ห้อย...โหน คอยไปดูคนโกงผูกโยงไว้ วิญญาณไปเสียบยอดตึกคูหา เป็นเปรตหวนชวนยะเยือกเหลือคณนา ร่ำร้องหาทรัพย์ที่ตนขนเมื่อยัง ณ เมื่อวันสิ้นชีพเขาถีบส่ง ร่างนั้นลงโลงให้เห็นมัดตราสังข์ แต่วิญญาณยมพบาลยังสุดชัง โยนยืนนั่งห้อยแขวนแดนตึกราม ที่ห้อยโหนโจนทะยานระร่านริก มือต้องจิกเกรงจะหล่นคนเกรงขาม เทวดาหลบหลีกกันทุกยาม เปรตวิสัยใจมันห่าม..ห้ามมิฟัง ฤา*มนุษย์สุดประเสริฐเลิศคุณค่า* ไร้ศีล พา หิริ หาย..สุดปลายฝัง โอตตัปปะ ไม่มี...มรณัง เลยแขวนยังตึกที่โกง..โยงแสนปี สมเขาละพวกโกงๆๆน่ะ ร้องโหยหวนอยู่บนยอดตึก กันเป็นแถว ใครก็ช่วยพวกท่านไม่ได้นะ พวกจอมโกง วายร้ายชาติ..ยมพบาลยังเมินหน้า ปล่อยไปเป็นเปรต ห้อยโหน แหกตาหลอกมนุษย์ ไม่มีจะกิน อดหยาก ปากแห้ง เพราะต้องกินอิฐ กินปูน บนตึก แทนน้ำแทนข้าว ...... หิริ คือ ความอายชั่ว โอตตัปปะ คือ ความกลัวบาป ก็ไม่มี....แล้วยังมาสอนสั่งให้คนอื่นเขา เตรียมไปเกิดเป็นเปรต เหมือนตนอีก อนิจจา มนุษยสเปโต โกงชาติ ชาติหน้าได้กิน อิฐหินปูนทราย คาบเหรียญเต็มปาก อดหยากปากแห้ง เพราะไม่มีสิทธิ์ กินข้าวกินน้ำ..... โน่นเลย ยอดตึกโน่น เตรียมไปโหน สักหมื่นปี แสนปี อยู่บนโน้น ใครเขาจะพูดถึง ธรรม ก็ไม่ได้ยิน เพราะมัว แต่ร้องโหยหวน ว่า หิววววววววววววววววว หิววววววววววววววววว หิวววววววววววววว ความอยาก ละโมบ โลภมาก นี้มันน่ากลัว เสียวสยองจริงท่าน แต่อย่างว่า มนุษยสเปโต มักไม่รู้จักธรรมะ อุเบกขา อีกแล้ว หมายเหตุ *มนุษย์สุดประเสริฐเลิศคุณค่า* มาจากบาทกลอน *เป็นมนุษย์สุดประเสริฐเลิศคุณค่า*.....ฯลฯ บทกลอน ครบอักษร ก-ฮ สำนวนกลอนที่มีการประกวดของ นักกลอนท่านหนึ่งตอนนี้จำชื่อมิได้แล้วชนะเลิศ ได้เป็นกลอนประจำ สมาคมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ขออนุญาตหมายเหตุไว้ ณ ที่นี่ : tiki_ทิกิ - [ 12 พ.ค. 48 11:05:30 ] ป.ล. ไปเขียนตอบกระทู้เกี่ยวกับโกงกินอย่างมีบุญคุณแก่ชาติ เลยอดไม่ได้ต้องเขียนค่ะ กระทู้ไปตอบไว้ห้องไม่ใกล้ไม่ไกลเว็บอื่นน่ะ ทิกิ_tiki
12 พฤษภาคม 2548 18:12 น. - comment id 465925
** ความอยาก ละโมบ โลภมาก นี้มันน่ากลัว ** เห็นด้วยจริงๆ ค่ะ
12 พฤษภาคม 2548 19:18 น. - comment id 465961
น่ากลัวทีเดียวค่ะ จะประพฤติตนให้อยู่ในทางสายกลาง กลัวใจตัวเองเหลือเกิน
12 พฤษภาคม 2548 21:44 น. - comment id 466027
เปรตตัวยาวปากจู๋เท่ารูเข็ม มือบานเต็มดั่งใบลานขานบอกไว้ ส่งเสียงร้องหวีดหวิวลิ่วมาไกล วนเวียนว่ายไม่ไปเกิดเตลิดกรรม
12 พฤษภาคม 2548 22:27 น. - comment id 466050
เห็นด้วยครับ ไอ่พวกโกงชาติ กินบ้านกินเมือง ก็สมควรอยู่หรอกครับ
13 พฤษภาคม 2548 10:37 น. - comment id 466201
HoyHone# 1 : ** ความอยาก ละโมบ โลภมาก นี้มันน่ากลัว ** เห็นด้วยจริงๆ ค่ะ .:+:+: กวี .. นิพนธ์ :+:+:. 12 พ.ค. 48 - 18:12 มองเขา แล้วต้องเร่งมองตัวเราทันด่วนเลยค่ะ ว่าเอเราอยากได้อะไรมากเกินควร หรือเปล่า...มากไปต้องเร่งสลัดออก มิฉะนั้นเราจะเป็นโรคติดวัตถุ สลัดยากอันตรายมากค่ะ ขอบคุณที่แวะเวียนค่ะ
13 พฤษภาคม 2548 10:40 น. - comment id 466206
HoyHone# 2 น่ากลัวทีเดียวค่ะ จะประพฤติตนให้อยู่ในทางสายกลาง กลัวใจตัวเองเหลือเกิน ภาวิดา 12 พ.ค. 48 - 19:18 ตอนที่อาจารย์ท่านนั้นบรรยายให้เห็นภาพ ภรรยานักการเมืองผู้ล่วงลับไปแล้ว ห้อยโหนอยู่บนตึกในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในภาคกำเนิดเป็น เปรตนั้นสังเวช และเวทนามากค่ะ..จึงเขียนกลอนนี้ มาตอบให้คนที่ไม่สังวรระวัง ที่พลาดพลั้งมาตอบว่า โกงเพื่อจะได้แกร่งนั้น มันสะเทือนใจค่ะ... โกงภาษีทีพวกเราจ่ายไปอย่าง ลำบากลำบน เนี่ยนะ
13 พฤษภาคม 2548 10:44 น. - comment id 466209
HoyHone# 3 : เปรตตัวยาวปากจู๋เท่ารูเข็ม มือบานเต็มดั่งใบลานขานบอกไว้ ส่งเสียงร้องหวีดหวิวลิ่วมาไกล วนเวียนว่ายไม่ไปเกิดเตลิดกรรม ดาวอังคาs 12 พ.ค. 48 - 21:44 มนุษย์สเปโตยุคนี้เยอะมาก ด้วยกำเนิดเกิดมาจากการเป็นเปรตมาก่อน ก็มาก....อันที่จริงเปรตคือเทวดาชนิดหนึ่ง ในภพภูมิโอปปาติกะ..แต่ด้วยมีจิตตัดอาลัย ไม่ขาดในทรัพย์สิน...แม้นจะทำบุญมากมาย ปานใด...สำนึกสุดท้ายแห่งการหวงแหนอาลัยในทรัพย์ก็ทำให้กำเนิดในภพภูมิเปรต เปตุภูมิ ซึ่งล้วนยาวนานมากจนไม่อาจได้ รับรู้ธรรม...
13 พฤษภาคม 2548 10:48 น. - comment id 466210
HoyHone# 4 : เห็นด้วยครับ ไอ่พวกโกงชาติ กินบ้านกินเมือง ก็สมควรอยู่หรอกครับ ฟ้ายิ้ม 12 พ.ค. 48 - 22:27 ........เป็นเพียงบทประพันธ์หยุดยั้งสติสัมปชัญญะของคนที่คิดจะโกง เพราะคนไม่เห็น...แต่ผีสางเทวดาเห็น การบันทึกกรรมนั้นมันเป็นอจินไตย แต่มันมีจริง...เราเองก็ยังต้องใช้กรรมที่ ยังไม่ได้ส่งคืนหนี้สินเขาบ้างส่งไม่ทันบ้าง นี้ก็เข้าข่ายโกงอยู่มิน้อย...แต่เรามิมีเจตนา จะโกงทรัพย์เขามา...วันใดมีจะยื่นคืน ก็ยังจัดว่าโกง...โดยเวลาที่ผ่านไปเป็น กรรมอันละเอียดอ่อน..อย่างน่าเศร้าเช่นกันค่ะ รำพึงกรรมเขาก็รำพึงกรรมเรา ผลคือวิบากก็รับกันไป
13 พฤษภาคม 2548 11:56 น. - comment id 466245
ถ้าคนเราไม่มีหิริโอตตัปปะ ก็คงไม่สามารถประคองใจตัวเอง ไม่ให้ไหลไปสู่ที่ต่ำได้... กลอนความหมายดีเหมือนเคยนะคะ มาทักทายค่ะ
13 พฤษภาคม 2548 18:58 น. - comment id 466460
คุณ ละอองน้ำเข้ามาเยี่ยมเมื่อใดมิเห็น เลยค่ะมัวแต่ไปจุ๊กจิ๊กบ้านอื่นขออภัย อย่างยิ่งนะคะ..คิดถึงคุณจังไม่เห็นมา เขียนกลอนนะคะ ทิกิ