ในห้องเรียนเขียนอ่านชำนาญเวทย์ มนต์วิเศษแคล่วคล่องท่องศึกษา ทฤษฎีขึ้นใจในวิชา กระบวนท่าสวยงามยามร่ายรำ ฉากทดลองคล่องการทุกงานฝึก เหตุผลลึกล้ำความแสนงามขำ กอปรหลักการทุกหนผลกระทำ วิจารณ์คำคมคาดแสนบาดใจ รอยยิ้มเหยียดเดียดผู้สู้พ่ายแพ้ ชี้ทางแก้ข้อบกพร่องต้องวิสัย ของผู้อื่นอย่างเชี่ยวชาญชำนาญนัย ดุจตนเองเกรียงไกรในตองอู แล้ววันหนึ่งถึงซึ่งผู้เก่งกาจ ล้มระนาดศึกแรกแบกอดสู หนีซมซานผิดหวังครั้งพันตู ลืมหมดสิ้นความรู้ทฤษฎี เปลี่ยนเป็นคนแพ้พ่ายไม่คลายแพ้ ผงเข้าตาไม่อาจแก้ให้สุขี โทษหลายอย่างสร้างเหตุเภทไพรี แต่ไม่โทษตนนี้ว่าอ่อนการณ์ เรียนวิธีสร้างสุขคลายทุกข์โศก กลับวิโยคกอดตำราคราหักหาญ ย้อนอดีตคร่ำครวญทวนสัญญาณ สอบไม่ผ่านภาคสนามความเสียใจ
28 ตุลาคม 2547 07:22 น. - comment id 358642
มาอ่านงานของอาจารย์ต้อยครับ และต้องขอโทษด้วยนะที่พักนี้ไม่ได้เอากลอนไปลงที่บ้านอาจารย์เลย...งานเยอะพอตัวเลยครับ...เหนื่อยมาก..บางครั้งก็เริ่มท้อ
28 ตุลาคม 2547 09:06 น. - comment id 358658
เมื่อวาน ที่ โรงพยาบาล มีแนวคิดหนึ่งที่ดีมากเลย มาฝากค่ะ คุณตาที่ดูแลอาการป่วยของภรรยา คุณตาเกษียนแล้ว เคยเป็นครู ค่ะ ทุกวันนี้วาดรูป ปั้นรูป ตามเรื่องมีความสุขกับตรงนี้ ท่านเล่าว่า ทุกปีจะให้ทุนการศึกษาเด็กนักเรียน (ท่านไม่มีบุตร) กติกามีเพียงว่า ยากจน ต้องยากจนเท่านั้น ไม่สนใจว่าจะการเรียนดีหรือไม่ดี .. ท่านบอกว่า การสร้างคนให้เป็นคนดีในสังคมนั้น โอกาสที่จะหานักเรียนจนและเรียนดี อาจจะมีน้อย แต่ถ้าให้โอกาสนักเรียนที่เรียนไม่ดีแต่จน สร้างเขาให้สำเร็จการศึกษา เพื่อประกอบอาชีพในภายภาคหน้าได้ จะยิ่งดีกว่า อัลมิตราคุยกับท่านแล้วรู้สึกสบายใจ .. และนึกถึงคำของคุณพ่อ เคยบอกอัลมิตราว่า .. จงสอนคนให้ตกปลา อย่าเพียงแต่หยิบปลาตัวโตให้ .. ประโยคนี้ อัลมิตราก็เพิ่งจะหยิบยกมาสนทนากับเพื่อนไม่นานมานี้เองค่ะ วกมาที่กลอนของพี่ดอกแก้วนะคะ .. ตอนเรียนมัธยมต้น อัลมิตราเคยทะนงตนว่า ผลการเรียนได้ยอดเยี่ยม โดยรักษาระดับเกรดเฉลี่ยไว้ ไม่ต่ำว่า 3.96 เสมอ ในช่วง ม.1 - ม. 3 ... ดังนั้นเมื่อช่วงย้ายโรงเรียน เทอมแรก อัลมิตราเกรดเฉลี่ยเหลือเพียง 3.2 ความรู้สึกเหมือนหล่นวูบลงเหว ใจหาย เป็นไปได้หรือนั่น ทำไมเราได้เกรดเท่านี้ .. ใช้เวลาพอสมควร ซึ่งตามวัยตอนนั้น เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ จากนั้นมาก็เริ่มเรียนรู้ว่า .. เราแน่แค่ไหน ก็ยังมีคนที่แน่กว่าเรา เราเก่งแค่ไหน ก็ยังมีคนที่เก่งกว่าเรา .. ผลที่โดนกระทบกับตัวเองในครั้งนั้น เป็นบทเรียนที่ดีกับอัลมิตราเสมอมาค่ะ :) วันนี้เล่ายาวไปนิด พี่ดอกแก้วอย่าเพิ่งเบื่อนะคะ
28 ตุลาคม 2547 09:40 น. - comment id 358669
ความรู้ ในห้อง ต้องเก่งกาจ ความรู้ สู้โลกนั้น ฉกาจกว่า ใช้หัวใจ ความคิด แทนตำรา เผชิญหน้า ณ สนาม แห่งความงง ........................................................ ในห้องเรียนก็ได้ แสดงความเก่งแล้ว ในการต่อสู้ กับโลก หน้าที่การงาน ตลอดจนการใช้ชีวิต ก็พิสูจน์แล้ว ................ว่า - เราเก่ง แต่กับสนามแห่งความรัก เฮ้อ...ยกธงขาวเยย
28 ตุลาคม 2547 09:52 น. - comment id 358678
เพราะมากคับ ในห้องเรียนอาจเก่งเด่นหนักหนา ออกนอกมาใครจะรู้ผู้สงสัย ว่าความรู้ได้มาใช้อย่างไร นอกจากใช้ประสบการ์ณนานทำมา
28 ตุลาคม 2547 10:24 น. - comment id 358700
วางแผน ลงมือทำ วัดผล แก้ไข ^o^
28 ตุลาคม 2547 10:33 น. - comment id 358712
ทุกคนมีสิทธิ์ ล้ม แต่ใครล่ะ ที่จะลุกขึ้นยืนได้.. แวะมาเยี่ยมคะ อิ อิ.
28 ตุลาคม 2547 11:08 น. - comment id 358726
เพราะมากเลยค่ะชอบนะคะ คิดถึงพี่ดอกแก้วเสมอนะคะ
28 ตุลาคม 2547 11:47 น. - comment id 358745
จ้าเป็นบทเรียนของผู้ไขว่คว้าศึกษาเป็นตัวอย่างดียิ่ง เพราะการทรนงถือตนเป็นเหตุให้ล้มละลาย เพราะเมื่อทรนงตนแล้วจะเห็นตำราเปรียบเสมือนกองขยะ ยามใดพ่ายจะนึกถึงทันที การฝึกฝนเล่าเรียนจะไม่จำกัดวุฒิ วัยในทุกสถานะการณ์ จะไม่มีการสิ้นสุดทั้งทางโลกและทางธรรม ดูตัวอย่างเช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราซิ พระองค์ปราศจากกิเลศทั้งมวลยังไม่ทรงประมาทในยามที่ยังมีลมหายใจอยู่ พระองค์จะเจริญอานาปานสติอยู่ตลอดเวลา ตราบจนละสังขารเป็นตัวอย่างคือทรงไม่ประมาทแม้จะรอบรู้กว่าผู้ใดๆในโลกนี้ก็ยังทรงกระทำทุกาลเสมอมา แก้วประเสริฐ.
28 ตุลาคม 2547 12:05 น. - comment id 358756
มาอ่านงานพี่ดอกแก้วด้วยความชื่นชมค่ะ... คิดถึงนะค่ะ... ดูแลสุขภาพด้วยนะค่ะหนาวแล้วนะค่ะ...
28 ตุลาคม 2547 12:27 น. - comment id 358770
อุ๊ มาทักทายพี่ดอกแก้วค่ะ กลอนเพราะ แระ ก็ มีสาระ เหมือเดิมนะคะ
28 ตุลาคม 2547 13:36 น. - comment id 358813
แวะมาชื่นชมผลงานครับ
28 ตุลาคม 2547 14:09 น. - comment id 358821
แว้บมาพริ้นท์งานแป๊บเดียว มาอ่านงานออกศึก แล้วต้องบอกว่าเยี่ยม ตอนนี้ก็กำลังจะไปสู้ศึกนอกบ้านอีกรอบอีกค่ะ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ทุกนักสู้นะคะ สู้ไปอย่าได้ถอยนะคะ
28 ตุลาคม 2547 15:56 น. - comment id 358908
เยี่ยมค่ะ เป็นข้อคิดที่ดีทีเดียว ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ
28 ตุลาคม 2547 20:43 น. - comment id 359064
จะเก็บงานของพี่ดอกแก้วไว้ในใจนะคะ เวลาออกศึกกับใครกานต์คงจะชนะแน่ๆเลย แต่ถ้าแพ้กานต์ก็ไม่เสียใจมากนะคะเพราะกานต์ทำดีที่สุดแล้ว พี่ดอกแก้วดูแลสุขภาพด้วยนะคะ กานต์คิดถึงพี่ค่ะ
28 ตุลาคม 2547 22:02 น. - comment id 359143
สอบไม่ผ่านภาคสนามความเสียใจ คิมเริ่มชินแล้วค่ะ
29 ตุลาคม 2547 00:49 น. - comment id 359207
@...น้องไก่ ผลิใบฯ... ในสังเวียนเรียนรู้สู้ชีวิต หาได้คิดใช้กำลังครั้งขับเคี่ยว หาได้บุกตะลุยเพียงอย่างเดียว แต่ปราดเปรียวด้วยปัญญาพาออมแรง วันนี้พี่ดอกแก้วออกไปทำงานมาค่ะ... ขอบคุณในไมตรีจิตที่มีให้พี่ดอกแก้วนะคะ เรื่องการลงกลอนนั้น อย่าถือเป็นภาระเลยค่ะน้องไก่ มีเวลาว่างแล้วก็ค่อยนำมาลงให้อ่านก็ได้นะคะ การงานและความรับผิดชอบนั้นเป็นของหนักหนาแก่ชีวิตอยู่แล้ว เหนื่อยก็พักบ้างนะคะ ..อะไรที่ตึงเกินไปนั้นมักจะขาดง่าย ขาดแล้วก็ต่อยากเสียด้วยสิคะ คงไม่มีใครต่อว่าน้องไก่หรอกค่ะที่งานยุ่ง คิดว่าหลายคนก็คงพร้อมจะเป็นกำลังใจให้น้องไก่เช่นกัน บางคราวที่พี่ดอกแก้วเหนื่อยมากๆ ก็จะหยุดค่ะ ..หยุดเพื่อสูดลมหายใจลึกๆ เพื่อผ่อนคลายความมึนงง ก่อนที่จะก้าวต่อไปอย่างมั่นคง เหนื่อยๆอย่างนี้ก็ยังอุตส่าห์แวะมา ขอบคุณมากนะคะน้องไก่
29 ตุลาคม 2547 00:50 น. - comment id 359208
@...น้องอัลมิตรา... กลอนเรื่องนี้พี่ดอกแก้วเขียนจากเรื่องราวของบุคคลที่อยู่รอบข้างอีกเช่นกัน โดยเฉพาะผู้ที่เรียนเก่ง มีการศึกษาสูงในทางโลก ที่ไม่สามารถควบคุมตนเองได้เมื่อพบกับอารมณ์ที่ไม่พึงใจ บางคราวก็ออกอาการเบรคแตกจนรั้งไม่อยู่ บางคราวก็ซึมเศร้ากับปัญหาชีวิตอย่างแก้ไม่ตก ทั้งๆที่ในคราวที่ตนยังไม่ประสบปัญหา ก็จะมีวาจาคมคายในการวิจารณ์ หรือหาแนวทางการแก้ไขปัญหาของผู้อื่น แต่เมื่อกลายมาเป็นเรื่องของตนเอง ก็กลับพ่ายแพ้อย่างหมดรูป นอกจากการก่นโทษคนอื่นแล้ว บางครั้งถึงขนาดฆ่าตัวตายก็มี คนเหล่านี้คือคนป่วยที่เข้ามารับการรักษาด้วยธรรมโอสถจากผู้รู้ท่านต่างๆ นี่จึงเป็นบทพิสูจน์ที่ว่า การสำเร็จการศึกษาอยู่ที่การนำไปประพฤติปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง แม้ผู้ที่ศึกษาธรรมมาอย่างเชี่ยวชาญ หากขาดการฝึกฝนขัดเกลาจิตใจตนแล้ว ก็จะง่ายแก่การเกิดความขุ่นมัวของใจ ยากต่อการระงับอารมณ์ด้วยความอดทน ทั้งอารมณ์ของความโลภในลาภยศที่ทุจริตเมื่อมีเหยื่อมาล่อใจ.. บุคคลเหล่านี้ทางพระท่านเรียกว่า พระอาจารย์ใบลานเปล่าค่ะ สำหรับพี่ดอกแก้วแล้ว..คนเรียนเก่งไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นคนเก่งจริง และคนเก่งจริงก็มิได้หมายความว่าจะเป็นคนดีเสมอไป ชีวิตการเรียนของน้องอัลมิตรา.. ยิ่งย้ำให้พี่ดอกแก้วมั่นใจว่า น้องคนนี้เป็นคนเก่งและขวนขวายในการเรียนรู้ มิฉะนั้นแล้ว ท่วงทีและวาจาคงไม่เต็มไปด้วยความมั่นใจมากมายขนาดนี้ แม้บางครั้งจะเสนอสิ่งที่อาจขัดใจใครอื่นก็ตาม... และโดยเฉพาะการเรียนรู้ด้วยตนเองถึงเรื่องการยอมรับความจริง.. ในวัยเพียงเท่านี้ หายากนะคะที่จะคิดได้อย่างนี้ ...เพราะหากเนื้อแท้ไม่ดีแล้ว การปรับตัวปรับใจคงเป็นไปได้ยาก ขอบคุณในน้ำใจมากนะคะที่เปิดเผยเรื่องราวของตนอย่างนี้ เพราะพี่ดอกแก้วเชื่อว่า ...คงมิได้เป็นการพูดคุยระหว่างเราสองคน แต่จะเป็นประโยชน์มากสำหรับน้องๆอีกหลายคนที่แวะผ่านเข้ามา และได้เห็นเรื่องราวจริงของผู้ที่ผ่านพ้นการต่อสู้กับความผิดหวัง.. ความเสียใจ อดทนมาจนได้รับชัยชนะ...และเป็นผู้ที่ไม่ประมาทอยู่ต่อไป สำหรับของฝากที่นำมานี้กระทบใจพี่ดอกแก้วมากจริงๆ เพราะทำให้นึกถึงบางสิ่งที่ตนเองได้กระทำไปแล้วขึ้นมานั่นเอง.. คุณตาท่านนั้นเป็นบุคคลที่ควรเคารพในน้ำใจของท่านจริงๆค่ะ ที่เจือจานไปสู่เด็กนักเรียนที่ด้อยโอกาส..ซึ่งมีจำนวนมาก ทั้งยังมองการณ์ไกลในการอุปการะชีวิตหนึ่งให้ดำเนินต่อไปด้วยตนเองอย่างมีโอกาส ไม่เป็นภาระของสังคม... คงเป็นเพราะทุนการศึกษาของแต่ละโรงเรียนมีจำนวนจำกัด การให้ทุนจึงต้องกำหนดกติกาเพื่อคัดเลือกบุคคลที่สมควรมารับรางวัลที่จำกัดนี้ และตลอดมาในสังคมเราก็เห็นพ้องต้องกันว่า ผู้ที่ดีที่สุดจึงสมควรแก่รางวัลที่มีอยู่นี้... และนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันเพื่อชิงทุน แต่ในสมัยนี้ค่านิยมเริ่มเปลี่ยนไป รายการทีวีบางรายการเริ่มเสาะค้น..คนดีแต่ยากจน.. เพื่อให้การสนับสนุน...อาจเป็นเพราะคนดีเริ่มลดน้อยลงแล้วกระมังคะ จึงลดค่าตัวของคนเรียนเก่งลงไปได้บ้าง เราอาจจะเหมือนกันนะคะที่ชอบคุยกับคุณพ่อ ผู้ที่เป็นแบบอย่างในการกระทำและมักจะให้เหตุผลที่ดีแก่เราเสมอ และที่เราเหมือนกันอย่างปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือ บัดนี้ เราไม่มีคุณพ่อให้คอยตอบคำถาม หรือสอนในเรื่องต่างๆแก่เราอีกแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่เรายังคงมีอยู่ก็คือความทรงจำที่งดงามเกี่ยวกับท่าน และเป็นแรงบันดาลใจให้เราก้าวผ่านอุปสรรคได้หลายๆครั้งในชีวิต ...พี่ดอกแก้วตอบยาวกว่าที่น้องอัลมิตราเขียนมาซะอีก..เบื่อหรือเปล่าคะ
29 ตุลาคม 2547 00:50 น. - comment id 359209
...หญ้าคา... รู้ตำราใช่ว่ารู้ทุกสิ่ง ควรเกรงกริ่งตำราอื่นมีดื่นหน รู้จดจำหาทำให้สมคน รู้ฝึกฝนจึงควรคู่ว่ารู้การณ์ อืม..เก่งอย่างนี้ ยังมายกธงขาวอะไรแถวนี้คะ ยังไม่ทันได้สู้ศึกเลย..ยอมแพ้ซะแล้ว แถวๆบ้านพี่ดอกแก้วนี่ ..มีแต่คนให้ฉายาว่าติดแต่ธงธรรมจักรนะคะ..อิอิ
29 ตุลาคม 2547 00:50 น. - comment id 359210
@...ใส้เดือนน้อย...คอยรัก ... เรื่องเย็บปักถักผ้าคราอ่านสูตร หน้าเบี้ยวบูดไม่เข้าใจในภาษา ต้องลงมือปักตามความตำรา รู้วิชาตอนปักจักเข้าใจ ไม่รู้ว่าจะชอบเรื่องปักผ้าหรือเปล่านะคะ แต่ระหว่างคนที่จำสูตรได้แม่นกับคนที่ลงมือปักจนเป็นแล้ว ย่อมตัดสินได้ว่าผลงานของใครเข้าตากรรมการมากกว่ากัน ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ..ใส้เดือนน้อย...
29 ตุลาคม 2547 00:50 น. - comment id 359211
@...extreme life ... กระบวนการสานแผนแทนเข็มทิศ หมายจะปิดรอยโหว่โชว์วิสัย ทุกขั้นตอนติดตามความเป็นไป เพื่อแก้ไขทบทวนกระบวนงาน แผนถูกทิศทำไม่ผิดติดตามผล เป้าหมายล้นเกินจำนวนควรกล่าวขาน ประสิทธิภาพและผลล้นทะนาน แต่พบพานมลพิษฤทธิ์ร้ายแรง บางอย่างทำถูกต้องทุกขั้นตอน แต่ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นกลับอยู่เหนือการควบคุม ในขณะที่ดำเนินนโยบายส่งเสริมให้ผลิตสินค้าเพื่อสร้างฐานะ ตัวเลขของรายได้เพิ่มขึ้น..แต่คุณธรรมของผู้คนลดลง กลโกงมากขึ้น ความโลภมากขึ้น... มลพิษเช่นนี้อาจไกลเกินกว่าตาเล็กหยีของใครจะมองเห็นนะคะ ขอบคุณมากนะคะ.. extreme..คนอารมณ์ดีอีกคนที่เขียนกลอนอารมณ์ดี๊ดี
29 ตุลาคม 2547 00:51 น. - comment id 359212
@...ลอยไปในสายลม ... ก่อนสู้ศึกต้องตรึกถึงผลได้ มีแพ้พ่ายมีชนะประจำเสมอ หากรู้ผลเพียงชนะนั่นละเมอ อยู่กับที่เถิดเกลออย่ารบเลย คำถามนี้เป็นคำถามสำหรับคนมีชีวิตนะคะ เพราะมีแต่คนมีชีวิตเท่านั้นแหละค่ะที่จะลุกขึ้นใหม่ได้ ส่วนคนที่ตายแล้ว โดยเฉพาะใจตายไปพร้อมกับความพ่ายแพ้ ก็คงยากที่จะลุกขึ้นใหม่ได้...และทอดร่างเป็นซากเกะกะอยู่อย่างนั้น อิอิ..ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะ ว่าแต่ลุกขึ้นมากี่ครั้งแล้วคะ..ลอยไปในสายลม
29 ตุลาคม 2547 00:51 น. - comment id 359213
@...หมูหวาน เพราะรัก... ร่ายกระบวนทวนท่าน่าเกรงขาม ไม้ข่มนามตัดทิ้งสิ่งข่มศรี เดินยะโสโอ่อ่ากล้าต่อตี พ่ายไพรีเพราะตกหลุมเขาคลุมพราง ขอบคุณค่ะหมูหวานกำลังใจเจ้าประจำของพี่ ออกไปสู้ศึกกันนะคะ ..แต่อย่าเดินเชิดหน้าจนเกินไป เพราะอาจมีหลุมพรางขึ้ไก่ให้เราลงไปเดินเล่น
29 ตุลาคม 2547 00:52 น. - comment id 359214
@...แก้วประเสริฐ... ทฤษฎีเหมือนแผนที่ให้รู้ทาง ซ้ายขวาย่างถูกทิศจิตแจ่มใส หากชื่นชมแผนที่ไม่ก้าวไป ทำไฉนจะถึงฝั่งดั่งหมายปอง แบบแผนของอริยชนย่อมต่างจากปุถุชนเสมอ ความประมาทจึงเกิดกับพวกเราตลอดเวลา แต่ละวันก็จะพบความประมาทในความคิดได้เสมอว่า เย็นนี้เราจะกลับบ้านไปทำนั่นทำนี่... หรือทำกับข้าวอย่างนั้นอย่างนี้... ทั้งที่เราไม่รู้เลยว่า เราจะมีชีวิตอยู่รอดจนถึงเย็นนี้หรือเปล่า หรืออาจจะตายในตอนเที่ยงวันนี้ก็ได้..ใครจะไปรู้ แต่เรามักจะคิดเผื่ออนาคตเสมอ... ขอบคุณที่แวะมาคุยกันค่ะแก้วประเสริฐ
29 ตุลาคม 2547 00:55 น. - comment id 359215
@...กัลลดา... บทพิสูจน์คำพูดไม่คุยโต ว่าเป็นสิงห์จอมโวเช่นใครเขา คือทำได้สมตามคำพูดเรา เป็นผู้เข้าถึงชัยในสมรภูมิ ไม่ได้พบกันหลายวัน..สบายดีหรือเปล่าคะ บางคราว..ศึกก็รุนแรงไม่น้อยนะคะ แต่ถ้าใจแกร่งเสียแล้ว.. ชัยชนะย่อมเกิดแก่เราได้เสมอค่ะ ขอบคุณในความห่วงใยนะคะน้องกัลลดา
29 ตุลาคม 2547 00:56 น. - comment id 359216
@...น้องอุ๊ สาวดำ-รำพัน... ยามสงบมิพบคุณภาพ ของใจที่กำราบความหวั่นไหว ยามมีศึกรุกโรมโหมกายใจ จะวัดได้ถึงฝีมือหรือชื่อลวง สวัสดีค่ะน้องอุ๊...ไปเที่ยวไหนมาหรือเปล่าคะ ไม่พบกันหลายวัน...ขอบคุณที่แวมานะคะคนน่ารัก
29 ตุลาคม 2547 00:57 น. - comment id 359218
@...บินเดี่ยวหมื่นลี้... ชีวิตนี้หาได้มีศึกเพียงครั้ง ความพลาดพลั้งคือบทเรียนให้เพียรผล ไม่งอมืองอเท้าเฝ้าฝึกตน เพื่อผ่านพ้นศึกใหม่ได้ชัยมา ขอบคุณที่แวะมานะคะ... สวัสดีค่ะ
29 ตุลาคม 2547 00:57 น. - comment id 359219
@...คุณทิกิ... มีชีวิตต้องพบพิษของการศึก มีผู้ที่ตรองตรึกตัดปัญหา มีผู้เพียรเดินไปในมรรคา มีผู้พ้นยาตราศึกทั้งปวง ขอให้โชคดีมีความสำเร็จในการงานนะคะคุณทิกิ ขอบคุณที่แวะมาทั้งที่เร่งรีบนะคะ
29 ตุลาคม 2547 00:57 น. - comment id 359220
@...ขลุ่ยหลิบ... คำรู้เขารู้เราเข้าใจศึก บทผนึกพิชัยในสนาม รู้ยอมรับดีด้อยในถ้อยความ และติดตามแก้ไขไม่ท้อเอย ขอบคุณค่ะขลุ่ยหลิบ.... ขอบคุณทั้งการเยี่ยมเยียนและความห่วงใยนะคะ
29 ตุลาคม 2547 00:58 น. - comment id 359221
...น้องกานต์ เพียงพลิ้ว... ยันตร์เกราะเพชรเผด็จศึกตรึกตรองว่า ใจต้องกล้าต้องแกร่งด้วยแรงหวัง ล้มแล้วลุกปลุกใจให้พลัง อย่ามัวนั่งรอความตายที่รายทาง น้องกานต์...ความคิดกับการกระทำเป็นคนละเรื่องกัน แต่เกี่ยวข้องกัน...หลายคนมิได้พ่ายแพ้คู่ต่อสู้ แต่แพ้ใจตนเองที่ไม่อาจยอมรับว่าด้อยกว่าผู้อื่นได้ ศึกนี้จึงเป็นศึกที่ยากจะชนะสำหรับคนที่มากไปด้วยความยึดตน เก็บบทกลอนไว้ในใจแล้ว พี่ดอกแก้วแถมคำอวยพรให้อีกนิดนะคะ ขอให้ยอมรับความจริงได้ในทุกสถานการณ์ค่อน้องกานต์
29 ตุลาคม 2547 00:58 น. - comment id 359222
@...คิม รักนะ... ชีวิตนี้มีการสอบวัดทักษะ วัดการแพ้ชนะความหวั่นไหว วัดความทนเข้มแข็งของหัวใจ วัดทุกวันเรื่อยไปในอารมณ์ ชินแล้วหรือคะ..ถ้าอย่างนั้นก็เป็นผู้ชนะแล้วสิ เพราะอดทนจนอยู่ตัวแล้วนี่คะ...สักพักก็จะเห็นเป็นเรื่องธรรมดา และพัฒนาการไปสู่การยอมรับได้ในที่สุด ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ
29 ตุลาคม 2547 01:58 น. - comment id 359234
อะจ๊ายยย..!!! คะเจ้า มา บ่ ทัน จาวป้านจาวเมืองเขา..จะอู้จะอี้ไป๋..ก้อคึด บ่ ออก ต่อ บ่ เป๋น (อิอิ) (จะเหนือ รึ จา อีสาน แน่หว่า?)
29 ตุลาคม 2547 17:56 น. - comment id 359697
อาจ๊าก..มาไม่ทันเหมือนกันเลย แงๆๆๆๆๆๆ
29 ตุลาคม 2547 21:18 น. - comment id 359840
@...NonSense ... ๕๕๕...จะพูดจาภาษาไหนก็ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ..น้องNonSense .. พูดไม่ออก ก็อ่านๆๆๆ ..ไปก่อนแล้วกันนะคะ
29 ตุลาคม 2547 21:20 น. - comment id 359841
@...คนเมืองลิง... รู้หรอกน่าว่าติดงานวันเกิดอยู่... สุขสันต์วันเกิดย้อนหลัง..อีกครั้งนะคะ ขอให้มีความสุขมากๆค่ะ
29 ตุลาคม 2547 22:37 น. - comment id 359906
กลอนไพเราะมากๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ เดี๋ยวนี้เป็นกันเยอะนะค่ะ ลักษณะนี้ เช่น เรียนได้เกรดสูงมาก แต่ทำอะไรไม่เป็น เหมือนการหุ้งข้าว มีแต่ทฤษฎี แต่หุ้งข้าวในวิชาปฏิบัติไม่เป็น เลยไม่มีข้าวกิน อิอิ คิดถึงมากๆๆๆๆๆด้วยค่ะ หลับฝันดีนะค่ะพี่สาว
30 ตุลาคม 2547 15:45 น. - comment id 360290
จะศึกเหนือเสือใต้ไม่เคยหวั่น รบประจันฟันริปูสู้ไม่ถอย แต่ว่าศึกสงครามใจให้เลื่อนลอย อยากเด็ดสอยดึงได้มายอดยาใจ
30 ตุลาคม 2547 21:24 น. - comment id 360481
พุดค่ะ มาอ่านงานงามสาระจิตให้งามแง่คิด และได้อ่านคำตอบที่แสนน่ารักนักค่ะ แถมยังได้อ่านข้อคิดดีดีจากน้องน้อยอิมและใครๆ ที่มีดวงใจดวงจิตแสนปิติเกษม พุดให้พี่รักษาสุขภาพนะคะ และ มีงานงามมาฝากทุกคนค่ะ ด้วยรักห่วงใย
30 ตุลาคม 2547 22:26 น. - comment id 360515
@...ผู้หญิงไร้เงา... มีความรู้ไม่จริงยิ่งโศกเศร้า หวังจะเอาแต่ตนเร่งขวนขวาย พอผิดหวังใจพังล้มละลาย เพราะไม่รู้ทางคลายปัญหาใจ สวัสดีค่ะน้องตูน เรื่องของทฤษฎีกับการปฏิบัตินั้นควรเป็นของคู่กันเพื่อผลสำเร็จ แต่เดี๋ยวนี้คนชอบแยกส่วนเพื่อความสะดวก และก็คิดเอาเองว่าไม่จำเป็น ก็เลยได้สิ่งที่ไม่ค่อยสมบูรณ์กันไป งานบ้านงานครัวที่น้องตูนยกตัวอย่างมานี้...ชัดเจนมากเลยค่ะ...อิอิ เก่งจังๆช่างคิดตัวอย่าง
30 ตุลาคม 2547 22:38 น. - comment id 360520
@...ชัยชนะ... ศึกภายนอกบอกความแกร่งแห่งแรงกาย ไม่วุ่นวายเท่าศึกในใจดวงนี้ โดยเฉพาะศึกรักในฤดี หากไม่มีบุพเพก็เซซวน ไม่น่าเชื่อๆ..ชัยชนะจะระย่อต่อศึกรัก อิอิ...ขอให้ได้ชัยสมชื่อนะคะ
30 ตุลาคม 2547 22:48 น. - comment id 360523
@...น้องพุดคะ... การพ่ายแพ้แก่ใจในแรกหน ใช่ว่าคนนั้นอ่อนแอยากแก้ไข หากฮึดสู้กู้พลังที่ภายใน ต้องชนะจิตใจได้สักคราว สวัสดีค่ะน้องพุดคนดีของพี่... เรือนงามหลังนี้มีสิ่งที่ดีมอบให้แก่กันเสมอ แม้หลากหลายบทกลอนจะไม่เป็นที่สบใจของใครๆบ้าง แต่สำหรับน้ำใจที่มีมอบแก่กันนั้น ยากที่ใครจะปฏิเสธได้ว่าที่นี่ขาดแคลน... ขอบคุณในความห่วงใยนะคะ