ความยิ่งใหญ่ย่อมอยู่ในตัวงานแล้ว ( ธรรมกับการทำงาน ) วันนี้ เราอับอาย กลัดกลุ้ม ที่ต้องทนทำงานอยู่ในระดับที่ต่ำต้อย แม้ค่าจ้างก็ถูก จะพูดคุยกับคนมีระดับก็เกิดอาการหวั่นไหว เกรงๆ ขลาดๆ ชอบกล แต่ถึงอย่างไร เราอย่าได้ไปคิดดูหมิ่นดูถูกงานที่ทำว่า เป็นงานต่ำตามขั้นของเงินเดือนเป็นอันขาด เพราะไม่อย่างนั้น ชีวิตเราจะหมดค่า หมดความหมายไปทันที ให้คิดถือเสียว่า งานใดๆ ในโลกนี้ที่มนุษย์ทำกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นงานระดับผู้นำประเทศ งานธุรกิจ งานรับจ้าง หรือทำนา ทำสวน ก็ล้วนแต่เป็นงาน ที่ใหญ่เหมือนกันหมดทุกๆ งาน ต่างก็มีความสำคัญที่เท่าเทียมกัน แม้จะเป็นงานกวาดถนน งานเก็บขยะ ล้วนแต่เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่เราไปหลงสมมุติ ไปหลงคิดกันเอง ว่างานอยางนั้นใหญ่ งานอย่างนี้เล็ก งานนั้นสูง งานนี้ต่ำ แล้วในที่สุดพวกเราก็ต้องมาทุกข์ใจ กลุ้มใจ กับเรื่องที่สมมุติกันขึ้นมา งานทุกชนิด ย่อมมีความยิ่งใหญ่อยู่ในตัวงานเองแล้ว แต่หากว่าคนใดเข้าไปเกี่ยวข้องกับงาน แล้วทำงานด้วยความตั้งใจ ขยัน ซื่อสัตย์ และมีความรับผิดชอบต่องานนั้นๆ ย่อมเป็นการเพิ่มสีสัน เพิ่มความยิ่งใหญ่ให้กับงานชิ้นนั้นมากขึ้นไปอีก เพียงหากว่าเราไม่เผลอไปคิดว่า งานนั้นสูง งานนี้ต่ำ งานนั้นดี งานนี้เด่น จนจิตใจกวัดแกว่ง ................................................................................ สุขกับการทำงาน เราก็สามารถมีความสุขอยู่กับงาน หรือหาความสำราญได้จากงานที่ทำไม่ยากเลย. วันนี้ท่านหันกลับมามองดูการทำงานในครึ่งวันแรกของท่านหรือยัง............ หรือว่า วันนี้ท่านได้ทำงานอะไรของท่านสำเร็จ และเสร็จแล้วบ้าง........ .และท่านได้อะไรจากการทำงานของท่านในวันนี้บ้าง....... .ท่านคิดได้หรือยัง.........การทำงานในวันนี้ไม่ใช่เพื่อจะรอให้หมดไปวันๆหนึ่งเท่านั้น........ .แต่ท่านสามารถนำมันมาพิจารณาและวิเคราะห์ได้เสมอ........ว่า งานที่ท่านได้ทำและกำลังจะทำ เป็นเช่นไร ให้อะไรกับชีวิตของท่านในวันนี้และวันพรุ่งนี้บ้าง บางคนอาจจะไม่ได้คิดอะไร มีอะไรก็ทำเพราะว่า ทำไปตามหน้าที่ที่ต้องทำ ถ้าเป็นเช่นนั้น ท่านก็ไม่ผิดอะไรกับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งเลย เมื่อถึงเวลาก็เปิดสวิทแล้วทำงานพอตกเย็นเลิกงาน ท่านก็ปิดสวิทแล้วกลับบ้าน เป็นเช่นนี้ทุกวัน แล้วอนาคตของท่านจะเป็นเช่นไร ทุกคนก็คงจะพอเดากันได้ไม่ยากเลย แต่ถ้าท่านนำงานที่ท่านทำมาวิเคราะห์ หาเหตุและผล เหมือนอย่างเช่นการดำรงค์ชีวิตของท่านไม่ให้ประมาณในทางโลก โดยการทำเอาข้อคิดทางธรรมมาช่วยช้วยวิเคราะห์และนำทางในชีวิตการทำงานของท่าน