มีเรื่องราวปรากฏบทผู้ร้าย ใส่ชุดอำพรางกายเพื่อแอบแฝง ลอบเข้ามาขโมยแผ่นลายแทง แล้วกลั่นแกล้งเขียนเย้ยไม่เผยนาม ความเจ็บใจแล่นฉิวปลิวตามเลือด ให้ดาลเดือดในวจีที่เหยียดหยาม ความโกรธแค้นแล่นไล่ไม่ยอมความ หมายติดตามผู้ร้ายให้ได้ตัว จากเจ้าทุกข์เปลี่ยนเป็นเช่นนักโทษ เพราะความโกรธปรี่ผันจนปั่นหัว ความระแวงแสดงเดชอย่างน่ากลัว เริ่มโทษคนใกล้ตัวอย่างคาดเดา บ้างโทษมิตรคิดกบฏจดข้อหา บ้างโทษคนไม่ชอบหน้าอย่างขลาดเขลา บ้างโทษคนกันเองย้อนรอยเรา บ้างโทษคนที่เข้าใกล้ลายแทง ยังไม่รู้ผู้ร้ายคนไหนแน่ นักโทษกลับสร้างแผลให้แสลง สามัคคีมีรอยหวาดระแวง ความไว้ใจเหือดแห้งจากกมล สงสัยคนนั้นนี้มีพิรุธ สังเกตจุดเปลี่ยนแปลงแสดงผล คาดเดาตามพฤติกรรมอย่างร้อนรน สรุปการคิดค้นด้วยอัตตา จึงมากมีผู้ร้ายรายรอบทิศ ความเป็นมิตรคลายสัมพันธ์ไม่หรรษา เริ่มเรื่องราวบาดหมางกาลต่อมา เมื่อนักโทษพลาดท่าโทษผิดไป คุ้มแล้วหรือถือโกรธโทษไว้ก่อน แล้วใจร้อนเดาคนที่สงสัย ดั่งของหายสะพายบาปอาบจิตใจ จะโทษใครต้องระวังพลั้งผิดตัว
29 สิงหาคม 2548 08:45 น. - comment id 509458
สวัสดีค่ะ พี่ดอกแก้ว จริงค่ะ บางทีมะกรูดเองก็หวาดระแวง กลัวตัวเองจะกลายเป็นบุคคลที่น่าสงสัย... จริง ๆ เราไม่ได้ทำอะไร แต่คิดไปเองต่าง ๆ นานา...
29 สิงหาคม 2548 09:54 น. - comment id 509468
เห็นด้วยจ้ะ ธรรมชาติของมนุษย์ต้องระแวงไว้ก่อน ทั้ง ๆ ที่อาจจะไม่ใช่คนทำผิดที่แท้จริง ดังภาษิตเก่า ๆ ที่ว่า ของหายสะพายบาป ทุกวันนี้จะหาคนที่สุขุม รอบคอบ ค่อย ๆ พิจารณาไป ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะ ผู้รักษากฏหมาย ทั้งหลายจ้า อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ
29 สิงหาคม 2548 10:34 น. - comment id 509472
พี่ดอกแก้ว....ครับ ผมคงเข้าข่ายน่าสงสัยด้วย..จริงมะ ได้แต่ยิ้มเศร้าๆ.... เคยชินเสียแล้วกับการเป็น....ผู้ต้องสงสัย อาจเป็นเพียงหน้ากาก...ฉาบเอาไว้ ภายในใจใครจักหยั่งถึง... ว่าแต่...ลายแทงนี่...ลายแทงอะไร... ชักสนใจบ้างแล้วสิ...
29 สิงหาคม 2548 11:00 น. - comment id 509478
บางคนก็พิพากษาคนอื่นเขา...โดยที่เจ้าตัวเขาหาใช่ผู้ต้องหาไม่.... **บินมาทักทายครับพี่ดอกแก้ว...
29 สิงหาคม 2548 13:46 น. - comment id 509527
@...น้องมะกรูด... บางความคิดต้องติดเบรคสักหน่อย แล้วจึงค่อยแยกแยะแกะปัญหา ว่าบกพร่องที่เราแต่เดิมมา หรือเพราะว่ากรรมตามทันนั้นต้องแจง มาคนแรกเลย สวัสดีค่ะน้องมะกรูด เรื่องตั้งข้อหา และชี้ตัวผู้ต้องหานั้น เราถนัดกันนัก แต่เมื่อไหร่ที่ต้องถูกชี้ตัวบ้าง ..เมื่อนั้นความเสียใจก็จะปรี่มาเยี่ยมเป็นคนแรกเลย ความคิดที่ไม่รู้จักควบคุมนี่แหละค่ะ ที่สร้างปัญหานัก
29 สิงหาคม 2548 13:47 น. - comment id 509528
@...คุณทิฆัมพร... ความสูญเสียทำให้ใจเสียศูนย์ และพอกพูนความหวั่นหวาดเมื่อพลาดหวัง พอของหายสะพายบาปพะรุงพะรัง ใส่กรงขังใครต่อใครตามใจตน ตอนแรกก็ว่าจะตั้งชื่อกลอนว่า ..ของหายสะพายบาป..อยู่เหมือนกันค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาทักทาย และแสดงความคิดเห็นไว้ค่ะ
29 สิงหาคม 2548 13:47 น. - comment id 509530
@...ท่องเมฆา... ไม่สุขเลยหากเคยถูกใครโทษ หรือถือโกรธเพราะเดาว่าเราผิด ความรู้สึกเช่นนั้นแสนมากพิษ สะกดจิตอย่าโทษใครไม่สมควร มีคนมากมายถูกเข้าใจผิด..พี่ดอกแก้วเชื่อเช่นนั้น และรสชาติที่ได้รับก็คงไม่ดีนัก แต่ก็คงทำอะไรไม่ได้ นอกจากทำใจตนยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น และมั่นใจว่า เราไม่ได้ทำสิ่งผิดพลาดใด และจะไม่ทำให้ใครต้องได้รับรสชาติเช่นที่เราได้รับเช่นกัน สำหรับลายแทง...เป็นความลับค่ะ เปิดเผยไม่ได้ เพราะถ้าเปิดเผยแล้วก็มิใช่ความลับ เพราะฉะนั้น ..หมดสิทธิ์เข้าช่วงชิงลายแทงค่ะท่องเมฆา
29 สิงหาคม 2548 13:48 น. - comment id 509531
@...บินเดี่ยวหมื่นลี้... ตุลาการนอกศาลพิพากษา เปิดศาลเตี้ยตั้งมาตามเงื่อนไข อคติหือโหมเข้าโถมใจ ตัดสินไปด้วยอัตตาด่าประจาน ทางเหนือฝนแรง แต่อีสานฝนแล้ง ค่อยๆบินนะคะบินเดี่ยว..ระวังจะแพ้อากาศ
29 สิงหาคม 2548 14:17 น. - comment id 509542
นี่แหละครับ คือราคะ โทสะ โมหะ ที่สิงสถิตย์ในใจของทุกๆคนแหละครับ ยากนักจะลด ละ เลิกมันได้ง่ายๆ หญิงแห่งธรรมเราปล่อยเถอะครับ ปล่อยไปตามกระแสแล้ววันหนึ่งจะหยุดเอง ดั่งคำที่ว่า เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปในที่สุด ไม่มีอะไรจีรังหรอกครับนอกจากนิพพานเท่านั้น แก้วประเสริฐ.
29 สิงหาคม 2548 14:36 น. - comment id 509551
@...คุณแก้วประเสริฐ... จุดประกายฝากไว้ให้พี่น้อง ได้ตรึกตรองหวนคิดสักนิดหนึ่ง คุ้มหรือเปล่ากล่าวหาใครให้รำพึง เพราะอาจซึ้งคำเสียดาย ..ไม่น่าเลย สวัสดีค่ะคุณแก้วประเสริฐ ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาแสดงความคิดเห็นที่น่าอ่านมาก
29 สิงหาคม 2548 16:57 น. - comment id 509578
แวะมาอ่านค่ะ คนเราเห็นหน้าไม่รู้ใจ มองดูดีอย่างไรหยั่งใจไม่ถึง ต้องระวังชั่งใจไว้ให้ดี สมัยนี้ไว้ใจไม่ได้ 100 เปอร์เซนต์
29 สิงหาคม 2548 16:58 น. - comment id 509579
หวาดหวั่น......มาชื่นชมงานงาม..ล้ำค่าแก่จิตใจค่ะ....
29 สิงหาคม 2548 19:21 น. - comment id 509612
ที่หวาดหวั่นใช่โทษหรือโกรธใคร แต่เป็นทุกข์ข้างในเมื่อใจเผลอ ผิดพลาดพลั้งคราใดยกให้เธอ แต่เสนอรับหน้าคราได้ดี ก็ทั้งหมดแท้จริงหรือคือหวาดหวั่น คอยกีดกั้นใครเขาเรากลับหนี เก็บเกี่ยวเอาความสุขทุกนาที แล้วหลีกลี้ยามย่ำแย่มิแคร์ใคร
29 สิงหาคม 2548 21:28 น. - comment id 509634
.......... ฮี่ ฮี่ พี่ดอกแก้วจ๋า อย่าหวาด อย่าหวั่น อย่าไหว อย่าพรั่น อย่าพรึง เพราะ ว่า มีเจ้าฉางน้อยอยู่ทั้งคืน อย่าหวาดหวั่นอันใดเลยพี่เอย 555 อิอิ มั่วๆละก๊า
30 สิงหาคม 2548 05:00 น. - comment id 509685
ความระแวงกินแหนงคลางแคลงจิต ก่อเกิดพิษมิตรสหายหายล่องหน เฉยเฉยปล่อยค่อยดูไปไม่กังวล อาจเผลอตนตัวจริงแท้แน่สักวัน
30 สิงหาคม 2548 06:24 น. - comment id 509697
เพราะพ่อบอกเรนว่า .. หากคนเรามีปัญญาก็ต้องรู้จักตัวเอง และรู้จักโลก.. อย่าหวาดหวั่นที่จะเรียนรู้..วิธีคิด.. ที่จะวิเคราะห์ นำมาสังเคราะห์ ปรับใจ...และนำมาใช้ให้เหมาะสม.. กับสังคมและคนรอบข้างที่เราต้องอยู่ด้วย.. พ่อบอกเรน.. อย่าอ่อนแอและพ่อก็บอกเรนอีกว่า .. อย่าหวาดกลัว.. กับสิ่งที่เรนมองไม่เห็น .. เชื่อมั่น.. ในสิ่งที่ทำ .. บอกกับตัวเอง .. สิ่งที่ทำต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน .. เรนแวะมา.. กราบสวยๆพี่ดอกแก้วนะคะ .. ที่ให้ข้อคิดที่ดีมากด้วยดิคะ .. เรนเข้ามาอ่านทุกครั้ง .. และแอบปริ้นเก็บทุกที .. เรน.. คิดถึงนะคะ ..
30 สิงหาคม 2548 10:06 น. - comment id 509753
ความระแวงเป็นบ่อเกิดของความแตกแยก น่ะค่ะ กุ้งว่า.. ...
30 สิงหาคม 2548 15:05 น. - comment id 509870
@...ไรไก่... สมัยไหนก็หยั่งใจยากจะถึง เพราะใจหนึ่งเปลี่ยนผันกันเสมอ ความระวังคือรอบคอบกันละเมอ แต่อย่าเผลอระแวงทิ่มแทงใคร ใช่เลยค่ะ รู้หน้าไม่รู้ใจ ..แม้รู้ใจกันแล้ว ก็ยังเปลี่ยนใจได้ มิฉะนั้นแล้ว คนรักกันก็คงไม่เลิกร้างกัน คนเกลียดกันก็คงไม่กลับมาคืนดีกันได้ เมื่อมีเหตุไม่ดีเกิดขึ้นกับเราจึงต้องรอบคอบระมัดระวังความคิดให้มากที่สุดก่อนที่จะโทษใครจนเป็นเรื่องขึ้นมา ..แวะมาทักทายเสมอ ขอบคุณมากนะคะ
30 สิงหาคม 2548 15:07 น. - comment id 509873
@...สลักเสลา... คำว่าแพะแกะรอยคอยสังเกตุ จะพบเหตุการเดาไม่เข้าท่า บวกระแวงแคลงใจในหน้าตา จึงสมมุติเขาว่าทำร้ายเรา ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาทักทาย...สวัสดีค่ะสลักเสลา
30 สิงหาคม 2548 15:08 น. - comment id 509874
@...มนต์กวี... โทษไว้ก่อนคือขั้นตอนการกล่าวหา เว้นตัวเองออกมาจากเบื้องหลัง โทษคนอื่นแล้วสุขใจได้พลัง ความผิดพลั้งมิใช่ตนเป็นตัวการ โทษไว้ก่อนคนนี้ที่น่าโทษ พฤติกรรมชวนโกรธไม่อ่อนหวาน มีพิรุธมากมายให้พบพาน คงจะเป็นตัวการที่แท้จริง สวัสดีค่ะมนต์กวี... บทกลอนของมนต์กวีน่าสนใจมากเลยค่ะ ให้มุมมองที่แตกต่างในอีกด้านหนึ่ง...ขอบคุณมากนะคะ
30 สิงหาคม 2548 15:10 น. - comment id 509875
@...ฉางน้อย... ความหวาดหวั่นเหมือนลม ที่พร่างพรมในบางครั้ง จึงต้องหาที่กำบัง ไม่ให้พลั้งพลาดหนาวลม ขอบคุณค่ะฉางน้อย...แวะมาเป็นเพื่อนทั้งคืน ความหวาดหวั่นหลบลี้ไปไกลปู๊นแล้ว...
30 สิงหาคม 2548 15:11 น. - comment id 509876
@...ชัยชนะ... ธรรมดาของปัญหาที่มาถึง ต้องคำนึงหาทางเพื่อแก้ไข การกล่าวหาคือหนึ่งทางเลือกใจ แต่ก็เสี่ยงกับภัยที่ตามมา สวัสดีค่ะน้องชัย.. เรื่องของความระแวงและการกล่าวหานั้น พี่ดอกแก้วคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาของเจ้าทุกข์น่ะค่ะ มีไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จในการจับผู้ร้าย และก็มีไม่น้อยที่พลาดพลั้งไปโทษผิดคน บางเรื่อง..ปล่อยให้ธาตุแท้ปรากฏอย่างที่น้องชัยบอกก็ดีนะคะ เราจะได้ไม่ต้องอยู่อย่างกังวล ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
30 สิงหาคม 2548 15:12 น. - comment id 509877
@...เรนน้อยของพี่... แต่ละคำฝากไว้ให้ด้วยรัก สอนให้ลูกรู้จักแก้ปัญหา แม้วันหนึ่งซึ่งห่างต่างเวลา คำของพ่อยังทรงค่าแก่จิตใจ ล้วนถ้อยคำนำเกื้อเพื่อสร้างเสริม และแต่งเติมส่วนดีที่นิสัย ประสบการณ์กลั่นกรองความเป็นไป บอกฝากไว้แทนตำราคราเติบโต อบอุ่นยิ่งสิ่งที่อ่านผ่านสายตา ความรักของบิดาใหญ่อักโข ร่มเย็นใจใหญ่เทียบเปรียบต้นโพธิ์ จงเติบโตด้วยความรู้คู่ปัญญา น้องเรนน้อย...หลายคราวที่พี่ดอกแก้วเคยพบกับสถานการณ์ของความระแวง มีการกล่าวหากันไปมา..ไม่ว่าจะเป็นคนรักกัน ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง หรือคนที่ไม่รู้จักกันเลยก็ตาม และแต่ละคนต่างก็มีความรุนแรงมอบแก่กัน จนในที่สุดก็ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ เริ่มต้นจากความเข้าใจผิด ความระแวง ความถือตัว...และก็จบลงตรงทางแยก สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นฉากชีวิตที่ไม่น่าจดจำ..ไม่ว่าจะเป็นคนกระทำ หรือถูกกระทำก็ตาม และที่สำคัญ... ความเป็นไปของจิตใจในระหว่างนั้น ยากที่จะร่มเย็นและเป็นกุศล เพราะการถือโทษ การอยู่ด้วยความโกรธ ...เป็นการกระทำที่ทำร้ายตนเองแต่เพียงผู้เดียว พี่ดอกแก้วคิดว่า การแก้ไขปัญหาจึงต้องรอบคอบ และเป็นธรรม คือมีธรรมะประจำใจ และบางปัญหาก็ไม่ควรค่าแก่การทุ่มเทจิตใจเพื่อแก้ไข ... เพราะอาจทำให้ความเดือดร้อนติดตามมามากขึ้นได้ ดีใจมากเลยจ้ะที่น้องเรนเข้ามาอ่าน... ขอบคุณมากนะจ๊ะน้องน้อยที่น่ารักของพี่
30 สิงหาคม 2548 15:13 น. - comment id 509879
@...น้องกุ้ง... เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะน้องกุ้ง ความระแวงเป็นบ่อเกิดของความแตกแยก และก็จะสะสมอุปนิสัยมองโลกในแง่ร้ายมากขึ้น ที่สุดแล้วก็จะมีความไม่สบายใจเป็นของแถม ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาทักทาย
30 สิงหาคม 2548 16:30 น. - comment id 509910
สวัสดีค่ะพี่ดอกแก้วที่แสนดี.. พี่ดอกแก้วสบายดีนะค่ะ...สุขภาพเป็นอย่างไรมั่งค่ะ...ไปหาคุณหมอตามนัดรึป่าวค่ะ...แล้วทานยาตามที่คุณหมอบอกรึป่าววค่ะ...แหะๆๆๆ..ดาขอโทษที่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของพี่..ก้อดาเป็นห่วงพี่ดอกแก้วนี่นา.... น้องตูนฝากความคิดถึงมาให้พี่ดอกแก้วด้วยนะค่ะ..เพราะเจ้าตัวนอนป่วย(เป็นไข้หวัดค่ะ)..เบี้ยวงาน 2 วันแล้วค่ะ..สงสัยขี้เกียจไปทำงานแน่ๆเลย..อิอิ... ดาคิดถึงพี่ดอกแก้วมากนะค่ะ... ขอคุณพระคุ้มครองพี่ดอกแก้วและขอให้พี่ดอกแก้วมีความสุขมากๆนะค่ะ
31 สิงหาคม 2548 16:29 น. - comment id 510249
@...น้องดา กัลลดา... รับน้ำใจใสผ่องจากน้องดา ห่วงใยเรื่องโรคาที่สะสม ซึ้งยิ่งนักในหยาดรักที่พร่างพรม อิ่มอารมณ์ในน้ำใจที่ให้มา สวัสดีค่ะน้องดา ..ไม่ได้พบกันนานแล้ว งานยุ่งหรือเปล่าคะ และสุขภาพเป็นอย่างไรบ้าง...ขอให้มีความสุขสนุกสนาน และแข็งแรงดีนะคะ ช่วงนี้พี่ดอกแก้วเป็นผู้ป่วยที่ดีไม่ดื้อกับคุณหมอ และพยายามจะไม่เป็นผู้ป่วยให้ได้ในเร็วๆนี้ค่ะ... สำหรับน้องตูนคนงามคนนั้น..พี่ดอกแก้วฝากเยี่ยมไข้และฝากความคิดถึงช่อใหญ่ไปให้ด้วยค่ะ ขอให้หายไข้หวัดเร็วๆ จะได้ไม่แพร่เชื้อให้ใคร และขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองน้องทั้งสองคนของพี่ ได้พบแต่สิ่งที่ดีๆตลอดไปค่ะ
4 กันยายน 2548 23:17 น. - comment id 511583
ถ้าโทษผิดคิดไปคล้ายดั่งแพะ ไม่แยกแยะรับบาปราบคาบเหมือน ส่วนคนทำผิดไม่ไม่เยี่ยมเยือน เลยเอ่ยเตือนหาหลักฐานผ่านจำนน ไม่อยากได้แพะรับบาป ฉะนั้นหากหลักฐานไม่แน่นอย่ามัดตัวผู้ใดเป็นดีที่สุด (กลอนเนื้อหาดีทุกบทที่อ่าน ฝีมือพี่ดอกแก้วก็ไพเราะเสมอค่ะ)
6 กันยายน 2548 11:37 น. - comment id 512090
@...ผู้หญิงไร้เงา... โทษไว้ก่อนตอนโมโหโกรธามาก จึงลำบากตอนหลังครั้งเรื่องจบ คนถูกโทษก็เลยพาลเลิกคบ โทษไว้ก่อน..จึงพบแต่เสียใจ สวัสดีค่ะน้องตูนคนงาม ใครๆก็ไม่อยากเป็นแพะรับบาป ... ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