เห็นลิบลิบลิ่วลิ่วทิวตะครุ่ม เป็นกลุ่มกลุ่มเกาะใกล้ใช่ละเหว๋ย แน่ละซิพี่ม้าไปหาเลย โอ้อกเอ๋ยอยากเห็นตื่นเต้นจัง นิลมังกรได้ฟังไม่รั้งช้า ตะกายขาหน้าผงกโขยกคลั่ง กระทุ่มน้ำทำฟองคะนองดัง ไม่เหลียวหลังรุดรุดเหมือนฉุดมา เห็นเขาเขินเนินโหนกชะโงกหิน ดูบุบบิ่นเบี้ยวบั้งกระทั่งผา ชะวากเวิ้งแหว่งเว้าเหมือนเบ้าตา เหมือนหนึ่งว่าหน้ากะโหลกมาโงกดู ที่ใกล้ใกล้ก็ละม้ายคล้ายตะบอง เป็นหินกองก่อแท่งตะแคงอยู่ ตรงหว่างกลางพร่างพร้อยมีรอยพรู หินยอบยู่เยินยับเหมือนกับตัว ให้ครั่นครั่นหวั่นหวาดประหลาดใจ เอะไฉนกันนี่พี่ม้ามั่ว ก็เกาะนี้หนักหนาดูน่ากลัว พี่ม้ายั่วโยกยักพยักพยอ เห็นหาดทรายรายลาดระดาษขาว ดูแพรวพราววาววับระยับส่อ ส่งสะท้อนย้อนตาก้มหน้างอ ม้าโก่งคอฮ่อหึ่งตะบาน เสียงผลุงผลุงพลุ่งพล่านน้ำบานโร่ ปลากระโฮ่โพล่มาทำตาหวาน กะพงทองท่องน้ำแล้วดำนาน จระเข้พาลผาดโผดกระโดดตูม ปลากระเบนเผ่นแน่บแฉลบฉิว ฝูงปลาซิวซ่านกระเด็นเป็นขยุ่ม ราหูหอยลอยผิวปลาซิวรุม ฉลามซุ่มทุ่มแทรกว่ายแหวกมา ปลาวาฬว่ายวาดหางทำขวางตัว ปลาแก้วกลัวกระเซิงกระเจิงซ่า ปลาไหลเปรียวเลี้ยวแล่นแน่นประดา มังกรม้าพาบึ่งตึงตึงไป เข้าถึงหาดขยาดเขาเขย่าขวัญ สะพรึงพรั่นหวั่นผวาอุราไหว ทะมึนทึงประหนึ่งยักษ์จะควักใจ จนเหงื่อไคลไหลครึกระทึกทรวง นิลมังกรผ่อนผัดสลัดหล่น กระแทกก้นชนปุบดังตุบร่วง จนเจ็บเศียรเวียนหาวเห็นดาวดวง ระยิบยวงหยับหยับระยับตา เลยนึกโกรธโทษม้ามังกรนิล ชักโคตรสิ้นแสบสันปากลั่นด่า อ้ายห้าร้อยน้อยอยู่หรือนี่วา อ้ายลูกหมาหน้าเกล็ดไม่เข็ดตู ทำตูได้อ้ายถ่อยปล่อยตูกลิ้ง สลัดทิ้งทุดบ้าอ้ายหน้าหมู เอ็งจะโดนมิใช่น้อยเอ็งคอยดู อ้ายหน้าทู่ทีนี้เห็นดีกัน ทั้งสองครั้งสองคราชังหน้านัก อ้ายหอกหักเห็นไม่ว่าทำก๋ากั่น เอ็งบังอาจอวดดีทุกวี่วัน เห็นอัดอั้นเอาใหญ่ใจกำเริบ กำลังด่าว่าถากจนปากสั่น พอเหลียวหันมันก็หายสบายเฉิบ น้ำบานโร่รุดรัวหัวกระเดิบ หางพะเยิบหยอยหยอยจนคล้อยตา จะกล่าวยังนังยักษ์ผีเสื้อสมุทร วันนั้นหยุดงุดงู้อยู่คูหา เป็นถ้ำเก่าเล่ากันแต่นั้นมา กำลังบ้าบ่นพล่อยคอยสามี โอ้ยห่อเหี่ยวเปลี่ยวอกเหมือนตกเหว อ้ายผัวเลวเล็ดลอดดัดดอดหนี ทั้งลูกเต้าตามไปตั้งหลายปี ไม่เห็นมีทีท่ากลับมาเลย โอ้อนาถขาดรักเหมือนหักหัว ต้องอดผัวอดอยากมันยากเหว๋ย ถึงอดอื่นหมื่นอดพอชดเชย โอ้อกเอ๋ยอดผัวเหมือนตัวตาย จะมองถ้ำน้ำตาก็ตื่นตก มันไหลหกหล่นย้อยสักร้อยสาย พระพี่เคยเคียงนั่งข้างข้างกาย เดี๋ยวนี้หายเห็นแต่ฝาไม่กล้ามอง พระประทับรับสั่งสำเนียงเพรียก เดี๋ยวนี้เรียกแม้เท่าไรไม่เคยร้อง พระยุรยาตรย่างย่องน้องประคอง เดี๋ยวนี้หมองหมดท่าคว้าไม่เจอ แต่ก่อนเช้าเข้าป่าหาผลผัก ยังมีรักรออยู่ไม่รู้เก้อ จะรีบโจนโผนเผ่นกลับเห็นเธอ ได้เฝ้าเปรอปรนนิบัติช่วยพัดวี เดี๋ยวนี้หรือบื้อบึ่งไปถึงไหน ไม่มีใจจะกลับไปลับลี้ จนพลบค่ำจ้ำไปในนที หมดพระพี่หมดที่หาบ้าตะลอน ยามสนธยาราตรีมีแต่โศก แสนวิโยกยิ่งคิดจิตสะท้อน เคยพูดเล่นโลมเลียงเผดียงนอน แกล้งแง่งอนงุมเง้ายังเอาใจ โอ้อกเอ๋ยนับแต่นี้ไม่มีแล้ว ต้องแห้งแห้วแคล้วคลาดถึงชาติไหน นางโห่ร้องก้องฟ้าเข้าป่าไกล น้ำตาไหลรินตกทุบอกตัว ดังผลักผลักพักเดียวเสียวสลบ ล้มฟุบซบเสือกกายมือป่ายหัว นอนแน่นิ่งไม่ติงกายใจระรัว จนมิดมัวมือค่ำย่ำราตรี พอห้าวันผ่านพ้นสกนธ์ชื่น ค่อยค่อยฟื้นตื่นมาน้ำตาปรี่ ยังเจ็บปวดรวดร้าวหนาวฤดี นึกแต่ที่ทุกถมระทมทรวง แล้วลุกขึ้นขืนกายไม่วายเศร้า นั่งจุกเจ่าเหงาชีวาน้ำตาร่วง นิ่งคะนึงถึงเคราะห์จำเพาะดวง ไยต้องลวงลักหนีพระพี่เอย แม้นรับสั่งสักนิดไม่ปิดปัง อยากคืนวังเวียงชัยไม่เฉลย แม้นจะไปไปติดให้ชิดเชย พระไม่เอ่ยเอื้อนออกบอกจำนง มาลอบหนีลี้ลับไม่กลับแล้ว ใจน้องแป้วปานจะแตกแหลกเป็นผง เหมือนหนามแทงแยงยอกเขาตอกลง ใครจะบ่งปลงยอกออกจากใจ จะมีใครไหนอื่นให้ชื่นจิต อย่างกับมิตรเหมือนผัวของตัวไม่ ตั้งแปดปีที่อยู่ดูกระไร หมดเยื่อใยอยู่กับเมียไม่เสียดาย จะรังเกลียดเดียดฉันท์กระนั้นหรือ แต่น้องคือยักขินีดีใจหาย ก็อย่างยักษ์อัปลักษณ์ซักแต่กาย ใจไม่ร้ายหลอกลวงเหมือนปวงชน ส่วนเรือนร่างอย่างมนุษย์ที่สุดสวย ถึงสวยด้วยดั่งนารีมักคลีผล จะเลิศเลอเสมอใครในสากล ด้วยเวทย์มนต์ดลได้ดั่งเดียวกัน ส่วนเรื่องรักหรือยักษ์จะไม่รู้ ยิ่งกว่าอยู่ยากกว่าหมดต้องอดกลั้น เฝ้าปรนนิบัติสารพัดสารพัน แต่รุ่งวันยันมืดมิจืดจาง จะเอานู่นทูลให้ไม่ต้องบอก อย่าต้องชอกช้ำกายระคายหมาง จะเอานั่นทันทีรี่มาวาง พร้อมทุกอย่างยอบกายถวายทรง ตั้งกี่ปีมีไหมใจสักนิด จะทรงคิดความดีมีให้หลง นี่ทำไมใจดำยังทำลง มาปลดปลงปล่อยทิ้งให้หญิงคอย ความปรานีมีไหมช่างใจจืด มัวแต่มืดไม่มีจิตคิดสักน้อย ดีตั้งเยอะเลอะลบจนกลบรอย มาทดถอยลอยแพทำแชเชือน แม้เป็นยักษ์อย่างนี้ก็มีจิต ต้องทนพิษพ่ายรักใครจักเหมือน เหลือประทังคั่งค้างไม่ลางเลือน ดังใครเฉือนฉีกลากกระชากใจ มันยับยี่ปี้ปนจนจะแหลก ยิ่งกว่าแตกตกกระเด็นเป็นไฟไหม้ ยิ่งกว่าร้อนนอนนั่งบัลลังก์ไฟ ยิ่งกว่าไข้ขึ้นหัวตัวระบม รำพึงพลางร่างหวั่นสั่นสะเทิ้ม น้ำตาเริ่มรินตกซกซกถล่ม สะอื้นไห้ฮึกฮึกสะอึกลม น้ำมูกล่มไหลห้อยหยดย้อยลง....
26 พฤษภาคม 2549 16:23 น. - comment id 579817
.. เล่นคำดีจัง.. .. สงสัยคิดถึงนางยักษ์..แหงง.. เล่นเรื่องนี้มาให้อ่าน คิคิ.. ..
26 พฤษภาคม 2549 16:48 น. - comment id 579825
อ่านหลายรอบค่ะ ถึงเป็นยักษ์ก็รักจริงหรือไงค่ะ บทนี้ยักษ์รักช้ำหรือป่าวค่ะ ความรักนี้รุนแรงจริงๆตายเพราะรักก็มาก
28 พฤษภาคม 2549 12:16 น. - comment id 580077
คุณ namsai เรื่องเดิมนั้นนำกล่าวเล่าถึงเงือก ว่าจะเลือกลองรักดูสักครั้ง ส่วนว่ายักษ์มักจะทิ้งคิดชิงชัง ใครจะหวังในยักษ์รักเป็นเมีย ก็ลองแต่งแปลงเรื่องให้เฟื่องฟุ้ง ให้ม้ามุ่งมาเฉพาะเกาะยักษ์เสีย เจอกับยักษ์อยู่ถ้ำช้ำใจเพลีย ใจละเหี่ยโหยหาพระอภัย ขอบคุณครับ
28 พฤษภาคม 2549 12:22 น. - comment id 580081
คุณดอกบัว เป็นยักษ์ผีเสื้อสมุทรใน เรื่องพระอภัยมณี ครับ เป็นตอนที่พระอภัยมณี หนีไปแล้ว กับสินสมุทร นางยักษ์ก็เลยเสียใจอยู่ในถ้ำ เป็นบทรำพึงถึงความชอกช้ำ ที่สามีและลูกหนีไป ก็แต่งขึ้นเล่นๆ ว่า ถ้ายักษ์ชอกช้ำ จะคิดอย่างไร ทำยังไง ตามอารมณ์ของยักษ์ จะต้องรุนแรง โมโหง่าย ดุดัน เจ้าชู้ ตามคำกล่าว เจ้าชู้ยักษ์ และอีกอย่าง การเขียนคำแสดงอารมณ์ให้พิสดารจากปกติ ต้องแต่งเป็น ตัวละครแสดงอารมณ์ ถึงจะทำได้ ซึ่งในความจริง คนแต่งเพียง แต่คาดคิดเอา ไม่ได้มีเหตุการณ์นั้น เกิดขึ้น ครับ ส่วนเรื่องความรักมีความรุนแรงครับ เพราะมีความซาบซึ้งมาก และแปลงเป็นอารมณ์ อื่นๆได้รุนแรงพอพอกัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับภาวะส่วนตัวของคนนั้นนั้นด้วย ขอบคุณครับ
29 พฤษภาคม 2549 08:30 น. - comment id 580237
มาอ่านค่ะ เพียงพลิ้วขอเก็บไว้อ่านอีกนะคะ อ่านแล้วเห็นภาพตัวเองเป็นนางยักษ์ แงๆๆๆๆๆ ความรักทำให้คนอามรณ์รุนแรง เห็นด้วยค่ะ เพราะเพียงพลิ้วเป็นเช่นนั้นจริงๆ ขอบคุณนะคะที่เขียนให้อ่าน ชอบมากค่ะ
29 พฤษภาคม 2549 13:19 น. - comment id 580322
คุณเพียงพลิ้ว อ้าวแงแงแค่อ่านคำขานเล่า เอาภาพเข้าคล้ายคล้อยลอยไปไหน เดี๋ยวอ่านซ้ำก็ยิ่งย่ำกระหน่ำใจ พาลระไห้หวนเหงาเคล้าน้ำตา รักหนอรักสลักแล้ว รุนแรง ยามหักรักแสลง สลดเศร้า ช้ำชอกยอกใจแทง ร้าวรวด ปวดเอย ร้อยช่างนั่งแต่เฝ้า ฟุบหน้าอาลัย ขอบคุณครับ