เรือนแพ..ล่องไพร

พุด


Urlhttp://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=5
(เรือนแพ)
********
ดวงได้รับโทรศัพท์ยามวิกาล..
ตอนตีสาม...ให้สะดุ้งตื่นตกใจ
งัวเงียเห็นฟ้าระดะเต็มไปด้วยดาวดวงยังสุกใส 
ดาวพระศุกร์เด่นลอย
น้ำค้างยังทรงหยดย้อยเยียบเย็น


คุณ..โทรมา..กระซิบบอกว่า
จะพาหนีไปให้พ้นกรุงกรงดงแสงสีสักสามสี่วัน
บอกให้เวลา
จับเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าหรือย่ามชาวเขา
ให้เตรียมเอาชุดลุยๆไป..เข้าป่า
และ
ให้เตรียมเต๊นท์ไปด้วย
คุณแกล้งล้อ..
บอกว่าเต๊นท์เดียวก็เกินพอ..
เพราะว่าอากาศที่จะพาไปหนาวมาก..
ว่าแล้วก็หัวเราะเป็นนัยๆ


คุณ...คนดี
ชอบใช้มุขนี้
ให้เวลาแสนฉุกละหุก
มาบีบบังคับ
ที่มักไม่มีข้อต่อรอง
และอย่างมากไม่เกิน
ครึ่งชั่วโมง 
อย่างเช่นนะเวลานี้
ตอนนี้ที่คุณบอก..ก็เช่นเคย
รถคุณกำลังจะถึงหน้าบ้านแล้ว


และ
นี่คือคุณ..คนดีที่ดวงแสนรัก
ผู้มีวิญญาณนักผจญภัย
พอกับใจดวง
ที่ไม่ชอบชีวิตชาวเมือง
ที่ไม่ประเทืองประทับใจเอาเสียเลย
ที่ทนอยู่นี่ก็แค่ทนไปวันวัน
ราวปลาผิดน้ำ
ราวฝันกลางฤดูฝน
ราวกมลแล้งสิ้นหอมหวาน


ดวงดีใจนัก
กับรสชาติชีวิตแบบนี้
แบบที่คุณพลีนำมากำนัลมามอบให้
แบบชีวิตลูกผู้ชายชาติไพรหัวใจร่อนเร่
ชอบพเนจรรอนแรมราวนกไพร
ที่มีหัวใจรักผืนดิน
และกลิ่นของความเป็นป่าดงดิบเถื่อน


หัวใจนักเดินทางอย่างโชกโชนร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ
นอนกลางดินกินกลางทรายป่ายปีนผาท้ามฤตยู
เฝ้าดูดวงตะวัน ดูสัตว์ป่า เก้งกวาง ช้างหมี
ดูชีวิตป่า
ที่ยังเป็นป่าไร้มนุษย์มนามากมาย
มารู้เห็นมาเหยียบย่ำทำลาย
มีดงหญ้าซ่อนไว้
ให้สัตว์ป่านานาออกมาล่าเหยื่อเพียงนั้น
ในหลายผืนดินฝัน อันอุดมบ่มงาม


ให้วิญญาณรักนักพเนจรอย่างชีวิตคุณ
ได้หมุนพารถคู่ยากคู่ชีพบุกป่าฝ่าดง
ไปนั่งเดียวดาย..ลำพัง
คล้ายเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติไพร ในทุกหนแห่ง


และ
คืนนี้
กับอีกบทไพรที่คุณเลือกชวนดวงไปด้วย
ดวงรีบรับปากยิ้มหวาน..
คว้ากางเกงตัวเก่ากับเสื้อยืดขาวตัวเก่ง
แล้วรีบชงกาแฟหอมกรุ่นส่งกลิ่นควันหอมๆๆ
ใส่กระติกเก็บไว้ให้คุณจิบยามเดินทาง


และ
นั่นไง..มาแล้ว
รถกับเสียงเพลงแว่วแผ่วออกมา
กับสายลมระรินกับฟ้ากว้าง
ดวงรีบเด็ดดอกพุดซ้อน
และดวงดอกเล็บมือนาง
ที่กำลังคลี่กลีบหวานบานคลอรั้วไปสามสี่ช่อ
พอวางให้รถหอมๆๆๆกระจาย
แทนสารเคมีปรับอากาศ
ที่ผู้คนชอบซื้อใช้ให้เวียนศรีษะ
ที่แสนมีพิษภัยกับระบบหายใจ


ดวง..
ส่งกระติกกาแฟให้คุณ
และของดวงเองมีน้ำผลไม้สด
ที่คั้นเก็บไว้พร้อมดื่มริน
รถพาสองดวงใจที่รักพงไพรรักป่าดง
ออกนอกเมืองไปอย่างช้าช้า....


คุณรีบหันหน้ามาบอกว่าอย่ากังวล
คุณจะไม่พาดวงไปปล่อยทิ้งไว้นะกลางป่า
อย่างที่ดวงเคยขอเคยรอมานานดอกนะ
แค่ไปสัมผัสใกล้ๆ
ไปใช้ชีวิตเสรี
ไปฟังเสียงดนตรีไพรดนตรีธรรมชาติแทนดนตรีเมือง
ว่าแล้วคุณก็เล่นซีดีเพลงอมตะประจำใจเราสองนี้
ให้ดวงฟังไปยิ้มไปอย่างอารมณ์ดี


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=219
เดือนต่ำดาวตก ทูล ทองใจ : : Key Bb 
เดือนต่ำดาวตกเสียงนกละเมอ
เผลอร้องกลางดึก ดวงจิตระทึก
พี่นึกว่าเป็น เสียงเธอ
ผวา มองจ้องตามเพียงครู่
รู้ตัวว่าเก้อ ต้องกลับมาเพ้อ รำพึง
เงาไผ่หรุบหรู่แหงนดูเดือนต่ำ
น้ำค้างร่วงกราว 
ใจยิ่งปวดร้าว ยามไร้เธอเคียง คนึง
ความรักที่เคยชื่นทรวงใจซ่าน
หวานดังน้ำผึ้ง
แปรเปลี่ยนบึ้งตึงเหมือนเดือนเลือนลา
แม้ท้องฟ้าไร้
ทั้งดาวและเดือนก็เหมือนพี่นี้ 
ไร้คู่ชีวี นอนแนบนิทรา
เหมือนคนไม่มีหัวใจ ได้แต่ผวา
เสียงลมพริ้วมานึกว่าเสียงนาง
เดือนต่ำดาวตกเสียงนกละเมอ
เผลอร้องครั้งใด
พี่แทบคลั่งไคล้คิดถึงทรามวัย มิวาง
ผวากายหมายโลมเนื้อเกลี้ยง
พบเพียงหมอนข้าง
แทนที่แม่นางน้องเจ้าเคยนอน
แม้ท้องฟ้าไร้
ทั้งดาวและเดือนก็เหมือนพี่นี้ 
ไร้คู่ชีวีนอนแนบนิทรา
เหมือนคนไม่มีหัวใจ ได้แต่ผวา
เสียงลมพริ้วมานึกว่าเสียงนาง
เดือนต่ำดาวตกเสียงนกละเมอ
เผลอร้องครั้งใด
พี่แทบคลั่งไคล้คิดถึงทรามวัย มิวาง
ผวากายหมายโลมเนื้อเกลี้ยง
พบเพียงหมอนข้าง
แทนที่แม่นางน้องเจ้าเคยนอน...
************


ดวงกดกระจกรถ
ให้ไอสดของอากาศยามเช้าโชยชื่นฉ่ำเข้ามา
เมื่อออกมาไกลเมืองพอสมควร
เห็นเงาไม้ระริกไหวในสายลมอุษา
ค่อยๆผ่านตา...ผ่านไปผ่านไป...


พรายพระจันทร์กำลังหยาดสายหวาน
ดารารายร่ายระบำรำเต้น
เล่นแสงวะวิบวับประดับราวฟ้า
พอกันกับดวงใจ ดาราดวง..ดาราดิน
ที่ถวิลรักราวป่า
ให้หัวใจเต้นแรง
ราวจะหลุดออกมานอกอกนอกใจ
ด้วยความตื่นเต้น
ราวกับว่าจะได้ไปพบเพื่อนยาก
ที่พรากลามาไกลเสียแสนนาน


คุณ..
ผู้ชายหัวใจไพรละมุน
ค่อยๆยกมือดวงขึ้นดอมดมพรมจูบด้วยรักคิดถึงรับอรุณ
ไปกับกรุ่นดวงดอกไม้หวานหวานหวาน
ที่กำลังบานล้อคู่รักคู่ใจในยามนี้
ที่คงพอกับใจสาวดวงในอกในใจนี้
ที่กำลังราวมีหยาดน้ำผึ้งหวานระริน...ระริน..

ดวงยิ้มเขิน..
ก่อนจะชักมือออกจากมือคุณอย่างช้าช้า..
เสแกล้งชี้ชวนให้คนดี..
ดูฟ้างามยามอุษาฟ้าสว่างรำไรๆ
ยามเช้าแสนสดใสสดชื่นแสนดี


เพราะหากเลือกออกจากเมืองมาตอนค่อนรุ่งอย่างนี้
จะได้เห็นความงามอันแสนบรรเจิดใจพิไลพิลาส
เห็นดาวยังระดะดวงแตะแต้มเต็มผืนฟ้า
เห็น
ภาพพระอาทิตย์ดวงโตสีส้มสุกชัด
ค่อยๆขยับตัวบิดขี้เกียจชักรถขึ้นมา..อย่างช้าช้า..ช้าช้า..
ราวเพิ่งลุกจากที่นอน


ภาพดงตาลยืนสลอน
หวานหอมเคียงผืนนาสีเขียวไพลผ่องผุด
ราวผืนพรมผ้าไหมที่ระบัดไหว
ไปตามแรงลมอ่อนอ่อนทอยทอดไล่ระริกพลิกพลิ้ว
ภาพนกกาถลาบินออกล่าเหยื่อเหนือฟ้าสีส้มอมชมพู
ดูราวภาพวาดในฉากส.ค.ส สีน้ำสีธรรมชาติ


ที่ดูละลานหวานละลนใจ
ด้วยแสงสีอันอบอุ่นอ่อนโยน
ในโทนสีที่ไล่กันอย่างกลมกลืน
บนผืนฟ้าผืนใจผืนไพร
ยามทอดตาทอดใจรอรับวันขวัญอันละเมียดละมุน
อย่างกรุ่นซึ้งตรึงใจ
อย่างหาคำมาเปรียบประมาณใจมิได้เลยแล้ว


และหากโชคดี
จะได้เห็นภาพ...
พระสงฆ์ออกบิณฑบาตรเคียงเรียงเรียวรวงนา
ภาพจีวรเหลืองทองละออตา
อันงามเปล่งกระจายรัศมี
บรรเจิดจ้าบรรเจิดจิตนั้น
พลันจะให้นิมิตบางสิ่งบางอย่างพร่างบันดาล
*ศรัทธาธรรม..ศรัทธาทอง*
*ดั่งแสงสงฆ์*ส่องสว่าง
กระจ่างนะกลางจิตกลางใจ
ท่ามกลางเขียวไพลเขียวข้าวเขียวใส
ราวภาพธรรม...ภาพทองผ่องผุดใจ
อันแสนอิ่มงาม


และเคียงขนาบเส้นทางสายสวย
ที่เต็มไปด้วย  ต้นไม้  ต้นไม้ และต้นไม้
ที่กำลังชูช่ออวดดวงดอกแดงสะพรั่ง
ทั้งแคฝรั่งหางนกยูง
หูกวางชมพูพันธ์ทิพย์
ตะแบก 
แตกแอกแบกดวงดอกสีม่วงละมุนพราว
หวานเศร้าสร้อยระย้าย้อยห้อยพวงแทบไม่เห็นใบ
สักสีทองผ่องอำไพพากันชูช่อไสวสลอนร่อนภิรมย์


รับสายลมแรก
แสงแดดสีทองอันอ่อนอุ่นเอมอิ่มในยามเช้า
ยามที่
สายหมอกยังหยอกเย้า
หยาดน้ำค้างกลางใบบัวในบึงริมทาง
ที่งามสล้างราวเพชรกลิ้งวะวับมลายหายไป
กับแสงอาทิตย์อุทัยสีทองเฉกเช่นกัน


ดวง..แย้มยิ้มมิหยุด..รับงามในยามเช้าชื่น
หัวใจผ่องผุดพิสุทธิ์ราวละอองเกสรบัวคลี่
ยามได้รับหยาดหวานผสานผสม
จากภู่ผึ้งเคล้าคลึงชมแลซึ้งตรึงใจ
จากโนมเนื้อใจของบุรุษอันผู้เป็นที่รัก..


เขา..จะมีเรื่องเล่าตลอดทาง..
ร้องเพลงหวานคลอพ้อใจเพ้อไพร
สลับยกบทกวีหวานบทกวีธรรม..ธรรมชาติ
มาขับขานแนมใจเป็นระยะระยะ


และ
บางทีก็จะเว้าวอนให้สาวดวงร่ายมนตรา
ด้วยเสียงเศร้าเคล้าหยาดน้ำตาปริ่ม
เมื่อถึงบทกวี
ที่แสนงามยามรำลึกนึกถึงวัยเยาว์ของเราสอง
ที่ผ่านเลยลาลับดับไปกับปัจจุบันกาลอันรานร้อน
เหลือเพียงบทตอนแห่งงามความทรงจำ
ดั่งที่กวีซีไรท์คนปัจจุบัน
*คุณเรวัตร์ พันธุ์พิพัฒน์*
ได้เพียรรังสรรค์ฝากไว้ให้คนรุ่นหลังได้พึงจำจด
ถึงความงดงามในทุกยามแห่งชีวิตที่ยากจะย้อนคืน
ใน*แม่น้ำรำลึก*
ให้นึกคะนึงครวญหวนทวนกลับไปหา..


*****
คุณค่อยๆขับรถผ่าน
ถนนเพชรเกษม 
ถนนบรมราชชนนี 
ผ่านเข้านครชัยศรี 
จังหวัด
นครปฐม บ้านโป่ง ท่ามะกา ท่าม่วง 
ถึงตัวจังหวัดกาญจนบุรี จากนั้น
ขับผ่านถนนสายหลักในตัวเมือง
ไปจนถึงสี่แยกแก่งเสี้ยน เลี้ยว
ซ้ายไปทางที่จะไปอำเภอทองผาภูมิ 
เพื่อไปลงเรือที่ท่าแพผาผึ้ง หลังเขื่อนเขาแหลม 
ถึง..ที่งามที่เรากำลังจะไปพักคืนนี้
เรือนแพเรือนแพโอ้เรือนแพ...


เรือนแพเรือนแพโอ้เรือนแพ
url=http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=5
เรือนแพ ชรินทร์ นันทนาคร : : Key Ab เรือน แพ
สุขจริง อิงกระแสธารา
หริ่งระงม ลมพริ้วมา
กล่อมพฤกษา
ดังว่า ดนตรี
หลับอยู่ใน ความรัก
และความชื่น
ชั่ววัน และคืนเช่นนี้
กลิ่นดอกไม้ รัญจวน
ยังอบอวน ยวนยี
สุดที่จะ พรรณา
เรือน แพ
ล่องลอย คอยความรักนานมา
คอยน้ำค้าง กรุณา
หยาดมา จากธารา
แหล่งสวรรค์
วิมานน้อย ลอยริมฝั่ง
ถึงอ้างว้าง เหลือใจรำพัน
หิวหรืออิ่ม ก็ยิ้มพอกัน
ชีวิต กลางน้ำสุขสันต์
โอ้สวรรค์ ใน เรือน แพ...
*******


เรือนแพ
ที่แสนงามเรียบง่ายมุงด้วยหลังคาจาก
กลางทะเลสาบ เขาแหลมระหว่างอำเภอ
ทองผาภูมิและอำเภอสังขละบุรี 
อำเภอที่มีคน
เรียกขานว่าเป็นดินแดนแห่งภูผางาม 
ราวสวิสเซอร์แลนด์
ซึ่งถูกโอบรายล้อม
ด้วยทิวเขาสลอนสลอยสลับซับซ้อนคล้ายๆกัน
ส่วนอำเภอสังขละบุรีนั้นเป็นอำเภอชายแดน
ทางฝั่งพม่าที่มีความหลากหลาย 
ของวัฒนธรรมผสมทั้งไทยพม่าและรามัน(มอญ) และยัง
เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านมอญอพยพวังกะ 


และคนดี..
คุณ..สัญญากับดวงว่าเช้าวันนี้
หลังจากเข้าที่พักในเรือนแพสุขจริงอิงกระแสธาราแล้ว 
คุณจะพาดวงไปสำรวจบริเวณรายรอบ


เพราะพรุ่งนี้..คุณบอก..
เราสองต้องไปนอนเต๊นท์
ในอุทยานเขื่อนเขาแหลมแกล้มบรรยากาศอีกแบบหนึ่ง
ที่คุณอยากให้ดวงซึ้งใจ..ประทับใจ 


ด้วยคุณรู้ใจว่า
ดวงนี้หนาชอบใช้ชีวิตกลางแจ้ง
ชอบนอนดูดาวพราวฟ้ากว้าง
ท่ามกลางหอมคุโชนของกลิ่นฟืนกองไฟ..
คุณบอกว่ายังมีที่ให้เราไปเยือนมากมาย


ถ้ำเกริงกระเวีย
เป็นถ้ำที่อยู่ทางตอนเหนือของบ้านเกริงกระเวีย 
ที่มีหินงอกหินย้อย และธารน้ำไหลผ่าน 
ที่ภายในถ้ำสวยงามมาก 
มีความลึกประมาณ 300-400 เมตร 
อยู่ห่างจากอำเภอทองผาภูมิ 40 กิโลเมตร 


และไหนยังจะ
น้ำตกเกริงกระเวีย
มีความสูงประมาณ 5 เมตร 
อยู่ริมถนนสายทองผาภูมิ-สังขละบุรี 
อยู่ห่างจากอำเภอทองผาภูมิประมาณ 45 กิโลเมตร 
แล้วยังมี


น้ำตกไดช่องถ่อง
เป็นน้ำตกที่มีความสูงประมาณ 15 เมตร 
มีความสวยงาม 
อยู่ห่างจากอำเภอทองผาภูมิประมาณ 47 กิโลเมตร 


เจดีย์บูอ๋อง
มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงมอญ 
สร้างอยู่บนยอดเขาเล็กๆมีบึงใหญ่ล้อมรอบ 
ในบริเวณบึงจะมีบัวนานาชนิด 
เป็นที่เคารพของประชาชนโดยทั่วไป 
ทุกวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 4 ของทุกปี 
จะมีประชาชนไปนมัสการเป็นจำนวนมาก 


และ..
ยังมีสถานที่มากมาย
ที่คุณเคยได้ใช้ชีวิตผจญภัยรอนแรมมายาวนาน


คุณบอกว่า
จะพยายามพาดวงไปให้เยี่ยมเยือนให้ได้
เพราะคุณรู้ว่าดวงนั้น
จะได้นำมารจนาถ่ายทอด
เป็นความฝันอันบรรเจิดใจ
ฝากแฟนๆในดวงใจที่รออ่านงานธรรมชาติ
ผ่านเรื่องรักอันจักบรรเจิดจิตพอกัน
******


เรือนแพ..ที่คุณพาดวงมาพักนั้น
อยู่ในโอบล้อมแห่งเทือกเขาตะนาวศรี
เป็นทะเลสาบที่กว้างไกล 
เกิดจากการสร้างเขื่อนกั้นน้ำแม่น้ำแควน้อย


และรอบๆเขื่อน
ยังมีสภาพป่าดงดิบรกทึบอุดมสมบูรณ์
และเป็นที่อาศัยของสัตว์ป่าหลากชนิด
ส่วนใต้ผืนน้ำ
ก็เต็มไปด้วยทรัพยากรสัตว์น้ำอันทรงคุณค่า
เช่นปลากระสูบ ปลาแรด ปลาชะโด และปลายี่สก


ที่สำคัญคุณกระซิบ..
ผืนน้ำกว้างไกลแห่งนี้
มีความหมายแห่งชีวิต
และเรื่องราวเล่าขานตำนาน
ถึงเมืองสังขละบุรี..
ที่เลือนหายอยู่ใต้ผิวน้ำชั่วนิจนิรันดรราวเมืองบาดาล


และ
คุณกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
ให้ดวงยิ่งสนอกสนใจเป็นพิเศษ
คุณบอกว่าคราใดเมื่อน้ำลด
เมืองบาดาลทั้งเมืองก็จะปรากฎให้ทุกคนเห็น
หรือหากดวงอยากเห็นก่อนใคร
ก็ให้ดำดิ่งลงไป..
ก็จะเห็นลวดลายแสนวิจิตร
ของวิหารแห่งเมืองใต้บาดาล
ดวง..ถึงกับอ้าปากค้าง
แทบลืมหายใจด้วยความตื่นเต้น..
ไปตามคุณ

และนาทีนั้น..ดวง
อยากให้อ้อมกอดหอมหวาน
โอบอ้อมหอมละมุนกรุ่นด้วยรักนักรักหนา
แทนคำขอบคุณแทนความประทับใจ
แทนความซึ้งใจในค่าคำ
ที่ช่างเจรจาช่างจดช่างจำเสียเป็นยิ่งนักแล้ว!


คนดี..นาทีต่อมา
ดวงก็แทบยิ่งลืมหายใจ
ด้วยดวงใจแสนละไมละมุนไปกับ
ภาพเรือนแพตรงหน้า
ที่โอบสายน้ำแสนสงบงามเงียบ


ดวง..ได้แต่ยืนนิ่ง
ทิ้งใจดวงดายเดียวเหว่ว้า
ทิ้งทอดดวงตาแสนเศร้าเฝ้าดูสายชล
ระรินไหลเอื่อยๆ
ด้วยกมลอันแสนสงบสุขพอกัน
กระทั่งคุณโอบกระชับอ้อมกอดแนบแน่น
มาทางเบื้องหลัง
แล้ว..ค่อยค่อยละเมียด
จูบริมหูไรผมริมเรียวแก้มแถมกระซิบอีกครั้ง
*ผมรักคุณ..คนดี..ผมรักคุณ ชอบที่นี่ไหมครับ..*
ให้ใจดวงยิ่งอิ่มเอิบเอิบอาบราวฝันไป


ดวง..ค่อยๆไหวตัวเอน
ออกจากอ้อมกอดคุณช้าช้า
และ
ค่อยๆพาตัวไต่สะพานไม้ไผ่
ที่ทอดลงไปยังเรือนแพ เรือนพัก
ที่ดวงแสนดีใจเป็นยิ่งนัก
ที่มีนอกชานทอดยาวยื่นลงไป
ให้ได้สัมผัสชิดใกล้สายน้ำราวเป็นหนึ่งเดียว
โอ้เรือนแพ เรือนแพ
...............
และ


ในราตรี..
ที่จันทร์เพ็ญ
งามเด่นดวงระดะดาวพราวสุกใส
ใกล้แสนใกล้
จนดูราวจะเอื้อมมือคว้าไขว่มาประดับใจได้
หลังจากที่คุณพาดวงเข้าป่าไปสมบุกสมบัน
เราก็กลับมารับประทานอาหารค่ำ
ภายใต้กลิ่นอายของแสงเทียนนุ่มสลัวรำไรๆ
กับบทเพลงใต้แสงดาว


ผ่านไปคล้ายดั่งสายน้ำไหล
จากไกลแล้วไม่ลืมคำสัญญา
สัญญา.....ฝากดวงดาว ส่องแสงส่องนำชีวา
แผ่นดินกว้างกว่าพาเรา*งกันแสนไกล
ให่เป็นเหมือนดังตะวัน จากกันแล้วยังหมุนเวียนกลับมา
กลับมา.....หากชีวิต เผชิญกับโชคชะตา
ให้วันเวลาบ่มเธอ ขึ้นมา สู้มัน
** อาจมีเมฆมาบดบัง แต่เราก็ยังเฝ้ารอ
เฝ้ารอ......ค่ำคืนหนาวที่แสงแห่งดาวถักทอ
ขอเธออย่าท้อ ฝากความห่วงใย ส่งไปถึงกัน
*******


ที่แสนโรแมนติก
แกล้มเสียงกระซิบกระซาบ
จากสายน้ำที่ซอนเซาะอยู่เบื้องล่าง


ดวงแหงนเงยดูฟากฟ้ากว้าง
และคลี่ยิ้มหวานหวาน..อีกครา
สบตาผู้ชายตรงหน้า
ที่นะบัดนี้ดวงตาสีสนิมเหล็กแสนเศร้า
ราวมีพลังดึงดูด..ให้ร่างดวงค่อยๆ
ลุกขึ้นไปด้านหลัง
และอ้อมโอบไหล่ประคองซุกซบ
พร้อมกับจูบประทับดื่มด่ำริมซอกหูซอกคอ
และกับคำพ้อกระซิบที่รู้ซึ้งตรึงใจกันดีระหว่างสองเรา...
......
ยังมีต่อ..หรือหยุดแค่นี้ดีคะ..ขอความเห็น


รออ่านภาคสองพรุ่งนี้ฉบับเต็มค่ะ
(ด้วยสะเทือนใจในบางเรื่อง
มิอาจจะรจนาสดต่อได้นะนาทีนี้แล้วค่ะ
ขอพักใจก่อน ให้อ่านเล่นไปก่อนนะคะ)
				
comments powered by Disqus
  • ผู้หญิงไร้เงา

    17 กันยายน 2547 22:59 น. - comment id 333536

    อยากไปบ้างจังธรรมชาติ
    ที่ดารดาษความสดที่สดใส
    อยากเห็นแสงตะวันก่อนใครใคร
    ฉะนั้นขอได้ไหมขอไปด้วยคน
    
    *-*คิดถึงเสมอนะค่ะ  แต่เอปลุกตอนดึกขนาดนี้รับประกันผู้หญิงไร้เงาไม่ตื่นแน่เลย อิอิ*-*
  • นางฟ้าซาตาน

    17 กันยายน 2547 23:25 น. - comment id 333565

    
    
    ..จะรออ่านนะคะ..
    
    
    
  • ใบบอนแก้ว

    17 กันยายน 2547 23:28 น. - comment id 333568

    ....วิมานน้อยลอยล่องตามท้องน้ำ
    เปี่ยมสุขล้ำเกินกว่าหาที่ไหน
    ด้วยมีรักถักแน่นถึงแกนใน
    ล้นด้วยได้รักร้อยไม่ลอยแพ...
    
    ...............สวัสดีครับ................
  • อัลมิตรา

    17 กันยายน 2547 23:59 น. - comment id 333591

    เรือนแพ น่าอยู่ค่ะ บรรยากาศสงบ .. :)  จริง ๆ นะคะ ..
    
  • ชัยชนะ

    18 กันยายน 2547 00:01 น. - comment id 333592

    เนื้อเรื่องน่าติดตามอ่าน 
    เป็นเรื่องราวที่หวานแถมความสนุกมาด้วย
    เหมาะสำหรับอ่านวันหยุดพักผ่อน
    ผ่อนคลายความเคร่งเครียดได้เป็นอย่างดีครับ
  • tiki

    18 กันยายน 2547 10:27 น. - comment id 333724

    ทำไมหยุดไปอีกล่ะคะ  กำลังเห็นภาพวิวงามอร่ามกลิ่นไอสดชื่นน้ำยามค่ำธรรมชาติ อยู่เชียวค่ะ
  • พี่ดอกแก้ว

    18 กันยายน 2547 14:03 น. - comment id 333846

    นึกถึงคราวไปพักเรือนแพ...ที่ทองผาภูมิ
    ในอ้อมกอดของขุนเงา...และเงาฟ้าที่สะท้อนน้ำ
    งามสงบเหลือเกินค่ะน้องพุด
    
  • magic

    18 กันยายน 2547 16:07 น. - comment id 333923

    มีชีวิตผจญภัย
    ที่หน้าอิจฉาจริง ๆ 
    คงมีความสุขนะคะ
    ...........................
    เขียนได้อารมณ์
    และเห็นภาพเลยค่ะ
  • ซ่าพัดเร็ว

    18 กันยายน 2547 17:38 น. - comment id 333948

    น่าอิจฉาดวง   ที่มีด้วงมาเกาะไช พาไปเที่ยว
    เรือนแพ อยากไปบ้างจังเลยให้มันเห็นกับตา
    ว่าธรรมชาตืของจริง..จะสวยนื๊งเท่คำบรรยาย
    ไหมหนอ เป็นปริศนาคาใจที่อยากรู้จริงๆเลย
    
    
    
  • เมกกะ

    18 กันยายน 2547 18:04 น. - comment id 333954

    - กรรมมุนา ข้าน้อยค่อยรับรู้
    วัตตะตี คิดดูผู้รับผล
    โลโก เราเฝ้าตามเวียนจนเจียนคน
    มิมีหวังหลุดพ้นหรือเยี่ยงไร
    
    - จิตของเรา เรารู้ อยู่เต็มอก
    ว่าจะทุกข์ หรือสุขปก ปะปนไหน
    เราบังคับ รับมันได้ ได้ที่ใจ
    เพราะมันไซร้ ใช่ของเรา บังคับดู
    
    - แต่ทำไม ไยไม่เจ็บ กลับเป็นเจ็บ
    ทนเขี้ยวเล็บ เย็บในจิต คิดหนีลู่
    ทนไฟฟอนวอนวอด รอดแล้วรู้
    ทนอ้างว้าว้างวนเป็นทนไป
    
    - ทนจมทุกข์ ทุกข์ตาม ทุกยามจิต
    ทนโศกเศร้า เหมือนเรานิดจะผิดไหม
    ทนชอกช้ำเพราะกรรมเราของเก่าไป
    ทนจนใจทนไปไงใจให้ปลง ฯ
    
    +-*-+-*-+  +-*-+-*-+ปู้ชายอารมดี๊ดี+-*-+-*-+  +-*-+-*-+
    
  • พี่พุด

    18 กันยายน 2547 19:01 น. - comment id 333981

    ถึงทุกคนดี
    ที่พุดแสนรักเอยแสนรักในกมลค่ะ
    มาขอบคุณนะคะ
    และด้วยคำแถลงการณ์
    หวานแหววจากดวงใจก่อนละกันนะคะที่รัก
    
    เพราะว่างานพุด..
    ท่านผู้อ่านล้านห้ากับอีกห้าร้อยอิอิ
    มักอินเกินเหตุ
    อาจจะพยายามยัดเยียด
    คิดยกให้พุดเป็นนางเอก
    ในทุกเรื่องทุกงานเลย(ซึ่งขอขอบพระคุณ)
    
    ทั้งๆจริงๆแล้ว..
    พุดมิใช่ทั้งนางเอกนางสุขนางเศร้าค่ะ
    พุดก็แค่พยายามรจนางาน
    แบบแทรกทุกรสชาติชีวิตของมนุษย์ปุถุชน
    ที่ยังวนวนวนคนคนคน
    มีทั้งรักทั้งชังทั้งหวานและขมขื่น(มิใช่ข่มขืน)
    ทั้งถูกผิด ชอบชั่วดี
    
    พุดเพียรฝากธรรมะ 
    ธรรมชาติ ฝากรำงับรู้ดับทุกข์รัก
    
    และหากจะเลือกเดินในเส้นทางรัก
    และยังเพียรตัดใจ
    ไปบวชชีบวชพระยังไม่ได้
    
    ยังอยากว่ายในกองทุกข์กองไฟ
    หางามความหลุดพ้นไม่ได้
    ก็จงรักอย่างสงบ
    รักแบบขอพบคู่ในร่มธรรมร่มทอง
    คู่ธรรมคู่ทอง
    มิใช่คู่ท้องคู่ปาท่องโก๋
    คู่ไมไลโอวัลติน
    
    หรือหนังคู่กระโหลกไขว้
    ยามสิ้นไร้รักกันค่ะค่ะอิอิ
    
    ทีนี้คือยุ่งค่ะ
    ตรงที่พุดรจนาทีไร
    นางเอก
    มักละม้ายคล้ายคิดแบบพุด
    ในบางสิ่งค่ะ
    แบบที่พุดอยากจะเป็น
    ตามจินตนาการ..
    เช่นเป็นนางใจนางไพรนางในฝัน
    ให้พระเอกหลงรักหัวปักหัวปำอิอิ
    แบบคิดเข้าข้างตัวเองเป็นที่สุด..
    และ
    ********
    
    คุณซ่าพัดเร็วคะ.....
    
    พุดดีใจที่เห็นคุณกลับมาแซวเป็นสีสันค่ะ
    แต่ทำไมมาว่า
    พระเอกเค้าแบบนี้ล่ะอิ
    พระเอกเค้าออกดีสุภาพบุรุษ
    
    ไปว่าเค้าเป็นด้วงแมงได้ไงล่ะฮึ?
    เค้าไม่ยอมด้วยยยย...
    อิจฉาเค้าเหรอ..อิอิ
    ก็ตัวไม่มาพาเค้าไปเองนิ..
    อ้าว..
    ก็ยังไงก็ขอบคุณ
    ที่มาอินมาอ่านละกันนะคะ
    *******
    
    ******
    น้องผู้หญิงเงาใจพี่พุดคะ
    
    นางเอก..ไม่ตื่นแล้วจะได้ไปเหรอ
    จะได้เขียนเรื่องเหรอ
    หากขึ้นต้นว่า
    ยังงี้นะคะ..อิอิ
     เรือนแพ..ล่องไพร    
    พุดพัดชา  
    
    Urlhttp://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=5
    (เรือนแพ)
    ********
    
    ดวงได้รับโทรศัพท์ยามวิกาล..
    ตอนตีสาม...ให้สะดุ้งตื่นตกใจ
    แต่นางเอก
    หยิบผ้าห่มมาคลุมโโปง
    นอนก้นโด่งหลับต่อไปไม่ไยดี..
    
    จบเลยแล้ว..ค่ะแค่นี้ อิอิ
    *******
     
    
    
    นานๆจะมีคนมารับ..นะ
    
    
  • พุด

    18 กันยายน 2547 19:08 น. - comment id 333986

    อิมน้องน้อยขอตอบถ้อยคู่
    มากับชัยชนะนะคะ
    ดีใจค่ะทุกครั้งที่อิม
    มีเวลาอ่านงานยานย้วยสวยน้อยของพี่พุด
    และ
    ชัยชนะ
    เกือบจะพ้อว่าหลังๆคอมเมนท์ชัดหดสั้นลงๆค่ะ
    เหลือจะหาย..ให้พุดพัดชาใจหาย
    ลาจอหมดกำลังใจตามแล้วค่ะ
    อะนะ..
    ก็ยังดีที่มานะคะ
    จนกว่าในที่สุดจะมีแค่มายิ้มแล้วไปค่ะอิอิ
    รักมากทั้งคู่เลย..
    
  • พี่พุด

    18 กันยายน 2547 19:14 น. - comment id 333987

    น้องนางฟ้ามิใช่ซาตาน
    หากเป็นหวานใจพี่พุดต่างหากเล่าคะ
    คือว่า
    เรื่องนี้ยังยืดย้วยไปได้อีกค่ะ
    หากมีผู้อ่าน(หรือว่าเอ๊ะ จะเป็
    นผู้เขียนเอง)
    อยากทราบ
    ว่าพระเอก
    จะนอนห้องเดียวกับนางเอกมั้ย
    น่าสงสัยที่ซู๊ดเรื่องนี้
    หรือยังอุตลุดรักษา
    ความเป็นกุลสตรีไทยไว้อย่างเหนียวแน่น
    และฉากไพรยังไม่มีเลยค่ะ
    ฉากนอนนับดาวผิงไฟ
    ฉาก..รักงามๆ
    ก็เบื่อซะอีกแล้ว
    โปรดสังเกตนะคะ
    พุดรจนาเรื่องรักมักไม่จบเลยค่ะ
    หากจะจบก็นางเอกตกน้ำตายหรือรถชนอะไรทำทำนองนี้ ไม่ค่อยมีสุขสมหวังค่ะ
    แปลกดีนะคะ
    ก็ซึ้งค่ะ
  • พุด

    18 กันยายน 2547 19:23 น. - comment id 333990

    พี่ดอกแก้วแวววะวับจับจิตกระจ่าง
    
    ทิ๊กกี๊..เที่ยวนี้มาไม่ยิ้มแล้ว
    อยากอ่านต่อ
    พุดก็รจนาต่อจนอิ่มเลยค่ะ
    คงพอใจแล้วนะคะ
    
    น้องเมกกะ
    ********
    สามนักธรรมค่ะ
    ที่พุด..ซึ้งใจมาก
    ที่ยังสละเวลามาอ่านงานเรื่องรัก
    คือ
    พุดเพียรคั่นงานธรรมะธรรมชาติ
    งานพุดเองให้แหวกแนวไปบ้างนะคะ
    พยายาสอดแทรก
    ในงานรักเอาใจแควนๆค่ะ
    น้องๆจะได้เลิกเบื่อ
    หาว่าพี่พุด
    มาเพ้อละเมอแต่ธรรมชาติกับธรรมะ
    เลยต้องกระโดดออกมาจากวัดบ้าง
    ค่อยวิ่งกลับเข้าไป
    ก็เข้าๆออกยังงี้ไงค่ะ
    ตลกตัวเองดีค่ะ
  • พี่พุด

    18 กันยายน 2547 19:27 น. - comment id 333992

    ใบบอนแก้ว
    *****
    พี่พุด..ดีใจที่กลับมานะคะ
    และมาเป็นกำลังให้พี่พุดตลอดเลย
    รักนะ
    ******
    น้องเมจิก
    เมจิกสำหรับพี่พุดเลยค่ะคนดี
    ซึ้งใจมากในคำที่ฝาก
    ให้พี่พุดมา
    แต่ทว่าคำดีคำพลังใจนั้น
    ได้คืนกลับไปสู่นวลใจใสงามน้องแล้วละค่ะ
    รักนะ
    
  • พุด

    18 กันยายน 2547 19:57 น. - comment id 333997

    ชอบเพลงคุณศุ บุญเลี้ยง คนสมุย..มั้ยคะ
    
    เที่ยวไปตามตะวัน บุกบั่นไปตามลม
    สนุกสุขสม หัวใจหงายคว่ำ
    ชีพที่ยาวนาน หรือสั้นแค่เพียงคำ
    เอา*แช่น้ำแล้วเดินต่อไป
    เถอะเสาะหา นภาคลุมครอบ
    สายลมคงรอบไว้ สายใจไหลลู่สู่สวรรค์
    เที่ยงก็กินทัน บ่นมันไปใย
    ค่ำที่ไหนก็นอนที่นั่น
    ตรู่ก็ลืมตา ขึ้นมาดูตะวัน
    ว่าโลกสร้างสรรค์สวยงามให้เรา
    บอกให้รู้ ให้ดูความจริง ทิ้งคืนเพื่อสู่เช้า
    ให้เราทิ้งเศร้าสู่สดใส
    โลกไม่มายา จะบ้าก็ในเมือง 
    เรียกรุ่งเรืองก็คงจะไม่
    โลกในความจริง คือสิ่งอยู่ในใจ
    นั่นแหละไซร้วัดความรุ่งเรือง
    อีกเมฆา นภาตระหง่าน สายธารที่ผ่านเมือง
    สายลมนองเนือง สู่หุบเขา
    เที่ยวตามใจปอง ท่องตามทางมี
    สุขอย่างนี้แล้วมีใดเท่า
    มั่นในความจริง แต่หยิ่งในตัวเรา
    มีเพื่อนเป็นภูเขาแล้วกลัวอะไร
    อีกทะเล ทั้งเฮทั้งกล่อม ทั้งยอมเป็นเพื่อนใจ
    ต้นไม้ ทราย คลอง พี่น้องกัน
    *********
    ไกลโพ้นดาว เอื้อมถึงจันทร์ นั่นคือความฝันวัยเยาว์
    เป็นนักบิน เป็นเจ้าชาย วาดเติมฝันไป ช่างงดงามสนใจ
    เป็นดั่งน้ำค้าง ละอองวัยแรกแย้ม เติมแต้มความฝันให้สดใส
    ด้วยไอน้ำค้าง ข้างในจิตใจ แสนสดใส เป็นฝันที่งดงาม
    ตะวันเริ่มแรง เปลวแดดก็ลุกลาม ไล่หยดน้ำค้างจางไป
    เมื่อวันผันแปร ทุกสิ่งก็ผันไป เด็กเป็นผู้ใหญ่ โลกแปรเปลี่ยนไป 
    ไม่มีน้ำค้างละอองความฝัน สูญพลัน ความฝันที่สดใส
    อยากเก็บน้ำค้างไว้ตลอดไป แสนเสียดายความฝันวัยเยาว์
    ไกลโพ้นดาว เอื้อมถึงจันทร์ นั่นคือความฝันเยาว์วัย
    เมื่อวันผันแปรทุกสิ่งก็ผันไป เด็กเป็นผู้ใหญ่ โลกแปรเปลี่ยนไป
    ไม่มีน้ำค้างละอองความฝัน สูญพลันความฝันที่สดใส
    อยากเก็บน้ำค้างไว้ตลอดไป แสนเสียดายความฝันในวัยเยาว์
    
    
    
    
    
    
    
    
    
  • กอกก

    19 กันยายน 2547 02:26 น. - comment id 334066

    ธรรมชาติที่แสนจะธรรมชาติ พร้อมกับชีวิตที่รักธรรมชาติ ช่างงดงามเหลือเกิน..
    คำบรรยายที่เปี่ยมด้วยความสุขเช่นนี้ อยากขออ่านแล้วอ่านอีก หลายๆ รอบ
    ขอความสุขมาสู่คุณพุด..ตลอดไปนะคะ
    สวัสดีค่ะ
    
  • ฟา

    19 กันยายน 2547 18:19 น. - comment id 334382

    อ่านแล้วรู้สึกแสบ ๆ  คัน ๆ  ค่ะพี่พุด มดเป็นขบวนมันมาจากงานพี่รุมกัดคนอ่านซะตัวแดงแล้ว ^__^
  • รัถยา

    20 กันยายน 2547 02:58 น. - comment id 334530

    ....ได้ยินเสียงสายน้ำกระซิบ...เอ.... หรือเพราะว่าอิจฉานะเนี่ย  อิอิ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน