http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3102.html (มนต์รักลูกทุ่ง) ............. ฟ้าสว่างอีกคราแล้ว ดวงดอกแก้วยังหอมพร่างในอุษา ตามสาวนามาสิคนดี มาตามเส้นทางสายงาม สายชนบทในยามเช้านี้ ที่น้ำค้างในพวงพะยอมดวงดอกไม้ป่า ยังฉ่ำเย็นพราวราวรวงเพชรในกลางกลีบเกสร เห็นนั่น...ไหมเล่าเจ้าคนดี ผีเสื้อนับร้อย.. กำลัง.. กรายปีก..ร่ายร่อน ฟ้อนพรายพร้อยแพรวพราว เฝ้าเผยอปีกพลางพร่าง แตะแต้มทั่วทั้งท้องทุ่งดอกไม้บาน แย้มเปิดกระโปรงบานอวดตระการงาม แห่งลวดลายคล้ายแผกนิรมิต.. มีเพียงสีเดียว..หนึ่งเดียวในโลก ................ ขุมปัญญาในอณูของดอกไม้ เป็นมนต์ร่ายระบำรอผีเสื้อ ขุมปัญญาที่ธรรมชาติโอบเอื้อเฟื้อ คือเหลือเชื่อมหัศจรรย์รักผลักดันมา.. โลกหมุนไปมีธรรมชาติมีทุกสิ่ง จักรวาลมีสิ่งลี้ลับให้ค้นหา ไยดวงจันทร์ถึงโคจรรอบโลกทุกวันมา ไยมนุษย์ต้องเหว่ว้าอาวรณ์ออดอ้อนใจ เพราะคือมหัศจรรย์รักในโลกนี้ ให้มีดีมีร้ายหรือไฉน ให้เผ่าพันธุ์มนุษย์สืบทอดไป เป็นบ่วงใจบ่วงกรรมย้ำโลกเรา ตัดบ่วงใจตัดเยื่อใยสิ้นสวาท หมดสิ้นชาติหมดสิ้นกรรมใจเลิกเขลา ไม่หมุนวนหมุนเวียนใช้กรรมเก่า ให้ใจเราว่างว่างวางเฉย..เลิกรักใคร! ................ ดวงใจ... เห็นสายธารระรินไหล..อย่างเงียบงาม ท่ามโตรกผาป่ารกไหม.. ในพงไพรพฤกษาพนาขวัญ กับ เสียงนกกาพากันผกโผผินบินอย่างแสนมีอิสราเสรี ในฟากฟ้านี้.. อันแสนกว้างใหญ่ไพศาล อันแสนเวิ้งว้าง..ว่างใจ.. ให้... ค้นหา..*แดนดินแห่งความฝันอนันตกาล* อันแสนสงบงาม..เงียบ เพื่อ.. มาปันพลี..มากระซิบบอกมิ่งมิตรน้องพี่ ว่าโลกนี้.. ยังมีสวรรค์ใจสวรรค์ไพรสวรรค์วนา *สวรรค์บนดิน*.ใช่บนฟ้าในทุกถิ่นที่ หากมีใจดวงดีดวงนวลดวงงาม ดวงตาภายในมองเห็นธรรม ธรรมชาติ จากพลังจิตแห่งปิติเกษมเอมอิ่ม อันคือ.. แย้มยิ้มเยือนอยาก..ให้.. ในทุกเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตาย.. ใช่นานวัน... คนดี.. เห็น..สายน้ำสีทอง ที่ค่อยๆ...ละล่องละหลั่งถะถั่งริน ระริกระริกกระซิกกระซี้..กระซิบกระซาบ ให้กำซาบอาบเอิบดวงจิตบ้างไหม ดั่งเสียงดนตรีไพร หวานพร้องซร้องแสนเสนาะไพเราะ ที่.. จักแปรผ่องใยยวงให้หอมห้วงละหาน ไปตามสายแสงแห่งพระอาทิตย์อันแสนจรัสจรุง... ราวรุ้งพราว ในทุกคราวกาล... ดวงใจ... นั่นทิวเขาสลับซับซ้อนดูยิ่งใหญ่ หากเพราะเขียวไพรแห่งป่าดงดิบ ได้เพียรให้.. ทุกมวลสรรพชีวิตทั้งคนสัตว์ได้ดำรงประโยชน์ ได้พึ่งพักพึ่งพิง ได้อิงป่าไม้งาม ได้ดำรงความร่มเย็นดับแล้งไร้ ให้นกกาได้อาศัย ได้ธำรงสายโซ่แห่งวงวัฎฎะไพร อันคือ สัจจะใจสัจจะจริงแห่งชีวิต ที่สอนบทเรียนธรรมอันแสนล้ำลึก หากมนุษย์มักนึกไม่ถึง ไม่ลึกซึ้ง ไม่ดื่มด่ำพอ ต่างพากันหลีกลี้หนีพ้นธรรมชาติ ไม่ตระหนักถึงการเกี่ยวพันกันอย่างรู้คุณค่า แห่งค่าคำป่ารักน้ำ คนรักไพร..ใจรักกันและกัน ใช่เพียงเกิดมาทำลาย ทำร้ายกัน อย่างมนุษย์ทั่วโลกหล้า ที่ยังกล้ากล่าวคำว่าตัวนั้นคือสัตว์ แสนสุดประเสริฐเลิศกว่าสัตว์ใดแล้วในปวงปฐพี คนดี... พุทธสนานิกชนคนในชมพูทวีป อินเดีย ปากีสถาน..สิ้นหวานไร้หวัง ต่างเซซัง อดหยาก หิวโหย ด้วยโพยภัยแห่งอำนาจดินฟ้า ที่.. กำลังมาสอนเหว่ว้าให้ทุกมวลมนุษย์ในหล้า ได้พบ.. บทเรียนหนาวเหน็บ...โศกสะเทือน.. ก่อนสายเกินไป..กับใจทุกดวง ที่ยังมืดบอด..มิรู้ว่าสุดยอดแห่งการเกิดมา.. คือได้พบพระพุทธศาสนา และ ธรรมะธรรมชาติอันแสนพิลาสพิไล ที่จักเกาะเกี่ยวไปด้วยกัน อย่างมีเมตตาปรานีอย่างยากแยกออก ดวงใจ... เห็นเรียวรวงข้าวทองระย้าระยับ ที่กำลัง.. ห้อยย้อยทายทักแตะแต้มเคลียผืนดินถิ่นพสุธาไทย ในท่ามทุ่งเขียวไพลไหม เห็น.. ดอกดวงใจที่จักไสวเฝ้ารอดู... ดวงดอกข้าวพร่างพรูละอองเรณูเขียวใสอ่อนเยาว์ ชำแรกแทรกกลางกอ รอแย้มผลิจากเรียวรวงแห่งรักรักรักภักดีดินบ้างไหม คนดี.. ตามสาวนามาสิ.. มานั่งนิ่งนิ่ง ริมคันนาในยามฟ้าหลัวโพล้เพล้ มาดูตะวันดวงสีไพล ด้วยดวงใจละมุนละเมียด มา.. ฟังเสียงเพรียกยามสายลมล่อง ต้องมากระทบปลายยอดข้าวเบา.. ที่.. ราวผืนพรมแพรไหม ไหวระบัดสะพรับสะพรั่งพรึบ.. ไล่ลอนให้อ่อนหวานอ่อนช้อย แสนสร้อยเศร้า..ซาบซึ้ง ด้วยอึ้งอั้นในภาพฝันแสนงาม หากทว่า.. คือความจริงยิ่งกว่าจริง.. ที่รายล้อมหอมใกล้ เพียงได้ชิดดูมองรู้งามเงียบ ดวงใจ... เห็นดงดอกโสน... เหลืองพราวห้อยเคลียดงข้าวระยับระย้า กับ...ต้นหว้าตาลเดี่ยว ควายเคี้ยวเอื้องในห้วยหนองคลองบึงบ้างไหม และนั่น.. เห็นใครกันนะ..นั่งตกปลา รึมบึง จนให้.. คะนึงถึงมนต์เพลงลุกทุ่ง หอมเอยหอมดอกกระถิน มิสิ้นกลิ่นรวง..ข้าวใหม่ ที่แสนหอมหวานเกินกว่าใดในหล้า แล้ว http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3102.html มนต์รักลูกทุ่ง ละครทีวี หอมเอยหอมดอกกระถิน รวยระรินเคล้ากลิ่นกองฟาง เห็ดตับเต่าขึ้นอยู่ริมเถาหญ้านาง มองเห็นบัวสล้างลอยปริ่มริมบึง อยากจะเด็ดมาดอมหอมหน่อย ลองเอื้อมมือค่อยค่อย ก็เอื้อมไม่ถึง อยากจะแปลงร่างเป็นแมลงภู่ผึ้ง แปลงได้จะบินไปคลึงเคล้าเจ้า บัวตูมบัวบาน