ฟ้าสางณ.กลางใจไพรมณี

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6189.html
อัญเชิญบทเพลงเพลงพระราชนิพนธ์ *ใกล้รุ่ง*
..................


ฟ้ากระจ่าง สว่างอีกวันแล้ว
อุษาแก้วราตรีขวัญ ยังคงทำหน้าที่หมุนวนมาเหมือนเดิม
ให้มีฤดูกาล ราวเพียรกลับมาย้อนสัจจะธรรม..คำถาม..
ถามเราว่า
*เวลาที่ลาล่วงเลยไปนั้น เราทำอะไรกันอยู่*
*ดั่งคำตรัสขององค์พระผู้มีพระภาคเจ้า*


ที่ได้เฝ้าเพียรสอนเตือนสติ
ให้เราได้รู้ค่าแห่งวันเวลา 
และ
มิประมาทขลาดเขลา
ลืมคำว่า  มรณาณุสติ..ทุกผู้คน ..ที่หาหนีพ้นไม่ แม้เพียงสักผู้เดียว..
เพื่อได้เหลียวกลับมามอง
 ณ..บ้านภายในสร้างจิตใสของเราเอง


แทนที่จะไปยึดติดเติมสุขจากใครที่ไหน 
ที่แท้จริงแล้วไซร้
ก็หามีใครไม่  ที่จะมาเติมสุขนิรันดร์ให้เราได้
และ
ยามวันพรากลามาเยือน
เราก็จักไปเพียงลำพัง..!  
หาดึงรั้งยื้อยุดฉุดกระชากลากทุกสรรพสิ่งชีวิต
ที่เรารักมั่นถือมั่น ตามไปด้วยกัน..ก็หาได้ไม่..!


นาทีนี้ ..แสงจันทร์เสี้ยวลอยดวง
กำลังทอจรัสรัศมีบนนภา...ขับฟ้าให้งามกระจ่างขึ้น
แม้นจะเป็นคืนข้างแรม...ก็ตามที..


และ
ในราตรีวิมานดิน 
ท่าม
แสงเทียนทองทอไสวพอกัน 
ยามที่ไพลทอดสายตาพาสายใจ
ซาบซึ้งกับรสพระธรรมในหนังสือธรรมเล่มน้อย
ให้หัวใจดวงนิดดวงน้อยดวงอ้อยสร้อยเหว่ว้าของไพลนั้น 
พลันโชติช่วงราวกับดวงมณีรุ้ง
ราวมีรวงแสงพร่างแห่งแสงธรรม..
สายน้ำระรินร่ำใสฉ่ำเย็นจากรสพระธรรม
กำลังซึมซึ้ง
กำลังพร่างพรายนะภายในใจ ให้จิตไพล แสนใสไสวสว่าง
กระจ่างพร่างพรายราวอัญมณีเพชร..เกร็ดตระการ..


และ
ไพล กำลังอยากร่ำไห้ ใช่ด้วยความโศกาอาดูร
หากเพียงพูนพลังแห่งปิติเกษม 
ยามได้อ่าน
*หนังสือธรรมะอันคือสุขนิรันดร์แห่งชีวีไพล*ในทุกยาม
ที่ไพลได้ใช้ชีวิตอย่างเงียบงาม 
ค้นหาความสงบ สยบโลกภายนอกที่เร่าร้อน
ด้วยจิตดวงใสของไพลเอง...


ไพล..อ่าน หนังสือเล่มบางๆ
ที่มีหน้าปกหลวงพ่อท่านพุทธทาสและหลวงพ่อปัญญา
สองพระอริยสงฆ์เจ้าราวสองพี่น้อง กัลยาณมิตร
ที่ครองธรรมคอยอบรมบ่มจิตคอยพร่ำสอนเพียรสร้าง
หนทางทองรอทอดพาเราเทียบไปสู่ท่าพระรัตนตรัย 


เพื่อฝึกจิตให้ใสให้ลอยไป..เหนือห้วงกิเลสมหรรณพ
ที่ต้องพบพายุวิบากกรรมวิบากเก่าวิบากรัก แบกหนักมิรู้จบรู้สิ้น
เพื่อนำไปข้ามสู่ฝั่งพระนิพพาน..อันคือ..ความเบาว่างนิรันดร์
อันคือ ความดับทุกข์สิ้น..
 

ที่ไพลแสนจะตั้งจิตมั่นตั้งสัจจะตรง
เทิดคำสอนอันคงคำ...ล้ำเลอค่า..เพื่อตามรอยพระบรมศาสดามานานปี
ที่สอนใจในทุกดวงชีวีพุทธศาสนิกชน  คนไทยเราทุกคนนี้
ได้พลีจิตถวายชีวิตเป็นดั่งกุลบุตรกุลธิดาของพระองค์
มิหลงไปยึดติดกับเปลือกแห่งการยึดมั่นในทางที่ผิด


อัน หาใช่แก่นพระธรรมหรือคำสอนที่แท้ไม่ 
เพราะ 
ขอเพียงแค่จิตดวงใสของเรามีเพียงพระธรรมเพียงนั้น
ก็ดูราวกับเรามีร่มธรรมคอยกางกั้นปกปักรักษา  
ดั่งคำว่า..
ผู้ใดเห็นธรรมประพฤติธรรม ผู้นั้นย่อมเห็นเรา
ธรรมะ ธรรมชาติ 
ที่คอยสั่งสอน
พาให้ชีวิตชีวาเราทุกคน 
ที่คิดดี พูดดี ทำดี ย่อมมีสติ สมาธิ ปัญญา 
ไม่ว่าจะเกิดทุกข์ผัสสะอะไรมากระทบ


ก็จักมิกระทบไปถึง จิตภายใน ไม่ทุกข์นาน 
ไม่หลงในหวานหวัง
จนเกินพอดี..
รู้ใช้ชีวีอย่างพอเพียงเพียงพอ 
มิเบียดเบียนโลกและเพื่อนมนุษย์
.........


และใน..
หนังสือเล่มงามนี้..นั้น
 มีภาพท่านนั่งอยู่ในท่ามกลางราวไพร
แลดูแสนสุขสงบ
และ
ล่างภาพมีคำบรรยายไว้ว่า..
..........


มีโดยไม่ต้องมีผู้มี..ท่านพุทธทาส
*ถ้ามีอะไรแล้วใจรู้สึกเหนื่อย
สำนึกเรื่อย   ว่ากูมี อย่างนี้หนา
มีทั้งกู ทั้งของกู  อยู่อัตรา
นั่นอัตตามาผุดขึ้น ในการมี
ถ้ามีอะไร  มีไป ตามสมมุติ
ไม่จับยุด ว่าของกู  รู้วิถี
แห่งจิตใจ  ไม่วิปริต ผิดวิธี
มีอย่างนี้ ย่อมไม่เกิด ตัวอัตตา
ฉะนั้นมีอะไร อย่าให้อัตตาเกิด
เพราะสติอันประเสริฐ คอยกันท่า
สมบูรณ์ด้วย สัมปชัญญ์ และปัญญา
นี้เรียกว่ารู้จักมี ที่เก่งเกิน
เป็นศิลปะ แห่งการมี ที่ชั้นยอด
ไม่ต้องกอด ไฟนรก ระหกระเหิน
มีอย่างว่าง ว่างอย่างมี มีได้เพลิน
ขอเชิญชวน ให้รู้มี อย่างนี้แล ฯ
.................


และยังมี
อีกหลายภาพให้ไพลแสนซาบซึ้งปิติใจ..จนน้ำตาแทบไหลมาเอง
ภาพทุกภาพที่ราวกับท่านฝากคำสอนก่อนพรากลา
ภาพท่านที่นั่งอยู่กับธรรมชาติต้นไม้ใหญ่
ที่เคียงกายท่านมาตลอดเวลา
ตราบแทบชั่วชีวิตของท่านเลยทีเดียว
........


พุทธทาสจักไม่ตาย...
พุทธทาส จักอยู่ไป ไม่มีตาย
แม้ร่างกาย จะดับไป ไม่ฟังเสียง
ร่างกายเป็น ร่างกายไป ไม่ลำเอียง
นั่นเป็นเพียง สิ่งเปลี่ยนไป ในเวลา
พุทธทาส คงอยู่ไป ไม่มีตาย
ถึงดีร้ายก็จะอยู่คู่ศาสนา
สมกับมอบกายใจรับใช้มา
ตามบัญชา องค์พระพุทธ ไม่หยุดเลย
พุทธทาส ยังอยู่ไป ไม่มีตาย
อยู่รับใช้ เพื่อนมนุษย์ ไม่หยุดเฉย
ด้วยธรรมโฆษณ์ ตามที่วาง ไว้อย่างเคย
โอ้เพื่อนเอ๋ย มองเห็นไหม อะไรตาย ฯ
.........


วิธีทำไม่ให้ฉันตาย
แม้ฉันตาย กายลับ ไปหมดแล้ว
แต่เสียงสั่ง ยังแจ้ว แว่วหูสหาย
ว่าเคยพลอด กันอย่างไร ไม่เสื่อมคลาย
ก็เหมือนฉัน ไม่ตาย กายธรรมยัง
ทำกับฉัน  อย่างกะฉัน นั้นไม่ตาย
ยังอยู่กับท่านทั้งหลายอย่างหนหลัง
มีอะไร มาเขี่ยได้ ให้กันฟัง
เหมือนฉันนั่ง ร่วมด้วยช่วยชี้แจง
ทำกับฉัน อย่างกะฉัน ไม่ตายเถิด
ย่อมจะเกิด ผลสนอง หลายแขนง
ทุกวันนัดสนทนา อย่าเลิกแล้ง
ทำให้แจ้งที่สุดได้เลิกตายกัน ฯ
...............


อยู่กันนิรันดร...
ทำกับฉัน อย่างกะฉัน นั้นยังอยู่
อยู่เป็นคู่ กันชั่วฟ้า ดินสลาย
ทำกับฉัน อย่างกะฉัน นั้นไม่ตาย
ท่านทั้งหลาย ก็อยู่กัน นิรันดร..
ทำฉันใด ถึงจะเป็นเช่นนั้นเล่า
คือทำให้เข้าเค้าพระองค์สอน
สิ่งไม่ตาย ถึงให้ได้ทุกขั้นตอน
สิ่งม้วยมรณ์ก็ทิ้งมันนั่นแลนา
สิ่งปรุงแต่งใดใดในโลกนี้
ไม่ยินดี ยึดมั่นแหละท่านขา
จิตว่างไป *ไร้ตัวกู*ไม่จู่มา
ไม่เห็นว่าอะไรกันที่มันตาย ฯ
..........


หลวงพ่อท่านพุทธทาสภิกขุ
พระธรรมโกศาจารย์ (เงื่อม อินทปญโญ)
ชาตะ 27 พฤษภาคม 2449
มรณภาพ  8 กรกฎาคม 2536
ฌาปนกิจสรีระ 28กันยายน 2536
ปณิธาณของท่านมีอยู่3ข้อ


1..ทำให้พุทธศาสนิกชน
หรือศาสนิกในศาสนาใดก็ตามเข้าถึงหัวใจ
แห่งศาสนา ของตน..
2..ทำความเข้าใจอันดีระหว่างศาสนา
และ
3...ทำให้เพื่อนมนุษย์ออมาจากอำนาจของวัตถุนิยม...


และภาพสุดท้ายวันที่ฌาปนกิจสรีระท่าน
ท่ามกลางแมกไม้ไพรพฤกษ์
กลางลาน ที่มีเพียงโลง 
และ
ผ้าสีขาวสี่เหลี่ยมบังเงาเหนือขึ้นไป
ผูกโยงใยกับธรรมชาติต้นไม้
อย่างราวจะฝากบทเรียนสัจจะธรรมสอนไว้
จนตราบถึงยามสุดท้ายแห่งลมหายใจแห่งชีวิต
อันงามเต็มไปด้วยคุณาณุประโยชน์ต่อดวงใจผองเพื่อนมนุษย์
ภาพ
ที่ท่านได้กล่าวไว้ว่า*
โลงศพของอาตมาก็คือความดี ที่ทำไว้ในโลก
ด้วยการเผยแผ่พระธรรม
ป่าช้าสำหรับอาตมา
ก็คือบรรดาประโยชน์ทั้งหลายที่ทำไว้ในโลก
เพื่อประโยชน์แก่เพื่อนมนุษย์*
************


สุดท้ายที่ไพลอยากร่ำไห้
เพราะว่าไพลรจนาเรื่องนี้
โดยไม่ทราบมาก่อนว่า..


ณ..วันนี้ที่รจนานั้นไปตรงกันกับวันที่  27 พฤษภาคม 
คือวันที่ท่านได้ถือกำเนิดเกิดมาในหล้าโลกนี้
ในแผ่นดินทองผืนดินไทย
เพื่อได้มาเพียรทำหน้าที่ ทางธรรม 
ตามรอยเบื้องบาทองค์พระบรมศาสดา
ด้วยความเพียรและเสียสละอย่างใหญ่หลวง


และ
ไพลอยากน้อมนำทุกดวงใจดวงจิต
ให้ตามไพลไปวัด น้อมมโนมนัสสิการ
แด่องค์พระสัมมาสัทพุทธเจ้า
ในร่มพระรัตนตรัย
 ก็จะได้พบพลังแห่งมหัศจรรย์รักนิรันดร์..สุขนิรันดร์ค่ะ


ที่จะพาให้จิตเราได้ตั้งสัจจะอธิษฐาน ไว้อย่างคงมั่น
มิผันแปร ออกนอกลู่นอกทาง
ที่จะดำรงร่าง ใจตนไปในทางดี มีร่มธรรม ร่มพระรัตนตรัยนำทางใจ
ให้คิดดี พูดดี ทำดี 
พลีไฟฝัน สร้างสรรสังคมโลกและเพื่อนมนุษย์
อย่างมิยอมแพ้ พ่าย 
ให้รู้ใช้ชีวิตตามอย่างท่าน
ผู้ที่เดินตามรอยธรรมรอยทอง
ไปก่อนหน้าเราแล้ว  ค่ะนะคะทุกดวงใจ
ที่ไพลแสนรักและปรารถนาดี..


 
พุทธทาส" นามท่านปานขุนเขา
ทว่าเบาสบายอย่างว่างน้ำหนัก
และตัวตนของท่านนั้นใหญ่นัก 
ใหญ่ด้วยหลักให้สละละตัวตน
เราไม่ต้องคอยเป็นร้อยปี
จึงจะมีคนอย่างนี้เกิดสักหน
อาจร้อยปีพันปีมีสักคน
อยู่ในโลกแต่หลุดพ้นจากโลกไป
อยู่ในโลกและได้เข้าใจโลก
อยู่เหนือโศกเหนือสุขเหนือยุคสมัย
จุดประทีปธรรมกระจ่างที่กลางใจ
สว่างไสวสะอาดภพสงบงาม
ควรยินดีที่ได้เกิดเป็นมนุษย์
ได้พบพุทธศาสน์แพร้วพระแก้วสาม
ได้ฟังธรรมจากสวนโมกขพลาราม
ได้เดินตามรอยพระอริยมรรค
"พุทธทาส" นามท่านปานขุนเขา 
ทว่าเบาสบายอย่างว่างน้ำหนัก
และตัวตนของท่านนั้นใหญ่นัก 
ใหญ่ด้วยหลักให้สละละตัวตน
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ร้อยกรอง


นั่งริมธาร..ท่านพุทธทาส
นั่งริมธาร ครุ่นคิด การเกิดดับ
เปลี่ยนปุบปับ สายธาร ทะยานไหล
เกิดไอเย็น ฟ่องฟุ้ง จรุงใจ
ดับร้อนได้ โดยไม่ต้อง ลองอาบกิน
อีกทางหนึ่ง ตลึงแล แน่ใจนัก
ถ้าใครผลัก ตกลง คงแดดิ้น
กระทบก้อน หินผา ใต้วาริน
แล้วจะสิ้น ชีพไป ใต้วังวน
มานึกดู เปรียบดั่ง สังสารวัฎฎ์
ดูผาดผาด น่ากระหวัด ในลาภผล
ที่ซ่อนอยู่ ในทุกข์ ปลุกใจตน
ให้ยอมทน ทุกข์ยาก บากบั่นไป
จนได้เกิด แก่ตาย ในวัฎฎะ
ไม่สละ ใจสว่าง ทางไหนไหน
ใครมองเห็น จงระวัง ยั้งจิตใจ
อย่าให้ไพล่ พลัดตก นรกวน


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6189.html
อัญเชิญบทเพลงเพลงพระราชนิพนธ์ 
*
ใกล้รุ่ง*
ได้ยินเสียงแว่วดังแผ่วมาแต่ ไกล ไกล
ชุ่มชื่นฤทัย หวานใดจะปาน
ฟังเสียงบรรเลง ขับเพลงประสาน
จากทิพย์วิมาน ประทานกล่อมใจ
ใกล้ยามเมื่อแสง ทอง ส่อง
ฉันคอยมองจ้อง ฟ้าเรืองรำไร
ลมโบกโบยมา หนาว ใจ
รอช้าเพียงไร ตะวันจะมา
เพลิดเพลินฤทัย ฟังไก่ประสานเสียงกัน
ดอกมะลิวัลย์ อวลกลิ่นระคนมณฑา
โอ้ในยามนี้ เพลิน หนักหนา
แสงทองนวลผ่องนภา แสนเพลินอุราสำราญ
หมู่มวลวิหคบินผกมาแต่ รัง นอน
เข้าเชยชิดช้อน ลิ้มชมบัวบาน
ยินเสียงบรรเลง ดังเพลงขับขาน
สอดคล้องกังวาน ซาบซ่านจับใจ
ใกล้ยามเมื่อแสง ทอง ส่อง
ฉันคอยมองจ้อง ฟ้าเรืองรำไร
ลมโบกโบยมา หนาว ใจ
รอช้าเพียงไร ตะวันจะมา
เพลิดเพลินฤทัย ฟังไก่ประสานเสียงกัน
ดอกมะลิวัลย์ อวลกลิ่นระคนมณฑา
โอ้ในยามนี้ เพลิน หนักหนา
แสงทองนวลผ่องนภา แสนเพลินอุราสำราญ
หมู่มวลวิหคบินผกมาแต่ รัง นอน
เข้าเชยชิดช้อน ลิ้มชมบัวบาน
ยินเสียงบรรเลง ดังเพลงขับขาน
สอดคล้องกังวาน ซาบซ่านจับใจ... 
 
				
comments powered by Disqus
  • sa

    29 พฤษภาคม 2548 09:43 น. - comment id 472302

    25.gifธุรกิจเสริมรายได้ P/T5,000 - 30,000 บาท/เดือน เลือกเวลาทำงานได้ สนใจ คลิ๊ก
     ถ้าคุณเป็น พนักงาน นักศึกษา แม่บ้าน หรือ บุคคลทั่วไปที่สนใจ ระบบงาน
     ทำงานวันละ 2-3 ชั่วโมง ควบคู่กับงานประจำ หรือกิจการที่ทำอยู่ โดยไม่รบกวนเวลางาน
     สามารถมีรายได้เทียบเท่าหรือแซงเงินเดือนประจำได้ภายใน 1-3 เดือน
    
    P/T ประมาณรายได้ 5,000-35,000 บาท/เดือน
    F/T ประมาณรายได้ 10,000-80,000 บาท/เดือน
    
     ระบบของเรา คือการใช้เทคโนโลยีสื่อสารทำงาน เช่น Internet ,Fax , Voicemail , Flyer ,Pulltap, phone
     มีการสอนงานและฝึกอบรมให้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน เมื่อผ่านการคัดเลือกจากทางบริษัท 
    สนใจรายละเอียดหรือ ต้องการมารับคัดเลือกกับทางบริษัทเราได้ที่
    
    ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ 09-1454798
     http://www.hbb4u.com/lady/index.asp?id=wb
       (จริงจังเท่านั้น)รายได้อาจแตกต่าง ขึ้นอยู่กับโอกาสและความตั้งใจจริงจังส่วนบุคคล)
  • tiki

    29 พฤษภาคม 2548 11:18 น. - comment id 472324

    เป็นงานงามน่าชื่นใจค่ะ พุด
    
    คุณ กอกก เป็นประสบการณ์ อันน่าประทับไว้ในความทรงจำค่ะ
  • กอกก

    29 พฤษภาคม 2548 11:13 น. - comment id 472346

    คุณพี่พุดคะ...
    ปรายได้มีโอกาสไปกราบท่านพุทธทาสที่สวนโมกมาหนึ่งครั้งเมื่อประมาณปี สามสิบกว่าต้นๆ 
    เป็นการเดินทางคนเดียวในหมู่คนแปลกหน้า 
    วันนั้นปรายโชคดีหรือเปล่าไม่รู้สิ รู้แต่ว่าปรายได้กราบท่านอย่างใกล้ชิด และได้สนทนาธรรมกับท่านพอประมาณ ที่สวนรอบวัดนั้น
    อาจเพราะคนที่ไปด้วย ไม่สันทัดในการคุยกับพระก็เป็นได้ จึงทำให้ปรายได้มีโอกาสสนทนาแบบเต็มๆ
    ตอนนั้นปรายไม่รู้ว่าท่านเป็นใครหรอก รู้แต่ว่าเป็นพระที่น่าเลื่อมใส น่าศรัทธา
    ได้ซื้อหนังสือธรรมะของท่านมาหลายเล่ม
    อ่านงานของคุณพี่พุทธวันนี้ ทำให้ระลึกถึงวันนั้น
    ขอบคุณงานงามจากคนที่มีจิตใจอ่อนโยน
    
    สวัสดีค่ะ
    36.gif
  • rain..

    29 พฤษภาคม 2548 18:25 น. - comment id 472475

    ..เรน.. คิดถึง..  พี่พุดพัดชา..นะคะ..62.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน