http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song302.html (สายชล) มิใช่..น้ำผึ้ง..หากเป็นเช่นน้ำอมฤต หยาดให้จิบดั่งน้ำค้างอนันต์ค่า คือน้ำใจใสงามเนิ่นนานมา คือน้ำตาแห่งปิติพลีแด่กัน จากใจทองครองขันธ์อันวางว่าง เพียงแผ้วถางทางเหนือโลกย์ลบโศกศัลย์ ถือเป็นโชคโลกเมตตามาพบกัน ดั่งคู่ขวัญคู่บุญสร้างทุนทาน ในเส้นทางเลือกเคียงเลี่ยงกิเลส รู้ดับเหตุแห่งทุกข์สุขแสนหวาน รสใดเล่าจักคงอยู่นิรันดร์กาล เท่าสายธารธรรมธาราสัจจะรัก วันเวลามิประมาทอาจเช่นนั้น จึงฝ่าดั้นคว้าดาวแม้นหนาวนัก มาหว่านโปรยประดับใจทุกที่รัก ให้ประจักษ์แด่ผองชนคนร่วมชะตา เจ็บแลตายคล้ายเส้นทางยากเลี่ยงหลบ ตะวันพลบรอชีพดับไปกับหล้า มากผู้คนเวียนว่ายทะเลน้ำตา สูญเวลาไปชั่วกาลหวานวัฎวน สู่เส้นทางสายสงบพบกระจ่าง สุขในว่างสุขนิรันดร์ฝันเพียรพ้น ดั่งบัวบานเหนือน้ำค่าเหนือคน กลางกมลดอกบุญบานตระการใจ ฝันพาจิตลอยล่องท่องนทีทิพย์ ข้ามสีทันดรไกลลิบสู่สวรรค์ไสว ปาริชาติบานรอรับขวัญนะดวงใจ คือยิ่งใหญ่เหนือชีพชนม์สั้นวันมรณาในโลกามนุษย์..! .............. คำพระสอน แสงสว่างหรือแสงอาทิตย์นั้นทำให้เราเห็นชีวิตที่แท้จริง ได้อย่างไร ท่านจ้อย หรือพระมณเฑียร มนทิโร แห่งสวนโมกข์ ตั้งคำถาม ในคืน สวดอภิธรรมของ โกศล กลมกล่อม และแฟนสาวผู้ลาลับ มนุษย์หลายคนกลัวว่าตัวเองจะไม่มีเงา แต่เมื่อถูกแสงสว่างหรือแสง อาทิตย์ เงาเริ่มถูกทอดออกไปเป็นทางยาวหรือสายยาว นั่นทำให้เรา เห็นชีวิตในตัวเราอันแท้จริง เห็นความรู้สึกอันแท้จริง หลายคนนอนหลับอยู่ ไม่มีเงาแต่ยังไม่ตาย มีความรู้สึกว่าพรุ่งนี้ต้อง ทำหน้าที่ต่อ ทำชีวิตให้มีคุณและค่าต่อไป ยังไม่ตาย แต่หยุดการปรุง แต่ง เรามีการพักผ่อน เราหยุดการคิด หยุดการพิจารณาสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แล้วหลับอย่างมีความสุข และพรุ่งนี้ต้องตื่นมาอีก ถ้าใครหลายคนคิด ว่าพรุ่งนี้จะไม่ตื่น ท่านจะหลับตาลงไหม แต่ถ้าคิดว่าพรุ่งนี้ไม่แน่อาจ จะไม่ตื่น ผู้นั้นมีพระธรรมพระพุทธเจ้าอยู่เต็มหัวใจ ลองคิดดูนะ ว่า ต้องไม่ประมาทในชีวิต ไม่ประมาทในวัย ไม่ประมาทในเวลา ทำให้ ถึงที่สุด ให้ดีถึงที่สุด แล้วนอนหลับอย่างดีที่สุด ท่านจ้อย เทศนาถึงการเกิดขึ้นแห่งธรรมชาติล้วนๆ การสืบสานต่อ แห่งสังขารล้วนๆ พร้อมยกประโยคที่ท่านพุทธทาสเขียนไว้ว่า ใดๆ ในโลกล้วนแต่สิ่งสมมุติ (วิมุตติ) มิใช่เรา มิใช่ท่าน มิใช่การอยู่ มิใช่ อะไรทั้งสิ้น นี่คือธรรมชาติแห่งนิพพานของสากลจักรวาล นิพพานคือ ความถูกต้อง วิมุตติคือความถูกต้อง ความตาย จึงมิใช่การจาก หรือการพลัดพราก เป็นเพียงการทำ หน้าที่เท่านั้น ในวันนี้ ท่านทั้งหลายและอาตมามาเจอกันด้วยเวลา แต่เป็นเวลาแห่ง การสูญเสีย ทุกคนไม่อยากให้เวลานี้เกิดขึ้น ไม่อยากให้เวลานี้มาถึง แต่ใครล่ะจะห้ามได้ แล้วท่านมองดูต่อ ถ้าเราบอกว่า หลายคนเคยรู้ ไหมว่า ท่านทั้งหลายในจิตใจท่านมีอะไรบ้าง ที่ท่านคุมไม่ได้ ท่านรู้สึก ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ คือการปรุงแต่งของสังขารล้วนๆ ในภาวะ ของอารมณ์ทั้ง 6 นี่คือ 6 ทางแห่งเงาตัวเอง อย่าให้สะท้อนออกไปสู่ ภายนอก ความรักก็ดี ความโกรธ ความเกลียด ความหึง ความหวง เคียดแค้นอาฆาตพยาบาทก็ดี เป็นสิ่งหนึ่งที่อยู่ในเงาท่าน อยู่ในบ้าน น้อยๆ ของท่านนี้ การที่จะคุมอารมณ์ทั้ง 6 นั้นได้ ท่านจ้อยบอกว่า ต้องใช้วิธี เอาความสงบสยบความเคลื่อนไหว ความสงบสยบอะไร สยบเงาที่จะออกไปตีโพยตีพาย สงบเงาตัว เองที่จะออกไปสร้างปัญหาของสังคม สร้างปัญหาของครอบครัว ให้พ่อ แม่ต้องน้ำตาไหล ให้พี่น้องต้องเดือดเนื้อร้อนใจ นี่คือเอาความสงบ สยบเงาตัวเอง แล้วท่านจะมีความสุข บ้านที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่มี ความสุขตามอัตภาพที่เราอยู่ได้ ท่านจะรู้สึกว่าไม่มีตัวฉัน ในที่สุดแล้ว ฉันก็ไม่มี ผู้ใดเห็นอยู่อย่างนี้ ความกลัวไม่ปรากฏแก่ผู้นั้น ความกลัวของมนุษย์คือ ความตาย และ ความพลัดพราก พระ พุทธเจ้าตรัสไว้ว่า สิ่งทั้งหลายทั้งปวงมีความกลัวเป็นธรรมดา (กลัว ตายมากที่สุด) ถ้าไม่มีฉันก็จะไม่มีเงา เมื่อไม่มีเงา ความตายก็จะทำ อะไรท่านไม่ได้ มัจจุราชก็จะตามหาท่านไม่พบ สรุปแล้วมนุษย์เหนือกว่าสิ่งใดในโลกนี้ แม้แต่เทวดายังอยากเกิดเป็น มนุษย์เลย เพราะว่ามนุษย์นั้นสำเร็จพระอรหันต์ได้ มนุษย์สำเร็จโสดา 4 ขั้นได้ เทวดาได้แต่เหาะไปมาจนสับสนวุ่นวาย แต่มนุษย์รู้ชีวิต เห็น ความทุกข์ เห็นชีวิตอันแท้จริง และเริ่มเรียนรู้ตัวเอง ควบคุมเงาตัวเอง ให้อยู่ในความสุข ความสงบ ท่านจ้อย ฝากข้อคิดเตือนใจ เราทุกคนคือแขกผู้แปลกหน้า เราเยี่ยมเยือนโลกามิช้านาน เราแสดงบทบาทที่ขาดเกิน เราเพลิดเพลินพลัดพรากตายจากไป เราทุกคนคือแขกผู้แปลกถิ่น จงถวิลเตือนจิตเป็นนิสัย จงเป็นแขกที่ดีมีน้ำใจ จงยับยั้งระวังระไวในชีวิต จงอ่อนน้อมถ่อมตนทุกหนแห่ง จงสำแดง กาย วจี ไมตรีจิต จงยิ้มแย้มแจ่มใสดับไฟพิษ ทำ พูด คิด สิ่งใดเกรงใจคน ........................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song302.html สายชล ..จันทนีย์ อุนากูล เหม่อมองดูสาย น้ำ วน เหม่อมองสายชล ที่ไหล ริน เหม่อมองดูนก ผก ผิน บินลับ ไป ยาม เหงา เราถอนใจ บิน ไป ไม่กลับ มา เปล่าเปลี่ยวจริงหนอ หัว ใจ อยากจะรักใคร เศร้าใจทุกครา หมดแรงกำลัง อ่อน ล้า และหลง ทาง เจ็บ นั้น ยังเจ็บไม่จาง อ้าง ว้าง ดังสาย ชล แม้ใจจะเจ็บ เก็บมาคิดคิด อดีต ช่างงามล้ำล้น มิเคยลืม ภาพเราสองคน มิเคยลืม ยังหลอกลวงตน มิเคยลืม ว่าเคยรักเธอ สาย ชล หลั่งรินไหลวน มาพานพบเจอ เหตุการณ์ผ่านไป ยัง เพ้อ พะวงทุกวัน อก เอ๋ย ขมขื่นตื้นตัน จาก กัน หรือฝัน ไป มิเคยลืม ว่าเคยรักเธอ สาย ชล หลั่งรินไหลวน มาพานพบเจอ เหตุการณ์ผ่านไป ยัง เพ้อ พะวงทุกวัน อก เอ๋ย ขมขื่นตื้นตัน จาก กัน หรือฝัน ไป...
26 มกราคม 2549 11:11 น. - comment id 555086
ความรักผลิบานทุกหนทุกแห่งคะ งดงามในถ้อยคำเสมอพี่พุดคนนี้
26 มกราคม 2549 11:06 น. - comment id 555658
มาแวะเยี่ยมพุดพัดชา คิดถึงมาก ดูรูปแล้วนึกถึง ทะเลสาปบึงนกที่พัทลุง น่าเสียดายนกไม่ค่อยจะมีอยู่แล้ว ตั้งแต่เช้าจนค่ำมีแต่เรือเครื่องหางยาวพานักท่องเที่ยววนเวียนไปดูทั้งพื้นที่เขาเรียกทะเลน้อย หรืออะไรนี่แหละ นกที่ไหนจะมาอยู่ไหว อิอิ
26 มกราคม 2549 12:03 น. - comment id 555684
สวัสดีค่ะ พี่พุดสุดรัก ความรักอยู่ในใจเราทุกคนเสมอ และสวยงายเสมอค่ะ คิดถึงพี่พุดนะค่ะ รักษาสุขภาพนะค่ะ ด้วยรักและเป็นห่วงค่ะ...
