http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=5080 http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1506 หน้าร้อนอีกแล้ว แล้งจนดินแตกระแหงไปทั่ว เสียงแคนแตร๊นแตรแตร๊นแตรแว่วหวานปานพ้อ มากับสายลมฟ้ากว้างลำประโดงและทิวไผ่ไหวกอ http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1506 ลูกทุ่งเสียงแคน ยอดรัก สลักใจ : : Key Dm หนุ่ม ลูกทุ่ง อีสาน สุขสำราญ ไปตาม ประสา ข้อย จากบ้านเมืองมา จนหนักหนาถือแคนเล่มเดียว พบน้องก็ช่างงามนัก ข้อยอยากทักอยากตามไปเกี้ยว เหลือบดูแคนเล่มเดียว เหลือบดูแคนเล่มเดียว เกี้ยวอย่างไรอายใจเหลือเกิน เกี้ยวอย่างไรอายใจเหลือเกิน สาวเอยอย่าเพิ่งเดียจฉันท์ อย่าตัดสัมพันธ์ด้วยการทำเมิน สาวเอยอ้ายอยากขอเชิญ ฟังเพลงแคนเพลินๆสักหน่อย ซุดสะแนนเพลงแคนอ้ายปล่อย ล่องรถไฟละจับใจไม่ย่อย ฟังเถิดสาวน้อยมันอร่อยถึงใจ เสียง แคนบอก สาวเอ้ยฮักบ่เสียง แคนบอกสาวเอ้ยฮักบ่ ใจสิขอสัมพันธ์บ่ยั่นผู้ใด๋ หากได้น้องเป็นคู่เคียงสองหาก ได้น้องเป็นคู่เคียงสอง สิประคองขวัญตาบ่ห่วงหาไผซ่อน บ่ห่วงหาไผซ่อน หาก ว่าอ้ายผิดหวัง จะกลับอีสานบ้านเคยอยู่นอน หากได้เรียงเคียงหมอน ไม่ไถ่ถอนจนวันชีพวาย อีสานสิคนซื่อนัก หากได้ฮักฮักเดียวบ่หน่าย เชื่อหรือเปล่าทรามวัย เชื่อหรือเปล่าทรามวัย อยากดูใจเอ้าเซินเอ้าเซิน เอ้า เซินเอ้าเซินเอ้าเซิน เอ้า เซินเอ้าเซินเอ้าเซิน เอ้า เซินเอ้าเซินเอ้าเซิน... สาวนานวล ยืนอยู่ริมทุ่ง กับดงดอกโสนโอนเอนไหวอ่อนไปตามแรงลมร้อน ในยามบ่ายคล้อยที่แดดยังกล้า ฟ้ายังพร่างระยิบด้วยดวงดอกแดดแผดเผาจนเกิดประกายวิบวับ ผิวแก้มนวล..เนียนราวกับสายน้ำผึ้งรวง ราวกับรวงเรียวสีทองผ่องๆในเงางอบ หากทว่าหัวใจนวลกลับบอบช้ำ หานวลน้ำชุ่มฉ่ำสดใสเหมือนเนื้อนวลสักนิดสักน้อยก็ไม่มี ที่บัดนี้.. แห้งพอกันกับนวลดิน..นา กับฟ้าคราม กับสายลมว่าวผ่าวร้อนรับฤดู หมองไหม้ไร้...