http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song392.html (ดอกไม้ใกล้มือ) ............. ดอกวาสนาบานรับขวัญในวันนี้ พราวฤดีหอมงามในท่ามฝัน ดอกพุดซ้อนมาอ้อนใจซึ้งรำพัน ดอกดวงขวัญคลี่แย้มแต้มดวงใจ ดอกฤดีคลี่รอหยาดน้ำค้าง อุษาสางรับอรุณหมุนมาใหม่ นะคนดีนะที่รักรินน้ำใจ เพื่อดวงใจได้หอมงามท่ามโลกลวง เอียงแก้มหอมทัดดอกไม้ให้อวลกลิ่น หอมระรินหอมรำไรไม่ห่วงหวง เพียงขอดอมด้วยภักดิ์อย่ารักลวง ยอมพลีดวงหลอมใจไปด้วยกัน เหมือนรวงเรียวรอเกี่ยวเก็บจากใจซื่อ ชายยึดถือคำมั่นสัญญาขวัญ พร้อมพลีดีพลีอ้อมใจไปด้วยกัน สู่ทางธรรมทางทองปองทางทิพย์ เหมือน ดอกไม้ภักดิ์ดอกรักขาวพราวชูช่อ เหมือนละออบัวขาวงามพราวพริบ บานพ้นน้ำรอตะวันทิพย์นิรมิต สู่แดนทิพย์แดนทองปองวิมาน สู่แดนว่างกระจ่างแจ่มงามปาริชาติ พิไลพิลาสเฉิดฉายสีแดงฉาน ดั่งเลือดรักภักดีกามนิตวาสิฏฐีพลีกัป์ปกาล ฝากตำนานเหนือโลกหล้าเหนือฟ้าดิน..มิสิ้นรัก...มิสิ้นภักดิ์..! ................. ยามอุษา... ที่ฟ้า..ยังรำไรรำไร..ด้วยแสงดาว ดวง.. ตื่นขึ้นมาเดินดายเดียวเดียวดาย กับ.. พรายแสงจันทรา..ที่ยังค้างฟ้าให้พาฝัน โน้มลีลาวดีและวาสนาอันอ่อนช้อยช่อพราว.. ที่..หนาวน้ำค้างยังจับกลางกลีบ... มาดอมดมพรมจูบด้วยรัก.. และ.. แสนซึ้งนัก... กับ... พรรณเพื่อนไพรรายรอบวิมานดินวิมานวนา ที่..ราวรับรู้สิ้นในทุกสิ่งทุกครา และ.. ปลอบประโลมเสมอมา เสมือนแม้นเพื่อนผู้ภักดี มิมีแปร.. ไม่ว่ายามใด ..ในชีวีชีวิตดวง สิ้นไร้ใคร ... แสนเหว่ว้า ฤาจะมีวาสนาบารมี ได้รับสิ่งแสนดีแสนงาม ที่ฟ้าดินมิสิ้นเมตตาประทานพร ให้หัวใจดวงอรชรอ่อนหวาน ได้รับคำพรจากสวรรค์เบื้องบน เพื่อ.. ให้กมลได้มีลมหายใจ..สร้างสรรสิ่งดีพลีฝาก*ให้*ฝาก*ไว้* ก่อนกายจะแตกดับลับลาไป ในแดนดินใดก็ตาม... มิสิ้นเพียรพยายาม... สร้างบุญกุศล.. แม้นจะทนทุกข์รุกโรมโหมกายใจ ก็จะมิหวั่นใจ มิหวั่นเลย...! ................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song392.html ดอกไม้ใกล้มือ มัณฑนา โมรากุล มวล เหล่าดอกไม้ใกล้มือ เป็น สื่อ ให้คนเด็ดถือชมเชย เจ้า อยู่ในที่เปิดเผย เขา ใคร่ เชย เห็นเจ้าก็เลยเด็ดมา คน เด็ดก็เพราะมันใกล้ ใคร ใกล้ เด็ดไปได้สมอุรา บานล่อใจใครจะรู้ ค่า ต่างปรารถนาจะได้ชม ทิ้งไว้หมองไหม้เสียเปล่า ขืนปล่อยเจ้าผึ้งไม่เคล้าก็เฉาด้วยลม ทิ้งไยให้ตรม เหยื่อผึ้ง เหยื่อลม ให้คนเขาชมดีกว่า ดีกว่าจะทิ้งคาต้น โรย หล่น ผู้คนไม่เห็นราคา เจ้าใกล้มือเจ้าต้องถือ ว่า ไม่ใช่ดอกฟ้าที่ห่างไกล ดีกว่าจะทิ้งคาต้น โรย หล่น ผู้คนไม่เห็นราคา เจ้าใกล้มือเจ้าต้องถือ ว่า ไม่ใช่ดอกฟ้าที่ห่างไกล...