26 มกราคม 2549 12:36 น. - comment id 555697
เพลงสายชลเพราะมากค่ะ ชอบฟังเวลาคิดถึงความหลัง (พูดเหมือนคนแก่เลย แต่ยังไม่แก่นะคะ อิอิ) งดงามเช่นเคยนะคะ
26 มกราคม 2549 13:58 น. - comment id 555722
ฤกษ์คะ รู้สึกดี กับคำว่าคิดถึงมาก ระหว่างเรานับเนาเวลานานกี่ปีแล้วนะ ที่ยังคงมีน้ำใจให้แก่กัน สิ่งสำคัญพุดซึ้งค่ะ ที่ยังไม่ลืมพุด ทะเลน้อย เป็นเส้นทาง *ตามรอยดวงใจพุดค่ะ* สักวันพุดจะไปค่ะ ด้วยรำลึกเช่นกัน
26 มกราคม 2549 14:03 น. - comment id 555724
น้องแอ็ปเปิ้ล ใช่ค่ะความรักผลิบาน ในทุกหนแห่งค่ะ และ ความรักมีหลายรูปแบบค่ะ ขึ้นว่า เราจะได้รับเมตตาจากฟ้าดิน ลิขิตดวงชะตา ให้ เราได้พบรักแบบไหนกับใคร..คนค่ะ สักคนค่ะ ซึ้งใจจังที่ไม่ลืมงานพี่พุดเลย
26 มกราคม 2549 14:06 น. - comment id 555726
น้องแมงกุ๊ดจี่ เป็นห่วงใจน้อง.. ที่... พี่พุด สัมผัสได้จากกงานระยะนี้ค่ะ ฤาว่างานแค่งาน..คะคนดี ด้วยรักและซึ้งใจ ที่เพียรให้. .สายน้ำใจแสนดีงามแด่พี่พุดเสมอมา
26 มกราคม 2549 14:09 น. - comment id 555728
น้องลมรำเพยค่ะ งาม งานเพลงโบราณหวานดีนะคะ ฟังสิคะ และลองอ่านเนื้อหาเพลง ที่นักแต่งเพลงรจนาออกมา ด้วยหัวใจที่ไร้วัยวันดูสิคะ ว่าบรรเจิดจิตขนาดไหน ฟังด้วยหัวใจค่ะ ไม่ต้องคิดถึงความหลัง ฤามีความหลัง ก็ยังงามพริ้งพราวเสมอ พี่พุดซึ้งใจค่ะ ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้พี่พุด มาให้กำลังพี่พุดในทุกงานค่ะ
26 มกราคม 2549 14:20 น. - comment id 555730
โลกสวย ฟ้าแจ่ม ดอกไม้บาน นกขับขาน สายฝนพร่างพรม ลมรำเพยกลิ่นข้าวใหม่ พวงพะยอมไพรในป่าสะพรั่งบาน บึงบัวเคียงตาลดอกพราว ตระการนาข้าวเขียวขจี กระท่อมสงบเงียบในวิถี มีวัวควายใต้คอกไผ่ มี ธารน้ำใจใสระริน ให้ดื่มกิน ตราบใด เรายังมีกันและกัน...ค่ะ
26 มกราคม 2549 14:44 น. - comment id 555738
สวัสดีค่ะ ไม่แวะอ่านงานของพี่พุดไม่ได้เลยนะเนี้ย ล้วนมีสาระความรู้และคติเตือนใจครบถ้วน ขอบคุณพี่พุดมากๆขอให้พี่พุดมีความสุขมากๆนะคะ
26 มกราคม 2549 15:01 น. - comment id 555742
ฤกษ์ไปฝากไว้ทีหลังในงาน *ดั่งฝนหลงฤดูในฤดี*ค่ะ ถึงฟ้าฝนหลงเวลาตกห่าใหญ่ ยังแพ้ใจหลงรักเขาหนักหนา เดินหลงทางยังแค่เสียเวลา ทั้งชีวาต้องสิ้นไปเพราะใจรัก เหมือนหนูหลงเดินเข้ารูไม้ไผ่ จะกลับหลังไม่ได้ติดกับดัก ต้องเดินหน้าลูกเดียวแปลบเสียวนัก เขาไม่รักสมน้ำหน้าบ้าไปเอง ไม่ทราบจะบ่นกับใคร บ่นกับพุดพัดชาดีกว่า อิอิ .............. พุดนำมาตอบตรงนี้ค่ะฤกษ์ และ ให้สงสัย..รูไม้ไผ่ยังกลวงพอลอดได้มั้ย ลองพยายามดูนะฤกษ์ รักกับหลงคงต่างกันนะฤกษ์นะ พุดคิดว่ารักเหนือกว่าหลงพะวงฝัน ตรงที่แม้นไม่เคยได้ใกล้ชิดสนิทกัน หากดวงจันทร์ไยเผยงามยามแย้มยล จันทร์บนฟ้าส่องประดับฟ้าอย่าคว้าไขว่ ให้ประดับใจผองชนทั่วเวหน มิหมายหมองจ้องมาเป็นของตน แล้วทุกข์ทนด้วยรักร้อนจักผ่อนเพลา
26 มกราคม 2549 15:11 น. - comment id 555758
คือรัก...มนุษยชาติ... งานงดงามมากค่ะ...พี่พุด......
26 มกราคม 2549 17:11 น. - comment id 555776
เป็นธรรมที่งดงามค่ะ..เย็นใจที่ได้อ่านค่ะ..
27 มกราคม 2549 00:28 น. - comment id 555907
คือความจริง ชอบบทตรงนี้จังค่ะ มนุษย์หลายคนกลัวว่าตัวเองจะไม่มีเงา แต่เมื่อถูกแสงสว่างหรือแสง อาทิตย์ เงาเริ่มถูกทอดออกไปเป็นทางยาวหรือสายยาว นั่นทำให้เรา เห็นชีวิตในตัวเราอันแท้จริง เห็นความรู้สึกอันแท้จริง \" ชุดนี้ เป็นธรรมะที่ดีมากเลยนะค่ะ
27 มกราคม 2549 07:29 น. - comment id 555922
Sa wad de ka..พี่พุด.. sa bay de mai..? I\'m sorry..i can\'t type Thai font.. I have to type an English.... miss you so much.. take care ..na ka.. With a big love..
27 มกราคม 2549 08:22 น. - comment id 555943
แด่.. ทุกดวงใจที่รักพี่พุด อรูณหวานเช้านี้ค่ะ ใจพี่พุดราวกลีบดอกไม้ ที่กำลังค่อยๆ ผลิบานรับหยาดละออละอองน้ำค้างค่ะ และ ซึ้งใจเหลือค่ะ กับทุก *น้ำใจ*จากน้องๆ หลายๆคน น้องสายลมรำเพย น้องสลักเสลา น้องแสงไร้เงา น้องแมงกุ๊ดจี่ น้องไรไก่ ........... ที่พี่พุดไม่เคยรู้จักน้อง เป็นการส่วนตัวในโลกมายาฝันนี้ แต่.. น้องๆกลับยอมเสียเวลา ยินดีจะมาพลี น้ำจิตน้ำใจใจแสนดี ให้พลังใจกับพี่พุดเสมอมา ราวกับจะทราบว่า พี่พุดทำงานด้วยใจ ด้วยดวงใจรักจริงๆค่ะ แม้นสมองพี่พุดจะคิดจะเขียน ได้แค่นี้ พี่พุดก็คิดว่าผลงาน จากใจอันงามใสของพี่พุด ที่พลีให้กับ*ทุกผู้เป็นที่รัก* มานานนัก คงพอมีค่าบ้าง ถึงมาตรแม้นจะไม่ใช่ *คำอันแสนพริ้งพราว*บรรเจิด ที่พี่พุดคิดไม่ออกเขียนไม่เป็นดอกค่ะ และ เหนือสิ่งใด นะคนดี แม้นกลอนพี่พุดเหมือนเด็กอนุบาล แต่ มันมาจากความซื่อใส ที่มีแต่ใจ*ให้*รัก ไม่รู้จบ สำหรับพี่พุด คิดว่าสิ่งนี้คือค่าคนค่าคำ ที่งามล้ำเกินแค่คำคิดค่ะ หาก ลองย้อนทบทวนทุกบรรทัดนะคะ อย่างเนานานนักในกาลเวลาที่ผ่านมา และ ในโลกานี้ สำหรับพี่พุดแล้ว *ค่า*แห่งน้ำใจคนชิดใกล้ย่อม*สำคัญ* และ มีความหมายล้ำเลอค่ากว่า หากใช้คุณค่า แห่งการให้ใจตัดสินใจค่ะ.. ด้วยรักทุกดวงใจ พี่พุดไพร