http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song19.html (อาลัยรัก) ซุกร่างนิ่งหน้าแนบหมอนนอนฝากขวัญ สิ้นไร้จันทร์ดวงงามท่ามคืนนี้ แสนดายเดียวเดียวดายนะคนดี โลกดูราวสีน้ำเงินมืดหม่นมัว เสมือนนกนางนวลผกโผผินบินไร้รัง สิ้นไร้หวังหวานใดในม่านหมอกสลัว ปีกอ่อนล้าพายุกล้าช่างน่ากลัว เลือดแดงทั่วเจ็บร้าวหนาวเยียบเย็น ปีกเจ้าหักบาดแผลรักยากรักษา หวังโลกหล้าฟ้าดินคงมองเห็น ให้เจ้าตายไกลอ้อมตักคนเลือดเย็น บินหลีกเร้นร่วงคว้างอย่างดายเดียว ไม่มีน้ำตาหลั่งรินชินและชา อย่างช้าช้าปิดเปลือกตาลาโลกเปลี่ยว ยิ้มอำลาพสุธาและรวงเรียว เคยกอดเกี่ยวณ..กลางใจไพรมายา วิมานวนาเป็นเพียงวิมานฝัน ราวสวรรค์เกินเอื้อมเฝ้าไขว่คว้า แท้โลกนี้มีเพียงเศร้าทุกข์น้ำตา ปรารถนาใดเล่าเจ้านางนวล... ดายเดียวเดียวดายไร้และร้าง ชีพควะคว้างอย่างช้าช้าฟ้ากำสรวล เลือดเกรอะกรังละหลั่งรินสิ้นใจนวล รอ....ลมหวนทวนกลับมาก็...ช้าเกิน..! ............................... เจ้านกไพรในใจนวล http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song219.html (เดือนต่ำดาวตก) นวล..รอนกไพรกลับมาซุกปีกซบใจ นานเนิ่นเกินนับราวชั่วกัปป์กัลป์ ปี..เดือน..วัน ฝันพรายพลัด..ให้พรากจาก..มิพบเจอ วันนี้!..นกไพรนกในใจนวล คืนคอนรอนแรม..คืนรังเก่า.. หัวใจนวล...พลัน...!..สุกใสดั่งดาวประกายพฤกษ์ นกไพรในใจนวลยืนอยู่นั่น!...ตรงหน้านวลนี่แล้ว ใต้ร่มไม้ใต้เงาดาวใต้แสงจันทร์ นวลก้าวพลันออกมาจากเงามืดริมชานเรือน ท่ามกลางแสงจันทร์เพ็ญอาบพร่างร่างนวลละมุนหวาน.. เรียวตาสีสนิมเศร้า ร้าวรานจ้องจับนวลอย่างไม่เชื่อสายตา ราวกับว่านวลคือนางไพรนางในฝันพลันโผล่มาจากสวรรค์สรวง.. นวลยิ้มรับหวานเศร้า แลเห็นพราวน้ำนัยน์ตาเขาวะวาววับ เสียงเขาครางราวกับ...หวนไห้โหยหา ใครสักคน. และใช่!..เลย นวลรู้ดี..ไม่ว่ากี่ปีกี่ชาติ รอยพิสวาส ที่..เขาฝากไว้กับนวล มิมีวันจะลาเลือนลอยลับ.. ดั่ง.. ดวงดาว..ที่จักทอแสงสกาว..ประดับฟากฟ้ายามราตรี และ.. นวลก็ซึ้งดีว่า.. ในทุกนาทีแห่งโลกหมุน.. หาก.. เขาดายเดียวไร้ใครเหลียวแล..ปลอบประโลม เขาก็จะยังมี..นวลคนนี้ ที่ยินดีจะเคียงข้างมิร้างรา..แรมไกล ที่จะเป็น.. ดั่งนางฟ้านางใจ ดั่ง..ดาวไสว..รอนำทาง..ให้พ้นมืดมน. นวล..ยังคงจำ...รอยรักรอยพิสวาส บาดใจ..มาเนิ่นนานปี กับ.. ราตรีที่ผันผ่าน นานมาลาเลย เป็น.. รอยรักรอยใจรอยอดีต ที่คิดคราใดก็หวามไหวมิรู้เสื่อมสลายคลายมนต์.. คืนที่ฟ้าเบื้องบน..เฝ้ารับรู้เห็นเป็นพยานใจ พ่อแม่ญาติมิตรพี่น้องพลอยยินดีปรีดา ต่างพากัน มาร่วมหลั่งน้ำสังข์..สวมมงคลคู่ ให้คล้องสายใยรัก..สายไยภักดิ์พิสวาท รวมเป็นหนึ่งเดียว..ชั่วกาลนานนิรันดร์ คืนที่.. ฟ้าปรานี.. คืนที่... ฟ้าแสนหวานแสนงาม ให้นกไพรซุกซบกับอ้อมอกอ้อมใจนวลไปตราบชั่วกาล ใน.. คืนหวานในคืนเพ็ญเด่นดวงอย่างเช่นค่ำคืนนี้.. ณ..คืนนั้น.. ที่เขาคนดีเป่าขลุ่ยเพลงเดือนเพ็ญ พร่ำพลอดออดอ้อนพะเน้าพะนอรัก เคล้าไปกับหวานซึ้งของโมกกอ กับ...หอมละออของดงดอกราตรีริมชานเรือน กับ..ลำดวนดงส่งกลิ่นหอมฟุ้งกำจาย กับ..พรายพระจันทร์หวานหยาดสายไล้โลมร่างงาม กับ...เงาไม้ล้อลมระริกไหว กับ...กอไผ่ซัดส่ายซอนเซาะซอกแซก แหวกหวานหว่านมนต์ดนตรีธรรมชาติ เสียงดุเหว่าแว่วมาพาให้หัวใจละมุน เขาคนดี..ค่อยๆคลึงเคล้าเล้าโลม จูบแผ่วผิวริมเรียวแก้มปากคอคาง อย่าง..แสนรักใคร่แสนทะนุถนอมแม่ยอดดวงใจ ที่... เขาคอยพร่ำเพ้อรำพัน อยากกกกอดทั้งวัน มิผันแปรร่างห่างเจ้านวลหอมหอมแห่งแม่จอมขวัญจอมใจ ท่าม... ดาวพราย ดวงดอกไม้เริ่มขยายกลีบละออ รอน้ำค้างพร่างรับอุษาสาง แสงจันทราทอทอดลอดผ่านม่านใบไม้ลายดอกแก้ว.. มุ้งม่านพลิ้วไหว ... แสงตะเกียงริบหรี่ส่องรำไร สู่ร่างนวลละออ งามล้ำ เขา....เฝ้าแต่พร่ำบรรเลงบทเพลงรัก ตราบจน... อุษาฟ้าสางจนอรุณเรื่อราง..สว่างหอมน้ำค้างไพรน้ำค้างรัก เป็นความรัก..ความงดงาม หมดจดใจ จากเนื้อนวล นวลเนื้อ นวลใจ นวลนางกลางไพร ที่พิลาสพิไลพิสุทธิ์ผุดผ่อง ดั่ง.. น้ำค้างไพรกลางกลีบเกสรดอกไม้แห่งรัก ภักดีพลีพร้อมหลอมรวมร่างใจและจิตวิญญาณ ที่.. ผ่านเพาะเพียรบ่มอดทนการรู้ค่ารักค่ารอ อย่างหญิงดีมีค่า ให้สมกับคำล้ำค่าคำว่ากุลสตรีไทย ที่.. เกิดมากับพงไพร ฟ้าใส ดาวสวย ในชนบทงาม ที่รักแล้วต้องรู้รอวันหวาน ด้วยการรักษาร่างรักษารักภักดี ให้.. ผ่านพิธีวิวาห์สืบทอด รักษาวัฒนธรรมไทยวัฒนธรรมรัก จัก.. ธำรงงามดำรงอยู่รู้ค่ารักหนักแน่นมั่นคง รู้สัตย์ซื่อถือตรงในชายเดียวหญิงเดียว... และ.. ไม่นานกับวันปีผันผ่านกับกาลเวลาแห่งคืนหวานหอม ใครจะรู้.. ชะตา ฟ้า ดิน นรกฤาสวรรค์พลันดลบันดาล.. หัวใจลูกผู้ชายคนดีคนแกร่งคนเก่งคนกล้าเกินกว่าใคร จำต้องเลือกตัดสินใจลาจาก ด้วยเงื่อนไข งานดีเงินงาม สู่... เมืองแสงสีศิวิไลซ์ สู่ความซับซ้อนใจสับสนอลวนอลเวงแห่งเมืองลวง เมือง... แห่งแสงสี ที่ต้องสู้ที่มีทั้งคนดีคนชั่ว คละเคล้าเกลือกกลั้วกันทั่วไปทุกสังคมเมืองใหญ่.. แสงสีที่เขาเคยเกลียดชัง.. นกไพรจำจากรวงรักแห่งรัก รอนแรม ไร้ร้าง อ้างว้างเปลี่ยวเหงาดายเดียว ทิ้งนวล..ราวข้าวรอเคียวเกี่ยวเก็บกับแม่พ่อที่ท้องทุ่งรวงทอง นองน้ำตารอรอและรอ... เพื่อรัก เพื่อความหวัง เพื่อ..จะมีเงินกลับมาพลิกฟื้นผืนดิน หมดหนี้สิ้นหมดภาระผูกพัน..ตามหน้าที่... เยี่ยงคำว่าลูกผู้ชายชาติไพร..ชาติเชื้อทรนง.. ที่.. คงพร้อมพลียินดีเสียสละ..ให้ผู้เป็นที่รัก ที่ฝากความภักดิ์ความฝันความหวังไว้ที่เขาแต่เพียงผู้เดียว! นกไพร..ใจอ่อนล้า ร่างกายผ่ายผอมตรอมตรมใจ ในกรุงกรง...หลงทำงาน ให้ลืมวันลืมคืนเหมือนอยากหลับมิรู้ตื่น ฝืนเผชิญฝันร้ายฝันเศร้าดายเดียวเปลี่ยวเหงาลำพัง.. กระทั่งวันนี้... วันที่.. นกไพร ตัดสินใจคืนคอน จบละครโลกย์บทโศกแสนสะเทือน ฝาก.. คำเตือนสอนใจฝากตำนานไพรแด่คนสู้มิรู้ถอย คอยเวลาด้วยความอดทนเพียรพยายาม.. รอเวลา.. กลับสู่เรือนชานรวงรังแห่งรัก ที่มีอ้อมตักแม่นวลละออแม่ยอดยาใจเพียงหนึ่งเดียวในชีวี.. นกไพร..ดำรงร่าง ทำหน้าที่ลูกผู้ชายได้อย่าสมภาคภูมิ บนเวทีแห่งเกียรติยศ หวัง ฝากผลงานงามให้ปรากฏเกริกไกร รับรางวัลใหญ่บนเวทีระดับชาติ จากพรสวรรค์บวกพรแสวง สู่.. เส้นทางงามเส้นทางสายฝัน ด้วยความขยันอดทนเพาะเพียรบ่ม ด้วยเลือดรักนักสู้ เป็น.. ดั่งตำนานใจตำนานไพรไปชั่วกาล.. และ... นกไพรได้ปิดฉากชีวิตอันยิ่งใหญ่ อย่าง..งดงามตระการตาตระการใจ ฝากชื่อลือค่าไว้กับผืนดิน ฝาก.. ร้อยรจนาบทถวิลเป็นธรรมทาน หว่านโปรยสู่ดวงใจผองชนผู้ทุกข์ทนยากผู้สิ้นไร้หวัง ให้หาญกล้าทายท้าเผชิญโลก อย่างผู้รู้ตน ผู้รู้รักรู้ธรรมนำมาเกื้อกมลเกื้อโลกละมุน.. ลดเร่าร้อนรุนแรงทุกแห่งหนในโลกหล้า.. ดั่งสายธาราดับแล้งทุกแห่งหนทุกผืนดินพร่างพรม ห่มด้วยความรัก น้ำใจอภัยเมตตากันและกันฉันท์น้องพี่ เพื่อนร่วมโลกแบ่งโศกปันสุขรวมโลกนี้เป็นหนึ่งเดียว นกไพร..เจ้านกไพร.. น้ำตาปิติ..จากใจดวงงาม กำลังพร่างสายรินไหล หอมละเมียดหอมละไม หลอมละลายไปกับรอยจูบดื่มด่ำกับเรียวแก้มนวล! ........................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song19.html อาลัยรัก ฉัน รักเธอ รักเธอ ด้วยความไหวหวั่น ว่า สัก วัน ฉัน คง ถูกทอดทิ้ง มินานเท่าไร แล้วเธอก็ไป จากฉันจริงจริง เธอ ทอด ทิ้ง ให้อาลัย อยู่กับความรัก แม้ มีปีก โผบิน ได้เหมือนนก อก จะต้อง ธ-นู เจ็บปวดนัก ฉันจะบิน มา ตาย ตรงหน้าตัก ให้ยอดรัก เช็ด เลือด และ น้ำตา แม้ มี ปีก โผบิน ได้เหมือนนก อก จะ ต้อง ธ-นู เจ็บปวดนัก ฉันจะบิน มาตาย ตรงหน้าตัก ให้ยอดรัก เช็ดเลือด และน้ำตา.
