********* ทำธรรม ( ๒ ) ตามธรรม ********* มารไม่มี บารมี ยิ่งไม่แก่ จะมีแต่ ถอยถด หมดความหมาย ไม่มีพลัง สร้างวิบาก ไว้มากมาย หรือสอบไล่ ให้เรา เข้าใจตัวฯ มารยิ่งมี บารมี ยิ่งแก่กล้า ยิ่งรุดหน้า สามารถ ในธรรมทั่ว สร้างวิบาก ได้มากมาย ในเนียนัว ให้ดอกบัว เบ่งบาน สะท้านสะเทือนฯ แล้วประหัต ประหารมารร้าย ให้ตายเตียน ได้แนบเนียน ไม่มี อะไรเหมือน เมื่อมารมี ก็เหมือนมาร มาตักเตือน ให้พบเงื่อน งำกล้า ฆ่ามารเองฯ ************************************************ บัดนี้เมฆ ลอยพ้น ยอดเจดีย์ ทั้งโรงโบสถ์ มากมี และ วิหาร เมฆรวมตัว เป็นภาพ พิสดาร บอกอาการ พ้นแล้วโว้ย โปรยยิ้มมา ตะโกนร้อง บอกสหาย สิ่งทั้งผอง ว่าไม่ต้อง เสียเที่ยว เที่ยวค้นหา อนันตสุข ในโลกนี้ ที่หวังมา เหมือนเที่ยวหา หนวดเต่า ตายเปล่าแล สุขแท้จริง จิตไม่วิ่ง ไปตามโลก อยู่เหนือความ ทุกข์โศก ทุกกระแส มือเท่าเหนียว เหนี่ยวขึ้นไป คล้ายตุ๊กแก ไม่อยู่แค่ พื้นโบสถ์ โปรดคิดดู ลอยเหนือยอด โบสถ์ ในเวหา ลอยพ้นไป เหนือฟ้า ที่เทพอยู่ ถึงความว่าง ห่างพ้น จากตัวกู ไม่มีอยู่ ไม่มีตาย สบายเอยฯ ***************************************************************** ..................โปรดแสดงความคิดเห็น..................... หากท่านชอบธรรม แนวนี้ ลุงจะได้ลงให้อ่านกันต่อไป ครับ
30 มีนาคม 2548 03:22 น. - comment id 446515
บทกลอน ของ ท่านพุทธทาสภิกขุ เรื่อง ถ้าจะอยู่ ในโลกนี้ อย่างมีสุข ถ้าจะอยู่ ในโลกนี้ อย่างมีสุข อย่าประยุกต์ สิ่งทั้งผอง..เป็นของฉัน มันจะสุม เผากระบาล ท่านทั้งวัน ต้องปล่อยมัน เป็นของมัน อย่าผันมา เป็นของกู ในอำนาจ ของตัวกู มันจะดู วุ่นวาย คล้ายคนบ้า อย่างน้อยก็ เป็นนกเขา เข้าตำรา มันคึกว่า กู..ของกู...อยู่ร่ำไป... จะหามา มีไว้ ใช้หรือกิน ตามระบิล อย่างอิ่มหนำ ก็ทำได้ โดยไม่ต้อง มั่นหมาย ให้อะไรๆ ผูกยึดไว้..ว่าตัวกู...หรือ ของกู.... ........................ พุทธทาสภิกขุ............. ธรรมจักร..จำหลักธรรม นำทางโลก ชี้ทางโศก โบกทางสันต์ ผันทางสู้ จิตมนุษย์..ไม่หยุดนิ่ง วิ่งตามดู ทั้งที่รู้ บุญหรือกรรม..ธรรมหรือมาร กงจักรา ท้ากึกก้อง ยิ่งจ้องจับ ตื่นหรือหลับ รับรสธรรม ถึงกรรมฐาน วิปัสสนา ว่าหลุด..พ้น..ยลบัวบาน หรือหันหน้าลงบาดาล..สถานเดียว ขึ้นกับใคร เปิดใจนำ พระธรรมเข้า ยอมรับเอาศาสนามายึดเหนี่ยว กรรม หรือบุญ จะหมุนหนัก สักกี่เกลียว.. อยู่ครู่เดียว..ก็ลาลับ..กลับที่มา...ฯ ช่อชงโค ................................... ชอบอ่านและฟัง พระธรรม จากคำสอนของสงฆ์ มีความหมายดีค่ะ...คำกลอนของท่านพุทธทาส ตรงดีค่ะ เอามาลงเสริมไว้ให้ด้วยตามบนนี้ค่ะ ................... แล้วจะมาอ่านคุณลุงมอมแมมอีกนะคะ
30 มีนาคม 2548 08:55 น. - comment id 446536
อ่านแบบนี้ทุกวัน สำเร็จมรรค แน่เลยค่ะ
30 มีนาคม 2548 09:08 น. - comment id 446539
ท่านประธานฯ..วันนี้มาแนวนี้เลยหรือท่าน.... ***แวะมาอ่านผ่านมาเยี่ยมครับ
30 มีนาคม 2548 09:29 น. - comment id 446552
จะตามอ่านนะคะท่านลุง มัดหมี่ชอบจังอะ
30 มีนาคม 2548 10:13 น. - comment id 446563
ผมชอบธรรมที่เป็นไปในลักษณ์มิติธรรมชาติ มองเห็นธรรมได้จากสิ่งรายรอบตัวหน่ะครับ ขอบคุณมากครับที่นำธรรมาบรรเลงรับอุษาคิมหันต์นี้
30 มีนาคม 2548 11:03 น. - comment id 446598
ดีใจเหมือนได้แก้ว คุณลุงของหลานแก้วฯมีสุขสรรค์ วันนี้มาได้...ไม่แปลกใจสารพัน แต่กับมาพบกันในแนวธรรม เรียนท่านประธานที่เคารพ......... ดีใจมากค่ะที่คุณลุงมอมแมมมาเขียนในแนวธรรมอีก........อิอิอิ......คิดถึงนะเจ้าค่ะคุณลุงมอมแมม.......ดูแลสุขภาพด้วยนะค่ะ.....หลานเป็นห่วงจ๊ะ.
30 มีนาคม 2548 11:19 น. - comment id 446615
^o^................... ตอบ ขอบคุณ ครับ ++++++++++++++++++++++++++ รหัสสมาชิก : 12521 - ChorChongKoh .......................................................... ..................ดีครับมาช่วยกันเผยแพร่ธรรมดีดีแบบนี้ อ่านให้สะกดใจกันไปทั่วหน้าเลยครับ รหัสสมาชิก : 2189 - อัลมิตรา ............................................. ..................ดีครับ และยิ่งดีสำหรับผู้ที่ย้งไม่เคยอ่าน คำธรรม ของปู่ อ่านแล้วเข้าใจง่าย นำไปใช้ได้กับชีวิตประจำวันเลยครับ รหัสสมาชิก : 9048 - บินเดี่ยวหมื่นลี้ .......................................................... ............... อิอิ ก้อจริงจริงแล้วอยู่ที่วัยวุฒิ มากกว่าครับ ที่ดึงให้ผมหันมาแนวนี้เลย คร้..........า..................บ ท่านสมาชิกผู้ทรงเกีรติ มัดหมี่ค่ะ .................. .................. เจริญพร น่ะโยม................ ลำน้ำน่าน ................... ..................... อื้ม........ ลุงจะนำมาให้ได้อ่านเรื่อยๆครับ หากมีผู้แสดงความสนใจ ลงชื่อไว้ให้ลุงเห็น แบบนี้ น่ะครับ .......................เห็นแบบนี้ ก้อชื่นใจ กับมนุษย์โลกใบเล็กนี้
30 มีนาคม 2548 11:53 น. - comment id 446629
ผ่านการประหัต ประหาร กับมารร้ายมานับครั้งไม่ถ้วน มีแพ้ มีชนะบ้างเป็นธรรมดา แต่มีศึกมารหนึ่ง ที่ไม่เคยชนะซะที ศึกมารสุรา..... อิอิอิ เจอทีไรแพ้ประจำ.... ** แวะมาภาวนาธรรม จรรโลงใจ ครับผม
30 มีนาคม 2548 15:48 น. - comment id 446735
มาติดตามอ่าน กลอนธรรม เพื่อ ทำธรรม คามธรรม เจ้าค่ะ
30 มีนาคม 2548 16:52 น. - comment id 446766
^o^...............ตอบ ขอโทษครับ...ผมเมา ............โฮะ ......โฮะ เรื่อง มารสุรา นี่น่ากลัวครับ แต่คนที่ได้ทำความรู้จักกับมัน แล้ว เป็นมิตรกับมันง่ายเลย .............ถ้าคุณถือว่า สุรา คือมาร เลิกคบมันไปเลยครับ ผมเชียร์ด้วยเอ้า เลิกคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆน่ะครับ ..........ทั้งสติ ทั้งสตังส์ มันเอาของเราไปหมด ไม่เหลือเลย ...........อิ ........ อิ ขอบคุณที่มาเยี่ยม คร้........า.........บ
30 มีนาคม 2548 16:55 น. - comment id 446769
^o^..............ตอบ ผู้ไม่หลุดพ้น( ซักที ) ..................ขอบคุณ ที่ชอบอ่าน ครับ
1 เมษายน 2548 01:13 น. - comment id 447530
น่าอ่านดีค่ะ ..เป็นแนวที่แปลก ตรง และให้ข้อคิดที่ดี
1 เมษายน 2548 15:45 น. - comment id 447804
ถึง คุณลุงมอมแมม......คนใจร้าย ไม่ยอมตอบหลานเลยนะเจ้าค่ะ.......โป้งให้คุณลุงมอมแมมแล้ว........แงๆๆๆๆๆๆๆ........ร้องไห้ดังลั่นบ้านของลุงมอมแมมไปเลย........โฮ้อๆๆๆๆๆๆๆๆ........แงๆๆๆๆๆๆๆ.........คุณลุงใจร้ายยยยยยยยยยย
12 เมษายน 2548 13:10 น. - comment id 452465
หวัดดีลุงมอมจ้า หลานไม่ได้เป็นสมาชิกเพราะไม่ว่างซักกะที วันนี้จากวันสุดท้ายที่เข้ามาเปิดบ้านไทยโพเอ้มนี่ นับเดือน หาหัวข้ออ่านที่ โดนใจหลานก๊อเจอแต่ของลุงเป็นรายแรก หลานอายุปาเข้าไปได้ 50 กว่าร้อน (ของเมืองไทย) เลยขอแสดงความคิดเห็นมั่ง หวังว่าท่านประธาน คงไม่รำคาญที่หลานแนะนำตัวเองก่อน (ท่านประธานต้องทำจิตให้ว่างสิคะ คนเขาเพิ่งยืนขึ้นมายังไม่ทันแนะนำตัว ก็เอาแต่ถามว่า จะค้านอะไร จะค้านอะไร) คือว่า หลานจาบอกว่า ต่อให้คนเราทำจิตให้ว่างแล้วก็ตาม ก็หาใช่ว่าจะหลุดพ้นจากบ่วงกรรมที่ตนได้กระทำไว้ไม่ สมัยพระพุทธองค์ แม้นแต่พระผู้สำเร็จอรหันต์ทั้งหลายก็ยังต้องรับกรรมที่เคยก่อไว้ให้ครบก่อน จึงจะไปนิพพานได้ ดังนั้น เรา ๆ ท่าน ๆ ผู้ยังไปไม่ได้หนึ่งเปอร์เซ็นต์ของท่านผู้สำเร็จอรหันต์ทั้งหลาย จึงต้องระมัดระวังตัวในการก่อกรรม ความจริง ก็เหมือนกับที่ลุงตอบสมาชิกไปแว้ว ว่า เราเลือกทำได้ บางคนมีหน้าที่บังคับให้ต้องทำ ก็ยังสามารถใช้ความเป็นจิตว่าง หรือจิตที่ไม่มีอคติ ไม่มีการอยากโชว์ผลงานจนลืมอาย พิจารณาให้เห็นผลของกรรมดีกรรมชั่วที่ตนจะได้รับได้อยู่ อย่าเอาแบบว่า ทำกรรมชั่วแล้ว ไปทำบุญเพื่อลบล้าง มันลบล้างกันไม่ได้หรอก ถามว่าแล้วกรรมชั่วคืออะไร กรรมชั่วของหลานที่มองมาหลายสิบร้อนแล้ว ก็สรุปได้ง่ายมากว่า ความชั่วคือการทำให้ตนเอง หรือสิ่งมีชีวิตอื่น ตกอยู่ในความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ มากน้อยแค่ไหน ก็คือชั่วมากชั่วน้อยแค่นั้น ส่วนความดีก็ตรงกันข้ามสนิท คือ ถ้าเราทำให้ตนเอง หรือผู้อื่นมีความสุข เอาแค่ทำให้ทุกข์น้อยลง ก็ถือเป็นกรรมดีแล้ว ขอเพียงอย่าทำให้สิ่งหนึ่งสุขเป็นผลให้สิ่งหนึ่งทุกข์ ทำตรงนี้ได้นั่นแล คือผู้ใช้ปัญญา
12 เมษายน 2548 13:48 น. - comment id 452475
ตะกี้พักไปดื่มน้ำชา แต่หาติ่มซ้ำไม่เจอ คุณลุงจ๋า หลานขอต่ออีก ติ๋ดนึง ว่า ปัญญาในที่นี้ไม่ใช่หมายถึงอดีตนายกรัฐมนตรี หรือ พิธีกรถูกต้องแล้วคร๊าบ ปัญญานี้ไซร้ก็คือคำสั่งสอนทั้งหลายของพระพุทธองค์ หรือธรรมะต่าง ๆ ที่หลวงพ่อหลวงตาหลวงปู่ทั้งหลายสอนสืบกันมา โดยให้นำคำสั่งสอนต่าง ๆ มาเป็นองค์ประกอบในการคิด คิด และนำมาใช้ นี่ล่ะมั้ง คือปัญญา ส่วนมารในความเข้าใจของหลานก็คือ ปัญหายากต่อการตัดสินใจ ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความไม่สบายใจ ไม่สบายกายทั้งหลายแหล่ หลานทราบว่า หลานเชย ที่ออกความคิดเห็นมาช้ามั่กม๊าก แต่สิ่งที่เขียนมาไม่ค่อยเชยเนอะ ลุงเนอะ