http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song72.html http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4258.html (หนึ่งในร้อย..ณ..วันนี้เรือนมยุรา) ..................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song11.html (เสน่หา) ................. คืนนี้.... ผมฟังบทเพลง*เสน่หา* ที่กำลังขับขาน ด้วยน้ำเสียงแสนหวานเศร้ามีเเสน่ห์ แบบเซ๊กซี่ๆของนักร้องในดวงใจ *คุณนัดดา วิยะกาญจน์* แล้ว.. น้ำตาลในเลือด และพลังแห่งรัก Power of love ก็พลันพร่าง..โชนช่วงในดวงใจ.. อย่างช่วยไม่ได้แล้วละครับ.. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song11.html เสน่หา.. ความ รัก เอย เจ้า ลอยลมมาหรือ ไร มาดลจิต มาดลใจ เสน่-หา รัก นี้จริงจากใจหรือเปล่า หรือ เย้า เราให้เฝ้าร่ำหา หรือแกล้งเพียง แต่แลตา ยั่วอุรา ให้หลง ลำพอง หื่อ ฮือ ฮือ ฮื้อหื่อ ฮือ ฮือ ฮือ ฮื้อ ฮือ ฮือ หื่อ ฮือ หื่อ ฮือ ฮือ ฮื้อหื่อ ฮือ ฮือ ฮือ หื่อ ฮือ หือ ฮือ ฮือ ฮื้อ สง สาร ใจ ฉันบ้าง วาน อย่าสร้าง รอยช้ำซ้ำเป็นรอยสอง รักแรกช้ำ น้ำตานอง ถ้าเป็นสอง ฉันคงต้องขาดใจตาย หื่อ ฮือ ฮือ ฮื้อหื่อ ฮือ ฮือ ฮือ ฮื้อ ฮือ ฮือ หื่อ ฮือ หื่อ ฮือ ฮือ ฮื้อหื่อ ฮือ ฮือ ฮือ หื่อ ฮือ หือ ฮือ ฮือ ฮื้อ สง สาร ใจ ฉันบ้าง วาน อย่าสร้าง รอยช้ำซ้ำเป็นรอยสอง รักแรกช้ำ น้ำตานอง ถ้าเป็นสอง ฉันคงต้องขาดใจตาย... ............ ราตรีที่ผ่านมา ผม..ล่องเรือไปตามลำน้ำเจ้าพระยา ที่สงบเงียบแสนงาม ราวกับ กำลังย้อนยุคกลับไปในต้นสมัยรัตนโกสินทร์ ลำน้ำเจ้าพระยา..ทอดตัวคดเคี้ยว *ราวพญานาค* เลี้ยวเลาะไปท่ามสองฟากฝั่ง ที่ไฟสะพรั่งพริบ วะวิบวาววะวับแวม.. ประดับวัดวา บ้านเรือน ไปทั่ว เดือนเสี้ยวดวงเศร้า แขวนฟ้า ขับให้... ราตรีแสนน่าเสน่หา เสียยิ่งกว่ายามกลางวันเป็นไหนไหน ผมยืนดายเดียวพิงกราบเรือ แล้ว.. แหงนเงยฝากใจไปกับจันทร์ฝากฝันไปกับดาว ที่.. กำลังกระพริบพราว ราวกับการได้อยู่ลำพังกับสรรพสิ่งรายรอบ นั้นก่อพลังสุขล้ำลึกเสียยิ่งกว่าสิ่งใด... หัวใจผม.. ได้ยินเสียงบทเสภาก้องลำน้ำ ในคลองใจผม ราวกับเห็นภาพ *ขบวนเรือพยุหยาตรา* กำลังลอยเลื่อนมา ราวกับ *พญาหงส์ทรงพรหมมินทร์ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม* เลยทีเดียว... หัวใจผม... ลอยละล่องท่อง..ไปตามสายนทีทอง ย้อนยุค.. กลับไปในสมัยเก่าก่อน ที่.. บ้านเรือนยังซ่อนตัวอยู่ในดงไม้ริมสายน้ำ หรือไม่ก็ริมชายทุ่งท้องนา และ.. กับความงามสว่างแห่งวัดวาอารามดาระดะ เต็มไปด้วยเจดีย์สีทองสุกปลั่ง และ แฝงฝังฝากลีลาธรรมชาติ ที่.. แสนงามสงบเงียบ เรียบง่าย ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสมถะ ให้สาวๆชาวไพรได้ตื่นเช้าไปวัด ทำบุญ หุงข้าวใหม่หอมกรุ่นห่มสไบผืนสวย ที่.. ทอด้วยมือตัวเองยามว่างนา.. พาจิตดวงสวยใสดั่งอัญมณี.. ไปน้อมดวงชีวี.. พลีศรัทธาปสาทะในร่มธรรม..รับธรรม อันดั่งน้ำอมฤต ให้.. ดวงจิตดวงชีวียิ่งงามล้ำเลอค่า ราวเพชรกล้า ยิ่งกว่าทองคำอันแสนผ่องผุดพิสุทธิ์เสียอีก.. พลัน.. บทกวีแสนหวาน.. จาก *ดวงใจเจ้าฟ้ากุ้ง* ที่.. กล่าวถึง..ความงามของนางอันเป็นที่รัก ก็..สะท้อนลอยลมมากับฟ้ากว้างกับสายน้ำ ที่... กำลังระรี่ไหลระรินไหล.. อย่างใสเย็นอย่างช้าๆ... ................... จำปาหนาแน่นเนือง คลี่กลีบเหลืองเรืองอร่าม คิดคนึงถึงนงราม ผิวเหลืองกว่าจำปาทอง (เห่ชมไม้ ) พุ่มพวงดวงดอกฟ้า ในใต้หล้าหาใครเทียม โฉมงามทรามเสงี่ยม เรียมรักเจ้าเท่าดวงใจ (เห่บทสังวาส) ต้นกลายเหมือนนางกราย เดินหิ้วชายหมายตาคม น้อยนาฎผาดผายสม พี่รักเจ้าเท่าตัวเรียม (กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง) .......................... ไม่น่าเชื่อเลยว่าโลกจะหมุนพา ผ่านคืนฝันวันแห่งวิถี ที่แสนเป็นสุขใจเร็วรี่เสียนี้กระไร จนมาถึง.. วันนี้ นาทีนี้กับโลกยุคนี้ ที่มี.. ภัยจากผู้คนมากมายทุกมุมโลก ที่บ้าสงครามช่างทำลาย กลายกล้ำ ห้ำหั่นกัน และ แม้นจนกระทั่งแผ่นดินแม่ ที่ตัวเองอาศัยหยัดยืนอยู่ มาอย่างยาวนานก็ยังมิวายเว้น ไหนจะภัยที่เกิดจาก *เชื้อโรค *ที่มองไม่เห็น หากคือภัยแฝงเร้น ที่น่าหวาดวิตกกว่าสิ่งใด เพราะ.. หากเกิดพิษภัย แล้วจักผลาญพร่าคร่า ชีวิตพลเมืองโลกนับเป็นร้อยๆล้าน ก่อนที่จะค้นพบหนทางแก้... นี่คือสรรพสิ่ง ที่กำลังราวปีศาจรอล่าเหยื่อ ให้มิเหลือสักผู้เดียว หาก.. ยังมิเหลียวแลและเคารพความเป็นธรรมชาติ อันคือความพึ่งพาพึ่งพิง ใช่วิ่งทำลายล้างเขาข้างเดียว และ เพราะจากน้ำมือคน..คน..คน ผลกระทบนั้นจึงย้อนรอยคืนหลังมา ให้แสนน่าโศกเศร้าสะเทือนใจ..! ผม...น้ำตาซึม.. คิดถึงโลกและชีวิต และ.. ทุกสรรพสิ่งแห่งธรรมชาติ ดินน้ำ ลมไฟ ที่สถิตทอดในนิมิตผมเสมอมา พลังธรรม... ที่.. สอนสัจจะให้ผมรู้ค่าของลมหายใจแห่งการมีชีวิตอยู่.. ผม..เพียงหวังและคิดว่า* โลกนี้น่าจะดีกว่า* หาก.. ทุกดวงชีวา เริ่มสร้างค่านิยมใหม่ นับจากเริ่มแรกปฎิสนธิ ให้มีความรู้รักธรรม ธรรมชาติ ให้รู้ว่าแค่ชั่วเวลาหนึ่งที่ได้เกิดมา มีดวงตาเห็นถึงพลังแห่งรักอันแสนยิ่งใหญ่ ของทั้งพระพุทธศาสนา และ ธรรมชาติท้องนาท้องไร่ป่าไพร ห้วยละหานลำธารใส ก็แสนบุญใจนักแล้ว ผม... ดายเดียวในดวงกมล และ.. พลันราวได้ยินเสียงสายนทีทอง กำลังร้องเพลงให้ผมฟัง.. .................. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song25.html ลุ่มเจ้าพระยา.. ลุ่มเจ้าพระยาเห็นสายธารา ไหลล่อง เพียง แต่มองหัวใจให้ป่วน น้ำไหลไป มักไม่ ไหลทวน ชีวิตเรา ไม่มีหวน ไม่กลับทวนเหมือนกัน เรา เกิดมา ผูกใจรัก กันดีกว่า เพราะว่าชีวา แสน สั้น เรา อย่าได้ สะเทือนหัวใจต่อกัน ทิ้งชีวิตอัน สุขใจ อย่าแตกกันเลยรักไว้ชมเชย ชิดมั่น จง ผูกพันรักกันด้วยใจ ขอจงเป็น เหมือนเช่น นกไพร ที่เหิรบินคู่กันไป หัว ใจ คู่กัน เรา เกิดมาผูกใจรัก กันดีกว่า เพราะว่าชีวา แสน สั้น เรา อย่าได้ สะเทือนหัวใจต่อกัน ทิ้งชีวิตอัน สุขใจ อย่าแตกกันเลยรักไว้ชมเชย ชิด มั่น จง ผูกพัน รักกันด้วยใจ ขอจงเป็น เหมือนเช่นนกไพร ที่เหิรบินคู่กันไป หัว ใจ คู่ กัน ................... หัวใจผม...พลันราวนกไพร ที่กำลังเหิรบิน ไปในทุกถิ่นสวย แสนงาม ป่าใหญ่ไพรกว้างหนทางเถื่อน ห้วงดาวเดือน หมู่เมฆ ในเวิ้งอนันตกาล ชม.. ดวงดอกไม้ไพรดอกไม้ป่าผลิแย้มบาน ดู.. กระท่อมเรือนชานในท่ามท้องทุ่งนา ดู.. ฟ้าแสนงามในทุกยามไร้มลพิษ ดูชีวิต ชาวนาชาวป่าในแดนดงพงไพร ที่ค่ำมา..ก็ยังมีฟากฟ้า และ..ดวงดาราสุกสว่าง มานำทางใจ.แสนสวยใสสงบกระจ่างพร่างพราว ไร้กิเลสอยากได้วัตถุใด.. มีเพียงหัวใจดวงทอง ที่ยังผ่องผุด ยังอยากสร้างโลกละมุนกรุ่นหอมด้วยเรียวรวง ให้หอมไสว.. ในนาสีทองสุกปลั่งดั่งเพชรพราวพราย ฉายฉันท์สวรรค์บ้านไร่สวรรค์บ้านนา . ให้โลกร้ายได้กลายกลับคืนดี สู่วิถีที่สงบพบเพียงฝันดี ที่ทั้งหล้าโลกนี้ แม้นไร้แสงสีความศิวิไลซ์ หากไยเล่า .. ถึงช่างงามพราวหอมนักในรู้สึกอันแสนลึกซึ้ง ผม...ฝันไกล ฝันด้วยใจดวงโบราณ ที่.. ใครจะหยามเหยียดว่างายงมอย่างไรก็ตาม หาก.. ผมแสนปิติภาคภูมิใจ ที่ได้ครองอัญมณีใจดวงไพร ดวงรักดินถิ่นพุทธภูมินี้... อย่างที่มิมีวันจะแปรผัน ไม่ว่าโลก... และ ผู้คนจะผันแปรแพ้รอยไถ ไร้หัวใจรักวัวควายไร่นาสักเพียงใดก็ตามที ผม..ก็จะดำรงชีพนี้ ด้วยความมั่นคง ซื่อตรงกับความเป็นตัวของผมเอง มิยำเกรง..ให้โลกวัตถุใดมาทำลาย คล้าย.. ดั่งมีเพชรดวงกล้าแกร่งที่แฝงฝัง ในร่าง..อย่างแนบสนิทสถิตไปเป็นนิรันดร์รัก.. .............. คืนนี้.. ท่ามลมโชยพลิ้วฉ่ำ และ... ท่ามนทีทองนทีฝัน ผม.. รอท่าพาทั้งร่างและจิตวิญญาณ ผ่านภพจบชีวิตในชาตินี้ ที่ผมเลือกแล้ว... ที่..จะก้าวย่างไปในเส้นทาง แห่งธรรม และธรรมชาติ และจักดำรงจิตภายใน อย่างสวยใสกระจ่างงาม อย่างว่าง วาง อย่าง ... ผู้พบทางเหนือโลกโศกสุขทุกข์มายาวนแล้ว...!!!! ผม...หลับตานิ่งๆ.. และ.. น่าแปลกนัก... ที่ในมโนนึกราวกับผมพบ ภาพตัวเอง..กำลังนั่งเรือมาดลำน้อยๆและ กำลังเทียบท่าค่อยๆพาผมก้าว ไปสู่... เรือนไทยริมชายน้ำในเงาดาว กับหอมพราวของดงดอกสายหยุดพุดซ้อนอรชร และดวงดอกราตรีริมชานเรือน ผมเห็น.. *นางหนึ่งในฝัน.ในใจ ในจิตวิญญาณราวผ่านภพ* ใน.. ชุดผ้าซิ่นไหมสีฟ้าอมโศก และ.. เสื้อผ้าลูกไม้ไหล่ล้ำสีนวล ทบมุ่นมวยผมเกล้าตลบขึ้นไปรัดร้อยไว้ ด้วย.. ดวงดอกลั่นทมและพุดซ้อน เผยให้เห็นต้นคออรชรระหงและไรผมระร่าย ช่างแสนงามอ่อนหวานเป็นเสียยิ่งนัก... เธอ..คนดี กำลังนั่งเอนอิงพิงหมอนขวาน ตรงกลานชานไม้แผ่นโต ตรงหน้ามีชามแก้ว ใส่ดวงดอกมะลิ กุหลาบ ที่.. เธอกำลังตั้งใจร้อยเรียง ท่ามมีเชิงเทียนทองเหลือง ที่กำลังพรายแสงวูบไหว ไปตามแรงลม ให้.. พรายพร่างจับร่างงามจนเกิดเงาแสงสีทอง ให้ผิวผ่องนั้นงามดั่งทองทา เธอ..ค่อยๆหันมาคลี่ยิ้มหวาน และยกขันเงินงาม ที่มีน้ำลอยดอกมะลิเย็นฉ่ำค่อยๆส่งให้ผม *ตาเราสบกัน..ในเงาดาว* แสงนัยน์ตาพราวด้วยหยาดน้ำผึ้ง สะท้อนสะท้านใจ.. ด้วย..*แรงรักแรงเสน่หา* ผม.. ค่อยๆเอนหลัง..ลงนอนเหยียดยาว เอาศีรษะซุกในอ้อมตัก อันแสนอบอุ่นอวลหวานหอม ก่อนที่จะ.. ยกมือเธอขึ้นมาดอมดมพรมจูบละเมียด ที่ละนิ้วอย่างแสนรัก เธอ..ค่อยๆลูบไล้ใบหน้าผม คืนกลับอย่างรักภักดี และราวกับว่า กำลังเห่กล่อมทะนุถนอมเด็กทารกน้อย ไว้ในอ้อมกอดอย่างแสนรักใคร่.. เสียงสายน้ำระรี่ระรินไหล กล่อม.. ให้ดวงใจและร่างผม... ค่อยๆนิทราหลับไหลไปกับ มวลแมกไม้ในราตรีที่แสนหวาน กับ.. ร่างนวลนางณ..กลางใจ ที่แสนบริสุทธิ์ใส ท่ามกลางโลกแห่งความเงียบสงบงาม... ........... ชมดวงพวงนางแย้ม บานแฉล้มแย้มเกสร คิดความยามบังอร แย้มโอษฐ์ยิ้มพริ้มพรายงาม จำปาหนาแน่นเนื่อง คลี่กลีบเหลืองเรืองอร่าม คิดคนึงถึงนงราม ผิวเหลืองกว่าจำปาทอง ประยงค์ทรงพวงห้อย ระย้าย้อยห้อยพวงกรอง เหมือนอุบะนวลละออง เจ้าแขวนไว้ให้เรียมชม พุดจีบกลีบแสล้ม พิกุลแกมแซมสุกรม หอมชวยรวยอารมณ์ เหมือนกลิ่นน้องต้องติดใจ สายหยุดพุทธชาติ บานเกลื่อนกราดดาษดาไป นึกน้องกรองมาลัย วางให้พี่ข้างที่นอน (กระบวนเห่ชมไม้เจ้าฟ้ากุ้ง) ............................ พิกุลบุนนาคบาน กลิ่นหอมหวานซ่านขจร แม้นุชสุดสายสมร เห็นจะวอนอ้อนพี่ชาย เต็งแต้วแก้วกาหลง บานบุษบงส่งกลิ่นอาย หอมอยู่มิรู้หาย คล้ายกลิ่นผ้าเจ้าตราตรู มลิวันพันจิกจวง ดอกเป็นพวงร่วงเรณู หอมมาน่าเอ็นดู ชูชื่นคิดวนิดา ลำดวนหอมหวนตระลบ กลิ่นอายอบสบนาสา นิกถวิลกลิ่นบุหงา รำไบเจ้าเศร้าถึงนาง รวยรินกลิ่นรำเพย คิดพี่เคยเชยกลิ่นปราง นั่งแอบแนบเอวบาง ห่อนแหห่างว่างเว้นวัน ชมดวงพวงมาลี ศรีเสาวภาคหลากหลายพรรณ วนิดามาด้วยกัน จะอ้อนพี่ชี้ชมเชย..... (มูลละเห่ เจ้าฟ้ากุ้ง) ....................... มุกมณีจิต..
28 ตุลาคม 2548 06:16 น. - comment id 528671
ฝากไว้ในงานภูค่ะ *ได้ครับพี่ ดีครับท่าน* ภูที่รักของพุด ภาพนี้ภูงามมากนะคะเพราะ ใส่เสื้อเหลืองเรืองรอง ทำให้ดูใบหน้าผ่องพราวผุดราวทองคำอิอิ (คนรักกันก็มองงามไปหมดแหละจ้า) ภูรู้มั้ย พุดหลับตาให้ผมภูสั้นกว่านี้ ชี้โด่เด่กว่านี้แบบทหารเกณฑ์นะคะ เพราะคงเก๋มากค่ะ เมื่อวานเพื่อนพุด ตัดสั้นแบบนั้นเลยค่ะ เพื่อนที่ออกกำลังกายด้วยกันทุกวัน ดูน่ารักมากๆๆ งามแผกมากค่ะ งามแบบเป็นตัวของตัวเองดี แบบที่เขาว่ากันว่า *ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง* ยังไงยังงั้นเลยจ้า สำหรับพุดชอบไว้ผมยาวค่ะ ล่าสุดถึงกลางหลัง และมีอยู่คืนหนึ่งพุดไม่สบายเป็นไข้ ด้วยรำคาญผมมากเลย คว้ากรรไกรมาปลงซะให้สั้นลงหน่อย แล้วถึงไปร้านค่ะ) ไม่งั้นคนคิดว่าแมลงสาบแทะหัว (เกือบโกนบวชชีแล้วอิอิ) พุดตื่นมายามฟ้าสางค่ะ เพราะมีช่างมาเต็มวิมานดินวิมานไพรมา ทาสีให้ใหม่ค่ะ เป็นวิมานนี้สีชมพูนวลๆนะคะ ขลิบขาวค่ะคือวงกบค่ะ ตัดกับเขียวไพลของใบไม้ ใบตองงามผ่องพรรณรายเลยค่ะ จริงๆพุดชอบอยู่เรือนจำปีนะ หรือกระท่อม.. ไม่ไยดีบ้านหรูๆแล้ว แต่.. อันนี้กลัวบ้านในเมืองน้อยใจค่ะ เลยพัฒนาเสียหน่อยค่ะ นานๆจะมาคุยยาวๆนะคะ เพระรักภู ทั้งๆไม่ค่อยมีเวลามากนัก ที่จะทายทักน้องๆเลย พอว่างก็รอรจนางานมาพลีฝากค่ะ ได้โอกาสวันนี้นะคะภู และตามสไตล์เจ้าแม่เพลงโบราณ ขอฝากเพลง ถึงทุกดวงใจมิ่งมิตรน้องพี่ แห่งร่มรักเรือนไทย เรือนทองแห่งผองเราค่ะ ทุกคนดีทุกดวงใจ ขอพบเกษมงามจิตดั่งอัญมณีไพร ใสสวยกระจ่าง เคียงข้างกันไป ชมสวนดอกไม้งาม และเอนอิงพิงไหล่แหงนเงยมองดู ดวงดาวเดือนดาราที่กำลังพราวพราย รอให้ไขว่คว้ามาแนบอกอุ้งมือค่ะ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song594.html ยอดรัก จงมองที่ขอบฟ้า โอบๆโค้งลงมา นั้นคืออ้อมกอดจากฉัน ฮือๆ ฮือๆๆ ยามเมื่อเราไกลกัน เธอฉันดังอยู่เคลียไคล้ ยอดรัก สายลมแผ่วละมุน นั่นคือสายลมอุ่น ฉันพรมและจูบลูบไล้ ฮือๆ ฮือๆๆ เธอรู้บ้างหรือไม่ รักใครไม่เท่าเทียมฉัน คืนวัน จะผันแปรเปลี่ยนไป แต่ใจฉันไม่อาจเปลี่ยนเวียนผัน ซื่อตรง จงรักจนนิรันดร์ หากลืมฉัน ฉันคงต้องกลั้นใจตาย ยอดรัก การจากทั้งผูกพัน ย่อมจะคิดถึงกัน เร่งวันคืนกลับเคียงกาย ฮือๆ ฮือๆๆ ครองรักไม่รู้หน่าย วันตายนั่นแหละวันลืม ยอดรัก การจากทั้งผูกพัน ย่อมจะคิดถึงกัน เร่งวันคืนกลับเคียงกาย ฮือๆ ฮือๆๆ ครองรักไม่รู้หน่าย วันตายนั่นแหละวันลืม... ฝากความรักถึงน้องผู้หญิงสีม่วง ที่แสนรักด้วยนะคะ แม่ดวงดอกพุดไพร 28 ต.ค. 48 - 06:11
28 ตุลาคม 2548 06:29 น. - comment id 528675
ซึ้งใจค่ะ น้องเรน แม่หยาดมุกหอม.. คุณอิม.. ดีใจมากค่ะที่ไปทำบุญค่ะ ขออนุโมทนานะคะ ขอให้ใจสงบสว่างมีความสุขเกษมค่ะ พี่พุดเพิ่งทำทั้งทานบุญค่ะ คุณplaing_piu 2.. ที่พุดแสนรักงานและศรัทธาในน้ำใจค่ะ พุด..ไพร คิดถึงและรำลึกถึงพลังใจ เสมอมาที่มิเคยลืมพุดพัดชาค่ะ คุณ..เศษทาน ไฟฝันแม้นจะระริบหรี่ หากด้วยใจดวงดีดวงรักรจนา ก็บางเวลายังโชนกล้า แม้นใครจะว่าซ้ำวนค่ะ พันความเรียงแล้ว ให้อภัยรักเมตตานะคะ หากจะเพ้อละเมอบ้าง เพราะว่าคือ โลกจินตนาการ หากขาดการเพ้อแล้วไซร้ คงหยาบกระด้างไร้แล้งค่ะอิอิ ด้วยขอบคุณ ด้วยซึ้งใจ ที่จักรอรับหยาดสายธารอัน แสนงามใจจากทุกดวงใจที่ ใสเย็นดั่งหยาดฝนค่ะ ทุกดวงใจ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song161.html เพ้อ.. เห็นลมละเมอเพ้อหวาดผวา เห็น ฟ้า พะวงหลงโทษโกรธดิน เห็นสายน้ำหลาก สาดเซาะ แก่ง หิน เห็น พื้น ดิน แยก แตกเพราะถูกรอยไถ เห็นใบไม้ครวญหวนอยู่ริมธาร เห็น ศาล เพียงตาแล้วข้าปวดใจ เห็นแสงเดือนส่อง ยิ่งมอง ใจหาย เห็น เธอร้อง ไห้ ช้ำใจเพราะใครเขาทำ เธอ ช้ำใจเพราะถูกใครลวง บอกกับฉันอย่ามาหวง ใครลวงให้เธอชอกช้ำ บอกฉันสักหน่อย อย่าปล่อยให้ใจระกำ เธอร้องไห้เพราะใครเขาทำ เธอช้ำเพราะใครหรือเธอ เห็นเธอระทมขมขื่นตื้นตัน แล้ว ฉัน ยิ่งตรมขมขื่นกว่าเธอ ฟ้าสิ้นดินหล่น ขาดลม แรงเพ้อ หาก ใคร แกล้ง เธอ ฉันนี้ จะยอมตายแทน เห็นเธอระทมขมขื่นตื้นตัน แล้ว ฉัน ยิ่งตรมขมขื่นกว่าเธอ ฟ้าสิ้นดินหล่น ขาดลม แรงเพ้อ หาก ใคร แกล้ง เธอ ฉันนี้ จะยอมตายแทน... ...... ด้วยรักล้นใจ จาก
27 ตุลาคม 2548 19:22 น. - comment id 528829
สวยสดงดงามเช่นเคย มิเสียแรงที่คอยอ่านนะ แม่ดอกพุดไพร
27 ตุลาคม 2548 14:22 น. - comment id 529815
ยังคงงดงามเช่นเคย มาด้วยความระลึกถึงคะพี่พุด
27 ตุลาคม 2548 15:53 น. - comment id 529850
ฝากไว้ให้นอ้งแดดเช้าในงาน สะพานข้าใจค่ะ .............. คนดี... ระหว่างรัก ระหว่างฝัน ระหว่างวันแห่งสมมุติโลกนี้ ไม่เคยมีอะไรจีรังและยั่งยืนค่ะ ระหว่างเรา เธอ..ฉัน จึงจงปันดี พลีน้ำใจเมตตากันและกัน เพราะ เมื่อถึงวันฉันใกล้สิ้นลม ดวงใจฉันจะหอมฉมหอมชื่น ด้วยความรำลึกนึกถึงคุณงาม ความดีของเธอ และ เธอ..มิจำต้องเพ้อครวญ ว่าสายเกิน..กับทุกสิ่ง ฉัน..รักเธอ และ ลมหายใจนี้ มีมรณาเป็นที่ตั้ง ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้ เราจักต้องข้ามสะพาน สัจจะจริงอันทิ้งทอดรอรับ ให้เราพบกัน หากจิตเธอและฉันเสมอเสมือน ดั่เงพื่อนธรรมดั่งคู่ทอง เราจะ.. ชวนกันเกี่ยวก้อยลอยล่อง ไปสู่ดินแดนแห่งความเป็นนิรันดร์ว่าง ที่แสนแจ่มกระจ่างสว่างพราย และ.. ถึงตราบยังมีลมหายใจ สะพานนี้ก็แค่ทอดรออยู่ในดวงใจเรา ใช่จำรอ ขอ แค่เพียรอย่าท้อ รู้ภาวนารักษาศีล ให้ใสบริสุทธิ์ อัญมณีจิตดวงพิสุทธิ์ขาว จักพราวพราย ไร้..กาลเวลา เหนือกาลเวลาค่ะ รักล้นใจ พี่พุดไพร
27 ตุลาคม 2548 15:58 น. - comment id 529851
ฝากให้คุณแก้วนะคะ ในงาน..*ทางแห่งชีวิต* ............... ทั้งโลกจริง และ โลกมายาสมมุติ ในที่สุด ก็มิอาจมีสิ่งใดเที่ยง เท่าธรรมค่ะ และวันนี้ นาทีนี้ พุดพลีหยาดน้ำตาร่ำไห้ กับเรื่องโศกใจ ในโลกฝันนี้ ที่.. พุดแสนจริงใจกับ มิ่งมิตรในดวงใจทุกคนค่ะ ที่ก้าวมาด้วยรักพุดอย่างพิสุทธิ์ใจ และ.. กาลเวลาก็พิสูจน์ใจพิสูจนต์จิต ถึงค่าคน ค่าคำ ค่าคำปรารถนาดีเมตตาธรรม กันอย่างบรสุทธิ์ใจค่ะคุณแก้ว พุดรักความดีรักน้ำใจ แสนงามของคุณแก้วนะคะ รักษาตัวรักษาใจค่ะ ด้วยความจริงใจด้วยรักล้นใจ แสนใสงามมาอย่างยาวนานแล้วค่ะ พุดไพร
27 ตุลาคม 2548 15:59 น. - comment id 529853
และ ด้วยรักซึ้งใจน้องๆนะคะ น้องมนต์กวี นางสาวใบไม้ น้องไรไก่ น้องแมงกุ๊ดจี่ ที่พี่พุดแสนรักทุกคนค่ะ
27 ตุลาคม 2548 17:04 น. - comment id 529866
จ๊ะเอ๋ คุณพุดพัดชา .. แอบหนีไปเที่ยวมาค่ะ และได้ไปถวายสังฑทานด้วยนะคะ สุขใจและนำบุญมาฝากค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ ช่วงนี้อัลมิตราชีพจรลงเท้าอีกแล้ว
27 ตุลาคม 2548 22:25 น. - comment id 534219
สุขใดยิ่งกว่าความสงบ....ไม่มี แวะอ่านครับ
28 ตุลาคม 2548 21:49 น. - comment id 536006
พุด อาจจะเคยเป็นญาติกันมาแต่ปางก่อนก็อาจเป็นได้ ถึงได้มาพบเจอะเจอหน้ากัน ถึงแม้เจอกันทางภาษาก็เสมือนหนึ่งว่าได้รู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะทั้งบทกวีและเนื้อเพลงที่นำมาครับ
