http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song413.html ดวง...ขอย้อนรอยถอยหลัง กลับไปสู่... ความทรงจำแสนงาม กับ *ต้นมะไฟในฝัน* ต้นไม้ ที่งามพวงพราวราวไฟสุกลูกโพลงสีทองสะพรั่งสว่างไปทั้งสวนริมภู.. สวนที่คนที่รักดวงทั้งคู่ พรากลาจากดวงไปเป็นนิรันดร์แล้ว...! สองพี่น้องที่พากันแย่งชิงเอาอกเอาใจดวง และมีพวงมะไฟงาม เป็นดั่งตำนานแห่งความหวานหอมพร้อมเปรี้ยวแปลบ หากมิแสบทรวง กลับ.. หวานเศร้า..ให้แสนรานร้าวใจในนาทีนี้ยามนึกย้อน... ...................... ดวง... นุ่งผ้าถุงผ้าซิ่นแสนสวยสีไพล ขี่จักรยานคันน้อยน้อยสีเหลืองอ้อยสร้อย ยามตะวันคล้อยใกล้โพล้เพล้เหว่ว้าโอละเห่ละช้า ที่...ทายทักระเรี่ยยอดไม้ อย่างแสนสบายใจ ไปตามเส้นทางสายงาม ไปสู่สวนฝัน...สวรรค์ระรื่นรมย์..ริมชายชลท่าน้ำของเพื่อนรัก ผู้อยากพิทักษ์ครองใจดวง รวมทั้งพี่ชายที่แอบส่งจดหมายรัก มาแบบนับไม่ถ้วน แบบหวานอวล..จนต้องแอบอมยิ้มยามรำลึกถึง..ในวันนี้ จดหมายที่...ดวงจำได้ดีว่าจะขึ้นต้นอย่างนี้เลย *ในกระท่อมท่ามกลางแสงตะเกียงอันริบหรี่...* และ... จะมากมีคำหวานแบบลูกทุ่งๆ ที่แสนจริงใจ ที่แสนใสซื่อ ในวันนี้..ที่ดวงน้ำตารื้นชื่นเต็มนัยน์ตา เมื่อใจดวงค้นพบว่า *อดีตที่ล่วงลาเลยลับนั้น* ช่างแสนพิเศษพิสุทธิใสนัก...ในยามวัยเยาว์ และ... ดวงแสนเหงาเงียบงามใจ...ปิติใจเมื่อค้นพบว่า... ในชีวิตนิดน้อยหนึ่งนี้นั้น ความเป็นนิรันดร์รักมีจริง นิรันดร์แบบจดจำ เพียงความดี พลีให้แค่สิ่งแสนดีแสนงามแด่กัน ดั่งใจดวงขวัญ ฝันได้รับเสมอมา จากดวงชีวาชีวีผู้ที่รักดวงอย่างจริงแท้ และแน่นอน... จนตราบร่างม้วยมรณ์มรณา ฝากเพียงความล้นค่า..ในความทรง..จำอันแสนยากจะเลือนลืม...! ดวง..ย้อนรอยกลับไปในวันนั้น วันแห่งฤดูร้อนแห่งเดือนคิมหันต์ วันที่ฟ้าใสกระจ่าง วันที่... ดวงดอกไม้ป่า พากันร่ายฟ้อนอวดกลีบอรชรอ่อนหวานอ้อนโอบไพร เอื้อโอบใจ วันที่ดวงแสนเยาว์วัย ยืนใต้ร่มเงากิ่งใบมะไฟ ในแสงพริบพร่างสะพรั่งพราว ระย้าย้อยห้อยไปด้วยพวงผล ในวันที่ ดวงกมลของดวง..มีแต่รอยยิ้มแสนอิ่มเอม และเสียงหัวเราะแห่งความสุข วันที่ พี่ชายเพื่อนเพียรรุกร่าง ค่อยๆคืบคลานปีนขึ้นไปบนต้นมะไฟ ให้กิ่งไหวโยกเอน ด้วยใจดวงกล้าหาญแบบชายหนุ่มบ้านป่าบ้านดอย ให้คนข้างล่างคอยรอรับพวงมะไฟมะไฟ ที่แสนไสวพร่างสว่างช่อ..ช่างน่าเก็บน่ากินเสียไม่มี... วันที่ เขา....คนดี..บอกให้ดวงรอกางเสื้อยืดแนบเนื้อสีขาวออกกว้างๆ อยู่ข้างล่างกิ่งกราย แล้ว... เขาจะค่อยๆหว่านพรายพวงงามลงมา ด้วยดวงใจใสซื่อนักหนา ดวงก็กางเสื้อออก และ... เมื่อแหงนเงยหน้าบอกให้เขาโยนพวงมะไฟลงมา เหตุใด จึงพบใบหน้าเจ้าเล่ห์เพทุบายยิ้มหวัว ราวพบมหัศจรรย์ฝันอันแสนบรรเจิดจิตบรรเจิดใจ ดวงจึงก้มลงมองตัวเองแล้วไซร้ ถึงรู้ว่าแท้แล้ว นวลเนื้อแน่นสีขาวพราวไสว ในเงางามท่ามร่มมะไฟใบระยิบคือที่มา แห่งรอยยิ้มพิไลไหวหวามให้หวั่นไหวไปกับนัยน์ตาเจ้าชู้ เพราะว่า.. ดวงมิทันรู้ระวังตัว บัวดอกงาม ยามเริ่มตูมตั้ง คงพาคนบนต้นมะไฟ..ฝันพร่าง และ นั่นคือความอายเกินทานทน จนเลิกรอรับพวงมะไฟฝันหันหลังหนีโยนทิ้งไปอย่างไม่ไยดี ก่อนที่จะทั้งโกรธทั้งอายที่เสียรู้ คนดี...ดวงใจในวันนี้ ไม่มีทั้งสองคนดีที่พลีใจ จะมี... ก็เพียงพวงมะไฟในฝัน กับสวรรค์ลอยพลอยรับรู้ราวเรื่องแห่งรักไร้เดียงสา หากทว่า แสนงดงามในท่ามโลกทุกวันนี้ ที่ไร้วับแวมหวามไหวในเรื่องรักใสใส รักแบบทำอะไรไม่เป็น ทั้งที่เห็น.. แต่.. ไม่รู้ไร้ครูไร้ใคร มีเพียงใจดวงวัยเยาว์ ที่ถูกกล่อมเกลาให้รักนวลสงวนตัวรักงาม อย่าผลีผลามกลัวพลาดพลั้ง และ... นี่คือความหลังกับมะไฟฝันวันงาม วันที่โลกในนิยามรักเก่า ให้เราอยากค้นหาติดตาม...อย่างละเมียดละไม ไม่ร้อนรักรุกลนปนเปไปด้วยความใคร่... ไร้เสน่หาสวาทหวาม อย่างรีบร้อนรุนแรง.. มิแฝงรักใต้ต้นมะไฟมะไฟ ที่ขนาดนั้นทำเช่นไร..เช่นไร..... ไฟรักก็ยังมิเคยลุกบุกโหมให้เสียสาวสิ้นงาม..! ................ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song413.html กาลเวลา ลินจง บุนนากรินทร์ ฉันปล่อย ให้กาล เวลา ตัดสิน ชะตา ปัญหา หัวใจ แม้ จะรักเธอ รักเธอ เท่าใด แต่ หัวใจ ดวงนี้ มีสิ่ง ผูกพัน ขอให้ เป็นเพียง การคอย อย่างน้อย เรายัง เรียนรู้ ใจกัน เพราะว่า หัวใจ ของเรา ผูกพัน วันหนึ่ง วันนั้น ความฝัน อาจ เป็นความจริง เรารู้ การคอย คือการ เจ็บปวด เป็นความ เจ็บปวด รวดร้าว ใจทุกสิ่ง ทุกหยด ของกาล เว-ลา ที่ ปรารถนา และ ความจริง คอยสิ่ง ที่เรา มั่นใจ ฉันปล่อย ให้กาล เวลา ช่วยชี้ ชะตา ไม่รู้ วันใด แม้ จะต้องคอย และคอย ต่อไป นาน สักเพียง ไหน ปล่อยให้ กับกาล เวลา เรารู้ การคอย คือการ เจ็บปวด เป็นความ เจ็บปวด รวดร้าว ใจทุกสิ่ง ทุกหยด ของกาล เว-ลา ที่ ปรารถนา และ ความจริง คอยสิ่ง ที่เรา มั่นใจ ฉันปล่อย ให้กาล เวลา ช่วยชี้ ชะตา ไม่รู้ วันใด แม้ จะต้องคอย และคอย ต่อไป นาน สักเพียง ไหน ปล่อยให้ กับกาล เวลา... ................
27 สิงหาคม 2548 09:58 น. - comment id 508971
แรงบันดาลใจจากคำ คุณ*ท่องเมฆา* ที่ฝากไว้ให้ในงานค่ะ และ ยินดีพลีเรื่องมะไฟมะไฟ แด่ทุกดวงใจให้ พบพลังเกษมใสไฟฝันดั่ง มะไฟในฝันในวันหุดนี้นะคะ ทุกคนดี ทุกดวงใจ ในร่มรักเรือนใจแม่ดวงดอกพุดไพรค่ะ ที่บ้านผมไม่มีต้นมะพร้าวที่เอนอ่อนขนาดนี้ แต่อารมณ์ภาพสะกิดให้รำลึกถึงความหลัง ครั้งยังเด็กอยู่ ต้นมะไฟในเดือนห้ามีลูกสุกเหลืองเต็มต้น ผมปีนขึ้นไปเก็บมะไฟเลือกลูกที่ใหญ่ที่สุด จากนั้นปีนขึ้นบนยอดเพื่อพักผ่อน เป็นความสุขอย่างมากที่ได้นอนบนยอดไม้ ท่ามกลางลมพัดยอดไม้ไหวเอน กินลูกมะไฟที่บรรจงเลือกสรรดีที่สุด อิ่มแล้วหลับตาผ่อนพัก มีเสียงนกร้องอยู่รอบๆ สายลมพัดอ่อนๆเคลิ้มหลับ แต่เพียงหลับตาไม่หลับใจ จิตที่นิ่งสงบรับรู้ทุกการเคลื่อนไหวรอบๆ ยอดไม้แกว่งไกวไปมา ลมหายใจที่กระทบเข้า-ออก ยาว-สั้น รับรู้อยู่ทุกขณะจิต จะมีที่ใดสงบเงียบเช่นนี้ เป็นความสุขที่เป็นไปกับธรรมชาติ ไม่อาจหาเวลาอย่างนั้นได้อีก โลกปัจจุบันยุ่งเหยิงสับสน ไม่มี...เวลา...คิดใคร่ครวญ ปล่อยให้ชีวิตล่องลอยไปกับกาลเวลา ชีวิต...ช่างไร้ค่านัก จะมีสักวันไหม..ที่จะได้สงบใจกับธรรมชาติเช่นนี้...
27 สิงหาคม 2548 10:54 น. - comment id 508986
อยากชิมจังช่อมะไฟหวานหรือป่าวหนอ แวะมาสวัสดีคุณพี่พุดค่ะ อ่านเรื่องราวหวานใสน่าอิจฉา
27 สิงหาคม 2548 11:00 น. - comment id 508989
โอ้เจ้าช่อพวงมะไฟหัวใจป่วน รสเปรี้ยวชวนเข็ดลิ้นจนสิ้นเหลือ แม้นรูปงามทรามสงวนชวนจุนเจือ แสนจะเบื่อเหลือไว้ในความงาม. มาอ่านงานงามครับสาวสวยแห่งพฤกษ์ไพร แก้วประเสริฐ.
27 สิงหาคม 2548 11:02 น. - comment id 508990
แต่งชมกลอนใครนั้น...ไม่ค่อยเก่ง กลอนมือใหม่หัดแต่ง...แย่จริงหนา รู้ตัวดีว่าไม่มีอะไร...ประกาศนามปากกา เพียงแต่ว่าอยากแต่งกลอนให้คนชม \'\' เข้ามาอ่านบทกวีนะครับ\"
27 สิงหาคม 2548 10:05 น. - comment id 509004
อ่านประกอบเรื่องนี้นะคะ .................. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem34851.html จากกันอย่าลา..... เราโตมาด้วยกัน.... ณ..ดินแดนแห่งความฝัน.... เกาะสวาทหาดสวรรค์.... ไข่มุกงามแห่งอ่าวไทย..ไกลจากแสงสี....... เกาะที่ยังงามล้ำ..บริสุทธิ์ใส.. ไร้รอยเท้าผู้มาเยือนเหยียบย่ำ..นับแสน..อย่างยามนี้........ ย้อนคิดกลับไป.... เปิดภาพเก่า..ในวัยเยาว์..วัยวันอันแสนดี........ ฉากนี้....ในความทรงจำ....กระจ่างใจ....มานานเนิ่น...... อย่างรวบรัด....... แต่จำจดงดงามในใจเสมอมา....และจะเป็นนิรันดร์........ระหว่างเรา.......... คุณเป็นเด็กชายน้อย..เกิดมาในครอบครัว..ที่พ่อเป็นหมอ.... มี่พี่น้องผู้ชายวัยไล่เลี่ย..5หนุ่ม5มุม... ชื่อคล้องจองกัน...และมีพี่น้องผู้หญิงอีก..... สามสาว..สามสวยสลับ...... บางทีฉันฉงน....ด้วยเหตุใดพ่อคุณถึงรักแม่คุณปานนี้... ทั้งๆที่เป็นหมอมีสิทธิ์..มีความรู้..ที่จะควบคุม การผลิตพลเมือง........ ให้ย่อมเยาลงมาหน่อย........ ฉันเป็นเด็กหญิงตัวน้อย....ที่มีความสุข...ช่างคิด....ช่างฝัน..... หลงรักบ้านคุณยายของคุณมาก........ บ้านเรือนไทยสไตล์ภาคใต้...ที่หลังคายังมุงด้วยกระเบื้องว่าว..ลอนงาม....... เชิงชาย..ระบายด้วยไม้ฉลุลายงามอ่อนช้อย...ละเอียดยิบ........... รายรอบบ้าน...ปลูกไม้ไทยพันธุ์หอมแผก.. หอมนาน..หอมอวล..ทวนลม...ส่งกลิ่นขจร..ไกลในยามค่ำ.......... และฉันแสนรักคุณยายผู้ใจดี..ใจงาม..ใจเย็น.. ผู้โชคดีมีบุญ..เป็นเจ้าของเรือนน้อยหลังนี้....... เราเกิดมากับ...หาดทรายขาวนวลนุ่ม..น้ำทะเสสวยใส.. อาทิตย์ดวงโต...ที่โผล่มาทายทัก ใกล้แสนใกล้ราวเอือมมือคว้า.. ทุกเช้าเย็น......... กับดาวพริบพราวดวงโต...สุกใสสว่างกระจ่างฟ้า..ในยามค่ำ........ เหนือหาด........ยาวเหยียด...... กับทุกสิ่งแสนดี..แสนงาม..ยามรำลึก......... ยังไม่นับ....สวนสวยในดงมะพร้าว... อิงแอบภูเขา..มีลำธารสายสะอาด...น้ำเย็นฉ่ำใส...ไหลผ่าน..... สวนที่เคยถูก...พี่ชายคุณ..ผู้เพิ่งเป็นหนุ่ม..เริ่มริรัก.. มาชวนชักพาให้ไปเก็บ...ลูกมะไฟ... ผลไม้คล้ายมะปรางส้มสุกสีสวยพวงระย้า...... เปรี้ยวบาดจิต...หวานปะแล่มแกล้มบาดใจ........ จำ...วันที่ฉันอยู่ใต้ต้นมะไฟ..... ในขณะที่พี่คุณปีนป่าย...แสดงความเป็นชายชาตรีที่ไปเจอรังมดแดง..... แล้วร้องเสียงหลง..กระโดดลงแทบไม่ทัน.......... จำ...ภาพที่พี่คุณบอก...ให้ฉันรีบดึงเสื้อยืดสีขาวเนื้อนุ่ม..... ออกจากตัวเพื่อรอรับพวงมะไฟ.. ที่ต้องรีบโยนหล่นร่วงพวงพราวลงมา..เพื่อมิให้ช้ำ.... แต่มันคงน่าขำ....และแสนโป๊........ ด้วยลืมห่วงสะดือน้อยแสนงาม ของตัวเอง.. กับนวลเนื้อขาวของพุงสาวน้อยวัยแรกผลิ........ คุณจึง..ตะลึง..ตะลึง..ตะลึง..ตึ้ง..ตึง..อยู่นาน..... และทิ้งยิ้มเย้ยขำกำชัย..ก่อนเดินจากไป....... คิดคราใดก็แค้นใจตัวเองที่ลืมหลง...พะวงแต่มะไฟช่องาม.....น่ากิน....... เราเรียนแข่งกัน.....และทุกวารวัน... คุณแสนจะเบื่อที่ต้องเอาของกำนัล.... มามอบให้ฉันด้วยจำเป็น.. ทำหน้าที่ทูตรัก.. ด้วยถูกบังคับจากพี่ชาย..ที่หลงไหลใฝ่ฝันฉัน.. .อย่างแสนซื่อบริสุทธิ์......... ของกำนัลมากค่า.... ตามมีตามเกิด...ตามฤดูกาล....... ทุเรียน..น้อยหน่า..ฝรั่ง...มังคุด..มะม่วงพวงโตๆ.... ซึ่งนำมาบำรุงให้ฉันอ้วนท้วนนวลใยไปกับวิตามินงาม ตามประสายากของชีวิตรัก...วัยเด็กในชนบทงาม........ เราลาจาก......เข้ากรุง.(กรง)..มุ่งหาวิชา....... คุณเข้าเรียนต่อโรงเรียนดีมีชื่อ..... เป็นประธานนักเรียน..ฉายแววผู้นำ..คนดี..คนเก่ง......... และเราจะกลับบ้านเกิด...เพื่อพบเพื่อนเก่า... ทุกฤดูร้อนมาเยือน...... นัดกันกินข้าวเคล้าเสียงคลื่นริมทะเล นอนเกลือกกลิ้ง..หัวเราะหัวใคร่... เมื่อคุยกันถึงความหลังครั้งเก่าก่อน....ที่ผ่านมา.. อย่างละมุนใจละไมฝันให้จำจด......... คุณเริ่มเป็นหนุ่มน้อย....ตาเจ้าชู้......ลึกซึ้ง......ตรึงใจ........ และค่ำคืนหนึ่งที่ดาวพราวฟ้าใส..... อากาศหอมรวยริน...เป็นใจ....... คุณบอกว่าจะพาฉันไปเยือนแย้ม.. .เรือนไทยในฝัน.....ของฉัน..... ราตรีกองาม...ริมชานกว้าง...หอมเศร้าเร้าใจให้อาวรณ์ล้ำ...... โมกพิไรร่ำรำพันแทนใจ...... กับคืนค่ำที่...ราตรีประดับด้วยดาว... .เย้ยฟ้า...ท้าดินให้เป็นพยานแห่งรัก....... คุณบอกว่า........รักฉันมานานวัน..... .ด้วยใจใสซื่อ.....ด้วยน้ำคำราวน้ำค้างที่..ซื่อใสพอกัน........ คุณขอกอด.....เชยชิดนิดหน่อย....ราวกลัวช้ำชอก... .และราวฝากรอยย้ำอำลา....ยาวนาน...ระหว่างเรา.....สอง .......... เหตุการณ์....ตุลา.....พานิสิต..นักศึกษา.. เข้าพงไพรด้วยใจที่สิ้นหวัง..และวาดหวัง..... คุณหนีภัยไปไกล.....จากฉัน..สุดหล้าฟ้าไกล.......ฮาวาย.................. แม้จดหมาย....ก็มิมีมา....จนครอบครัวห่วงหา.. พากันคิดว่าคุณตายจาก............ นานหลายปี.............. ฉัน......ย้อนกลับบ้านเกิด....ในฤดูร้อน....ปีหนึ่ง............ ไม่สบาย..และแวะเวียนไปขอยาและทายทักถามไถ่ถึงคุณ.... .ด้วยโหยหา..อาวรณ์..ห่วงใย ทุกคราคราวที่มาเยือน..... .ดินแดน..แห่งความหลังครั้งเก่า......ฝังใจวัยเยาว์.....ดวงนี้เนิ่นนานปี....... โลกหยุดนิ่งนานนาที....เมื่อคุณแม่คุณบอกว่า... .คุณกลับมาแล้ว....และกำลังว่ายน้ำในทะเลหลังบ้าน........ ฉันเดินทอดน่องช้าๆ....ด้วยใจระทึก...ตึกตัก.. กี่เดือน..กี่ปี...ที่นับวันรอคืน... .เฝ้ารอ.....รอและรอ......... ใกล้แสนใกล้.........ริมหาดกว้าง.......เวิ้งว้าง.......... แต่ใจกลับไม่ว่างเปล่า.....อ้างว้างตาม....ในวันนี้...ที่รอคอย อาทิตย์ใกล้ร่ำลา......ลาลับ....ลงผืนน้ำ......... คุณก้าวช้าๆ..ขึ้นจากทะเล..พร้อมแสงสวย...... ร่างเปียกโชก..พราวไปด้วยหยดน้ำ..ราวหยาดเพชร....... พรูพร่าง...พอกับน้ำตาฉันที่ร่วงหยดพราว... เมื่อประจักษ์ใจว่าคุณใกล้แค่เอื้อม......... นาทีที่คุณเห็นฉัน.... คุณตะโกนก้องท้องทะเล..ไม่เป็นภาษา..... วิ่งลุยทะเลเร็วรี่ปรี่มากอดรัด....... จนตัวลอยลิ่ว...... ด้วยแรงคิดถึง.....และแรงรักบริสุทธิ์ใส ของใจดวงเยาว์ที่เคยผูกพัน...ยาวนาน.... หลอมรวม....มากค่าเกินกว่ารัก......ใด.......... คุณพร่ำ........ขอโทษ...... ทุกสิ่ง.....ที่ผ่านมา...ราวไร้เยื่อใย...ไม่ติดต่อ..... พร่ำขอโอกาสแล้วโอกาสเล่า.....และ....นานเนื่อง...... เป็นเดือน...เป็นปี......เพื่อเราสอง....เริ่มต้นใหม่....อีกคราครั้ง............... ยอมแม้กระทั่ง....ไปไกลถึง....อิรัค......ดินแดนแห่งสงคราม... ที่คุณพร่ำเพ้อมา.....ว่าราวนรกบนดิน........ แต่จะอดทน.....เพียงเพื่อเงินงาม..... .เพื่อชีวิตคู่ของเราสอง...ที่คุณรู้อยู่แก่ใจว่า.....สายเกิน....... คุณไม่หวั่นไหวด้วยใจ...และพลังแห่งรักที่วาดหวังว่า... ฉันคงตัดสินใจใหม่....อีกสักหน..อีกสักครา...... คุณบินกลับมา...... พาฉันไป....ดูทะเลงาม....ดวงใจของเรา.... บนชะง่อนผาลิบลิ่ว...ลอยเลื่อนราวอยู่บน สรวงสวรรค์...... และหยิบแหวนเพชรน้ำงาม...ออกมา... พร้อมครวญคร่ำ.....ขอคำตัดสินใจ........ ทุกสิ่งที่รวมอยู่ในแหวน..คือรัก..คือชีวิต..คือวิญญาณของคุณ.... แทนรักมากค่า..แทนคำขอโทษ..... แทนใจ..แทนความหลังฝังฝากใจ.... วัยเยาว์งามงดหมดจดสิ้น..... .เพื่อพลีให้..ฉันเห็นใจ....... ยอมรับ.....คำขอแต่งงาน........... ..................... ระหว่างเรา...... ฟ้าดินสิ้นรับรู้....และเป็นพยาน........... ชีวิตนี้ถูกลิขิตขีดเส้น....... แม้ไม่เลือก.....ก็ต้องเดินตาม... ผิด..ชอบ...ชั่วดี....ที่ฟ้าให้มา..เกินฝืน....... ดั่งชีวิตคุณ....และชีวิตฉัน............ คุณควรยอมรับ...คำว่าสายเกินไป..... ในชีวิตนี้ที่ไม่มีแม้โอกาสที่สอง....อีกครั้งดังใจฝัน.. เมื่อปล่อยให้เวลา ล่วงเลยลาลับ......... ยากย้อนคืนง่ายๆ...ราวไร้คุณธรรม.......... วันที่คุณต้องเรียนรู้โลก.....แห่งความจริง...ความถูกต้อง......นะคนดี........... ว่าสายน้ำไหลไปแล้วมิอาจหวนคืน........กลับ........ คุณบอกว่า.....ระหว่างเรา....ได้แต่หวัง.....และหวัง.....ฉะนั้น....... จากกันจงอย่าลา...เพื่อเป็นลางว่า..เราจะได้พบกันใหม่.. แม้จะเจ็บปวดและขมขื่นใจสักเพียงใด.. แต่เพื่อหล่อเลี้ยงชีวีนี้ให้มิมีวันมอดหวัง........ ............... ฉันเพิ่งวางหู....โทรศัพท์..... ด้วยใจดวงที่เหน็บหนาว...รวดร้าว...สุดทน........ เมื่อเพื่อนของเรา......โทรมาวันนี้....โทรมาลาแทนคุณ.... ที่จากฉันไปไกล...ไม่มีวันกลับ......... ตราบจนชั่วฟ้าดินสลาย.
27 สิงหาคม 2548 12:38 น. - comment id 509031
แวะมาอ่านเจ้าช่อพวงมะไฟ อ่อนหวานละไมใจ ในธรรมชาติ และความรักที่บริสุทธิ์
27 สิงหาคม 2548 15:57 น. - comment id 509090
..อ่านแล้วอ่านเล่า..ย้ำซ้ำทั้งสองงาน.. บอกได้แต่เพียง ...ใจหาย....ค่ะพี่พุด .....อดีตล่วงผ่านฤาหวนกลับมาเนาว์....
27 สิงหาคม 2548 23:59 น. - comment id 509215
คือความหลังครั้งเก่ายังเยาว์นัก คือความรักใสใสในวัยหวาน คือมะไฟ..ในฝันของวันวาน คือเสียงขานจากใจให้คนดี ขอรำลึกถึงเธอสองพี่น้อง ต่างหมายปองดวงใจหมายสุขศรี จากไปแล้วคนไกลวายชีวี ใจดวงนี้...ยังเตือนย้ำ...คำไม่ลืม... ขอร่วมรำลึกถึงความหลัง... ขอให้ผู้จากไป...มีความสุขในสรวงสวรรค์...
28 สิงหาคม 2548 15:35 น. - comment id 509326
นึกถึงตอนแอบไปขโมยพุทรา ตอนเด็กๆ เลยค่ะ ..เจ้าน้องชายปีน ส่วนกุ้งเป็นคนเก็บ..เล่นเอาเสื้อยืดย้วยไปเลยค่ะ..อิอิ.. ทั้งที่ก็ไม่ได้ชอบพุทราซักกะนิด แต่เห็นแล้วมันอดไม่ได้ที่จะเก็บ เจ้าของก็หวงมาก..