**.. คุณค่าของกวี ..**

ต่อง (ต้อง) ksg

  
 **..  เริ่มจากรัก  แล้วศึกษา  หาความรู้
       อย่างเช่นผู้  เริ่มหัด  คัดขีดเขียน
       ขาดไม่ได้  คือขยัน  และหมั่นเพียร
       ทุกบทเรียน  และบทกลอน  จะสอนเรา..
**..  มีแบบครู  เป็นทาง  ผู้สร้างสรรค์
       ร้อยเรื่องรส  บทประพันธ์  คำบอกเล่า
       ฟังแล้วคิด  จิตจึงตรอง  กรองกันเอา
       รัก-โกรธ-เศร้า  เหงา-อารมณ์  คมความคิด..
**..  มาสู่ปลาย  ปากกา  และหน้ากระดาษ
       สิทธิ์เสรี  ที่จะวาด  หวังลิขิต
       เติมสาระ  ลงบ้าง  อย่างละนิด
       กลอนจะดู  มีชีวิต  มีชีวา..
**..  ไม่เพียงแค่  วางคำ  ทำง่ายง่าย
       ลืมความหมาย  รสคำ  อันล้ำค่า
       ใช่ระบาย  อารมณ์  หมักหมมมา
        แล้วเรียกว่า  บทกวี  ทุกที่ไป..
**..  แค่วางคำ  สัมผัส  จัดได้ครบ
       สรุปจบ  ว่างาม  ความลื่นไหล
       ทุกวรรคตอน  ขาดละเอียด  ละเมียดละไม
       แล้วอ้างว่า  งามที่ใจ  มิใช่กลอน..
**..  ควรใฝ่หา  ความงาม  ตามก่อนเก่า
       อีกผู้เฝ้า  บอกพร่ำ  คำสั่งสอน
       เปิดใจรับ  การติ-ชัง  จงสังวรณ์
       นั่นแหละคือ  คำพร  สอนกวี..
  ด้วยรักและหวังดี
ก.นพดล  รักษ์กระแส
ก.ประแสร์  ศิษยาพร
 				
comments powered by Disqus
  • แม่จิตร

    20 มีนาคม 2548 01:36 น. - comment id 441635

    ยอมรับฟังคำติชมแล้วเดินหน้า
    รู้จักท้าความฝันอย่าหวั่นไหว
    บรรจงแต่งด้วยแรงกำลังใจ
    พร้อมก้าวไปนิยามตามกวี
    
    เห็นด้วยอย่างยิ่ง
  • ขาว-กรมท่า

    20 มีนาคม 2548 09:35 น. - comment id 441681

    จุดประกายร้อยเรียงร่างความฝัน 
    ก่อสร้างสรรค์สู่สิ่งมีอักษร
    ยังลงเพ้อเข้าแต่งในยามนอน
    โคลงกาพย์กลอนฉันท์ร่ายจะมีผล
    
    เห็นด้วยครับ
  • ผู้หญิงไร้เงา

    20 มีนาคม 2548 11:31 น. - comment id 441718

    ค่ะ  เห็นด้วยกับคุณทุกประการเลย  แวะมาชื่นชมในผลงานนะคะ
  • ๕๕๕๕

    20 มีนาคม 2548 11:47 น. - comment id 441724

    ไม่มีใครสอนใครได้หรอกว่า
               จะสร้างค่างานกวีจากที่ไหน
                     ขึ้นกับความยอมรับปรับจิตใจ
                          อยู่ที่ใครเป็นคนอ่านงานของเรา
    
         คำกวี..ที่แท้ แปลว่า ปราชญ์
                ปัญญาภาสลิขิตอักขรสลักเสลา
                           มโนธรรมนำคำครูอยู่ในเงา
                                 ตำราเก่า ตำราใหม่ ไม่สำคัญ
    
          อ่อนละเอียด ละเมียดละมุน  มนตร์สุนทรียะ
                  ร้อยสาระ สระสัมผัส จัดสร้างสรรค์
                     คำคมแหลม แซมแทรก (ซ้ำแดกดัน)
                          กล้าประชันกลั่นกร้าว..ห้าวก็กวี..
                   
                
    
           
            
    
  • ผู้มาเยือน..๕๕๕๕

    20 มีนาคม 2548 11:55 น. - comment id 441729

    ไม่มีใครสอนใครได้หรอกว่า
          จะสร้างค่างานกวีจากที่ไหน
           ขึ้นอยู่กับการยอมรับปรับจิตใจ
           อยู่ที่ใครเป็นคนอ่านงานของเรา
    
                คำกวี..ที่แท้..แปลว่า ปราชญ์
          ปัญญาภาสลิขิตอักขรสลักเสลา
           มโนธรรมนำคำครูอยู่ในเงา
            ตำราเก่า ตำราใหม่..ไม่สำคัญ
    
              อ่อนละเอียด ละเมียดละมุน แสนสุนทรียะ
          ร้อยสาระ สระสัมผัส..จัดสร้างสรรค์
          คำคมแหลม แซมแทรก (ซ้ำแดกดัน)
           กล้าประชัน กลั่นกร้าว..ห้าวก็กวี.....
                           ***************
    
    
                 
    
    
  • Oracle

    20 มีนาคม 2548 16:54 น. - comment id 441840

    ต้องกล้าที่จะแสดงความคิดและแนวทางของตัวเองด้วยนะครับ ถึงแม้บางครั้งจะออกนอกกรอบไปบ้าง แต่มันก็คืองานของเรา ;)
    
    
  • ต่อง (ต้อง) ksg

    20 มีนาคม 2548 21:26 น. - comment id 441902

    
      ขอขอบคุณในทุกๆความเห็นมากๆนะครับ
    
      แล้วก็ขอขอบคุณในท่านผู้หวังดีต่อผม  ที่แนะนำ
    
      ว่าควรแก้ไขคำใดบ้างในเรื่องนี้...
    
      **..  ในความเห็นของผมนะครับ...
    
      เกี่ยวกับบทกลอน-กวี
    
      ก็คือทั้งหมดของเรื่องนี้  กลอนในปัจจุบัน
    
      เปลี่ยนไปมากจากแต่ก่อน..
    
    
  • ชบาแดงสีเหลือง

    25 ธันวาคม 2549 21:04 น. - comment id 639763

    ย้อนมาอ่านค่ะ คุณแต่งดีจัง...11.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน