http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3684.html (ดั่งดวงหฤทัย) *เราสอง*กำลังนั่งสบตากันอย่างแสนซึ้งใจ ในร้านอาหารเล็กๆมุมสงบๆในยามพลบค่ำ ที่.. ท่าอากาศยานดอนเมือง เคียงข้าง.. มีร้านหนังสือแสนแพงแพงแสนกว่าร้านธรรมดา ด้วยคงเป็นเพราะว่า.. เป็นภาษาต่างชาติ..ไว้บริการคนชาติต่างๆ และ.. มีร้านสปาแสนหวานหอม.. น่าไปนั่งนอนให้นวดร่างยามเครื่องดีเลย์ เธอ.. ผู้หญิงตรงหน้าผม... มิใช่..คนสวยหากคือคนงาม ตาม..นิยามความคิดนึกของผมเอง ที่.. คิดเอาเองว่า คำว่างามนั้นย่อมหมายรวมถึง..ความละเมียดละไม แบบ ..กุลสตรีไทยโบราณๆ ที่.. ดูแสนอ่อนหวาน..อ่อนโยน หาก.. แต่ในขณะเดียวกันกลับ ซ่อนความมาดมั่นหนักแน่นเข็มแข็งเด็ดเดี่ยวเอาไว้ แบบ.. ภาษิตโบราณ... ที่ว่า * มือก็ไกวดาบก็แกว่ง*..มิเสียแรงเกิดมาเป็นหญิงไทย ในแผ่นดินสุวรรณภูมิ ที่ทั่วโลกต่างรู้จักดี ว่า.. งามกิริยาพาทีแสนมีเสน่ห์สักปานใด จน.. เลื่องลือไปไกล ให้เราแสนภาคภูมิใจจนตราบเท่าถึงทุกวันนี้... กลับมาที่เธอ..จะดีกว่า ผู้หญิงงามตรงหน้า ที่.. กำลังเล่าบางสิ่ง.. ทิ้งทัศนะบางอย่างไว้ให้ผมต้องตั้งคำถามกับตัวเอง ว่า.. โลกเรานั้นช่างเต็มไปด้วยความเหว่ว้า อ้างว้าง และ.. เต็มไปด้วยผู้คนที่อดอยากยากไร้ จนน่าตกใจ.. คุณ..คงฉงนใจนะว่า.. ทำไม บทสนทนาระหว่างเรา จึงไม่มีเรื่องรักหรือแฟชั่น อันคือเรื่องความงามภายนอกใจ.. หาก.. เราสอง..กำลังคุยกันถึงเรื่อง จิตวิญญาณภายใน และ. ในนาทีนั้น.. เธอ ...คนดีที่มีดวงตาแสนงาม กลับ.. ยิ่งเพิ่มงามซึ้งเศร้ายิ่งขึ้นกว่าเดิม เมื่อ.. เธอเริ่มบทสนทนาด้วยหยาดน้ำนัยน์ตาเอ่อซึม ถึงโศกนาฎกรรมอันแสนสะเทือนขวัญสะเทือนใจ เธอ..เล่าว่า.. *คนจากแดนดินอัฟริกา*ประเทศเอธิโอเปีย* ที่สู้หนีความอดอยากบากบั่นฟันฝ่า จะข้ามน้ำข้ามทะเลมาสู่แดนดินแห่งยุโรป .. ด้วยเรือลำน้อยลำเล็กๆด้วยเสื้อผ้าขาดวิ่น ยอมทิ้งถิ่นแผ่นดินแม่มาเพื่อแสวงโชค กลับ.. ต้องเผชิญวิปโยค พบพายุจริง พายุร้ายพรายพัดถล่ม พาให้เรือที่บรรทุกผู้คนที่ผอมโซ ล้มคว่ำลงกลางทะเลลึก ก่อนถึงฝั่งฝัน อันคือ... ความเศร้าเกินบรรยาย เมื่อพากันล้มตายเป็นร้อยศพ และก่อน.. จะได้พบกับชีวีที่วาดหวังแค่ว่า.. จะมีอาหารพอกิน..อิ่มท้อง และ.. นี่แหละคือครรลองโลกย์แสนโศกทุกข์เทวษ* เธอ.. บอกเพราะอาชีพเธอ พาให้... ได้สัมผัสกับคนมากมายหลายชาติหลายภาษา ทั้ง.. บรรดานักธุรกิจระดับ..วาสนามีบารมีล้น ไปจน.. ถึงคนที่ยอมไปตายเอาดาบหน้าขายแรงงาน ที่.. เธอบอกว่า จากการพบพาน พาให้เธอแสนโศกแสนวิปโยคใจ ที่เห็นชีวิตในสองด้านที่ต่างกันจนสุดขั้ว คนรวยที่ตีตั๋วรวมทั้งครอบครัวเป็นล้าน เพื่อความสราญรมย์ยามเดินทางในชั้นธุรกิจ และ.. มีกระเป๋าเดินทางแบรนด์เนมสุดฮิตตามติดมา นับเป็นพวงราคามหาโค...แพง ในขณะ.. ที่คนจนมีกระเป๋าแหกๆ ต้องคอยแบกหามใช้ผ้าปูที่นอนร้อยรัดกันไว้มิให้หลุด ภาพ...เพื่อนมนุษย์ร่วมโลก ที่.. ดิ้นรนไปทำงานแสวงโชคในแดนดินทะเลทราย ที่.. สายน้ำบริสุทธิ์แสนหายาก เลยกอดถังแกลลอนน้ำแนบแน่นราวอัญมณีมีค่า.. เพราะ.. แสนซึ้งค่าคำว่า...หิวน้ำจนตาลาย และ.. เขาอาจชีวีวายตายแบบน่าอเนจอนาถใจ ด้วยโรคร่างกายขาดน้ำ..ได้ ในขณะที่.. ยามนี้... คนไทยในแดนดินอุดม ด้วยพลังทรัพยากร..ทั้งดินน้ำลมไฟ.. ที่แสนพอเหมาะพอดี กลับ.. ใช้ชีวีกันอย่างเปล่าเปลือง อย่าง.. ไม่รู้ค่าทรัพย์อนันต์อันเรืองรองราวทองทา อันคือ.. สิ่งที่ดินฟ้าเบื้องบนได้เมตตาปรานีประทานพรให้มา.. และ.. ช่างมีโชคนักหนา.. ที่ได้เกิดมาใต้ผืนหล้าฟ้าไท ใต้ร่มรัตน์ฉัตรทองอันแสนงามยิ่งใหญ่ เหนือแผ่นดินใด...ในหล้าโลกแล้ว... ผืนดิน ที่งามทั้งวัฒนธรรมประเพณี มีร่มพุทธรัตน์เป็นดั่งรัศมีแก้ว ที่ช่างแสนงามเพริศแพร้ว..แววประภัสสร มาสอนจิตวิญญาณให้ยิ่งงามกว่างาม เกินกว่าชนชาติใดในผืนพสุธา แถม.. ยังมีผืนนาดินอุดม ให้ไม่มีวันอดตาย ขอเพียงแค่ให้.. รู้ใช้ชีวิตอย่างขยันสมถะพอดีพอเพียงเพียงพอ... และ.. นี่คือ.. หัวข้อสนทนาในทุกข์สัจจธรรม ในเส้นทางแห่งโลกย์กว้างทางไกลที่เธอผ่านพบ ที่... คงมิจบด้วยความสุข หากทว่า.. คงคลุกเคล้าด้วยความหนาวร้อน นำมาสอนใจเธอ...ให้ยิ่งมีปัญญา บทเรียน.. จากผองเพื่อนมนุษย์ผู้เหว่ว้า ผู้...ร่วมเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น แล้ว.. นำความทุกข์โศกแสนวิปโยคใจนั้น มา...รู้ปรานีปันพลีเผื่อแผ่ ด้วยเมตตา ในยามที่เธอไกลบ้านราว*แม่นวลนางนกไพรพเนจร* ต้อง.. รอนแรมร้างรังรวงแห่งรัก.. *แม่เพื่อนรักทางจิตวิญญาณของผม* ที่ให้หอมห่มร่มเงาแห่งรักนิรันดร์... อันจักเกินกว่าจะหาค่าคำรักใดมาจำนรรจ์ และ.. เธอ..คนดีที่ผมหวังว่า.. จะเป็นดั่งเพื่อนแท้.. ที่คอยเคียงข้างร่างใจผมไปทุกยาม... และ.. มาตรแม้นในยามที่... ลมหายใจสุดท้ายของผม..กำลังจะพลีปลิดปลิวลิ่วลอย เธอ...คนดี ที่เปรียบประดุจ*ดั่งดวงหฤทัย*แห่งผม ก็คง.. เฝ้าคอยปิดเปลือกตาให้..