โดดเดี่ยวใต้ฟ้าคราม ไร้เมฆหมอกกำบัง ที่พักพิงทั้งหลาย สงบนิ่งในหุบเขาเก่าแก่ ปูลาดด้วยหญ้าขจีเขียว ราตรีที่ฟ้าแจ่มกระจ่าง โคมระย้ายังคงจรัสแสง เรื่อเรืองสั่นเทิ้มมาแต่ไกล ความเหงายิ่งใหญ่เหนือเวหา ชั่วกาลนานล้านปีแสง เหนืออนันตจินตนาใดจะล่วงถึง ดินแดนโพ้นขอบฟ้าไกล จินตนาการหลังม่านเมฆ เฉกเช่นที่สายตามิเคยเพ่งพินิจ โสตสดับมิเคยตรับฟังสรรพสำเนียง ในความเปลี่ยวดายวิเวก ข้าแบมืออันเปลือยเปล่า ด้วยฝ่ามืออันขาวโพลน ราวศิลาเศร้าต้องคำสาป วิงวอนและเฝ้าอธิษฐาน ด้วยมนตราอันศักดิ์สิทธิ์ ข้าสวดภาวนาต่อพระองค์ ตลอดชั่วนิรันดรกาล
27 มิถุนายน 2548 11:23 น. - comment id 484883
มาเป็นกำลังใจค่ะ อ่านแล้วคิดถึงเณรน้อยชุงไซ ในเรื่องอัฐิอาจารย์ ของจอร์จเครนค่ะ เป็นภาษาร้อยเรียงที่ให้นิ่งงาม เย็นสงบราวเส้นทางสายเซนที่ทอดธรรมค่ะ
27 มิถุนายน 2548 11:25 น. - comment id 484888
มาเป็นกำลังใจค่ะ อ่านแล้วคิดถึงเณรน้อยซุงไซ ในเรื่อง*อัฐิอาจารย์ของจอร์จเครนค่ะ หากจำผิด และ รู้สึกดำดื่มล้ำลึกราวเส้นทางสายเซน ที่ทอดสงบ พบทางทางธรรมทางทอง ทอเรื่องราวแสนเย็นสงบงามค่ะ ด้วยรักล้นใจ
27 มิถุนายน 2548 13:11 น. - comment id 484984
ชุโกรต่อพระองค์สิ ปุถุชน ..
27 มิถุนายน 2548 20:21 น. - comment id 485186
ความเหงายิ่งใหญ่เหนืออะไรทั้งนั้นค่ะ เพราะทุกคน ณ ทุกวันนี้ ยังมีความเหงาอยู่เลย