ดวงตาสวรรค์ขวัญพลี..ฝันพลี!

พุด


url http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=393
(ดาวจรัสแสง)
********
อย่า อยู่ อย่าง อยาก..หยาบ..
*********

ในราตรี
ที่ดาวประจำเมืองลอยหน้ามาทายทักแย้มยิ้ม
ริมหน้าต่างม่านใบไม้ลายการะเวกเลื้อยพัน
และ

ในยามที่
วสันต์ลา
พาหยาดละอองน้ำตานางฟ้าลาร่วง
พาดวงดอกฝนไปหว่านโปรยปรายพรายพลิ้ว
ในทิวทุ่งทิพย์รวงทอง


คืนนี้
ใจดวงละมุนดวงน้อยคอยพินิจนิ่ง
นึกระลึกรู้ดูดาวประจำเมือง
พลันได้ยินเสียงเพลงหวานๆๆๆ
แผ่วๆวะแว่วมากับฟากฟ้ากว้าง
กับทางช้างเผือก
ที่เลือกจะจินตนาการ
ผ่านเรียวรุ้งทุ่งดอกไม้ทะเลเมฆ
รับวิเวกเหว่ว้าดายเดียวลำพัง
กับฝันฝันฝันหวานหวานหวาน
กับงามฟ้ากำมะหยี่คืนที่ไร้สายแสงจันทร์หยาด..พราย..


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=393
ดาวจรัสแสง 
ดาวเอ๋ย ดาวน้อยเจ้าลอยสูงเด่น
ใครใครเขาก็แลเห็น
ว่าเจ้าสูงเด่นเหนือดาวดึงส์
เจ้าเป็นดาว ที่พี่อาจเอื้อมไม่ถึง
อยู่เหนือดาวดึงส์ พี่จึงได้แต่แลมอง
ดาวเอ๋ย ก่อนนั้นเจ้ายังไร้ค่า
ใครใครก็ไม่นำพา
ไม่เลิศเลอกว่าแสงดาวเรืองรอง
เจ้าสกาว จึงมีคนเฝ้าคอยปอง
เด่นเหมือนดาวทอง สักวันจะหมองวิญญา
ก่อนนั้น เจ้าคิดถึงพี่หรือเปล่า
ก่อนที่จะมาเป็นดาว ใครเขาส่งเจ้าเข้ามา
เฝ้าอุ้มชู จนเจ้าได้เป็นดารา
มีแสง มีค่า พอได้เวลาก็เคลื่อน คล้อย
ดาวเอ๋ย อย่าหาว่าพี่ทิ้งเจ้า
วันใดเจ้าปวดรวดร้าว
ตัวพี่จะเฝ้าแหงนคอรอคอย
เฝ้ารอซับ น้ำตาดาวที่หลั่งย้อย
หากแม้ดาวลอย ใช่ลอยจากฟ้าลับไป
ดาวเอ๋ย อย่าหาว่าพี่ทิ้งเจ้า
วันใดเจ้าปวดรวดร้าว
ตัวพี่จะเฝ้าแหงนคอรอคอย
เฝ้ารอซับ น้ำตาดาวที่หลั่งย้อย
หากแม้ดาวลอย ใช่ลอยจากฟ้าลับไป...
**************


มนุษย์หนอหนา
ทำไมเกิดมาช่างมากมายมากมี
ช่างแสนที่จะช่างคิดช่างฝัน
ปันหวามหวาน
ลบความเร่าร้อนในโลกร้ายในเนื้อใจร้าย


และ
หากยังมี*อยาก*แล้วไซร้
ขอเพียงให้เพียรฝึกใช้สติมีปัญญา
พาพบจิตดวงงามกระจ่างใส
ใจดวงดีดวงให้
มีเนื้อใจแสนสวยสดงดงามละเอียดละเมียดละมุน
ให้หอมกรุ่นด้วยความรักความเข้าใจ
มากน้ำใจเมตตา
ไม่อิจฉาไม่ว่าร้าย
ไม่ก้าวก่ายไปพิพากษาหาข้อผิดพลาดใคร


ไม่ทำตัวราวกระจกหกด้าน
ให้แค่ใช้คำดี
คำที่ราวหยาดน้ำค้างค่อยๆพร่าง
ค่อยๆพรมค่อยๆห่มหอมให้ห้วงใจ
ให้บทเรียนใจ
ค่อยๆใช้น้ำใส
ดับน้ำดำน้ำคำน้ำคนน้ำโคลนที่โยนที่สาดมา