ด้วยหยาดน้ำตา ด้วยดวงใจรัก... ให้.. ผมจักได้พบกับนิทราฝันดี ก่อนที่... จำจักกระซิบกล่าวคำลาเธอ...ตราบจน..ชั่วนิจนิรันดร..! .......................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3684.html ดั่งดวงหฤทัย ดั่งดวงตะวัน ยามทอแสงสีทองที่ขอบ ฟ้า ก่อความหวังในใจ ที่อ่อนล้า ให้ลุกขึ้นมา ก้าวต่อไป จากวันวาน เธอคือตะวัน ที่ใจฉันเฝ้ารอ และต้องการ ดั่งดอกไม้ งดงามและอ่อนหวาน เป็นน้ำในลำธาร แห่งความรัก ที่ไหลผ่านหัวใจ มีเธอคนเดียว เพียงพอตลอดกาล ความรักจากใจฉัน ให้เธอตลอดไป เธอเพียงคนเดียว ดั่งดวงหฤทัย ทุกอย่าง หมดความหมาย ถ้าขาดเธอ หากมีสิ่งใด ที่เลวร้าย ไม่ยอมให้เจอะเจอ หนึ่งชีวิต ทุ่มเทให้กับเธอ ชั่วนิจนิรันดร์ นานเสมอ แต่ฉันรักเธอ นานกว่านั้น มีเธอคนเดียว เพียงพอตลอดกาล ความรักจากใจฉัน ให้เธอตลอดไป เธอเพียงคนเดียว ดั่งดวงหฤทัย ทุกอย่าง หมดความหมาย ถ้าขาดเธอ หากมีสิ่งใด ที่เลวร้าย ไม่ยอมให้เจอะเจอ หนึ่งชีวิต ทุ่มเทให้กับเธอ ชั่วนิจนิรันดร์ นานเสมอ แต่ฉันรักเธอ นานกว่านั้น...
3 พฤษภาคม 2549 16:33 น. - comment id 574651
งดงามทางจิตใจจังค่ะ...สมชื่อ...ดั่งดวงหฤทัย......
3 พฤษภาคม 2549 17:06 น. - comment id 574659
ให้ ผมจักได้พบกับนิทราฝันดี ก่อนที่ จำจักกระซิบกล่าวคำลาเธอ ตราบจน ชั่วนิจนิรันดร สวัสดีค่ะ พี่พุด บัวอ่านพรหมวิหารกับความรัก ในทางเดินไปสู่ความดับทุกข์ คนสองคนอาจจะสามารถที่จะจูงมือเดินไปด้วยกันได้ ด้วยความรักและซื่อสัตย์ต่อกันฉันท์กัลยาณมิตร ด้วยความเอื้ออาทรและความกรุณาที่มีให้กันฉันท์เพื่อน ด้วยความยินดีในความสุขของกันและกัน ด้วยความปล่อยวางในกันและกัน และเมื่อถึงวันต้องลาจากกันก็คงไม่ห่วงหาอาวรณ์ใดๆต่อกันแล้ว ก็เป็นได้แค่เพื่อนร่วมโลกด้วยสังขารธ์ผุๆ เท่านั้นเองค่ะ พี่พุดมีงานงามๆมาให้อ่านเสมอนะค่ะขอบคุณค่ะ
3 พฤษภาคม 2549 19:37 น. - comment id 574672
ถามพี่พุดว่า ลืมกันหรือยังน้อ............ คิดถึงเสมอ .. คิดถึง.. พี่สาวแสนดี อะนะ
4 พฤษภาคม 2549 01:04 น. - comment id 574719
4 พฤษภาคม 2549 08:27 น. - comment id 574755
สวัสดีค่ะพี่พุด งดงามดั่งดวงหฤหัย
4 พฤษภาคม 2549 09:46 น. - comment id 574789
*แม่เพื่อนรักทางจิตวิญญาณของผม* พี่พุดขา อยากมีเพื่อนรักทางจิตวิญญาณจังค่ะ
4 พฤษภาคม 2549 20:21 น. - comment id 574936
สวัสดีครับพี่พุดคนงาม ถือโอกาสเข้ามาทักทายดวงหฤทัยเสียหน่อย เมื่อคืนนี้ผมส่งข้อความผ่านทางสัญญาณโทรศัพท์ไปหาดวงหฤทัยอีกดวงนะครับ บังเอิญว่าอ่านงานของพี่สาวมาถึงช่วงท้ายๆ ก็ ฉุกคิดขึ้นได้ ความว่า.. อยากอิงแอบแนบร่างฝังเสียงอก เอาแก้มกกเนื้ออุ่นหนุนต่างหมอน มีเสียงใจหมายหมั้นนิรันดร จะจูงกรเจ้ามาวิวาห์ฝัน - - - - - - - - - (ผมว่าจะลองเอาเป็นขยายผล สืบความกันต่ออีกที) นั่นคือคำกลอนที่หมายจะกระซิบข้างหูของใครหนึ่งคน แต่กับพี่สาว.. ผมคงแค่จ้องตาอย่างสุภาพ พร้อมกับกระพริบตาเป็นรหัสมอสส่งถ้อยข้างล่างนี้ให้พี่พุดเงียบๆ นะครับ - - - - - - - - - - โอ้ดวงใจใสดุจพิสุทธทิพย์ ตากระพริบเพียงสบต้องหลบหนี กลัวทรามทรวงล่วงผ่านไปพาลตี- ดวงฤดีผ่องประไพฤทัยธรรม - - - - - - - - สั้นๆ แค่บทเดียวเอง (เหอะๆ ไม่มีเวลามากหน่ะครับ) ปล้วผมเองก็ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่พี่พุด มอบให้และ ทนุถนอมดวงใจของรักษ์รักผู้นี้นะครับ รักรักษา
4 พฤษภาคม 2549 22:02 น. - comment id 574975
ไม่เคยผิดหวังต่องานของสาวสวยแห่งพงไพรเสียจริงๆ แก้วประเสริฐ.
4 พฤษภาคม 2549 22:07 น. - comment id 574978
ไม่มีที่ไหน สวยงามและสุขใจเท่าบ้านของเราอีกแล้วค่ะ คิดถึงพี่พุดเสมอๆคร่า
4 พฤษภาคม 2549 22:22 น. - comment id 574981
เธอเพียงคนเดียว ดั่งดวงหฤทัย ทุกอย่าง หมดความหมาย... ... ไม่รู้ดิคะ .. เรนชอบตรงนี้ .... ให้ความรู้สึกที่เรนชอบด้วยดิคะ.. เรนอยากบอกว่า..พี่พุดพัดชา..เป็นผู้หญิงที่น่ารักและอ่อนโยนในความรู้สึกของเรนไม่เคยเปลี่ยน .. พี่ของเรน.. ทำให้เรนมีพลัง..ที่อยากจะเขียน.. .. ขอบคุณสำหรับ..ความรู้สึกดีๆที่ให้กับเด็กกาละแม..แบบเรนนะคะ..
5 พฤษภาคม 2549 00:26 น. - comment id 575003
แวะมาอ่านครับผม พี่พุด ยังเพราะและกินใจเหมือนเดิมน่ะครับ แต่ไฉนมันได้ย้าวยาวขนาดนี้
10 กรกฎาคม 2552 11:20 น. - comment id 1012239
ในดวงใจผมใฝ่ฝัน จะทิ้งจากวิถีชีวิต ความเป็นชาวนา แต่ไม่ได้ลืม ท้องทุ่ง ไร่นา เพียงแต่ว่า อยากให้ การเป็นชาวนา หยุดลงตรงที่พ่อแม่ ผมไม่อยากให้ท่าน ลำบาก เห็นท่านอายุมากแล้วยังต้องดิ้นรน แม้จะมีความสุขในแบบวิถีชีวิตอย่างนั้น แต่ผมก็อยากจะหลีกล้นให้ได้ อยากมีงาน หรือกิจการที่ทำให้ท่าน สบายกายสบายใจ ในตอนอายุมากขึ้น ผมไม่ลืมหรอกไร่นา แต่ว่า มันคือสิ่งที่ผมฝันไปอีกอย่างหนึ่ง ฝันที่จะทำไร่นา เป็นป่าไม้ สระน้ำ สระเลี้ยงปลา แล้วดำรงชีวิต ที่ไม่ต้อง ทำไร่ทำนา แบบลำบากเหมือนทุกวันนี้