http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song222.html (ฉันรักเธอเสมอ) ฝนเทสายลงมาราวฟ้ารั่ว ดั่งม่านหมอกสลัวเลือนลางกลางใจขวัญ น้ำตาเอ๋ยไยพร่างเฉยอย่างเงียบงัน โลกโศกศัลย์เกินกล่าวบอกเล่าใคร นันย์ตาพร่ามองเห็นโลกโศกสิ้นสุข มากล้นทุกข์ในดวงใจแสนหวั่นไหว เมื่อที่รักมาเจ็บร้าวหนาวเหน็บใจ อ้อมกอดใดไหนเทียมเท่าเฝ้าเพียงภักดิ์ ควะคว้างดั่งอยู่ปลายโลกร้างนาทีนี้ รอสายนทีรี่ไหลเย็นเป็นนิรันดร์รัก จุดเทียนทองอธิษฐานพระพุทธพักตร์ จงประจักษ์จิตเราสองปองทำดี สวดมนต์สมาธิพลีน้ำตาให้ฟ้าดินจงรับรู้ เมตตาเราทั้งคู่เคียงกันในชาตินี้ เป็นคู่ทองครองกุศลธรรมงามชีวี จงปรานีคืนดวงใจลูกมาเถอะฟ้าดิน.... ..................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3056.html (ตราบใด) http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song222.html (ฉันรักเธอเสมอ) ***************** ฟ้าโพล้เพล้ สนธยาใกล้ลาลับ ทั่วนภางค์พร่างรัศมีสีส้มเจือชมพู ใกล้ค่ำแล้ว... ไพลนอนสยายผมในวิมานดินบนเตียงโบราณ จุดเทียนงามอ่านหนังสือ*โรดันเต้รำลึก* ในลึกซึ้งแสนคิดถึงสงสารพระเอกที่เป็นหมอ ที่ยอมตายแทนลูกชายสุดที่รัก และยิ่งเศร้าล้ำนัก เมื่ออ่านแกล้มกลิ่นหอมเศร้าของเจ้าดวงดอกการะเวก เต็มตะกร้าที่เพิ่งเด็ดมาให้หอมอวลให้ห้องหับโบราณ ด้วยม่านมุ้งสีขาว หมู่นกกา ร้องระงม ราวฝันไป ว่าอยู่ในกระท่อมไพรริมทะเลสาบสีเงิน พระพิรุณโปรยสายพรายพลิ้ว ได้ยินเสียงดนตรีแก้วดนตรีฝนดนตรีฝัน ช่างพริ้งพราวหนาวใจเป็นยิ่งนัก เสียงหยาดฝนสัมผัสเผาะ เผาะ จับหลังคาบ้านวิมานดิน วิมานใบไม้ ยอดไม้ใบหญ้า ..ระรินๆ รอเวลารับขวัญจันทร์เสี้ยว ดวงเดียวดวงเดิม ดายเดียว ที่กำลังค่อยๆเริ่มเลี้ยวลดปรากฎออกมาจากขอบฟ้า ค่อยๆเผยเสี้ยวหน้าเกลียวทองมาผ่องผุดหยุดคลี่ยิ้มหวานๆ ราวรอรับเราไปเที่ยวกับเรือจันทร์เสี้ยวสีทอง ลอยล่องไปในกลางทะเลเมฆสู่ความวิเวก สู่แดนหิมพานต์วิมานแมนวิมานเมือง หอมกลิ่นกรุ่นของลั่นทม.. ผสานผสมมากับสายลมเย็นในยามค่ำ เจ้าทิ้งเศร้าร้าวราโรยหล่นเกลื่อนพื้น..ให้หอมเต็มตื้นใจ จำปี..สลัดกลีบเรียวยาวใบเหลือง ราวไร้ไยดี.. มิจำเดือนมิจำปีที่ผันผ่าน แก้วตระการบานชู่ชอสะพรั่ง ราวหวังรอ..ใครกันนะ..มาดอมดมพรมจูบ ให้กลับมาเป็นแก้วตาขวัญใจ ในยามนี้ที่เงียบงาม..อย่างเหลือเกิน.. ใบพลูด่างยักษ์เหมือนในป่าใหญ่ไพรกว้างโตรกธารรก ป่าอเมซอนอ้อนอ้อยสร้อยพันร้อยรัดต้นมะม่วง แผ่ยวงใบราวพัดลายพรายพร้อย เขียวแซมสร้อยเหลืองพรายสลับลายสลับสี เห็นกล้วยกอใหญ่ห้อยหวีไหว หอมกลิ่นใบตองนวลนวล อวลอบตระลบมากับสายลมเย็นในยามค่ำ ทั้งกล้วยเล็บมือนางและกล้วยน้ำว้า คงมิต้องรอท่านานจะได้กินหวานๆธรรมชาติๆ หลายวันก่อน เพิ่งปีนไปตัดใบตองอรชรออกมากองใหญ่เพราะแน่นไป จนมิอาจเห็นแดดละออทอทอดสอดแสงผสานผสม ให้เกิดงามระยิบ ระยับรับนวลเรียวเขียวไพลเขียวพร่างกระจ่างจิตกระจ่างใจ ในยามอรุณรุ่งกับแสงสีรุ้งระยับทองพร่าง คิดๆไปกล้วยก็สอนใจให้กระจ่าง ราวธรรมชาติใจธรรมดาใบตอง ของต้นกล้วยกำลังบอกใบ้ให้ใช้ชีวิตไปวันๆแบบกล้วยๆ ให้คิดถึงคำม้วยมรณา ไม่ช้านานทุกท่านทุกคนทุกดวงใจ อย่ารีบใส่ความเครียดเกลียดโกรธโลภหลงพะวงหาใครๆ ที่ไม่รักเราที่หัวใจใครหัวใจเขาคงมิได้มาแบบกล้วยๆ ใกล้ค่ำแสนดี ......ที่แสนสุขใจ เปิดเพลง บรรเลง.......ไพเราะ..คลอ ยามค่ำ*ตราบใด.* http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3056.html ตราบใด ตราบใดเธอแหละฉันยังมี หัวใจเดียวกัน จะไม่ลืมสัญญา ฮื้ม จะไม่มีอะไรมาเปลี่ยน รักเราจนกว่า ดวงตะวันทอแสงสุดท้าย ตราบใดบนฟากฟ้ายังมี แสงดาวพร่างพราย จะไม่ลืมสายตาซึ้งใจ จะมั่นคงในความรู้สึกที่เธอมีให้ ขอให้ฟ้าและดาวช่วยเป็นพยาน ตราบใดฟ้า ยังมีแสงดาวข้างเคียงคู่ใจ นานสักเพียงไหนไม่เคยห่างกัน ดั่งความรัก ที่เราสองคนรวมใจผูกพันธ์ เราจะมีกันไม่เคยห่างไกล เราสองสัญญา จะอยู่เคียงนิรันดร์ จดจำแม้วันสุดท้าย ตราบใดเธอแหละฉันยังมี หัวใจเดียวกัน จะให้เธอพักพิงด้วยใจ หลับตาลงยังคงรู้สึกว่าเธออยู่ใกล้ เหมือนว่าฉันอิงกายข้างเธอนิรันดร์ ตราบใดฟ้า ยังมีแสงดาวข้างเคียงคู่ใจ นานสักเพียงไหนไม่เคยห่างกัน ดั่งความรัก ที่เราสองคนรวมใจผูกพันธ์ เราจะมีกันแม้วันสุดท้าย ตราบใดฟ้า ยังมีแสงดาวข้างเคียงคู่ใจ นานสักเพียงไหนไม่เคยห่างกัน ดั่งความรัก ที่เราสองคนรวมใจผูกพันธ์ เราจะมีกันแม้วันสุดท้าย ตราบใดฟ้า ยังมีแสงดาวข้างเคียงคู่ใจ นานสักเพียงไหนไม่เคยห่างกัน ดั่งความรัก ที่เราสองคนรวมใจผูกพันธ์ เราจะมีกันแม้วันสุดท้าย แม้วันสุดท้าย... ************** ตอกสลักตรึงดอกดวงใจ ให้จิตภายในไร้ผู้ใดก้าวมาล้วงล้ำก้ำเกิน เพียงพาใจเพลินเสียงเพลงหวานเศร้า ให้ดำดิ่งลึกล้ำ หลับตาแล้วใช้จิตพาตัวเองไปนอนริมหาดทราย ให้ร่างมลังเมลืองรับสายแสงสีทอง ยามตะวันตกต้องผืนน้ำ..แผ่นฟ้ามหาสมุทร และส่งสายใจสายใยรัก ไปหยุดที่..เวิ้งฝันในจินตนาการ ที่งามพราวราววิมานทอดสถิต เป็นงามว่างงามจิตกระจ่างไปตราบชั่วนิจนิรันดร **************************** มหัศจรรย์แห่งรักสิบห้าปีที่รอคอย ผมกำลังขับรถ กลับกระท่อมน้อย ในไพรกว้าง ที่ไร้ร่างรักของผู้ใดรอคอย... นอกจากเจ้าสุนัขน้อยนามลิเดย์ เพื่อนผู้รู้ใจมานานปี.. เพลงรัก กำลังครวญคร่ำ POWER OF LOVE ที่เต็มไปด้วยพลังรัก พลังฝัน หวานหวังสร้างพลังใจ ผมตัดสินใจ เปลี่ยนเส้นทาง อย่างกะทันหัน เลี้ยวซ้าย ลงสู่เส้นทางเลียบทะเลสาบสีเงิน สนธยาทายทักลมร้อน รอนแสงแดดอ่อนอุ่น กับไรฟ้าขลิบทอง หางนกยูงกำลังรำฟ้อนอ้อนแสงสุดท้าย ยามสายันณ์ตะวันรอน ผมเปลี่ยนเพลงใหม่ ในไหวหวามของหัวใจ ในไหวงามของธรรมชาติ ให้ปลอบประโลมใจที่กำลังครวญคร่ำ..ร่ำไห้ มิอายฟ้าดิน ลำพัง เสียงคุณ คนดีที่ผมแสนรัก เศร้าซึ้งสะเทือนใจ กับบทเพลงนี้ ที่คุณฝากมาให้ผมฟัง ในยามที่เราสิ้นหวังจะได้พบพาน ในวันพรากจาก ยอดรัก.. จงมองที่ขอบฟ้า.. โอบโอบโค้งลงมา นั่นคืออ้อมกอดจากฉัน ยามเมื่อเราไกลกัน ใจฉันดังอยู่เคลียเคล้า... ยอดรัก... สายลมอ่อนละมุน นั่นคือสามลมอุ่น ฉันพรมและจูบลูบไล้ เธอรู้บ้างหรือไม่ รักใครไม่เทียบเทียมฉัน. คืนวันจะผันเปลี่ยนไป.. แต่ใจฉันไม่อาจเปลี่ยนเวียนผัน ซื่อตรงคงรักนิรันดร์.. หากลืมฉัน ฉันคงต้องกลั้นใจตาย.. ยอดรัก.. การจากทั้งผูกพัน ย่อมจะคิดถึงกัน เร่งวันคืนกลับเคียงกาย..(ฮัมๆๆๆ) ยังรักเธอไม่หน่าย วันตาย นั่นแหละวันลืม...... ............................... น้ำตาผมร่วงริน..น้ำตาลูกผู้ชายคนนี้ ที่ยินดีหลั่งรินไห้ ผู้หญิงในสายถวิลในดวงใจ.. ใช่เลย..กับวันนี้.. กับสิบห้าปีที่รอคอย..กับเสียงกระซิบสั่ง ถึงความหลัง จากโพ้นฟ้าไกล.. ในวันเกิดนี้ที่คุณขอให้ผมโชคดี มีความสุข เสมอมา ยาวนาน..มิเลือนลืม.. ผม..เก็บน้ำคำ เก็บน้ำใจ ที่อยากฝากหวังฝากใจ ไว้ในหัวอกหัวใจลูกผู้ชายอกสามศอกนี้ มิอยากให้คนดี ช้ำตรม ผมเก็บแม้กระทั่งผ้าห่ม ผืนเก่าเนานาน ที่คุณเคยส่งมาให้ยามผมนอนหนาวดายเดียว ในไพรกว้างอย่างผู้พิทักษ์ไพร ทุกคืนค่ำ ผมกลายเป็นหนุ่มน้อยผู้หลงทาง อ้างว้างใจยามสิ้นไร้คุณ จนต้องอาศัยผ้าห่มผืนนุ่ม แทนนุ่มเนียนเนื้อที่เฝ้าฝันใฝ่หา ในทุกราตรี คุณ..คือผู้หญิงคนพิเศษเสมอมา ..... ในดวงตา ดวงใจลูกผู้ชายดิบเดิมคนนี้ ที่หนักแน่นมั่นคงดั่งแผ่นผา ที่ต้องใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตทำงานติดดินถวิลไพร... ใช่เลย ..ผมกำลังร้องไห้ กับดวงใจเราสองที่พิสุทธิ์ใส ที่ไม่เคยมีใครเข้าใจและล่วงรู้ กับมหัศจรรย์แห่งรักนี้ที่แสนหอมหวาน ในใจมานานเนิ่น และจะเป็นมหัศจรรย์รักชั่วนิจนิรันดร... ในความรักนั้น.. อย่าได้พิพากษาใคร หากหัวใจคุณมิเคยพบกับคำๆนี้ คำแสนดี แสนยิ่งใหญ่ แสนเสียสละ รู้คุณค่า รู้หน้าที่ รักอย่างมีเหตุผล รู้ดีชอบ ที่มนุษย์ผู้ที่มีใจละเอียดอ่อนเพียงนั้น พึงได้มาครอบครองเป็นเจ้าของ มิสร้างรอยร้าว คิดร้ายมุ่งทำลาย ให้หัวใจดวงบอบบางบอบช้ำ ซ้ำเติมใจกันและกัน .......... เกลียวคลื่น กำลังครวญคร่ำ ทะเลกำลังร่ำไห้ กับนวลแพรดาวกับพราวน้ำตาเทียนวะวับวาวกลางกระท่อมไพร และผมกำลังซบหน้ากับฝ่ามือสะอื้น อย่างไม่อาย อย่างลูกผู้ชายที่รักเป็นที่ร้องไห้เป็นในรอบสิบห้าปีที่รอคอย... ....................... ขุมปัญญาในอณูของดอกไม้ เป็นมนต์ร่ายระบำรอผีเสื้อ ขุมปัญญาที่ธรรมชาติโอบเอื้อเฟื้อ คือเหลือเชื่อมหัศจรรย์รักผลักดันมา.. โลกหมุนไปมีธรรมชาติมีทุกสิ่ง จักรวาลมีสิ่งลี้ลับให้ค้นหา ไยดวงจันทร์ถึงโคจรรอบโลกทุกวันมา ไยมนุษย์ต้องเหว่ว้าอาวรณ์ออดอ้อนใจ เพราะคือมหัศจรรย์รักในโลกนี้ ให้มีดีมีร้ายหรือไฉน ให้เผ่าพันธุ์มนุษย์สืบทอดไป เป็นบ่วงใจบ่วงกรรมย้ำโลกเรา ตัดบ่วงใจตัดเยื่อใยสิ้นสวาท หมดสิ้นชาติหมดสิ้นกรรมใจเลิกเขลา ไม่หมุนวนหมุนเวียนใช้กรรมเก่า ให้ใจเราว่างว่างวางเฉย..เลิกรักใคร! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song222.html ฉันรักเธอเสมอ ทิพย์วรรณ ปิ่นภิบาล หากตราบใด สายนที ยังรี่ไหล สู่มหา ชลาลัย กระแสสินธุ์ เกลียวคลื่นยัง กระทบฝั่ง เป็นอาจินต์ เป็นนิจสิน ตราบนั้น ฉันรักเธอ เช่นตะวัน นั้นยังคง ตรงต่อเวลา แน่นอนนัก รักท้องฟ้า สม่ำเสมอ เช่นกับฉัน มั่นคง ตรงต่อเธอ ฉันรักเธอเสมอ ฉันรักเธอเสมอ ชั่วนิจนิรันดร์ เช่นตะวัน นั้นยังคง ตรงต่อเวลา แน่นอนนัก รักท้องฟ้า สม่ำเสมอ เช่นกับฉัน มั่นคง ตรงต่อเธอ ฉันรักเธอเสมอ ฉันรักเธอเสมอ ชั่วนิจนิรันดร์...
29 มิถุนายน 2549 08:34 น. - comment id 587106
คิดๆไปกล้วยก็สอนใจให้กระจ่าง ราวธรรมชาติใจธรรมดาใบตอง ของต้นกล้วยกำลังบอกใบ้ให้ใช้ชีวิตไปวันๆแบบกล้วยๆ ให้คิดถึงคำม้วยมรณา ไม่ช้านานทุกท่านทุกคนทุกดวงใจ อย่ารีบใส่ความเครียดเกลียดโกรธโลภหลงพะวงหาใครๆ ที่ไม่รักเราที่หัวใจใครหัวใจเขาคงมิได้มาแบบกล้วยๆ พี่พุดพุดถูกนะคะ เรื่องนี้กานต์ก็เป็นนางเอก อิอิ
29 มิถุนายน 2549 07:45 น. - comment id 587128
พี่พุดดดดดดดดดดดดดดด คืนนี้นอนไม่หลับ เพราะคิดถึงพี่สาวมากกกกกกกกกก อิอิอิอิอิ ลมกลางคืนโรยทั่วฟ้า ความเหงาชะรอยลอยตามมา ฉันเพ่งอารมณ์ทำไมเป็นเช่นนี้ หัวใจคงมักง่าย อยากคิดอะไรพล่านคิดไปได้ทุกอย่าง คืนนี้นิทราคงว่างเปล่าสำหรับฉัน ความฝันที่เคยมี มันคงสลายไป เมื่อไม่มีเธออออออออออ......
29 มิถุนายน 2549 09:04 น. - comment id 587136
วันตายนั่นแหละวันลืม โอย กานต์เป็นนางเอก อิอิ
29 มิถุนายน 2549 10:15 น. - comment id 587154
ห้วงสายชลวนเชี่ยวเป็นเกลียวคลื่น ดุจสะอื้นคืนรักพรากจากใจฉัน วกวนเวียนเจียนคลั่งดั่งไฟกัลป์ โถมชีวันดังแยกแตกสายชล.แก้วประเสริฐ.
29 มิถุนายน 2549 10:18 น. - comment id 587155
ยายกานต์รูปให้คุณพุดสวยถูกใจลุงมาก ขอเก็บไว้ด้วยนะบางทีอาจนำมาประกอบกลอน ขออนุญาตมา ณ ที่นี้ก่อนนะจ๊ะคงไม่ว่าอะไรนะจ๊ะ แก้วประเสริฐ.
29 มิถุนายน 2549 19:52 น. - comment id 587303