26 ตุลาคม 2548 20:57 น. - comment id 536773
หนังสือที่พี่อ่านเป็นหนังสือที่ดีนะค่ะ น้องเองไม่ค่อยได้อ่านหนังสือแบบนี้สักเท่าไหร่ เพราะโดยส่วนตัวชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยา ส่วนเรื่องสัมผัสได้ถึงความงามท่ามกลางธรรมชาติเลยค่ะ คิดถึงพี่พุดนะค่ะ
26 ตุลาคม 2548 22:17 น. - comment id 536810
น้องน้อย ผู้หญิงในเงาใจพี่พุดคะ พี่พุดกำลังโศกใจมากค่ะ กับข่าวที่ได้ฟังคุณสรยุทธ์ กำลังรายงานข่างใหญ่ เรื่องการปล้นปืนทั้งสามจังหวัด ในเวลาไล่เลี่ยกัน และได้ปึนไปหลายกระบอกแล้ว สถานการณ์ไม่ดีเลยค่ะ น่าห่วงใยมากนะคะ พี่พุดคิดว่า..โลกนี้ทำไมมีแต่ การทำลายล้าง มุ่งร้ายหมายชีวิตกัน ทั้งคนและสังคมระดับชาติ ราวกับ ในดวงจิตไร้มนุษยธรรม ไร้อัญมณีจิตที่แสนสว่างใส มีเมตตาปรานีกันและกันเลยค่ะ รักน้องนะคะ ดูแลรักษาตัวนะคะ
27 ตุลาคม 2548 00:26 น. - comment id 536824
คิดถึงพี่พุด ก็เลยแวะมาทักทายค่ะ : )
27 ตุลาคม 2548 07:20 น. - comment id 536848
แวะมาทักทายตอนเช้าๆ ค่ะพี่พุด ...
27 ตุลาคม 2548 09:12 น. - comment id 536878
แวะมาเติมใจครับพี่....
27 ตุลาคม 2548 10:56 น. - comment id 536911
สวัสดีคะ พี่พุดสุดรัก แวะมาซึมซับ สิ่งดี - ดี ขอบคุณพี่พุดคะ
27 ตุลาคม 2548 11:02 น. - comment id 536915
เรนคิดถึง..พี่พุดนะคะ..
27 ตุลาคม 2548 12:51 น. - comment id 536970
ดวงจิตใสราวมุกสว่างพร่าพราว มณีมีค่าเกินคำบรรยาย ดวงมุกมณีจิตที่ไม่มีหม่น
27 มิถุนายน 2552 11:25 น. - comment id 1006018
คุณ พุด พัดชา ครับ มาอ่านงานงามเก่าๆของ คุณ พุด อีกครั้ง หลังจาก ห่างหายไปบางระยะ เพราะมิได้ถูกเชื้อเชิญ เพราะสัมพันธ์ ที่มี บางระยะ ที่ดูเหมือนแปลกแปร่งไปบ้าง งานงามนั้นยังคงสะท้อนความหวานระร่ายริน ของบรรยายกาศที่ถวิลถึงอดีตกาล ของสัมพันธ์และสายใจใยรักแห่งใจในกาลล่วง และฝันถึงซึ่งร่มธรรมร่มทอง อยู่มิเคยคลาย หวังว่าคุณ พุด คงมีความสุข อยู่ท่ามความแยก ย้อนแย้งที่มีในจิต ในใจแห่งตน อย่างเหมาะสม กับพิธีกรรมและพิธีธรรม แต่กระไรเสีย อย่าลืมเสียหละที่จะเผย ตัวตน อันแสนงาม และเรียบง่ายในยามไร้พิธี เพราะ นั้นก็คือ เสน่ห์นาง อันสัมผัสได้ ถึงนางนั้นนาม พุด พัดชา ที่งามในเงาฝันอย่างสาว งามนางหนึ่งควร เป็น นะ คุณ พุด เอย ด้วยรักและผูกพัน