ตราบใดที่ดวงชีวาดวงชีวี
ยังต้องมามีส่วนร่วมในสังคม
ร่วมชมร่วมชอบมิชอบ
ร่วมประกอบกรรมประกอบกายประกอบกิจ


ให้ดวงจิตดวงใจฝึกความอดทน
ฝึกฝนการใช้ขันติมีอุเบกขา
รู้หนักแน่นใจ รู้ไหวหวั่นกับโลกย์ก็เพียงครู่คราว
แล้วใช้ความขาวใจ  ดับดำใจดับใจดำ


ใช้ความ*งามให้*
อันราวปิดทองหลังพระมาปลุกปลอบใจ
แม้นไม่มีผู้ใดรู้เห็น หากฟ้าดินจะเป็นพยาน
และหากแม้นท่านไร้สิ้น*ดวงตาสวรรค์*มิหันมามอง
ก็อย่าพักต้องเสียใจ


จิตใส จิตงาม จิตให้ จิตละมุนละเมียดนั้นจะยังเป็น
*ดั่งอัญมณีใจ*อยู่ภายในนะบ้านภายในของเราเอง
เป็นดั่งขุมทรัพย์นับเอนกอนันตกาล
ที่ใครจะพ้องพานมาทำร้ายมาขโมยไปไม่ได้


คนดี..ที่รัก
หลับตานิทรา แล้วอย่าฝันถึงฉันถึงใคร
ฝึกจิตใสเพียรวางใจให้พบว่างร้างไร้
ให้เนื้อใจนั้นได้พลันสุกสกาวเบาสบายราวปุยนุ่น
ให้กรุ่นหอมด้วยดวงดอกความดี 
ที่ดวงดอกพุดดอกนี้
เพียรคิดดีคิดได้คิดให้คิดทำ  
แม้นจะต้องใช้เวลา
ตราบชั่วกาล 
นานชั่วกัป์ปกัลป์รับรอยกรรมก็จะมิหวั่นเลย..นะดวงใจ
*********************************


ดวงตาสวรรค์ .....พุดพัดชา 
ดวงตาสวรรค์
พี่คนนี้ นั้นมีแต่ให้ 
เจ้าใช่ไหมไม่เคยให้พี่ 
อยากได้อะไร หาให้ทันที 
ให้เจ้ามากอย่างนี้ ไม่ดีอีกหรือแม่คุณ 
พี่คนนี้ นั้นมีแต่ให้ 
เจ้าไฉนเห็นพี่เป็นหุ่น 
เจ้าได้กำไร รู้ไหมใครขาดทุน 
ดอกเบี้ยความรักสิ้นสูญ ต้นทุนรักก็ไม่เห็น 
ทำเหมือนพี่ไม่มีหัวใจ 
ใครนะใครที่ช้ำไม่เป็น 
ให้เจ้าหมดแล้วพี่ไม่แคล้วต้องลำเค็ญ 
หรือเป็นกรรมของเราคอยเฝ้าราวี 
*พี่วันนี้พี่ก็ยังให้ 
เจ้าวันไหนเจ้าจะให้พี่ 
ให้ความจริงใจ ให้ความรักพี่บ้างซี 
ให้เจ้ามากอย่างนี้ ให้พี่ไม่ได้เชียวหรือ....... 
************


ฟังเพลงนี้ทีไร 
หัวใจของฉัน ก็อ่อนละมุนไปตามคำรำพันรำพึง 
คิดดูสิ..จะไม่ให้ คนที่วิ่งตามหาความรักอย่างฉัน 
ซาบซึ้งใจได้อย่างไรกันเล่า... 
ลูกผู้ชายคนหนึ่ง...
ซึ่งแสนเข้มแข็ง แสนเสียสละ มาดแมน 
มาเว้าวอน บอกรักล้นใจ กับผู้หญิงคนหนึ่ง 
ที่ตัวเขาคงแสนรัก แสนภักดี.... 


หลายคน...ค่อนแคะ ว่าดวง เขียนแต่เรื่องรักๆ 
แต่คิดดู ให้ดีนะ โลกเรานี้ ขาดรักได้เสียที่ไหนกัน... 
ที่มนุษย์ เราขยันทำงานกันแทบเป็นแทบตาย.


.ก็เพื่ออะไร..เพื่อใครกันล่ะ... 
มิใช่..เพื่อคำว่ารัก ดอกหรือ..... 
รัก...ที่จะให้ ครอบครัวนี้มีข้าวกิน มีที่หลับนอน.. 
เพื่อความอบอุ่นเป็นสุข 
กับ ผู้อันเป็นที่รักยิ่งของเรา และของใครของคนนั้น.... 
ซึ่งต่างมีหน้าที่ ที่เราจะต้องประคับประคองดูแล 
จนยามเฒ่าชะแร แก่ชรา... 
ไปด้วยกันจนตะบันน้ำกินทั้งคู่ 
หรือจนยามมรณานุสติ ที่ตัวใครก็คงตัวมันแล้ว นั่นแหละนะ 


หรือ..เพื่อพลเมืองน้อยๆ 
ที่เราร่วมผลิตกันออกมาตาดำๆ 
บ้างก็ฟ้า บ้างก็เขียว แล้วแต่สายพันธุ์ 
ของฉันของเธอ...ที่ก่อกำเนิดให้เกิดมา....
ให้พากันมาสร้างรังน้อยๆ แต่พอตัว สืบทอดไป 
ในภายภาคหน้า ตามที่เราวางแผน.....เพื่อ 
ให้มาเติมเต็ม คำว่า ความรักแบบครอบครัว 
ให้สมบูรณ์แบบ ให้ได้เรียนรู้รัก รู้ให้ รู้เสียสละ 
และรักอีกมากมาย หลายๆรูปแบบ 
ที่พึงจะมีพึงจะเป็น ในฐานะที่เป็นมนุษย์..... 


เรื่องที่ฉัน..จะเขียน วันนี้ 
ชื่อ.....ดวงตาสวรรค์.....
ก็คงเกี่ยวพัน กับเรื่องรัก อีกนั่นแหละ 
แต่บอกได้เลยว่า...
เป็นเรื่องรัก ที่ยิ่งใหญ่ กว่ารักใดใด ลองอ่านดูนะ.... 


ฉันชอบชื่อนี้....และคิดว่าน่าจะมี ...ดวงตาสวรรค์....
จริงๆ มิใช่เฉพาะคำในหนังจีนที่ชอบเอ่ย ออกมา.... 
และฉันเชื่อว่า มี...ดวงตาสวรรค์.
.ที่เฝ้าจ้องมองดู ผู้คน อยู่บนผืนโลก 
ไม่ใช่! บนวิมานฟากฟ้าที่ไหน...ที่ไกลแสน...... 


ดวงตาสวรรค์...
คู่นี้ จะร้องไห้ ในหลายๆโอกาส เพื่อเรา...ทั้งยามดีใจ เสียใจ 
อาจจะ ตั้งแต่ วันที่ ได้แต่งงาน 
กับเจ้าบ่าว คนดี ที่แสนรัก..ด้วยความซาบซึ้ง ตรึงใจ 
ในโชคชะตา ที่เกิดมา ได้พบคู่ 
ผู้ที่ตัวเอง ก็ยังไม่แน่ใจว่า... เขาหรือเรา ใครกันแน่ 
จะเป็นผู้โชคร้ายหรือโชคดี..... 


ดวงตาสวรรค์.......
จะสดใส สวยพราว 
ราวมีแสงเพชรหล่อเลี้ยง เมื่อสมหวังในรัก... 
และได้เป็น.... แม่คน....
ได้อุ้มคนอีกคน ไว้ในอุทร...นานเก้าเดือน แนบชิดสนิทเนา... 


ดวงตาสวรรค์........
จะร้องไห้ อีกแล้ว 
เมื่อได้กอด เจ้าตัวน้อยๆเล็กกระจ้อยร่อย ไว้ในอ้อมแขน 


ดวงตาสวรรค์..
ที่จ้องมองเจ้า ราวเพชรล้ำค่า บริสุทธิ์ใส 
หาใดมาเปรียบปาน ไม่มีเลยในปฐพี 


ดวงตาสวรรค์...
คู่นี้ จะไม่ยอมหลับนอน ผ่อนพัก 
ด้วยห่วงใย ที่จะคอยดูแล ทะนุถนอม 
มิให้..เหลือบ ยุง ริ้นไร ไต่ตอม ทำร้ายเจ้า...
จะคอยเฝ้าเห่กล่อม...ให้น้ำนม...เจ้าได้ดื่มกิน.. 
จนอิ่มอุ่น...หลับไป...แม้คนให้...
จะอกแห้งกลวง แต่ไม่เคยห่วงตัวเองยิ่งกว่า..... 


ดวงตาสวรรค์....
จะเฝ้าตาม ปกปักรักษา จนเจ้าเติบใหญ่.....และ 


ดวงตาสวรรค์..
จะมีน้ำตา อีกคราครั้ง 
เมื่อเห็นภาพ เจ้าห่วงหา ร้องห่มร้องไห้ ไม่อยากพราก 
จากอ้อมอกนี้ สู่....โลกใบเล็ก ที่โรงเรียน
 เพื่อให้เจ้าได้พากเพียร เรียนรู้ ที่จะอยู่ในโลกกว้าง 
อย่างผู้ที่มีสติปัญญา ถึงพร้อม...... 


ดวงตาสวรรค์.....
จะจ้องมอง คอยดูแล ไปเสียทุกสิ่ง ทุกอย่าง 
เพื่อให้เจ้า ได้พบกับความสบาย 
ทั้งกาย...ใจ ไม่ยอมให้สิ่งใดมากรายกล้ำ...
จะคอยขจัดปัดเป่า ให้มลายหายไป..ราวมีมนต์... 
เท่าที่จะทำได้ แม้ในฐานะที่ไม่เท่าเทียมกัน.....แต่.... 
ทุกดวงตาสวรรค์......ก็มีใจ หนึ่งดวง 
ที่เท่าเทียมกัน ด้วยรัก ในฐานะ...แม่...นี้ที่รักลูกยิ่งกว่าชีวิต.... 


ดวงตาสวรรค์......
ไม่มีวันหลีกลี้ หนีหาย 
ไม่ว่าในยามพายุร้ายแห่งชีวิตพัดมาผ่าน... 
แม้ในยามที่ เจ้ามี ดวงตาคู่อื่น....
มาทำหน้าที่ปกป้องแทน 
และหวงแหนเจ้า...ไว้ในฐานะ เมีย..
ผู้จะทำหน้าที่ สืบทอด ทายาท ...แห่ง ดวงตาสวรรค์.... 
สืบไป..ในฐานะ....มนุษย์..
ที่ยังมีกรรม ต้องจำว่ายวนไป...สู่บ่วงแห่งดวงใจรักนั้น... 
..

แม้ ดวงตาสวรรค์......
บางคู่จะมืดมิด....
แต่ด้วยจิตวิญญาณ ที่มิอาจจะทอดทิ้งเจ้า ให้ดายเดียว... 


ดวงตาสวรรค์....
จะมองเจ้าได้ ด้วย...ดวงตาภายใน...คู่พิเศษ..
ที่สวรรค์สรรสร้างมา ด้วยดวงจิต 
ดวงใจ ที่ใสเย็นฉ่ำ ..
ที่มิมีวัน..จะมืดบอด...สำหรับเจ้าตัวน้อยๆ จนนานนิรันดร์...... 


ดวงตาสวรรค์....
ยังทำหน้าที่ ช่วยเจ้าดูแล ทายาท ยามเจ้านั้น 
ต้องออกไป ใช้ดวงตา ผ่าฟัน 
สู้บากบั่น ทำมาหารับประทาน.... 


ดวงตาสวรรค์......
คู่นี้ ยังทำหน้าที่ หมุนวน 
จนกว่าจะหม่นมัว แทบมองไม่เห็น... 
และ


ตราบจนกว่า.....
วันสุดท้ายของดวงตะวันแห่งชีวา 
ใกล้จะลาลับ ดับไปจากโลกนี้...... 
และ


เมื่อถึงวันนั้น..... 
ดวงตาสวรรค์....
จะหลับสนิท ไปตราบนิจนิรันดร์
 เมื่อถึงวัน..สุดท้ายบนเชิงตะกอน..... 
เจ้าจะรู้ซึ้ง..ถึงคุณค่า ของดวงตาสวรรค์...
เมื่อถึงวันที่เจ้าได้ใช้ ดวงตาของเจ้า 
ทำหน้าที่ ดวงตาสวรรค์..... แทนอย่างครบถ้วน..... 


และ..
วันนั้น...
วันที่เจ้าจะต้อง คอยเอามือน้อยๆของเจ้า....
ทำหน้าที่ปิดเปลือกตาสวรรค์... 
ที่เคยทำหน้าที่ ให้รัก ปรารถนาดี แก่เจ้ามา 
อย่างมากล้น อย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย 


ดวงตาสวรรค์...ของเจ้านั้น
จะทำหน้าที่....ร้องไห้ ราวฟ้าร่ำ คร่ำครวญ... 
และรู้ซึ้งว่า...
โลกนี้หนา มีดวงตาสวรรค์ อยู่ในใจ ของเจ้าเอง.......ใช่อื่นไกล..... !
*******************
				
comments powered by Disqus
  • ซ่าพัดเร็ว

    16 กันยายน 2547 09:26 น. - comment id 332375

    เห็นดวงจันทร์ดวงน้อยลอยบนฟ้า
    หวาดผวาสะทกใจให้ข่มขืน
    ได้แต่มองสะท้านน้ำตากลืน
    ได้แต่ยืนอยู่คนเดียวเปลี่ยวกายา
    
    
  • แสนย์

    16 กันยายน 2547 09:42 น. - comment id 332384

    แวะมาอ่านงานงามที่มีความหมายละมุนครับคุณพุด   ผมแวะมาได้แป๊บเดี๋ยว เดี๋ยวต้องไปแล้วครับ  กระทู้ย้อนหลังผมขอแปะคุณพุดไว้ก่อนนะครับ
  • แก้วประเสริฐ

    16 กันยายน 2547 11:03 น. - comment id 332417

    อ่านงานของขวัญทะเลเจ้าไม่เคยสร้างความผิดหวังเลย  น่าจะไปแต่งประกวดรางวัลซีไรส์นะ
    
                              แก้วประเสริฐ.
  • ดาหลา & ปะการัง

    16 กันยายน 2547 12:32 น. - comment id 332462

    รอ คอย ดวงตา สวีรค์  ฉาย แวว รัก ทะนุถนอม 
    
    
    ให้ คนหัวใจเดียวกัน
    รัก กันค่ะ
  • เมกกะ

    16 กันยายน 2547 18:03 น. - comment id 332659

    ดีใจนะหากจะมีเธอเคียงข้าง 
    ไม่อ้างว้างเงียบเหงาเช่นคราวก่อน 
    แม้ไม่ใช่พี่น้องร่วมอุทร 
    ไม่ถอดถอนห่างจิตคิดซื่อตรง 
    ปล่อยไปตามกาลเวลามาพิสูจน์ 
    ไม่ขอพูดอยู่ในจิตล้วนคิดถึง 
    ระยะทางห่างไกลไม่คำนึง 
    ส่งความถึงว่ายังรักและอาทร 
    ขอเก็บไว้.....ในใจไม่บอกกล่าว 
    ขอเก็บไว้.....ซึ่งเรื่องราวให้ห่วงหา 
    ขอเก็บไว้.....ความอาทรที่มีมา 
    ขอเก็บไว้.....ทุกคราไว้เตือนใจ
    
    +-*-+-*-+  +-*-+-*-+ปู้ชายอารมดี๊ดี+-*-+-*-+  +-*-+-*-+
    
  • tiki

    16 กันยายน 2547 18:58 น. - comment id 332711

    เป้นความงามในหัวใจค่ะ
  • พี่ดอกแก้ว

    16 กันยายน 2547 19:59 น. - comment id 332772

    กรรโชกโกรกพระพาย 
    พาใจหายคนึงหา 
    ดาวเดือนละเลือนตา 
    ทะมึนฟ้าเมฆาคลุม 
    
    รุมใจกลุ้มรุมเร้า 
    ค่ำคืนเคล้าราวไฟสุม 
    ระรัวเสียงร้ายรุม 
    จ้องทำร้ายในราตรี 
    
    สงบสยบมาร 
    ที่ห้าวหาญร่านราวี 
    แสงธรรมพุทธบดี 
    ส่องชำระชนะมาร 
    
    
  • ชัยชนะ

    16 กันยายน 2547 21:07 น. - comment id 332802

    สวรรค์มีตาหรือ
    แล้วไยฤาส่องไม่ถึง
    ชายโสดโอดครวญซึ้ง
    ขอสวรรค์นั้นเห็นใจ
    
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    17 กันยายน 2547 11:17 น. - comment id 333092

    อ่านอิ่มเลย

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน