กระท่อมลั่นทม!

สาวบ้านนา


หลายวันมานี้
ฟ้าฝนดูมัวหม่นเทาทึมมาแทบทุกทิศทาง
และพระพิรุณก็โปรยปรายฉ่ำชื่นแทบทุกคืนค่ำ
ทำให้หัวใจสาวนาเลยพลอยเหงาเศร้า
หนาวๆในอกในใจอย่างไรก็ไม่รู้


สาวนา..คนขยันเลยรีบ
ทำงานในนาแต่วัน
และงานจิปาถะ
ให้แล้วเสร็จก่อนตะวันลา


และ
พอยามค่ำ
ก็จะได้มานอนฟังเสียงสายฝนรินร่ำ
ยามตะวันโพล้เพล้
อย่างแสนมีความสุข


ได้จุดตะเกียงอ่านหนังสือ
ธรรมะดีดีที่ยืมมาจากวัด
บางคืนก็ต้องตกใจ
ด้วยความกลัว
ว่ากระท่อมโย้เย้จะพังลงมาใส่หัว
และ
กลัวลมพายุจะมาพัดหอบปลิวไป
เพราะว่า
ลมพายุมาแรงมาก
จนจำปี..ลำดวน หางนกยูงต้นใหญ่
ตรงทางเข้ากระท่อมไหวโอนเอนๆ


ไหน
สาวนายังต้องรีบไปดูแลวัวในคอก
ไม่ให้หลุดออกไป
และยังจะมีงานอื่นๆอีกมากมาย
ที่ต้องระดมรับมือ
เช่นปีนขึ้นไปเปลี่ยนหลังคาจาก
ที่มุงไว้ให้วัวไม่ต้องเปียกฝนทนหนาว
ตามประสายาก


วันนี้สาวนาจัดกระท่อมใหม่
ทั้งๆที่ในกระท่อม
ก็ว่างโล่งแทบไม่มีสมบัติอะไรให้จัดแล้ว


สาวนาเพียงเก็บกวาดให้สะอาดสะอ้าน
ล้างโอ่งดินเผาที่มีมากมายหลายใบริมชายคา
ที่สำหรับเก็บน้ำไว้ใช้
ทั้งไว้ต้มดื่มกิน
และทั้งไว้ใช้ประกอบกิจสาระพัด
ที่สาวนาจะจัดแยกประเภทไป


โอ่งไหนไว้ทำกับข้าว
โอ่งไหนไว้ล้างหน้า
โอ่งไหนไว้ดื่มกิน..
โอ่งไหนไว้รับแขก


สำหรับโอ่งน้ำดื่มไว้รับแขกนั้น
เป็นโอ่งโบราณสีเขียวไข่กา
ที่วางไว้ริมชานกระท่อม


ทั้งนี้ทั้งนั้น
ก็เพราะสาวนาถูกอบรมมาแบบโบราณจากคุณยายว่า
ต้องมีน้ำดื่มไว้ให้แขกผู้ผ่านมาและกระหายหิวน้ำ
ตามคำที่ว่าใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ


สาวนาจัดแยกเก็บข้าวของตามประเภท
ไม่ให้ปะปนรกรุงรัง
เสื้อผ้า
ก็เช่นกันจะชุดนอนชุดไปเที่ยวไปวัด
ก็ต้องจัดแยกไว้ให้งาม
จัดพับอย่างสวยแล้วอบร่ำด้วยกลิ่นดอกไม้แห้ง
รายรอบกระท่อม


ที่สาวนาดัดแปลงทำเองแทนน้ำหอมน้ำอบ
เพราะชอบกลิ่นมากกว่า
หากทว่าก่อนจะเก็บต้องตากแห้งเสียก่อน
แล้ว


ค่อยๆห่อกับกระดาษสาซับเก็บไว้
แล้วถึงซุกไว้กลางกองผ้า
จะหอมหวนชวนดม
ด้วยกลิ่นดวงดอกไม้ไทยงามๆ
แยกหอมตามกลิ่นของดวงดอกไม้นั้นๆ
เช่นกลิ่นจำปี จำปา กระดังงา ลีลาวดี 
หรือลั่นทมพุดซ้อน
กลิ่นมะลิลา มะลิซ้อน ลำดวนดง


ที่สาวนามิต้องพะวง
ไปสิ้นเปลืองซื้อน้ำหอมแบบผสมสารเคมี
มาใส่มาอบร่ำ
ซึ่งบางทีก็ทำให้ร่างกายต้องรับสารพิษเป็นผื่นแพ้คัน
และก็จะได้หอมแผกมากกว่า
เป็นกลิ่นร่ำตามธรรมชาติไทยๆ


หัวใจสาวนานั้นรักการใช้ชีวิตแบบโบราณ
เพราะว่าไม่ว่ายุคสมัย
จะผ่านพ้นไปนานสักเท่าไร
ค่านิยมในความงามอย่างละเมียดละมุน
อย่างกุลสตรีไทย


ที่มีวิถีใจดวงงามอันรู้อ่อนหวานอ่อนโยน
ช่างปรนนิบัติเอาใจก็หาได้ตกยุคสมัยไม่
หากเราเรียนรู้จักนำมาสอดใส่ผสานผสม
ห่มหอมเพื่อเพิ่มเสน่ห์มัดใจ
แบบที่โบราณว่าไว้ให้มีน้ำสามเรือนสี่
จะดีแก่ตัวเองเป็นยิ่งนัก
ให้ใครๆที่มีโอกาสชิดใกล้
ได้ชื่นชมยิ่งหลงยิ่งรัก
ในน้ำใจแสนดีมีเมตตา


แม้นว่ากาลเวลาและโลกนี้
จะเปลี่ยนแปลงไป
และ
ผู้ชายสมัยนี้คงไม่เรียกร้องต้องการมากมายนัก
หากเราแค่เพียงยึดหลักความละมุนละม่อม
รู้ถนอมใจรู้กาละเทศะ
สร้างโลกครอบครัวโลกแห่งรักให้หอมกรุ่นอบอุ่นเข้าไว้


ร่ายมนตราแห่งความดีงามน่าเสน่หา
ก็ใช่ว่าเสียเวลาอะไร
แต่จริงๆบางครั้งสาวนาก็สับสน
ที่ไยอ้ายยังไปหลงแสงสีเนื้อหนังมังสาอวบอึ่ม
ของสาวชาวกรุง


ก็ช่างเถอะนะหัวใจกับส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรม
สาวนาฟังเพลงนี้แล้วก็ปลงได้เลย
หากเขาไม่รักเราแล้วก็ช่างต้องปล่อยเขาไปปล่อยเขาไป


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=495
ส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรม 
 
ส่วน ของ หัวใจ
ที่คุณแบ่งให้
มัน น้อย เกิน ไป สำหรับใจฉัน
คุณ ให้ ไม่ ถึง เศษหนึ่งส่วนพัน
รัก เรา จึง สั้น สิ้นสุดกัน แค่นื้
สิ้นสุดกันที สิ้นสุดกันที
ส่วน ความ ช้ำ ชอก 
ที่คุณตอกย้ำ
มาก เกิน จด จำ ลึกล้ำเหลือดี
ย่อย ยับ แค่ ไหน ใยไม่ปราณี
หวัง เพียง ข-ยี้ ให้ฉันนี่ แดดิ้น
สิ้นสุดกันที สิ้นสุดกันที
วันนี้มันสาย เกินไป
สายเกินไปกว่า
จะมาเริ่มรักกันใหม่
ป่วยการหลอกกัน ต่อไป
มันจบเกมส์แล้ว จนใจ
สิ้นสุดไม่เหลือตั้งแต่เมื่อวาน
ส่วน ของ หัวใจ
ที่คุณแบ่งให้
เชิญ รับ คืน ไป ฉันไม่ต้องการ
คุณ ให้ ฉัน น้อย
น้อยเหลือประมาณ
รัก จึง ตาย ด้าน
สิ้นสุดกันแค่นี้ 
สิ้นสุดกันที สิ้นสุดกันที
วันนี้มันสาย เกินไป
สายเกินไปกว่า
จะมาเริ่มรักกันใหม่
ป่วยการหลอกกัน ต่อไป
มันจบเกมส์แล้ว จนใจ
สิ้นสุดไม่เหลือตั้งแต่เมื่อวาน
ส่วน ของ หัวใจ
ที่คุณแบ่งให้
เชิญ รับ คืน ไป ฉันไม่ต้องการ
คุณ ให้ ฉัน น้อย
น้อยเหลือประมาณ
รัก จึง ตาย ด้าน
สิ้นสุดกันแค่นี้ 
สิ้นสุดกันที สิ้นสุดกันที...
*******


สาวนาจะไม่เสียใจอะไรนาน
เพราะสาวนา
มีหัวใจดวงใสดวงธรรมล้ำค่า


ที่ทุกครั้ง
ที่ไปวัดได้ฟังธรรมที่หลวงพ่อเทศน์
กิเลสรักของสาวนา
ก็ลดลงจนแทบอยากปลงผมบวชชี
หนีทุกข์ทุกรักเข้าวัดเข้าวารักษาศีลภาวนาเสียมากกว่า


เพราะเบื่อชีวิตว่ายวนเหลือทน
เมื่อยิ่งหันมาพิจารณามรณานุสติ
ก็จะยิ่งเห็นชัด
กับวิบากเก่าวิบากรรมที่ย้ำรอยในทุกผู้คน
ที่หนีอย่างไรก็ไม่พ้นรอยกรรมราวรอยเกวียน
หากมิตั้งจิตอธิษฐานเพียรภาวนา
อย่างมิยอมท้อแท้แพ้พ่ายทางโลกย์เสียก่อน


และ
ไม่ว่าจะหันไปดูคู่ไหน
ไม่ช้านานรักที่แสนหวานก็พานขมปี๋
เหลือรักที่จะจีรัง
ก็คือคนพวกทีฉลาดล้ำ
แปรรักเนื้อหนังเสน่หา

มาเป็น
มิ่งมิตรสนิทแบบฉันท์เพื่อน
ไว้พึ่งพาพึ่งพิงยามชราแก่เฒ่า
ได้หามกันเข้าวัดหรือไม่ก็เข้าโรงพยาบาล
และไม่นานมานี้


สาวนา..ได้มีโอกาสรู้จัก....
พี่ชายคนดีที่ชื่อวิน
มิตรธรรมคนยาก
ที่พบกันแทบทุกครั้งที่วัด


พี่วิน
เป็นม่ายเพราะเมียตายด้วยโรคร้าย
เลยหาที่พึ่งทางใจ
และ
ด้วยอยากมาทำบุญ
สร้างกุศลทานผ่านไปให้ภรรยา
เลยเพียรมาวัดบ่อยๆ 


ทั้งๆที่ไม่รู้ดอกนะ
ว่าจะฝากกุศลผลบุญ
ส่งไปถึงหรือไม่
แต่พี่วินก็บอกว่า
แสนจะรู้สึกดีมีความสุขสงบ
รู้รำงับใจ
สบายใจอิ่มใจยังไงก็ไม่รู้


ตั้งแต่ได้ย่างกราย
มาชิดใกล้ชายผ้าเหลือง
ที่มีหลวงพ่อที่น่าเคารพศรัทธา 
ไม่หากินกับญาติโยม
ไม่หลอกให้เชื่อในทางที่ขัดกับพระธรรม
พยายามเพียรน้อมนำคำสอนมาสอนอย่างมีเหตุมีผล


ว่าคนเรานั้น
ชีวิตที่ดีต้องมีการพยายามรักษาศีลให้สะอาด
ให้ทานเพื่อสละออกอย่าให้ขาด
และที่สำคัญราวหัวใจศาสนาพุทธเลย
คือให้จิตจับกับปัจจุบันขณะ


ให้รู้เพียรภาวนาสมาธิจะได้
มีปัญญาพาพบทางแห่งความว่างสะอาดสงบ
ตลอดไปทุกภพชาติ


และนี่คือผู้ชายคนดีพี่ชายคนดี
ที่สาวนายอมพลีใจอีกครั้ง
ที่จะได้ทำความรู้จัก
เพื่อแลกความคิดทางจิตทางธรรม
เสมือนเพื่อนพึ่งพากันและกัน
อย่างกัลยาณมิตรเรื่อยมา


สาวนา
จึงมีความสุขมาก
กับชีวิตสงบสุขสมถะเรียบง่ายลำพังนี้
ที่แม้นจะดายเดียวสักเท่าไร
หากทว่าหัวใจก็ผ่องแผ้วราวไร้พันธนา
ไม่ต้องมีบ่วงห่วงรัก
ไม่พักต้องลากใคร
มาร่วมรับบ่วงห่วงโซ่กรรมร่วมกัน
จนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง


ทุกคืนค่ำสาวนา..ผู้มีศรัทธาแรงกล้า
จึงพยายามจัดเรือนลีลาวดีหรือเรือนลั่นทม
ที่ราวกับกระท่อมไพร
แสนหวานระทม
แสนงามเศร้า


ที่สาวนา
ปลูกแยกออกมาจากกระท่อมทับอาศัย
และแฝงในร่มเงาดงดวงดอกลั่นทม
หลากสีสรร
ทั้งขาว แดงชมพู เหลืองอมส้ม 
ที่มากมายหลายหลากพันธุ์
ถึงกว่าสามร้อยชนิด


ที่สาวนาแสนหลงใหล
แสนรักมานานนักหนาแล้ว
จนเร้าใจให้เพียรศึกษานำมาเพาะปลูก
จนเป็นดง
ให้ใครๆพากันมาหลงใหลชื่นชม
ในดวงดอกงามทุกยามเย็น
ที่นะบัดนี้กำลังบานสะพรั่ง
ส่งกลิ่นระรินร่ำอวดอกดกชูช่อ
พ้อสายฝนและลมเย็น

และ
บางวัน
ในยามตะวันลา
สาวนาจะมานอนเล่น
หรือไม่ก็มาร้อยมาลีมาลัยลีลาวดี
ไปพลีถวายเป็นพุทธบูชา
ยามนั่งสมาธิภาวนา
และ


และทุกยาม
ที่ดวงดอกงามเศร้า
ถึงเวลาร่วงโรยโปรยปลิด
ลงเกลื่อนพื้นพสุธา 
ยามนั้น
สาวนาจะมีความสุขมาก
ที่ได้นอนแหงนเงยดู
และ
แอบขนานให้นิยามลานฝันนั้นว่า
*ลานลั่นทม


และบัดนี้มีกระท่อมลั่นทม
เป็นดั่งเรือนใจเรือนภาวนาเรือนสมาธิ
ที่แสนดีแสนงาม
แสนสงบสุขสมถะ
ของสาวนาแล้ว



และ
ราตรีนี้
สาวนาก็เลยไปเด็ดดวงดอกกระดังงา
และร้อยมาลัยลีลาวดีมาลัยลั่นทม
มาถวายเพื่อเป็นพุทธพลีบูชา
หน้าพระพักตร์พระพุทธ 


และ
ยามที่สาวนาจุดเทียนทอง
แสงเทียนจะส่องพร่างพรายจะจับดวงดอกไม้
ราวพาให้สาวนาได้ระลึกตระหนักรู้ว่า


ความทุกข์ระทมนั้นมันอยู่ใกล้เรานี่เอง
หากเราเพียงไม่ยึดมั่นถือมั่น..แล้ววางมันไว้
ราวดวงดอกไม้นามลั่นทม


เราก็จะไม่ตรมไม่ตรอม
กลับให้หอมห่มในห้วงจิต
ได้สถิตเป็นดั่งรักนิรันดร์


เฉกเช่นเดียวกับไม้ทุกพรรณ
ที่ให้หอมงามกำนัลแด่โลกแล้วปลิดกลีบโรยรา
เหมือนชีวิตจิตทุกดวง
ที่รู้ว่ากาลเวลารอลอยลาร่วงลงสู่พื้นพสุธา
หาช้านานไม่ หาจีรังไม่..
*************


บนลานลั่นทม   
แดนดินใด ไม่แม้นแดนลานลั่นทม
ดุจดั่งสวรรค์แดนพรหม สวยสุดสมคำชมได้
ฮือฮือ ฮือ ฮือ ฮือฮือ ฮือ ฮือ ฮือ
ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ
ทิว เขียว ลิ่วไกล เพลินมองไป
เสียงลมไกวกิ่งไหวดังซู่
ทิ้ง ขั้ว หล่นปลิว ลั่นทมพริ้วโชยร่วงพรู
แม้น ดังพรม ลาดปู ดุจทางสู่
สุดสวรรค์ เทวัญ
ลมรำเพย ความหอมชวนดอมลั่นทม
สูดกลิ่นถวิลเชยชม แสนสุขสมอารมณ์มั่น
ฮือฮือ ฮือ ฮือ ฮือฮือ ฮือ ฮือ ฮือ
ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ
ใจ หวน ตื้นตัน เกินจำนรรจ์
เพ้อรำพันว่าหอมใดเท่า
หอม ชื่น ลั่นทม เมื่อลมพริ้วมาเบาเบา
ล้าง สิ่งตรม อกเรา ให้คลายเศร้า
ที่คอยเผา โทรมใจ...
 
  
 


http://www.lilavadee.com/download_p01.html
ลีลาวดี (Frangipani)
เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ใบมีสีเขียว โตและหนา มียางมาก ดอกมีสีขาว-เหลือง ขาว-แดง
ส่วนที่ใช้ ทั้งต้น เปลือกต้น ดอก เนื้อไม้ ยางจากต้น และเปลือกราก
สรรพคุณ 
ทั้งต้น ใช้ปรุงเป็นยารักษาโรคลำไส้พิการของม้า
ใบ เอาใบแห้งมาชงน้ำร้อนใช้รักษาโรคหอบหืด หรือนำใบสดมาลนไฟให้ร้อนแก้ปวดบวม
เปลือกราก ใช้เป็นยารักษาโรคหนองใน เป็นยาถ่าย แก้โรคไขข้ออักเสบ ขับลม
เปลือกต้น นำมาต้มเป็นยาถ่าย ขับฤดู แก้ไข้ แก้โรคโกโนเรีย หรือให้ผสมกับน้ำมันมะพร้าว ข้าวและมันเนย ซึ่งจะเป็นยาแก้ท้องเดิน ยาถ่าย ขับปัสสาวะ
ดอก ใช้ทำธูป แต่ถ้าใช้ผสมกับพลูเป็นยาแก้ไข้ แก้ไข้มาลาเรีย
เนื้อไม้ เป็นยาแก้ไอ ในประเทศเขมร ใช้เป็นยาถ่าย ขับพยาธิ
ยางจากต้น เป็นยาถ่าย รักษาโรคไขข้ออักเสบ ทำให้เกิดผื่นแดง ถ้าใช้ผสมกับไม้จันทร์และการบูรเป็นยาแก้คัน แก้ปวดฟัน
				
comments powered by Disqus
  • เพลงกลางป่า

    11 ตุลาคม 2547 23:30 น. - comment id 349108

    อืมมมม อ่านแล้วให้ความรู้สึกคล้อยตามนะครับ
  • สาวนา

    11 ตุลาคม 2547 23:47 น. - comment id 349118

    สมแล้วจ๊ะ
    ที่ชื่อนามปากกาว่า*เพลงกลางป่า*
    ก็เลยสนใจมาฟังสาวนารำพัน
    ที่กว่าจะจบได้เหนื่อยใจมาก
    เพราะรจนาสด
    และคอมตัดทุกสามนาที
    ให้หัวใจดวงนี้แสนล้า
    เพราะว่า
    กว่าจะลงตัวได้
    บางคำยังย้วยยืดยาน
    ก็จงให้อภัยด้วยนะจ๊ะ
    เพราะสาวนาแย่แล้วจ๊ะ
    ค่อยว่ากันใหม่
    จะไปเยี่ยมใครก็ไปถึงแค่หัวกะได
    ยังไม่ทันได้เรียกเจ้าของบ้านเลย
    คอมก็มากวนมาเตือนว่า
    จะเดี้ยงแล้วค่ะ
    โอ๊ย..สาวนา..เบื่อจริงจ๊ะ
    และบางเวลาก็ใจดีนะ
    ให้เวลามากหน่อย
    ก็เอาใจไม่ถูกจ๊ะ
    นอกจากตัดสินใจเอาไปทำตุ้ปลาไม่นานแล้ว
    โอ๊ย..เด๋วก็จะโกรธอีก หน้าจอน้อยใจจะดำปิ๊ดปี๋เลยจ๊ะอิอิ
  • ทะเลไคลื่น

    11 ตุลาคม 2547 23:48 น. - comment id 349120

    อือหือ โอ้โห ช่างขยันหมั่นเพียรเขียนเสียกระไรนี่
    อ่านแล้วเห็นภาพเลยนะคะ
  • สาวนา..

    12 ตุลาคม 2547 00:04 น. - comment id 349128

    ไม่ได้ขยันดอกจ๊ะ
    วิญญาณมันถูกกระตุ้นเตือนเอง
    คนเราเกิดมาเพื่อจะเป็นหรือเลือกที่จะเป็น
    คนช่างฝันรำพันรำพึงซึ้งซาบอาบอิ่ม
    เหลือแค่จะอ่านคนเดียวก็เอาจ๊ะ
    
    ก็ไม่เว้นต้องนอนดึกเป็นนกเค้าแมว
    นกค้างคาวนกฮูกแบบนี้แหละจ๊ะอิอิ
    ราตรีสะดวกนะจ๊ะทะเลไร้คลื่น..ใช่บ่
  • สาวนา..ช่วงคอมให้โอกาสดี

    12 ตุลาคม 2547 00:09 น. - comment id 349130

    จะมาแอบอ้อนอีกหน่อยจ๊ะว่า
    ตะกี๊ฟังเพลงลานลั่นทมอยู่ดีดี
    ที่แสนงาม
    พลันจอมาพิสูจน์เศร้าให้เห้นเลยจ๊ะ
    ว่าลานฝันลานลั่นทม
    ดำปี๊อีกแย้ว
    และตั้งแต่สองทุ่มหลังกลับมาจากเต้นยังไม่ได้
    กินข้าวเลยจ้า
    ชอบรจนางานให้เสร็จ
    เหมือนชอบดำนาให้เสร็จยังไงยังงั้นยังงง
    น้ำก็ไม่ได้อาบหัวก็เน่ามาก..เฮ้อ..
    แล้วยังงี้ไม่ช่วยกันอุดหนุนอ่าน
    ก็ไม่รุจะว่าไงแย้ว..นะอิอิ
  • รัถยา

    12 ตุลาคม 2547 01:28 น. - comment id 349155

    ....อ่านแล้วยังได้ความรู้ต่อท้ายอีกด้วยนะเนี่ย
  • ชัยชนะ

    12 ตุลาคม 2547 05:42 น. - comment id 349176

    มาแวะหาสาวนาเจ้าระเบียบ
    ที่งามเงียบ ง่วนงานจริง จัดสิ่งของ
    พร้อมคำสอนชี้นำตามครรลอง
    มาลัยคล้องหอมดอกไม้คราได้ดม
    
  • ดาหลา & ปะการัง

    12 ตุลาคม 2547 10:55 น. - comment id 349322

    อ่าน งาน งาม  
    
    รัก ลั่น ทม ชม จำปาลาว  ไม่ร้าวใจ
  • แสนย์

    12 ตุลาคม 2547 17:56 น. - comment id 349614

    ขอซึมซับด้วยหัวใจกับความงามทุกตัวอักษร  และ ทุกความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกมาครับน้องพุด

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน