http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song222.html (ฉันรักเธอเสมอ) อุษาวดีคลี่ฟ้าอีกคราแล้ว ดวงดอกแก้วหอมพรายริมหน้าต่าง นกเขาไพรปลุกดวงใจฟ้าเรื่อราง ริมหน้าต่างกลางดงดอกจำปี นอนคลี่ยิ้มแอบดูเจ้านกน้อย เพื่อนผู้คอยเคียงขวัญยามเช้านี้ ไกวเปลหวานแกว่งไกวพร้อมดนตรี ธรรมชาติชีวีธรรมดาเช้าเฝ้าทายทัก หอมมะลิระรินที่ริมหมอน กับที่นอนนวลนุ่มน่านอนนัก ขอนิทราหลับตาฝันอีกนิดนะที่รัก ฟังเพลงภักดิ์ในยามเช้าเคล้าอรุณ โลกหอมหวานภายในใจดวงแก้ว รับหวานแว่วสรรพสิ่งพร้อมโลกหมุน เปิดดวงใจบ้านภายในงามหอมกรุ่น สร้างละมุนพบละไมกลางใจธรรม แล้วสวดมนต์ช้าช้าอย่าเพิ่งลุก เพื่อปลอบปลุกพลังใจหวังรินร่ำ แผ่เมตตาขอบคุณโลกโชคน้อมนำ ได้มีวันทำความดีนาทีทิพย์ ทุกลมหายใจที่ยังมีช่างมีค่า ขอบคุณฟ้าแลดินที่ยื่นหยิบ ได้ชื่นใจในรสพระธรรมอันล้ำค่าน้ำอมฤต ใสสนิทจิบซ้ำซ้ำพรำพร่างริน ดั่งน้ำค้างหยาดสายกรายสู่หล้า ดั่งน้ำฟ้าหยาดพรายมิรู้สิ้น สู่บึงบัวรอบัวบานเหนือวาริณ เพียงถวิลรับอาทิตย์อุทัยในเวลา ดั่งนาฬิกาชีพชนม์คนแสนสั้น ลืมตาฝัน พลันตื่นล่วง บ่วงเสน่หา ที่รัดร้อยสร้อยห่วงหวงพันธนา สร้างศรัทธาเดินตามรอยบาทมิวาดวน พาจิตใสตั้งใจตรงคงสัจจะ มิลดละภาวนาบุญสร้างกุศล เพียรฝึกสมาธิมีปัญญาคุ้มค่าคน ก่อนที่ลมหายใจจะไม่มี..!นะคนดี นะดวงใจ.. .................................. ดวงตื่นมากับฟ้าหนาว... ยามเช้านี้ จิต...ราวกับมี..บทกวี หวานแว่วลอยลมมาขับกล่อม..จากโพ้นฟ้าไกล ให้... ไม่ยอมท้อแท้แพ้พ่าย กับทุกสรรพสิ่ง..ในมายาเวลา เปิดเมล์..มา.. แล้วน้ำตาเริ่มซึมซึ้ง...รอพร่างพรู น้ำตาปิติเกษม ที่คู่กับใจดวงนวลดวงน้อยดวงนิดนี้มาเนานาน ใช่..! จะเป็นดั่งน้ำตาแห่งรานร้าวเศร้าหมอง..ฤาก็หาไม่.. นิ่งงัน..... กับทุกภาพงาม..เงียบ ผ่านเลนซ์เฉียบคม.. จากดวงกมลใสงาม..ของผู้รู้ธรรม รักษ์ธรรมชาติ รู้ปล่อยวาง...ในท่ามโลกอ้างว้างเหว่ว้าดายเดียว ได้อย่างล้ำลึก จาก.. *รู้สึกภายใน ที่ยากยิ่ง.. ที่ใครจะหยั่งถึง*บึ้งใจบึงใจ ที่ราว.. บัวดอกพิไลโผล่พ้นน้ำแล้ว..พร่างงามไสวไกลตา ในท่ามป่ารกชัฏสงัดเงียบ... ภาพจาก.. ผู้มี*ดวงตาที่สาม* ตามมากอบเกื้อเอื้อกมล ให้..รู้อดรู้ทน กับการรอคอยมิน้อยใจรัก กับ.. นาทีนี้..ที่ปลายหางตา หยาดน้ำเพชรกำลังรอท่าทำหน้าที่ ค่อยๆพลีหยาดรินอย่างช้าๆ อย่างรู้ค่าอย่างแสนซึ้งนัก... น้ำตา..แห่งพลังศรัทธารักภักดี ที่ยินดีพลีมอบ *ให้* เหนือหล้า.. เหนือกว่าความเข้าใจใดใด.. ยิ่งใหญ่... จนไร้คำใดมาอธิบายร่ายรจนา ดั่งราวว่ามี*จิตเป็นหนึ่งเดียว* * มีเพียงฟ้าดินรับรู้* ถึงเงางาม..ที่ซ่อนอยู่.. ราว..*สายธารหวานนิรันดร์* เป็น.. *ดั่งขวัญทิพย์เทียนทอง*ส่องนำทางใจ ให้... แสนใส..ไสวพร่างสว่างเย็น..สงบสยบทุกข์มายา ตราไปตราบชั่วนิจนิรันดร... ................. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song222.html ฉันรักเธอเสมอ ทิพย์วรรณ ปิ่นภิบาล หากตราบใด สายนที ยังรี่ไหล สู่มหา ชลาลัย กระแสสินธุ์ เกลียวคลื่นยัง กระทบฝั่ง เป็นอาจินต์ เป็นนิจสิน ตราบนั้น ฉันรักเธอ เช่นตะวัน นั้นยังคง ตรงต่อเวลา แน่นอนนัก รักท้องฟ้า สม่ำเสมอ เช่นกับฉัน มั่นคง ตรงต่อเธอ ฉันรักเธอเสมอ ฉันรักเธอเสมอ ชั่วนิจนิรันดร์ เช่นตะวัน นั้นยังคง ตรงต่อเวลา แน่นอนนัก รักท้องฟ้า สม่ำเสมอ เช่นกับฉัน มั่นคง ตรงต่อเธอ ฉันรักเธอเสมอ ฉันรักเธอเสมอ ชั่วนิจนิรันดร์...
24 มกราคม 2549 09:08 น. - comment id 555091
พุดพร้อมพลีรับขวัญวันทิวาหวาน ด้วยเรื่องนี้ค่ะ.. http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=3056 (ตราบใด) http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=222 (ฉันรักเธอเสมอ) ***************** ฟ้าโพล้เพล้ สนธยาใกล้ลาลับ ทั่วนภางค์พร่างรัศมีสีส้มเจือชมพู ใกล้ค่ำแล้ว... ไพลนอนสยายผมในวิมานดินบนเตียงโบราณ จุดเทียนงามอ่านหนังสือ*โรดันเต้รำลึก* ในลึกซึ้งแสนคิดถึงสงสารพระเอกที่เป็นหมอ ที่ยอมตายแทนลูกชายสุดที่รัก และยิ่งเศร้าล้ำนัก เมื่ออ่านแกล้มกลิ่นหอมเศร้าของเจ้าดวงดอกการะเวก เต็มตะกร้าที่เพิ่งเด็ดมาให้หอมอวลให้ห้องหับโบราณ ด้วยม่านมุ้งสีขาว หมู่นกกา ร้องระงม ราวฝันไป ว่าอยู่ในกระท่อมไพรริมทะเลสาบสีเงิน พระพิรุณโปรยสายพรายพลิ้ว ได้ยินเสียงดนตรีแก้วดนตรีฝนดนตรีฝัน ช่างพริ้งพราวหนาวใจเป็นยิ่งนัก เสียงหยาดฝนสัมผัสเผาะ เผาะ จับหลังคาบ้านวิมานดิน วิมานใบไม้ ยอดไม้ใบหญ้า ..ระรินๆ รอเวลารับขวัญจันทร์เสี้ยว ดวงเดียวดวงเดิม ดายเดียว ที่กำลังค่อยๆเริ่มเลี้ยวลดปรากฎออกมาจากขอบฟ้า ค่อยๆเผยเสี้ยวหน้าเกลียวทองมาผ่องผุดหยุดคลี่ยิ้มหวานๆ ราวรอรับเราไปเที่ยวกับเรือจันทร์เสี้ยวสีทอง ลอยล่องไปในกลางทะเลเมฆสู่ความวิเวก สู่แดนหิมพานต์วิมานแมนวิมานเมือง .................. ..........................
24 มกราคม 2549 09:36 น. - comment id 555096
มาเยี่ยมงานงามของพี่พุดสุดรักครับ ไม่นึกทราบว่าพี่พุดจะชอบอ่านงานของ สปาร์ก เฉกเช่นเดียวกับผมเลย งานที่ละมุนละเมียดละเอียดต่ออารมณ์ของตัวละคร ราวกับว่าหากไม่ตั้งใจบรรยายให้ทราบถึงจิตใจอันเด่นชัดของตัวละครแล้ว ผู้อ่านจะตำหนิภายในใจ แต่เปล่าเลย...ผู้อ่านไม่เคยตำหนิพ่อมดแห่งนวนิยายโรแมนซ์ผู้นี้ได้ลง เพราะงานแต่ละเล่มที่บรรจงเขียนนั้น คล้ายเล่าเรื่องมาจากชีวิตจริง ไม่ได้ปรุงแต่งเลย ขอบคุณที่พี่พุด ปลุกจินตายามอ่านงานสร้างสรรค์ของชายผู้ล่วงรู้อารมณ์แห่งผู้อ่านผู้นี้
24 มกราคม 2549 10:43 น. - comment id 555106
โอ งามนัก ถ้าบัวบานในบึงใจ โลกสดใสหาใดปาน แต่วาระนี้ บัวยังอยู่ใต้น้ำ
24 มกราคม 2549 11:08 น. - comment id 555111
น้องกวีปกรณ์คะ พี่พุดสารภาพค่ะ ว่า..พี่พุดเป็นนักอ่านตัวฉากจฉกรรจ์ ผ่านเรื่องราวร้อยพันสารพัดสาะเพ มาเห่หอมกล่อมใจ ด้วยรักนัก ในโซ่สร้อยร้อยแสนอักษรา จากทุกจิตวิญญาณ นักคิดนักเขียนนักฝันค่ะ หากมาถึงวันนี้ จิตพี่พุดพลีเลือกอ่านเพียง หนังสือธรรม ธรรมชาติค่ะ กับหนังสือ แนวปรัชญาชีวิตมากขึ้นค่ะ และ.. เลือกเสพสุนทรีย์ นานๆครั้งค่ะ เพื่อมิให้ตกข่าวโลก แม้นกระนั้น พี่พุด..ก็ยังเบื่อโลกย์วนมากค่ะ ที่มีอยู่ไม่กี่สิ่ง จนอยากทิ้งทอดถอดใจ ไม่รับรู้ขยะใจ ขยะใด จากใครคนแล้วค่ะ ที่มากด้วยความวกวนบนผืนโลก ใบน้อยนี้ หากภารกิจหน้าที่ ยังมีค่ะ จนกว่าดวงตาสวรรค์ จะเปิดรอรับดวงวิญญา ให้หลับสนิทไปตราบชั่วนิจนิรันดร์ค่ะ ด้วยรักค่ะ และ โลกนี้คือละครค่ะ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song47.html โลกนี้คือละคร โลกนี้นี่ดูยิ่งดูยอกย้อน เปรียบเหมือนละคร ถึงบทเมื่อตอน เร้า ใจ บทบาทลีลาแตกต่างกันไป ถึงสูงเพียงใด ต่างจบลงไป เหมือน กัน เกิดมาต้องตาย ร่างกายผุพัง ผู้คนเขาชัง คิดยิ่งระวัง ไหว หวั่น ต่างเกิดกันมาร่วมโลกเดียวกัน ถือผิวชังพรรณ บ้างเหยียดหยันกัน เหลือเกิน โลก นี้ คือละคร บทบาทบางตอน ชีวิตยอกย้อน ยับเยิน ชีวิตบางคนรุ่งเรืองจำเริญ แสน เพลิน เหมือนเดินอยู่บนหนทางวิมาน โลกนี้นี่ดู ยิ่งดูเศร้าใจ ชั่วชีวิตวัย หมุนเปลี่ยนผันไป เหมือน ม่าน เปิดฉากเรืองรองผุดผ่องตระการ ครั้นแล้วไม่นาน ปิดม่านเป็น ความเศร้าใจ โลกนี้นี่ดู ยิ่งดูเศร้าใจ ชั่วชีวิตวัย หมุนเปลี่ยนผันไป เหมือน ม่าน ปิดฉากเรืองรองผุดผ่องตระการ ครั้นแล้วไม่นาน เปิดม่านเป็น ความเศร้าใจ... ........... ด้วยรักค่ะ พี่พุด
24 มกราคม 2549 11:41 น. - comment id 555114
ลืมค่ะคุณครูใหญ่ พุดชอบบึงธรรมชาติ ที่มีกอหญ้ารก และดูแสนสงบสงัดงามเงียบ สักวัน พุดหวังจะไปกับคนที่พุดแสนรักภักดิ์พลี ไปที่บึงบัว ที่ มีเสน่ห์ ดิบเดิม เป็นวิถีชีวิต ที่เกื้อกูลกันระหว่าง ธรรมชาติกับมนุษย์ ซึ่ง.. ระหว่างเราหากมีโอกาส ไปท่องเที่ยวที่นั่น คงจะ ไม่มีคำอธิบายใดๆ นอกจาก สิ่งที่งดงามอยู่ในใจ พายเรือเหนือนทีธาร ก้าวไปสู่ฝั่งมรรคาที่สงบ เรียบง่าย ปล่อยวาง... พุดรอวันนั้นมาถึง จะได้ขับรถคลอเคียงข้าง ไปเที่ยวทุ่งข้าวเดียวดาย มองวัว ควายสันโดษ ปล่อยวาง ก้าวไปสู่สงบ ก่อนลงโลงเมื่อมรณะมาเยือนค่ะ
24 มกราคม 2549 11:31 น. - comment id 555115
ครูใหญ่คะ สังเกตมั้ยคะ พุดเลือกภาพ*บัวบานในบึงธรรม..(ชาติ)* มาสามระดับค่ะ มีทั้ง *บัวบานไสวเคียงคู่กัน* ราวหัวใจธรรมหัวใจทองของสองเรา คนที่.. พุดรักนิรันดร์ค่ะ และ ถัดมา.. คือบัวเพิ่งโผล่ผุดผลิ หากงามแย้ม รอสายแสงทองแสงธรรมค่ะ และ ถัดมายังตูมตั้งราวรอเวลา เพื่อได้ผลิแย้มมั่งตามติดมาค่ะ สามสัจจะ..*บัวตูมบัวบาน* เหนือธารน้ำใสนทีทอง คือ.. ครรลองจิตแห่งชีวิตพุทธศาศนิกชน คนในชมพูทวีปค่ะ คนดี พุดเคยอ่านนิตรสาร เล่มนึง แล้วตรึงใจซึ้งใจมากค่ะ คนศรีลังกา เนปาล ปากีสถาน ภูฏาน ธิเบต มักมีวิถีพลีบูชาพระพุทธองค์ ด้วยดวงดอกไม้มาลัยมากมาย ทั้ง *บัวบานหวานแฉล้ม ดาวเรืองไสวสว่าง กระจ่างแจ่มจิต ทั้ง มากดอกในทิพยนิรมิต แห่ง ความดี ที่พลีพร้อมน้อมนำมาสอนสัจจะใจค่ะ ดวงใจของพุด ถ่ายภาพนี้.. ด้วยจิตวิญญาณค่ะ ฟ้าและดิน รวมทั้งดวงตาสวรรค์ เปิด.. *ดวงตาปัญญาณาณ..ฌาณที่สาม* ผ่านม่านเลนซ์ อันแสนเฉียบแหลมคม มาจาก จิตวิญญาณผู้ที่บานเหนือโลกย์ เหนือโศกสุขสิ้นทุกข์รักแล้วค่ะ ทิ้งทุกข์..พันธนา เหลือ.. รอท่า เพียงให้เราสอง พากันเกี่ยวก้อยนับถอยหลัง ย้อนวิถีโบราณ ที่แสนงามจิตงามใจ เพื่อ ลอยจิตดวงไสวว่าง..กระจ่างเจ่ม ให้พ้น*บึงวนแห่งวัฏสังสาร* อันแสนน่ากลัวค่ะ จึงมีที่มาดั่งเช่นฉะนี้ค่ะ ด้วยรำลึก
24 มกราคม 2549 11:50 น. - comment id 555119
บทนี้เคยตอบ*ทัดหทัย*ไว้ใน เพลงโมบาย1..ค่ะ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem85594.html เพลงระบำโมบายพรายแผ่วหวาน ดอกรักบานแจ่มจิตยามคิดถึง ดอกเสน่หาพร่างลากับฟ้าซึ้ง ดอกโศกจึงคลี่แย้มแต้มกลางใจ ดอกคิดถึงยังตรึงตราลีลาวสันต์ จะกี่วันจะกี่คืนยังหวามไหว ดอกฤดีบานเศร้านะดวงใจ ดอกลาไกลคอยผลิแย้มแกล้มน้ำตา ดอกตัดสินสิ้นสวาทนิราศร้าง ดอกอ้างว้างเลือกดายเดียวมิเหลียวหา ดอกยอมรับกับใจเราเขลานานมา ดอกร้างลาจึงแย้มบานบนลานใจ ดอกพุดซ้อนเลิกซ่อนรักสลักจิต ดอกชีวิตเหลือเพียงว่างกระจ่างใส ดอกธรรมะผุดพร่างณ..กลางใจ ดอกไม่รักใครจึงชูช่อรอพ้นน้ำ..!!!
24 มกราคม 2549 12:27 น. - comment id 555128
แวะมาอ่านงานงามๆค่ะบัวบานกลางบึงใจ สวยงามเหมือนดั่งดอกไม้สวรรค์นะคะ
24 มกราคม 2549 12:31 น. - comment id 555135
กลอนหวานและงดงามค่ะพี่พุด
24 มกราคม 2549 13:22 น. - comment id 555157
24 มกราคม 2549 15:41 น. - comment id 555210
ดั่งบัวบานในบึงใจ...งดงามค่ะ...ชอบเพลงนี้ด้วยค่ะ......
24 มกราคม 2549 17:35 น. - comment id 555259
ทำความดีเมื่อชีวียังมีอยู่
24 มกราคม 2549 18:34 น. - comment id 555288
สวัสดีค่ะ พี่พุดสุดรัก ขอทำดีให้ถึงที่สุด เท่าที่จะทำได้ รักษาสุขภาพนะค่ะ คิดถึงเสมอค่ะ
24 มกราคม 2549 19:45 น. - comment id 555329
โอววววว์
25 มกราคม 2549 11:36 น. - comment id 555450
แวะมาอ่านงานที่คุ้นเคยขอรับ
25 มกราคม 2549 12:43 น. - comment id 555465
อุษาสวรรค์เบิกฟ้านภาสวรรค์ จำเนียรกาลผันหาพาสุขศรี ทิพย์รสสดใสในดวงฤดี เกษมศรีมีอุระระเริงรมย์ แก้วประเสริฐ.
26 มกราคม 2549 11:02 น. - comment id 555655
รูปสวยจังเลย เห็นแล้วอยากกินแกงกระทิสายบัวกับปลาทู อิอิ ใส่มะดัน อิอิ