จนใจ
    สิ้นสุดไม่เหลือตั้งแต่เมื่อวาน
    ส่วน ของ หัวใจ
    ที่คุณแบ่งให้
    เชิญ รับ คืน ไป ฉันไม่ต้องการ
    คุณ ให้ ฉัน น้อย
    น้อยเหลือประมาณ
    รัก จึง ตาย ด้าน
    สิ้นสุดกันแค่นี้ 
    สิ้นสุดกันที สิ้นสุดกันที...
    *******
    
    
    
    สาวนาจะไม่เสียใจอะไรนาน
    เพราะสาวนา
    มีหัวใจดวงใสดวงธรรมล้ำค่า
    
    
    ที่ทุกครั้ง
    ที่ไปวัดได้ฟังธรรมที่หลวงพ่อเทศน์
    กิเลสรักของสาวนา
    ก็ลดลงจนแทบอยากปลงผมบวชชี
    หนีทุกข์ทุกรักเข้าวัดเข้าวารักษาศีลภาวนาเสียมากกว่า
    
    
    เพราะเบื่อชีวิตว่ายวนเหลือทน
    เมื่อยิ่งหันมาพิจารณามรณานุสติ
    ก็จะยิ่งเห็นชัด
    กับวิบากเก่าวิบากรรมที่ย้ำรอยในทุกผู้คน
    ที่หนีอย่างไรก็ไม่พ้นรอยกรรมราวรอยเกวียน
    หากมิตั้งจิตอธิษฐานเพียรภาวนา
    อย่างมิยอมท้อแท้แพ้พ่ายทางโลกย์เสียก่อน
    
    
    และ
    ไม่ว่าจะหันไปดูคู่ไหน
    ไม่ช้านานรักที่แสนหวานก็พานขมปี๋
    เหลือรักที่จะจีรัง
    ก็คือคนพวกทีฉลาดล้ำ
    แปรรักเนื้อหนังเสน่หา
    
    มาเป็น
    มิ่งมิตรสนิทแบบฉันท์เพื่อน
    ไว้พึ่งพาพึ่งพิงยามชราแก่เฒ่า
    ได้หามกันเข้าวัดหรือไม่ก็เข้าโรงพยาบาล
    และไม่นานมานี้
    
    
    สาวนา..ได้มีโอกาสรู้จัก....
    พี่ชายคนดีที่ชื่อวิน
    มิตรธรรมคนยาก
    ที่พบกันแทบทุกครั้งที่วัด
    
    
    พี่วิน
    เป็นม่ายเพราะเมียตายด้วยโรคร้าย
    เลยหาที่พึ่งทางใจ
    และ
    ด้วยอยากมาทำบุญ
    สร้างกุศลทานผ่านไปให้ภรรยา
    เลยเพียรมาวัดบ่อยๆ 
    
    
    ทั้งๆที่ไม่รู้ดอกนะ
    ว่าจะฝากกุศลผลบุญ
    ส่งไปถึงหรือไม่
    แต่พี่วินก็บอกว่า
    แสนจะรู้สึกดีมีความสุขสงบ
    รู้รำงับใจ
    สบายใจอิ่มใจยังไงก็ไม่รู้
    
    
    ตั้งแต่ได้ย่างกราย
    มาชิดใกล้ชายผ้าเหลือง
    
    ที่มีหลวงพ่อที่น่าเคารพศรัทธา 
    ไม่หากินกับญาติโยม
    ไม่หลอกให้เชื่อในทางที่ขัดกับพระธรรม
    พยายามเพียรน้อมนำคำสอนมาสอนอย่างมีเหตุมีผล
    
    
    ว่าคนเรานั้น
    ชีวิตที่ดีต้องมีการพยายามรักษาศีลให้สะอาด
    ให้ทานเพื่อสละออกอย่าให้ขาด
    และที่สำคัญราวหัวใจศาสนาพุทธเลย
    คือให้จิตจับกับปัจจุบันขณะ
    
    
    ให้รู้เพียรภาวนาสมาธิจะได้
    มีปัญญาพาพบทางแห่งความว่างสะอาดสงบ
    ตลอดไปทุกภพชาติ
    
    
    และนี่คือผู้ชายคนดีพี่ชายคนดี
    ที่สาวนายอมพลีใจอีกครั้ง
    
    ที่จะได้ทำความรู้จัก
    เพื่อแลกความคิดทางจิตทางธรรม
    เสมือนเพื่อนพึ่งพากันและกัน
    อย่างกัลยาณมิตรเรื่อยมา
    
    
    สาวนา
    จึงมีความสุขมาก
    กับชีวิตสงบสุขสมถะเรียบง่ายลำพังนี้
    ที่แม้นจะดายเดียวสักเท่าไร
    
    หากทว่าหัวใจก็ผ่องแผ้วราวไร้พันธนา
    ไม่ต้องมีบ่วงห่วงรัก
    ไม่พักต้องลากใคร
    มาร่วมรับบ่วงห่วงโซ่กรรมร่วมกัน
    จนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง
    
    
    ทุกคืนค่ำสาวนา..ผู้มีศรัทธาแรงกล้า
    จึงพยายามจัดเรือนลีลาวดีหรือเรือนลั่นทม
    ที่ราวกับกระท่อมไพร
    แสนหวานระทม
    แสนงามเศร้า
    
    
    ที่สาวนา
    ปลูกแยกออกมาจากกระท่อมทับอาศัย
    และแฝงในร่มเงาดงดวงดอกลั่นทม
    หลากสีสรร
    ทั้งขาว แดงชมพู เหลืองอมส้ม 
    ที่มากมายหลายหลากพันธุ์
    ถึงกว่าสามร้อยชนิด
    
    
    ที่สาวนาแสนหลงใหล
    แสนรักมานานนักหนาแล้ว
    
    จนเร้าใจให้เพียรศึกษานำมาเพาะปลูก
    จนเป็นดง
    ให้ใครๆพากันมาหลงใหลชื่นชม
    ในดวงดอกงามทุกยามเย็น
    ที่นะบัดนี้กำลังบานสะพรั่ง
    ส่งกลิ่นระรินร่ำอวดอกดกชูช่อ
    พ้อสายฝนและลมเย็น
    
    และ
    บางวัน
    ในยามตะวันลา
    สาวนาจะมานอนเล่น
    หรือไม่ก็มาร้อยมาลีมาลัยลีลาวดี
    ไปพลีถวายเป็นพุทธบูชา
    ยามนั่งสมาธิภาวนา
    และ
    
    
    และทุกยาม
    ที่ดวงดอกงามเศร้า
    ถึงเวลาร่วงโรยโปรยปลิด
    ลงเกลื่อนพื้นพสุธา 
    ยามนั้น
    สาวนาจะมีความสุขมาก
    ที่ได้นอนแหงนเงยดู
    และ
    แอบขนานให้นิยามลานฝันนั้นว่า
    *ลานลั่นทม
    
    
    และบัดนี้มีกระท่อมลั่นทม
    เป็นดั่งเรือนใจเรือนภาวนาเรือนสมาธิ
    ที่แสนดีแสนงาม
    แสนสงบสุขสมถะ
    ของสาวนาแล้ว
    
    
    
    และ
    ราตรีนี้
    สาวนาก็เลยไปเด็ดดวงดอกกระดังงา
    และร้อยมาลัยลีลาวดีมาลัยลั่นทม
    มาถวายเพื่อเป็นพุทธพลีบูชา
    หน้าพระพักตร์พระพุทธ 
    
    
    
    และ
    ยามที่สาวนาจุดเทียนทอง
    แสงเทียนจะส่องพร่างพรายจะจับดวงดอกไม้
    ราวพาให้สาวนาได้ระลึกตระหนักรู้ว่า
    
    
    ความทุกข์ระทมนั้นมันอยู่ใกล้เรานี่เอง
    หากเราเพียงไม่ยึดมั่นถือมั่น..แล้ววางมันไว้
    ราวดวงดอกไม้นามลั่นทม
    
    
    
    เราก็จะไม่ตรมไม่ตรอม
    กลับให้หอมห่มในห้วงจิต
    ได้สถิตเป็นดั่งรักนิรันดร์
    
    
    เฉกเช่นเดียวกับไม้ทุกพรรณ
    ที่ให้หอมงามกำนัลแด่โลกแล้วปลิดกลีบโรยรา
    เหมือนชีวิตจิตทุกดวง
    ที่รู้ว่ากาลเวลารอลอยลาร่วงลงสู่พื้นพสุธา
    หาช้านานไม่ หาจีรังไม่..
    
    *************
    
    
    
    
    บนลานลั่นทม   
    
    แดนดินใด ไม่แม้นแดนลานลั่นทม
    ดุจดั่งสวรรค์แดนพรหม สวยสุดสมคำชมได้
    ฮือฮือ ฮือ ฮือ ฮือฮือ ฮือ ฮือ ฮือ
    ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ
    ทิว เขียว ลิ่วไกล เพลินมองไป
    เสียงลมไกวกิ่งไหวดังซู่
    ทิ้ง ขั้ว หล่นปลิว ลั่นทมพริ้วโชยร่วงพรู
    แม้น ดังพรม ลาดปู ดุจทางสู่
    สุดสวรรค์ เทวัญ
    
    ลมรำเพย ความหอมชวนดอมลั่นทม
    สูดกลิ่นถวิลเชยชม แสนสุขสมอารมณ์มั่น
    ฮือฮือ ฮือ ฮือ ฮือฮือ ฮือ ฮือ ฮือ
    ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ
    ใจ หวน ตื้นตัน เกินจำนรรจ์
    เพ้อรำพันว่าหอมใดเท่า
    หอม ชื่น ลั่นทม เมื่อลมพริ้วมาเบาเบา
    ล้าง สิ่งตรม อกเรา ให้คลายเศร้า
    ที่คอยเผา โทรมใจ...
    
     
      
     
    
    
    http://www.lilavadee.com/download_p01.html
    ลีลาวดี (Frangipani)
    
    เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ใบมีสีเขียว โตและหนา มียางมาก ดอกมีสีขาว-เหลือง ขาว-แดง
    ส่วนที่ใช้ ทั้งต้น เปลือกต้น ดอก เนื้อไม้ ยางจากต้น และเปลือกราก
    
    สรรพคุณ 
    ทั้งต้น ใช้ปรุงเป็นยารักษาโรคลำไส้พิการของม้า
    ใบ เอาใบแห้งมาชงน้ำร้อนใช้รักษาโรคหอบหืด หรือนำใบสดมาลนไฟให้ร้อนแก้ปวดบวม
    เปลือกราก ใช้เป็นยารักษาโรคหนองใน เป็นยาถ่าย แก้โรคไขข้ออักเสบ ขับลม
    เปลือกต้น นำมาต้มเป็นยาถ่าย ขับฤดู แก้ไข้ แก้โรคโกโนเรีย หรือให้ผสมกับน้ำมันมะพร้าว ข้าวและมันเนย ซึ่งจะเป็นยาแก้ท้องเดิน ยาถ่าย ขับปัสสาวะ
    ดอก ใช้ทำธูป แต่ถ้าใช้ผสมกับพลูเป็นยาแก้ไข้ แก้ไข้มาลาเรีย
    เนื้อไม้ เป็นยาแก้ไอ ในประเทศเขมร ใช้เป็นยาถ่าย ขับพยาธิ
    ยางจากต้น เป็นยาถ่าย รักษาโรคไขข้ออักเสบ ทำให้เกิดผื่นแดง ถ้าใช้ผสมกับไม้จันทร์และการบูรเป็นยาแก้คัน แก้ปวดฟัน
    
    
    16.gif16.gif16.gif16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    4 สิงหาคม 2549 21:16 น. - comment id 595167

    36.gif16.gif36.gif57289_wallpaper280.jpg
    
              กระท่อมคุณพุด น่าอยู่จริงๆนะเรียบง่าย
    สมถะแต่ได้ในอารมณ์
    
                16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน