ไหล
pigstation
ปลิวคว้างละลิ่วเวิ้งฟ้าทางไกลด้วยใจใหม่สด
ท่วงทำนองของความทรงจำไหลรี่ไปตามท่วงทำนอง ช่างคล้องจองจังหวะกระเพื่อมแห่งสายน้ำ ซ้ำยังกระพริบพราวเช่นดาวยอแสง
บันทึกไว้ซึ่งสิ่งดีๆอันเต้นไหวตามห้วงหัวใจบีบเต้นฉีดเร้าเอาเลือดแดงไปหล่อเลี้ยงร่างกายให้ชีพยัง
อย่ากินอยู่อย่างประทังความทุกข์มาโถมทับให้อึดอัดแน่นในเปล่าๆ
ด้วยที่ว่างยังมีที่สร้างสมให้ได้แหวกว่ายไปตามทางเสรี
กำกับทำนองไว้เช่นไหวพริบของนกตัวน้อยที่มีต่อสายตาไวของพรานผู้ล่าสังหาร
สู่ท้องทุ่งกว้างไกลอย่าประวิงตรงที่เคยคุ้น
สายลมลูกใหม่พัดพาความหอมหวานจากแดนไกลกู่ขานส่งข่าวมาซึ่งความชื่นสด
โดยลำพังตัวเราเองแล้วไม่อาจผ่านซึ่งความหมายที่ไม่เกี่ยวพันกันแต่ละสิ่ง แต่ละส่วนที่นำมาร้อยเรียงสลับรวม เพาะความหมายขึ้นมาใหม่เป็นแบบเฉพาะชีวทัศน์ของเราเอง เป็นแค่เรื่องประจักษ์รู้เฉพาะแบบ หมายถึง
เอกเทศบนความเชื่อมโยงที่ผูกพันทบเข้ากนอย่างเป็นหนึงเนื้อเดียวเกาะเกี่ยวกระหวัดรัดรวมเป็นร่างแห่คลุมไว้สุดที่จะประมาณการได้กับกาหลุดพ้นจากแรงเหนี่ยวนำ เหมือนมีระยะประชิดของความโน้มถ่วงสูงคอยดูดกลืนสู่สภาวะเอกภาพอันอเนกอนันต์ สุดท้ายห้วงหาวคือหุบเหวดำมืดร้างไร้ความเป็นตัวเรา
คือการหลอมรวมเป็นแกนกลางหนาแน่น ละลายความหลายเข้าสู่มวลรวม
ดั่งแต่ละเม็ดใสในสายฝนไหลรด ค่อยสลายตัวลงร่างบนหลังคาสังกะสี บนเปลือกคอนกรีต บนผิวถนน กลางชลธี แต่ละหยดแผ่สยายเคลื่อนไหวรุกรานและรวบรวมตัวเองเข้าเป็นมหานทีกว้างใหญ่ไพศาลกว่า
กลุ่มก้อนแผ่นดินกว่าเจ็ดในสิบส่วนประกอบสร้างเป็นลูกโลกหมุนวนคว้างในแบบแผนจักรดารา
เป็นฝุ่นคว้างผงกระจิ๋วกลางความกว้างกว่ากว้างที่คะเนได้ แล้วจะจับยึดความหมายใดนอกเหนือการดำรงตามเอกสภาวะสมบูรณ์ที่มีอยู่แต่เดิม ค่อยสืบสานขานรับการเรียกร้องภายในให้กู่ก้องเป็นภาษาแห่งตัวตน
บนปริภูมิวิญญาณ อย่าเพิกเฉยต่อหน่อเชื้อส่วนลึกแต่ปฐมกาล
เปลี่ยนแปลงได้เป็นเรื่องสมมุติ พึงละไว้สิ่งสร้างทำล้วนมีเสื่อมสิ้น สลายสูญ
คงเป็นหนึ่งในอนันตกาล กระเพื่อมเพียงวิบเดียว แต่ยาวนานจนเจ็บปวดท่วมท้นบ่าไหล ล้นหลามทับลงกลางจิต
สุดแบกรับไว้ ราวขยี้เต็มแรงบนจุดศูนย์กลาง ในปราณอันรู้เจ็บปวดเท่าทวี
ยอม