Url http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=336 (ปีศาจวสันต์) **************** ดวง..นั่งเดียวดายอยู่ในกระท่อมไม้สน ในยามสนธยาพลบค่ำยามย่ำเย็น สายฝนภายนอกยังกระหน่ำหนัก ให้ต้นไม้ริมชายคาแห่งรัก ที่ได้พักพิงอิงใจในทุกยามเย็น ไหวเอนรับหยาดละอองฝนพรำ ดวงดอกโมก สีขาวพร่างพราวพร้อย ห้อยพลีดอกคว่ำหน้าลงสู่พื้นพสุธา ราวสาวไพรผู้น่ารักรู้จักถ่อมตนถ่อมกมลฝันเสียนี่กระไร เป็นดอกไม้ชนิดที่แผกพิศที่แสนพิเศษพิสุทธิ์ ที่มิเคยแหงนเงยเชยเชิดหน้าท้าทายสายฝนและแสงแดด ก็น่าแปลกดี ที่จริงๆราวกุลสตรีชาวไพร ผู้รักดิน มิถวิลจะทะเยอทะยาน ปานประมาณนั้น ดวงนั่งรอ.. ให้สายพระพิรุณหยุดพร่างสายพรายพลิ้ว ตรงหน้ามีแก้วไวน์แดงดั่งสีทับทิม ที่ดวงสั่งมารินร่ำดื่มให้รื่นรส ให้หัวใจสลดดายเดียว ได้รับหยดหยาดหวานชุ่มฉ่ำ ให้หัวใจดวงช่างฝันได้ตื่นเต้น.. เต้นถี่ถี่ ในยามเย็น ดับโลกโศกสลดไปกับหยดฝนและหยาดน้ำตา แม้นจะไร้ใครมาสบตา พาให้หวามไหว ในท่ามกลางแสงเทียนริบหรี่วูบไหววับแวมก็ตามที หากทว่าใจดวงหอมงามนี้ ก็ตื่นพร่างก็สล้างราวดวงดอกไม้ ได้รับหยาดน้ำค้างอมฤต เป็นความว่างร้างไร้ ที่งามเงียบใจ ที่ได้ปลดปล่อยดวงใจพ้นภาระพันธนา ได้นั่งทอดตาดูแม่ดวงดอกกล้วยไม้ไพร ที่ชูช่องงามไสวงามสง่าเลื้อยพันไปกับลำต้น ของพญาสัตตบรรณ ที่คงมั่นยืนตรงเป็นช่อชั้นแผ่กางราวร่มยักษ์ ให้พันธุ์ไม้รักไม้เลื้อย ได้พักอาศัยพันฝากใจเปลือยช่อดอก นั่นกล้วยไม้หลากสีสัน ม่วง เหลืองพรายพรรณราย ขาวสะอ้านที่แสนงามสง่า ที่ทำให้ทุกดวงตาดวงใจไหวพบ กับพลังงามงดแห่งความสดชื่นนี้ ที่แสนรื่นรมย์ใจ สำหรับดวงใจ..ดวงนี้ ที่นั่งๆนึกๆคิดๆลึกๆนึกซึ้งไกล..ไปกว่าใครใคร ว่าโลกแสนยิ่งใหญ่นี้ ได้กำนัลฝันฟรีดั่งพลีของขวัญล้ำค่าที่สุด ให้มวลมนุษย์เราได้เชยชิดสนิทเนาในเงาเงื้อมงาม ธรรมชาติที่ช่างอ่อนหวานอย่างที่สุดแล้วในโลกนี้ ที่ไม่ว่าดวงใจแสนดีจะหันไปในทิศทางไหน ก็มีพลังงามแฝงยิ่งใหญ่ โอบเอื้อให้หัวใจไหวหวามละมุนรายรอบ อย่างไม่เลือกถิ่นที่ บนภูไพร ป่าใหญ่รกร้าง ท่ามโตรกธารธาราระรินหลั่งสะพรั่งสายระริกระริน กลางห้วงหอมมิรู้สิ้นในกระท่อมใบไม้กระท่อมดง ในดงดวงดอกไม้ป่า ในดงดอกหญ้าพัดสะบัดไหว รับพรายแสงตะวันอ่อนอุ่นยามอาทิตย์อุทัย หรือยามทิวาหวาม ยามตะวันดวงเศร้าดวงสวย กำลังจะลาล่วงลาลับฟ้า หรือกับเหว่ว้าริมทะเลที่เกลียวคลื่น กำลังซัดสาดหาดทรายกระซิกระริกระรี้ ราวร้องร่ำพร่ำพ้อเพ้อฝากรัก ว่ายังคงหนักแน่นมั่นคงตรงมั่นมิผันแปร หรือ ยามที่สายแสงพระจันทร์หวาน ทอ ดวงสวยทุกผืนฟ้า ไม่ว่าจะเป็นคืนจันทร์เสี้ยวเหว่ว้า หรือ คืนที่จันทร์เพ็ญเด่นดวงแจ่มจรัส ที่หยาดสายหวานสะพัดพร่าง ให้ห่มหอมงามทุกดวงใจ ในผืนโลก ลบโศกสร้างสุขสร้างฝัน ไปกับจันทร์ดวงแอร่มแต้มฟ้าหวานหวาน หรือ ยามที่อุทัยโลกหมุนหมุนตะวัน คืนกลับมาคลี่ยิ้มอบอุ่นอ่อนโยนสาดส่องผืนฟ้า ให้มวลหมู่นกกาได้เริงร่าผกโผผิน ให้วัฎฎจักรแห่งทุกชีวิน ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างเริงร่า ให้สายธาราระรินไหล พร้อมดวงดอกไม้ไพรแสนหวานหล่นละลาน หว่านพรายแตะแต้มเต็มท้องน้ำ งามจนยากบรรยาย หรือ ในท่ามกลางผาหิน ที่นอนเคียงคู่ขวัญอ้อนจันทร์อ้อนใจ นอนนับดาวพราวไสวสุกเต็มอ้อมฟ้า ราวทะเลดาวพราวพร่าง ให้ได้อ้อนสุดที่รัก ให้เด็ดดาวมาแตะแต้มประดับผม ให้วะวิบวาวราวมงกุฎเพชร ราวเพชรจากมือนางฟ้าโปรยปรายให้ชื่นให้ฉ่ำ ให้สร้างฝันหวามไหว ไปตามจินตนาการหวานหอมมิรู้สิ้นรู้จบ หรือ ในกระท่อมริมทะเลฝัน ในเกาะห่างไกลผู้คน มีเพียงสองกมลขวัญ นอนห่มผ้าผืนเดียวกันซุกอกอุ่นไอ ดูสายฝนพรำ ฟ้าฉ่ำริน ดูดวงดอกฝนที่แตกดอกพร่าง กลางเวิ้งน้ำทะเลเขียวมรกต ที่แสนงดงามราวดวงดอกไม้เล็กๆ เต็มแต้มแย้มงามพราวไปทั่ว..ผืน ราวฝืมือจิตรกรเอกมาเสกสรร..วาด หรือ กับแสงเทียนวะวูบไหวระบัดพลิ้วไหวไปตามแรงลม กับโนมเนื้อละมุนอุ่นอิ่มกับหอมกลิ่นกรุ่นกาแฟ กับหนังสือดีดีในมือสักเล่ม ให้กระท่อมฝัน กลายเป็นกระท่อมสวรรค์หวานในชั่วพริบตา ก็มิปาน และแปลกดีนะ ที่หัวใจ คนเรานี้ต่างมีคนละดวง ต่างเก็บไว้คนละทรวง และต่างจิตต่างใจต่างลิขิตคิดฝันไป ได้หลายร้อยพันรูปแบบ ในทิศทางธรรมทางใด แต่ทว่า หากสองดวงใจมิสิ้นสายใยสายใจรักถักทอ ใจดวงแยกนั้น พลันจะพร้อมพลี หันกลับมาหลอมละลายรวมกันได้เป็นหนึ่งเดียว จะเกี่ยวเกาะไว้อย่างแนบแน่น ไม่ว่าจะห่างกันแค่ไหน จะไกลสักครึ่งฟ้า หรือว่าจะว้าเหว่เดียวดายพลัดพรายอยู่ไกลกันคนละซีกโลก ก็จะมาบินมาสอดผสานผสมห่มหอมหวานในห้วงใจ ราวเป็นหนึ่งเดียวมิเกี่ยวกับไกลกับกาลเวลา ใจทุกดวง เพียงเปิดใจรับสรรพสิ่งแสนงามไม่ว่ายามไหน กับทุกสิ่งที่แสนยิ่งใหญ่ ที่ธรรมชาติหยิบยื่นให้มา เพื่อให้มวลมนุษย์ ได้พาพบมาหลอมละลายสงบงามในนวลเนื้อใจ ให้รู้รักกันแบ่งปันฝันพลีฝันฟรีนี้ ราวกับจะมาสอนบทเรียนแสนดี ให้มวลมนุษย์ได้หยุดคิดทำลายกันและกัน รวมทั้งธรรมชาติ ที่มีแต่ฝากความงามความดี ให้ดวงใจเรานี้เปิดรับพลังภายใน เปิดบ้านแห่งจิตวิญญาณ รับดวงดอกไม้บานรับสายฝน สายฝัน รับสายแสงทอง หยาดละอองน้ำค้างในยามเช้า เฝ้ารอสายน้ำผึ้งหวานจากพรายพระจันทร์ในยามค่ำ รับหยาดน้ำค้างใสในยามดึกมาดื่มรินราวดวงดอกไม้ ให้คลี่เพียงหัวใจถวิลรับเพียงงามง่ายใกล้ตัว และ ให้ดวงใจมิหมองมัวมืดดำ รู้คิดคืนงาม ในนิยาม*ให้*แด่เพื่อนมนุษย์ ร่วมโลกโศกสุขทุกข์ร้อนเดียวกันนี้ ที่จำต้องหันมาพึ่งพาพึ่งพิง.. ไม่ใช่ทิ้งธรรมชาติงาม แล้วมีแต่ตาต่อตารบราฆ่าฟัน ให้เลือดหลั่งรินให้ใจโศกเศร้าราวอมนุษย์ก็มิปาน ไยกันเล่าถึงต้องประหัตประหารเข่นฆ่ากัน เจ้ามนุษย์ผู้โง่เขลาเบาปัญญา สำหรับดวง.. มีความสุขเหลือล้ำเสมือนหัวใจมีรากแก้วรากขวัญ ที่ฝังลึกผนึกเป็นหนึ่งเดียวกับทุกสรรพสิ่ง ที่สอนให้รู้นิ่งมองงามในทุกยามเหงาว้าเหว่ เหมือนสายฝนสายฝัน ที่ช่างแยกกันมิออกเลยนะ เพราะฝนคือพลังมหัศจรรย์ ให้ทุกดวงใจได้พบหวานหวัง พบพลังสร้างฝันแสนงาม บางครั้งฟังเสียงสายฝนมาตอกย้ำ ให้ชื่นฉ่ำชีวาชีวิต และ มาตรแม้นบางคราฟังราวปีศาจวสันต์ มากระหน่ำซ้ำเติมใจให้ยิ่งเจ็บช้ำ ย้ำยิ่งตรมระทมทุกข์ มาร้องคร่ำครางครวญหวนไห้โหยหา ยามดวงใจอ่อนล้า สิ้นไร้รักร้างไร้ร่างใครมาเคียงข้างกาย ที่ทำให้ยิ่งกระหายอยากผวาหาอ้อมอกอุ่นมาซุกซบ ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน แล้วสบตาหวานฉ่ำ กระซิบพร่ำคำรัก แลกรสรักหวานหวานระร่ำระริน มิสิ้นสายสวาทเสน่หา โอ้..กระไรเลย..ใจดวงงาม แค่นั่งมองสายฝน ไยต่อสายฝันให้พลันลอยละลิ่วปลิดปลิวไปไกล ได้ถึงเพียงนี้ละหนอละนี่ มองอีกที..เอ๊ะ! หรือเพราะว่าไวน์แดงดั่งเลือดรักสีทับทิมพลันพร่องแก้ว แววหวานเลยวะวับจับจิตจับใจ ให้ฝันไกลไปได้ถึงไหนไหนนะนี่นะ จนต้องหันกลับมาหยุดฝัน ก่อนที่น้ำตาขวัญฝันจะพลันพร่างร่วงริน เมื่อตระหนักว่าไม่ว่าจะวันนี้วันไหน หัวใจดวงนี้ก็ยังดายเดียวเดียวดาย ราวอยู่ท่ามกลางปลายโลกร้าง ลำพังและลำพังนิรันดร... *********************** http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=336 ปีศาจวสันต์ เรา จากกันวันนั้นยังจำ จากกันวันนั้นฝนพรำ พรางม่านกรรม คล้ำครึ้มคลุมเวร ลมครางฝนครวญ ไพรสั่นชวน รวนระเนน ความกดดัน ขั้นเดน เหมือนจะเค้น ฆ่า กัน เรา จากกันวันนั้นนานมา แต่เมื่อวสันต์ลีลา ฤาสร่างซาฝนฟ้าฟูมฟาย ฤดู ฤดี มันไม่มี วันคืนวาย มันสาปใจ สาปกาย คล้ายมนต์ร้าย พรายผี ผี วสันต์ มันหลอก มันหลอน ปีศาจวสันต์วันก่อน ยังสังวรณ์ เวรนี้ ฟัง โถฟัง ฟังฝนตกซี เหมือนนรกตกตี ย้ำ ขยี้ ใจ ตรม ไป จากไป ไปแล้วไปเลย อย่ามาชวนชิดชวนเชย ปีศาจเอย ร้างเลยอารมณ์ ลมมา ฝนมา จงอย่ามา พาระทม เพียงโศกทราม เศร้าซม ฉันจะล้ม ตายแล้ว... *********
6 ตุลาคม 2547 17:09 น. - comment id 345094
+++ ยังคงความสวยสดงดงามในการใช้ถ้อยคำเสมอนะค่ะ แวะมาเป็นกำลังใจจ๊ะ
6 ตุลาคม 2547 17:22 น. - comment id 345106
ซึ้งใจจังค่ะ ที่รวดเร็วมาก มาฝากซาบซึ้งใจ ให้พลังใจกำลังใจ ลาทีนะคะมิใช่ลาก่อน ขอไปเต้นออกกำลังกายก่อนนะคะ ราตรีนี้ จะมาห่มผ้าห่มหอมกรุ่น ให้ทุกดวงใจอุ่นอิงอบอุ่น อ่อนหวานค่ะ เราจะพากันมานอนนับดาวพราวพร่าง นอกชานบ้านเรือนไทยเรือนทอง แล้วมองฟ้าดู ดาวพรายนับพันดวงที่แสนสุกใส ราวจะเอื้อมมือคว้าไขว่ได้ หรือ หากสายฝนพร่าง เราก็จะนอนริมชานเรือน แล้วดูดวงดอกฝัน ด้วยกันค่ะ ให้พบดวงดอกฝันฟรีฝันดี..นะคะ ท่ามกลางกลิ่นดวงดอกโมกละมุนใจ ดวงดอกพุดซ้อนอ้อนใจ ให้ไหวหวามซาบซึ้งค่ะ รักยิ่งนักแล้วค่ะ จาก
6 ตุลาคม 2547 18:11 น. - comment id 345118
เห็น รูป แล้ว.........ขนลุก
6 ตุลาคม 2547 18:13 น. - comment id 345120
สื่ออารมณ์เหงา เพียงลำพังได้งดงาม เปิดมุมมอง ได้เยี่ยมครับ @@@@@@@@@@@
6 ตุลาคม 2547 19:01 น. - comment id 345130
*****คิดถึงๆๆๆๆๆๆใจจะขาด********** แวะมาเป็นกำลังใจจ้า
6 ตุลาคม 2547 20:06 น. - comment id 345152
ดาหลาคะ พุดรีบค่ะ เลยใส่ภาพไปก่อน จริงๆพุดชอบผู้หญิงคนนั้นที่หน้าตานะคะ พุดว่าในเรือนร่างเค้าแสนสวยแบบศิลป์ ค่ะ หากพิศให้ดีนะคะ แต่ก็คงโป๊ไปนิ๊ดทั้งๆที่แช่น้ำ วิจิตรสิชอบมากภาพนี้ ก็ไม่เป็นไรค่ะ เปลี่ยนดีกว่านะ ด้วยรักค่ะ
6 ตุลาคม 2547 21:19 น. - comment id 345185
...ฉันอยากได้กุหลาบเพียงดอกหนึ่ง จากสวนซึ่งเพื่อนฉันเป็นเจ้าของ ดีกว่าได้ดอกไม้มากมายก่ายกอง มาครอบครองยามสิ้นลมหายใจ ฉันอยากได้เพียงหนึ่งถ้อยวาจา จากฤทัยเมตตาที่มอบให้ มากยิ่งกว่าคำยกยอชวนหลงใหล กล่าวเมื่อวันฉันจากไปไม่หวนคืน ฉันอยากได้รอยยิ้มพริ้มละไม จากสหายที่จริงใจพาสดชื่น มากยิ่งกว่าน้ำตาจากผู้อื่น ที่หยิบยื่นยามฉันลาโลกา ขอดอกไม้ให้ฉันบัดเดี๋ยวนี้ จะเป็นสีขาวชมพูแดงแรงกล้า เพียงดอกหนึ่งเมื่อฉันยังมีชีวา ย่อมดีกว่ามวลบุปผายามฉันม้วยมรณ์... อิอิ อานเพลินเลยครับพี่ ฮ้าว..วววว ทำไมง่วงจังเลย สงสัยจะแก่มั้งครับพี่ ฮิๆๆ ไปบ้านหลังอื่นก่อนนะครับพี่ โชคดีทุกวันครับพี่ สุขี สุขี ครับ +-*-+-*-+ +-*-+-*-+ปู๊ชายอารมดี๊ดี+-*-+-*-+ +-*-+-*-+
6 ตุลาคม 2547 22:20 น. - comment id 345249
พี่พุดขาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆมาทักทายนะคะ ขอบคุณพี่พุดที่ไปเน่ยมนะคะขอบคุณค่ะ
6 ตุลาคม 2547 22:32 น. - comment id 345266
งดงามเสมอค่ะพี่พุด ข้าพเจ้ามาทักทายค่ะ
6 ตุลาคม 2547 22:47 น. - comment id 345280
..เรนมาขออนุญาต ..นำบทกวี ของพี่พุดพัดชา.. ไปโพส ..ในบทกวี ของเรน นะคะ.. เสียดาย .. ที่เรนไม่เห็นรูปนั้น.. อิอิอิ..
6 ตุลาคม 2547 23:49 น. - comment id 345360
แวะมาอ่านอย่างเดียว
6 ตุลาคม 2547 23:50 น. - comment id 345364
กลิ่นหอมของพฤกษาเยอะจังเลยค่ะ เลยแวะมาดื่มไวน์เป็นเพื่อนนะค่ะ ราตรีสวัสดิ์และหลับฝันดีด้วยนะค่ะ
7 ตุลาคม 2547 08:56 น. - comment id 345474
Cool! จะชม ยังงัยดี
7 ตุลาคม 2547 10:19 น. - comment id 345517
อืม เพระดีค่ะ อิ อิแวะมาเยี่ยมค่ะ..... .....รู้ไหมมีใครคนนึงยืนอยู่หลังเธอ ครั้นเมื่อเธอยังเด็กเล็กอยู่ เธอคืบคลานก้าวเดินหกล้มคอยเฝ้าดู อุ้มชูเมื่อยามเธอท้อใจ...
7 ตุลาคม 2547 16:30 น. - comment id 345847
เหตุใด มนุษย์ยังเข่นฆ่ากัน... เด๋วนี้มีด้วยหรือ สิ่งมีชีวิต ที่ควรค่าแก่การกล่าวว่า มนุษย์ ... อิอิ แวะมาทักครับ อ่านลืมเวลาเลย T_T ที่ถามไว้คราวก่อน จะติบให้นะครับ ยวน พระบาท หมายถึง ก่อกวนให้เกิดโทสะ จนถึงขั้นลงไม้ลงมือด้วยพระบาทนั่นแหละครับ ที่ใช้คำว่าพระบาท ไม่ได้หมายถึงกับ พระเจ้าแผ่นดินนะครับ แต่หมายถึง คนที่มีอำนาจมากกว่า ชอบกว่าตัวเหนือคนอื่น (นักการเมืองนี่แหละ)
7 ตุลาคม 2547 18:31 น. - comment id 345903
แตงชอบเพลงนี้มากเลย ปีศาจวสันต์ .. แบบว่าตอนแรกก็ไม่ค่อยแนวนี้ แต่แม่ชอบอ่ะค่ะ ก็เลยร้องๆจนติดปาก ร้องไปร้องมา ก็คิดว่ามันเพราะดีนี่นา อิอิ กลอนเพราะมากเลยนะคะ ^_________^ แวะมาทักทายค่ะ