ความรักครั้งสุดท้าย..

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3408.html
(ความรักไม่มีวันละลาย)


ไรแสงแสนหวานแห่งอรุณแรก
แทรกใบไม้พร่างระยิบ
มา..
พรายพริบโลมไล้ร่างดายเดียว
ให้..
พลันตื่นมาฟังเสียงแสนสดชื่นระรื่นร่ำ
แห่งส่ำสรรพสัตว์ถึงเตียงนอนนวลนุ่ม
ที่มาพร้อมกับอวลอุ่นแห่งสายลมยามเช้า
มาเคลียเคล้าดวงใจ
ดั่งดนตรีไพรทิพยสวรรค์ประทาน


ม่านฟ้า...เริ่มคลี่
ราว..
ม่านเวทีละครโลกย์โศกสุข
แห่งมวลมนุษย์พร้อมคลี่เผยตาม
ให้..
ทุกดวงใจ..
ได้รับแสงใสงามแห่งดวงตะวัน
พลี...หวังหวาน
ดั่ง..
ได้เติมไฟฝันพลังใจ
ให้...พลันตื่นชื่นบานอีกครา
และ..
อีกครา...
ได้ลุกขึ้นมาหยัดยืนสู้โลก ไปอีกวัน และอีกวัน
ตราบจนกว่า..ลมหายใจแสนสั้น..จะสิ้น!


เธอ..
นอนนิ่งนึกนับ
ณ..วันนี้แล้วสินะ
วันมาฆมาศ วันสำคัญทางศาสนา
ที่..
ทุกดวงใจพุทธศาสนิกชน
ถือว่าคือวันแห่งความรัก
อันแสนหนักแน่นยิ่งใหญ่
ที่..
*องค์พระบรมศาสดา*
ได้แผ้วถางทางบุญการุณย์ธรรมไว้
ให้..
เหล่าผองชนคนในชมพูทวีป
ได้เดินตามรอยบาท..อย่าคลาดคลา 
อย่าให้เสียเวลาเสียชาติเกิด..!


วันที่...
พระจันทร์..วันมาฆมาศ..บานเต็มดวง 
เหลืองทอง สุกปลั่ง 
ค่อยๆ..
ลอยเรี่ยทายทักฟ้างาม 
ในยามค่ำ อย่างอ่อนโยน นุ่มนวล..... 
แสงจันทร์งามละออ หวานปานสายน้ำผึ้ง 
ราว..
จะหยาดลงมาประโลมใจทุกๆคนบนผืนโลก 
ให้เยือกเย็น งดงาม หวานฉ่ำพอกันกับจันทร์เจ้า.... 


แสงเทียน ในมือ เสียงธรรม 
ก้องสองหู จากเสียงสวดของพระสงฆ์...
ขณะ ก้าวเดินอย่างช้าๆ.... ไปรอบโบสถ์งาม..... 
ตามกันไป ในเส้นทาง 
ของพระพุทธองค์ ผู้ทรงนำทาง ก่อนหน้า 
พาใจให้บานเบิก 
ราว
บัวชูช่อรอรับ แสง อรุณรุ่ง...
แห่งชีวิตนี้ที่ค่อยๆสว่างไสว...
ไป..
กับตะวันเปล่งแสงเจิดจ้า 
จนกว่ายามสนธยา จะมาเยือน....และ 
จนกว่า..
แสงแห่งชีวีนี้ 
ที่จะเลือนหาย ไปกับสายลม ในยามค่ำ 
กลิ่นพิกุล หอมเศร้า
เคล้าแสงเทียน วับแวม 
พิกุลร่วงพรูพราว รอคนรู้ค่า
นำมาร้อยเป็นมาลัยหอมงาม ไว้ดอมดมชมชื่นใจ 


ประเพณีไทย ประเพณีงาม 
ในยามค่ำนี้ 
วันแสนดีของพุทธศาสนิกชน 
วันเพ็ญเดือนสาม
ที่..
พระอรหันต์เอหิภิกขุ
จำนวนหนึ่งพันสองร้อยห้าสิบรูป
มารวมกันที่เวฬุวนาราม
อย่างพร้อมเพรียงกัน
โดยมิได้นัดหมายกันมาก่อน
และ..
พระพุทธองค์
ได้ทรงแสดงธรรมโอวาทปาฎิโมกข์
เรียกว่าจาตุรงคสันนิบาต
ให้พุทธศาสนิกชน
ได้หลุดพ้นจากการเวียนว่าย 
ในวัฏสงสาร ยาวนาน มิรู้สิ้น 


