กระท่อมไม้ระกำ!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=480
**********
คนดี..ดวงใจ....
ผมกำลังนอนทอดตาฉ่ำชื่นด้วยหยาดน้ำตาคลอคลอง
ยามราตรีนี้อย่างดายเดียว
ในกระท่อมไม้ระกำ


ที่คุณจำได้ไหมว่า
เราเคยเอนอิงแอบแนบชิดสนิทเสน่หามาด้วยกัน
กระท่อมที่คุณบอกชื่อช่างเศร้า สิ้นดีหากแสนโรแมนติก 
ในความรู้สึกของผู้หญิงช่างฝันอย่างคุณ
คุณบอกชื่อกระท่อมไม้ระกำฟังแล้วให้ใจช้ำช้ำยังไงก็ไม่รู้


แต่นาทีนั้นคุณจำได้ไหม
คุณกลับมาซุกอกอุ่นผมแล้วไล้ลูบดอมดมพรมจูบ
ด้วยแสนรักเอยแสนรักในกมล..


กระท่อมในฝันในจินตนาการ
ที่ปลูกสร้างด้วยไม้ระกำ
ปลูกสร้างเคียงทะเลสีครามสีน้ำเงินงามมรกต
ตัดกับขอบฟ้าไกล..กลางเกาะที่ชื่อมันนอก
เกาะแสนบริสุทธิ์ใส
อวลอากาศสดกลางทะเลตะวันออกไกล


กระท่อมไม้ระกำ
ในดงไม้ครึ้มเคียงผาหินใกล้ทะเล
มีไม้พื้นเมืองประเทืองประทับใจ
ดงดวงดอกทองหลาง
พราวดอกส้มสดพร่าง
สว่างไสวกระจ่างจับฟ้าพิสุทธิ์ใสงามเข้ม


และ
ริมชายคาจะมีดงลั่นทมยืนเหว่ว้าอิจฉาทุกคู่รัก
ที่มาพักพิงเอนอิงกันในอ้อมตักอ้อมใจ
ชี้ชวนชมทั้งดงดวงดอกไม้ไพร
และดวงดอกไม้ใจที่กำลังไหวระริกรับรสรัก..
อันมักจะดำดื่มลืมตนไปกับธรรมชาติร่างธรรมชาติรัก


ที่รัก..จำได้ไหม
เรา..เพิ่งผ่านคืนฝันวันวิวาห์มาไม่นาน
และเมื่อเดือนผ่านลาไปในเย็นหนึ่ง
คุณบอกผมว่าคุณคิดถึงทะเลๆ
หลังจากที่ติดสอยห้อยตามผมเข้าป่าชมนกชมไม้
ในไพรพฤกษ์มาหลายครั้งหลายคราแล้ว


ผมจึงตามใจคุณ..
ให้มานอนคะนึงฝัน
เอนแอบอิงพิงร่างกันชี้ชวนดูดวงดอกทองหลาง
เคียงข้างกระท่อมงามนามระกำระทม


ทอดตาสวยเศร้าดูกระท่อมร้าวระกำนี้
ที่หากผมรู้เสียตั้งแต่นาทีแรก 
ผมจะไม่พาคุณมานะที่แห่งนี้เลย


กระท่อมที่ผมจะไม่มีวันลืม
ทั้งชื่อทั้งช้ำในอกในใจผม
อย่างยากยิ่งจะบอกผู้ใด


คนดี..ดวงใจ
เรา..มานอนฟังเสียงคลื่นทะเลครวญดูนางนวลโผผิน
ปลาสีเงินดีดผึงขึ้นกลางทะเลสีเงินงามเข้มในวันแดดทอสวย
ฟ้าสีครามงามจับตา
กับโค้งฟ้าจรดผืนน้ำสีมรกต
ที่กว้างไกลราวไม่มีที่สิ้นสุด

คุณชอบที่สุด
ที่จะลงไปแหวกว่ายในพรายน้ำทะเลในยามอรุณรุ่ง
ยามแดดสีทองทอสายพร่างพราย
ให้น้ำทะเลนั้น
พลันเกิดประกายงามระยิบระยับรับเรียวแดดทาบทา


ยามนั้น
คุณค่อยๆพรมจูบริมเรียวแก้มคางสากๆ
ก่อนจะพรากลาผมไปรอรับอรุณหวานตามลำพัง


วันนี้
ผมเสียดายเสียใจนัก
ที่ปล่อยให้วันแสนรักนาทีแสนยิ่งใหญ่ในทุกฟ้าสางนั้น
ให้ผันผ่านไป..
ผมมัวแต่พลันเพลียนอนนิ่งในที่นอนนุ่ม
หลับลึกหลับไหลไปกับฝันดี
กับรอยยิ้มพิมพ์ใจอิ่มเอมใจเอมอิ่มร่าง
ในสุขพร่างล้ำดำดื่มดำดิ่งที่คุณทิ้งทอดไว้ทั่วร่างผม


มีบางวันที่ผมพลันเพียรพยายามลืมตา
มองออกไปนอกหน้าต่างกระท่อม
ผ่านดงดวงดอกลั่นทมหอมเศร้า
ที่ยืนเฝ้าแอบอิจฉาผมทุกคืนค่ำ


ผมจะเห็น....
ผู้หญิงในดวงใจ..
ร่างละมุนหอมอวลกรุ่นอยู่ในพรายแดดเช้า
ที่ผมแสนรักเอยแสนรักในกมล
และร่างงามอะคร้าวนั้น
พลันค่อยๆลอยตัวเหนือผืนน้ำทะเลในชุดบิกินี่สีเงินงาม
ที่ขับผิวคุณให้ยิ่งมลังเมลืองพรายพร่าง
ด้วยสายแสงแห่งเพชรจากตะวันตกต้องร่าง
ให้ยิ่งผ่องผุดปานประดุจแม่เนื้อทอง..เนื้อนวล นางนวล


คนดี..
ดวงใจ..
ยามนั้นผมจะพลันพาตัวเอง
มานั่งหน้ากระท่อมน้อยจิบน้ำผลไม้
และเฝ้าคอยทอดตาดูคุณ
ที่กำลังนอนลอยตัวยิ้มพริ้มเพรา


รับแสงเงางามจากตะวันดวงหวานอันอ่อนอุ่น
ในอรุณรางระเรื่อเจือสายแสงแรก
แฉกประกายพรายพร่าง
สาดสีทองส่องจับไปทั่วทั้งท้องน้ำ.
และกับเรือนร่างเพรียวงามละมุนราวนางเงือกของคุณ


 คนดี..ดวงใจ
ท่าม
กระท่อมระกำร่ำรายพรายด้วยแสงเทียนทอทอด
 ในอ้อมกอดอ้อมอกหวานอุ่นปรุงปน
ด้วยกลีบเกสรแห่งรักภักดิ์พลี
ที่ทายทักรักทอดสอดผสานผสมห่มด้วยเสน่หา
ท่ามกลางแสงเทียนเหว่ว้า
หากทว่าแฝงความอบอุ่นอ่อนโยน


กับ
สายฝนสายฝันหลงฤดูฤดีในยามราตรีหนึ่ง
ช่างทิ้งซึ้งทิ้งเศร้ามากมายตามมาในยามนี้ให้ผมจำจด


ฝนภายนอกยังระรินหยดติ๋งๆๆปลายชายคาจาก
หากหัวใจเราสองกลับสงบงามแสนสุข
เมื่อได้ซุกร่างนอนดูหยาดฝนพรำด้วยกัน
ในผ้าห่ม
และกับ
ร่างหอมที่ราวกับจะหลอมบดขยี้เป็นเนื้อเดียวกัน
ให้สายรักสายใยสวาทพาดพัน
หลั่งถวิลมิสิ้นเสน่หามิรู้จบ


คนดี
ท่ามคืนฝันพระจันทร์หวานทะเลงาม
ที่มีดวงดอกฝนพรายพร่าง
แตกดวงร่วงหยาดรินลงพร่างพรม
กับบทดนตรีฝนดนตรีฝันดนตรีรัก
ที่ผมพร่ำเพียรบรรเลงด้วยรักคุณรักคุณ..และรักคุณ


ทุกนาทีที่โลกหมุน
ยามเรามีกันและกันในอ้อมกอด
เป็นนาทีที่ผมคิดว่าพระเจ้าช่างเยี่ยมยอดใจดี
ที่ช่างมีเมตตาปรานีต่อเราผู้รู้ค่ารักยิ่งใหญ่เป็นยิ่งนักแล้ว


ท่านเมตตามาแจกให้โลกนี้
ยังมีหวานมีหวังมีพลังใจ
ให้คุณและผมที่มีรักหนักแน่นมั่นคงจริงใจ
ได้มาพบกัน..รักกัน
ได้มาพลีขวัญใช้พลังรักนั้น
ปันกลับคืนไปยังผองชน


ให้ผมสร้างสมคุณงามความดี
ทำหน้าที่งดงามคืนกลับ
แด่เพื่อนร่วมโลกลดโศกรานเท่าที่มีโอกาส


ให้ผมได้วาดหวังอนาคตงาม
ที่จะมีคุณเคียงข้างเคียงใจไปด้วยกันแบบคู่ธรรมคู่ทอง
..

คนดี..
ดวงใจ..
พระเจ้าให้รักยิ่งใหญ่
มาสอนใจสร้างพลังให้ผมมากมาย
แล้วไยเล่า..ถึงเรียกคืน
................
...............


คนดี
นาทีนี้..
ผมถึงเพิ่งซึ้งถึงคำกล่าว*ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์*
ใช่ความสุขทางใจทางเนื้อหนังนั้น
ที่นะบัดนี้พลันผ่านไปแล้ว
ไร้วี่แววจะหวนกลับ


คุณลาเลยลับ..ทิ้งผมไว้ลำพัง
ให้ฝืนยิ้มรับโชคชะตาฟ้าลิขิต
อย่างอยากสอนบทเรียนทางจิต
ให้ผมฝึกจิตให้ถึงพร้อมยอมรับความจริง
ของชีวาชีวิต


กับคำว่า
ตายก่อนตาย..
ให้ผมได้ตระหนักถึงค่าคำ
อย่างที่คุณเคยให้สติผมไว้นานมา
แทบชั่วทุกช่วงเวลาแห่งชีวิตคู่ของสองเรา


*ว่าโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนจะยึดมั่นถือมั่นได้*
ไม่มีรักร่างสุขเศร้าได้ยาวนาน
เท่ากับเพียรพยายามสร้างสมจิตให้กระจ่างใส
พยายามใช้เวลาและชีวิตน้อยนิด
ให้สมกับที่ได้มาพบกับงามธรรม..
งามธรรมชาติอันยิ่งใหญ่


ที่แค่ชีวิตเราราวผ่านมาผลัดกันชม
อย่าตรมเศร้ากับทุกสิ่งที่ไม่มีอะไรจีรัง


คนดี..ดวงใจ
ผมเซซังซมซาน
ตั้งแต่วันที่คุณร้องครวญครางในยามดึกแบบไร้สติ
ที่คุณบอกผมว่าคุณปวดท้องแบบแทบคุมสติไม่อยู่


คนดี..
ที่ไม่นานมานี้
ทั้งผมและคุณต้องยอมรับรู้และยอมรับความจริงว่า
คุณกำลังจะพรากจากผมไป
ด้วยโรคร้ายที่มากรายกล้ำย้ำความจริงแห่งวิถีชีวิตนี้
ที่ช่างไม่มีอะไรแน่นอน..
ไม่ผิดคำ
อย่างที่คุณคอยพร่ำสอนใจเตือนใจ
ให้บทเรียนผม..ให้เลิกตรมในทุกข์ทุกรัก


คนดี..
ดวงใจ
แล้วอะไรที่ผมจะยึดมั่นได้
มิให้ผมเศร้าสุดทน
ซึ่งผิดกับจิตคุณ
ที่ถูกฝึกมา
ให้ยอมรับความอนิจจังอนัตตามายาวนาน


ที่คุณเพียรว่าให้ผมลดละกิเลสกรรม
รวบรวมพลังสติ
สร้างสมาธิภาวนา
จะได้พบปัญญาพาลำแสงสุดท้ายอำลา
ยามจะมอดดับลาลับละร่าง
วางไว้นะกลางพื้นพสุธา


ให้ไร้โหยหาเศร้าหมองใดมากรายกล้ำตามติดไป
ให้หลงเหลือเพียงจิตใส
ดวงสว่างกระจ่างงามตามติดไปในทุกภพทุกชาติ
เมื่อยามสุดท้ายแห่งลมหายใจมาเยือน
อย่าให้เสียชาติเกิด


คนดี
ผม..ระลึกแล้วในวันนี้
วันที่พระเจ้าได้ให้บทเรียน
ที่ผมต้องหลั่งน้ำตาแลกมา


ก่อนที่จะตระหนักถึงคำว่า
โลกนี้และรักนั้นช่าง
*ไม่มีอะไรเที่ยงแท้และแน่นอนเที่ยงธรรมเท่า..ธรรม..*
ที่จะน้อมนำจิตเรา
ให้กระจ่างใสไม่มืดบอดหลงวน


ธรรมชาติรายรอบแสนงามเพียงนั้น
ที่พลันราวจะบอกใบ้ให้เราทุกชีวาชีวิตได้
สนิทเป็นหนึ่งเดียวกัน
เพื่อปลอบประโลมและได้ตระหนักรู้
*อยู่ก็สบายตายก็เป็นสุข*
ให้รักสงบสยบความวายวุ่น
ในโลกวัตถุมากมีมากมายนี้
ที่ช่างแสนสิ้นไร้เวลาเปล่าเปลือง
หากไปประเทืองประทับใจไปหลงเกาะยึดติดไว้


และ
คนดีดวงใจ
นาทีนี้ผมเศร้าดายเดียว..ลำพัง
หากทุกคำลา
ที่คุณเพียรภาวนาฝึกจิตกระจ่าง
พร่างราวสายแสงเพชรพร่างพรมห่มเนื้อใจผมนั้น


ทำให้ผมพลันยอมรับความจริงได้
และ
สัญญาจากลูกผู้ชายคนดีคนนี้
ที่คุณแสนรักเอยแสนรักในกมล
ที่คุณบอกว่าคุณแสนภาคภูมิใจ
ที่คุณเพียรขอ..พ้อให้
ผมเลิก..หลงโลกย์มิโศกสุข
พาตัวเองพ้นกองทุกข์ราวบัวพ้นน้ำ


เพื่อจะตามคุณไปสถิตในแดนดินนิรันดร์..
เมื่อตะวันลาตะวันแห่งชีวิตผมมาเยือน..
ให้รักเรานั้นดั่งคู่ขวัญคู่ธรรมคู่ทอง
คล้องดวงวิญญาญ์ไปชั่วกาลกัป์ปกัลป์นะคนดีนะดวงใจ..!!
***************


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=480
คำมั่นสัญญา   
ถึง ม้วยดิน สิ้นฟ้า มหาสมุทร
ไม่ สิ้นสุด ความรัก สมัครสมาน
แม้ อยู่ใน ใต้หล้า สุธาธาร
ขอ พบพาน พิศวาส ไม่คลาดครา
แม้น เนื้อเย็น เป็นห้วง
มหรรณพ
พี่ ขอพบ ศรีสวัสดิ์ เป็นมัจฉา
แม้ เป็นบัว ตัวพี่ เป็นภุมรา
เชย ผกา โกสุม ปทุมทอง
แม้ เป็นถ้ำ อำไพ
ใคร่เป็นหงษ์
จะ ร่อนลง สิงสู่ เป็นคู่สอง
ขอ ติดตาม ทรามสงวน
นวลละออง
เป็น คู่ครอง พิศวาส ทุกชาติไป
แม้ เป็นถ้ำ อำไพ
ใคร่เป็นหงษ์
จะ ร่อนลง สิงสู่ เป็นคู่สอง
ขอ ติดตาม ทรามสงวน
นวลละออง
เป็น คู่ครอง พิศวาส
ทุกชาติไป...
**************
 				
comments powered by Disqus
  • พุดไพร

    26 กันยายน 2547 11:23 น. - comment id 338343

    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=499
    ม่านบังตา   
    นัดดา วิยะกาญจน์ : : Key D  
    
    ถึง เธอจะพราก จากฉัน
    ไกลกันสุดความหวัง ฉันก็ยังรักเธอ
    ฉัน ยังซื่อตรงเสมอ
    แม้เธอเป็นของใคร
    ฉันไม่ แปร ผัน
    ถึง โลกจะแหลกสลาย
    จันทร์จะมืดแลหาย
    ฉันไม่คลาย สัมพันธ์
    ขอ เธออย่าลืมเลือนฉัน
    แล้วเราคงพบกัน
    เหมือนจันทร์ ที่คู่ ดารา
    แต่ฉัน ยังนึกหวั่น เสมอ
    รักเธอ เลือนเหมือนม่าน บังตา
    บางวัน ฉันเฝ้าคอยหา เปลี่ยวอุรา
    พาให้ อาวรณ์
    ถึง เธอจะอยู่แห่งไหน
    เธอคงไม่ลืมฉัน
    เราจากกัน ร้าวรอน
    ฉัน รอด้วยใจ เร่าร้อน
    ทุกคืนวัน ฉันนอน ขอวอน เธอกลับคืนมา
    เธอคงไม่ลืมฉัน
    ดนตรี
    แต่ฉัน ยังนึกหวั่น เสมอ
    รักเธอ เลือนเหมือนม่าน บังตา
    บางวัน ฉันเฝ้าคอยหา เปลี่ยวอุรา
    พาให้อาวรณ์
    ถึง เธอจะอยู่แห่งไหน
    เธอคงไม่ลืมฉัน
    เราจากกัน ร้าวรอน
    ฉัน รอด้วยใจ เร่าร้อน
    ทุกคืนวัน ฉันนอน ขอวอน
    เธอกลับคืนมา...
    
    
    
  • rain..

    26 กันยายน 2547 11:26 น. - comment id 338345

    ..งดงาม.. แบบเศร้า..ด้วยดิคะ..
      ..คง..เจ็ปปวด ..มากมาย..
     เหมือนตาย ..จาก.. ความผูกพัน..
        ..รัก ..คือความเป็น..นิรันดร์..
      จากกัน .. ปวดร้าว ..ทุกข์ตรม ..
            ..รัก.. ที่ปวดร้าว..
      คือเงา ..ที่..ทำให้ ขื่นขม..
           ..วอน ..สายลม..
      พัด..ความทุกข์ตรม ..  ให้ไกล..
           ..ขอรัก.. กลับคืนมา..
      โปรดนำพา .. หัวใจ..ที่ร่ำไห้..
           วอน.. อีกครั้ง..อย่าพิไร..
      สื่อรักให้ ..  ได้พบพาน..เธอ ..อีกครั้ง..
    
             ..เรน..หัดแจม ..งานพี่พุดพัดชานะคะ..
      แบบตอนนี้ ..เรนกางพจฯ ..แต่งด้วยดิคะ....
             ..เรน ได้คำ..ใหม่ ..มาด้วยคะ..
        
             เรน ..ขอบคุณ ..พี่พุดพัดชา นะคะ..
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    26 กันยายน 2547 12:54 น. - comment id 338381

    หนามระกำตำตรึงถึงหัวใจ
    ปลายหนามหักฝังในไม่อาจถอน
    เหมือนพุดรักปักแน่นไม่สั่นคลอน
    คืนวิวาห์มาย้อนให้ระกำ.........
    
    หนามระกำมีพิษตรงปลาย ที่มีสีเข้ม เมื่อแทงเข้าเนื้อจะหักคาเจ็บปวดนัก คงเจ็บปวดมากมายถึงขั้นสร้างกระท่อมไม้ระกำขึ้นมานอน ให้สะใจซะเลย
  • แก้วประเสริฐ

    26 กันยายน 2547 14:17 น. - comment id 338412

    งดงามเสมอเลยครับ
    
               แก้วประเสริฐ.
  • ผลิใบสู่วัยกล้า ( ไม่ได้ล๊อกอิน)

    26 กันยายน 2547 15:38 น. - comment id 338440

    สวัดีครับ.............
    
             ผมเข้ามาอ่านเพื่อเป็นกำลังใจให้คนที่แสนดี  
    
           
    
    กำลังใจจากข้างในส่วนลึก
    ไม่ต้องฝึกต้องหามาให้เห็น
    จะแดดร้อนตอนสายจนบ่ายเย็น
    จะคอยเป็นกำลังใจให้ดนดี
     
    
  • วนัสนันท์

    26 กันยายน 2547 17:33 น. - comment id 338490

    ยาวที่สุดเท่าที่เคยอ่านมาเลยค่ะ
    
    แต่แน่นอน...อ่านแล้วคุ้มค่า
    
    ชื่นชมนะคะ :)
  • เมกกะ

    26 กันยายน 2547 18:14 น. - comment id 338502

                ไม่คิดสอยมัวคอยดอกไม้ร่วง      
    คงชวดดวงบุปผชาติสะอาดหอม
    ดูแต่ภุมรินเที่ยวบินดอม                         
    จึงได้ออมอบกลิ่นสุมาลีฯ.
    
    ท้าวแสนปม
    
    
    อิอิ  แวะมาเยี่ยมพี่พุดเช่นเคยครับ ฮิๆๆๆ  ช่วงนี้สุขใจจังเยยยยย  
    
    +-*-+-*-+  +-*-+-*-+ปู้ชายอารมดี๊ดี+-*-+-*-+  +-*-+-*-+
    
  • ชมอักษร

    26 กันยายน 2547 20:47 น. - comment id 338518

    อ่านแล้วเคลิบเคลิ้มไปกับความหลังของพระเอกเลยค่ะ .. 
    แม้ว่าจบลงอย่างเศร้า ๆ  ก็ตาม ..
    
    อยากให้ใครเรียกแบบนี้บ้างจังค่ะ .. คนดี .. ดวงใจ ..
    
    ..........................
    
    
    
  • ...รัถยา...

    26 กันยายน 2547 22:48 น. - comment id 338574

    ตายก่อนตาย   นี่ได้ยินมาจากไหนนะ ชักลืมๆ ใช่ท่านอาจารย์พระพุทธทาสไหมเอ่ย
    
    อารมณ์แบบนี้กับคนที่อยู่ข้างๆท่ามกลางแสงจันทร์เหมือนคืนนี้ กับความสุขที่ล้นใจเนอะ
    แต่คุณชายในกระท่อมระกำ  อืม  เดียวดายจัง
  • ภูตะวัน

    26 กันยายน 2547 22:59 น. - comment id 338582

    หอบความรัก..
    หอบความคิดถึง..มาเยี่ยม...
    คิดถึงสาวบ้านนา...
    
  • ชัยชนะ

    27 กันยายน 2547 08:12 น. - comment id 338853

    นี่แหละน้า   ไม่ใช้ไม้ฝาหลายห่วงแบบเขาโฆษณา
    
    อย่างนี้โดนมดปลวกแทะ ช่วยม่ายด้ายครับ..
    
  • พันดาว

    27 กันยายน 2547 12:23 น. - comment id 339000

    อ่านแล้วนึกตามเรื่องของตัวเอก... 
    เศร้าจัง .. 
    แต่กลอนงดงามเสมอ.

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน