ความห่างเหินเดินมาหาคราขัดแย้ง และจัดแจงแบ่งข้างอย่างโง่เขลา กลายเป็นฉันเป็นเธอไม่มีเรา ชนวนแห่งความเศร้าเริ่มติดไฟ มอดไหม้ความสัมพันธ์อันนานเนิ่น เผาทางเดินแห่งมิตรคิดผลักไส เมื่อไม่ถูกใจกันพลันเปลี่ยนไป อยู่ห่างไกลอีกฟากมีฉากบัง หากใคร่ครวญทวนความถามหาผิด ที่เกิดเหตุคือจิตผู้คุมขัง กักเก็บโกรธชอบเกลียดรักและชัง สร้างพลังอมิตรคิดแยกทาง บางครั้งคำตำหนิติเพื่อก่อ กลายเป็นข้อพิฆาตฟาดรอยหมาง สายตาตื้นจึงลื่นตกหลุมพราง ของรูปร่างภาษาว่าหยาบคาย บางครั้งคำชมเชยที่ไพเราะ กลับถูกเยาะว่าแสร้งแกล้งขยาย ให้เกินจริงเป็นสิ่งที่มอมมาย จึงผ่อนคลายเชือกมิตรบิดสัมพันธ์ แท้ที่จริงสิ่งก่อกำแพงใหญ่ คือจิตใจกำหนดกฎกวดขัน ไว้ที่เพียงภาษามากีดกัน ไม่เท่าทันน้ำใจในวจี หากทำผิดคิดไว้ว่าเป็นครู เมื่อผู้รู้มาเตือนอย่าเบือนหนี เหมือนเป็นครูของครูนั้นอีกที คิดเช่นนี้จึงก้าวหน้าพาเจริญ อย่าใช้ใจตัดสินใครในภาษา คำพูดจาอาจฟังแล้วขัดเขิน ควรไตร่ตรองน้ำจิตก่อนคิดเมิน เพื่อทางเดินอบอุ่นอย่างคุ้นเคย
8 พฤศจิกายน 2547 21:25 น. - comment id 366361
อย่าใช้ใจตัดสินใครในภาษา ด้วยเพราะว่าไม่เห็นหน้าแค่อาสัย กับหนังสือสื่อถ้อยร้อยความนัย ใช่จะหมดทั้งหัวใจที่เขียนมา *-*แต่งได้ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ ชอบจัง ขอเก็บนะค่ะ*-*
8 พฤศจิกายน 2547 21:27 น. - comment id 366362
หวานเป็นลมขมเป็นยาตำราบอก คำพูดออกให้เอาสองเข้าหาร อย่าไว้เนื้อเชื่อง่ายในดวงมาน ดูที่การกระทำเป็นสำคัญ
8 พฤศจิกายน 2547 21:34 น. - comment id 366367
การตีความของแต่ละคนไม่เหมือนกันใช่ไหมคะ พี่ดอกแก้ว บางทีคำพูดที่เราไม่ได้คิดอะไรเลย เขากลับหาว่าเราประชดประชันไปเสียอีก เพราะว่าจิตใจพื้นฐานของแต่ละคนไม่เหมือนกันใช่ไหมคะ การพูดให้ถูกใจทุกคนเป็นเรื่องยากมากเลยค่ะสำหรับกานต์ ขอบคุณนะคะพี่สาวคนดีที่มีงานดีๆมาฝากน้องเสมอ
8 พฤศจิกายน 2547 21:37 น. - comment id 366371
ooooooooooo
8 พฤศจิกายน 2547 21:42 น. - comment id 366378
กุ้งก็ไม่สามารถพูดให้ถูกใจทุกคนค่ะ เพียงแต่ว่าพูดแล้วมีประโยชน์...ก็จะทำค่ะ .. เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน ..ก็สุดแล้วแต่ค่ะ .. ส่วนตัวเราถ้าคิดว่า..ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วก็จะทำต่อไปค่ะ ...
8 พฤศจิกายน 2547 21:45 น. - comment id 366382
ตัวหนังสือสื่อความได้ตามคิด แต่ที่ผิดเพราะผู้รับจับความหมาย ไม่กระจ่างห่างถี่ไม่คลี่คลาย พังทะลายสิ่งหวังที่ตั้งใจ** มาอ่านกลอนงามนะคะ ไพเราะและถูกใจมาก สวัสดีค่ะ
8 พฤศจิกายน 2547 21:46 น. - comment id 366388
คิกๆๆๆไม่ถูกใจคนอื่นแต่ถูกใจหวานคนเดียวก็พอจ้าพี่ดอกแก้วจ๊ะนอนหลับฝันดีนะคะ คิดถึงพี่สาวเสมอค่ะ
8 พฤศจิกายน 2547 21:49 น. - comment id 366391
* = * = * ู^__________^ * = * = *
8 พฤศจิกายน 2547 21:53 น. - comment id 366396
คืออักษรร่อนลงสื่อตรงหน้า ไร้จริตนำพาคราขีดเขียน อาจทึ่มทื่อในอารมณ์พร่างพรมเจียร มันเลยเพี้ยนนัยนิยามถอดความกัน เพียงรอยลักษณ์ไร้เสียงเยี่ยงชิดใกล้ ดูเหมือนใจแข็งกระด้างดุจห่างฝัน คำคำหนึ่งอาจแปลงไปได้สารพัน จากสร้างสรรค์แปลผิดมิตรจึงกลาย เคยรักชอบมอบสัมพันธ์กันดีอยู่ แสนอดสูเพราะไมตรีมาลี้หาย คำค่อนแคะกระทบกระทั่งยังเรียงราย น่าเบื่อหน่ายสังคมคนบนโลกลวง สวัสดีค่ะ คุณดอกแก้ว ..
8 พฤศจิกายน 2547 22:26 น. - comment id 366435
สาธุพี่ดอกแก้วค่ะ หนุเข้าใจค่ะพี่ เวลานี้ไม่มีอะไรที่หนูจะไม่เข้าได้ค่ะ เข้าใจ และจะเพียรพยายาม กระทำให้ได้อย่าที่หวัและต่างใจค่ะ กราบขอบพระคุรสำกรับกลอนที่ชี้แนะค่ะ
8 พฤศจิกายน 2547 23:09 น. - comment id 366470
ครับยอดนักกลอนธรรมมะ ยังงดงามเหมือนเดิมครับ อ๋อผมไปอ่านเวปฯแล้วล่ะครับเก็บภาพไว้ด้วยล่ะ ว่าจะเอามาลงประกอบกลอนธัมมะที่ผมแต่งด้วย ยังไงขออนุญาตทางนี้ด้วยก็แล้วกันนะครับคงไม่ว่ากัน เกือบลืมไปงานกฐินครับ ขอบคุณล่วงหน้าด้วย แก้วประเสริฐ.
9 พฤศจิกายน 2547 08:08 น. - comment id 366550
เรน.. ไม่อยากให้..มีเส้นแบ่ง .อันนั้นเลยนะคะ... บางครั้ง .. กับ คำถาม ..ในใจ.. สิ่งเคยได้ .. เลือนลาง .กลับห่างเหิน.. ความรู้สึก ..อ้างว้าง ..ในทางเดิน.. ต้องเผชิญ.. โลกฝัน ..วันเดียวดาย.. ..มัยร่า..ต้องถูกกำหนด.. กับบางกฎ ..ที่กั้น ..ทำเบื่อหนาย.. ไหวหวั่น ..คำถาม .ยามข้างกาย.. ต้องห่างหาย ..ไม่ใกล้ ..เพราะใจกลัว.. ภาพที่วาด ..เขียนไว้ ..เพื่อให้รู้ .. โปรดเหลียวดู ..เด็กน้อย ..ยามยิ้มหัว.. ใจระรัว .. เต้นตึ้ก .. ยามนึกใกล้ .. ..เรน ..เขียน..ตามที่ใจ..อยากจะเขียน.. จะมาตัด คำเพี้ยน .. อีกที .. นะคะ.. เรน ... คิดถึง ... มากเลยคะ..
9 พฤศจิกายน 2547 11:03 น. - comment id 366613
สวัสดีค่ะ...พี่ดอกแก้ว การพูดจาให้พึงระวังปาก จะยุ่งยาก ห้ามพลั้งเผลอ หลุดออกไป แบบละเมอ คนฟังเบลอ จะพาลเอา... ....ชื่นชมผลงาน ของพี่เสมอ ...... ^__^
9 พฤศจิกายน 2547 12:29 น. - comment id 366666
ขอบคุณครับผม
9 พฤศจิกายน 2547 18:39 น. - comment id 366714
โอ้ยยยยยยยย.....มาสายอย่างแรง อิอิ แวะมาทักทาย และอ่านเหมือนเดิมนะคะ มาสายปายหน่อยม่ายว่ากันนะคะ...
9 พฤศจิกายน 2547 21:58 น. - comment id 366892
แวะมาอ่านกลอนเพราะค่ะ อิ อิ...
9 พฤศจิกายน 2547 22:37 น. - comment id 366930
ไม่ได้แวะมาซะนาน คิดถึงทุกคนจัง พี่ดอกแก้วสบายดีไหม? พอผมมาถึงทีไรก็ได้อะไรดีๆกลับไปทุกทีเลย ^ ^ กลอน เพลง หรืออะไรก็ตามที่มีคนสร้างขึ้นมาด้วยใจรักอ่ะคับ มันไม่จำเป็นต้องทำอะไรให้ถูกต้องทั้งหมดหรอกจริงไหม? ผูกปมปริศนาให้แก้เล่นบ้าง ทิ้งข้อคิดให้พิจรณากันบ้าง หรือแม้แต่คำหรือข้อความแปลกๆ มันก็เป็นสีสันให้กับผลงานอ่ะคับ จะเป็นคำภาษาไหน หรือลดรูปมาจากคำไหน แต่ถ้าคนอ่านกับคนเขียนมีความเข้าใจตรงกัน มันก็น่าจะเพียงพอแล้วอ่ะคับ ถ้าคนอ่านเค้าไม่ได้คิดตาม คอยแต่จะจับผิดละก็ มันคงไม่มีประโยชน์อะไร จิงไหม? สำหรับผมไม่ว่าคนเขียนจะเขียนออกมายังไง เค้าก็มีความคิดที่จะสื่อความในใจของเค้าออกมา เข้าถึงตรงนั้นได้ ก็บรรลุแล้วคับ ^ ^ ฝากกำลังใจให้พี่ดอกแก้วครับ แล้วผมจะทำตามที่ผมควรจะทำต่อไป เย้ๆๆ
10 พฤศจิกายน 2547 01:08 น. - comment id 367097
@...ผู้หญิงไร้เงา... เป็นบทกลอนเกริ่นไว้ให้ขบคิด ถึงน้ำจิตกับภาษาอย่าสับสน สื่อคือสื่อเป็นเพียงเสี้ยวของใจคน หากร้อนรนอาจผิดพลั้งจนคลั่งใจ ขอบคุณมากนะคะน้องตูน กลอนบทนี้พี่ดอกแก้วมีที่มาจากเรื่องราวในพระพุทธศาสนา ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อหลายพันปีก่อน และหลายพันปีต่อมา...เหตุการณ์อย่างนี้ก็ยังคงสืบเนื่องเป็นไปในชีวิตมนุษย์ในสมัยนี้ เหมือนกับเป็นเชื้อโรคที่แพร่กระจายไม่สุดสิ้น เชื้อร้ายนั้นก็คือกิเลสที่แต่ละคนมีนั่นเอง จึงมักจะใช้พื้นฐานของใจตนตัดสินผู้อื่นด้วยความไม่รอบคอบ..และเกิดความขัดแย้งในที่สุด
10 พฤศจิกายน 2547 01:13 น. - comment id 367102
@...ชัยชนะ... หวานชาวบ้านร้านถิ่นกลิ่นลวงหลอก โชยมาบอกว่าหวานหว่านพิษแฝง หวานพระธรรมล้ำค่ามาแสดง หมดเคลือบแคลงวาจาอนุโมทนาบุญ ...ปกติของคำหวานก็มักไม่มีสาระให้จับต้อง เป็นการให้กำลังใจกันเสียส่วนใหญ่...แต่คนก็ชอบ เพราะว่า..ไม่หนัก ส่วนคำขมๆนั้น ฟังแล้วหนักหนาโดยเฉพาะหนักใจ จะพาลกลายเป็นยาพิษเสียก็ไม่รู้นะสมัยนี้
10 พฤศจิกายน 2547 01:22 น. - comment id 367112
@...น้องกานต์ เพียงพลิ้ว... ถ้อยวาจามาจากใจคนหนึ่ง ในก้นบึ้งอาจมีความที่หมาย แต่อีกคนมาอ่านพาลวุ่นวาย เพราะลวดลายของใจไม่เหมือนกัน เป็นเรื่องธรรมดาค่ะน้องกานต์ ..เพราะคนเราต่างใจ ต่างนิสัย ต่างอารมณ์ และโดยเฉพาะมีกิเลสที่ต่างกัน.. การฟัง การอ่าน และการเขียนที่เข้าใจผิดประเด็น จึงเกิดขึ้นเสมอ ขนาดพี่น้องกันเองก็ยังทะเลาะกันได้ ...อย่าขวนขวายเพื่อให้ถูกใจใครเลยค่ะ ..แต่ควรมีหลักที่มั่นคงว่า ..พูดและเขียนเพื่อสร้างสรรค์ประโยชน์ ...แต่หากใครจะเข้าใจผิดอย่างไรก็เป็นเรื่องส่วนตัวของคนผู้นั้น ... มั่นใจในหลักการของตนอย่างนี้ก็จะใช้ชีวิตได้อย่างภาคภูมิค่ะน้องกานต์
10 พฤศจิกายน 2547 01:27 น. - comment id 367115
@...คุณทิกิ... ต่างคาดเดาด้วยเขลาว่ารู้ใจ ถึงเลศนัยผู้เขียนเวียนภาษา แล้วตัดสินด้วยตนผลอัตตา จึงหลงวาจานี้ทั้งดีเลว ไม่พูดอะไรบ้างหรือคะคุณทิกิ อนุโมทนานะคะที่มาร่วมสร้างกุศลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา.. ต้องขออภัยในการต้อนรับขับสู้ด้วยนะคะ เนื่องจากในวันนั้นปฏิบัติภารกิจอย่างยาวนานจนถึงค่ำ...ขอบคุณอีกครั้งนะคะในการร่วมทางกุศลครั้งนี้
10 พฤศจิกายน 2547 01:39 น. - comment id 367118
@...กุ้งหนามแดง... ผู้โทสะจริตติดดุร้าย จึงไม่วายพูดห้วนกวนภาษา ทั้งที่จริงใจนี้มีเมตตา แต่พูดจาเอาแต่ใจไม่น่าฟัง ผู้ราคะจริตติดไพเราะ ซึ้งเสนาะกังวานปานเสียงสังข์ ภาษาต้องสวยงามไม่รุงรัง จึงต้องพังเมื่อจริตผิดแผกไกล สวัสดีค่ะน้องกุ้ง...โดยส่วนตัวแล้วพี่ไม่เคยคุยกับน้องกุ้ง แต่ดูจากงานแล้วชื่นชอบในการสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ ..โดยเฉพาะประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาและพุทธศาสนิกชนทั่วไป...อนุโมทนาในงานเขียนที่อ่านง่ายและได้สาระทุกชิ้นงานนะคะ
10 พฤศจิกายน 2547 01:48 น. - comment id 367121
@...กอกก... ตัวหนังสือสื่อสารการกล่าวถ้อย อาจเรียงร้อยด้วยกลคนผู้เขียน หรืออาจนำทิศทางดังแสงเทียน เป็นบทเรียนแก่คนอ่านอย่าผ่านเลย ขอบคุณค่ะกอกก... ความไม่เข้าใจกัน..เป็นปัญหาใหญ่เสมอทั้งในการฟังและการอ่าน... จะให้ใครมารู้ใจเราเท่าตัวของเราเองก็คงเป็นไปไม่ได้ และในทางกลับกัน ..เราจะไปรู้ใจใครเขาได้เท่าตัวเขาเองได้ สมัยที่เรียนวิชาวรรณคดี ..พี่ดอกแก้วก็รู้สึกแปลกใจนะคะว่า ทำไมคุณครูจึงชอบให้เราเดาใจกวีผู้เขียนอยู่เรื่อยๆ ...ทั้งที่เวลาก็ผ่านมาตั้งหลายร้อยปีแล้ว ใครจะไปล่วงรู้ได้ว่า แท้จริงแล้วผู้เขียนได้เขียนบทประพันธ์นี้ขึ้นมาเพราะอะไรและต้องการให้มีความหมายอย่างใด... แม้เรื่องนี้จะแปลกๆแต่พี่ดอกแก้วก็ทำตามคำสั่งของคุณครูค่ะ
10 พฤศจิกายน 2547 01:54 น. - comment id 367122
@...น้องหมูหวาน เพราะรัก... สองประเด็นเห็นควรประมวลไว้ เป็นเรื่องในบทกลอนวอนศึกษา ติเพื่อก่อ..หวานประโลมแก่ชีวา เพื่อเตือนใจไว้ว่า..อย่าติดคำ ขอบคุณมากนะคะน้องหมูหวานที่น่าเอ็นดู ช่วงนี้พี่ดอกแก้วมีภารกิจมากมายค่ะ ไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมเยียนน้องๆอย่างทั่วถึง..ขอโทษด้วยนะคะ แต่น้องหมูหวานก็มาเป็นกำลังใจให้ทุกครั้ง..ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
10 พฤศจิกายน 2547 01:59 น. - comment id 367125
@...วงเวียน... คำตำหนิติติงใช่สิ่งร้าย แต่ความอายมาครองใจให้โทสา หากยอมรับว่าผิดจริงสิ่งทำมา แม้อายบ้างก็สร้างค่าว่าเล่าเรียน คำติติงนั้นนอกจากจะกระทบกระเทือนถึงตัวตนแล้ว ยังกระตุ้นความอับอายจนกลายเป็นโทสะให้เกิดขึ้นได้ ปัญหาความขัดแย้งส่วนหนึ่ง จึงเกิดขึ้นตามมาด้วยประการฉะนี้ ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ
10 พฤศจิกายน 2547 02:21 น. - comment id 367135
@...น้องอัลมิตรา... เพราะความคิดติดคุกจุกทิฏฐิ จึงดำริตัวตนจนใหญ่หลวง บรรทัดฐานเหนือใครในทั้งปวง สร้างผลพวงเอาใจตนจนเคยชิน เมื่อพบความแตกต่างไม่อย่างใจ จึงทำให้ตั้งศาลพาลตัดสิน เอาใจตนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ผู้อื่นสิ้นสำคัญวันหมางใจ แปรความแค้นเคืองใจใส่ภาษา กระทบมาตามโอกาสที่หลั่งไหล ใบหน้ายิ้มอิ่มงามความไฉไล ซ่อนพิษภัยเพราะความแค้นที่แน่นทรวง เป็นอย่างนี้เพราะมากมีกิเลสหมอง มาครอบครองเป็นใหญ่ในเรือนหลวง จึงแสดงแสร้งกระทำกรรมทั้งปวง ให้เป็นบ่วงร้อยบาปอาบชีวา สวัสดีค่ะน้องอัลมิตรา... เรื่องของภาษามนุษย์ ..เป็นการบัญญัติขึ้นเพื่อประโยชน์ในการสื่อสาร ..แต่บางครั้งก็ต้องตีความกันหลายรอบเพราะมีหลายความหมาย โอกาสผิดพลาดในการเข้าใจผิดจึงมากมาย ..และก็กลายเป็นความขัดแย้งที่มีอยู่เกลื่อนกลาด.. ขอบคุณที่แวะมาทักทายนะคะ
10 พฤศจิกายน 2547 02:36 น. - comment id 367144
@...น้องนิ่ม ดาหลา & ปะการัง ... ภาษาอาจไม่ถูกใจในความชอบ บททดสอบกิเลสเหตุปัญหา ชอบไม่ชอบ..เป็นเพียงภาพลวงตา มองให้ซึ้งถึงค่าคำนิยาม สวัสดีค่ะน้องนิ่ม... ขอให้สำเร็จในความปรารถนานะคะ.. บทกลอนนี้เกิดจากความระลึกถึงเรื่องของมาคัณฑิยะพราหมณ์กับลูกสาวคือนางมาคัณทิยา ..เรื่องราวก็มีอยู่ว่า มาคัณทิยะพราหมณ์กำลังหาคู่ให้แก่ลูกสาวคือนางมาคัณทิยา..ครั้งเมื่อมาพบพระพุทธองค์แล้วก็ต้องใจในมหาปุริสสลักษณะ ..และกล่าววาจาว่าจะยกลูกสาวให้แต่งงานด้วย. ..แต่พระพุทธองค์ทรงกล่าวว่า ..ดูก่อนพราหมณ์ แม้ว่าบุตรสาวของท่านจะเลอโฉมงดงามก็จริง แต่เราใช่ว่าจะไม่เคยพบเห็นสตรีที่เลอโฉมก็หาไม่ สมัยที่เรายังเป็นเจ้าชายสิทธัตถะอยู่ เราห้อมล้อมด้วยเหล่านางสนมที่ล้วนแล้วแต่งดงามเลือกเฟ้นมาอย่างดี แต่เราก็เกิดความเบื่อหน่ายในที่สุด เพราะความงามนั้นไม่ยั่งยืน แท้จริงร่างกายอันมีอาภรณ์ปกปิดนี้ เต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูล อันมี น้ำมูก น้ำลาย น้ำปัสสาวะ อุจจาระ เป็นต้น หลั่งไหลออกจากทวารทั้ง ๙ อยู่เสมอๆ อย่าว่าแต่จะสัมผัสบุตรสาวท่านด้วยปลายนิ้วมือเราเลย แม้แต่ปลายเท้า เราก็ไม่อยากจะสัมผัส จากนั้นก็เทศน์โปรดจนพราหมณ์ได้ดวงตาเห็นธรรม ...แต่นางมาคัณทิยาผู้เป็นบุตรสาวกลับไม่ชอบใจในคำกล่าวนั้นกลับอาฆาตแค้นพระพุทธองค์ ..และเมื่อได้มาเป็นมเหสีของพระเจ้าอุเทนแล้วก็ก่อกรรมทำเข็ญต่างๆนานา จนกระทั่งถูกเฉือนเนื้อทีละชิ้นไปทอดน้ำมันเดือดๆตามบทลงโทษของพระราชา.. ตรงนี้จึงเป็นสิ่งที่น่าคิดว่า ..คำพูดประโยคเดียวกัน แต่ต่างคนฟัง กลับส่งผลให้แตกต่างอย่างน่าตกใจ ...เพราะฉะนั้น ใจของผู้อ่านหรือผุ้ฟัง จึงเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดในการพัฒนาค่ะน้องนิ่ม
10 พฤศจิกายน 2547 02:43 น. - comment id 367148
@...คุณแก้วประเสริฐ... ความปรุงแต่งแสดงเดชเขตความผิด ความยึดติดแสดงตนจนเหมือนบ้า ตัดสินตามใจตนทุกเวลา ไม่มองค่ามองคุณหนุนเบื้องใน ขอบคุณที่แวะมานะคะคุณแก้วประเสริฐ ต้องขออภัยด้วยนะคะที่ยังไม่มีโอกาสไปตอบความคุณแก้วประเสริฐในกระทู้ไหนเลย สำหรับเรื่องภาพนั้น...อนุญาตทุกภาพค่ะ เชิญนำไปใช้เพื่อประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาได้ตามสะดวกนะคะ
10 พฤศจิกายน 2547 02:56 น. - comment id 367150
@...เรนน้อย... เพราะความคิดจึงเห็นให้เห็นต่าง แต่ละอย่างต่างมุมคลุมความหมาย แต่ละคนต่างใจให้วุ่นวาย เพราะความคิดมากมายไม่เหมือนกัน ถูกของเรากับของเขาไม่เข้าพวก ลบกับบวกคนละทางไม่สร้างสรรค์ ต่างกำหนดขอบเขตขีดสัมพันธ์ จึงมีวันห่างเหินเดินแยกไป หากไร้ความคาดหวังฝังใจลึก จะไร้ศึกสนามอารมณ์ขมนิสัย มองตามจริงสิ่งรอบข้างที่เป็นไป พิสูจน์ใจกับมุมมองของต่างคน สวัสดีจ้ะน้องเรน... ซุ่มฝึกฝีมือไปถึงไหนแล้วเอ่ย ช่วงนี้พี่ดอกแก้วไม่ค่อยว่างเลย...แถมยังป่วยไม่หาย ...ช่วงที่แข็งแรงพอก็เข้ามาวางกลอนไว้ให้อ่าน ..แล้วก็กลับเข้ามาคุยสาระกับน้องๆบ้าง เพื่อกุศลในแต่ละวัน...แต่บางคราวก็คิดว่าอาจจะเป็นเรื่องที่หนักเกินไปสำหรับน้องๆ ...ต้องขอโทษน้องเรนด้วยนะจ๊ะ ถ้ามีการตอบด้วยธรรมะที่ยากแก่การเข้าใจไปบ้าง ..บางทีเรื่องของความคิดก็สร้างอุปสรรคให้แก่ชีวิตมากเลยนะจ๊ะ...เด็กดีของพี่
10 พฤศจิกายน 2547 03:04 น. - comment id 367153
@...แมงกุ๊ดจี่... มองผู้พูดผู้ฟังตั้งใจคิด ถ้อยลิขิตไตร่ตรองมองให้เห็น เหมือนมองจันทร์แจ่มจ้าในคืนเพ็ญ มองข้ามรอยหมองเร้นในดวงจันทร์ เมื่อใดที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียให้เรามอง มองข้อดีให้มากๆไว้..ใจจะได้เป็นสุข วิธีนี้เป็นวิธีรักษาใจตัวเองได้อย่างดีเลยค่ะ ขอบคุณที่แวะมานะคะ
10 พฤศจิกายน 2547 03:08 น. - comment id 367155
@...คุณก่อพงษ์... สิ่งปรากฏใช่กำหนดถึงภาพแท้ อาจเป็นแค่สื่อสารธารน้ำใส ให้ลอยล่องติดตามความเป็นไป แต่ถ้าใจปิดกั้น..พลันสิ้นธาร ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะคุณก่อพงษ์
10 พฤศจิกายน 2547 03:15 น. - comment id 367157
@...น้องอุ๊ สาวดำคนน่ารัก... อุปสรรคบ่มฟักความสำเร็จ ความเคืองเข็ดทำลายพรายความหวัง ความโกรธแค้นทำมิตรให้ภินท์พัง ความระแวงแกล้งความหวังให้พังลง ทั้งความโกรธและความระแวง..ทำให้สิ้นสัมพันธภาพอันดีมานักต่อนักแล้วละ ขอบคุณที่แวะมานะคะ ..ยังไม่สายหรอกค่ะน้องอุ๊
10 พฤศจิกายน 2547 03:16 น. - comment id 367158
คุณแก้ว ที่ไม่เขียนนั้นเพราะไม่ทราบจะเขียน อะไร แบบ ใบ้ ร้บประทานน่ะค่ะ หมู่นี้ผจญกรรมนอกเว็บมหากาฬทุกวัน พอเข้าเว็บก็เกิดความเบื่อๆมิค่อยอยากจะ สนใจใยดีกับความเห็นของผู้คน โดยเฉพาะคนที่เข้ามาไม่ลงทะเบียนแล้ว คอยแอบ่ว่าคนโน้นคนนี้ และบางคน เข้ามาลง ทะเบียนก็เขียนว่าคนอื่นอีก เลยเฉยๆกับผุ้คน ประเภทนี้ไปแล้วด้วยไม่สร้างสรรค์สังคมเสีย เลยน่ะค่ะ การที่เราจะพูดจะเขียนกลอน ถ้าเรามีความ ตั้งใจดีไว้ เป็นสุจริตใจ มีกุศลกรรมบทสิบเป็น ตัวนำทางอย่างไรก็เขียนไปเถิดค่ะ อย่าไปกังวล กับถ้อยคำผุ้คนรอบข้าง..
10 พฤศจิกายน 2547 03:17 น. - comment id 367159
@...ลอยไปในสายลม... ความห่างเหินเดินไปเมื่อใจพร้อม และยินยอมรับไมตรีที่เคียงข้าง คือน้ำใจที่รินไหลระหว่างทาง จากถ้อยคำที่อาจร้างไพเราะไป ทำใจสบายๆแล้วความห่างเกินก็จะเดินจากไปค่ะน้องแวว
10 พฤศจิกายน 2547 03:26 น. - comment id 367160
@...NonSense... หากตรวจสอบรอบคอบว่าตนผิด ควรเร่งคิดแก้ไขไม่ขัดขวาง เพื่อประโยชน์ต่อไปในเส้นทาง จะไม่ร้างความสำเร็จเสร็จสวยงาม ขอบคุณที่มาเขียนไว้ให้เป็นกำลังใจนะคะ หลายคราวที่ถูกทักท้วง...เป็นเหมือนสิ่งที่ทำให้เราต้องตรวจสอบตนเองค่ะว่า ..มีความผิดเกิดขึ้นอย่างใดหรือไม่ เมื่อตรวจพบแล้วก็ต้องแก้ไข ..หากไม่เข้าใจก็ต้องถามไปเพื่อรับคำอธิบายที่ชัดเจน ...ในคำตำหนิเพื่อก่อนั้น มีแต่การสร้างประโยชน์ทั้งสิ้น ทั้งแก่ตนเอง และส่วนรวมที่จะแวะเวียนมาพบ..พี่ดอกแก้วคิดไว้อย่างนี้....และพยายามที่จะเรียนรู้ให้มากๆ จะได้มีข้อผิดพลาดน้อยลง ..แต่ก็จนด้วยเวลาที่มีนะคะ น้อยเหลือเกินกับงานด้านนี้ .. ขอขอบคุณอีกครั้งในน้ำใจที่แสนอบอุ่นนะคะ NonSense...
10 พฤศจิกายน 2547 03:29 น. - comment id 367161
@...คุณทิกิ (อีกครั้ง)... ขอบคุณมากนะคะที่แวะกลับมาอธิบายความอีกครั้ง ก็เพียงสงสัยในสัญลักษณ์น่ะค่ะ..ว่าหมายถึงอะไร อนุโมทนาในกุศลจิตที่มีในงานเขียนนะคะ
10 พฤศจิกายน 2547 08:21 น. - comment id 367178
สวัสดีค่ะ....พี่ดอกแก้ว มะกรูด...เข้ามาอ่านรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ ยิ่งอ่าน ก็ยิ่งทำให้เข้าใจ ไม่ว่าจะในภาษาอักษร หรือภาษาพูด ที่เผชิญอยู่ตอนนี้ ก็เกินจะค้นในใจกับคำพูดของใคร และก็ไม่อยากจะค้นไป.... มะกรูดเองอาจอ่อนไหวเกินไป... มะกรูดขอเป็นกำลังใจให้พี่ดอกแก้วนะค่ะ.... ู^__^
10 พฤศจิกายน 2547 14:52 น. - comment id 367467
@...แมงกุ๊ดจี่... สวัสดีค่ะน้องมะกรูด... เรื่องของคำพูด..มีแง่มุมให้คิดและให้ระมัดระวังอยู่หลายอย่าง...ที่เรียกว่า เว้นจากอคติ.. การฝึกมองโลกในแง่ดี..จะช่วยให้จิตใจสบายขึ้น ไม่เคร่งเครียดกับความคิดที่เข้าข้างตนเอง..ว่าเราถูกต้องเสมอ... ขอบคุณที่มาเป็นกำลังใจให้พี่ดอกแก้วนะคะ
18 พฤศจิกายน 2547 22:03 น. - comment id 373029
สวัสดีค่ะพี่ดอกแก้ว พี่ดอกแก้วไม่อยู่บ้าน กานต์เลยมาเฝ้าบ้านแทนค่ะ คิดถึงพี่สาวคนดีเสมอนะคะ
19 พฤศจิกายน 2547 09:38 น. - comment id 373236
@...น้องกานต์ เพียงพลิ้ว... สวัสดีค่ะน้องกานต์ ขอบคุณในน้ำใจที่มาเฝ้าบ้านให้พี่ดอกแก้วนะคะ เหงาหรือเปล่าคะ..มาอยู่คนเดียวตรงนี้ วันนี้กลับบ้านมาแล้วค่ะ ..ชื่นใจจังที่เห็นน้องน่ารักมารออยู่ที่บ้าน
19 พฤศจิกายน 2547 20:51 น. - comment id 373712
สวัสดีค่ะพี่ดอกแก้ว ไชโย พี่ดอกแก้วมาแล้ว กานต์เอาน้ำมาให้ดื่มค่ะ กานต์ไม่เหงาหรอกค่ะ มีเพื่อนตั้งเยอะ แค่คิดถึงพี่ดอกแก้วก็ไม่เหงาแล้วค่ะ กานต์จะรอให้ถึงวันอาทิตย์เร็วๆนะคะ กานต์ค่อยสบายค่ะ เดี๋ยวคงต้องนอนแล้วค่ะ แล้วเจอกันนะคะพี่สาวคนดี
23 พฤศจิกายน 2547 20:19 น. - comment id 376245
@...น้องกานต์... ขอบคุณในน้ำใจที่แสนดีของน้องกานต์มากนะคะ