บนร่องรอยรูปลักษณ์อักษรา มิอาจแจ้งเจตนานัยอักษร ได้ลึกซึ้งถึงรสทุกบทตอน และมิอาจสะท้อนถึงห้วงใจ คำบิดามารดาด่าแช่งบุตร เพื่อให้หยุดทางมารพาลนิสัย เจตนารักแท้อยู่ภายใน ตักเตือนให้ได้ดีมีปัญญา คำสุภาพอาบแฝงแกล้งเสียดส่อ หมายผู้ฟังให้ก่อไฟโทสา เกิดความเจ็บและอายขายหน้าตา เจตนากล่าวคำทำร้ายกัน สองคำนี้คำไหนใช่คำหยาบ? คำสุภาพเพื่อทำลายหมายเย้ยหยัน หรือคำด่าว่ากล่าวด้วยผูกพันธ์ บัณฑิตท่านให้ดู..เจตนา หากกล่าวถ้อยร้อยพจน์ด้วยรสโกรธ มุ่งลงโทษผู้ใดด้วยภาษา คำนั้นแหละคือคำ..ผรุสวาจา เพราะเจตนาหยาบซ้อนซ่อนคำกล หากกล่าวถ้อยด้อยสุภาพอาบกระด้าง ตักเตือนสร้างความเข้าใจไร้สับสน รักหวังดีไมตรีจิตสิ้นพิษปน เจตนาจากกมล...ไม่หยาบคาย เชือดนิ่มนิ่ม...ยิ้มด้วยปาก ถากด้วยตา แม้นภาษาไพเราะเสนาะหลาย เปี่ยมสุภาพสุขุมทุกกลุ่มกาย คือผู้ร้ายตัวจริงสิงผู้ดี อย่าเข้าใจว่าคำหยาบจะหยาบแท้ อย่าติดแค่กรอบสุภาพฉาบกลสี อย่าคิดว่าด่าไพเราะเยี่ยมวจี กรรมเช่นนี้..อุกศล..ผลร้อนเอย
31 มีนาคม 2548 09:53 น. - comment id 447035
สาธุ พี่ดอกแก้วค่ะ กราบขอบคุณ ที่พี่ให้ คำสอนสั่ง คำหยาบคาย หากได้แค่เพียงคิด ส่อจริต เปล่งมาวาจาไซร์ มโนกรรม วจีกรรม กรรมหมองมัวค่ะ จะระวัง ค่ะพี่
31 มีนาคม 2548 09:56 น. - comment id 447036
แวะมาเยี่ยมครับพี่ดอกแก้ว....
31 มีนาคม 2548 10:47 น. - comment id 447053
หมื่นคำหยาบกล่าวขานมานานนัก กลับประจักษ์แค่คำไม่หวั่นไหว เพราะธรรมทองป้องบังทุกวังใจ คำร้ายใดไม่อาจมาวาดลาย โลกธรรมย้ำอยู่รู้ตระหนัก ทั้งโลภรักเยินยอพ้อความหมาย ดุจลมกายหายใจจากในกาย พริบตาหายสลายสิ้นไม่ยินดี เอาคมมีดกรีดแทงลงแท่งหิน ฤาแดดิ้นปวดแสบแทบวิ่งหนี หินเป็นหินทนได้ให้แทงฟรี มีดคมดีกลับบิ่น...คมสิ้นไป ธรรมดานิยามมนุษย์ทุกยุคมา หลากหลายค่าราคาต่างนิสัย อีกฝูงสัตว์เต็มหล้า...ป่าเวไนย์ ต่างจิตใจสูงต่ำคำสื่อมา จิตใจสูงวาจาสูงมุ่งไปเถิด สิ่งประเสริฐใดใดในโลกหล้า เพราะเอาจิตดวงดีตีราคา ปราบคำด่าคำหยาบราบคาบไป เพราะคำหยาบทั้งหลายไร้สาระ ฤาสัจจะให้ประวิงจริงไฉน ฤาเพียรสาดน้ำมันวาวเข้ากองไฟ ให้ลุกใหม่เผาลน...จนใจเอง สวัสดีนะครับพี่ดอกแก้ว นานแล้วไม่ได้เจอกันในบ้านแห่งนี้เพราะว่าไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาหน่ะครับ ยังคงคิดถึงมิ่งมิตรนักกลอนทั้งหลายอยู่เสมอมา ในเรื่องคำพูดนี้มีให้ศึกษามากมายและโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพุทธศาสนา บัญญัติไว้ศีลเลยทีเดียว แต่บางคราวก็อาจจะเป็นไปได้ว่า: บนร่องรอยรูปลักษณ์อักษรา อาจสื่อสารราคาค่าอักษร ก่อความหมายลึกล้ำสู่คำกลอน แบ่งสันดอนจากใจมาใส่ความ อ่านบทกวีแล้วพลอยให้อารมณ์ลื่นใหลไปด้วยหน่ะครับเลยเขียนซะยาวเลยตามอารมณ์กลอนครับ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันหน่ะครับ คงไม่เบื่ออ่าน
31 มีนาคม 2548 10:48 น. - comment id 447055
ขอบคุณครับ ดีนักครับ
31 มีนาคม 2548 11:19 น. - comment id 447079
ลึกซึ้งกินใจในคำบอก รู้ซึ้งในคำเล่าที่กล่าวขาน รู้แจ้งในน้ำคำคนรอบข้าง รู้ละรู้ว่างตรงกลางของจิตใจ มาชื่นชมการสอนของพี่ดอกแก้วค่ะ.......
31 มีนาคม 2548 11:29 น. - comment id 447089
ค่ะ เป็นบรรทัดฐานอยู่แล้ว เหมือนกับศาลที่ตัดสินโดยดูเจตนา แต่ศาลนั้นจะว่าไปแล้วอาจไม่เที่ยงธรรม 100% เพราะอาจตัดสินผิดได้ โดยหลักฐานและชั้นเชิงของทนายความผู้จัดเจน แต่ธรรมชาติ (ก็คือธรรมนั่นเอง) ตัดสินกรรมดี-ชั่วแห่งสรรพสัตว์ทั้งหลายเที่ยงแท้แน่นอนยิ่งนัก เราจึงควรตระหนักในการกระทำที่มีเจตนาเป็นหลักเจ้าค่า จะได้ไม่ทำอะไรผิด จนต้องได้รับผลกรรมที่ทำไม่ดีนั้น จ้า พี่ดอกแก้วมาพร้อมกับคำสอนดีดีเสมอ ขอบคุณอีกครั้งจ้า
31 มีนาคม 2548 11:42 น. - comment id 447104
ขอบคุณอาจารย์....มากครับ ที่ส่งหนังสือ เพียงเงารักมาให้ ขอให้อนิสงฆ์จงเกิดแก่ท่านผู้ใจบุญด้วยเถิด หนังสือเล่นมี้มีประโยชน์แก่ผมมากครับ ต้องขอขอบคุณอย่างยิ่งครับ
31 มีนาคม 2548 12:45 น. - comment id 447128
วจีกรรมนำผลดลบันดาล ก่อสันดานเลวดีมีผลให้ เกิดแก่ตนผู้สร้างรับเอาไป สุดท้ายไซร้สร้างกรรมดีย่อมได้ดี ... ... ขอเก็บไว้สอนตน ... ระงับโทสะ ... สร้างสติแก่ตนค่ะ ... ... ขอขอบคุณพี่ดอกแก้ว ...
31 มีนาคม 2548 13:09 น. - comment id 447141
เชือดนิ่มนิ่ม...ยิ้มด้วยปาก ถากด้วยตา แม้นภาษาไพเราะเสนาะหลาย เปี่ยมสุภาพสุขุมทุกกลุ่มกาย คือผู้ร้ายตัวจริงสิงผู้ดี ชอบบทนี้ของกลอนมากเลยอ่ะค่ะพี่ดอกแก้ว ..... ถ้าเจอคนแบบนี้จริงๆ น่ากลัวนะคะ แวะมาทักทายค่ะ
31 มีนาคม 2548 14:21 น. - comment id 447188
ถูกต้องนะคร๊าบบบบบบบ สาธุ.....................
31 มีนาคม 2548 14:25 น. - comment id 447194
กลอนพี่นี่ให้ข้อคิดดีนะคะ อ่านแล้วทั้งเพราะและให้เราได้คิดตาม เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ ไม่มีข้อติเลยค่ะ
31 มีนาคม 2548 14:35 น. - comment id 447204
เคยมีผู้ใหญท่านหนึ่งสอนไว้เหมือนกันค่ะ.. เลยขอแจมหน่อยค่ะ.. บางคำกล่าวอาจเร่าร้อน.....ดังไฟ แฝงสิ่งลึกภายใน..............ซุ่มส้อน* เจตนาเข่นฆ่าใคร...............หาไม่ ดูแน่จึงคิดค้อน..................ห่ามแท้หวังดี มีเพื่อนหลายคนเหมือนกันที่ เป็นประเภทขวานผ่าซาก แต่ก็ไม่มีพิษภัยอะไรค่ะ พี่ดอกแก้ว..เพียงแต่เราต้องรับให้ทันเท่านั้นเอง.. รักษาสุขภาพด้วยค่ะ กุ้งหนามแดง
31 มีนาคม 2548 14:44 น. - comment id 447217
++ ++ ดูแลสุขภาพนะคะ.. ++ +++
31 มีนาคม 2548 14:52 น. - comment id 447223
ชอบบทที่ตรงกับลำน้ำน่าน...ลำน้ำน่านเองก็สื่อได้ไพเราะไม่แพ้กันครับ... บนร่องรอยรูปลักษณ์อักษรา อาจสื่อสารราคาค่าอักษร ก่อความหมายลึกล้ำสู่คำกลอน แบ่งสันดอนจากใจมาใส่ความ ขอผมมั่งครับพี่....อาจไม่ลื่นนักแต่อยากร่วมแจมครับ อันคำหยาบจาบจ้วงจากวจี ดูให้ดีอย่างลึกซึ้งถึงความหมาย เจตนาสื่อให้เห็นเป็นอย่างไร เสแสร้งใส่หรือจริงใจในข้อความ เชือดนิ่มนิ่มด้วยคำหวานหว่านยาพิษ หน้าสนิทแนบเนียนทำยามไถ่ถาม สวมสูทโก้เนคไทน์หรูดูงดงาม กลับต่ำทรามมีแต่มาดขาดคุณธรรม..ฯ อาจจะกลอนแรงไปนิดนึง...
31 มีนาคม 2548 15:16 น. - comment id 447234
คมกริบเลยค่ะพี่ดอกแก้ว....เชือดเฉือนมาก พู่ยุ่งมากๆเลยอะค่ะ เห็นพี่ On MSN แต่ไม่ได้คุยเลย thaipoem พู่ก็หายไปเป็นปีเลย ยังจำพู่ได้ป่าวคะ
31 มีนาคม 2548 17:18 น. - comment id 447267
บาดตา บาดจิต บิดใจ ใบ้ตะบึง.. ไพเราะลึกซึ้งครับ..จากห้วงใจในหลืบตรม
31 มีนาคม 2548 21:14 น. - comment id 447330
หยาบด้วยคำพูด หยาบด้วยใจคิด ก็ล้วนแต่หยาบ ค่ะ
31 มีนาคม 2548 21:42 น. - comment id 447356
น้ำร้อน มาปลาตกใจ ว่ายเต้นตื่น ปลาเป็น อยู่ชีพยืน ย้งทนไหว น้ำเย็น มาปลาอ่อนปวกเปียกไป ปลาตาย ใจด้วยน้ำหวานพานม้วยมรณ์
31 มีนาคม 2548 22:39 น. - comment id 447397
คำตรงแท้เปิดเผยที่ดูหยาบอาจออกมาจากจิตละเอียด .. คำสุภาพซ้อนเร้นแฝงความนัยที่ดูละเมียดอาจออกมาจากใจหยาบ .. : ]
1 เมษายน 2548 00:08 น. - comment id 447435
@...นู๋นิ่ม... เขียนไว้ให้อ่านกันค่ะ เพื่อความไม่ประมาทในการฟังและการคิด โดยเฉพาะการแสดงความรู้สึกต่อคนใกล้ตัว ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียนเสมอนะคะ
1 เมษายน 2548 00:09 น. - comment id 447437
@...บินเดี่ยวหมื่นลี้... สวัสดีค่ะบินเดี่ยวฯ กำลังใจจากคนใจที่แวะมาเสมอ ถึงจะพูดน้อย แต่ก็ขอบคุณมากนะคะ...
1 เมษายน 2548 00:09 น. - comment id 447438
@...บุรุษแห่งสายน้ำ... เป็นโชคดีที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ และได้พบพระพุทธศาสนา มีโอกาสเรียนทางสร้างปัญญา ออกจากป่าความหลงดงมืดมน เรียนรู้ศีลอาภรณ์สอนให้งาม กายวาจาไม่ทรามสร้างกุศล รู้จักโลกเปลี่ยนไปในวังวน รู้จักตนรู้จักเขาและเข้าใจ คำ โลกะ..หายนะ คือความหมาย รากฐานความวุ่นวาย...คืออนุสัย หากคิดพ้นกองฟอนตลอดไป ต้องล้างใจให้สะอาดปราศละออง เพียรชำระผละออกนอกอัตตา ไม่เติมฟืนโทสาเข้าสนอง กายวาจาจะงามตามครรลอง ด้วยเพ่งมองทุกสิ่งผ่าน...ด่านอนิจจัง หยิบความหมายสายศีลมาอรรถา ให้รู้เรื่องวาจาสร้างทุกขัง เป็นผู้พูดต้องพูดอย่างระวัง เป็นผู้ฟังต้องวางใจอย่าให้ตรม รักษาทางรักษาธรรมนำคุณค่า ไม่พ่ายแพ้อวิชชามาทับถม ไม่เป็นไฟไม่เป็นฟืนหรือมีดคม เพียงอารมณ์หนึ่งผ่าน..ไม่พล่านใจ ทุกสิ่งมีความเกิดกำเนิดมา แล้วต้องดับอีกคราอย่าหวั่นไหว คำพูดดีและไม่ดีต้องจากไป ไม่เคยเหลืออะไรในไตรลักษณ์ นานจริงๆค่ะที่ไม่ได้พบกัน พี่ดอกแก้วเองก็ไม่ค่อยได้เข้ามาบ่อยเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็พยายามมาเสมอเท่าที่มีเวลาว่าง ขอบคุณบทกลอนจากบุรุษแห่งสายน้ำนะคะ เปรียบเทียบได้งดงามและภาษาไพเราะมาก ปรากฏความสว่างและความสงบอยู่มากมาย...ไม่เบื่ออ่านหรอกค่ะ
1 เมษายน 2548 00:10 น. - comment id 447439
@...แทนคุณแทนไท... เป็นอีกท่านหนึ่งที่ไม่ค่อยได้พบกันนัก ขอบคุณมากค่ะที่เข้ามาอ่านและให้กำลังใจไว้นะคะ
1 เมษายน 2548 00:10 น. - comment id 447440
@...แก้วนีดา... เป็นความรู้ที่ได้จากศึกษา และนำมาสังเกตถึงเหตุผล เลือกกระทำสิ่งใหม่ในใจตน ไร้ร้อนรนด้วยพระธรรมนำร่มเย็น ขอบคุณค่ะแก้วนีดา เป็นความรู้ที่พี่ดอกแก้วได้จากการศึกษาธรรมโดยเฉพาะพระอภิธรรมน่ะค่ะ ที่แจกแจงเรื่องเกี่ยวกับวจีทุจริตไว้อย่างละเอียดชัดเจน ขอบคุณที่แวะมาร่วมสนทนานะคะ
1 เมษายน 2548 00:10 น. - comment id 447441
@...ทิฆัมพร... ชีวิตนี้น้อยนักจักต้องเร่ง ให้กล้าเก่งต่อสู้หมู่ทุกขัง คราวกระทบอารมณ์ต้องระวัง เรื่องชอบชังคือกิเลสเขตกงเกวียน จึงเพียรสร้างเพียรสานงานบางสิ่ง ด้วยใจจริงฝากไว้ในขีดเขียน มุ่งถนอมน้ำใจผู้ใฝ่เรียน หนึ่งคนเพียรเพื่อผูกปลูกสัมมา และน้อมนำคำสอนแต่ก่อนกาล มาสานสืบไว้ให้เผื่อศึกษา เป็นสมบัติที่รับจากบิดา เจตนาคือกรรม..สิ่งสำคัญ พี่ดอกแก้วนำคำสอนเกี่ยวกับศีลมาเขียนไว้บ้าง วจีทุจริตนั้นหากมองเผินๆแล้วอาจไม่ทราบว่าเป็นความทุจริตประเภทไหน หรือบางทีหลงทำไปด้วยความไม่รู้ การอยู่ร่วมกับผู้อื่นด้วยความสุขจึงต้องระวัง ทั้งในฐานะของผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ.. นั่นคือ ความรอบคอบในการตั้งเจตนานั่นเอง ที่เป็นกฏแห่งกรรมดันยุติธรรมยิ่ง ขอบคุณที่แวะมาอ่านและแสดงความคิดเห็นนะคะทิฆัมพร
1 เมษายน 2548 00:10 น. - comment id 447443
@...น้องไก่ ผลิใบสู่วัยกล้า... ด้วยความยินดีค่ะน้องไก่ และดีใจมากที่ได้ทราบว่าเป็นประโยชน์แก่น้องไก่ด้วย ขอบคุณมากนะคะที่มาอ่านและแจ้งให้ทราบ จะได้นำไปบอกน้องกิ๊ฟให้ทราบด้วยค่ะว่าถึงมือผู้รับแล้ว
1 เมษายน 2548 00:11 น. - comment id 447445
@...หยกสีหม่น... วจีกรรมทำไว้ไม่ดีก่อน จึงต้องร้อนหูตนทนฟังเสียง หรือพบเห็นเรื่องด่าที่ร้อยเรียง นี่เป็นเพียงผลไม่ดีที่เราทำ....มาเอง เพราะในการให้ผลของผรุสวาจานั้น พระพุทธองค์ทรงแสดงว่า..โทษของ ผรุสวาจา คือการกล่าวคำหยาบ อย่างหนักคือเกิดในอบาย อย่างเบาที่สุดย่อมได้ยินเสียงที่ไม่น่าพอใจอยู่เสมอ เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ไม่ทราบหรอกนะคะว่าหยกสีหม่นจะนำไปสอนตนในแง่ไหนบ้าง แต่ดีใจมากที่เข้ามาทักทายและขอบคุณมากค่ะที่เข้ามาอ่านและเห็นประโยชน์
1 เมษายน 2548 00:11 น. - comment id 447446
@...น้องอุ๊ สาวดำคนขยัน... บทกลอนนี้พี่ดอกแก้วนำเรื่องเจตนาในการกระทำขึ้นมาเป็นบทสำคัญค่ะ เจตนาที่ประกอบในคำพูดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ยิ่งคนที่คิดค้นหาวิธีด่าผู้อื่นด้วยคำที่สุภาพเท่าไหร่ ยิ่งหมายถึงความตั้งใจที่จะด่านั้นมีมาก ยิ่งใช้เวลาในการเลือกเฟ้นคำพูดมากกว่าโพล่งคำหยาบออกไป คนเช่นนี้ก็เป็นคนที่น่ากลัวอยู่ค่ะ แต่ถ้าเราฝึกฝนใจตนไม่ให้ยึดถือในความเป็นตัวตนของเราให้มากขึ้น ความเจ็บปวดใจที่เกิดขึ้นก็จะน้อยลงหรืออาจไม่มีก็ได้ค่ะน้องอุ๊ ขอบคุณที่แวะมานะคะ
1 เมษายน 2548 00:11 น. - comment id 447448
@...ขอโทษครับ...ผมเมา... ครั้งพี่ดอกแก้วลองเปลี่ยนแนวมาตั้งเป็นคำถามบ้าง เกี่ยวกับเรื่องของวจีทุจริต ..ผรุสวาจา คือการพูดหรือการกระทำใดๆ ในสิ่งที่เป็นความจริง หรือไม่เป็นความจริงก็ตาม ด้วยคำที่สุภาพหรือไม่สุภาพก็ตาม โดยมีเจตนาจะให้เขาเจ็บใจ ไม่สบายใจ หรือร้อนใจ เช่น การด่าว่าถึงปมด้อย หรือเป็นสัตว์บางชนิด และการประชดประชันด้วยคำที่สุภาพ เป็นต้น อย่างนี้เป็นการพูดคำหยาบในทางธรรม ขอบคุณที่แวะมาทักทายนะคะ
1 เมษายน 2548 00:11 น. - comment id 447449
@...ไอติมรสต้มยำ... ขอบคุณมากค่ะน้องไอติมฯ และอย่าคิดว่าเป็นการสอนอะไรเลยนะคะ คิดเสียว่าเป็นอีกมุมมองหนึ่งจากคนที่ต่างอาชีพกันก็แล้วกัน ทราบว่าได้ประโยชน์จากกลอนนี้ก็ดีใจแล้วค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาทักทายนะคะ
1 เมษายน 2548 00:12 น. - comment id 447450
@...น้องกุ้งหนามแดง... บางครั้งคราวร้าวใจเพราะไม่คิด ลืมใจมิตรพ่อแม่แพ้ภาษา บางครั้งคราวร้อนเร่าเผาอุรา ลืมคิดถึงเจตนาที่หวังดี บ่อยครั้งที่พี่ดอกแก้วได้ทราบถึงความขัดแย้งของคนในครอบครัวเดียวกัน ระหว่างพ่อแม่กับลูก ...ที่ใช้ภาษาขัดใจกัน ทั้งที่ต่างก็รักกันมากมาย... หรือครูกับศิษย์ที่ไม่ค่อยถูกกันเพราะการดุว่ากล่าว หรือเพื่อนกับเพื่อน ...ทั้งที่หวังดีต่อกันมาก ความไม่เข้าใจกันเหล่านี้ ทำลายเวลาที่มีค่าไปมากอย่างน่าเสียดาย ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนนะคะ และขอบคุณมากในความห่วงใยค่ะ
1 เมษายน 2548 00:12 น. - comment id 447451
@...น้ำใส... ขอบคุณค่ะน้องน้ำใส ตอนนี้ใช้ทั้งยาและกุศลรักษาโรคภัยค่ะ ดีใจที่แวะมานะคะ
1 เมษายน 2548 00:12 น. - comment id 447452
@...มนต์กวี... จิตวิจิตรลิขิตคำทำเล่ห์กล อกุศลยิ่งมากหลากภาษา ยิ่งสุขุมลุ่มลึกเจตนา บาปยิ่งกล้าหน้ากากแปลงแสร้งสำรวม เห็นด้วยค่ะ ว่าบทกวีของบุรุษแห่งสายน้ำ ลำน้ำน่าน ..นั้นไพเราะและสมบูรณ์มาก และของมนต์กวีก็น่าประทับใจเช่นกันในมุมมองที่แสดงออกมา...ที่เจตนา .....อันคำหยาบจาบจ้วงจากวจี ดูให้ดีอย่างลึกซึ้งถึงความหมาย เจตนาสื่อให้เห็นเป็นอย่างไร เสแสร้งใส่หรือจริงใจในข้อความ.... ขอบคุณมากค่ะที่ร่วมแสดงความคิดเห็นไว้
1 เมษายน 2548 00:13 น. - comment id 447453
@...น้องพู่กัน... เป็นคำกลอนที่กล่าวถึงความหมายของคำว่า ..ผรุสวาจา.. ที่แปลเป็นภาษาไทยว่าคำหยาบ ..แต่ต่างจากคำหยาบในความหมายของภาษาไทยไปบ้าง ขอบคุณที่แวะมาทักทายนะคะ แม้จะไม่ได้เข้ามานานแต่ก็จำน้องพู่กันค่ะ... ถ้าว่างแล้วก็เข้ามาคุยกันอีกนะคะ
1 เมษายน 2548 00:13 น. - comment id 447454
@...keep love... นึกไม่ถึงว่ากลอนบทนี้จะมีอานุภาพถึงเพียงนั้น...๕๕๕ ไร้เจตนาที่จะเชือดเฉือนใคร...เพียงตั้งใจจะบอกบางเรื่องให้ทราบเท่านั้นเองค่ะ ขอบคุณกับความเห็นที่เล่นคำซะเหลือเกิน...ช่างอารมณ์ดีจริงๆ ขอบคุณที่แวะมาทักทายนะคะ
1 เมษายน 2548 00:14 น. - comment id 447457
@...น้องอัลมิตรา... ขอบคุณที่แวะมาคุยกันนะคะ.. ความเห็นของน้องอัลมิตรานั้นถูกต้องค่ะ แต่เป็นเพียงบางส่วนในสิบประการของคำหยาบทางพระพุทธศาสนา และขอถือโอกาสนี้นำเรื่องอักโกสวัตถุ (ที่ลูกศิษย์ของพี่ดอกแก้วนำมาเล่าไว้ในกระทู้ที่ลานธรรม) มาให้ท่านอื่นได้อ่านด้วย คือเรื่องที่ใช้สำหรับด่าในโลกนี้มีอยู่ ๑๐ อย่างค่ะ ซึ่งมีทั้งแบบต่ำ และแบบสูง คือ ๑) ชาติ คำด่าที่เกี่ยวกับเชื้อชาติต่ำ เช่น คำว่า ชาติไพร่ ชาติขี้ข้า ชาติยาจก ชาตินักเลง ฯลฯ เกี่ยวกับชาติสูง เช่น ผู้ดีแปดสาแหรก มหาเศรษฐี เป็นต้น (๒) ชื่อ คำด่าเกี่ยวกับชื่อต่ำ เช่น ด่าว่า ไอ้ทึ่ม ไอ้ทุย คำด่าที่เกี่ยวกับชื่อสูง เช่น แกล้งเรียกว่า คุณหญิง เจ้าคุณ ท่านหมื่น เป็นต้น (๓) สกุล คำด่าเกี่ยวกับสกุลต่ำ เช่น ด่าว่า แกมันสกุลหัวขโมย สกุลล่อลวง สกุลมักง่าย คำด่าเกี่ยวกับสกุลสูง เช่น ด่าประชดว่า สกุลเจ้านาย สกุลเศรษฐี เป็นต้น (๔) การงาน คำด่าเกี่ยวกับอาชีพต่ำ เช่น คนตีเหล็ก คนทุบหิน คนขนขยะ เป็นต้น คำด่าเกี่ยวกับการงานอาชีพสูง เช่น ช่างทอง ช่างเงิน พ่อค้า ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน เป็นต้น (๕) วิชา คำด่าที่เกี่ยวกับวิชาต่ำ เช่น มีวิชาขับรถ วิชาตัดผม วิชาปั้นโอ่ง ฯลฯ คำด่าเกี่ยวกับวิชาสูง เช่น หมอดู หมอยา เป็นครู อาจารย์ เป็นต้น (๖) โรค คำด่าเกี่ยวกับโรคต่ำ เช่น โรคเรื้อน กุฏฐัง ขี้กลาก เกลื้อน ฯลฯ คำด่าที่เกี่ยวกับโรคสูง เช่น โรคเส้นประสาท โรคหัวใจ โรคกระเพาะอาหาร เป็นต้น (๗) รูปร่างสัณฐาน คำด่าเกี่ยวกับรูปร่างสัณฐานต่ำ เช่น อ้วน ผอม เตี้ย สูง แคระ ค่อม ฯลฯ คำด่าเกี่ยวกับรูปร่างสัณฐานสูง เช่น สวย เก๋ สง่า องอาจ กล้าหาญ เป็นต้น (๘) กิเลส คำด่าเกี่ยวกับกิเลส มีแต่ฝ่ายต่ำอย่างเดียว เช่น ด่าว่า เจ้าโทสะ คนขี้อิจฉาริษยา คนมีตัณหาจัด มีทิฐิมานะมาก เป็นต้น (๙) อาบัติ คำด่าเกี่ยวกับอาบัติต่ำ เช่น ด่าว่า เป็นปาราชิก สังฆาทิเสส คำด่าเกี่ยวกับอาบัติสูง เช่น อาบัติปาจิตตีย์ ทุกกฏ เป็นต้น (๑๐) คำด่าคำสบประมาทอย่างอื่นๆ คำด่าต่ำ เช่น ใช้คำหยาบคายต่างๆ มีด่าพ่อ ด่าแม่ เป็นต้น คำด่าสูง เช่น ด่าว่า สันดานชั่ว เลวทราม สัตว์ดิรัจฉาน เป็นต้น ขออภัยที่ใช้โอกาสนี้นำเสนอเรื่องของคำหยาบเป็นการเพิ่มเติมนะคะ ลงไว้เพื่อผู้ที่แวะเข้ามาอ่านทุกคนด้วยค่ะน้องอัลมิตรา
1 เมษายน 2548 00:16 น. - comment id 447459
@...ชัยชนะ... น้ำนิ่ง ...สิ่งที่เห็น อาจไม่เป็นดังเช่นนั้น ไหลลึก...เกลียวเชี่ยวพัน ชลสายนั้นอันตราย เป็นความคิดเห็นที่แน่มากค่ะ น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย ช่างหาคำสุภาษิตมาผูกเรื่องได้ดีมาก ขอบคุณมากนะคะที่มาร่วมแจม ปล. น้องกิ๊ฟฝากบอกว่า ..ข้อมูลเก่าของชัยชนะลบทิ้งหมดแล้วตามสัญญา ตอนนี้จะส่งหนังสือให้ใหม่ก็เลยส่งไม่ได้ ถ้าแวะกลับมาอ่านละก็..ช่วยเมล์ไปแจ้งข้อมูลให้น้องกิ๊ฟทราบด้วยนะคะ ที่ arpaka@hotmail.com
1 เมษายน 2548 00:17 น. - comment id 447462
@...ลักษมณ์... สองบรรทัดวัดใจในความคิด กระบวนจิตละเอียดนักหลักเหตุผล ขอบคุณในความเห็นที่เยือนยล ร่วมขุดค้น..เจตนา.คราเอ่ยความ ขอบคุณที่มาเป็นเพื่อนยามดึกนะคะ
1 เมษายน 2548 00:26 น. - comment id 447476
พี่ดอกแก้ว คำคม งดงาม ดั่งดอกแก้วหอมจรุง สอนใจได้ดีมากค่ะ น้อมจำ ขอนำไปใช้
1 เมษายน 2548 00:29 น. - comment id 447480
มาลากันไว้ก่อนล่วงหน้าครับ พี่ ก่อนถึงเวลาที่ผมต้องไป
1 เมษายน 2548 00:47 น. - comment id 447503
@...ร้อยฝัน... ขอบคุณมากค่ะในถ้อยคำที่อบอุ่น และการมาเยี่ยมเยียนยามดึก หลับฝันดีนะคะ
1 เมษายน 2548 00:52 น. - comment id 447514
@...แม่จิตร... เมื่อจำเป็นต้องไปจากไกลนั้น จงอย่าลืมคืนวันที่สดใส อย่าลืมเก็บคำพรก่อนจากไป และขอให้สบสุขทุกเส้นทาง กลับมาแล้วอย่าลืมของฝากนะคะ :)
1 เมษายน 2548 08:56 น. - comment id 447582
แอบมาบ้านพี่สาวค่ะ เดี๋ยวกานต์เข้าหน้าส่วนตัวเมื่อไร ขอเก็บไว้นะคะพี่ดอกแก้ว ตอนนี้แว้บมาแป๊บนึงค่ะ คิดถึงพี่ดอกแก้วนะคะ
1 เมษายน 2548 11:58 น. - comment id 447683
555 อันไฟกองนี้มันทำให้จิตใจคนเราสะท้านวิญญาณ์ได้ หักเหไปก็พ้นมนต์ห่วงมารแหละครับ ผมเห็นด้วยกับคุณลำน้ำน่านมากครับ แก้วประเสริฐ.
1 เมษายน 2548 12:44 น. - comment id 447699
มาเยี่ยมพี่ดอกแก้วค่ะ...พร้อมทั้งได้รับฟังข้อคิดที่มีประโยชน์...สู่การปฎิบัติได้อย่างชัดเจน..เป็นรูปธรรม.... พี่ดอกแก้ว...สบายดีมั้ยคะ..สุขภาพเป็นอย่างไรบ้าง....น้องยังเป็นห่วงค่ะ...คิดถึงพี่ดอกแก้วนะคะ...
1 เมษายน 2548 13:28 น. - comment id 447709
นี่คือ ความคิดเห็น ที่คุณดอกแก้ว รอคอย อยู่ทุกลมหายใจ เข้า ออก เข้า ออก.... เนื่องจากความรู้สึกดีๆต่อนักกลอนไทย ทำให้ไม่อยากเข้ามาวิจารณ์ ในระดับต้นๆ รอให้ผู้อ่าน ส่วนใหญ่ ได้มาซึมซับกันไปเสร็จ ตอนนี้ คุณดอกแก้ว คงมีความพอใจ ปลื้มใจ ที่ได้ฝากแนวคิดอันมีความหลักแหลมครึ่งหนึ่ง ลงให้น้องๆ และผู้อ่านที่ยังตามไม่ทันเกมได้ชม ได้เชื่อถือในข้อคิดที่เป็นหลักน่าสนใจไม่น้อย มาถึง การพิจารณา ในระดับ อ่านทะลุปรุโปร่ง คุณคงไม่ปฏิเสธที่จะรับรู้ ว่า มีคนเข้าใจงานนี้ดี ว่า เจตนาอันใด ที่คุณนำเรื่องเจตนามาเขียนขึ้น ในเนื้อความของเรื่อง คำหยาบ..โดย ดอกแก้ว คุณเน้นเรื่องเจตนาในการใช้ภาษา..โดย เทียบ เจตนาที่ต้องการขัดเกลาจิตใจลูกหลาน พ่อแม่มีเจตนาบริสุทธิ์ ถึงแม้ใช้คำไม่น่าฟังนัก กับ เจตนาของคนใช้ภาษาไพเราะด่าทอคนอื่น เป็นพวกผู้ดีที่มีใจร้าย สร้างภาษาด้วยใจหยาบ ในแง่นี้ งานของคุณให้สาระดีมาก ชี้ให้เห็นว่า ไม่ควรมองข้ามเจตนาของคน จากคำที่สื่อออกมา คราวนี้ เรามามองในแง่ของแรงผลักดันเจตนา คุณดอกแก้วเอง มีเจตนาอะไรลึกๆในการนำ เรื่อง ภาษาไพเราะ มาเป็นประเด็นในข้อคิด ปกติปุถุชน มักจะทนไม่ได้ ที่มีคนชื่นชมคนอื่น คนส่วนหนึ่งที่เข้ามาลงงาน และอ่านงานที่นี่ มีความคิดที่ตรงกันในแง่ของการสร้างงานดีๆ แต่ละคนก็อยากได้รับคำชื่นชม ว่า ไพเราะ และหลายคนก็หลงใหลในงานที่ไพเราะจับใจ ความหมายของความไพเราะ มีหลายระดับ.. ความไพเราะ เพราะความหมายและเรื่องราว กับ ความไพเราะ เพราะความสามารถในการสื่อ และความไพเราะ เพราะจิตวิญญาณที่เป็นกวี งานของคนหลายคน ไปได้ตรงจุดนั้นงดงาม และมันเป็นแรงกระตุ้นให้มีคนเข้าไปชื่นชม รวมทั้งคุณ... แต่...คุณ ไม่พร้อมที่จะยอมรับ สิ่งที่คุณทำไม่ได้ อย่างน้อยก็ยังทำไม่ได้ทุกกระบวนท่าในเชิงกวี จิตสำนึก บอกคุณว่า งานนั้นช่างไพเราะยิ่งนัก จิตใต้สำนึก บอกว่า อยากให้มีคนชมเราบ้าง และจิตระดับลึก บอกว่า อยากให้คนลดความ ปลื้มในภาษาที่ไพเราะเหล่านั้นลง เพราะว่า มันไพเราะจนไม่น่าจะเป็นชื่อของคนอื่นเขียน จิตสองส่วนผสมกับแรงผลักดันทางอารมณ์ ทำให้คุณ หาแง่ลบของภาษาที่ไพเราะมาจุดหนึ่ง คือ เจตนาที่อาจจะไม่ดี..ซึ่งก็เป็นไปได้ ไม่ผิด งานของคุณ ชิ้นนี้ จึงตราลงมาชัดเจนว่า คุณไม่ชอบงานเขียนที่มีภาษาไพเราะเหล่านั้น เพราะว่า มันสร้างความเจ็บปวดในใจคุณยิ่งนัก มันมีใครหรือเปล่า ทำให้คุณคิดว่า คุณโดนด่า ด้วยภาษาที่คุณเขียนไม่เป็น และไม่อยากเห็น เจตนาซ้อนในการนำเรื่องเจตนาในการใช้ภาษามาสร้างเป็นบททกลอน คือ คุณคิดทำลาย คุณอยากลดระดับคุณค่าของภาษาที่สวยงาม ของงานที่ไม่ใช่ชื่อของคุณ คุณดอกแก้ว... และคุณก็ตกหลุมพรางอย่างไม่มีทางขึ้นแล้ว ตอนนี้มีคนไม่ใช่น้อย ที่เห็นว่าคุณกำลังโกรธ แต่อายที่จะรับ ปรับออกมาเป็นกลอนแทน.. เพราะคุณได้ทำอย่างนี้มาหลายหนในช่วงนี้ มีคนเข้ามาลงความเห็นชี้นำทางให้คุณ ลดความรุนแรงทางอารมณ์ลงเหมือนกัน แต่คุณก็กลบเกลื่อนด้วยการไปยกบท พระพุทธศาสนามาเป็นคำตอบอ้างอิงแทน... คุณเป็นคนชอบเอาชนะ และชอบโต้คารม คุณอาจจะชนะในแง่นั้น และมีคนเข้ามาชม แต่ว่า คุณพ่ายแพ้ ในแง่ของชั้นเชิงธรรมกวี และคุณพ่ายแพ้ ในแง่ของจิตวิทยาสิ้นเชิง คุณหลงลงหลุมพราง ที่ต้องการดูอาการแค้น และวาทะของคุณเวลาที่มีความรู้สึกอยากชนะ ปล่อยให้คุณแสดงความสามารถอย่างเต็มที่ โดยไม่มีการโต้ตอบ เพื่อชั่งดูระดับศักยภาพ ใครหลายคนได้เห็นตลอดราวกับภาพฉายในจอ ยิ่งมีคนเข้ามาอ่าน และยิ่งคุณตอบมากเท่าไร คุณก็ยิ่งบ่งบอกเจตนาในการสร้างงานมากขึ้น มีคนเตือนให้คุณรักษาสุขภาพมากๆ น่าจะฟัง คุณเป็นคนดี ก็ดีแล้ว ที่จริงโลกก็ต้องการคุณ เป็นคนคิดสร้างสรรค์ มีศิลปะ มีอุดมการ แต่ว่า คุณอย่าไปบอกใครอีกดีกว่า ว่าศึกษาพระอภิธรรม เพราะว่า พระศาสดา เวลาที่มีคนด่าทอว่า ท่านเป็นขอทานในการออกบิณฑบาตอาหาร มิได้ทรงโต้แย้ง มิได้หลุดออกนอกขันติธรรม พระอภิธรรม นำจิตมนุษย์ไปสู่ปรมัตถ์.. ละวางได้ทั้งหมด บรรลุพระโสดา.เป็นอริยบุคคล แต่...คุณดอกแก้ว อ่อนไหว ตื้นเขิน คุณก็เหมือนคนธรรมดาที่ต้องการโต้ตอบให้ได้ คุณเป็นคนดี คุณเป็นคนมีความรู้วิชาชีพที่ดี แต่ นี่เป็นเว็บโลกาภิวัตน์ ไม่ใช่ห้องเรียนเล็กๆ ไม่ได้มีแต่ผู้ยังไม่รู้ที่ต้องคล้อยตามคุณเท่านั้น คนที่ศึกษาพระอภิธรรมระดับสูงกว่า..ยังมีมาก คนที่มีจิตวิเคราะห์ลึกกว่า..เป็นร้อยๆพันๆ และคนที่มีปณิธานกวีไกลกว่า..ก็น่าจะนับดูได้ ขอให้คุณดอกแก้ว ผ่อนคลายจากความเครียด อย่าไปคิดเดือดร้อนใจ กับ ภาษาไพเราะมาก หรือภาษาคำหยาบกระด้างที่ไหนต่อไปเลย ไม่มีใครหมายด่าใครให้เจ็บข้ำหรอก คนที่ด่ากันไปมา นั่นเป็นระดับตื้นๆเท่านั้น ก็บอกแล้วว่า คุณยังไม่เข้าข่ายที่จะสู้ระดับลึก คุณเป็นครูที่ดี ของคนที่ยังขาดความเชื่อมั่น เป็นหลักของคนที่ยังเยาว์ และเป็นมิตรกับ คนที่เข้ามาทักทาย มีความน่านับถือระดับนี้ แต่ คุณยังต้องเรียนรู้อีกหลายอย่าง.... อย่างน้อย ก็เรียนรู้ว่า คุณกำลังเป็นแบบเรียน สะท้อนจิตที่ไม่ชอบเห็นความเด่นดีของคนอื่น และพยายามจะต่อสู้ ด้วยมโนธรรม จริยธรรม กับจิตใต้สำนึกของตนเอง...โดยอาศัยปัญญา อำพราง ซ่อนเร้น..ความริษยาอาฆาตระดับลึก และแปรออกมา เป็นคำคมระดับอ่อนๆ เจือแค้น แต่กลับยิ่งบ่งบอกเจตนาที่เต็มไปด้วยกระด้าง กำลังใจจากมิตรสหายบริวาร คงช่วยให้คุณมี ความสุขแล้วนะ ปลดปล่อยความไม่สมหวังเถิด มีคนอยากให้คุณมีความสุข ทำงานอย่างรู้ระดับ ความสามารถของตน และ มีเจตนาที่บริสุทธิ์ขึ้น คุณเป็นตัวละครที่น่าสนใจมากค่ะ คุณดอกฯ...
1 เมษายน 2548 14:03 น. - comment id 447729
@...น้องกานต์... สวัสดีค่ะน้องกานต์ ขอบคุณที่แว้บมาอ่านนะคะ จะเก็บไว้ก็ไม่ขัดข้องค่ะ ....ด้วยความยินดียิ่ง
1 เมษายน 2548 14:10 น. - comment id 447735
@...แก้วประเสริฐ... เห็นด้วยอีกครั้งค่ะว่าบทกลอนของบุรุษแห่งสายน้ำนั้นไพเราะมาก และความหมายดีมากจริงๆ ขอบคุณที่แวะมานะคะ และขอบคุณมากสำหรับกำลังใจที่มอบให้เสมอ
1 เมษายน 2548 14:19 น. - comment id 447738
@...น้องราชิกา... ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ ขอบคุณในน้ำใจที่งดงามจากน้องสาวคนดีคนนี้นะคะ สุขภาพไม่ค่อยดีนัก แต่พยายามรักษาอยู่ค่ะ น้องราชิกาอย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยนะคะ
1 เมษายน 2548 14:38 น. - comment id 447750
@...คนที่เข้าใจงานของคุณ ... อ่านแล้วก็รู้สึกงุนงงในความเห็นที่บอกมา แต่เมื่อได้ทราบว่าติดตามงานเขียนเสมอมา จะด้วยวัตถุประสงค์ใดก็ตาม ก็ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ .. คงไม่มีสิ่งใดต้องอธิบายหรือโต้ตอบ แต่ขอแนะนำให้ Search คำว่า ..ผรุสวาจา..นะคะ อาจจะได้ความเข้าใจใหม่ว่า ..ที่มาของกลอนนี้มาจากบทธรรมโดยแท้ ขอแนะนำ link สักหนึ่งแห่งที่ไม่ใช่ของบ้านตนเอง ....ลองอ่านดูก่อนนะคะ เพราะเป็นข้อความของผู้อื่นที่โพสท์ไว้หลายปีแล้ว http://board.dserver.org/e/easydharma/00000231.html อย่าเสียเวลาทำในสิ่งที่ไม่ควรทำอีกเลยค่ะ โดยเฉพาะการคิดแทนหรือเดาใจใครอย่างนี้
1 เมษายน 2548 18:40 น. - comment id 447853
ดาวดวงนี้มีแสงทุกแห่งหน แต่บางคนมิยลอยู่มิรู้ค่า ดาวหนึ่งดวงส่องแสงนำชีวา กลับมองว่าริบหรี่เกินที่รอ โอ้ดวงดาวร้าวฤดีคงมีบ้าง แต่อย่าร้างความฝันหรือหวั่นท้อ สักคนหนึ่งคงมีที่ยังรอ ดวงดาวก่อความฝันนั้นเป็นจริง มาเป็นกำลังใจอย่าท้อนะ สู้ๆๆ
1 เมษายน 2548 18:41 น. - comment id 447854
ชีวิต ความคิด ความฝัน ของคนเราไม่เหมือนกัน คงจะดีไม่น้อย.. ถ้าได้ทำอะไรในสิ่งที่อยากทำ ได้เป็นเหมือนอย่างทีวาดฝันไว้ ตอนนี้ .. ฝันอะไรอยู่ล่ะ พยายามทำให้เป็นจริงนะ จะคอยเป็นกำลังใจให้
1 เมษายน 2548 22:32 น. - comment id 447928
การเข้าใจคนอื่นนั้นยาก แต่การเข้าใจตัวเองนั้นยากกว่า... สิ่งที่ทุกคนทำ ย่อมมีที่มา และมีผลเป็นที่ไป..ย่อมต่างจิต ผิดใจ.....สงบและมั่นคง..ก็ไม่ต้องคิดว่าความลึกของใจมนุษย์นั้นเท่าไร.. เยี่ยมเยียนคุณดอกแก้ว..ขอให้มีความสุขในสิ่งที่ทำ..สวัสดีครับ..
1 เมษายน 2548 23:22 น. - comment id 447946
กลอนออกจะดี เป็นคําหยาบตรงไหน
2 เมษายน 2548 12:05 น. - comment id 448060
@...oui... การมองเห็นของแต่ละคนย่อมต่างกันในจุดที่ยืน และทุกคนก็มีสิทธิที่จะยืนในจุดที่ต่างกันไป.. ขอบคุณมากนะคะสำหรับกำลังใจ :)
2 เมษายน 2548 12:22 น. - comment id 448064
@...สาเด.. เป็นนามที่เพิ่งเคยพบ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ... ขอบคุณมากค่ะที่แวะมา... และขอบคุณมากในกำลังใจที่มอบให้
2 เมษายน 2548 12:27 น. - comment id 448065
@...คุณผู้เฒ่าฯ... การเข้าใจตนเองนั้นยาก...อย่างที่ท่านผู้เฒ่าว่าไว้จริงๆ ซึ่งถ้าเข้าใจตนเองดีแล้ว ก็ไม่ยากที่จะเข้าใจคนอื่น ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนนะคะ ขอให้ปลอดภัยในทุกการเดินทางค่ะ
2 เมษายน 2548 12:36 น. - comment id 448068
@...qaqo... ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ และขอบคุณมากที่มาทักทาย...:) พี่ดอกแก้วอยู่ในแวดวงของการเรียนธรรมะค่ะ บ่อยครั้งที่พบเห็นการโต้ตอบคำถามในลานธรรมหลายแห่ง...แม้กระทั่งของตนเองที่มีลักษณะของการเอาชนะกันด้วยความรู้และความถือตัว..โดยลืมไปว่า ความเชื่อเป็นสิทธิของแต่ละบุคคล แล้วก็ยกหลักธรรมเฉพาะส่วนมาสนับสนุนคำอธิบายของตนเพื่อ..เกทับคู่กรณี (ขอใช้คำนี้นะคะ) ....ความรู้ทางทฤษฎีที่ปราศจากการขัดเกลาจิตใจจึงกลายเป็นโทษไปได้ เพราะเมื่อถกเถียงกันไปมากๆ ก็จะมีการยกคำสุภาพๆหรือพระพุทธพจน์บางอย่างมาเปรียบเปรยหรือเชือดเฉือนอีกฝ่ายหนึ่ง....ให้ลุกเป็นไฟมากขึ้น ซึ่งนี่ไม่ใช่การเผยแผ่ธรรมเพื่อธรรมทาน และเป็นที่สร้างเสริมกิเลสให้มากขึ้น ซึ่งเป็นผลเสียแก่ผู้ที่กระทำโดยตรง ในวจีทุจริตทั้งสี่ การพูดปด พูดส่อเสียด และพูดเพ้อเจ้อนั้นเป็นสิ่งที่เห็นง่ายและเข้าใจชัด ...ส่วนการพูดคำหยาบนั้น ยังมีแง่มุมของภาษาที่ใช้อีกด้วย .. จึงเป็นกลอนคำหยาบด้วยประการฉะนี้
2 เมษายน 2548 12:52 น. - comment id 448077
สวัสดีครับคุณพี่ ใครไม่รู้มาโพสต์ข้อความยาวๆเช่นเดียวกันกับข้างบนนี้ อย่างไม่มีต้นสายปลายเหตุ อย่างสำนวนที่คิดว่าตนเองเข้าใจคนอื่นเสียมากมาย ผมเลยต้องลบออกไปจากกระทู้ตะวันของผม แล้วเลยมีโอกาสแวะมาเยี่ยมเยียนคุณพี่ คุณพี่สบายดีนะครับ ยังไงก็คงต้องอดทนแหละครับคุณพี่ กับภาวะอันเข้ามากระทบ ทั้งบวกและลบ
2 เมษายน 2548 14:47 น. - comment id 448126
บทกลอนต่างๆที่ได้ลงไว้ อธิบายบทธรรมต่างๆได้ชัดเจน แม้ต้องเลือกใช้ถ้อยคำให้กระชับผ่านบทกลอน .. มาอีกรอบครับ :]
2 เมษายน 2548 18:09 น. - comment id 448239
มาเป็นกำลังใจให้พี่ดอกแก้วค่ะ ไม่ค่อยว่างค่ะช่วงนี้ เรียนเตรียมตัวเป็นแม่ผีเรือน เอ๊ย ศรีเรือนค่ะ เอิ๊กๆๆ อารมณ์ดีหรือยังคะ คิดถึงเสมอค่ะ
2 เมษายน 2548 21:07 น. - comment id 448358
@...คุณสดายุ... หลังจากที่ไม่ได้พบกันนาน มาพบกันคราวนี้..มีวิกฤติติดมือมาด้วย ไม่เป็นไรค่ะ ..ใช้สำนวนท่านผู้บริหาร พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส เป็นโอกาสที่จะได้สร้างความอดทนให้กล้าแข็งขึ้นกับโลกธรรมที่แวะเวียนมาให้ชม ขอบคุณมากนะคะที่กรุณามาแจ้งให้ทราบ ...
2 เมษายน 2548 21:09 น. - comment id 448360
@...ลักษมณ์... มาอีกรอบก็ขอบคุณอีกรอบค่ะ.... สามบรรทัดที่เป็นความคิดเห็นนั้น อ่านแล้วปิติใจมากค่ะ...
2 เมษายน 2548 21:13 น. - comment id 448365
@...น้องอุ๊ คนเมืองลิง... นึกว่าห่างหายไปไหนแล้ว ที่แท้ก็มีความจำเป็นอย่างนี้นี่เอง.. ว่าแต่เรือนที่จะไปอยู่นี่..อยู่ใกล้กับทาร์ซานและเจนหรือเปล่าคะ..อิอิ มีคนอารมณ์ดีมาเป็นกำลังใจให้..ก็ต้องอารมณ์ดีตามๆกันไปสิคะ...แม่ศรีเรือนจอมซน
15 เมษายน 2548 21:44 น. - comment id 453947
วันนี้ งงมากนะคะ เข้ามา search หา ชื่อพี่ดอกแก้ว เพื่อจะ นำ รูป พระในกระทู้ ไปลงกระทู้ ก็เลย แวะมาดูกระทู้นี้ เห็นคำตอบบางคำตอบ อึ้งไปเลยค่ะ คนดี...ใจเย็นนะคะ ใจเย็นนะคะ
22 เมษายน 2548 03:05 น. - comment id 457933
แต่งเก่งจังเลยอะ อ่านแล้วแบบมันคมอะ สุดยอดเลย เก่งจังอ่ะ
4 กรกฎาคม 2548 12:49 น. - comment id 488069
ตามปกติเมื่อมีเวลาผมจะเข้ามาอ่านงานของพี่ดอกแก้วที่ผมพลาดไปอยู่บ่อย ๆ เจองานชิ้นนี้มี นักจิตวิทยากำมะลอ เข้ามาโพสต์ไว้ยาว อ่านแล้วไม่ได้ความที่แน่ชัดซักอย่าง เห็นแต่จิตของเขาเอง ขณะที่เขียนโพสต์นี้ ผมคิดว่าควรได้รับเยียวยา ถึงอย่างไร พี่ดอกแก้ว ก็ยังเป็นที่พึ่งทางใจของผมตลอดไปครับ