22 พฤษภาคม 2549 21:47 น. - comment id 579008
บทนี้พุดรจนาพลีคารวะไว้นานแล้ว แด่ลูกประดู่ไทย ที่โดนทำร้ายอย่างไร้ความอยุติธรรม และ กับวันนี้.. ที่ฟ้ากำลังร่ำไห้กับ \"ครูจูหลิง\" พร้อมคนทั้งแผ่นดิน รวมใจอธิษฐานภาวนา ให้พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงได้โปรดคุ้มครองค่ะ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6192.html ช่อเอ๋ยช่อดอกโศก ไทยวิปโยคสิ้นสุขทุกข์วิถี ดอกประดู่มาร่วงพราวหนาวเหน็บในฤดี สิ้นสุมาลีเหลือเพียงโศกโลกสะเทือน ช่อเอ๋ยช่อดอกเศร้า บุปผาร้าวรานสิ้นทุกถื่นเถื่อน ลาจากช่อทิ้งกอเศร้าหนาวดาวเดือน เลือดมาเยือนแดนใต้ไร้เสรี ช่อเอ๋ยช่อดอกรัก แสนภูมิภักดิ์ซึ้งเศร้าในวันนี้ พลีหยาดเลือดฝากพสุธาธรณี น้ำตาพลีศรัทธาธาราริน ช่อเอ่ยช่อดอกขวัญ ฝากโศกศัลย์ทุกข์หย่อมหญ้ามิรู้สิ้น ดวงดอกโศกโลกสะเทือนด้วยราคิน ฟ้าระรินหลั่งน้ำตาอีกคราแล้ว...! ...................... กับฟ้าหนาว กับดาวเดือน...ที่ดูพร่าเลือนในราตรีวิปโยค! ทุกดวงใจไทยโศกสะเทือนหนาวน้ำตา... กับการลับลา....ของดวงดอกประดู่จากแผ่นดิน ที่ค่อยๆ...ปลิดขั้ว... ทิ้งหนาวเหน็บเจ็บร้าวอย่างไร้เข้าใจ..ไทยด้วยกัน! จาก.... พายุอันแสนร้าย... หมายเพียงคอยเข่นฆ่า อย่างหาความยุติธรรมมิได้แล้ว.. ทุกหยาดเลือดแดง .... ทุกแรงรักพลีเพื่อปกบ้านป้องเมือง ทุกราวเรื่องแสนเหน็บหนาว... ร้าวรานในดวงใจ.... ที่สิ้นไร้น้ำใจเมตตาปรานี... ขอ..ธงไตรรงค์ได้คลี่ห่ม..ลงบนร่างแห่งผู้กล้า ฝาก... อวลอุ่นแห่งศรัทธาภาคภูมิของคนทั้งผืนดิน...นะคนดี.. หลับให้สนิทนิทราสถิตในสวรรค์สรวง..นะดวงดอกประดู่ ฟ้าและโลกรับรู้ ... เดือน..และ..ดาราราย.... กำลังร่ำไห้พร้อมปรายโปรยสดุดี...!!! ..................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6192.html ความฝันอันสูงสุด ...เพลงพระราชนิพนธ์ ขอฝันใฝ่ ในฝันอันเหลือเชื่อ ขอสู้ศึก ทุกเมื่อ ไม่หวั่นไหว ขอทนทุกข์ รุกโรมโหมกายใจ ขอฝ่าฟัน ผองภัย ด้วยใจทะนง จะแน่วแน่แก้ไข ในสิ่งผิด จะรักชาติ จนชีวิต เป็นผุยผง จะยอมตาย หมายให้ เกียรติดำรง จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา ไม่ท้อถอย คอยสร้าง สิ่งที่ควร ไม่เรรวน พะว้าพะวัง คิดกังขา ไม่เคืองแค้น น้อยใจ ในโชคชะตา ไม่เสียดาย ชีวา ถ้าสิ้นไป นี่คือ ปณิธาน ที่หาญมุ่ง หมายผดุง ยุติธรรม อันสดใส ถึงทนทุกข์ ทรมาน นานเท่าใด ยังมั่นใจ รักชาติ องอาจครัน โลกมนุษย์ ย่อมจะดี กว่านี้แน่ เพราะมีผู้ ไม่ยอมแพ้ แม้ถูกหยัน ยังคงหยัด สู้ไป ใฝ่ประจัญ ยอมอาสัญ ก็เพราะปอง เทิดผองไทย...
23 พฤษภาคม 2549 08:31 น. - comment id 579033
น่าเศร้านะคะพี่พุดสำหรับข่าวต่างในช่วงนี้ ขอให้พี่พุดเดินทางปลอดภัยนะคะ
23 พฤษภาคม 2549 12:37 น. - comment id 579069
ให้ได้ดั่งหวังวาด
23 พฤษภาคม 2549 13:27 น. - comment id 579080
พี่พุดค่ะ ไม่ว่าพี่จะได้มาอ่านตรงนี้หรือไม่ บัวก็ขอฝากคำไว้ด้วยหัวใจว่าขอบคุณอย่างมากมายที่พี่ได้มอบคำที่มีค่าไว้ให้น้องๆได้ คอยเตือนตัวเองกับหลายๆอย่างในงานของพี่ ความซื่อสัตย์ความมั่นคงความอดทน ต้องจดจำประเพณีที่ดีงาม และคุณธรรม ไม่ว่าพี่จะไปอยู่ที่ไหนในโลกใบนี้ บัว ขอให้พี่โชคดี ปลอดภัย ให้ความดีของพี่คุ้มครองตัวพี่ ตลอดจนครอบครัวพี่ได้สมปรารถนา เจริญรุ่งเรื่องตลอดไปค่ะ บัวรักพี่พุดค่ะ
23 พฤษภาคม 2549 13:45 น. - comment id 579088
ช้ำ..นวล..ชวนไห้อาลัยรัก รวมใจภักดิ์ประคองพี่น้องกล้า ผืนไผทขวานทองปกป้องมา ด้วยชีวาบรรพบุรุษ...สุดระทม สวัสดีค่ะพี่พุด...อ่านงานงามของพี่พุดน้ำตาซึมเลยค่ะ...
23 พฤษภาคม 2549 15:57 น. - comment id 579108
สวัสดีค่ะ พี่พุดสุดรัก ช้ำเหลือเบื่อจะทนบนทาง ความอ้างว้าง...แทรกแวกฤดี ต้องเดินไปในทางตามวิถี คงจะมี...สักวันพบเส้นชัย.... พี่พุดค่ะ มะกรูด คิดถึงนะค่ะ รักษาตัวนะค่ะ ขอให้พี่สาวของหนูโชคดี ปลอดภัย ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้แคล้วคลานนะค่ะ
24 พฤษภาคม 2549 16:01 น. - comment id 579354
สวัสดีค่ะพี่พุด.........แอบมาอ่านผลงานของพี่พุด....ละ คิดถึงนะค่ะ.....เพลงอาลัยรัก....เพราะค่ะพี่พุด ....ช่างนี้แก้วนีดามีงานยุ่งสุดๆๆๆเลยหายไปนาน...แต่ก็ยังคิดถึงพี่สาวคนดีที่น่ารักเสมอค่ะ....