หอมดินเคล้ากลิ่นไอฝน อวลระคนธ์หอมแก้มนงคราญ ขลุ่ยเป่าแผ่ว พริ้วผ่านทิวแถวต้นตาล มนต์รักเพลงชาวบ้านลูกทุ่งแผ่วมา ได้คันเบ็ดสักคันพร้อมเหยื่อ มีน้องนางแก้มเรื่อนั่งเคียงตกปลา ทุ่งรวงทองของเรานี้มีคุณค่า มนต์รักลูกทุ่งบ้านนา หวานแว่วแผ่วดังกังวาน โอ้เจ้าช่อนกยูง แว่วเสียงเพลงมนต์รักลูกทุ่ง ซ้ำหอมน้ำปรุงที่แก้มนงคราญ... ..................... คนดี... เห็นกระท่อมไพร กระท่อมใบไม้ ที่สาวนาสาวบ้านป่าบ้านไพร ได้ใช้ชีวีเรียบง่ายธรรมดาๆ..รักนาเก็บเห็ด เพาะเมล็ดพืชพรรณผัก ไปวัด..กราบพระในโบสถ์คร่ำ พร้อมกับการกลับมา.. ระร่ำระริน.. สวดมนต์อธิษฐานจิตภาวนามิสิ้น ในท่ามแสงเทียนแสงตะเกียงเหว่ว้า เพื่อสอนคุณค่าแห่งลมหายใจ ให้... รู้ค่ารักภักดีแบบวิถีไทยโบราณ รักความเป็นกุลสตรี รักความดีดั่งดวงมณีมีค่า ให้หอมเกินกว่าปวงดอกไม้ใด รักเรือนชานสวยใสสะอาดแบบพอใจพอเพียง รักที่จะ.. พลีหยาดเหงื่อเลี้ยงผองชนคนไทย ด้วยยังหยัดยืน วิถีไทยวิถีทุ่ง ยังมุ่งเพาะปลูกข้าว ยัง.. เฝ้าฝันพลีที่ทุ่งทองเพื่อไว้เลี้ยงผองคนไทย ในแผ่นดิน ให้.. มิสิ้นสุดหยาดเลือดรัก อันแสนภักดิ์พลีต่อวิถีเกษตรกรรม อันคือ วิถีทำวิถีใจแสนล้ำค่า ที่โลกหล้าและผู้คน จักมิต้องทนหิวท้อง และ.. ได้พบคลองธรรม ครองใจ รู้รักในชีวีแสนงามเงียบสงบสมถะ รู้ค่าความพอดีพอเพียงเลี่ยงวิถีเร่าร้อน ไม่ต้องมาแย่งชิง กันทำร้ายทำลายโลก.. คนดี.. เห็นสาวนาไหม... กำลังขี่ควายไปตามชายทุ่งริมบึงบัว.. และ.. ในงามสลัวของเงาดาวพราวดวงดอกบัวพร่าง จะมีร่างนางหนึ่งราวนางไม้นางไพร ที่จะดำผุดดำว่าย ได้ชิดใกล้กับสายน้ำใส ได้เด็ดบัวไสว.. ด้วยดวงใจแสนพิสุทธิ์ไปถวายพระในยามค่ำ ดวงใจ... เห็นแล้วใช่ไหม.. ทำไมสาวนา.. จึงยังมาพลีฝากคำมาระร่ำรินรจนาร้อยรส บทบาทแบบย้ำเตือน มิให้สาวไทยลาเลือนรักแบบวิถีโบราณๆ ที่คือ.. ความหวานหอม.. ดั่งดวงดอกไม้ป่าอันแสนงามบริสุทธ์ใส เพื่อเป็นพลังใจพลังต้าน ให้ดวงดอกไม้ในม่านเมืองที่ต้องมนต์หมอกมายา ได้พากันตระหนักชัด ถึง..ค่าชีวิต..ลมหายใจ..และความรัก ที่จักสดสวยแสนงาม หาก.. มีเพียงความรู้จักรักความพอดีพอเพียง.. ไปจนตราบชั่วกาลนานเนานิรันดร์ กับลมหายใจแสนสั้นอันแสนนิดหนึ่งน้อยนี้ ที่.. ควรพลี*ให้รัก*ทั้งกับคนและโลก.. ใช่เพียงฝากโศกทำลาย...! .................................. เธอมาเยือน.. เหมือนสายฝนพรำผิดฤดู เหมือนฝันที่ค้างอยู่ เหมือนรู้ทั้งรู้แค่ฝันไป.. เธอมาเยือน... เหมือนสายลมพัดหวั่นไหว เหมือนเรียวรุ้งโค้งฟ้าไกล เหมือนน้ำตาแต้มใจทุกทุกวัน... เธอมาเยือน.. เหมือนทุ่งดอกไม้แห่งความฝัน เหมือนโลกนี้ละออทุกทุกวัน เหมือนสวรรค์เยือนหล้ากระจ่างใจ.... เธอมาเยือน.. เหมือนเพื่อนเหมือนดอกไม้ตระการไหว เหมือนจันทร์เสี้ยวลบเศร้าในดวงใจ เหมือนแมกไม้ไพรไหวกิ่งฝันมอบวันงาม.. ............. ทุกแห่งหน... ฉันเห็นเธอในดอกไม้สายลมไหว มวลนกไพร ในฝนพราย แมกไม้ฝัน ในดวงดาว ในอุ่นแสง แห่งตะวัน ในความฝัน ในยามตื่น ชื่นฉ่ำใจ.. ฉันเห็นเธอ ในดวงจันทร์ ฝันเคียงฟ้า ในเมฆา ในเรียวรุ้ง กระจ่างใส ในผีเสื้อ ในสายน้ำ ในขุนเขา ในเงาใจ เธอสถิตอยู่กลางใจในเรียวตา (ในศรัทธาในรักนี้ มิมีวันจะลบเลือน! ......................
13 ตุลาคม 2548 12:54 น. - comment id 526757
ถ้าสามารถส่งความรักแหละแรงปรารถนาไปได้ถึงถ้วนทั่ว... หวังว่ารักคงได้ทายทักและร่วมยินดีมีสุขกับทุกดวงใจที่กำลังหอมความรัก แหละจักไปเป็นน้ำทิพย์ปลอบประโลมทุกความทุกข์ยากลำบากใจ ทั้งหลาย... วอนขอว่าขะตากรรมอย่าได้ทำร้ายเขาเหล่านั้นมากนักเลย.. ส่งใจระลึกถึง.. ปล...สาวบ้านนายังงามกายงามใจทุกคราวเจอ..
13 ตุลาคม 2548 12:22 น. - comment id 526765
..เชื่อในความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ เท่ากับ... ..เชื่อในความมหัศจรรย์ของความรักค่ะ ----------------------- หากปรารถนาได้สิ่งใด... ควรยื่นให้สิ่งนั้น...ก่อนเสมอ.... พ่อ..ของใบไม้..สอนไว้เช่นนั้นค่ะพี่พุด หากปรารถนา...ความรัก จึงควรมอบรัก...ใช่ไหมคะ.. ..ด้วยรักค่ะ...
13 ตุลาคม 2548 16:17 น. - comment id 526846
มาตามอ่านผลงานดีๆจากพี่สาวคนงามจ้าาาาาา
13 ตุลาคม 2548 20:00 น. - comment id 526963
บทเพลงบทกลอนแห่งบ้านนา ขับขานขึ้นมาคราใด ยังความสดใสในชีวา ภาพบ้านนาปัจจุบันแม้เปลี่ยนวิถีไป แต่ถ้าได้ย้อนถึงเรื่องราวความหลัง กองฟาง แสงจันทร์ มีพลังให้จิตใจกระชุ่มกระชวยด้วยมนต์เสน่ห์แห่งบ้านนา
14 ตุลาคม 2548 01:19 น. - comment id 527059
มาชื่นชมบทกลอนครับ
14 ตุลาคม 2548 10:44 น. - comment id 527164
+++ ++ + ชื่นชมผลงาน.. อ่านแล้วเบิกบานใจ .... ชอบท่อนนี้ด้วย.. ++ โลกหมุนไปมีธรรมชาติมีทุกสิ่ง จักรวาลมีสิ่งลี้ลับให้ค้นหา ไยดวงจันทร์ถึงโคจรรอบโลกทุกวันมา ไยมนุษย์ต้องเหว่ว้าอาวรณ์ออดอ้อนใจ ... มนุษย์ต้องเป็นเช่นนี้ ผู้ที่คิดว่าตัวเองประเสริฐ.. จริงๆแล้ว.. ก็ประเสริฐ.. แต่..ต้องหาความประเสริฐ ในตัวตน..ที่เกิดมาเป็นคน..