เช้า..ตักบาตร ฟังธรรม 
น้อมนำใจ ให้ใสเย็น 
ตั้งจิตอธิษฐาน กราบกราน 
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 
ให้ได้..
พบแสงธรรมนำทางทุกๆชาติไป 
ถ้ายังไม่หลุดพ้น ต้องเวียนวนมาเกิดชดใช้กรรม 


ค่ำ..เวียนเทียน 
นำดอกไม้ ธูปเทียน 
เป็นมาลัยแทนใจ 
แทนความดี ที่ศรัทธา น้อมบูชา 
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า..
ผู้นำทาง สว่างไสว มาสู่ใจนี้ ที่ยังไม่มืดบอด.. 
อธิษฐานเพิ่ม เติมต่อ 
ขอให้สุขภาพดี มีคนดี 
ที่มีใจรักมั่นคง มาเคียงครอง คุ้มผองภัย 
หวังสิ่งใด ก็ขอให้สมหวัง ถ้าเป็นสิ่งดี ที่คิดปอง 


กลับบ้าน 
มานอนดูพระจันทร์ 
ด้วยฝันเห่กล่อม 
ใน..
อ้อมแขนของดาวเดือนเพื่อนผู้รู้ใจ ให้ไม่ว้าเหว่....
นอนฟังเสียงลม
เสียงจิ้งหรีดเรไร..ในความงามเงียบ 
แกล้มกลิ่นหวานเศร้า หอมร่ำรวยริน กลิ่นดอกลั่นทม 


จันทร์ดวงงาม ใจดวงดี 
ไม่มีอะไรสุขเท่า 
ขอเพียงคิดเป็น 
ให้ธรรมชาติร่มเย็น หยิบยื่น 
ขุมทรัพย์ล้ำค่ามาสู่สายใจ 
ในทุกวันเวลา ถ้าเพียงรู้คำว่า..เปิดใจ.. 


ฝากสายลมยามค่ำ ไปกอดเธอ 
ฝากมวลหมู่ดาว พราวพร่างฟ้า 
ยามราตรีนี้ 
กระซิบบอกว่า.....


อย่าร้องไห้นะทุกคนดี ที่คิดถึงฉัน 
ฝากแสงจันทร์ โลมไล้ ดวงใจให้ไม่สิ้นหวัง 
โลกและคืนวัน แสนดี ยังมีอีกยาวนานนัก.. 
และ
ทุกสิ่งจัก..แพ้พ่ายใจ ดวงดีที่มั่นคง 
ไม่ว่าจะรอนานสักเท่าใด 
ขอเพียงอย่าหวั่นไหว ในรักนิรันดร์นี้แห่งสองเรา ..
..............


และ...สำหรับ..
เธอ...ศศิมาฆะ..
กำลังเตรียมตัวเดินทาง
ข้ามไปสู่ฝั่งฝันพะงันงาม
แดนดินที่เธอได้ยินมาว่า
มี..
สำนักวิปัสสนา
ที่คนที่มีดวงตาเห็นธรรมพากันหลั่งไหล
มามิขาดสาย


แทนที่จะพาร่างว่ายวน
เพื่อข้ามทะเลโลกย์
อันแสนโศกวน
มาเพียงเลาะเลียบอยู่ริมชายฝั่ง
อัน..
เต็มไปด้วยผู้คนนานา
สารพันไฟกิเลสตัณหาพาแผดเผาให้เร่าร้อน
ราวกับ..
ไส้เดือนกิ้งกือถูกน้ำร้อน
พากันเต้นรำรับขวัญวันพระจันทร์หวาน
กันอย่างหามรุ่งหามค่ำ
ให้..
จันทร์..เจ้า
อยากหยุดหยาดสายหวาน
และหันมาฝากรานโศก
อยากร้องไห้ไปกับโลกแห่งเวทนาแทน..


เมื่อ..
เห็นความไม่เที่ยงแท้แน่นอน
*ของเหล่าภมรดอกไม้..บัวใต้น้ำ*
ที่
ยังมากมีมายมายนัก..
ยังมองไม่เห็นหนทางชีวี 
หนทางที่จะหนีวังวนแห่งบ่วงวิบาก
ยอมพรากจากรัก 
อันจักหายาวยืนไม่
ในที่สุด..
ทุกมนุษย์ก็ต้องเดินก้าวเข้าสู่เชิงตะกอน
ไปนอนร้อนร่าง ไร้รับรู้กันทุกหมู่คน 
ทั้งจนรวยเสมอเสมือนกันอย่างยากจะหนีพ้น...


เธอ...
จัดข้าวของใส่กระเป๋าใบย่อม
ที่ไร้เครื่องประทินผิว อาภรณ์ให้งามใด
เธอ..
ที่มีเพียงใจดวงใสใส ดวงกระจ่างสว่างวาบ
ที่กำลังใช้บทเรียนแห่งสัจจธรรมมรณานุสติ
มาเป็นทางฉลาดเลือกหนทาง..


สู่..
ทางสายธรรม อันแสนสว่างสงบ..สยบทุกข์สุข
หยุดว่ายวนพ้นเพียรพาร่างให้ห่างไกลวิบาก
ฝ่าขวากหนามแห่งความทรมาน
เพื่อ..
ได้เดินตามรอยพระพุทธองค์
มิหลงทาง แม้อาจจะต้องใช้ระยะเวลา
แสนยาวนานแสนห่างไกลอีกสักหลายสิบชาติ
เธอ..
ก็มีสติปัญญาฉลาดพอ
ที่จะไม่ขอพลาดอีกแล้ว...
เพราะ..
จิตดั่งแว่วคำว่า ชีวิตนี้ช่างแสนสั้นนัก...
...........


เขา...
เจ้าของรีสอร์ทรูปงามนามเพราะ
ที่เพียรอยากต่อเติมเพิ่มไมตรีกับเธอ
หาก..
ทว่าเธอมิได้หลงละเมอให้เขาเข้าใจผิด
นอกจาก..
เพียงเผยจิตให้เขาทราบ
ถึงความว่างวางในทางโลกโลกีย์
และ..
หวังจักพาร่างนี้..
ไปพบทางสายกระจ่าง
ห่างไกลโช่ตรวนบ่วงพันธนารัก


เขา...
ยังอุตส่าห์ใจดี
ไม่ลืมสัญญาที่ว่าจะพาเธอข้ามไปยังฝั่งฝัน
ที่..
เธอหวังสักวัน..
เขาเอง..
ก็อาจหยุดเพลิน
เดินตามรอยตามใครใคร
ไปในกระแสหนทางแห่งกิเลสโลก
หยุด..
โศก..ทิ้งทั้งทุกข์สุขทุกรัก
อันแสนหนักหนาราวศิลา...
มาเดินในเส้นทางทองเช่นกันกับเธอ 
อย่าง..
ที่มิยอมให้ชีวี*ใกล้เกลือกินด่าง*
อย่างชาวต่างชาติและคนไทย
ที่..
มาหลงบ่วงใจ
มิพ้นพันธนาวิบากกรรมอยู่แถวริมชายฝั่ง
สนุกกันทั้งวันทั้งคืนแบบเมาดื่มหัวราน้ำ
อย่างขาดสติสิ้นสตังค์..


จนจะหลงเหลือ
คนที่รู้ตื่นรู้เบิกบาน 
พากันมาปีนเขา
สู่หนทางสวรรค์*สำนักวัดเขาถ้ำ*
ก็เพียงแค่หยิบมือเดียว
ที่..
มิอยากหลงข้องเกี่ยวสิ่งทุกข์ใด
ให้ใจเร่าร้อน
ดั่งไฟฟอนแผดเผาอีกต่อไป
ไม่ยึดมั่นถือมั่นสิ่งใด
เลิกหลงมายาฝันมายาโลก
ที่จะรับเพียงโศกใจ
หากมิรู้วาง..
ไร้สุขจีรัง..ไปอีกนานแสนนาน


และถึงมาตรแม้น
ต้องฝ่าหนทางขวากหนาม
ยามเพียรภาวนาอย่างแสนทรมาน
ให้..
พ้นผ่านทุกข์ด้วยวิธีรู้หยุดรู้วาง
เลือกทางสายกลาง
รักษาศีล..ภาวนาสมาธิ
หาวิธีพบปัญญา โดยผ่านการวิปัสนากรรมฐาน
ให้..
จิตพ้นม่านกรรม ม่านเปลือกกิเลสอันมัดหนา
ที่มาบังจิตบังใจ
พร้อมทุ่มเททั้งร่างใจ..


และแล้ว....หากมีบุญญา
เคยสานแผ้วทางธรรมมาก่อนในขันธสันดาน
ก็จะได้พบว่า...
มีดวงแก้วแววมณี
ที่พร่างไสวอยู่ณ..กลางจิตใสกลางใจเราเอง
รอ..
เพียงส่องนำทางให้พบความกระจ่างแจ้ง
ไปพบบาน ประตูพระนิพพาน..ที่เปิดแง้มรอ
อย่ามัวคิดท้อยอมแพ้พ่ายเลิกรา
แม้น..
บานประตูนั้น อาจจะยังมองเห็นว่า
แสนไกลลิบ..


ให้ยังคงตั้งจิตมั่น ตั้งสัตยาธิษฐาน
พาดวงวิญญาณบานตระการชูช่อ
รอสายทองแสงธรรมดั่งบัวพ้นน้ำ..เช่นฉะนั้น..
...................


เธอ..
จึงมานั่งดายเดียวเดียวดายในเรือ
ลำที่มีนายท้ายเป็นชายหนุ่มรูปงามผิวคล้ามแดด
เจ้าของรีสอร์ทไพรบุรี
ที่แสนใจดีมีเมตตาสู้อุตส่าห์พาเธอข้ามฝั่งมา


ให้....
พบพรายแสงพระอาทิตย์กำลังจะลาลับฟ้า
กับเรือเร็วที่กำลังวิ่งฝ่าทะเลแสนสงบงาม
*ทะเลสีทอง* 
ที่กำลังงามผ่องผุดระยิบระยับราวอาบด้วยเกล็ดเพชร


เธอซ่อนหยาดน้ำตา
ด้วยการแหงนเงยหน้ามองฟ้า
สีหวานราวเรียวรุ้ง 
หวัง..หมายมุ่งให้พลังนิมิตแห่งธรรมชาติ
ที่แสนพิลาสพิไล 
ได้โอบเอื้อดวงใจให้หนาวคลาย
บทเพลงคู่กรรม
ดั่งคำมั่นสัญญา
หวานแว่วลอยลมมากับลมทะเล
ราว..
กับใครบางคนที่พรากลาไปไม่มีวันกลับ
กำลังขับครวญผสมฝากมาด้วยลมหายใจแห่งรัก
ให้ย้อนรำลึกคิดถึงวันคืน..
ที่ผันผ่านมาราวเพิ่งเกิดตรงหน้านาทีนี้..
...............


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3408.html
ช...ดั่งขอบฟ้าไร้แสงตะวัน
หากใจฉันไม่มีรักของเธอ
ญ...ตั้งแต่วันแรกเจอ
ก็มีเงาร่างเธออยู่ในใจ
ช..หนึ่งชีวิตให้เธอผู้เดียว
จะไม่เหลียวไม่แลผู้ใด
ญ..หนึ่งความรักให้ไป
จะเนิ่นนานเท่าไรยังซื่อตรง
คู่...ตราบอาทิตย์
และดาวที่พร่างพราย
คู่...เลือนหรี่ดับลับไปจนมืดลง
ญ...แต่สายใยแห่งรักจะมั่นคง
กว่าลมหายใจที่เรามี
ช..หากวันไหนสองเราจากกัน
อย่าหวั่นไหวเพราะใจเธอรู้ดี
ญ..กี่แสนวันหมื่นปี
ความรักเราไม่มีวันละลาย
คู่..ตราบอาทิตย์
และดาวที่พร่างพราย
คู่..เลือนหรี่ดับลับไปจนมืดลง
ญแต่สายใยแห่งรักจะมั่นคง
กว่าลมหายใจที่เรามี
ช..หากวันไหนสองเราจากกัน
อย่าหวั่นไหวเพราะใจเธอรู้ดี
ญ...กี่แสนวันหมื่นปี
ความรักเราไม่มีวันละลาย
...............


เสียงกระซิบแสนเศร้า
ราวดังมาจากราวฟ้าแสนสวย
*พี่จะรอเรานะคนดี
พี่จะสร้างกระท่อมไพรไว้ให้รจนาภาษาฝัน
ให้มีแรงบันดาลใจบรรเจิดจิต


และ..
วันหนึ่ง..พี่สัญญา
พี่จะมารับคนดี
ไปเป็นเทพีไพรประจำใจพี่นะ
พี่...
หวังจะพายเรือพาเราไปนั่งเป็นแม่ย่านาง
ท่ามกลางบึงบัวในท่ามฟ้าสลัวโพล้เพล้
แล้ว..
คอยกล่อมเห่ไปกับฟ้างาม
เราจะอาบน้ำด้วยกันในบึงรักบึงฝัน


ใน..
ท่ามคืนฝันวันพระจันทร์หวาน
ที่จักมาแย้มเยือนทายทัก
มาหยาดสายน้ำผึ้งภักดิ์
มา..
พลีโอบรัดร้อยเราไว้
ด้วยสายสร้อยโซ่พิสวาทมิคลาดคลา
ให้ฟ้าดินเมตตาได้รู้เห็นเป็นใจ


ให้..
เธอคนดีที่พี่สุดแสนรัก
ได้เด็ดบัวงามดอกไสว
ในท่ามบึงไปถวายพระในยามค่ำ 
แล้ว..
เราสองจะน้อมนำจิตดวงใส..พลีเพียรภาวนา


ให้
ทวยเทพเทวาฟ้าประทานพร
ให้รักเราดั่งรักตราบชั่วนิจนิรันดร 
ดั่งคู่ทองคู่ธรรม
ไปจนตราบวันตาย....
และ..
ต่างพากันเกี่ยวก้อยลอยล่อง
ท่องไปสู่แดนดินแห่งความว่าง
อันแสนกระจ่างแจ่ม... ที่หมายรอ


และ..
พี่จำได้นะครับว่า * ศศิรักตะวันตกดิน*
รักดาวสวย รักมวลดอกไม้ไทยอรชร
รักแสงทองยามจับรวงเรียว
เมื่อ..
เราเคย..เกี่ยวก้อยกันเข้าไป
*ในหุบเขาฝนโปรยไพร*


และ..
ไปพบภาพฝัน*มหัศจรรย์ใจ
*ราวฉากในทิพย์สวรรค์*
ที่งามสะพรั่งราวผืนพรมแพรในไสวพร่างพราย
ฉายฉาน
ราว..
จิตรกรธรรมชาติได้มาสาดสีทองฉาบไล้ไว้..


คนดี..
สักวันนะครับ
เราคงได้อยู่ในอ้อมใจกันและกัน
ที่พี่คงแสนมีความสุข
ได้โอบกอดร่างน้องน้อยแนบแน่น
ในนาทีแสนงามนี้...


พี่..
จะชี้ชวนให้เราดูสิ่งที่แสนสวยงามที่สุด
ให้ฟ้าดินอินทร์พรหมยมพญาที่นี่
เป็นพยานรักแห่งสองเรา
ดั่ง..
เพลงคำมั่นสัญญา.
ที่พี่จะครวญสั่งฟ้าฝากนวลหอมๆแห่งศศิไว้นะครับ*


และ...
คนดี..อย่าร่ำไห้..
ตราบใด...
ที่พี่ยังมีลมหายใจ
ในจิตวิญญาณพี่จะไม่มีวันลืม 
ใน..
ทุกหอมห้วงแห่งช่วงความทรงจำที่แสนดี
แสนงามงดนี้..ไปตราบชั่วกาล


จำไว้นะคนดี..ดวงใจ..
ทุกรอยเชยรอยชม
ที่พี่ฝากไว้บนแก้มกาย
คือรอยรักอันจักมิมีวันเสื่อมสลาย
ตราบชีพพี่วาย  
ขอเพียงให้รู้ถนอมขวัญถนอมนวล
นะยามเราไกลกัน ...
.................................


นั่นคือ..
ความทรงจำ..
ที่เธอตราไว้ในรอยใจมิมีวันลบเลือน
และ....
กับนาทีนี้..
ที่ใกล้ถึงฝั่งฝันตรงหน้า
แผ่นดินที่เธอรำพึงรำพัน
อยากมาฝากฝังร่างและจิตวิญญาณเพียรภาวนา
ให้ผ่านภพเพียรพ้น...ทุกข์....ในทุกรัก..


น้ำตาเธอ..
จึงล้นหลากอยู่ภายในบึ้งใจเพียงลำพัง
อย่างมิอายฟ้าดิน กับรอยอาลัยถวิล
ที่แสนงดงาม..ในทุกกาลเวลา..


กับ..
เกรียวเมฆที่เล่นแสงแปรสีเป็นรัศมีรุ้ง
ให้นภานทีงามจรัสเรืองดั่งทองทาบทา
ที่..
ช่างแสนอ่อนหวานอ่อนโยนอาบเอิบอิ่มซึ้งค่านัก
ในกมลนวลดวงนิดน้อยนี้
*ของลูกผู้หญิงคนดีที่ชื่อศศิมาฆะ*
กับ..
ใจดวงที่แสนบอบบางว้าเหว่
ที่..
ช่างแสนรักดินเดิมดายเดียวนัก


และ..
รักแสนรัก ในทุกยาม
ที่ได้นอนเหยียดยาวเหนือเนินผา
ใต้ร่มไม้ชายนาใต้ตาลเดี่ยวไหว
ฟังบทเพลงจากเรียวรวง
ราวกำลังคร่ำครวญ..
เสียงกระซิบจากฟากฟ้า


นานเท่าไรแล้ว
ที่ความหลังผันผ่านมา...
นับจากคำลา
ครั้งสุดท้ายที่เขาได้ฝากไว้แด่..ดวงใจ
ใน..
วันหนึ่งที่เธอแสนยังตราตรึงใจ


ในเมื่อ..
เขาคือ..สุภาพบุรุษไพรผู้ที่มีหน้าที่โดยตรง 
ที่จะรักภักดีมั่นคงทุกธุลีดิน
อันคือ..
สิ่งแสนหวงแหนของคนในชาติ
ที่จักได้สืบทอดฝากต่อไป
ยังลูกหลานเหลนโหลนในภายหน้า


เพื่อทำความดี...
ให้ดวงชีวีราวคืออัญมณีแห่งผืนดิน
*หนึ่งในหกสิบล้านดวง*
เพื่อ..
ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท
ที่ทรงเป็นดั่งฉัตรแก้วแห่งปวงชนชาวไทย
กางกั้น..
ให้พบเพียงความร่มเย็นเป็นสุขไปทุกหย่อมหญ้า
และ..
อย่างที่ทรงให้สัจจาธิษฐานไว้
*เราจะครองแผ่นดินนี้โดยธรรม*


ที่..
นับมาถึงวันนี้แล้ว..
ทุกดวงใจไทยทุกชนชั้น ข้าในแผ่นดิน
แสนซาบซึ้งประจักษ์ในน้ำพระราชหฤทัย
อัน..
แสนใสเย็นราวสายธารแสนเกษม..
เสียยิ่งกว่าสิ่งใดในโลกหล้า


ให้ทั้งทั่วฟ้าดินอินทร์พรหม..
ได้พลีบูชาสรรเสริญ..
จนเกินกว่า..
จะหาค่าคำใดมาเทิดทูนศรัทธา
ในพลังพระบรมเดชานุภาพ..


ที่...
แผ่รัศมีเมตตาไพศาล ปกบ้านป้องเมือง
ให้แสนมั่นคงรุ่งเรือง ในท่ามโลกแล้งไร้
ที่..
มากมายดีร้าย..
เต็มไปด้วยปัญหาความขัดแย้ง
ที่แรงร้อนด้วยความไม่รู้ธรรม ไม่รักธรรม ธรรมชาติ
ไม่เพียรใช้ชีวิต..
และ..
ลมหายใจอันแสนนิดน้อยหนึ่งนี้
พลีเพียงต่อสู้ความอดอยาก
และพลีปันแบ่งแด่ผู้ทุกข์ทนยาก
อย่าง..
เพื่อนผู้มากเมตตาอย่างกรุณาปราณีกัน
อย่างยุติธรรม..


แล้ว..
หันหน้ามาปรองดองสานสมานฉันท์สามัคคี
ดั่งน้องพี่
ผู้คือเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตายทั้งหมดทั้งสิ้นทั้งโลก
และ..
ช่างแสนน่าโศกสะเทือนนัก 
หากยังไม่รู้จักคุณแผ่นดิน*ที่ให้ข้าวให้น้ำ*
ไม่..รู้ค่าว่าโชคดีนักหนาแล้ว...


และ..
สำหรับชีวิต
เธอ...ที่เกิดมาดั่งธุลีหล้าใต้ฟ้าทองฟ้าไทย
ใต้ร่มบุญญาศาสนาแก้วแววประภัสส์
จึง..ยินดีนัก
ที่..
อีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
เธอ..จะได้พบกับ
*แดนดินแห่งความฝันนิรันดร์รัก นิรันดร์ภักดิ์*
เพื่อ..
ใช้ชีวิตในร่มรัตน์อันแสนเย็นราวเพ็ญผ่อง
ให้ส่องนำทางใจไปตราบกาล


และ...
เธอเพียงหวังวอนเพียรพลีทำ
ให้..
ดวงจิตรักรอยธรรม รอยทอง 
เดินไปตามครรลองแห่งความดีงาม
อย่างถูกต้องถูกทาง......
ไปตามเบื้องพระยุคลบาทและพระบรมศาสดา
ที่...เป็นดั่งร่มฉัตรเพชร
ยอดพลังศรัทธาแห่งฟ้าดินสิ้นแล้ว...
...............


และ..
เพราะเธอ..เคยอ่านผ่านตา
ที่มีนักอยากเขียน..เพียรฝันค้างนาม*พุดพัดชา*
ได้ร่างรจนา..
เกี่ยวกับสถานที่นี่ไว้ในหลากเรื่องราว
เธอ..
จึงพลีจิตพลีร่างใจ
มาแสวงหาบุญอันแสนยิ่งใหญ่


และ..
ในที่สุด..
เธอก็ได้พบเห็นสถานที่นี้แล้วตรงหน้า
ที่ตั้งอยู่บนเนินผาราวลอยเลื่อนมาจากสวรรค์สรรเสก
ที่..
เธอ..เห็นชาวต่างชาติมากมาย
มาปลีกวิเวกนั่งสมาธิถาวนา


และ
ท่ามทะเลโลกย์เหว่ว้า
ที่ผู้คนราวหมู่มวลแมลงเม่า
บินเข้าสู่ทะเลไฟ ทะเลใจที่แสนเร่าร้อน
ด้วย..
พิษรักบ่วงพันธนาอย่างมากมายที่ต่างดาหน้า
กันมาแสวงหาสุขเพียงภายนอก..ไปวันๆ
...............


