http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song13.html (น้ำตาแสงไต้) ........................... จันทร์...กระจ่างฟ้า นภาประดับด้วยดารารายระดะดวง นอกชานเรือน ใน...ท่ามวูบไหวของ*นวลแสงไต้* ที่..กำลังทอไล้ลงมาอาบผิวเนียนแดดของสาวนา ที่.. กำลังตั้งใจทอเสื่อกระจูดอยู่อย่างขะมักเขม้น หลังเสร็จสิ้นงานนา....งานหว่านกล้าดำไถแล้ว... สาวนา.. ตั้งใจมานานวันแล้วว่า.. จะทอเสื่อสวยให้เสร็จสมบูรณ์ทันวันอ้ายกลับมา.. เพื่อรอท่า..รอรับขวัญอ้าย.. เพราะ.. สาวนาอยากปูเสื่อฝีมือละเมียดผืนงาม เอาไว้ให้อ้ายเอนอิงนอน และรองรับสำรับกับข้าว ที่... สาวนา... ตั้งใจว่าจะตั้งใจทำสุดฝีมือ ทั้ง.. น้ำพริก ปลาทู แนมคู่ผัดสดริมนาเป็นเครื่องเคียง ทั้ง.. *ปลาสองน้ำ*รสดี ที่สาวนานี้ตั้งใจคลุกขมิ้นกับเกลือกระเทียม หมักไว้ให้หอมได้ที่แล้วค่อยนำมาทอด ให้กรอบนอกนุ่มเนื้อหวานใน แล้ว.. ไหนจะแกงเหลืองหม้อใหญ่ ด้วยผักนานากับปลาช่อนตัวโตๆ ผลไม้...ก็มากมายมากมีในฤดูนี้ ทั้งเงาะ แตงโม มังคุด และ.... ที่เด็ดสุดคือ น้ำปลาหวานมะม่วง ที่สาวนารู้ดีว่าอ้ายนี้.. ชอบน้ำปลาหวานแกมกับมะม่วงแรด เพราะเปรี้ยวแซ่บดี...กว่ามะม่วงมันส์พันธุ์ไหนๆ แล้ว.. มานั่งจุดเทียนกินข้าวกัน ในท่ามแสงจันทร์ในคืนวันพรุ่งนี้... ที่.. สาวนารอมานานหลายเดือนเต็มที หลังจากที่อ้าย..คนดี..บอกว่าจะกลับมา หลังเสร็จสิ้นภารกิจเพื่อชาติ.. เนื่องจาก.. อยากมาเคียงกายเคียงใจเคียงไหล่สาวนา พากันไป...เวียนเทียนรอบโบสถ์คร่ำ ในท่ามสายแสงจันทร์เพ็ญ ให้... ดวงใจทั้งสองดวงแสนใสฉ่ำเย็นพอกัน *ในวันวิสาขปุณมี* และ.. สาวนา..ทราบดีว่า.. หลังจากวันพระวิสาขบูชา *จะเป็นวันคล้ายวันเกิดอ้าย * ที่.. อ้ายมักกระซิบบอกกับสาวนาเสมอมาว่า อย่าได้ให้ความสำคัญ เพราะ.. วันทุกวันคือวันดีตราบเท่าที่เรานี้ยังมีลมหายใจ และ.. ได้เพียรคิดดี พูดดี ทำในสิ่งดีดี พลีให้.. แด่ตัวเองแม่พ่อและเพื่อนพ้องอย่างผู้รู้ค่าคน... และ... ทำสิ่งมงคลหมายให้ชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่า ตราบจนกว่า... ลมหายใจจะสิ้นเพียงนั้น.. ก็น่าจะพอเพียง..เพียงพอ.. สาวนา..อยากเถียงว่าแค่เพียงสาวนาปิติใจ อยากลุกขึ้นมา..เตรียมอาหารหวานคาว รวมทั้งตั้งใจร้อยมาลัยดอกไม้ ให้อ้ายได้ใส่บาตร..ถวายพระ เท่านั้น.. และ.. ในยามค่ำ..ท่ามเดือนสวยดาวไสว ขอเพียง.. สาวนา..ได้นอนหนุนไหล่อ้าย แล้ว..อ่านบทธรรมงามจับจิตจับใจ ของ*หลวงปู่มั่น*พร้อม ฟัง.. เสียงเรไรร่ำจั๊กจั่นจิ้งหรีดร้อง เสียงก้องไพรจากสรรพสัตว์เหล่านี้.. ที่แสนดังระงม..หากทำไมนะจึงให้อารมณ์ แสนวิเวกวังเวง ช่างไม่เหมือน..*บทเพลงเมือง* ที่สาวนาไม่เคยชินเอาเสียเลยสักนิ๊ดเดียว และ.. ในท่ามน้ำค้างหยดเผาะ สาวนา.. อาจจะเปิดบทเพลงไพเราะของ*ครูทูลทองใจ* ที่.. คือบทเพลงไพรที่แสนให้อารมณ์ดำดื่ม แบบดิบเดิม ที่ฟังทีไร.. ทั้งอ้ายและสาวนาจะแสนปลื้ม จะพากัน.. หันมาทำตาซึ้งใส่ให้กันแบบรู้ทันเท่าความไพเราะ แสนเสนาะหวานเศร้า เคล้าบรรยากาศลูกทุ่งท้องนาเสียไม่มี... พรุ่งนี้... สาวนา..ตั้งใจเด็ดดวงดอกไม้นานาในสวน ทั้ง.. ดวงดอกพุดซ้อนอรชร มะลิละอออ่อน ที่... กำลังผลิดอกพราวนวลทุกราวกิ่ง มารัดร้อยเป็นดั่ง*สร้อยศรัทธามาลัย* เพื่อ.. พลีน้อมนำ..ไปเวียนเทียน ถวายพระประธานในวิหารโบสถ์คร่ำ แล้ว... อีกพวงจะวางถวายองค์พระปฏิมา บนหิ้งพระ*กระท่อมปลายนา* แล้ว.. ตั้งจิต..อธิษฐานวาจา..สวดมนต์ภาวนา ให้เรานั้น.. พ้นวิบากรักวิบากกรรม และ.. หากจำต้องเกิดมาชดใช้กรรมอีก ขอให้ได้เกิดมาเป็นดั่ง..คู่บุญคู่ธรรม เพื่อนทิพย์ทางจิตวิญญาณทุกภพทุกชาติไป แล้ว... จะวางมาลัยพิกุลเคียงหมอน ให้สองเรา.. นอนหลับฝันดีในท่ามราตรี...*แห่งรักนิรันดร์* ....................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song13.html น้ำตาแสงไต้ สง่า อารัมภีร์ นวลเจ้าพี่เอย คำน้องเอ่ยล้ำคร่ำครวญ ถ้อยคำ เหมือน จะชวน ใจ พี่ หวล ครวญคร่ำอาลัย น้ำ ตา อาบแก้ม เพียงแซม ด้วยเพชร ไสว แวววับ จับหัวใจ เคล้าแสงไต้ งามจับตา นวล แสงเพชร เกล็ดแก้ว อันล้ำค่า ครา เมื่อต้องแสง ไฟส่องมา แวววาวชวนชื่นชม น้ำ ตา แสงไต้ ดื่มใจ พี่ร้าวระบม ไม่อยาก พรากขวัญ ภิรมย์ จำ ใจ ข่ม ใจไปจากนวล นวล เจ้าพี่เอย นวล เจ้าพี่เอย...
13 พฤษภาคม 2549 18:55 น. - comment id 576891
กระจูด เป็นชื่อไม้ล้มลุกชนิดหนึ่ง ลำต้นกลมภายในกลวง และ มีเยื่ออ่อนหยุ่นคั่นเป็นข้อๆ ชอบขึ้นตามหนองน้ำและพรุดิน มีมากในจังหวัดนราธิวาส ซึ่งชาวบ้านนำเอามาสานเป็นเสื่อ เพื่อใช้ในการปูนั่งหรือนอน เมื่อ.. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงเยี่ยมราษฎร ที่บ้านกูแบยามู ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ในปี 2516 ชาวบ้านได้นำเอาเสื่อกระจูด มาปูลาดพระบาท ได้ทอดพระเนตรเห็น จึงมีความสนพระทัยตรัสถาม ว่า เสื่อกระจูดนี้ทำกันที่ไหน และต้นกระจูดมีมากหรือไม่ ครั้นทรงทราบว่า กระจูด มีทั่วไปตามบริเวณ ที่เป็นพรุในจังหวัดนราธิวาส ชาวบ้านได้นำมาสานเป็นเสื่อ เพื่อใช้มาช้านานแล้ว โดยเฉพาะในตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง ตำบลศาลาใหม่ อำเภอตากใบ และตำบลบาเระใต้ อำเภอบาเจาะ แต่เป็นการทำอย่างง่ายๆ ไม่มีสีสันและลวดลาย ส่วนใหญ่ จะทำไว้เพื่อใช้เอง และกำลังจะเสื่อมสูญไป เนื่องจากขาดการพัฒนา และการสนับสนุนส่งเสริมอย่างจริงจัง ดังนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จึงมีพระราชประสงค์ ในการฟื้นฟูและอนุรักษ์หัตถกรรมกระจูด ให้คงอยู่เป็นสมบัติของชาติ รวมทั้งเป็นการส่งเสริม ให้ราษฎรมีรายได้เพิ่มขึ้น จากการผลิตและจำหน่ายสิ่งจักสาน ที่ทำจากกระจูด โดยโปรดให้มี การจัดตั้งกลุ่มจักสานกระจูดขึ้น ที่บ้านทอน ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส และกลุ่มจักสานกระจูดบ้านทอน ตำบลศาลาใหม่ อำเภอตากใบ เนื่องจากหมู่บ้านทั้งสองแห่งนี้ ได้มีการจักสานเสื่อกระจูดมานานแล้ว นอกจากนี้ แล้วได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดหา ผู้มีฝีมือทางด้านนี้ในท้องถิ่น มาเป็นครูสอน รวมทั้งแนะนำในเรื่องของลวดลาย และสีที่ใช้ ตลอดจน พระราชทานวัสดุอุปกรณ์ ในการผลิต และ ทรงหาตลาดในการจำหน่ายให้ จึงทำให้เสื่อกระจูด ซึ่งเป็นหัตถกรรมพื้นบ้านของจังหวัดนราธิวาสคงดำรงอยู่ และราษฎรผู้ผลิตเสื่อกระจูด มีรายได้เพิ่มขึ้น พ้นจากความยากจน ทั้งนี้ เนื่องมาจากพระมหากรุณาธิคุณ แห่ง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงริเริ่ม ฟื้นฟูและอนุรักษ์การจักสานกระจูด ทำให้ ราษฎรได้เห็นคุณค่า ของศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน มีความภาคภูมิในภูมิปัญญาดั้งเดิม ของบรรพบุรุษ เกิดการตื่นตัว สนใจในการผลิตมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ก็ช่วยให้ราษฎรที่ผลิตเสื่อกระจูด มีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นอกจาก จะทรงฟื้นฟู หัตถกรรมกระจูดดังกล่าวแล้ว ยังโปรดเกล้าฯ ให้อนุรักษ์ศิลปะแบบดั้งเดิม ที่เคยทำและสืบทอดกันมา ด้วย การจัดประกวดหัตถกรรมกระจูด ขึ้นเป็นงานประจำปีของจังหวัดนราธิวาส เรียกว่า งานวันกระจูด ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงที่ เสด็จฯ แปรพระราชฐาน ไปประทับแรม ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เพื่อที่จะพระราชทานรางวัล แก่ผู้ชนะการประกวดกระจูด แบบพื้นบ้าน เพื่ออนุรักษ์ การจักสานกระจูดแบบดั้งเดิม
13 พฤษภาคม 2549 20:06 น. - comment id 576893
เป็นตาออนซอนนอหล่า สาวบ้านนา
13 พฤษภาคม 2549 20:45 น. - comment id 576903
มะม่วงนำปลาหวาน อร่อยนะคะนั่งทานที่กระท่อมปลายนา หิวอยากทานจับใจ
13 พฤษภาคม 2549 20:48 น. - comment id 576904
หนาวนวล จุดเทียนหอมระริบหรี่คลี่ใจฝัน ท่ามเงียบงันในเงียบงามยามโพล้เพล้ กลีบลั่นทมเคลียไรผมใจว้าเหว่ ดอกรักเร่มาแรมร้างกลางเมืองลวง.. ฟังเพลงฝนหล่นลาราตรีนี้ ดอกจำปีคลี่กลีบหวานรอรานร่วง ค่อยดอมดมพรมจูบละมุนทรวง พุดพร่างดวงหวงกลีบซ้อนอ้อนหาใคร... นวลการะเวกแซมเขียวไพลไกวกิ่งโยก พอลมโบกก็ระบัดพราวพัดไหว ราตรีเอ๋ยเผยกลิ่นร่ำราวช้ำใจ รักพรากไกลกลายสีโศกโลกดายเดียว... วงหน้าเรียวต้องแรมจันทร์ขวัญควะคว้าง ฟ้าแสนกว้างว่างเปล่ายามเหงาเปลี่ยว สิ้นไร้ดาวเพียงจันทร์ฉายคล้ายรูปเคียว ลอยฝากเสี้ยวราวเรียวใจไหวหวั่นนัก... เจ้านกไพรใจรวนเรเร่แรมรัง นวลสิ้นหวังหลงเพ้อละเมอภักดิ์ เจ้าลืมสิ้นกลิ่นผ้าถุงในอ้อมตัก น้อยใจนักเจ้านกไพร.ไยลืมสิ้นกลิ่นโคลนดินสาบควาย........
13 พฤษภาคม 2549 20:51 น. - comment id 576905
เป็นตาออนซอนนอหล่า สาวบ้านนา บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก คนดี.. แปลว่าอะไรจ๊ะอิอิ ขอบคุณนะจ๊ะที่เข้ามา สาวนาซึ้งใจจังจ๊ะ
13 พฤษภาคม 2549 20:53 น. - comment id 576907
น้องไรไก่... สาวนาชอบมะม่วงน้ำปลาหวานจ๊ะ และ.. เลยเพียรให้พระเอกรัก ที่จะทานไปด้วยกันนะจ๊ะ และ น้ำปลาหวานกะปิจ๊ะจักมันส์มากอิอิ ด้วยซึ้งใจนะจ๊ะ
13 พฤษภาคม 2549 20:59 น. - comment id 576908
ริมหมอนสาวนาราตรีนี้ ที่พระจันทร์กำลังพรายแสง แสนหวานสวยมากจ๊ะ มี.. ดวงดอกพุดซ้อนวางอรชร เคียงกับลั่นทมดอกชมพูจ๊ะ ที่บานพร่างรับสายฝนสวยใส แสนฉ่ำเย็น.. สาวนา... จึงรู้สึกแสนเงียบงามสุขสงบใจมากจ๊ะ และ สาวนาขอพลีกำนัล มาวางริมหมอนให้นอนนิทราฝันดี นะจ๊ะทุกดวงใจในร่มรัก..
13 พฤษภาคม 2549 22:18 น. - comment id 576921
สาวนา..ที่แสนซื่อ.. เธอนั้นคือ..ความรู้สึกที่..งดงาม อยากแค่ฝากคำถาม.. ถึงสาวนา..คนกล้าที่เรน..ชื่นชม.. สาวนาที่อ่อนหวาน.. ฝากดอกไม้บาน..ผ่านสายลม ขอเป็นฝนพร่างพรม.. ให้สาวนาดม ..หอมกลิ่นสายฝน..พร้อมดอกไม้บาน.... โห้ยย..งายยยดีร่า .... เรนแว้ปป.. ม้างดิ! ม่ายง้านนน .. สาวนาต้องตีเรนแน่ๆเล้ยย.. เก๊าะเรน..น..น.... คิดถึงสาวนาที่อ่อนโยนนะดิคะ....
14 พฤษภาคม 2549 07:17 น. - comment id 576946
อ่านไปเห็นภาพไปทุกครั้งเลยครับ ยังเหมือนเดิมนะครับ ติดตามผลงานเสมอครับ เพราะดี
14 พฤษภาคม 2549 13:24 น. - comment id 577005
14 พฤษภาคม 2549 14:23 น. - comment id 577028
แสงใต้ใฝ่นวลครวญฝัน รำพันแสงนวลชวนเพ้อ ห้วงรักฝักใฝ่ในเธอ เจอะเจอบ้านนาหาสาว....555 แก้วประเสริฐ.
14 พฤษภาคม 2549 15:03 น. - comment id 577037
สวัสดีค่ะ พี่พุดสาวบ้านนา บัวมาอ่านงานพี่พุด พี่เขียนถึงน้ำพริกปลาทูกับ มะม่วงน้ำปลาหวาน ทำให้บัวคิดถึงน้ำพริกลงเรือค่ะ เพราะใช้น้ำพริกไปผัดกับข้าวค่ะ โขกพริกกับกระเทียมใส่กะปิย่างไฟหน่อยให้หอมๆใส่ลงไปแล้วบีบมะนาวลงไปเพื่อดับกลิ้นคาวกะปิคนให้เข้ากันใส่น้ำตาลปีบน้ำปลา เสร็จแล้วก็ใส่กุ้งแห้งโขกมะเขือพวงทุบให้แตกๆหน่อยคลุกให้เข้ากันแล้วนำลงไปผัดกับข้าวสวยให้เข้ากันได้ที่แล้วตักใส่จานเครื่องเคียง ก็มีผักบุ้งนาถั่วฝักยาวลวกพร้อมแตงกวามะเขือเสวยปลาทูทอดกรอบๆเอาแต่เนื้อปลา แถมด้วยแกงจืดตำลึงหมูสับอีกชามหนึ่งนะค่ะ สดยอดมากค่ะ น้ำปลาหวานของบัวก็น้ำตาลปีบเคี่ยวไฟอ่อนๆใส่น้ำเปล่านิดใส่กะปิหน่อยน้ำปลาอีกนิดเคี่ยวจนน้ำตาลเหนียวหน่อยนึงก็ใส่กุ้งแห้งโขกหยาบๆ ตักใส่ถ้วย พอใกล้จะเย็นหน่อยหนึ่งก็ใส่หอมซอยกับพริกขี้หนูสดซอย พี่พุดค่ะแค่พูดถึงก็อยากจะกินเสียแล้วสิค่ะ แต่วันอาทิตย์บัวกินมังสวิรัติค่ะ พี่นำงานมาแต่ระชุดเป็นวิถีของชนบททั้งนั้นนะค่ะ พี่น่ารักจังค่ะ
14 พฤษภาคม 2549 16:03 น. - comment id 577054
..เรนขออนุญาตพี่สาวบ้านนา..ทักทายบัวนะคะ.. เรน..คิดถึงบัวนะคะ..
14 พฤษภาคม 2549 17:25 น. - comment id 577059
พี่พุดค่ะบัวขออนุญาตนะค่ะ เรนบัวคิดถึงเรนตลอดเป็นห่วงด้วย บัวไม่รู้ว่าเรนจะเป็นอย่างไรบ้าง บ้างสิ่งบ้างอย่างคงไม่จำเป็นต้องอธิบาย ไม่มีใครๆจะรับรู้ได้เท่ากับตัวของเราเอง ท้องฟ้ายังพระจันทร์ แล้วใยใจฉันจะไม่มี.....อยู่เสมอตลอดกาล
14 พฤษภาคม 2549 19:05 น. - comment id 577072
ยังเป็นสาวนาคนเดิมที่อ่อนหวานละมุนละไม คิดจะเป็นสาวภูธรจริง ๆ คงต้องฝึกหัดนอนเสื่อ(สาด)กันบ้างล่ะ ถึงจะเข้ากับฉากกระท่อมปลายนาหลังคามุงไพหญ้า ยังคิดถึงสาวนาคนนี้เสมอครับ
15 พฤษภาคม 2549 11:08 น. - comment id 577178
ทำไม อ้ายชอบมะม่วงแรดล่ะครับพี่พุด ทำไมไม่เป้นมะม่วงแก้ว มะม่วงป่า มะม่วงอกร่อง แทนที่จะเป้นมะม่วงแรด