..๏ ดาวเดือนริบหรี่ไร้-.............เรืองแสง ยามกลุ่มเมฆสำแดง-..............เดชล้อม ทิ้งถ่วง*ต่างกำแหง..................เห่อศักดิ์ หาหวั่นวิตกพร้อม-..................พร่างฟ้าราตรี ๚ ..๏ ควันขรมอวดข่มฟ้า...........คุยโขมง ขุยถ่านขี้เถ้าโยง-....................ผูกถ้อย เราเกิดแต่ไฟโพลง...............สุกสว่าง หาใช่ผู้ต่ำต้อย-.......................เศษเชื้ออัคคี ๚ ..๏ พลุแสงแดงอวดจ้า............เพ็ญแข ดูหมิ่นดาวเรืองแล.................ใหญ่น้อย ยามพวยพุ่งจวนแจ.................แสงดับ คงร่วงหล่นเคลื่อนคล้อย-.........ฟากฟ้าอวสาน ๚ ..๏ มีดยังปรามาสแม้น............ด้ามตน ยามถือจับกลมมน.................มั่นแท้ ช่างดูแปลกพิกล....................เกินเปรียบ ปราศจากคมหนึ่งแม้..............เช่นนี้ควรไฉน ๚ ..๏ ฝักดาบยอมห่อหุ้ม............ดาบคม สันโดษยังสุขสม....................เช่นนั้น ฝักดาบทื่อยังทนม*...............เจียมจิต- ตนแฮ ปกปักรักษากั้น.....................บ่ให้คมหาย ๚ะ๛
20 กุมภาพันธ์ 2549 00:17 น. - comment id 562038
เอ๋ บอกได้ว่าเยี่ยม ไว้ว่าง ๆ จะหัดเขียนบ้างน่ะ เขียนกลอนอย่างเดียว มันชักเซ็งแล้ว อิอิ แต่กลัวล่มจัง
20 กุมภาพันธ์ 2549 00:34 น. - comment id 562039
คารมคมกริบแท้ แม่เอย วาทะบาดแล่เฉย แสบสิ้น สำนวนพี่ไม่เคย ประสพ มาก่อน อ่านแล้วใจขาดวิ่น ด้วยคม ปากกา
20 กุมภาพันธ์ 2549 06:24 น. - comment id 562046
ขอบคุณครับ ที่ลงงานดีๆให้อ่านเสมอ
20 กุมภาพันธ์ 2549 07:52 น. - comment id 562055
20 กุมภาพันธ์ 2549 08:00 น. - comment id 562059
พอใจในสิ่งที่ตนมี อย่าหลงใหลในสิ่งที่ตนได้ ชอบคำคมตรงนี้ค่ะ ถุกใจมากค่ะ
20 กุมภาพันธ์ 2549 08:40 น. - comment id 562083
สวมฝักเพื่อรักษ์ไว้..........ความคม แต่กลับทิ้งนานนม..........เก็บตู้ เกิดสนิมเกาะดาบจม.......ใครจัก รู้ฤๅ หมั่นชักเข้าออกรู้...........เช็ดล้างน้ำมัน ดวงดาวพราวพร่างฟ้า.......แสนไกล งามนิ่งอยู่ที่ไหน.............ที่นั้น หากแสงแห่งพลุไฟ.........วาบสะกด ตาแล ใกล้กว่างามต่างชั้น..........ต่างใช้เลือกเอา เศษเถ้ายังดับฟ้า..............เฟือนดาว ควันปกคลุมเห็นขาว..........สุดโพ้น น้ำตาหลั่งไหลพราว...........พรูเพราะ ควันฤๅ ดับโลกมืดแต่โน้น..............แต่นี้แต่ไหน กองอัคคีโชติกล้า............ เกิดควัน มองมืดมองสว่างพลัน........สลับบ้าง มีความคิดความฝัน............ไฉนนิ่ง สักหนึ่งอารมณ์สร้าง..........เถิดให้โลกเห็น
20 กุมภาพันธ์ 2549 08:46 น. - comment id 562088
ฝูงชนย่อมต่างชั้น.....................ปะปน ดีชั่วคลุกระคน..........................ป่นเคล้า พึงเว้นทุรชน.............................ไกลห่าง บัณฑิตจงเร่งเข้า........................คบค้าสมาคม ***มะได้เขียนนานอะลิง..โคลงเครงพิกล...
20 กุมภาพันธ์ 2549 11:06 น. - comment id 562118
มือกุดยังอยากได้ แหวนดี หัวล้านอยากพกหวี อวดบ้าง ตาบอดชอบจะมี ฉายแว่น บังเฮย ขี้เหร่มากรักร้าง สามล้อถูกหวย สาอะไรกับคนอย่างเราจะหลงรักเขาบ้างไม่ได้รึไง อิอิ
20 กุมภาพันธ์ 2549 11:07 น. - comment id 562120
....ว่าด้วยสัตย์....... เสีย สินสงวนศักดิ์ ไว้ วงศ์หงส์ เสีย ศักดิ์สู้ประสงค์ สิ่งรู้ เสีย รู้เร่งดำรง ความสัตย์ ไว้นา เสีย สัตย์อย่าเสียสู้ ชีพม้วยมรณา * *โลกนิติ คำโคลง วันนี้มาแนวปรัชญาน่าคิด.... นี่แหละ... อัลมิตรา..ของแท้...อัดแน่นด้วยสาระและอรรถรส....ครับ
20 กุมภาพันธ์ 2549 11:24 น. - comment id 562130
แหม ช่างคมบาดลึกเยยน้างับ คุณอัลมิตรา เพราะมากครับ อยากแต่งโคลงสี่เก่งๆบ้างงับ ไงก็ต้องขอคำแนะนำด้วยงับ \" กระต่ายจอมอวดอ้าง คุยโว แข่งเจ้าเต่าตัวโต ช้าเชื่อง นึกตัววิ่งเร็วโข ล้ำหน้า ท้ายสุดก็ฝันเฟื่อง พ่ายแพ้ พยายาม \" ดูถูกคนอื่นก็งี้ล่ะงับ ต้องแนวเดียวกะของคุณเค้า อิอิอิ มันเข้ากะกระแสดีนะ ใครเอ่ย
20 กุมภาพันธ์ 2549 11:32 น. - comment id 562134
ค้ม...คม
20 กุมภาพันธ์ 2549 12:49 น. - comment id 562173
มะไหว ยังมะสามารถ เขียนแบบนี้ ชื่นชม ชื่นชม ทุกท่านค่ะ
20 กุมภาพันธ์ 2549 14:34 น. - comment id 562194
คุณร้อยฝัน .. สำหรับอัลมิตราน่ะ ก็แล้วแต่อารมณ์จะพาไปนะ หากพอมีเวลาหน่อย มีสมาธิ ก็จะเขียนฉันท์ ส่วนโคลงหรือกลอน ก็มาเรื่อย ๆ นะ พอ ๆ กับกาพย์ กินข้าว+กับข้าวอย่างเดียว .. เบื่อตายเลย คุณสร้อยแสงแดง .. อักษรที่เสกสร้าง................เชิญยล คือสัตย์ในสากล.................แน่แท้ นักปราชญ์ช่างซ่อนกล.......เชิงเปรียบ จริง-เท็จเทียบได้แล้...........จิตแจ้งหยั่งถึง คุณก่อพงษ์ .. ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มอบให้สม่ำเสมอค่ะ คุณแสงไร้เงา .. :) อัลมิตรามองไม่เห็นอักษรของคุณ แต่เห็นรอยยิ้มที่จารึกค่ะ คุณไรไก่ .. เป็นสิ่งที่อัลมิตราเขียนเพื่อเตือนใจตนเองเช่นกันค่ะ ม้าลาย .. โอ้หนอท่านผู้เที่ยว............พเนจร ได้โปรดฟังคำวอน.............ใช่บ้า ขอจงฝากอนุสรณ์..............รอยบาท- ท่านนอ ประทับ ณ ตรงพจน์ข้าฯ.....ต่างหน้าแทนตน สายธารแห่งภาคพื้น.........ธรณี บ่อเกิดแห่งสุนทรีย์..........มากพ้น รวมเป็นหนึ่งแห่งนที........มหาสมุทร สรรพสัตว์ชมื่นล้น............หล่อเลี้ยงสุขเสมอ ทะเลทรายตั้งมั่น.............ปรารถนา คงมั่นสิเนหา...................ห่อนร้าง ยลหญ้าเพริศโสภา..........ส่ายสะบัด ไกวยอดก่อนคลาดคว้าง..ห่างให้กำสรวล คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ .. คิมหันต์มีนกน้อย-.........ไพรพงษ์ บินร่อนดูอาจอง..............ยิ่งแล้ว เกาะหน้าต่างเสียงหลง....เพรียกเสนาะ- ยิ่งเฮย หายเหนื่อยจึงบินแคล้ว-..เร่ร้างแรมไกล คุณฤกษ์ .. หากท่านคิดไขว่คว้า.....หญิงงาม จงอย่าละการตาม.........ประกบเกี้ยว อย่าสนแม้ใครปราม....เสมือนขัด จะชนะใจสาวเปรี้ยว....สำเร็จได้ในปรารถนา คุณอรุณสุข .. :) ขอบคุณค่ะ สำหรับโคลงโลกนิติ มีประโยชน์มาก ค่ะ สัตย์คือสัจจะแท้..........โดยธรรม สัตว์ย่อมเลวระยำ.......แผกเพี้ยน สัตย์-สัตว์ต่างกระทำ....กรรมก่อ อ้างสัตย์ดั่งสัตว์เฮี้ยน..เช่นนั้นดีไฉน คุณMomMamSan .. กระแสที่เคลื่อนคล้อย...ไปมา เรื่องเล่าคำนินทา.........กล่าวร้าย ขอท่านอย่าปรีดา..........เสริมแต่ง เพราะอาจมองดูคล้าย...ร่วมสร้างสถานการณ์ คุณครูใหญ่โรงเรียนเล็ก .. บาดส่วนไหนคะ :) คุณชมพูภูคา .. ชื่อดอกไม้บนภูเขา ที่มีแหล่งอยู่ที่ จ. น่าน หากอัลมิตราจำไม่ผิดนะคะ และถ้าผิดขออภัยด้วย .. ชื่อของคุณไพเราะจังค่ะ ใบไม้แห่งป่าครึ้ม............ยามเห- มันต์เฮย เหลืองเรื่อดูถมเถ...........ใหญ่น้อย เงียบงันยิ่งรวนเร...........อัตตภาพ ปลิวว่อนต่างเศร้าสร้อย...เกลื่อนพื้นปฐพี
20 กุมภาพันธ์ 2549 14:50 น. - comment id 562199
อ่านเเล้วอยากตายเเล้วเกิดใหม่อ่ะงับ เเต่งอารายจาเก่งขนาดนี้ อยากเเต่งได้เเบบนี้มั่งจัง
20 กุมภาพันธ์ 2549 15:26 น. - comment id 562202
คมมีดกรีดเข้าเนื้อ..........เลือดริน มิเท่าคมยุพิน..................เอ่ยเอื้อน บาดใจไล่สู่วิญ-................ญาณนิ่ง ตรึกตรอง สนิทนิ่งมิอาจเขยื้อน.........ซ่อนริ้วรอยแผล วันนี้เขียนได้บาดมากๆๆๆๆ..เหมือนกุ้งฯโดนมะนาว+พริกเลย.... :)
20 กุมภาพันธ์ 2549 16:15 น. - comment id 562207
คุณหม่อมเจ้า .. อย่ากระนั้นเลย .. หากอ่านข้อความที่อัลมิตราฝากถึงแล้วจะเข้าใจค่ะ คุณกุ้งหนามแดง .. วันนั้น ที่แพ ..เห็นกีกี้ล้างปลาหมึก อัลมิตรานึกถึงคุณกุ้งนะ ตอนไปทริประยอง พวกเราช่วยกันทำอาหาร อัลมิตราทำเป็นนิดหน่อย ก็พลอยเรียนรู้ไปด้วย ไฟโหมแรงรุ่มร้อน...........หัทยา ไฟแห่งริษยา...................ยับถ้อย ไฟลามพุ่งเพียงมา............มอดดับ ใจฤๅ ไฟอักขระอย่าคล้อย.........คู่ข้างวรรณศิลป์ ฯ
20 กุมภาพันธ์ 2549 17:42 น. - comment id 562221
คุณอัลมินตราเก่งจริงๆน่ะค่ะทุกครั้งที่อ่านอ่านเขียนคุณทำให้กระต่ายทึ่งและชื่นชมในความสามรถคุณจริงๆ....ยอมแพ้และยอมรับและยกย่องในความสามรถคุณด้วยความจริงใจ มีความรู้สึกว่า...ถ้ามีโอกาสเจอกันสักครั้งต่ายคงได้ความรุ้จากคุณมาเยอะทีเดียว ดูแลสุขภาพและหัวใจดีๆๆน่ะค่ะ.....กระต่าย
20 กุมภาพันธ์ 2549 17:56 น. - comment id 562229
แหม!!!ล้อเล่งอ่ะงับ โทษทีงับ เดี๋ยวจาโดนหาว่าเป็นเชื้อสุมไฟเนอะ ยกโทษให้กาป๋มด้วยน้างับ
20 กุมภาพันธ์ 2549 18:45 น. - comment id 562237
เมื่อรัฐปิดหูปิดตา...................ประชาชน การปล้นชาติและขายชาติ.......ก็ทำได้ง่ายขึ้น เมื่อทุกคนในชาติ...................เงียบ ชาติก็ถูกปล้นและถูกขาย........ไปอย่างเงียบๆ เมื่อรัฐฉ้อราษฎร์......................บังหลวง ทหารและประชาชนต้องออกมา..ปกป้องชาติ .. คือคำสัตย์ ปฏิญาณ
20 กุมภาพันธ์ 2549 23:55 น. - comment id 562270
วาสนาส่งให้ ครองเมือง ก้าวสู่อำนาจเรือง สง่าสล้าง ปฎิญญาแรกชำเลือง มั่นสัตย์ ท้ายสุดประจักษ์แจ้งร้าง หักเหี้ยนศรัทธา
21 กุมภาพันธ์ 2549 01:35 น. - comment id 562275
เยี่ยมยอดจริง ๆ แต่งได้เพราะพริ้ง มาก
21 กุมภาพันธ์ 2549 07:48 น. - comment id 562306
เก่งมากกกก
21 กุมภาพันธ์ 2549 07:50 น. - comment id 562307
คุณSilky ..จะดูแลสุขภาพและหัวใจดี ๆ ค่ะ :) ขอบคุณมากค่ะ คุณMomMamSan .. อัลมิตราเพียงแต่ต่อโคลง ให้ต่อเนื่องจากของคุณค่ะ หากนำความเข้าใจผิดมาสู่ อัลมิตราต้องขอโทษด้วยค่ะ คุณลักษมณ์ .. ค่ำวานนี้ อัลมิตรามีโอกาสร่วมทานอาหารกับลุงอ่ำ ช่วงที่อยู่ในระหว่างการเดินทาง ก็ได้มีการคุยกันบ้างเล็กน้อย ถึงสถานการณ์บ้านเมือง อัลมิตราบอกกับลุงอ่ำว่า ช่วงนี้ หลายชิ้นงานในบ้านกลอนไทย จับประเด็นที่การเมือง แล้วมันดี หรือไม่ดีล่ะ ลูก.. ? หนูรู้น้อยในวงการเมือง จึงบอกไม่ได้ว่า ดีหรือไม่ดี แต่หนูมองตามอารมณ์ อ่านแบบนี้บ่อย ๆ ชักไม่ค่อยดี บางที ไอ้ที่พวกเขาเขียนกัน เขาเขียนกันเพื่อหวังให้สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นมานะลูก อัลมิตราเชื่อว่า ทุกคนอยากให้ประเทศชาติบ้านเมือง ดำเนินไปในทิศทางที่ดี อัลมิตราไม่อาจตัดสินความได้ โดยเฉพาะเรื่องที่อัลมิตราไม่มีความรู้อยู่เลย ทุกอย่างเพียงได้รับสื่อจากข่าว ดังนั้น .. แม้ว่าจะรำคาญบ้างที่บ้านเมืองระส่ำ หรือไม่เห็นด้วยในหลาย ๆ กรณี อัลมิตราคิดว่า การสงวนท่าที น่าจะเป็นทางออกที่ดี สำหรับอัลมิตรา เรายังคงคุยกันได้ เพราะเรายังเป็นเพื่อนกัน .. ไม่ว่าจุดยืนของความคิดเห็นทางการเมืองของเรา ต่างกัน.. คุณGoldfish .. ก่อนนั้นพวกท่านเอื้อ.........หนุนหลัง เหง้าโคตรก็ บ ชัง...............อย่างนี้ เชิญเถิดหากเป็นพลัง.........บริสุทธิ์ ดี-ชั่ว ประชาชี้.....................เลือกตั้งกันเอง คุณภูวดินทร์ .. ขอบคุณมากค่ะ
21 กุมภาพันธ์ 2549 07:51 น. - comment id 562308
คุณร้อยแปดพันเก้า .. คลาดกันนิดเดียว ขอบคุณมากค่ะ
21 กุมภาพันธ์ 2549 09:20 น. - comment id 562335
ขอบคุณค่ะ ชมพูภูคา เป็นชื่อดอกไม้จริงๆ อยู่บนดอยภูคา จังหวัดน่าน ได้ชื่อนี้มาตอน ไปเที่ยวเมื่อปีใหม่ ดีใจจังเลยค่ะที่มีคนพอ รู้จัก คุณอัลมิตราเป็นคนที่ 2 คนแรกเก๊าะครูใหญ่น่ะเอง อิอิอิ
21 กุมภาพันธ์ 2549 09:26 น. - comment id 562337
คุณ อัลมิตรา คือว่า ส่งข้อความาที่ชื่อ ...หม่อมเจ้า... อีกด้ายมั้ยงับ คือว่าชื่อนั้นเราลืมรหัสอ่า ต้องขอโทษด้วยนะ
21 กุมภาพันธ์ 2549 12:50 น. - comment id 562374
คุณชมพูภูคา .. ไว้คุณลงรูปและเขียนกลอนเกี่ยวกับดอกไม้นี้บ้างสิคะ อัลมิตรารู้จักดอกไม้น้อยชนิด บางชนิด ก็จำชื่อไม่ได้ค่ะ คุณหม่อมเจ้า .. หากคุณลืม Password ในการเข้ารหัสสมาชิกกรุณาส่งอีเมล์มาที่ pheerakarn@hotmail.com ได้ค่ะ