แล้งแห้งระแหงไปทุกถิ่นที่ หันไปเห็นทุ่งนาแดนทองราวแดนสวรรค์มาเยือน มาบัดนี้พลันสวรรค์รอลอยเลื่อนลาลับ ราวกับรอปิดประตูไม่ดูดำดูดี จะมีก็แต่องค์พระพ่อหลวงแห่งปวงชนชาวไทย ที่ทรงพระเสโททนไหลบ่ารับทุกข์ ทุกขวัญหล้าทุกหย่อมหญ้าทุกธุลีดิน ทรงรับสั่งให้ทำฝนเทียมเตรียมการณ ์สู้ภัยแล้ง ให้พสกนิกรชาวนาไทย เจ้าแห่งผืนนาผืนดิน..มิสิ้นหวัง รอพระพิรุณหยาดหลั่งชโลมหล้า ลงมาจากจากราวฟ้าแดนสรวง รอร่วงหยาดสายปรายโปรย ไปทุกถิ่นที่ ที่มีไร่นาเขียวเขินเนินไพล ให้เรียวรวง...ยังได้พราวพรายไสวพัดโบกไปมาราวคลื่นสีทอง ให้ผ่องแพรพรมพลิ้วขจี สะบัดสีสายงามแสนงามราวลูกคลื่น ราวพรมธารทองห่มท้องนาทาบทาไปทั่วผืนหล้านาไกล ด้วยหยาดน้ำพระราชหฤทัยใสเย็นดั่งหยาดฝน เคียงกมลชนชาวนาชาวไร่ชาวไพรหัวใจทอง ได้พลีผองพลังกำลังสร้างภูมิปัญญาแห่งแผ่นดิน... ให้ลูกหลานไทยมีกินมิสิ้นหวังด้วยความอดหยากหิวโหย คูน....ริมนา. เหว่ว้าห้อยย้อยพวงดวงดอกเหลืองพราวไปทุกราวกิ่ง ราวสายฝนสีทองรอลอยละล่องร่วงกราวพร่างพื้นหล้า ราวกับว่าอยากประท้วงถามดินฟ้า ให้งามหล้ามาไย ไม่ให้น้ำใสมารินหลั่งดั่งสายธารธารามิรู้สิ้น ให้แผ่นดินไทยแผ่นดินทองงามผ่อง ด้วยดวงดอกไม้ไทยไม้ไพร ให้ละอองเรณูหวานใสห่มไปทั้งราวป่า พากันออดอ้อนวอนสายลม ค้อมน้อมพลีบูชาสังเวยแด่หล้าโลก ให้สิ้นโศกสิ้นแล้งสิ้นไร้ ให้..คูนคูนคูนพูนเพิ่มธัญญาหาร เพื่อปากท้องมาจ้องพูดจ้องจ่ายกับปัจจัยที่ห้า ที่มาพร้อมกับความเหงาใจ เชื้อโรคที่แพร่แสนไวเร็วเสียยิ่งกว่าแสง ยอมอดตายมิให้ปากแห้งเลิกเจรจาพาที และ ขอมีความสุขทางปากกับลมลมลอยลอย ยอมอ้อยสร้อยอดเอา... นี่คือ เงาดำมืดในใจสาวนาผู้แสนว้าเหว่แสนรักในวิถีไทย ที่รอยไถมาแปรแพ้รอยน้ำเงินงาม ตามตามรอยกรรมกันไปในกระแสโลกโลกาภิวัฒน์ อันคือวัด..ทางจิตฝังสนิทตั้งแต่ยังมิทันตาย..จริง! ดอกคูนคูณดอกพราวอยู่เต็มต้น คูณกมลเพิ่มพูนบานตระการต่อ ดอกคูนบานไสวไม่เคยท้อ มีคูณต่อคูณเพิ่มเติมน้ำใจ.. คูนดอกงามตามเติมต่อขอรักเพิ่ม ดอกเดิมเดิมดอกดีดีเคียงนาใส คูนดอกงามคูณมากล้นงามน้ำใจ คูนไสวคูณสว่างกลางกมล.. คูนดอกงามขอคูณกลับให้มีสุข ให้หมดทุกข์หมดเศร้ากลางไพรสนธ์ คูนดอกงามสร้างพลังเคียงกมล คูณมงคลคูณดีงามนานนิรันดร์..นะดอกคูน...... ******** ดอกคูนบานไสวในใจขวัญ ทุกคืนวันพราวพร่างกระจ่างใส ซึ้งน้ำคำซึ้งคุณค่าคุณน้ำใจ ยามหวั่นไหวคูนเคียงข้างไม่ร้างรา.. คูนหัวใจสีทองงามผ่องผุด คูนมิเคยหยุดเคียงหัวใจให้ห่วงหา คูนรู้ไหมคู่ถิ่นไทยแต่เนามา คูนคุณค่าคูนควรคู่รู้ใจกัน.. คูนอย่าท้อนะดวงใจนะยอดรัก สองเราจักเคียงคู่ไปมอบใจฝัน ให้น้องน้อยเก็บไม้งามตามตะวัน ฝากใจขวัญเคียงใจคู่คูนพูนเพิ่มดี..ที่เรานี้อยากฝากฝันและฝากใจ! ********** ดอกคูนพรากพลิ้วปลิวไปไหน. ......... ดอกคูนสีทองพราวราวพฤกษาสวรรค์ รับตะวันเจิดจ้าพาหลงใหล มาวันนี้กลีบร่วงพราวเจ้าหายไป ฤดูกาลผ่านไปไยลาลับกับตะวัน.. เคยเคลียคลอล้อลมไสวไทยทุกที่ ดวงฤดีผลิดอกหวานบานท้าฝัน คู่วิมานวนาบานไสวทุกคืนวัน อวดฉากฝันขวัญสล้างทางสายใจ... ดอกคูนเคยล้อลมอย่าตรมเศร้า คูนดอกพราวรอรับขวัญอย่าหวั่นไหว บานท้าโลกลบโศกตรมนะดวงใจ คูนสว่างบานกลางใจขวัญในวันนี้ที่เฝ้ารักที่เฝ้ารอ.. ************************** http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=5080 พี่มีแต่ให้ เอกชัย ศรีวิขัย : : Key Fm พี่ คนนี้ นั้นมีแต่ให้ เจ้าไฉน ไม่เคยให้พี่ อยากได้อะไร หาให้ ทันที ให้เจ้ามากอย่างนี้ ไม่ดีอีกหรือ แม่คุณ พี่ วันนี้ พี่ก็ยังให้ เจ้าไฉน เห็นพี่เป็นหุ่น เจ้าได้กำไร รู้ไหมใคร ขาดทุน ดอกเบี้ยความรัก สิ้นสูญ ต้นทุนรัก ก็ไม่เห็น ทำ เหมือนพี่ ไม่มีหัวใจ ใคร นะใครที่ช้ำไม่เป็น ให้เจ้าหมดแล้ว พี่ไม่แคล้ว ต้องลำเค็ญ หรือเป็นกรรม ของเราคอยเฝ้าราวี พี่ คนนี้นั้นมีแต่ให้ เจ้า วันไหนเจ้าจะให้พี่ ให้ความจริงใจ ให้ความรัก พี่บ้างซิ ให้เจ้ามาก อย่างนี้ ให้พี่ ไม่ได้เชียวหรือ พี่ คนนี้นั้นมีแต่ให้ เจ้า วันไหนเจ้าจะให้พี่ ให้ความจริงใจ ให้ความรัก พี่บ้างซิ ให้เจ้ามาก อย่างนี้ ให้พี่ ไม่ได้เชียวหรือ...
2 เมษายน 2548 20:12 น. - comment id 448320
คูณไสวทั้งดอกใบพลิ้วเต็มต้น ก็คงเหมือนใจคนช่างเอนโอนอย่างง่ายดาย ดินแยกแตกระแหง เหมือนเธอแบ่งใจรักได้ เจ็บชำทั้งทรวงใน เธอเห็นใครดีกว่ากัน
2 เมษายน 2548 20:33 น. - comment id 448330
อ้ายมาเมื่อดอกคูณดอกแรกแย้มบาน มาฝากคำหวานสัญญากับสาวฝั่งมูล บอกว่าฮักมั่นคงบ่เปลี่ยนเวียนหมุน อยากเป็นลูกเขยแม่มูล สุดซึ้งคำรักห่วงใย.................... .................คูณเริ่มโรยลาก้าน บ่อนานก็คงทิ้งต้นหล่นเลย เหมือนใจคนเคยบอกรักชื่นเชย ล่วงเลยลับไปดั่งสายน้ำมูล............. คูณดอกสุดท้าย คำร้อง/ ทำนอง: พงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา ขับร้อง: ต่าย อรทัย
2 เมษายน 2548 20:49 น. - comment id 448343
มาดูดอกคูณ... เพิ่มพูน..คูณทวีรัก... ให้กับคนเขียน
2 เมษายน 2548 21:52 น. - comment id 448391
ต้นคูน ดอกคูนสีเหลืองสะพรั่ง .. ยามไปเยือนอิสาน .. รายทางที่ผ่านคา :)
2 เมษายน 2548 22:05 น. - comment id 448407
เทศกาลสงกรานต์ เป็นเวลาที่ดอกคูณออกดอกเหลืองสะพรั่ง ชาวบ้านนิยมเอาไปบูชา อาจจะเป็นคำว่า คูณ ชื่อนี้มีความหมายถึงความเจริญรุ่งเรืองเพิ่มขึ้นก็เป็นได้
3 เมษายน 2548 22:52 น. - comment id 448795
ลำนำราชพฤกษ์ลาลาน ปรารถนาบุปผารัตนโกสินทร์ ยามหอมรินมนต์กวีศรีอีสาน เหลืองละมุนอุ่นรวีดอกคลี่บาน แต่งแต้มลานลาแล้งระแหงดิน เกสรร่วงกาลล่วงห้วงสำนึก ราชพฤกษ์ดอกไม้สร้อยทองศิลป์ เคยคล้องคอหน่อข้าวเหนียวเสี่ยวชาวดิน บอกพื้นเพ...วศินถิ่นบ้านนา ลมเดือนห้าแล้งลาที่ราบสูง ดอกยางยูงร่วงลิ่วทิวไผ่หนา เมื่อวันพรุ่งจะโบกไหวใบหล่นลา แหล่ะกลีบคูนตะแบกป่าจะล้าโรย ฤาเสียงแคนแผ่นดินสิ้นมนต์ขลัง เมื่อนกป่านิราศรังทั้งหิวโหย จากเสี่ยวกินเสี่ยวตายอ้ายโอดโอย เมื่อลมร้อนอีสานโบยโชยอัตคัด ลานสวรรค์ลานนาดูว้าเหว่ เรือนซังเซทุกข์ร้อนหนี้ผ่อนผัด ดอกคูนหนุ่มไปรุ่งเรืองเมืองวิวัฒน์ ควายกำดัดมัดขวิดลมอยู่ซมเซา บักเสี่ยวเอ๋ยเอ็งก็รู้ว่าปู่ย่า แก่ชราป่วยไข้ใจหงอยเหงา อีกหยูกยารักษาไปไม่บรรเทา โรครุมเร้าเศร้าซึมคิดถึงเอ็ง ทั้งโหวดหวิวพิณเดี่ยวเสี่ยวเคยเล่น ต้องลำเค็ญอ้างว้างร้างเสียงเปล่ง เคียวเหน็บเสาสนิทหนาวร้าวเส็งเคร็ง ยิ่งเร้าเร็งความหมายที่ตายแล้ว แล้งปีนี้หนักหนาฟ้าขมุกขมัว ด้วยฝุ่นดินเปื้อนทั่วทุกทิวแถว ลอยไปเปื้อนขอบฟ้าท้องนาแนว วัวควายเอ็งไม่แคล้วต้องล้มตาย ปิดตำนานลูกข้าวเหนียวบักเสี่ยวเอ๋ย วันเวลาล่วงเลยไร้ความหมาย เอ็งอยากมีเงินทองกองมากมาย จุดสุดท้ายสูญเสียจิตวิญญาณ คูนบ้านนาบานสะพรั่งพร่ำมนตรา เถิดคืนมากล่อมบรรเลงเพลงอีสาน รับมาลัยคล้องร้อยสร้อยดอกจาน แหล่ขับเพลงพื้นบ้านของแผ่นดิน เหลืองรวีฝนสีทองผองบักเสี่ยว เจือดอกเสี้ยวบุปผารัตนโกสินทร์ คือมนต์ขลังลาวนาแห่งวารินฯ สาดสายศิลป์ทิพย์เกสรสู่ม่อนเมือง ลำนำเศร้าราชพฤกษ์ยามดึกนี้ ธารน้ำตายังไหลปรี่ตราบฟ้าเหลือง บักเสี่ยวเอ๋ยหากอยู่ไหนไม่รุ่งเรือง หยุดฝันเฟื่องกลับมา ณ บ้านเรา ฝันสีทองคูนเหลืองแม้เรืองหล้า แม้แต่ฟ้าขลิบทองก็หมองเหงา สิ้นบักเสี่ยวเปลี่ยวใจไม่เห็นเงา ปลาร้าเน่าปลาแดกหอมก็ตรอมแล้ว! ---------------------------------- เมื่อลมแล้งมาเยือน...ดอกไม้แห่งอีสานบ้านนาก็บานไสว ดอกไม้หน้าแล้งมีความหมายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ทำให้ข้าพเจ้าประหวัดไปถึงดอกคูน หรือ *ราชพฤกษ์* ดอกไม้ประจำชาติสยาม สีเหลืองทอง ผลิดอกคลุมต้นในฤดูคิมหันต์ ราวสายฝนสีทองในหน้าแล้ง ดูอัศจรรย์ที่ฝนสีทองไม่ทำให้น้ำเจิ่งนอง เขียนบทกวีแทนใจมิ่งมิตรอีสาน ในนามบักเสี่ยวแห่งทุ่งนาและลอมฟาง บอกเล่าเรื่องราวแห่งความประทับใจและความเศร้าในยามนี้ ลำนำราชพฤกษ์ลาลานจึงมุ่งให้มิ่งมิตรชาวอีสานผู้ทิ้งถิ่น ได้กลับไปเยือนผืนแผ่นดินมาตุภูมิในยามสงกรานต์เทศกาล กลับไปรับฟังปัญหาและความทุกข์ยากของผองมิตรบนที่ราบสูง ที่บางคราวอาจจะถูกทิ้งและหลงลืมไปกับกาลเวลา กลับไปซับน้ำตาบรรพบุรุษ และสืบทอดประเพณีอันดีงาม เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนความหมายแห่งวัฒนธรรมแผ่นดิน ไม่เป็นคนหลงลืมรากเหง้าปู่ย่าตายาย อยู่สุดหรูอยู่ในเมืองวิวัฒน์ บทกวียังมุ่งให้เห็นคุณค่าของบักเสี่ยวและญาติสนิทมิตรสหาย ตราบใดที่ดอกคูนสีทองยังบานแต่งท้องทุ่งอยู่ทุกคิมหันตฤดู ตราบนั้นจงเชื่อมั่นว่ายังไม่อับจนหนทาง.... แด่ *บักเสี่ยว บักสิเด๋อ* แห่งสำโรงบ้านนา อุบลราชธานี หากมีโอกาสจักกลับไปชื่นชมดอกคูนโปงลางและเสียงแคนอีกครั้ง *หมายมั่นสัญญา*
15 กรกฎาคม 2552 21:22 น. - comment id 1014980
ณ สายลมพัดผ่านผิวระแห้ง เหมือนหน้าแล้งแทงเสียดเบียดผิวหนัง เห็นต้นคูณคูณหลากซากตายซัง เหมือนความหลังนางน้องเปลี่ยนสองใจ โอ้อาลัยคูณเก่าคราวหยอกล้อ เสียงแคณคลอเสียงเศร้าเคล้าน้ำใส ที่รินหลั่งรดรินอาบแก้มใจ คูณอาลัยในวันยามผันแปร รักแลเคารพ พี่สาวแสนสวย น้ำใจงาม นามพี่พุดไพร ที่หนึ่งเสมอ