ตะวันโพล้เพล้ ทั่วทั้งอำเภอไกลปีนเที่ยง..แสนเงียบเหงา มีเพียงผมกับสายลมร้อนบางเบา ที่พัดพร่างมาเป็นระยะระยะ หากทว่ามิอาจบรรเทาความร้อนอบอ้าว ได้สักเท่าไรเลย.. ผมค่อยๆละสายตาจากบานหน้าต่าง ที่ผมจงใจเปิดกว้างเอาไว้ เพื่อให้แม่ดวงดอกไม้ในดวงใจในฝัน ได้พลันพากันสยายกลีบมาล้อผมเล่น ให้นัยน์ตาผม ได้พบงามเย็นสดฉ่ำสล้างจากความสวยใสไสวพร่าง ที่ช่างแสนอ่อนหวานบอบบางช่างน่าทะนุถนอมเสียไม่มี.. ดอกไม้แห่งรัก..งามเงาอดีต ที่ทั้งทายทักและกรีดใจผมในทุกวันคืนมาอย่างยาวนาน ลั่นทม พรมพรายช่อผลิจากกอหลากสีที่คือแทนชีวีชีวิตของสตรีหนึ่ง ที่กำลังบานพ้อล้อเหงาเศร้าให้หัวใจผมยิ่งดายเดียวลึกล้ำเป็นยิ่งนัก ยามผม..นั่งนิ่งงันฝันเงียบเพียงลำพังมานานปีณ..ตรงนี้ที่เดิม.. ผมคิดถึงเธอ..คนดี คนที่ทิ้งผมไป สิบห้าปีแล้วให้รอคอย จนถึงวันนี้..ที่ผมก็ยังคอยรออย่างมิท้อใจ และจะเป็นเช่นนี้..ตราบชั่วกาล.. เพราะเธอดั่งดอกรักดั่งดอกบานไม่รู้โรยที่บานคาในใจในอกผม ...... ....... เสียงโทรมือถือ..ผมดังเตือนขึ้น ผมกล่าวคำสวัสดีออกไปโดยไม่เฉลียวใจเลยว่า นาทีต่อมา..ลมหายใจผมราวกับจะหยุดนิ่ง โลกตรงหน้าหมุนควะคว้างราวมหัศจรรย์เรียวรุ้ง มาพร่างสีสันแสนหวานบรรเจิดตระการตรงหน้า... สวัสดีค่ะ... ทายสิคะว่าใคร... เสียงเธอหวานแว่วแผ่วเบามาราวมาจากปลายฟ้าปลายฝัน ทำไม..!!!ผมต้องเดา..ด้วยเล่าคนดี.. เพราะ... แทบทุกนาทีหัวใจเต้น ผมก็มีคุณคลอเคลียเคียงข้างผสานจิตวิญญาณอยู่ภายใน ราวมิเคยพรากลาพรากไกลไปไหนเลย... ดวงใจ... ผมระล่ำระลัก..กล่าวคำนี้ออกไปเสมือนละเมอ..ราวหนุ่มน้อยผู้อ่อนไหว ทั้งๆคุณก็รู้.. ผมผ่านอะไรๆมามากมายนัก ในทุกเรื่องราวอย่างลูกผู้ชายชาติไพรหัวใจเพชร ที่คุณเคยกระซิบบอก ผู้ชายปีเสือเหลือ จะเชื่อคำ..กลัวขย้ำรักหักอกไม่มีชิ้นดี แล้วไงเล่าคนดี เสือตัวนี้กลับสิ้นลายเมื่อได้พบและรักคุณ..ใช่ไหมเล่า..ละหนอ คนดี..ผม ผม..คิดถึงคุณ คิดถึงเหลือเกิน... นี่คือเสียงผม ที่คงฟังไม่ได้ศัพท์จับเป็นคำแทบไม่ได้ เพราะ.. ผม..พูดอะไรไม่ออกบอกอะไรคุณไม่ถูกไม่ได้แล้วจริงๆ นอกจาก.. ขอเวลาสักนาทีนะ ให้ผมทำจิตให้นิ่งให้คงมั่นว่ามิได้ฝันมิใช่ฝันไป.. แล้ว..ทำไม..นั่นทำไมเสียงคุณราวร้องไห้.. บอกผมมานะว่าใครทำร้ายจิตใจคุณ.. บอกผมมาเดี่ยวนี้เลย.. ........ ........ คนดี..ทำไมเงียบไปเล่า แล้ว..ทำไมคุณถึงร้องไห้.. คุณรู้มั้ย... มันทำให้หัวอกหัวใจผม...อยากจะโลดแล่นไปโอบกอดคุณไว้ ให้คุณซับน้ำตาเหมือนคืนวันที่ผ่านมา... คุณจำได้ไหมบนไหล่ผาราวท้าสวรรค์ลอยเลื่อน คุณชี้มือน้อยๆไปที่เกาะตรงหน้า แล้ว... อ้อนให้ผมสร้างกระท่อมให้คุณ บนหน้าผา*แห่งความฝันนิรันดร์รัก*ราวสวรรค์สรวงนั้น เพื่อคุณจะได้มานั่งรจนางานงาม..ณ..ตรงนี้ คุณบอกว่า..คงงามมาก หากได้นั่งดายเดียวเหว่ว้าลำพัง เพื่อทอดตาดูตะวันตกดิน ยามพรายแสงอำลาผืนน้ำทะเลสีมรกต ที่คงราวทองทาบอาบทาไปทั่ว คงราวภาพพาโนราม่า ที่แสนงดงามยิ่งใหญ่ที่สุด ที่ธรรมชาติเมตตาหยิบยิ่นมากำนัลให้ แด่คุณและมวลมนุษยชาติ... คุณรู้ไหม.. ผมได้ทำตามคำมั่นสัญญาแล้ว ผมสร้างไว้ให้คุณแล้วนะ หากทว่ากี่ครั้งที่ผมฝากความหวังรอให้คุณกลับมา.. ไม่น่าเชื่อเลยว่า... คุณจะใจแข็งไม่ยอมกลับมาเยือนที่นี่เกือบสิบปี จนกระท่อมหลังน้อย ที่ผมไปนอนคอยคุณอย่างดายเดียวทรุดโทรม และ พร้อมกับที่ผมต้องโยกย้ายออกจากเกาะ... และล่าสุด ผมได้ย้ายกลับมาอีกคราครั้ง และมาตรแม้นใจผมจะเซซังซมซานแสนเศร้า ด้วยคิดถึงคะนึงหาคุณอย่างไร ผมก็พยายามไม่ขึ้นไปที่นั่น... คนดี...ยังฟังผมอยู่มั้ยนี่.. ถ้าคุณไม่ตอบก็ให้ตั้งใจฟังผมให้ดีดีนะ เพราะ.. นี่คงเป็นโอกาสสุดท้ายที่ผมจะเผยใจ ไม่รวมบันทึกที่จะถึงมือคุณในไม่ช้า.. ที่ผมเพียรรจนาจากใจดวงปรารถนาคุณ..ทิ้งไว้ให้ ก่อนที่ผมจะหันหลังลา..ระหว่างเรา และ โลกธรรมของผม กับโลกมายาของคุณ ...คงเป็นเพียงเส้นขนาน นอกเสียจากคุณจะเดินตามรอย..ผมมา ถึงจะช้านานสักเท่าไร..ผมก็จะรอ..คุณ ในเส้นทางทิพย์..เส้นทางสีขาวนิรันดร์ ที่จะทำให้ดวงใจเราทั้งคู่ หยุดโศกศัลย์คร่ำครวญโหยไห้ในทุกพันธนารัก ดวงใจ... ผมอยากบอกเล่าทุกสิ่ง ที่ซ่อนซึ้งเศร้าร้าวรานหนาวเหน็บใจอยู่ณ..ภายในใจดวงร้าวนี้ ที่ผมแสนอัดอั้นตันใจเก็บเอาไว้ มิให้ผู้ใดลาวงรู้เห็นมานานปีมาแสนนาน ทุกอย่าง.... ที่ผมคาค้างใจที่อยากบอกคุณ..นะครับ คนดี รู้มั้ยฝนกำลังตกนะครับ..นาทีนี้ คุณจำกระท่อมริมหาดได้ไหม ที่เรานอนเคลียกันฟังเสียงสายฝนคร่ำครวญ แล้วเราก็ร้องเพลงนี้พร้อมกัน... http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=336 ปีศาจวสันต์ เรา จากกันวันนั้นยังจำ จากกันวันนั้นฝนพรำ พรางม่านกรรม คล้ำครึ้มคลุมเวร ลมครางฝนครวญ ไพรสั่นชวน รวนระเนน ความกดดัน ขั้นเดน เหมือนจะเค้น ฆ่า กัน เรา จากกันวันนั้นนานมา แต่เมื่อวสันต์ลีลา ฤาสร่างซาฝนฟ้าฟูมฟาย ฤดู ฤดี มันไม่มี วันคืนวาย มันสาปใจ สาปกาย คล้ายมนต์ร้าย พรายผี ผี วสันต์ มันหลอก มันหลอน ปีศาจวสันต์วันก่อน ยังสังวรณ์ เวรนี้ ฟัง โถฟัง ฟังฝนตกซี เหมือนนรกตกตี ย้ำ ขยี้ ใจ ตรม ไป จากไป ไปแล้วไปเลย อย่ามาชวนชิดชวนเชย ปีศาจเอย ร้างเลยอารมณ์ ลมมา ฝนมา จงอย่ามา พาระทม เพียงโศกทราม เศร้าซม ฉันจะล้ม ตายแล้ว... ......... .......... คืนวันแสนสุข ที่ราวไร้กาลเวลา คืนที่ฟ้าฝนเป็นใจให้คุณซุกซบ ราวลูกนกในอ้อมกอดผมจนอุ่นไอ คนดี... ฝมคิดถึงคุณทุกครั้งที่ได้ยินเสียงฝนครางฟ้าครวญ และคุณก็รู้ดี.. กี่ฝนเศร้ากี่หนาวใจกี่วสันต์สวาทผันผ่านไปโดยไม่มีคุณเคียงคืน และ คุณรู้มั้ย...คนดี ดวงใจ ที่ผมต้องนอนระทมเดียวดายภายใต้ชายคาแห่งรักอย่างกับคนขวัญหาย เหมือนผมตายก่อนตาย... ผมเพียรใช้กุศโลบายธรรม..ท่องสาธยายร่ายมนต์กำกับจิตใจ เพื่อมิให้ไหวครวญถึงคุณจนทนไม่ได้ เพื่อให้คืนฝันวันสิ้นหวังวันผ่านๆ ไป จนกว่า.... จะถึงวันที่ดวงใจผม...จะอ่อนล้าสุดทน และ...ค่อยๆหลุดผลอย...ปลิดปลิว..ไปเสียที.. กับยามตะวันลาฟ้าโพล้เพล้ ที่คุณเคยกระซิบริมแก้มบอกผมว่า... หากยามใด... ดวงชีวิตคุณถึงเวลาจำพรากจากลาฟ้าดินตราบชั่วนิจนิรันดร์ ขอกราบกรานให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน ได้เมตตาปรานี ให้มารับร่างและจิตวิญญาณในยามตะวันตกดิน คุณอยากให้ลมหายใจระรินค่อยๆสิ้นไปในยามค่ำ ให้จิตคุณได้ผกโผผินราวนกไพรในยามนั้นราวคืนรวงรังแห่งรัก ได้พักร่างวางทุกเรื่องราวเศร้าสุข ให้พสุธาเหว่ว้ารับร่างอันแสนเหน็บหนาวยาวนาน..