18 ธันวาคม 2548 10:16 น. - comment id 547346
ต้นปาริชาติ กามนิต มองตามพวกเหล่านั้น และเลื่อนลอยไปแล้ว ก็ให้พิศวงในสิ่งที่น่าพิศวง \"สิ่งต่างๆ ทุกอย่าง ณ ที่นี้ ซึ่งดูรู้สึกว่าแปลกประหลาดมาก เกิดขึ้นได้ด้วยเหตุผลเป็นไฉนหนอ? ถ้าว่าเราเป็นผู้อยู่ในที่นี้ ก็เหตุไรสิ่งต่างๆ ทุกอย่าง จึ่งดูไม่เหมือนธรรมดา? ได้เห็นสิ่งใดขึ้นใหม่ทุกคราวไป ก็ทำให้ประหลาดใจฉงนสนเท่ห์เสมอ เช่น กลิ่นหอมอะไรที่ผ่านมาเดี๋ยวนี้ หอมผิดกว่ากลิ่นดอกไม้อื่น ซึ่งมีอยู่ในที่นี้ กลิ่นหอมยิ่ง ชวนให้สูด แต่ว่าให้ปั่นป่วนใจ กลิ่นนี้มาจากอะไรหนอ? และตัวเราเล่าก็มาจากไหน? รู้สึกว่าเพิ่งมาอยู่เป็นเวลา ได้ครู่เดียวเท่านั้น หรือว่ามีชีวิตขึ้น แต่ทว่ามีมาจากไหน? และเพราะอาการอย่างไรจึ่งมาอยู่ที่นี่?\" ขณะ กามนิต คิดถึงปัญหาเหล่านี้ ร่างกายเลื่อนลอยไปโดยตนเองไม่สังเกต รู้สึกเลื่อนลอยขึ้นจากทุ่ง ลอยสูงขึ้นทุกที แต่ไม่ได้ไปในทางที่ผู้อื่นไป ครั้นลอยขึ้นไปในช่องระวางยอดเขาแห่งหนึ่ง ได้กลิ่นหอมอย่างใหม่ และอย่างแรง แต่กามนิตยังเลื่อนลอยขึ้นสูงต่อไป ผ่านพ้นภูเขาไป รู้สึกว่าภูมิประเทศทรามความงามลงไปบ้าง ดอกไม้... ที่เดียรดาษก็น้อยลง สุมทุมพุ่มไม้แน่นหนาทึบเข้า หินผาไม่สู้น่าดู ซ้ำสูงเก้งก้างกว่าเก่า มีเนื้อทรายกำลังกินหญ้าเป็นฝูงๆ แต่ผู้เสวยสุขในที่นี้ มีน้อยจำนวน และมักจะอยู่โดดเดี่ยว หุบเขาที่กามนิตผ่านไปค่อยแคบเข้า ในที่สุดเป็นซอกผา ถึงตรงนี้กลิ่นหอมยิ่งจัดขึ้น ลิ่วๆ ลอยต่อมาโดยเร็ว หินผาที่ผ่านมาก็ลุ่นโล่ง และสูงขึ้นทุกที คล้ายกับเป็นกำแพงกั้นไว้ จนมองไม่เห็นช่องทาง ครั้นแล้วช่องเขา ก็เลี้ยวหักมุมสองสามแห่ง และในทันใดนั้น ก็เป็นช่องว่างขึ้น ดูบริเวณรอบตัว เห็นเป็นหุบเขาลึก มีหินผาสกัดกั้นไว้ด้วยยอดสูงลิบลิ่ว ดูเหมือนจดขอบสวรรค์ กลางหุบเขา มีไม้ประหลาดต้นหนึ่ง ลำต้นและกิ่งเรียบรื่นเป็นสีแดงดั่งแก้วประพาฬ ใบแกมเหลืองแก่ มีดอกแดงเข้มส่งสีรุ่งโรจน์ ราวกับจะลุกไหม้ เหนือยอดชะง่อนผาและยอดไม้นั้น เป็นท้องฟ้าสีน้ำเงินแก่ จะหาเมฆสักก้อนก็ไม่มี เสียงทิพยดนตรีไม่แล่นมาถึงได้พอ แต่ว่าในอากาศยังสะเทือนอยู่ ประหนึ่งว่า เป็นกระเส็นกระสายของคลื่นเสียงดนตรี ที่เคยได้ยินมานานแล้ว แต่ระลึกเสียงได้รางๆ ในหุบเขานั้น มีสีสันก็เพียงสาม คือสีน้ำเงินแก่ของท้องฟ้า สีเขียวของหิน และสีแดงประพาฬของต้นไม้ และมีกลิ่นหอมเป็นกลิ่นเดียว กลิ่นหอมอันน่าพิศวง ไม่เหมือนกลิ่นหอมอื่นๆ เป็นกลิ่นมาจากดอกไม้สีแดงจัด ซึ่งเท่ากับดูดดึงให้กามนิตมา ในทันใดนั้น ลักษณะประหลาดแห่งกลิ่นหอม ก็เริ่มสำแดงอาการ กล่าวคือ ขณะกามนิตสูดกลิ่น ซึ่งตลบฟุ้งอยู่ทั่วหุบเขานั้น ความรู้สึกระลึกเรื่องหนหลัง ได้แล่นพรูเข้าสู่ใจโดยเร็ว ทำลายทะลุฝ้ามืดที่กำบังไว้ ตั้งแต่ตื่นขึ้นในสระจนบัดนี้ กามนิต ระลึกถึงความเป็นไปในอดีตได้ตลอด เห็นหอนั่งในบ้านชายปั้นหม้อ ซึ่งตนเคยนั่งสนทนา กับพระภิกษุองค์หนึ่ง เห็นตรอกในกรุงราชคฤห์ ซึ่งตนกำลังวิ่งรีบเร่งไป เห็นโคมาขวิด เห็นภาพของคนที่ตกใจมามุงดูตน รวมทั้งเหล่าพระภิกษุนุ่งห่มสีเหลือง เห็นป่าและหนทางในละแวกบ้าน ที่ตนผ่านจาริกมา เห็นคฤหาสน์อันโอฬารของตน เห็นภริยาทั้งสอง เห็นเหล่านางคณิกาในกรุงอุชเชนี เห็นพวกโจร เห็นสุมทุมพุ่มไม้พระกฤษณ์ เห็นลานอโศก และวาสิฏฐี เห็นบ้านบิดา เห็นห้องของลูก ถัดจากชาติที่ติดต่อมานี้ ระลึกเห็นชาติเหนือๆ ขึ้นไปโดยลำดับ ในชาติใกล้ๆ พอเห็นชัดเจนดี แต่ที่ห่างๆ ออกไปเป็นลัวๆ เลือนๆ ทุกที จนไกลลิบก็เห็น เป็นกลุ่มเดียว ไม่สามารถแบ่งเป็นชาติๆ ได้ เปรียบเหมือน ต้นไม้สองฟากถนนนอกเมือง ที่ใกล้เห็นจะแจ้งทีละต้น ที่ถัดไปก็เห็นจางออกไป จนในที่สุด เห็นเป็นทิวพืดติดกันหมด ตอนนี้ ความคิดกามนิตก็หมุนวุ่น และ.. ในทันใดนั้น รู้สึกตนมาอยู่ในซอกหินอีก มีลักษณะดั่งใบไม้ ที่ถูกลมพัดลอยคว้างๆ เพราะกลิ่นหอมแห่งดอกปาริชาต ไม่มีใครๆ ทนสูดในครั้งแรกได้นาน ความนึกที่จะรักษาตน ในขณะที่รู้สึกวิงเวียนในคราวแรก เป็นเครื่องช่วยให้พ้นจากที่นั้นไป สักครู่หนึ่ง เมื่อกามนิตเลื่อนลอยเงียบๆ มาในหุบเขาที่กว้างใหญ่ ก็รำพึงว่า \"บัดนี้เข้าใจแล้ว ว่าทำไมเทพธิดาเครื่องขาว จึ่งได้กล่าวเป็นทีว่า เราเห็นจะยังไม่ได้ไปที่ ต้นปาริชาต และเวลานั้นจึ่งยังไม่เข้าใจคำ ที่เขาพูดถึง \"รูปที่คล้ายความฝัน\" แต่บัดนี้รู้แล้ว เพราะเราก็ได้เห็นเป็นเช่นนั้น ในชาติก่อน และก็ยังรู้ด้วยว่า เพราะเหตุอะไร เราจึ่งมาอยู่ที่นี่ เราปรารถนาจะไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ที่สวนมะม่วงจังหวัดราชคฤห์ แต่ความปรารถนานั้นไม่สำเร็จประสงค์ เพราะ.. ต้องเสียชีวิตไปในปัจจุบันทันด่วน อาศัยกุศลเจตนา ที่มีความปรารถนาดี จึ่งส่งผลขึ้นมาในแดนบรมสุขนี้ เสมอได้เฝ้าอยู่แทบพระบาทมูลพระพุทธเจ้าและ เมื่อตายก็ได้ยึดเอาพระคุณไว้แล้ว เหตุฉะนี้ การที่เราจาริกแสวงบุณย์ ก็เป็นอันไม่ไร้ผลเลย\" ในไม่ช้า กามนิต กลับมาถึงสระ ลงสู่ดอกบัวแดงอันเป็นที่สถิตของตน เสมือนนกคืนมาสู่รังฉะนั้นแล..
18 ธันวาคม 2548 11:22 น. - comment id 547363
ทิวาสวัสดิ์ค่ะ .. เรื่องราวในอดีต .. อัลมิตราเคยรับฟังคำบอกเล่าจากผู้อื่น ผู้ซึ่งกล่าวถึงอดีตชาติของอัลมิตรา .. เท่าที่อัลมิตราจะกระทำได้ในขณะนั้น คือ แค่รับฟัง .. และไม่ตัดสินความ .. ด้วยเหตุที่เพราะ อัลมิตราอยู่กับปัจจุบัน แต่กระนั้น ความในอดีต ซึ่งโยงเรื่องผูกพันตัวตนของอัลมิตรากับบางใครและบางใครและหลาย ๆ บางใคร .. เหมือนสายใย เหมือนบ่วง เหมือนความผูกพัน เหมือนกรรม ... จะเรียกอะไรดีนะ อัลมิตรา..ยังหาคำที่ดีที่สุดไม่ได้ .. บางทีนะคะ เหตุการณ์บางอย่างอัลมิตราหาสาเหตุไม่ได้ ว่าทำไมจึงต้องเป็นไปอย่างนั้น ด้วยเหตุผลอะไร ทำไมบางคนถึงต้องเป็นอย่างนี้ ฯลฯ .. คำตอบที่อัลมิตราค้นคิด มันกลับไม่ใช่คำตอบที่มองเห็นได้ในรูปการณ์ปัจจุบัน เอ !.. หรือว่าจะจริง .. แต่นั่นเป็นแค่ความคิดเท่านั้นนะคะ ไม่ใช่ทุกครั้งที่อัลมิตราจะยอมรับคำตอบในสิ่งที่เชื่อว่าเป็นอดีตชาติ .. สิ่งที่เห็น..เห็นจริง แต่สิ่งที่เห็น..อาจไม่ใช่เรื่องจริง เคยมีบางใครบอกว่า อัลมิตรา คือใคร..และมีความสัมพันธ์กับเขาอย่างไร .. อัลมิตราก็ได้แต่มองหน้า และพยายามนึก .. นี่ก็ยังไม่รู้ว่า ต่อให้อัลมิตราเอาใบของปาริชาติมาต้มน้ำกิน อัลมิตราจะมองเห็นภาพเก่าก่อนหรือเปล่า .. เล่าความรู้สึกให้ฮา นะคะ คุณพุดพัดชา .. อัลมิตรา เคยมีความรู้สึกเช่นนั้นในใจ .. แบบว่าคิดไปเรื่อย อาจจะคิดตะแบงต่างจากบางใครไปแยะ แต่ความคิดของอัลมิตรา คิดแบบวิทยาศาสตร์นิดหน่อย .. สงสัย อัลมิตราต้องหาปลั๊กในตัวอัลมิตราให้เจอซะแล้ว ..
18 ธันวาคม 2548 11:23 น. - comment id 547364
ลืมบอกคุณพุดพัดชาว่า .. สาวในรูปสวยจัง ไม่อยากให้ชื่อวาสิฏฐีเลย โมเม เป็นชื่อ อัลมิตราละกัน ... ฮา .. แบบว่า อยากตาโต ๆ บ้างค่ะ
18 ธันวาคม 2548 16:32 น. - comment id 547442
..มาทักทายงานดี ๆๆ ให้อ่าน มาร่วมร่วมเพลง คร้าบ ด้วยคิดถึง จากน้องคนนี้คร้าบบบบ
18 ธันวาคม 2548 19:28 น. - comment id 547479
รูปประกอบ x เอ๊ย exotic สุด ๆ เชื่ออะไรจำไม่ได้แล้วยาว ๆ แต่นามสกุล rai เล่นหนังอินเดียที่เคยมาฉายที่โรงลิโดอ่ะ จำชื่อไม่ได้อีกเหมือนกัน 555
18 ธันวาคม 2548 20:07 น. - comment id 547481
ขออ่านแบบไม่ตีความนะครับ แต่ว่าเพลงที่แนบมาไม่คุ้นเลย ร้องไม่ได้ อยากฟังจังเลย
18 ธันวาคม 2548 21:39 น. - comment id 547497
อยากจะลองดอมดมให้สมใจ เป็นอย่างไรปาริชาติที่คาดหวัง ดมแล้วคงรู้สึกดีมีพลัง สักหนึ่งครั้งสูดกลิ่นให้ชินเอย
19 ธันวาคม 2548 05:57 น. - comment id 547535
...แดพี่พุดสุดรักคับ หอมละมุนกรุ่นกลิ่นปาริชาติ สวยสะอาดงามระหงลงสวรรค์ มาลอยล่องโปรยผกามาลิวัลย์ ให้อารมณ์ข้ากระสันครั้นกายา มาโรยรักอักษรกลอนกวี ให้ข้านี้ชมชื่นรื่นหรรษา เป่าคำเพราะเสนาะลอยลมมา สร้างลีลารสคำล้ำทำนอง ยื่นไมตรีด้วยรักภักดีจิต ทั่วทุกทิศชิดใกล้ใจเพื่อนผอง เป็นดอกเด่นเร้นไว้ในพวงทอง คือ...ดอกพุด...ชวนมองอันครองใจ คงชอบน้าค้าบ อิอิ
19 ธันวาคม 2548 12:16 น. - comment id 547611
เพลงดอกไม้ใกล้มือ.....เข้ากันกับเพลงดอกไม้ในมือโจรไหม ยามไปร้องเกะ ชอบร้องเพลงนี้นะครับ...
19 ธันวาคม 2548 19:57 น. - comment id 547764
ปาริชาติเอ๋ยเคยกลิ่นพี่ลิ้มรส ช่างหมดจดพริ้มพรายอยู่ในสวรรค์ พอกลิ่นเจ้าเคล้าสู่นาสาพลัน ฉันเป็นอันจุติพรากแล้วจากแดน.แก้วประเสริฐ.