กับฟ้าใกล้ค่ำ
เสียงระฆังหวานเว่วจากวัดเขาถ้ำ....
ที่ตั้งบนชะง่อนผาสูง.... 
ที่มี..
ทัศนียภาพรายรอบที่แลเห็น...
จากลานหินกว้าง..
ที่ข้างล่างคือถ้ำ จะมีทางเล็กๆ เลาะลัดเลียบทอดลงไป..
แลไกลออกไป  คือโลกสีคราม   กว้าง ไกลสุดตา
เวิ้งทะเล  สีน้ำเงิน เขียวมรกต..


และ..
โทนสีทะเล
ที่ค่อยๆไล่สีอ่อนจางลงมาตามลำดับ
แทรกด้วยฟองคลื่นสีขาว เป็นระลอกงาม
เรือเร็วลำน้อย
ค่อยๆวิ่งฝ่ากระแสชล
แตกฟองขาวนวลตรงมายังอ่าวท่าเทียบเรือ 
ตรงหน้า..
จะมี
เกาะสมุยชิดใกล้ขนาบด้วย  เกาะแตนอก แตใน
ราวกับจะห่วงว่าเกาะพะงัน จะเหว่ว้า
แลลงไปเบื้องล่าง 
จะมองเห็น...
ทิวมะพร้าวสลับซับซ้อนเป็นหมื่นหมื่นต้น
บ้านเรือนซ่อนตัวอยู่ในดงไม้  เงียบสงบ
มี..
ก็แต่ควันไฟลอยอ้อยอิ่ง ขับฟ้างามอย่างช้าๆ


บนหน้าผาชะโงกง้ำ ลอยเลื่อน ราวทายทักเมฆ
จะมีหอระฆัง  และพระพุทธรูป
ให้กราบไหว้ อธิษฐานจิต
มี..
ลั่นทมขาวออกดอกพราวไปทั้งต้นบนชะง่อนผางาม
ส่งกลิ่นหวานเศร้า อบร่ำให้ใจ นิ่ง..เยือกเย็น ล้ำลึก
อวลมากับสายลมเย็น
กับบรรยากาศ 
เงีบบงาม..ที่รายล้อม...
....................


ร่างๆหนึ่งในชุดขาว
นั่งนิ่งเงียบในท่าสมาธิภาวนาเหนือชะง่อนผา
ที่ลอยยสูงลิบแทบเคลียทิวทิพย์เมฆ
ราวกับโลกนี้มีเธอเพียงลำพัง...
กับ..
จิตตั้งมั่นในลมหายใจเข้าออก..
และ..


นั่นคือ..
โลกเลือกสำหรับเธอ..แล้ว
แม่จอมแก้วจอมใจคนดี
ผู้หญิงคนที่...มีชื่อแสนงาม
นามแสนสิริมงคลวว่า*ศศิมาฆะ..เพียงนั้น..!
********************


พลีพร้อม
เรื่องราวประกอบ..ฉากสุดท้ายค่ะ
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem33679.html
ตะวันลา
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem33905.html
เพชรพะงัน
http://www.thaipoem.com/forever/poem.php?poemid=71592
มาฆบูชาน้อมดวงใจให้ใสเย็น

พุดพัดชาลบออกในตอนแรกเนื่องจากจะ
รจนาตัดทอนใหม่ค่ะ แต่เนื่องจากไฟฝันมอด
เลยต้องนำมาลงทั้งหวานวน
ให้ทนอ่านไปพลางๆนะคะ
มีเวลาค่อยแก้ไขค่ะ
แต่สำหรับใจพุดแล้ว..
อยากฝากไว้ทั้งหมดทั้งสิ้นแหละค่ะ
ศศิมาฆะจึงจะสมบรูณ์สิ้นในวันมาฆมาศค่ะ
				
comments powered by Disqus
  • pigstation

    13 กุมภาพันธ์ 2549 00:20 น. - comment id 560470

    ...............
  • แสงไร้เงา

    13 กุมภาพันธ์ 2549 01:23 น. - comment id 560476

    สวัสดีพี่พุด
    
    
    ทำไมว่างเปล่าละค่ะ..
    