ได้ปิดเปลือกตา...!!!! คนดี ผมเพียรไปวัด ตามที่คุณบอก หลวงพ่อบอกผมว่า *ผมควรจะบวชเสียเลยดีกว่า* เพราะเป็นทางเดียวที่จะได้ชิดใกล้ท่าน มิฉะนั้น..ท่านทำนาย หากผมตัดใจหักใจไม่ได้ ผมก็จะตรอมใจตายโดยไร้แม้ร่างคุณเคียง ท่านเห็นผมสงบภายนอก หากทุกครา...ที่ท่านเห็นนัยน์ตาผม ราวท่านจะล่วงรู้ถึงก้นบึ้งแห่งทุกข์ระทมณ.จิตภายใน ที่ยากที่ผู้ใดจะหยั่งเห็น ท่าน...ปลอบประโลมผม เพียงบอกให้เพียรชดใช้วิบากรัก หักจิตหักใจเสียในชาตินี้ ให้พลีรักษาศีล สมาธิ ภาวนา อธิษฐานว่า..อย่าได้พบรักอีกเลย.. คนดี..ครับ หากชีวิตผม.. ไม่มีหลวงพ่อ.. ไม่มีธรรมะ...ผมคงประคองจิตไม่ได้มาจนถึงทุกวันนี้ และ คุณก็รู้ดี... ถึงเวลาที่ผมจะบวชจริงๆเสียทีแล้ว ผม..เบื่อชีวีผมเต็มทน ที่ติดตมพันธนา และ... คุณก็รู้ว่า... ในยามนี้ผมหมดหน้าที่ในทางโลกย์ ที่จะตอบแทนคุณผืนแผ่นดินแม่มาตุภูมิแล้ว ที่ผมได้เพียรเททุ่มพลังสมองสองมือมาอย่างยาวนาน อย่างไม่เสียชาติเกิด ที่ได้ทำหน้าลูกผู้ชายไทยได้รับใช้ชาติอย่างดีที่สุดเสมอมา และ คนดี.. ในเบื้องลึก ผมมิอาจตัดร้าวราน ด้วยบาดแผลแห่งรักคุณได้สนิทเลยแม้สักนาที ผมอยากได้แสงฉัพพรรณรังสีจากยอดพระรัตนตรัย ดั่งหยาดน้ำอมฤตใสเย็นฉ่ำหยาดน้ำรสพระธรรมมาเยียวยา ซึ่ง..คือยาใจยาจิตที่ดีที่สุดในหล้าโลกนี้.. ผม...ทราบ...ดี คุณโทรมาวันนี้ เพราะคงมีใครสักคนไปกระซิบบอกคุณถึงการตัดสินใจของผม ที่จะเลือกเดินไปในเส้นทางสีขาวอย่างยาวยืนนิรันดร์.. ใช่ไหมเล่าคนดี.... .......... อย่าร้องไห้นะ.. อย่าร้องไห้เลย..นะคนดี ผมไม่ได้ไปตายนะ ผมกำลังจะเดินไปในเส้นทางสีขาว เส้นทางธรรมอันแสนสว่างพราวพิสุทธิ์ใส แสนว่างสว่างสงบ ที่รอให้ผมเดินไปสมทบ กับผู้มีกุศลบุญมากมีที่เดินล่วงหน้าไปมากมายแล้ว ทางสายแก้วตระการ..ทางนิพพานพ้นทุกข์..พบวิมุตติหลุดพ้น ที่พากันละกิเลสและเพียรบำเพ็ญเพียรภาวนา ให้ทันชาติพระศรีอาริยเมตไตรย์ ที่กำลังรอรับทุกร่างจิตผู้มีบุญญาบารมีมากเมตตา คนดี..อนุโมทนาบุญกับผมนะ และ ได้โปรดตราจำไว้.. *ผมจะไม่เห็นแก่ตัวทิ้งคุณไว้ให้ดายเดียวลำพัง ไม่ว่าคุณจะอยู่ณ แห่งหนไหน ในสวรรค์ฤานรก ผมก็จะตามไป.. หากเป็นนรกผมก็พร้อมจะตกกับคุณ และกางกั้นคุณมิให้ร้อนเร่าร่างหากผมพลีรับคุณไว้ได้* และ *หากเป็นสวรรค์...ฝันนิรันดร์รักแห่งสองเรา..คงเป็นจริง ที่จะได้บำเพ็ญเพียร.. พากันไปสู่แดนทิพย์ที่เราสองเคยได้ปองจิตอธิษฐาน สัญญาธรรมกันไว้อย่างไรเล่า คนดี...อย่าเสียใจนะ และ... ระหว่างเรา.. *จากกันอย่าลาเพื่อเป็นลางว่าเราจักได้พบกันใหม่ไงเล่ายอดรัก* เหมือนทุกครา ที่เราเคยพูดกันไว้ ว่า.. ไม่ว่ากายจะจากเป็นจากตาย เราก็จากกันเพียงเฉพาะร่าง..หาใช่จิตวิญญาณไม่ เพราะ จิตดวงใสดวงงามจักโผผิน บินไปรออย่างมิท้อ..ใจในทุกภพชาติ หากยังต้องกลับมาวนวิบากชดใช้อีกครา และ.... หากเรายังต้องวนกลับมาในพสุธาฟ้าพุทธภูมิ ขอให้เราได้มาครองคู่เป็นดั่งคู่ธรรมคู่ทองคู่บุญญาบารมี มาสร้างสานสิ่งดีแด่ผืนโลกและผองชน ตราบจนกว่าจะถึงชาติสุดท้ายที่จะสิ้นวิบากรักวิบากทุกข์..ทุกๆรัก คนดี... ผมดีใจนะ ดีใจ...ที่คุณโทรมารับฟังให้โอกาสผมได้พูดถึงทุกสิ่ง ที่แสนเงียบงามงดงามอย่างยากที่ใครจะเข้าใจในรักนี้มานานหลายปี ให้คุณได้เข้าใจ... วันนี้ผมสบายใจ โล่งใจและแสนปิติใจ ก่อน.. ที่ผมจะเดินหันหลังลาคุณเข้าสู่ร่มกาสาวพัตร์นะ คำสุดท้าย... ให้ผมได้กระซิบตรงหัวใจคุณนะยอดรัก ว่า.... ผมรักคุณ รักคุณ และ.... ตราบลมหายใจสุดท้ายของผมนี้ ที่เกิดมาเพื่อภักดีคุณเพียงคนเดียว..นะยอดดวงหฤทัย!!!!. .................. ......... http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=222 ฉันรักเธอเสมอ ทิพย์วรรณ ปิ่นภิบาล : : Key G หากตราบใด สายนที ยังรี่ไหล สู่มหา ชลาลัย กระแสสินธุ์ เกลียวคลื่นยัง กระทบฝั่ง เป็นอาจินต์ เป็นนิจสิน ตราบนั้น ฉันรักเธอ เช่นตะวัน นั้นยังคง ตรงต่อเวลา แน่นอนนัก รักท้องฟ้า สม่ำเสมอ เช่นกับฉัน มั่นคง ตรงต่อเธอ ฉันรักเธอเสมอ ฉันรักเธอเสมอ ชั่วนิจนิรันดร์ เช่นตะวัน นั้นยังคง ตรงต่อเวลา แน่นอนนัก รักท้องฟ้า สม่ำเสมอ เช่นกับฉัน มั่นคง ตรงต่อเธอ ฉันรักเธอเสมอ ฉันรักเธอเสมอ ชั่วนิจนิรันดร์...
21 เมษายน 2548 07:19 น. - comment id 457151
แวะมาเป็นกำลังใจให้นะ
21 เมษายน 2548 07:57 น. - comment id 457164
เริ่มต้นเรื่องราวได้น่ารักน่าติดตามดีครับ
21 เมษายน 2548 09:48 น. - comment id 457203
การรอคอยที่แสนนาน พอเจอคำหวาน ๆ สักคำก็ดีใจยิ่งแล้วค่ะ อบอุ่นมากสำหรับเรื่องนี้ (สวัสดียามเช้านะค่ะ)
21 เมษายน 2548 10:22 น. - comment id 457243
พี่พุด..ค่ะ จะกลับมารจนาให้จบค่ะ และมาฝากเรื่องนี้ไว้ให้อ่านเล่าค่ะ เพราะค้นไปฝากเป็นกำลังฝจไว้ในงานคุณรักษ์รักรักค่ะ เธอ..ดั่งดอกบานไม่รู้โรยในใจผม พุดพัดชา ผมเป็นคนหนุ่ม..เกิดที่เมืองไทย แต่กลับต้องไปใช้ชีวิตและเรียนที่อเมริกา ดินแดนแห่งความฝันและเสรีภาพ ตั้งแต่ผมนั้นยังเป็นแค่หนุ่มน้อยๆ มาจนถึงณ..วันนี้ที่ก็ยังน้อยอยู่นะครับ... ผมอยากบอกว่า..แม้ผมจะได้สัมผัส และรู้เห็นสังคมรักวัยรุ่น วัยฝัน วัยมันส์ ในประเทศที่เจริญทางเทคโนโลยี่สุดยอดแล้วก็ตาม....... แต่แปลกดีไหม... ที่ใจผม มิเคยผันแปรไปซาบซึ้งใจในวิถีรักของคนรุ่นใหม่ ไฟแรงแบบสังคมที่นั่น...... ผมบอกได้แค่เพียงว่า.. เพราะใจผมดวงเดิมๆยังเป็นไทยๆนะซีครับ และผมทำใจยอมรับไม่ได้กับการทดลองแสวงหารัก ที่อาจจะพบเจอคนที่ใช่เลยในวันหนึ่ง....... แต่ขั้นตอนที่จะพบเจอนะซี... ที่ผมคนนี้...คนที่ค่อนข้างจะมีใจดวงละเอียดอ่อน คิดว่าผมคงตายเสียก่อน..เพราะผมรักใครแล้วมักจะทุ่มกายใจสุดตัว....... แบบที่ว่ารักเขามาก ก็ให้เขาหมด..นั่นแหละครับ มิเผื่อใจไว้เจ็บ...บ้างเลย.... และผมยังคิดถึงคุณค่า..ของคำว่าค่อยเป็นค่อยไป ค่อยทะนุถนอม เพาะบ่มความเข้าใจ แล้วความรักที่แสนดีจะตามมาทีหลัง ด้วยความซึ้งค่า ในความยากลำบาก ความอดทนเพื่อพิสูจน์ใจกันและกัน.. ผมชื่นชม ศรัทธา ในรักแบบชาวเอเชีย ที่เป็นเรื่องสวยงามละเอียดอ่อน ซ่อนความหวาน ความวับๆแวมๆของอารมณ์ล้ำลึก และความรู้สึก ให้อยากค้นหาติดตาม ไม่โจ๋งครึม จนเกินไป ความโรแมนติกที่รักใครแล้ว จะศรัทธาในคุณค่าของกายใจที่รู้รักนวลสงวนตัว.... อย่างหญิงไทยที่รู้จักรักตัวเอง มิใช่ปล่อยกายให้ช้ำชอก จนเห็นว่าเรื่องรัก เรื่องโลกีย์นั้น เป็นเรื่องแสนธรรมดาๆ... เหมือนเดินไปหาก๋วยเตี๋ยวมากินแทนข้าวยามซ้ำซากและจำเจ..ใจ เพราะมนุษย์เราต่างจากสัตว์ ตรงที่รู้จักอาย ตรงที่มีขนบ จารีตประเพณีที่แสนสวยแสนดีไว้คอยควบคุม กายใจไม่ให้หลงระเริงมัวเมาอย่างไม่ยั้งคิดถึงพิษภัย แห่งรักนั้นที่นับวันจะเสื่อมทรามเข้าไปทุกที..... จนโลกนี้วิปริตวุ่นวายสับสน เพราะคำว่า คนไร้ศีลธรรมจรรยา พาใจให้มืดบอดหลงวนอยู่แต่ในเกมโลกีย์ เราคนไทย โชคดี ที่ยังมีวัฒนธรรม ในความรักและการแต่งงาน ที่ยังงดงามเรียบง่าย แฝงความอ่อนโยนและละเอียดอ่อนมาก ที่ยังมีกฏ กติกา มีกรอบที่จะคอยควบคุมจิตใจ ในการใช้ชีวิตรักด้วยกัน และด้วยศาสนาที่ย้ำเน้นสอนว่าห้ามผิดศีล และลูกเมียใคร...... ณ...วันนี้ผม..คนรุ่นใหม่ มีผู้หญิงในดวงใจแล้ว และเธอคนนั้นเป็นกุลสตรีไทยที่งามพร้อมกายใจ ทั้งนอกทั้งใน และด้วยสมองสองมือ แบบหญิงยุคใหม่ ที่มีไฟแรง ที่พร้อมจะก้าวไปกับโลกยุค2000 ด้วยใจมุ่งมั่น ที่จะสรรสร้างสิ่งดีๆเพื่อตัวเอง เพื่อโลกและต่อรักของสองเราที่รู้รัก รู้หนักแน่น ถนอมใจกันและกัน จนกว่าจะถึงวันที่สุกงอมหอมหวาน ให้ดอกรัก บานไม่รู้โรย ในใจของเราสองที่ซื่อตรงต่อกัน... และมั่นใจในรักแท้รักจริง........ รักยุคใหม่แบบของผมนั้นคือรักที่กล้าตัดสินใจ ไตร่ตรอง และมองไปข้างหน้านานวัน ใช่เอาแค่มันส์ ในวันนี้อย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง ที่อาจจะทำให้แม่..พ่อ..ครวญคร่ำด้วยความเสียใจ เพราะอย่าลืมว่าเรายังเป็นคนไทยนะครับ เรายังมีแม่พ่อผู้ร่วมสมัยยังเป็นคนรุ่นเก่า. .ที่รักและหวังดีต่อเราอย่างจริงแท้..แน่นอน......... รักนั้นไม่ว่าเก่าหรือใหม่... ดังเปลวไฟแผดเผาถ้าหากเราใช้มันไม่เป็น......... และรักนั้นเปรียบดั่งน้ำอมฤต.. ที่จะหยาดหยดลงมาให้ใจดวงงามสวยใสสดชื่นตราบวันตาย ถ้าเรารู้ค่าคำว่ารัก คำว่าปรับตัว และการให้เกียรติกันและกัน การแบ่งปัน แบบต่างคนต่างเติมเต็ม..มิคาดหวัง........ สำหรับผม...รักเธอคนดีของผม คงมั่น มานานหลายปี และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป เพราะผมพบว่าเธอคือคนดีที่ ใช่เลย ที่พระเจ้าปรานีประทานมาให้กับคนที่รู้ค่าในรักพอกัน... และเธอ ของผมนั้น เปรียบดั่งดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ที่จะบานไสวอยู่ในดวงใจของผมตราบกัลปาวสานต์ ตราบนานเท่านานเท่าที่โลกนี้ยังมีคำว่ารักคู่โลกและคู่ใจ..
21 เมษายน 2548 11:24 น. - comment id 457310
แวะมาอ่านค่ะพุด ทิกิ
21 เมษายน 2548 13:09 น. - comment id 457388
จะรออ่านต่อนะคะ .
21 เมษายน 2548 15:28 น. - comment id 457522
พี่พุดชอบเพลงเหมือนจ๋อจ๋าเลยนะคะ ใจตรงกันเรื่อยเลยชอบแนวเดียวกัน
21 เมษายน 2548 19:42 น. - comment id 457690
เธอสวยสง่างาม.. หวาบหวาม .. และดูเด่น.. สีดำ ..ตัดชัดเจน.. สิ่งที่เห็น .. คือผู้หญิง .. ที่สวยจัง .. เหมือนภาพฝัน ..ของพี่พุด.. เหมือนจะหยุด .. ผู้ชาย..ด้วยคำสั่ง ..หัวใจ.. วุ่น.. เกือบพัง.. อิจฉาจัง .. ผู้หญิง.. ที่อ่อนโยน .. เธอสง่างาม .. เหมือนเจ้าหญิง.. สายตาดุนิ่ง .. ใจสับสน.. ร้อนหนาว ..เข้าใกล้พิกล.. อยากจะขน .. หัวใจวาง ..ให้เธอ.. อิอิอิ .. เรนขออนุญาต .. พี่พุดพัดชา หัดแจมงานนะคะ .. เรน .. คิดถึง ..ด้วยดิคะ .. แว้ป ..