http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song222.html (ฉันรักเธอเสมอ หากตราบใดสายนทียังรี่ไหล) ............ เช้าวันที่... ดวงดอกฝนพรมพรำไปทั้งท้องทะเล ในกระท่อม..หอมดอกไม้ริมทะเลฝัน ดวง..นอนนิ่งนิ่ง ฟังเสียงสายฝนดนตรีวสันต์ดนตรีสวรรค์ กับ.. เสียงคลื่นฝันรัญจวนหวนไห้ คลอทรายซัดฝั่งพากันผสาน เสียงที่ดวงได้ยิน ราวบทเพลงโบราณ มาหวานซึ้งในคำนึงมาคลอใจ..มาเคียงใจ.. ............ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song346.html เสียงกระซิบจากเกลียวคลื่น... เสียง คลื่น ซัด ฝั่ง มัน คลุ้ม คลั่ง ฝัง รอย สวาท ใจ มันซุก มันไซร้ มันซบทรวงทราย แทรก ซึมไม่มีวันวาย มันเคลิ้ม มันคลุก มันเคล้า มิคลาย รสทรายรื่นรมย์ เสียง กระ ซิบ แผ่ว ฟัง หวาน แว่ว พริ้ว ตามเกลียวคลื่น มา เรารัก กันหนา มาหา มาชม คลื่น คอยติดตามเกลียวลม มาร้อย รอยรัก มาทัก คลื่นชม ภิรมย์เพียงฝั่ง ฟัง ซิคลื่น มันละ เมอ ฝาก สวาท เหมือน เธอ ละเมอเพ้อให้ ฟัง เห็น ใจฝั่งบ้างหรือ ยัง ฝั่ง รัก จี รัง เหมือนคลื่น ยืนใจ เสียง คลื่น ซัด ฝั่ง กระ ซิบ สั่ง ฝัง รักตลอด ไป มันซุบ มันซิบ กันชื่นใจ มันซบ มันหนุน จนอุ่นไอ กระซิก กระซี้ กันเรื่อยไป จะรัก กันไว้ ตลอด กาล เสียง กระซิบ กระซิบ ตลอด กาล กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล เสียง กระซิบ กระซิบ ตลอด กาล เสียง กระซิบ กระซิบ ตลอด กาล... ดวง... ปล่อยให้ในมโนใสว่าง ให้งามหอม ไปกับมวลพะยอมรายรอบเรือนไม้เรียบง่าย ชิดชายชลชายทะเล ซบหน้ากับหมอนนวลนุ่ม ที่หอมกรุ่นด้วยกลิ่นลั่นทม ดอกดวงแสนน่าอภิรมย์ ที่ปลิดปลิว... ด้วยพายุฝนมาแอบเชยชมเคียงเขนยให้นิทราฝันดี และ... กับสายลมพัดพร่างอวลหวาน ของพวงตระการดวงดอกกล้วยไม้ป่าริมเรือน... ก่อนนอน จอห์นนี่ คนดี.. ที่ดวงแสนรักและแอบหวังจักเป็นน้องเขย ได้มานั่งคุยถึงปรัชญาใจ... มาพักใจ จุดเทียนให้หอมไสว วะวิบวะวับแวม แกมแสงดาวรำไร แกมไหวหวามแห่งบุหลันราตรี ที่แฝงตัวในม่านเมฆ เสกสายแสนหวาน หว่านหยาดน้ำผึ้งลงมาณบึ้งใจ ผู้ที่รักเดือนดาว.. และ.... เฝ้าแลชำเลืองหวังปันแบ่ง แม้นจะอยู่กันแสนไกลคนละซีกโลก หากหวัง ดับโศก..ดับคิดถึง..คะนึงหา.. เมื่อต่างตรึงใจพากันคิดว่า ยังอยู่ ณ ใต้ฟ้าเดียวกัน จันทร์ดวงเดิม.. เพียงรอเพิ่มรัก รอพบ... จบ ด้วยมิจำต้องพรายพลัดพราก ต้องจำจากไกลกันอีกเลยแล้ว .......... ใจดวง ดวงสะออนและร่างเหนื่อยล้า กับการปีนเนินผาไม่รู้สักกี่รอบ และ...กับ ความคิดมากมายที่ต้องใช้สมอง กับ.. หลากเรื่องราวมากมาย ที่มารุกเร้ากรายกล้ำ หากดวงเพียงทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด หน้าที่แห่งชีวาชีวิต ที่สวรรค์ลิขิต มาให้ต้องรับผิดชอบประกอบวิบากกรรมวิบากเกิด ดวง.. ลุกขึ้นสวดมนต์อย่างช้าช้า และนั่งสมาธิภาวนาสักพัก ก่อนที่..จะ เดินไปกับผู้พิทักษ์...เจ้าอารีเพื่อนยาก ไปตาม... หาดเวิ้งว้างที่แสนสงบงามไร้ร้างผู้คน หนาวลมทะเล... ระบัดพัดพลิ้วให้ปอยผมปลิวลิ่วลู่ไปเบื้องหลัง มองเห็น.... ทะเลสีเงินงามราวท้องทะเลแห่งความฝันที่ไร้ผู้ใดมาเยือน นั่น..เรือสีน้ำเงิน..กำลังลอยลำอย่างดายเดียว คิดไป ก็เหมือนดั่งชีวิต ที่เปลี่ยวเหงา ของเราและทุกผู้คน ที่ต้องจำผจญชะตาบนผืนโลกนี้ ที่เวียนว่ายในทะเลโลกย์ทะเลโศกทะเลน้ำตา ที่ต้องทนฝ่าฟันพายุทุกข์ สุข เพียรบุกบั่นให้ไปถึงฝั่งฝันอย่างปลอดภัย ฝั่งไหนก็สุดแล้ว *แต่ใจจะไขว่คว้า* บ้างก็พาร่างจิตไปสนิทกับฝั่งแห่งสราญ บ้างก็เพียรพยายาม ไปสู่ฝั่งแห่งความว่างนิรันดร์ สุขนิรันดร์ แม้นจะพายไม่ถึงฝั่งแลละลิบ ก็หาได้คิดหยุดพายไม่ เมื่อจิตดวงใสดวงงามมิยอมพ่าย มิยอมให้ มิอยากให้..ต้องกลายกลับมา พายพาวนซ้ำ ดั่งเรือกรรมเรือเก่า... ในท่ามเงาน้ำแห่งกิเลส..ตัณหา.. อันแสนกว้างใหญ่ไพศาล ที่ในยามนี้.. ก็มากมีมากมายผู้คนที่สับสน มิค้นพบทางออกทางจิต พากันหลงชีวิต ลงไปตะเกียกตะกายลอยคอ รอเวลา....รอ ให้... พายุ..ฟ้าแลดินพิโรธ..! กวาดล้างให้สิ้นซาก ราวคำทำนาย ที่ว่า สักวัน ไม่นานช้า *น้ำจะท่วมฟ้าปลาจะกินดาว* ผู้คนจะพากันหนาวเยือกไปทั่วทั้งพื้นพิภพ สยบกิเลสตัณหา ที่ลากพาโลกให้ทุกข์โศก... จนยากเยียวยาแก้ไข...จนจะสายเกินแล้ว นาทีนี้... ใจดวง...ที่แสนเดียวดายดายเดียวลำพัง ในท่ามปลายโลกร้าง กับฟ้ากว้าง กับหาดทรายสุดตา กับเวิ้งน้ำจรดฟ้า.. ทำได้เพียง... ก้มหน้าสู้ชะตากรรม มีเพียงหวังให้ใจดวงเหว่ว้า ได้พลีรจนา..บทกวีให้จบ ที่ชื่อว่า*ชลอโลก* เป็นบทโศลกเทวษถวิลถึงดินฟ้า ด้วย.. น้ำตาแห่งภักดีในฤดีตรม.. ให้สมกับความรู้สึกระทมทับ ไปกับว่ายเวิ้งอนันตกาล แห่ง *การเกิดดับของทุกข์ทุกสรรพสิ่ง...* ให้ฟ้าดิน อินทร์ พรหม ยมพญา ... ได้รับรู้ในอธิษฐานปาวารณา ที่จะรอ ... *สายน้ำแห่งปรารถนา* พาไปสู่ฝั่งฝัน อันคือนิรันดร์สุข...นิรันดร์รัก..ไปตราบชั่วกาล..! *************** สายน้ำเอยสายน้ำปรารถนา จากคงคาเนรัญชราสายน้ำใส ทอดธารทองธารธรรมธารน้ำใจ ธารนิพพานไสวสว่างพร่างสู่แดนพุทธภูมิ ธารน้ำรักนิรันดร์ขวัญแห่งหล้า ลบน้ำตาการอยโศกดับเศร้าสูญ สิ้นทุกข์ผองครองเมืองธรรมเพิ่มพูน ก่อนอสูรผีร้ายกลายกลับมา *สายน้ำใจ*ไทยไทคือรอยยิ้ม มิรู้สิ้นฝากไว้กำนัลหล้า เป็นของขวัญพระเบื้องบนประทานมา พร้อมคำว่ารู้รักสามัคคี วัฒนธรรมประเพณีที่งามงด ประเพณีหมดจดจากมือที่กร้านล้า จากสมองของชนชั้นชื่อ*ชาวนา* ภูมิปัญญามากมายกลายเป็นศิลปไทย ทั้งผ้าทอผ้าทิพย์ราวนิรมิตจากแดนสรวง ทั้งหอมห้วงงานมือถักจากใจใส ราวดาวดวงประดับหล้างามฟ้าไทย ด้วยธารใจธารธรรมพระแม่ฟ้า หยาดเป็นสายพรายพรมห่มยากไร้ ให้ดวงใจสิ้นไร้ได้ฝากค่า คืนค่าคนให้สมค่าที่เกิดมา พบสายน้ำปรารถนาก่อนลาไกล ใช้ชีวีเรียบง่ายรายรอบธรรมชาติ มิพิลาสหวังไกลถึงไหนไหน ปาริชาติแดนหิมพานต์งามกลางใจ หากตราบใดชีพนี้มีธรรมครอง มีบ่อบุญการุณย์รักมิรู้สิ้น ณ..กลางจินต์กลางจิตดั่งแดนสรวง บัวบูชาคือคืนค่าความดีสิ้นทั้งปวง ให้ผองชนล้วนพบธารธรรมสุขนี้ที่นิรันดร์ เมขลาล่อแก้วอยู่บนฟ้า รามสูรอ่อนล้าตำนานฝัน อย่าสิ้นหวังตราบยังมีวสันต์พร่างทิวาวัน ราตรีฝันยังมีจันทร์อันอำไพ ถือเป็นโชคได้เกิดมาใต้ฟ้านี้ ฟ้าปรานีดินแดนทองผ่องไสว เจ้าพระยายังล้นท้นถั่งมากน้ำใจ มีพงไพรมีสัตว์ป่ารู้ค่าทัน อย่าหวังไกลทำจิตใสด้วยรู้รักษ์ ชีพสั้นนักแค่ลมหายใจขวัญ หายใจออกแล้วไม่เข้าก็เท่านั้น ทำปัจจุบันรู้คุณค่าทุกนาที แล้วพลังเกษมปิติจะพลันพร่าง พบสว่างกระจ่างบุญงามวิถี พบงามเงียบแสนว่างกลางจิตนี้ อย่ารอวันเดือนปีเพียรทำความดี (ฝึกสมาธิมีปัญญารู้ค่าคำตายก่อนตายได้นิพพาน..!) ............. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song222.html ฉันรักเธอเสมอ ....ทิพย์วรรณ ปิ่นภิบาล หากตราบใด สายนที ยังรี่ไหล สู่มหา ชลาลัย กระแสสินธุ์ เกลียวคลื่นยัง กระทบฝั่ง เป็นอาจินต์ เป็นนิจสิน ตราบนั้น ฉันรักเธอ เช่นตะวัน นั้นยังคง ตรงต่อเวลา แน่นอนนัก รักท้องฟ้า สม่ำเสมอ เช่นกับฉัน มั่นคง ตรงต่อเธอ ฉันรักเธอเสมอ ฉันรักเธอเสมอ ชั่วนิจนิรันดร์ เช่นตะวัน นั้นยังคง ตรงต่อเวลา แน่นอนนัก รักท้องฟ้า สม่ำเสมอ เช่นกับฉัน มั่นคง ตรงต่อเธอ ฉันรักเธอเสมอ ฉันรักเธอเสมอ ชั่วนิจนิรันดร์...
12 กันยายน 2548 09:23 น. - comment id 514348
โอ้ววว โอววว ... พี่พุดง่ะ แทรกซึมความรู้สึกอีกแล้ว
12 กันยายน 2548 11:29 น. - comment id 514380
แวะมาทักทายยามสายวันจันทร์ ฝนตกทุกวันชุ่มฉ่ำตั้งแต่วันอาทิตย์ ก่อนจะทำงานแวะอ่านบทเพลงแห่งชีวิต ทำให้ได้ข้อคิดและสิ่งดีดีที่พี่พุดนำมาฝาก. มีความสุขมากๆนะคะ
12 กันยายน 2548 12:26 น. - comment id 514396
แวะเยี่ยมพี่พุดนะครับ
12 กันยายน 2548 15:56 น. - comment id 514468
ผ่านมาเก็บงานงาม... เป็นความรู้สึกดีๆนะคะพี่พุด
12 กันยายน 2548 16:43 น. - comment id 514501
แวะทักทายงานไพเราะค่ะ ไพเราะเหมือนเดิมนะคะ
12 กันยายน 2548 23:48 น. - comment id 514589
ตายก่อนตายคือคำเตือนจากเพื่อนยาก ทนลำบากมาใช้กรรมทำจิตใส หายใจออกแล้วไม่เข้าย่อมเข้าใจ เอาอะไรกับชีวี...พลีใช้กรรม ธารน้ำใสไหลเย็นเห็นความทุกข์ รินรดสุขด้วยดวงใจไม่ถลำ มองให้ซึ้งจึงเข้าถึงรสพระธรรม ใช้โน้มนำให้คลายทุกข์..สุขนิรันดร์
13 กันยายน 2548 00:20 น. - comment id 514599
สวัสดีขอรับ คุณสาวบ้านนา อันมีเสน่ห์ของอักษราที่ ความอบอุ่น รักษาสุขภาพด้วยนะขอรับ ชื่นชอบเสมอครับ ^_^
13 กันยายน 2548 01:23 น. - comment id 514619
อ่านกลอนดีของพี่นั้นดีแท้ บทที่แผ่รู้สึกลึกครบถ้วน เป็นสายน้ำที่หลั่งล้วนสมควร น้ำใจล้วนไทยไทในยิ้มงาม มาชมบทกลอนที่งามแท้ สายน้ำใจ ใน วัฒนธรรมที่งามงด คราบบบบบบบบบ
13 กันยายน 2548 11:13 น. - comment id 514713
มาเปิดกรุเพลงในวันที่ฝนพรำทั้งวันทั้งคืน..แล้วก็คิดอยากกลับไปเป็นเด็กนอนคลุมโปง ฟังวิทยุน้อยที่ชานเรือน เบื่อ ๆ ก็ลงไปท่องน้ำ จับปูจับปลาตามเรื่อง..ว้า..เป็นไปไม่ได้..