    แต่ภาพสวยดีค่ะ
    
    คิดถึงพี่พุดนะค่ะ
    
    รักเสมอค่ะ...
    
    16.gif36.gif16.gif
  • ทางแสงดาว

    13 กุมภาพันธ์ 2549 07:32 น. - comment id 560488

    ..................
  • พุด

    13 กุมภาพันธ์ 2549 10:10 น. - comment id 560494

    16.gif
    ถึง..
    คนดีทั้งสามคนในซึ้งใจพี่พุดค่ะ36.gif
    
    ที่เพียรมาให้กำลังใจ
    ในความว่างเปล่า
    มิให้พี่พุดเหงาใจ
    ยังคงมีพลังใจรจนางาน
    ........
    คุณ..หมู
    น้องแสงไร้เงา
    คุณทางแสงดาว36.gif
    ...
    พุดพัดชา
    ลบออกในตอนแรก
    เนื่องจากจะ
    รจนาตัดทอนใหม่ค่ะ 
    แต่เนื่องจากไฟฝันมอด
    เลยต้องนำมาลงทั้งหวานวน
    ให้ทนอ่านไปพลางๆนะคะ
    มี..
    เวลาค่อยแก้ไขค่ะ
    แต่สำหรับใจพุดแล้ว..
    อยากฝากไว้ทั้งหมดทั้งสิ้นแหละค่ะ36.gif
    
    ศศิมาฆะทั้ง..4 ตอน
    หวานวน
    จึงจะสมบรูณ์สิ้นในวันมาฆมาศค่ะ..36.gif
    ........
    http://www.thaipoem.com/forever/poem.php?poemid=86350
    แด่คนดีที่ชื่อ*ศศิมาฆะ..ตอน1
    http://www.thaipoem.com/forever/poem.php?poemid=86384
    *ศศิมาฆะน้อมดวงใจใสเย็น ตอน2
    http://www.thaipoem.com/forever/poem.php?poemid=86447
    *ศศิมาฆะว้าเหว้ ตอน3
    http://www.thaipoem.com/forever/poem.php?poemid=86472
    *ความรักครั้งสุดท้ายของศศิมาฆะตอน4ค่ะ36.gif
    
    ด้วยรัก..
    
    
    
    36.gif
  • Forever-U

    13 กุมภาพันธ์ 2549 13:27 น. - comment id 560509

    ยาวจังเลยค่ะ
    
    แวะมาทักทายค่ะ46.gif
  • เจ้าพานทอง

    13 กุมภาพันธ์ 2549 20:06 น. - comment id 560573

    3.gif16.gif36.gif
    
    เสนอหน้ามาแล้วครับ
  • พุด

    13 กุมภาพันธ์ 2549 23:11 น. - comment id 560620

    10.gif16.gif
    รักนี้มีเพียงสีดำดั่งศอพระศิวะ
    สีสัจจะภักดิ์รักเพียงให้ไร้หวังหวาน
    ใครใครเขามีดวงดอกไม้สีชมพูให้ชื่นบาน
    เรามีเพียงรานเพียงร้าวเหน็บหนาวนัก..10.gif16.gif
    
    วันแห่งความรักค่ะ
    สำหรับ
    คนไม่มีดอกไม้ ใช่เลยเพียงว่างเปล่ารอค่ะ
    
    พุดพลีบทกวีที่แต่งไม่จบนี้กำนัลค่ะ
    จะมาตอบคำพรุ่งนี้นะคะ36.gif
  • แก้วประเสริฐ

    14 กุมภาพันธ์ 2549 08:04 น. - comment id 560663

    36.gif  รักแรกเช่นเด่นล้ำดุจน้ำผึ้ง
    สุดตราตรึงซึ้งไว้ในใจเสมอ
    พอสิ้นสวาทขาดสัมพันธ์ฉันและเธอ
    ยากเจอะเจอจนพบรักพักดวงใจ.
    
                16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แอ็ปเปิ้ล

    14 กุมภาพันธ์ 2549 08:42 น. - comment id 560675

    ไม่ว่าความรักจะจบลงเช่นไร
    เริ่มต้น หรือ บทสุดท้าย
    ขอเพียงเวลาที่ผ่านมา รักให้ดีที่สุดก็พอนะคะ
    
    สวัสดีวันแห่งความรักคะพี่พุด
    ขอให้รักงดงามในหัวใจตลอดไป คิดถึงคะ 36.gif57.gif
  • กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

    3 กรกฎาคม 2552 04:44 น. - comment id 1009100

    เป็น นวนิยาย รักอิงธรรมะ  ที่โหดร้ายจริงๆ  ฟ้าไยต้องมีคำว่า  พลัดพราก

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน