http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1965.html (คู่กรรม) ฟ้ากำลังหลั่งน้ำตา เป็นละอองฝนโปรยสายลงมา ปรายปลอบหล้าแลผองชนคนไทย ในยามปลายวสันต์....ลา... และ.. กับค่ำคืนนี้.. ที่เป็นวันสำคัญทางศาสนา วันมาฆบูชา..วันมาฆมาศ ที่ดวงจันทราสีทอง รอสาดส่องสายแสงแสนหวาน ลบรานโศก...หวังเพิ่มสอนสัจจะใจ ให้กับพุทธศาสนิกชนคนไทยทุกคน บนผืนดินแห่งความงามสงบสุข มาเนิ่นนาน หลายยุคสมัย ให้.. ยิ่งพบความ..เย็นฉ่ำใส..ราวหยาดสายพระพิรุณ ที่กำลังพรายพรมลงมา..จากหอมห้วงนภากาศ คุณ.. คนดีที่*ใบบัว*แสนรักภักดี โทรมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนสุภาพ *ผมจะมารับคุณไปกราบพระประธานหลายวัดนะครับ* *ในวันแห่งความรักของสองเรา* *ที่.. คงไม่เหมือนใคร.. แบบคนใจดวงโบราณเสมอเสมือนกัน ที่คงยึดเอาวันสำคัญทางศาสนา มาเป็นวันแห่งความรักอันแสนหนักแน่นยิ่งใหญ่ ตามรอยองค์พระบรมศาสดาไป ในเส้นทางทอง ที่พระพุทธองค์ทรงดำเนินไปก่อนหน้านี้แล้ว.. และ.. เพียรฝากอริยสัจจ์สี่ ที่คือสัจจธรรมอันแสนล้ำเลอค่าเอาไว้ให้เรา ได้นำมาพิจารณา.. ค้นหาเหตุ..หาผลแห่งทุกข์ และ บอกทางอริยมรรคให้รู้หยุดรู้วาง..ว่าง ให้พบความกระจ่างสว่างสะอาดสงบ เพื่อสยบทุกข์เกิเลสตัณหาที่จักพาให้จิตหมองมัวมืดดำ เธอ...ใบบัว จึงเตรียมตัวนุ่งผ้าถุงผ้าซิ่นไหมงามแผก และ.. ใส่เสื้อแพรไพลเปิดไหล่ล้ำ ให้เห็นนวลเนื้ออันผ่องผุดพรรณรายดั่งทองทา พันทบผมสวยเป็นเกรียวสูงแล้ว เสียบด้วยปิ่นปัก อันแสนรักที่เธอเคยได้รับของขวัญนานมา เขา.. มารับเธอตรงเวลา เพ่งพิศดูร่างงามอย่างมิวางตาด้วยนัยน์ตาสีน้ำตาลโศก ที่ราวโลกจะหยุดหมุนได้..หากจ้องใครนานนาน หาก...ยามนี้ กลับดูราวมีรอยแย้มยิ้มแบบอิ่มเอมเบิกบาน ชื่นชม..ผสมแกม เธอเอ่ยถาม.. ฉันแต่งตัวถูกกาลเทศะมั้ยคะ เพราะ....ว่าวันนี้เราไปวัดกันนี่คะ เลยคิดว่าคงสุภาพดี.. เขาไม่กล่าวคำใด นอกจาก.. เอื้อมมือไปเด็ด ดวงดอกเล็บมือนางหอมหอม ที่กำลังกางฟ้อนพร่างสวยรวยช่ออรชรราวรออยู่ ณ..ริมรั้ว มาเสียบแซมผมให้เธออย่างทะนุถนอมเบามือ ก่อน.. จะกระซิบว่า คุณก็ทราบ..ผมชอบผู้หญิงนุ่งผ้าถุงไปวัด เพราะ..ดูงามจรัสกว่าการนุ่งยีนส์เปิดสะดือ ให้พระหวาดเสียวเป็นไหนๆ เราคบกันมาตั้งนานสองนานแล้ว ทำไมคุณยังไม่รู้จักรู้ใจผมอีกล่ะหรือ..คนดี.. แล้ว.. คุณก็งามนัก ในผ้าถุงแบบพันทบอย่างมีรสนิยม เป็นการประยุกต์แต่งให้งามในท่ามโลกสมัยใหม่ ได้อย่างลงตัวที่สุดแล้วละครับ.. ว่าแล้ว.. เขาก็ยิ้ม..อย่างอิ่มเอมใจอย่างภาคภูมิใจในตัวเธอ ก่อน.. ที่จะขับรถไปตามจุดหมายปลายทาง.. .. เขา..แวะวัดแรก... *วัดเทพธิดารามใกล้วัดราชนัดดา* พร้อมกับ.. เล่าประวัติความเป็นมาว่า คำว่า* เทพธิดา หมายถึง กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ * หรือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองศ์เจ้าวิลาส พระราชธิดาองค์ใหญ่ในรัชกาลที่ ๓ ซึ่งมีพระสิริโฉมงดงาม ทรงได้รับใช้เป็นที่โปรดปรานอย่างยิ่งของพระราชบิดา กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ ทรงบริจาคทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อร่วมในการก่อสร้างวัดเทพธิดารามด้วย วัดเทพธิดารามมีสถาปัตยกรรมเป็นแบบจีน ในวัดมีตุ๊กตาจีนจำหลักทั้งรูปสัตว์และรูปคน ที่น่าสนใจ คือ บางตัวสลักเป็นรูปหญิงไทยไว้ผมปีกแบบโบราณนั่งอุ้มลูก สุนทรภู่เคยมาจำพรรษาที่นี่ระหว่าง พ.ศ. ๒๓๒๘ - ๒๓๘๕ และ.. ได้เขียนบทกลอนเรื่องรำพันพิลาปขึ้น มีบทพรรณนาลักษณะปูชนียสถานปูชนียวัตถุของวัดอย่างละเอียด บรรยายถึงความงามของพระอารามไว้ และเรียกว่า "กุฏิสุนทรภู่" มีการจัดกิจกรรมรำลึกถึงกวีเอกผู้นี้ในวันที่ ๒๖ มิถุนายน เป็นประจำทุกปี ............. และ.. หลังจากนั้น..ก็...พาเธอไปที่*วัดสุทัศน์เทพวราราม * ที่ตั้งอยู่ที่ถนนบำรุงเมือง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มีพระราชประสงค์ จะสร้างพระวิหารให้มีขนาดใหญ่เท่ากับ วิหารวัดพนัญเชิง เป็นศรีสง่าแก่พระนคร ได้พระราชทานนามไว้ว่า "วัดมหาสุทธาวาส" แต่สร้างยังมิทันสำเร็จ ได้เสด็จสวรรคตเสี ยก่อน พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้ทรงดำเนินงานต่อ และ พระราชทานนามวัดใหม่ว่า "วัดสุทัศน์เทพวราราม" สร้างเสร็จสมบูรณ์ ในสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่วัดสุทัศน์ไม่มีเจดีย์เหมือนวัดอื่น ๆ เพราะมี... *สัตตมหาสถาน* เป็นอุเทสิกเจดีย์ (ต้นไม้สำคัญในพุทธศาสนา 7 ชนิด) แทนที่อยู่แล้ว สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดได้แก่ พระศรีศากยมุนี (หลวงพ่อโต) พระประธานของวัดที่ได้ชะลอมาจากว ิหารหลวง วัดมหาธาตุเมืองสุโขทัย และ.. บานประตูพระวิหาร ซึ่งเป็นศิลปกรรมชั้นเยี่ยม ทางด้านการแกะสลัก ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ โดยเฉพาะคู่ที่เป็นฝีพระ หัตถ์ของพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ซึ่งในปัจจุบันนี้ได้นำไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ตามมาด้วยไปกราบ พระพุทธสิหิงค์ที่ประดิษฐาน ณ..ภายในพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ และ.. ยังมีพระที่นั่งอื่นๆที่งามนัก เช่นพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย..พระที่นั่งภิมุขมณเฑียร พระที่นั่งทักษิณาภิมุข..พระที่นั่งวสันตพิมาน พระที่นั่งปัจฉิมาภิมุข..และพระที่นั่งปฤษฎางคภิมุข ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 และ.. ในวันนี้ใบบัวโชคดีที่ได้มาน้อมดวงจิตอธิษฐาน ด้วยใจดวงเบิกบานราว*บัวทิพย์บัวทอง* ดั่งบัวพ้นน้ำ..ในท่ามม่านน้ำตาซึมซึ้งตื้นตัน เมื่อยาม.. ใบบัวแหงนเงยดูภาพจิตรกรรมฝาผนัง ภาพเขียนพุทธประวัติตอนเทศนา โปรดพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และภาพเทพชุมนุมที่ยังทรงคงคุณค่า และ.. พร้อมกับที่เขาคนดีที่เธอแสนรัก ได้เล่าถึงประวัติความเป็นมา ของพระพุทธสิหิงค์ ว่า.. เป็นศิลปะสุโขทัย สำริดกะไหล่ทอง สูง 166 ซม ที่เจ้าเมืองนครศรีธรรมราชได้มาจากลังกา แล้วนำขึ้นไปถวายพระเจ้ากรุงสุโขทัย จากนั้น... ได้ถูกอัญเชิญไปประดิษฐานหลายเมือง เช่น กรุงศรีอยุธยา กำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ ใบบัว อธิษฐานจิตนิ่งพร้อมภาวนาสมาธิ ด้วยจิตดวงดีดวงใสใจดวงรักเงียบงาม และ.. ท่ามความปิติล้ำเหลือจนน้ำตาซึม เมื่อแหงนเงยเห็นพระเนตรแห่งพระพุทธสิหิงศ์ ที่งามมลังเมลืองในบุษบกทองคำงามล้ำค่า ทอดพระเนตรลงมาราวทรงมีพระเมตตากรุณา อย่างที่สุดให้กับดวงใจใสพิสุทธิ์ ราวกำลังได้รับหยาดน้ำอมฤต..ธรรม. และ. กับวัดสุดท้าย วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า *วัดพระแก้ว* นั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น พร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๕ แล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๓๒๗ เป็นวัดที่สร้างขึ้นในเขตพระบรมมหาราชวัง ตามแบบวัดพระศรีสรรเพชญ สมัยอยุธยา วัดนี้อยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก ทางทิศตะวันออก มีพระระเบียงล้อมรอบเป็นบริเวณ เป็นวัดคู่กรุงที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ใช้เป็นที่บวชนาคหลวง และประชุมข้าทูลละอองพระบาทถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา รัชกาลที่ ๑ โปรดเกล้าให้เป็น ที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของไทย มาประดิษฐาน ณ ที่นี้ วัดพระศรีรัตนศาสดารามนี้ ภายหลังจากการสถาปนาแล้ว ก็ได้รับการปฏิสังขรณ์สืบต่อมาทุกรัชกาล .. เพราะ.. เป็นวัดสำคัญ จึงมีการปฏิสังขรณ์ใหญ่ทุก ๕๐ ปี คือในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน เนื่องในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบ ๒๐๐ ปี ในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ที่ผ่านมา การบูรณปฏิสังขรณ์ที่ผ่านมา มุ่งอนุรักษ์สถาปัตยกรรมและศิลปกรรม อันเป็นมรดกชิ้นเอกของชาติ ให้คงความงามและรักษาคุณค่าของช่างศิลปไทย ไว้อย่างดีที่สุด เพื่อให้วัดพระศรีรัตนศาสดารามนี้ อยู่คู่กับกรุงรัตนโกสินทร์ตลอดไป พระอุโบสถ สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๑ เป็นพระอุโบสถขนาดใหญ่ หลังคาลด ๔ ระดับ ๓ ซ้อน มีช่อฟ้า ๓ ชั้น ปิดทองประดับกระจก ตัวพระอุโบสถมีระเบียงเดินได้โดยรอบ มีหลังคาเป็นพาไลคลุม รับด้วยเสานางรายปิดทองประดับกระจกทั้งต้น พนักระเบียงรับเสานางราย ทำเป็นลูกฟักประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีอย่างจีน ตัวพระอุโบสถมีฐานปัทม์รับอีกชั้นหนึ่ง ประดับครุฑยุดนาคหล่อด้วยโลหะปิดทอง มีเสารายเทียนหล่อด้วยทองแดงล้อมรอบทั้งสี่ด้าน *ใบบัว*จึงแสนซึ้ง สำนึกในความเป็นไทย ในทุกวัฒนธรรมประเพณี ผ่าน... ความงามที่สอนให้เรารู้จัก รักความปราณีตละเมียดละไม ที่มาจากใจช่างไทยผู้รักสมถะ รู้ค่า.. ของคำสอนแห่งพระบรมศาสดา ที่ทรงกล่าวว่า... *ความสุขใดจักเกินกว่าความสงบเย็นเป็นไม่มี* ใช่แล้วสินะ ที่ไม่ว่างานงามพุทธศิลป์ใด ก็มักก่อเกิดมาจากความสงบร่มเย็นในทุกภูมิวิถีไทย และ.. ในทุกความมลังเมลืองละเมียดละไมในฝีมือ ของวัดวาอาราม ต้องใช้ใจดวงใสดวงงามดวงรักสมถะพอดีพอเพียงเพียงนั้น ที่.. ยังคงมั่นในวิถีชีวีอันไม่เร่งร้อนรีบเร่ง ของช่างโบราณในหลากด้านหลายสาขา ไม่ว่าจะด้าน จิตรกรรม ปฎิมากรรม สถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และมากวัฒนธรรมประเพณีไทย ก็ต้องมาจากใจที่เพียรฝึกปรือความชำนาญ ฝากไว้ให้กับผืนแผ่นดิน ที่คงต้องใช้ใจดวงใสแก้ว ที่แพรวพรายฉายฉานดั่งอัญมณีอันแสนงามเย็น *ใบบัว* จึงรู้สึกดื่มด่ำแสนปิติใจ ในทุกครา.. ที่ได้ทอดทัศนาวัดวาอาราม บ้านเรือนไทย และ.. พระที่นั่งอันแสนงามไสวด้วยประวัติความเป็นมาที่มากล้นค่า พาให้ย้อนรำลึก นึกไปถึงความสงบงามในอดีตเนานาน ที่ผันผ่านลาเลยอย่างยากหวนย้อนคืน.... และ.. สำหรับสัจจธรรมชีวิต ไม่ว่าเราทุกคนจะสนุกสนานกันสักปานไหน ในวัยวันหนึ่ง หากแล้ว.. ไม่นานเราทุกคนก็ราวกลับจะซึ้งคำที่ว่า ในที่สุดแล้ว เราก็ต้องพ่ายแพ้ต่อสังขารอันจักร่วงโรยรา ราวดอกไม้รอท่าปลิดปลิว ไปกับกาลเวลา อันค่อยๆคืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆ โดยบางคราเราหารู้ตัวไม่... เพราะ.. มัวหลงใหลได้ปลื้มดื่มด่ำกับความสนุกสุขสันต์มันส์เมา จนราวคนเขลาหลงโลกโศกมายา มารู้ค่าแห่งวันเวลาอีกที ก็.. เมื่อถึงนาทีเห็นความเจ็บความตายตรงหน้า หากทว่า...ก็สายเกินไปเสียแล้ว ที่จะแผ้วถาง พาจิตวิญญาณให้พบความสว่างใส ให้จิตไสวได้ทันสะสม*เสบียงบุญ*กันเอาไว้ ใบบัว.. แวะหยิบลั่นทมริมทาง ที่ดอกยังสดสะอ้านนวลกลีบยังงามงด ราวสาวสวยยังสดโสภา แห่งทว่ามิอาจเอาชนะชะตากรรมได้ เมื่อถึงเวลาย่อมร่วงปลิดปลิวลงมา เช่นเฉกเดียวกับดวงดอกลั่นทมดอกนี้.. และ.. บางทีอาจจะ ก่อนถึงกาลเวลาอันควร ราวกับมากมายล้วนหมู่มนุษย์ในวัยหนุ่มสาว ที่มิอาจผัดเพี้ยนพญามัจจุราชได้ และ.. กับนาทีนี้.. ที่ใบบัวได้รับทราบข่าวว่า คุณกนกพงศ์ สงสมพันธ์ ได้พรากลาวงวรรณกรรม ไปอีกหนึ่ง ทั้งๆ... ชีวิตเพิ่งเริ่มต้น ก็ยิ่งทำให้ได้บ่มร่ำถึงคำว่ามรณานุสติ ที่คือความแน่นอน ...ยิ่งกว่าแน่นอน ใบบัว.. ค่อยๆคลี่ปอยผมที่พันทบคลายร้อนออกอย่างช้าๆ ก่อน.. ที่เขาจะทัดดอกลั่นทมให้ และ.. ด้วยใจดวงเหว่ว้าพอกัน ที่จิตมองเห็น.. *ครรลองลาของสัจจะธรรม...พรากจาก* ทุกธรรมชาติ ที่รายล้อมสอนใจให้รู้รักเงียบงาม ใบบัวและเขา..นั่งนิ่งนิ่ง พิงเก้าอี้ริมสวนสาธารณะ ที่มีฝูงนกพิราบบินลงมามากมาย ผู้คนทั้งไทยเทศราวฝูงมดปลวก ต่างพากัน มาสัมผัสความงามในสถาปัตยกรรมอันแสนทรงคุณค่า ที่แสนมหัศจรรย์นัก... .......................... ค่ำแล้ว... พร้อม.. เสียงสวดมนต์ดังก้องรอบลานโบสถ์ เขากับใบบัวประคองอัจกลับโคมแก้ว ที่แวววามพร่างพร้อยด้วยแสงเทียน และ.. ร้อยรัดพันทบด้วยมาลัยพวงหอมกรุ่น กับ.. ละมุนด้วยบัวดอกสวยในมืองาม ที่ใบบัวเลือกพับกลีบ อย่างแสนประณีตละเมียดละไมบรรจง ด้วยใจดวงศรัทธาปสาทะ ในวันสำคัญแห่งศาสนานี้ และ.. หันมาแย้มยิ้มยินดีปรีย์เปรมในปิติเกษมบุญกันและกัน... ...................... ฝนโปรยสายหนักขึ้น ขณะเขาฝ่าฟันการจราจร*กลับบ้าน* เขาเปิดเพลงซึ้งซึ้งคลอสายฝนที่กำลังพร่างพรม จนแทบมองไม่เห็นเส้นทางข้างหน้า ฟ้าราวกำลังร่ำไห้ และ.. ในท่ามดาวเดือนที่มืดมนไร้สิ้นแสงในเงาฝนคืนฝัน วันสิ้นไร้พระจันทร์.. พลัน..!!!! เสียงดังสนั่น..อย่างกับฟ้าคำรามตามมา..!!! พร้อมกับรถที่เขาขับ..แล่นถลาออกนอกเส้นทาง อย่างควบคุมไม่ได้..!!! เขา..ร้องบอกกับเธอด้วยสติที่ยังพอมี ให้หลบลง .!!!!!!ราวรู้ว่ารถกำลังถูกชนอย่างรุนแรง..!!! ก่อน.. นาทีแห่งความเป็นความตายจะหมายรอณ..ตรงหน้า..!!! กับ.. ฟ้าที่มิหยุดสุดสิ้นกำสรวลหวนไห้..คล้ายดั่งหยาดน้ำตา ใบบัวเซซวนด้วยแรงปะทะ กัมปนาท..!!! ศีรษะราวถูกฟาดด้วยบางสิ่งแสนหนักอึ้ง หาก.. ยังพอมีสติ...รู้สึกตัว.... ................... ........................... เธอ...เพียรควานไขว่คว้าไปในม่านฝนสลัว ด้วยหยาดเลือดเต็มนัยน์ตา... และ... ได้ยินเสียงเพรียกหาเธออยู่ใกล้ๆ.... ใช่แล้ว ..!!! เขาคนดี ที่เธอแสนรัก ที่เพิ่งได้พักพิงไออุ่นอวลอกอ่อนหวาน เพิ่งผ่านนาทีอันแสนงามแสนดีมาด้วยกัน อยู่ตรงนี้เองใต้ซากรถนี้เอง เธอ..ได้กลิ่นน้ำมัน ปนไปกับกลิ่นเลือดที่กำลังหยาดรินอย่างมิสิ้นสาย..!!! หาก.. ด้วยพลังแห่งรักที่มี เธอ.. ค่อยๆเพียรพยายามดึงร่างเขาคนดี ที่เธอแสนรักออกมาจนได้... ................. ........................... แล้ว..... ค่อยๆ... วางศรีษะเขาไว้ในอ้อมตัก พร้อม.. ร่างที่เริ่มหนาวเหน็บ.. ก่อน... จะลูบไล้ใบหน้าอย่างแสนรัก พร้อมจุมพิต...แนบแน่นริมแก้มเย็น กระซิบ... บอกเขาริมหูพอได้ยิน.. *จิตจับไว้ที่ดอกบัวทิพย์นะ..คนดีนะดวงใจ ที่ๆ.. เราจะไปผุดผลิพบกัน.. ณ ...แดนขวัญสวรรค์สรวง อย่าห่วงสิ่งใดเลยนะยอดรัก หลับให้สบายนะที่รัก..นับจากนี้ไป..ตราบจนชั่วนิจนิรันดร์... ......................................... ......................................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1965.html คู่กรรม.. ช...ดังนรกชัง ฤาสวรรค์แกล้ง แกล้งทรมาน ให้ฉันได้เจอ ญ...เกลียดชิงชัง สุดท้ายรักเธอ แต่พอเผลอ พรากเธอดับสูญ ช...เวรกรรมหรือไร แต่ปางไหนนั่น ญ...สุขเพียงชั่ววัน แต่ช้ำทวีคูณ ช...ให้ห่างไกล สุดฟ้าอาดูร ญ...สูญสิ้นเธอ ตลอดกาล ญ...อธิษฐานจิตใจหากเกิดชาติไหน ช...ฐานันดรใดใด ทุกสถาน ช-ญ...ดลให้เรา ได้พบเจอเป็นคู่กัน วอนสวรรค์ ได้ไหม ช...วิญญาณฉันรอ ที่ทางช้างเผือก เลือกเธอรักเธอ ได้ร้างลาไกล ญ...ดั่งหิ่งห้อย เฝ้าคอยจนชีพวาย ใต้ลำพู รอคู่กรรม ญ...อธิษฐานจิตใจหากเกิดชาติไหน ช...ฐานันดรใดใด ทุกสถาน ช-ญ...ดลให้เรา ได้พบเจอเป็นคู่กัน วอนสวรรค์ ได้ไหม ช....วิญญาณฉันรอ ที่ทางช้างเผือก เลือกเธอรักเธอ ได้ร้างลาไกล ญ...ดั่งหิ่งห้อย เฝ้าคอยจนชีพวาย ใต้ลำพู รอคู่กรรม...
17 กุมภาพันธ์ 2549 21:14 น. - comment id 561698
แวะมาทักทายพี่พุดสบายดีป่าวครับบบบ
18 กุมภาพันธ์ 2549 01:55 น. - comment id 561749
บอนอธรรมบอนไซ ใบบอนหลับตาแน่น เขาวางยาหล่อน หลับซะ...จะได้ฝันดีห่มผ้าให้ โรแมนตกตามประสา ทำให้บอนไซใบตำแยอย่างผมระคายตัวไม่ได้ มาทักทายครับ
18 กุมภาพันธ์ 2549 09:50 น. - comment id 561792
สวัสดีครับ คุณพุด
18 กุมภาพันธ์ 2549 09:52 น. - comment id 561794
สวัสดีค่ะ วันนี้โชคดีจังพี่พุดพาชมวัดสำคัญหลายวัด แต่ตอนจบเศร้าเสียน้ำตาอีกแระค่ะ
18 กุมภาพันธ์ 2549 11:40 น. - comment id 561819
แวะมาเยี่ยมค่ะพี่พุด มาชมดอกบัวสวย ๆ งาม ๆ ค่ะ สบายดีนะค่ะพี่พุด รักษาสุขภาพนะค่ะ รักและคิดถึงค่ะ
18 กุมภาพันธ์ 2549 18:40 น. - comment id 561888
..เข้ามาเพราะความคิดถึง.. รำพึงด้วยความเหงาหงอย.. หวังว่าพี่พุด คงสบายดีนะคร้าบ น้องเพชรพรรณรายเอง
3 กรกฎาคม 2552 04:45 น. - comment id 1009101
ขอให้ ชายคนนั้น ไปผุด ณ แดนสรวง นะครับ