ท่านจะได้เรียนรู้อะไรจากงานที่ท่านทำได้มากมาย จนท่านคิดไม่ถึงเลยที่ เดียว............. ลองคิดและทำดูแล้วท่านจะรู้ว่า การทำงานแบบไม่ประมาณการนำเอาธรรมมาร่วมในการทำงานด้วยนั้นดีและ ประเสริฐขนาดไหน. .............. ธรรมย่อมจะรักษาดูแลผู้อยู่ในธรรมเสนอ ................. ด้วยรักจากใจของเราที่จะมีให้กับเพื่อนๆ ทุกคนที่เข้ามา อ่านและติดตามข้อเขียนเรื่อง ธรรม ให้จากใจของเรา มิใช้จะต้องการอะไร เพราะเรารักท่านไง จึงได้เข้ามาเขียนให้ ท่านอ่านเอาไว้ แล้ววิเคราะห์ตามแต่ใจ ของท่านจะรับเอาไปได้ ด้วยรักจากใจของเรา. ยังคิดถึงเพื่อนๆเสมอ.....โดยเฉพาะ คุณลุงมอมแมมค่ะ...เป็นห่วงมากนะค่ะ....ดูแลสุขภาพด้วยนะค่ะคุณลุงมอมแมมของหลาน
30 มีนาคม 2548 10:55 น. - comment id 446589
ยังรักและห่วงใยเสมอ ไม่เคยคิดว่าจะลืมเธอ ด้วยเพราะรักเธอเสมอ จึงมาหาด้วยความห่วงใย สำหรับคุณลุงมอมแมมค่ะ......
30 มีนาคม 2548 11:09 น. - comment id 446605
สาธุ...............
30 มีนาคม 2548 11:55 น. - comment id 446630
^o^.....................เจริญพร น่ะโยมแก้ว นิด เดียว .............. ที่โยมเปิดอภิปราย เรื่องการทำงานเนี้ยะ ลุงว่าน่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ที่ต้วเราชอบไปกำหนด ให้มันเป็นแบบโน้น ให้มันเป็นแบบนี้ มากกว่า ............... เช่นเรามักตัดสินว่า ......สุนัขตัวนี้เป็นสุนัขล่าเนิ้อ สุนัขตัวนั้นเป็นสุนัขเฝ้าบ้าน ................แต่ความจริง สุนัขทุกตัวเป็นไปตามที่เราเห็น เราฝึก เราอยากให้มันเป็น อยากให้มันทำ ............... มองให้ลึกลงไปแล้ว สุนัขทุกตัวก้อมีอารมณื มีคว่มรู้สึก ทุกตัวสามารถเป็นสุนัขล่าเนื้อได้ ดุได้ และทุกตัวก้อสามารถเฝ้าบ้านได้ เชื่องได้ น่ารักได้ ทุกตัว .............. แต่ต่างกันที่รูปร่างหน้าตา .........เท่านั้น คนก็เลยไปกำหนดให้มัน ว่ารูปร่างแบบนี้ ต้องดุดัน เป็นเพื่อนคนไม่ได้ แบบนี้ต้องน่ารักเป็นเพื่อนคนได้ดี สรุป................^o^ ..............อายครูบ่รู้วิชา อายภรรยาก็ไร้บุตร ได้ครูเป็นภรรยา ได้ทั้งวิชาได้ทั้งบุตร .......................................... คิดถึงเช่นกันครับ สาวน้อย น้อย ................ขอบคุณที่เป็นห่วง น่ะคร้..........า.................บ
30 มีนาคม 2548 12:13 น. - comment id 446640
สาธุ............ด้วยคน
30 มีนาคม 2548 12:21 น. - comment id 446644
ต้องหาให้เจอ ว่า ในการทำงานนั้น อะไรคือความสุข มันต้องมีบ้างนะคะ จากนั้น เมื่อมีความสุขแล้ว ก็ไม่ต้องทุกข์ คนที่ทุกข์กับงาน แล้วยังจมอยู่กับทุกข์นั้น อัลมิตราคิดว่า มันแปลก ๆ ค่ะ ..
30 มีนาคม 2548 12:48 น. - comment id 446655
ต้องไปทำงานแล้วหละ..ไปนะ..
30 มีนาคม 2548 13:30 น. - comment id 446669
= = = = = = = = = = = = = = = กา-เม มอ-ระ-นัง ทุก-ขัง โล-เก = = = = = = = = = = = = = = = จำได้แต่พุทธสุภาษิตของแก้วนีดาบทนี้บทเดียวอ่ะค่ะ (=^๐^=)
30 มีนาคม 2548 13:52 น. - comment id 446679
ตอบ ขอโทษครับ...ผมเมา ขอบคุณค่ะที่มาเมาที่บ้านนี้ทุกวัน...อิอิอิ
30 มีนาคม 2548 14:02 น. - comment id 446689
ตอบ คุณลุงมอมแมมที่รักของหลานจ๊ะ คุณลุงมอมแมมเจ้าขา........คนเรานะชอบติดอยู่กับการสมมุติไงละเจ้าค่ะ...... ก็จริงดังที่คุณลุงมอมแมมพูดนะเจ้าค่ะ....สุนัขทุกตัวเราสามารถให้มันเฝ้าบ้านก็ได้....หรือว่าจะฝึกให้มันเป็นสุนัขล่าเนื้อก็ได้........แต่........แต่........คุณลุงมอมแมมเจ้าขา......มีแต่นะเจ้าค่ะ.........สุนัขแต่ละตัวแต่ละพันธุจะมีความดุคือนิสัยที่ดุร้ายแตกต่างกัน.........ดังนั้นคนเราจึงได้กำหนดว่า........สุนัขพันธุใหนสมควรจะเฝ้าบ้าน........สุนัขพันธุไหนสมควรจะฝึกเอาไว้ใช้ล่าเนื้อ.......ก็ดังคนเราหละเจ้าค่ะคุณลุง........จะมีสมองและความคิดแตกต่างกัน........บางคนเก่งในสิ่งหนึ่งแต่อีกคนกับไม่เก่งเลย........ดังนั้นคนเราจึงมีงานทำที่แตกต่างกันไปความความถนัดของแต่ละคนเช่นกัน.......อิอิอิ ท่านประธานที่เคารพ........แก้วนีดาขออภิปรายชี้แจงเท่านี้ก่อนนะเจ้าค่ะ... รู้อะไรไม่สู้เท่ารู้วิชา รู้เอาตัวรอดเป็นยอดดี ยิ่งรู้วิชารวมกะวิ่งหนี้รอด รับรองว่าปลอดภัยจ๊ะคุณลุง....อิอิอิ ถึงอย่างไรก็อดเป็นห่วงคุณลุงไม่ได้ละจ๊ะ.....ดูแลตัวเองด้วยนะเจ้าค่ะคุณลุงมอมแมม....
30 มีนาคม 2548 14:07 น. - comment id 446695
ตอบ มนต์กวี ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ.......ที่มาทักทายและเข้ามาอ่านเสมอ......
30 มีนาคม 2548 14:10 น. - comment id 446698
ตอบ อัลมิตรา ค่ะ จริงอย่างที่ อัลมิตรา บอกละค่ะ ถ้าคนที่ยังทุกข์กับงานที่ทำอยู่ทุกวัน......มันก็คงจะมีอะไรแปลกๆๆดี......ส่วนมากคนเราก็จะสุขกับการทำงานของตัวเองกันทุกคนจริงๆๆละค่ะ.......แก้วนีดายังสุขกะงานของแก้วนีดาเลย.......งานเลขาท่านประธานนี้ไม่ยุ่งเลย...5 5 5
30 มีนาคม 2548 14:12 น. - comment id 446700
ตอบ - บินเดี่ยวหมื่นลี้ค่ะ อ้าว........นายบินเดี่ยว..เล่นแอบมาเล่นเน็ตหรือเนี้ย........จะฟ้องเจ้านายนะ.......ไปทำงานเดี๋ยวนี้เลย......อิอิอิ
30 มีนาคม 2548 14:15 น. - comment id 446704
ตอบ ผู้หญิงช่างฝัน จ๊ะที่รัก...ขอกอดแน่ๆก่อนนะ.. แหม........จำได้แต่บทนั้นบทเดียวหรือจ๊ะเหมี่ยว.......แบบนี้เห็นที่จะต้องสอนบทอื่นๆด้วยแล้วดีปะ.......ว่าแล้วต้องจ๊วบๆ 2 ทีก่อนสอน.....อิอิอิ
30 มีนาคม 2548 14:25 น. - comment id 446707
เหมือนได้อ่านปรัชาเล็กๆๆ ยิ้มสวัสดีทักทายยามบ่าย ค่ะ
30 มีนาคม 2548 14:40 น. - comment id 446716
ตอบ winterstar ค่ะ เหมือนได้อ่านปรัชาเล็กๆๆ ยิ้มสวัสดีทักทายยามบ่าย ค่ะ ............................................................ ขอบคุณมากค่ะ..ดีใจที่มีคนชอบ....เป็นปรัชาในการทำงานเล็กๆจริงๆด้วยนะค่ะ ดีใจที่ชอบนะค่ะ
30 มีนาคม 2548 16:09 น. - comment id 446746
..........^o^ ถึงคุณหลาน แก้วนิดา ......... ช่วยไขข้อกังขา ให้ลุงที ........มีผู้ถามลุงมา ...........ลองดูครับ ว่าหลานคนนี้ จะมองคำถาม และตอบ อย่างไร ดังนี้ ครับ ............................................................... ช่วยบอกผมที ว่าทำไม ตัวบาป และ บุญ ท่านถึงไม่กำหนดเป็นตัวเลขครับ จะได้ชี้ชัดกันไปว่า แต่ละตัวตน มีแต้มบวก หรือ ลบ ติดตัวอยู่เท่าไหร่ เพราะบางกรณี ความจำเป็นบังคับให้ทำผิด หรือ ตกกระได พลอยโจร หรือ ถูกกดดันบังคับแบบเลี่ยงไม่ได้ เพียงเพราะอยากให้ผลที่กระทำของเรานั้น เป็นประโยชน์ ต่อผู้ที่เราทำเพื่อให้เค้าอยู่รอดได้ ด้วยความจำเป็นแบบนั้นนั้นล่ะครับ ถ้าเป็นแต้ม..........เราจะได้รู้ว่าผิดมากน้อยแค่ไหน น่ะครับ จาก : คนเขลาธรรม รหัส - วัน เวลา : 454761 - 30 มี.ค. 48 - 15:59 .....................................................................
30 มีนาคม 2548 16:14 น. - comment id 446749
ครับเขียนได้ดีครับวิเคราะห์ได้ดี ผมขอแจมหน่อยนะครับ งานทุกงานย่อมมีคุณค่าในตัวเองของมันเสมอ งานระดับนายกรัฐมนตรี หรืองานระดับคนทำความสะอาดท้องถนน ก็มีเกียรติเสมอเท่ากันหมด คือคำว่างาน ทีนี้เรามาดูตัวคำว่างานเป็นอย่างไร จะสามารถทำงานนั้นได้เพียงใดอย่างไรหรือไม่ผู้ที่จะตอบได้คือผู้กระทำ ฉนั้นหากเราเข้าใจงานที่สามารถทำได้ก็จะสร้างความสุขให้เราได้ งานจึงแบ่งตัวออกหลายลักษณะของงาน ควรพอใจในสิ่งที่เราได้รับ สร้างในสิ่งที่ได้รับให้เกิดผลประโยชน์แก่ตัวเราและผู้มอบ หาความสุขในงานที่ควรพึงรับ และสร้างมันให้ดีที่สุดนั่นก็จะเป็นคุณสมบัติที่งานนั้นๆต้องการ ฯลฯ อิอิ แจมหน่อยจะยาวไปเน๊อะ แก้วประเสริฐ.
30 มีนาคม 2548 16:46 น. - comment id 446764
มายิ้มให้กำลังใจค่ะ
30 มีนาคม 2548 16:56 น. - comment id 446770
งานสุจริต ไม่มีอารายต้องอาย เราเคารพในทุกอาชีพที่ดีคับ ตั้งจายทำงานกานเน้อ
30 มีนาคม 2548 19:26 น. - comment id 446856
กำลังจะมาชวนหลานทำงานใหญ่ ไม่ทราบว่าจะว่างไปด้วยกันได้หรือเปล่า ก็อุ้มเอาช้างไปอาบน้ำจ้า
30 มีนาคม 2548 22:16 น. - comment id 446928
อิอิ อุ้มพี่ชัยยังง่ายกว่าอุ้มช้างนะเจ้าคะ อย่างพี่ชัยนี่อุ้มไปอาบน้ำสบายเลยค่ะ
31 มีนาคม 2548 09:49 น. - comment id 447032
ตอบ sun strom ค่ะ อิอิ อุ้มพี่ชัยยังง่ายกว่าอุ้มช้างนะเจ้าคะ อย่างพี่ชัยนี่อุ้มไปอาบน้ำสบายเลยค่ะ ........................................................ อิอิอิ.......สงสัยsun strom จะอุ้มลุงชัยไปอาบน้ำบ่อยๆ...5 5...ว่าไงละค่ะลุงชัย หลานแก้วนีดาคงจะไม่ต้องไปอุ้มลุงชัยแล้วใช่ปะจ๊ะ...ก็มีคนไปอุ้มลุงชัยแล้วงะ......คิกๆๆ
31 มีนาคม 2548 09:57 น. - comment id 447038
ตอบ ลุงชัยจ๊ะ กำลังจะมาชวนหลานทำงานใหญ่ ไม่ทราบว่าจะว่างไปด้วยกันได้หรือเปล่า ก็อุ้มเอาช้างไปอาบน้ำจ้า จาก : รหัสสมาชิก : 5053 - ชัยชนะ รหัส - วัน เวลา : 454878 - 30 มี.ค. 48 - 19:26 +++++++++++++++++++++++++++++++ อิอิอิ...ลุงชัยเจ้าขา...มีคนอาสามาอุ้มลุงชัยไปอาบน้ำแทนหลานแก้วนีดาแล้วนี้ค่ะ....อิอิอิ........หลานขอชวนลุงชัยไปแปรงฟันให้กับเสือดีกว่าเน้อลุงชัยเน้อ...ก๊ากๆๆๆ......... หลานนะไปทำอยู่แล้วละจ๊ะลุงชัย..งานใหญ่นะ...ว่าแต่ลุงชัยเถอะจ๊ะจะไปกะหลานปะละจ๊ะ...อิอิอิ
31 มีนาคม 2548 09:59 น. - comment id 447040
ตอบ Ar~din ค่ะ งานสุจริต ไม่มีอารายต้องอาย เราเคารพในทุกอาชีพที่ดีคับ ตั้งจายทำงานกานเน้อ จาก : Ar~din รหัส - วัน เวลา : 454790 - 30 มี.ค. 48 - 16:56 ++++++++++++++++++++++++++++++++++ ค่ะ....งานสุจริตไม่มีอะไรต้องอาย.......ทำงานของเราให้ดีที่สุดก็พอจ๊ะ.......... ขอบคุณมากนะค่ะที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นกัน.....
31 มีนาคม 2548 10:05 น. - comment id 447044
ตอบ แก้วประเสริฐ์ ค่ะ ครับเขียนได้ดีครับวิเคราะห์ได้ดี ผมขอแจมหน่อยนะครับ งานทุกงานย่อมมีคุณค่าในตัวเองของมันเสมอ งานระดับนายกรัฐมนตรี หรืองานระดับคนทำความสะอาดท้องถนน ก็มีเกียรติเสมอเท่ากันหมด คือคำว่างาน ทีนี้เรามาดูตัวคำว่างานเป็นอย่างไร จะสามารถทำงานนั้นได้เพียงใดอย่างไรหรือไม่ผู้ที่จะตอบได้คือผู้กระทำ ฉนั้นหากเราเข้าใจงานที่สามารถทำได้ก็จะสร้างความสุขให้เราได้ งานจึงแบ่งตัวออกหลายลักษณะของงาน ควรพอใจในสิ่งที่เราได้รับ สร้างในสิ่งที่ได้รับให้เกิดผลประโยชน์แก่ตัวเราและผู้มอบ หาความสุขในงานที่ควรพึงรับ และสร้างมันให้ดีที่สุดนั่นก็จะเป็นคุณสมบัติที่งานนั้นๆต้องการ ฯลฯ อิอิ แจมหน่อยจะยาวไปเน๊อะ แก้วประเสริฐ. จาก : รหัสสมาชิก : 6104 - แก้วประเสริฐ รหัส - วัน เวลา : 454769 - 30 มี.ค. 48 - 16:14 ++++++++++++++++++++++++++++++++++ จริงมากๆๆเลยค่ะแก้วประเสริฐ์.....งานทุกอาชีพนั้นไม่มีงานใดที่ไม่สำคัญ....ทุกอาชีพสำคัญเท่าๆกันหมด....คิดดูสิค่ะถ้าไม่คนเก็บขยะ...สภาพของบ้านเมืองจะเป็นเช่นไรกัน....คงจะไม่น่าอยู่มากๆๆ....จริงไหมค่ะ.....ดังนั้นทุกหน้าที่จริงสำคัยเท่าๆกันเสมอในเนื้องานนั้นๆค่ะแก้วประเสริฐ์.... ยินดีเสมอค่ะแก้วประเสริฐ์.....ขอคิดดีๆเช่นที่แก้วประเสริฐ์นำมาบอกมาเล่าให้ฟังนั้นมีประโยชน์เสมอค่ะ......ขอบคุณมากนะค่ะที่มาร่วมแสดงความคิดเห็นสู้กันฟัง.....มาบ่อยๆดีค่ะ......แก้วนีดาชอบค่ะแก้วประเสริฐ์.....เรามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันค่ะ....อย่าคิดมากสิค่ะ
31 มีนาคม 2548 10:21 น. - comment id 447046
ตอบ คุณลุงมอมแมมที่รักของหลาน ..........^o^ ถึงคุณหลาน แก้วนิดา ......... ช่วยไขข้อกังขา ให้ลุงที ........มีผู้ถามลุงมา ...........ลองดูครับ ว่าหลานคนนี้ จะมองคำถาม และตอบ อย่างไร ดังนี้ ครับ ............................................................... ช่วยบอกผมที ว่าทำไม ตัวบาป และ บุญ ท่านถึงไม่กำหนดเป็นตัวเลขครับ จะได้ชี้ชัดกันไปว่า แต่ละตัวตน มีแต้มบวก หรือ ลบ ติดตัวอยู่เท่าไหร่ เพราะบางกรณี ความจำเป็นบังคับให้ทำผิด หรือ ตกกระได พลอยโจร หรือ ถูกกดดันบังคับแบบเลี่ยงไม่ได้ เพียงเพราะอยากให้ผลที่กระทำของเรานั้น เป็นประโยชน์ ต่อผู้ที่เราทำเพื่อให้เค้าอยู่รอดได้ ด้วยความจำเป็นแบบนั้นนั้นล่ะครับ ถ้าเป็นแต้ม..........เราจะได้รู้ว่าผิดมากน้อยแค่ไหน น่ะครับ จาก : คนเขลาธรรม รหัส - วัน เวลา : 454761 - 30 มี.ค. 48 - 15:59 ..................................................................... จาก : ลุงมอมแมม รหัส - วัน เวลา : 454766 - 30 มี.ค. 48 - 16:09 +++++++++++++++++++++++++++++++ ตัวบาปและตัวบุญ...ทำไมไม่กำหนดเป็นตัวเลข........สาเหตุที่เราไม่กำหนดเป็นตัวเลขนั้น....เพราะว่าจิตใจของคนเราไม่เท่ากัน....ความคิดของแต่ละคนแตกต่างกัน....บางคนบอกว่าฉันทำบุญ1บาทฉันก็ได้บุญแล้ว...แต่อีกคนกลับบอกว่าไม่ใช่ต้องทำ10บาทถึงจะได้บุญ....เราจะเอาอะไรมาเป็นตัววัดว่า 1 บาทหรือ 10 บาทจะได้มากกว่ากัน......บุญที่คนทั้งสองทำจะได้มากหรือน้อย...มันขึ้นอยู่ที่จิตใจ ณ ตอนที่คุณให้ต่างหากละ.....ถ้าจะกำหนดมาเป็นตัวเลขมันคงจะวิ่งขึ้นวิ่งลงกันวุ้ยงวายน่าดู.......เพราะว่าตัวของคุณเองยังไม่สามารถกำหนดจิตใจของคุณให้คิดอยู่กับสิ่งนั้นๆได้ตลอดเวลาเลย......จิตของคนอยู่ไม่นิ่งซนยิ่งกว่าลิง......ดังนั้นการที่คนจะทำบุญหรือทดำบาปแล้วมาบอกว่า ตอนนี้ฉันมีบุญอยู่ 50 แต่มีบาปอยู่ 80 คงจะวัดด้วยตัวเลขไม่ได้นะค่ะคุณลุงมอมแมม.........แต่ถ้าทุกคนจับเจ้าตัวจิตได้ไม่ให้มันวิ่งซนได้บางที่คนนั้นก็สามารถกำหนดได้นะค่ะคุณลุงมอมแมมว่า.....เขากำลังมีบุญเหลืออยู่เท่าไร..และเขากำลังทำบาปอยู่เท่าไร....... จิตดี...คิดดี....ก็ได้บุญแล้ว จิตตก..คิดชั่ว..ก็ได้บาปแล้วเช่นกัน ดังนั้น...เราจะเอาตัวเลขมาวัดจิตที่มันวิ่งวุ่นวายอยู่สตอลดเวลาดังลิงที่ไม่อยู่นิ่งได้นั้นก็คงจะไม่สามารถวัดได้ฉันใด....เราก็ไม่สามารถจะกำหนด ตัวบุญและตัวบาปออกมาเป็นตัวเลขได้ฉันนั้นเช่นกันจ๊ะคุณลุงมอมแมม ปล.หลานคนนี้ยังมีข้อบกพร่องอีกเยอะค่ะคุณลุงมอมแมมในเรื่องของการศึกษาธรรม...แต่เท่าที่ตอบคำถามของคุณลุงมอมแมมมาทั้งหมดนั้น....ก็มาจากความคิดของหลานคนนี้เท่าที่คิดได้นะจ๊ะคุณลุงมอมแมม.....คนอื่นๆที่เก่งกว่าที่รู้มากกว่ายังมีอีกเยอะมากเลยค่ะคุณลุงมอมแมม........คำตอบของหลานก็แค่ 1 ในล้านความคิดเห็นเท่านั้นเองค่ะคุณลุงมอมแมมที่รักของหลาน งงเน้อ...........อ่านแล้วก็งง......อิอิอิ........ตัวบุญตัวบาป......คิดได้ไงเนี้ย.....ว่าแต่จะนับจากเต็ม ร้อย หรือจาก พัน จากหมื่น แสน กันดีละค่ะคุณลุงมอมแมม........คิกๆๆๆ
31 มีนาคม 2548 10:47 น. - comment id 447054
ตอบคุณลุงมอมแมมต่อค่ะ การทำบาปนั้นต้องดูผลที่เกิดขึ้นมาค่ะคุณลุงมอมแมม.......ถ้าเราทำแล้วผลที่ได้รับคือความสุขของคนรอบข้าง.....ก็คงจะได้ชื่อว่าได้บุญแล้วส่วน1เท่านั้นเองคือได้บุญจากใจที่เราเห็นมีความสุข....แต่ถ้าผลที่เกิดขึ้นมานั้น....กลับไปทำให้คนรอบตัวทุกข์มากขึ้นไปอีก..มันก็บาปแล้วค่ะ...บาปจากไหน...บาปที่เกิดจากใจของเราที่รู้ว่าทำให้เขาทุกข์....ดังนั้นการกระทำใดๆก็แล้วแต่.....จะเป็นการทำบุญหรือเป็นการทำบาป....ต้องดูจากผลที่เกิดขึ้นมาของการกระทำนั้นๆค่ะ........เช่น.......เราบริจากเงินให้กับคนกำลังเดือดร้อนจากภัยพายุบ้านพัง.......เราก็ได้บุญแล้ว.......แต่ว่า.....เงินที่เราเอาไปบริจากนั้นได้มาจากการที่เราไปคดโกคนอื่นมาอีกที........เราก็บาปแล้วค่ะ......บาปที่ไปโกเขามาไงค่ะคุณลุงมอมแมม........ถ้าถามว่าแล้วจะได้บุญไหม.......ได้ค่ะ......ได้จากการที่เราคิดช่วยเหลือโดยการให้....แต่วัดได้ไหม....กำหนดออกมาเป็นตัวเลขได้ไหม....คงจะไม่ได้แน่นอน....เพราะว่าเราจะเริ่มนับจากตัวเลขไหนละค่ะ.....และถ้าถามว่าบาปไหนที่ไปโกเงินเขามา......ก็บาปค่ะ......บาปที่ไปโกเงินคนอื่นมาแล้วจะคิดออกมาเป็นตัวเลขได้ไหม.......ก็คงจะไม่ได้เช่นกันค่ะคุณลุงมอมแมม....... บุญ........จะได้ก็ต่อเมื่อคนนั้นคิดดี...ก็ได้บุญส่วน1แล้วจากความคิด.....บุญที่ได้คือ..ความสุขใจไงค่ะ บาป........เขาก็ได้เช่นกัน...แค่คิดจะทำก็บาปส่วน1แล้วค่ะ ก็ทุกข์ใจไงค่ะ คุณลุงมอมแมมไปตกกระไดทำบาปอะไรมาหรือค่ะ.......แต่ถ้าผลที่ออกมาจะทำให้คุณลุงสุขใจ....มันก็เป็นบุญที่คุณลุงได้รับแล้วไงค่ะ....บุญจากความสุขจากใจไงค่ะ........บาปไหน....คุณลุงอาจจะไม่บาปเพราะไม่ทุกข์นี้ค่ะ......แต่ถ้าคนอื่นมอง......คุณลุงบาปแน่นอน......บาปที่ไปทำให้คนอื่นทุกข์ไงค่ะ....... ดังนั้น......บุญหรือบาป......ขึ้นอยู่ที่จิตใจของคนเท่านั้นเองละค่ะคุรลุงมอมแมม... แบบนี้สงสัยเราสองคนลุงกะหลานต้องหาเวลามานั่งถกปัญหาเรื่องนี้กันยาวแล้วละค่ะคุณลุงมอมแมม........แปลกเปลี่ยนความคิดเห็นนั้นดีค่ะคุณลุงมอมแมม.........ทำให้เราได้รู้ความคิดของอีกคนหรือว่าจากอีกหลายๆคนว่า....คิดกันอย่างไร.........เข้าท่าดีจัง.........ว่าแต่คุณลุงมอมแมมมีเวลาว่างมาคุยปัญหาต่างกันเปล่าละค่ะ.......อิอิอิ.........