http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=287 (นัดพบ) url=http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=452 (ม่านบังตา) ถึง เธอจะพราก จากฉัน ไกลกันสุดความหวัง ฉันก็ยังรักเธอ ฉัน ยังซื่อตรงเสมอ แม้เธอเป็นของใคร ฉันไม่ แปร ผัน ถึง โลกจะแหลกสลาย จันทร์จะมืดแลหาย ฉันไม่คลาย สัมพันธ์ ขอ เธออย่าลืมเลือนฉัน แล้วเราคงพบกัน เหมือนจันทร์ ที่คู่ ดารา แต่ฉัน ยังนึกหวั่น เสมอ รักเธอ เลือนเหมือนม่าน บังตา บางวัน ฉันเฝ้าคอยหา เปลี่ยวอุรา พาให้ อาวรณ์ ถึง เธอจะอยู่แห่งไหน เธอคงไม่ลืมฉัน เราจากกัน ร้าวรอน ฉัน รอด้วยใจ เร่าร้อน ทุกคืนวัน ฉันนอน ขอวอน เธอกลับคืนมา เธอคงไม่ลืมฉัน ดนตรี แต่ฉัน ยังนึกหวั่น เสมอ รักเธอ เลือนเหมือนม่าน บังตา บางวัน ฉันเฝ้าคอยหา เปลี่ยวอุรา พาให้อาวรณ์ ถึง เธอจะอยู่แห่งไหน เธอคงไม่ลืมฉัน เราจากกัน ร้าวรอน ฉัน รอด้วยใจ เร่าร้อน ทุกคืนวัน ฉันนอน ขอวอน เธอกลับคืนมา... ******** บัว..ดอกงามกำลังฟังบทเพลงนี้ ที่กำลังบรรเลงโหยไห้ ราวตัดพ้อรอรักใครสักคน และ ในกมลละไม ช่างอยากจะร้องดังดัง ให้ใครสักคนได้ยินได้ฟัง เพราะ บางครั้งบางหนคนเรา มักจะมีความรู้สึกลึกซึ้งดื่มด่ำดำดิ่งไปกับบทเพลง ที่รำพึงรำพันฝันเพ้อให้ประหวัดใจ ไปถึงความรู้สึกงดงามแสนดีที่แสนสุขใจในกาลเก่าก่อน ลองสิ..ดวงใจ หากเรามีอารมณ์ละไมละมุนสุนทรีย์ จงฟังดนตรีให้ชื่นให้ฉ่ำใจนะดวงใจ ไม่ว่าบทเพลงใดจะ.. เศร้า สุข เริงร่า หรือบทเพลงเหว่ว้าบรรเลงกล่อมให้ดวงใจสงบงามก็ตามที บัว...ดอกนี้ ดีใจนัก ที่เกิดมามีดวงใจรักในบทกวีและเสียงเพลง และสามารถบรรเลงรจนา ร้อยออกมาเป็นภาษาฝันภาษาใจภาษาจริงได้ แม้นบางครั้งบางคนจะไม่เข้าใจ หัวใจสาวช่างฝันสวรรค์หวานแบบนี้เอาเสียเลย ผู้หญิงที่ รักธรรมชาติ สายธาร หวานดอกไม้ รักสายฝน รักแสงตะเกียง รักเสียงจากธรรมชาติไพร รักกระท่อมใบไม้ รักดวงใจนิ่มนวลละเมียดละมุน รักแสงเทียนอบอุ่นในยามค่ำ รักตะวันตกดิน รักทุกสิ่งที่เงียบงามร้างไร้ให้ชีวีงามเงียบ รักเส้นทางสายธรรมชาติสู่ไพรลึก รักดำดิ่งล้ำลึกจิตวิญญาณไพร ภาวนาทุกชาติไป ได้เกิดมากับงามดวงใจใครจะรู้นี้ ที่ติดดิน และขอรักศรัทธาเทิดทูนมิรู้สิ้น ในชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ ไทย ตราบสิ้นลม! เป็นรักอย่างงามแผกพิเศษพิสุทธิ์ ชนิดที่บอกมาเป็นภาษาคนภาษาเขียนสักเท่าไร ก็ยังไม่สามารถแจงใจได้ถ้วนถี่เอาเสียเลย มีบางวันที่ สาวบัวบังใบออกไปเต้นตะริ๊ดติ๊ดชึ่ง แล้วพยายามจองทำเลทอง ให้สามารถหันหน้าไปดูฟากฟ้าแสนหวาน และดวงดอกไม้บานริมรั้วได้ ให้ชายตาชายใจใช้สายใยรัก ดูเมฆงามยามตะวันชิงพลบ ดูพระอาทิตย์แย้มหลบในม่านเมฆ ทีเริ่มร่ายมนต์ เสกหว่านสายพรายพริ้มยิ้มละไมแสนใจดี แกล้งเล่นแสงสีราวเวทีธรรมชาติ มิแรงร้อนหากรอนรอนอ่อนหวานอบอุ่น เป็นทีวาวันทิวาหวาม อันอบอุ่นหอมกรุ่นกลิ่นดวงดอกแดด และทำให้บัวรำลึกนึกถึง บทบทเพลงพระราชนิพนธ์*ยามเย็น* ที่ฟังทีไรหัวใจก็แสนซึ้งในงามอันแสนยิ่งใหญ่ทีนั้น บัวขออัญเชิญมาให้ลองฟังดูนะคะ http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=6191 ยามเย็น เพลงพระราชนิพนธ์ : : Key C แดด รอน ๆ เมื่อทินกรจะลับเหลี่ยมเม-ฆา ทอแสงเรืองอร่าม ช่าง งาม ตา ในนภาสลับ จับ อัม พร แดด รอน ๆ เมื่อทินกรจะลาโลกไป ไกล ยามนี้จำต้องพราก จาก ดวง ใจ ไกลแสนไกลสุดห่วง ยอด ดวง ตา แต่ก่อนเคยคลอเคลียกัน ทุกวันคืนรี่นอุรา ต้องอยู่เดียวเปลี่ยววิญญา เหมือนดัง นภา ไร้ ทินกร แดด รอน ๆ หากทินกรจะลาโลกไป ไกล ความรักเราคง อยู่ คู่ กัน ไป ในหัวใจคงอยู่ คู่ เชย ชม แดด รอน ๆ หมู่มวลภมรบินลอยล่องตาม ลม คลอเคล้าพฤกษาชาติ ชื่น เชย ชม ชมสมตามอารมณ์ ล่อง เลย ไป ลิ่ว ลม โชย กลิ่นพันธุ์ไม้โปรยโรยร่วงห่วงอา ลัย ยามสายัณห์พลันพราก จาก ดวง ใจ คอยแสงทองวันใหม่ กลับ คืน มา แต่ก่อนเคยคลอเคลียกัน ทุกวันคืนชื่นอุรา ต้องอยู่เดียวเปลี่ยววิญญา เหมือนดังนภาไร้ทินกร โอ้ ยาม เย็น จวบยามนี้เป็นเวลา สุด อา วรณ์ ยามไร้ความสว่างห่างทินกร ยามรักจำจะ จร จาก กัน ไป.. ******* บทเพลงพระราชนิพนธ์นี้บัวร้องได้ตั้งแต่อายุ13ค่ะ คุณครูของบัวชอบสอนบทเพลงพระราชนิพนธ์ ให้นักเรียนขับร้องตาม ซึ่งไพเราะมากอย่างเช่นบทเพลง*สนต้องลม* ที่ขึ้นต้นว่า*ลมพัดโชยพลิ้วมา เยือกเย็นอุราพาให้ชื่น* และ ดวงดอกบัวน้อยน้อย เคย*เต้นบัลเล่ต์ ประกอบเพลง*เมื่อลมฝนบนฟ้ามาลิ่ว* ในงานประจำปีของอำเภอ กับอีกบทเพลงพระราชนิพนธ์*ชะตาชีวิต* ที่บัวเคยร้องให้คนไทยในสิงคโปร์ฟัง และบางครั้งยังมีคนเป่าขลุ่ยคลอ ให้ความรู้สึกงดงามดายเดียวมากค่ะ .http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2529 ชะตาชีวิต เพลงพระราชนิพนธ์ : : Key C นกน้อยคล้อยบินมาเดียวดาย คิดคิดมิวายกังวลให้หม่นฤทัยหมอง ขาดมวลมิตรไร้คนสนิทคู่เคียงครอง หลงไหลหมายปองคนปรานี ขาดเรือนแหล่งพักพำนักนอน ขาดญาติบิดรและน้องพี่ บาปกรรมคงมี จำทนระทม ท้องฟ้าสายัณห์ตะวันเลือน แสงลับนับวันจะเตือนให้ใจต้องขื่นขม หากเย็นลงฟ้าคงยิ่งมืดยิ่งตรอมตรม ชีวิตระทมเพราะรอมา จวบจันทร์แจ่มฟ้านภาผ่อง เฝ้ามองให้เดือนชุบวิญญา สักวันบุญมา ชะตาคงดี นกน้อยคล้อยบินมาเดียวดาย คิดคิดมิวายกังวลให้หม่นฤทัยหมอง ขาดมวลมิตรไร้คนสนิทคู่เคียงครอง หลงไหลหมายปองคนปรานี ขาดเรือนแหล่งพักพำนักนอน ขาดญาติบิดรและน้องพี่ บาปกรรมคงมี จำทนระทม ท้องฟ้าสายัณห์ตะวันเลือน แสงลับนับวันจะเตือนให้ใจต้องขื่นขม หากเย็นลงฟ้าคงยิ่งมืดยิ่งตรอมตรม ชีวิตระทมเพราะรอมา จวบจันทร์แจ่มฟ้านภาผ่อง เฝ้ามองให้เดือนชุบวิญญา สักวันบุญมา ชะตาคงดี... *********** และ ในยามตะวันโพล้เพล้เหว่ว้า บัวได้เคยบรรยายเวทีธรรมชาติ ไว้มากมายหลายเรื่องรักรจนาเลยค่ะ ในขณะ ที่เห็นความงามงดของอาทิตย์อัสดง... ไม่ว่าในยามใด ที่ยืนอยู่ในผืนแผ่นดินทองแห่งนี้ ที่เปรียบประดุจดั่งอัญมณีเม็ดงามของโลกอุดม ยามเย็นบนเรือเฟอรี่ในทะเลไทยทะเลทอง ในเรื่อง*คำมั่นสัญญา* เรือเฟอรี่ลำใหญ่...วิ่งฝ่าทะเลเงิน..งามเข้ม.. จนเกิดฟองคลื่นขาวนวล..กระจายรายรอบลำเรือ... รัศมีฟองฝอย..ริ้วรายพรายพร่าง.. แผ่วงคลี่คลุมผืนน้ำจรดฟ้า..แลเวิ้งว่าง..กว้างไกลสุดตา.... ยามเย็น..อาทิตย์ดวงโตสีส้มสุก..ใบใหญ่เท่ากระด้ง..ใกล้ลาลับฟ้า.... แตะต้อง..ทายทักทะเล..อย่างอ่อนโยน.. นิ่มนวล..รู้ใจ..ร่ำลา..อ้อยอิ่ง..ทิ้งแสงสวย............ เบื้องบนนภา..รัศมีสีรุ้ง..ฉายฉาน..ส้ม..ปนเหลือง.. แสดแดงแรงร้อน..เริ่มราโรย..ในม่านเมฆ........ ซ่อนละมุนอุ่นไอ..กลมกลืน..ในพยัพหมอกบางเบา..นวลนุ่ม.. ดุจสายไหมหลากสี..สลับเลื่อมซ่อนลาย คล้ายดั่ง..วิมานเมฆ.. ดังทิพย์สวรรค์ลอยเลื่อนจากฟ้า..มาแตะต้องโลก......... ทายทัก..พักสายตา..พาสายใจไหลหลง..สัมผัสแลงาม.. .ตะลึงใจ..ตะไลฝันกับงามล้ำของม่านเมฆ..มนต์ขลัง เสน่ห์ทะเลไทย..... ตรึงดวงใจทุกดวง...ดื่มด่ำบนดาดฟ้าเรือ..... ยามสนธยา..ใกล้ราตรีมาเยือนแย้ม........ หรือ ในยามเย็นในสวนขวัญสวนสวรรค์หล้าใกล้บ้าน ยามที่ทอดทัศนาเห็น แสงสวยกระทบผ่านดงดอกหญ้า ต้องตกลงสู่ผืนน้ำ ก่อให้เกิดแสงสีทอง วิบวับวิบวับ สวยสุดใจ กระทบกับเส้นผมงาม เกิดประกายจรัส...... เมฆชมพูหวาน ราว สายไหม เกาะกลุ่ม ละเมียด เป็นช่อชั้นราววิมานเมฆ นวลละออน่านอนเล่น และ ทุกราตรีอีกเล่า ยามที่เฝ้าจ้องมองเห็นจันทร์ดวงแจ่มแอร่มงาม สาดสายแสงสีทองหวานนวลละอองผ่องผุด ทอทอดมาไล้โลมร่าง บัว...จะยิ้มสล้างหวานเศร้า ซึ้งน้ำตาแทบหยดไม่ทราบเพราะอะไร ด้วยใจดวงดิบเดิมดวงดายเดียว ที่ชอบเหว่ว้าหวลคะนึงหาใครก็ไม่รู้ที่ไม่มีตัวตน เป็นเพียงอารมณ์ปรุงปั้นฝันเพ้อละเมอไปตามธรรมชาติ ที่เพียงแค่ฉลาด สามารถหยุดจับไว้ได้ เพียงมากระทบใจชั่วคราวมิได้เศร้านานรานไหว รักษาใจมิบอบช้ำเกินจำเป็น และ ทุกยามเย็นบัว..จะแอบอ้อนอึ้งซึ้งจนน้ำตาร่วง เมื่อเต้นไปกับบทเพลงที่ช่างแสนงามเศร้า จนใจดวงร้าวนี้แทบหล่นด้วยความประทับใจโดนใจ ในบางทีมีเชือดเฉือนใจ ราวกับ อยากให้หยาดเลือดรักระรินไหลไม่หยุด ประดุจดังสายฝนพรำพรมห่มห้วงใจไม่ปรานีปราศรัย ไม่ถนอมใจเอาเสียเลย และ บางครั้งเมื่อหัวใจไหวหวั่นสะเทือนไหวมากๆ บัว..เองก็ช่างแสนเบื่อเสียนี่กระไร ทำไมต้องเกิดมากับใจดวงละไมเกินแบบนี้ด้วยนะ ซึ่ง บางทีใครๆมักค่อนว่า แม่ศิลปินผู้ถวิลเหงาลำพัง ไปไหนก็มักนั่งเหมือนแยกร่าง และโลกไกลห่างผู้คนเข้าไปทุกทีๆแล้ว ไม่สนอะไร.. นอกจากใช้สายตาสายใจสัมผัสงามธรรมชาติอย่างนิ่งงัน สิ่งที่ดวงตาภายใน รับอิ่มงามนั้นอย่างละม่อมละไมได้อย่างถ้วนถี่ อย่างสิ้นไร้คำอธิบายใจได้อย่างหมดจด หมดทุกความคิดความรู้สึกที่ลึกๆๆๆๆ เสียจนใจใครยากหยั่งถึงก้นบึ้งแห่งดวงใจอันพิลาสพิไลนี้ และ นี่คือความเป็นผู้หญิงแบบ..บัวบังใบ..ใจละเมียดค่ะ โอกาสนี้ บัว...ขอฝากกระซิบบอกนะคะ ว่า... ทุกดวงใจในร่มรักนักรักรจนานั้น ที่ต่างพากันมาเดินบนถนนสายฝันสายดอกไม้งาม ก็ต่างมี*เมล็ดพันธุ์แห่งปัญญาบังเกิดแล้วละค่ะ เป็นการเติมเต็มจิตวิญญาณภายในให้ยิ่งงามพร้อม และน้อมรับสิ่งแสนดีคำมากมีค่า ที่เราสามารถนำมาใช้สอนใจได้ ยามเราพบทุกข์ยังมิหลุดพ้นรักนะคะ แล้ว ไหนเรายังจะได้พบ กับอ้อมขวัญอ้อมใจ อันเกษมเปรมปรีย์จากเพื่อนพ้องน้องพี่ ที่มากล้นน้ำใจใสพร่างรินปลอบประโลมใจซึ่งกันและกัน ให้ฝ่าฟันพายุใจพายุจริงพายุร้ายพายุรัก ยามได้มาพักใจในร่มรักเรือนไทยเรือนทองนะแห่งนี้ ที่แสนมากมีมวลบุปผานานาพันธุ์ ต่างสีต่างกลีบกัน หากเมื่อนำเมล็ดฝันพันธุ์รัก มาปลูกสะพรั่งพรักริมเรือน อย่างทะนุถนอม ในสวนขวัญ พลันก็หอมพร่างเกสรขวัญอันหวานบรรเจิดใจ ไหนจะ มีเรือนไม้ริมบึง ไว้ให้เอนหลังฟังบทเพลงโบราณหวานหอม ช่วยกล่อมเกลาให้รักงามเย็น เน้นความสมถะเรียบง่ายไร้มายา มีบทกวีธรรมะนำทางทอง มีดวงดอกแก้วตระการหวานหอม ระรินร่ำประดับใจ ราวแก้วใสวิเศษ มีไม้ใหม่ผลิใบผลัดแทนกันเข้ามา มีราชินีเดือนอัลอันแจ่มจ้าพราวพราย มีเพื่อนขวัญมากมายให้หอมจรุง ดั่งดวงดอกไม้ไทย ให้สนิทเนานวลรายรอบกระท่อมไพร มีสาวนาหัวใจดิบเดิม มาเติมความหอมยิ่งกว่าหอม มีพวงมาลัยทองมาลัยใจมาลัยเพชรอักษรา ราวแก้ววิเศษเลอล้ำค่า หาไม่มีอีกแล้วในปฐพีนี้ มีภาษารักสูงส่งคงค่าคำงามล้ำ ของนักโคลงนักอยากจะเขียน เพียรฝันฝากมาพลีวางกำนัลนะคะ ให้ทั้งโลกฝันโลกจริง ได้สัมผัสงามทุกโมงยามทุกทิวาราตรีกาล อย่างหวามหอมหลอมละลายใจ ให้มีแต่สิ่งแสนดีแสนงาม นามน้ำใจโอบเอื้อกันไปตราบนานเท่านาน ราวตำนานมหัศจรรย์รัก ที่จักจะสว่างกลายกลับ เป็นความทรงจำอันประเทืองประทับใจ ไม่ว่าโลกจริงจะกระชากเกลียวไป ตามแรงวัตถุสักปานไหน ทุกจิตวิญญาณในร่มรักเรือนไทยแห่งนี้ หวังจักจะมีแต่*พลังเกษม* ให้เอมอิ่มพริ้มเพราฝากเหงางามเงียบ ได้ฝากรักภักดิ์พลีนะคะ และ เหลือ สิ่งสุดท้ายหวังให้เข้าตำรา *เรือล่มในน้ำลำธารริมเรือนรัก* ให้จัก ได้ยินระฆังวิวาห์ดังกังวานหวาน ให้คนในร่มรักสักคู่ ได้พบคู่ธรรมคู่ทองคล้องมงคลขวัญมงคลใจไปด้วยกัน ให้หัวใจทองผ่องผุดพบพิสุทธิ์รัก และ หวังทองนั้นจักคู่กัลป์คู่กัป์ปไปตราบชั่วกาล เป็น*ดั่งตำนานฝันมหัศจรรย์รัก* ให้เราได้ร่ายรักบทกวี เสมอเสมือนจิตวิญญาณฝันพลีเดียวกัน ในวันมิ่งมงคลสมรสสมรัก และ หวังจักเป็นคู่สร้างคู่สมระดมพลังปัญญาใจ สรรสร้างโลกใบใหญ่นี้ให้ยิ่งงดงามเป็นทวีคูณนะคะ *********** http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=287 นัดพบ เพ็ญศรี พุ่มชูศรี ถ้าเราจะนัดพบ กัน เมื่อตะวันลับไม้ ฉันไม่หลอกจะบอกให้ อย่าเอ็ดไป สิจงฟัง ฟัง สิฟัง สัก นิด แล้วอย่าคิดว่าฉันสอน ว่าฉันสั่ง ฟังสิฟัง ฟังกันเล่นเพลินเพลิน แต่มันสุขเหลือเกิน ไม่เชื่อเชิญ ลองจำ ถ้าเราจะนัดพบ กัน เมื่อตะวัน พลบค่ำ ธรรมชาติชุ่มฉ่ำ ฉ่ำชื้น ชื่น ใจ ใต้ ร่มไม้ใบบางบาง แสงสว่างรำไรรำไร ไม่ต้องระวังไม่ต้องระไว จะอายทำไมกับพระจันทร์ ถ้าเราจะนัด พบ กัน ควรให้จันทร์ เห็น ใจ ลมอ่อนอ่อนพัด ผ่าน ชูกิ่งก้านช่อใบ บ้างก็แกว่งบ้างก็ไกว บ้างเขยื้อนสะเทือนไหว สะบัดใบไปตามลม ผสมน้ำค้าง พร่าง พรม เรไรจิ้งหรีดหวีดผสม ต่างคลอต่างคล้อต่างล่ออารมณ์ เรา ให้ชมให้ชื่น ใจ นี่แหละถิ่นนัดพบ แต่เราไม่พบกับใคร เพียงแต่พบกับธรรมชาติ แล้วเราก็อาจจะสุขใจ ไม่ต้องไปพบ กับใคร ที่ไหน เพลินใจ เพลิน ตา... ************
26 สิงหาคม 2547 23:10 น. - comment id 317320
งามจริงๆนะครับ โดยเฉพาะเพลงที่ยกมานั้นเป็นเพลงที่ผมชอบมากเลย โดยเฉพาะเพลงชาตาชีวิต ซึ่งเปรียบเปรยชีวิตได้ลึกซึ้งสุดพรรณาครับ แก้วประเสริฐ.
26 สิงหาคม 2547 23:13 น. - comment id 317322
แรงฝันบันดาลใจ จาก บทเพลงม่านบังตาไพเราะมาก กับ ถ้อยคำ สุภาพบุรุษลุกผู้ชายหนึ่งเดียวคนนี้ค่ะ เคยอ่าน เนื้อเพลง ฟ้าสูง แผ่นดินต่ำ ที่พี่พุดพัดชา ลงแจมไว้ในกลอนของใครจำไม่ได้แล้ว เคยฟังนานแล้ว ตั้งแต่เด็กยังติดใจไม่หาย ก็เหมือน ฟ้ามิอาจกั้น อย่างที่พี่ว่าจริง เรื่องดวงใจไม่มีแดน สุดเมืองแมนจะใฝ่หา หัวใจมันกล้า....... ฟ้ามิอาจกั้นจริง ๆ ครับ เหมือนที่ ผมกำลังคิดถึงใครคนหนึ่งตอนนี้เลย จาก : รหัสสมาชิก : 8929 - พฤหัส กฤษชยรักษ์ รหัส - วัน เวลา : 322953 - 26 ส.ค. 47 - 12:26 ในงานฟ้ามิอาจกั้นค่ะ ******** และ กับ วันวิวาห์ผลิใบฝากใจอวยพรมงคลคำนะคะ ปลิดกลีบกุหลาบแดงพรายพร่างกลางเตียงขาว โรยรักเคล้าบานไม่รู้โรยโปรยอิ่มขวัญ ให้นอนเคียงเตียงคู่หวานนานนิรันดร์ ให้รักกันเป็นคู่ธรรมคู่ทองผ่องผุดใจนะน้องรัก! พี่พุดดีใจด้วย และฝากบอกเจ้าสาวนะคะ พี่พุดอยากมีโชคอย่างนี้บ้างค่ะ รักมากกกกก
26 สิงหาคม 2547 23:16 น. - comment id 317323
แถมอีกเรื่องค่ะ รอ..รักฉัน..วันวิวาห์..นะคนดี วันแห่งความรัก..ใช่วันแห่งความรัก...กำลังใกล้เข้ามา.......... อรคิดว่า...สำหรับอร..มีวันแห่งความรัก ได้ทุกวัน ทุกเวลา....อรรักธรรมชาติงามทุกวัน.... รักแม่..พ่อ..รักญาติมิตร..รักเพื่อนฝูง....และ........ รักคนที่อรรัก.ดังดวงใจ...รักวันเติมวัน...จนล้นใจ...โดยมิพักต้องรอที่จะรัก..ในวันนี้....... ถ้าเราจะรักใคร...ไหนเลยจะต้องรอวันนั้น....วันนี้....รักแล้วก็รักเลยค่ะ วันนี้อาจ ...ให้คนรักกันทำสิ่งดีๆให้เพิ่ม..เติมใจให้กัน..ให้มั่นคงจงรักยิ่งขึ้น ยิ่งขึ้น.เพียงนั้น............ แบบฉบับรักของอร......อาจจะไม่เหมือนใครบางคน....และอาจจะเหมือนใครอีกหลายๆคน........ อรคิดว่า...อรจะรักนวลสงวนตัว...เพราะอรคืออร....ผู้หญิงไทยใจยังเต็มร้อย... อาจจะยาก.....แต่อรจะรู้สึกดีถ้าได้ทำสิ่งนี้.....ที่อรตั้งใจ........... บางคนที่มีความรัก...บอกยากที่จะอดทน...และรอคอย.....เพราะด้วยหลายเหตุผล........... แต่นาทีนี้....อรคิดว่า ถ้าเรารักใคร.....สักคน....ไม่ว่าเขา...หรืออร......ก็ควรที่จะเรียนรู้.... คำๆนี้...ที่จะมีสิ่งดีๆมากมาย..ให้คนที่รักและห่วงใยเราดังดวงใจ...ได้มีความสุข....... ความชื่นใจ....ความภาคภูมิใจไปกับเราด้วย....ในวันอันเป็นมงคลยิ่งของชีวิตเรา......... อรชอบความรู้สึกงดงาม...ที่จะได้เดินเข้าสู่ประตูวิวาห์...พร้อมกับความปิติ..ตื่นเต้น.. วาบหวาม.....ที่จะได้เรียนรู้บทเรียนรัก..วันวิวาห์..จากคนที่อรรัก..และจะฝังฝากชีวิตจิตใจ ของอรไว้ตราบจนวันตาย............... ทุกคน..อาจจะมีความคิดเห็นไม่เหมือนกัน..แต่อรชอบทำทุกสิ่งหลังจากที่มั่นใจเต็มร้อย เพราะเราคือลูกผู้หญิง..ในสังคมไทยนี้...ที่ผู้ชายไทยบางคนยังมีกฎกติกาที่ชวนให้เรา เสียเปรียบ..มิใช่ดอกหรือ........ และอรเคยไปเห็น..ประเพณีแต่งงาน..ที่บ้านนอก..บ้านเกิดของแม่อร......... อรรู้สึกประทับใจมาจนถึงวันนี้......... ก่อนวันงาน.......บ้านของเจ้าสาวจะจัดสถานที่...และห้องวิวาห์ที่แสนสวย........ ญาติมิตร...เพื่อนฝูง..มากหน้า..จะมาร่วมกันช่วยงาน....เตรียมอาหารหวานคาว......... เสียงเพลง...จากเครื่องกระจายเสียง...แว่วหวาน..ลอยลม......กล่อมขวัญวันวิวาห์ ให้ใจทุกดวง..คึกคัก...แย้มยิ้ม ....เบิกบาน.....เป็นงามประเพณี งามใจ...แจ่มใส...... สดชื่นรื่นเริง....เพื่องานแสนหวาน...แสนมงคล..มีมนต์ขลัง.....ยาวนานนิรันดร์ ภาพห้องวิวาห์..แสนน่ารัก..ที่ถูกจัดไว้รอรับเจ้าบ่าว ก้าวผ่านประตูเงิน..ประตูทอง มาคล้องดวงใจ..เคียงคู่..ชิดเชย........ ห้องที่เด็กๆ...และคนเฒ่า..คนแก่..แอบดู..แอบมอง..แล้วยิ้มกริ่ม..สุขใจกับสองดวงใจ... ในวันชื่นคืนสุขของบ่าว..สาว...ปานกัน........ ใครไหนเล่าจะตื่นเต้น...เท่า...บ่าวสาว.......นอนไม่หลับ..กระสับกระส่ายรอ....... วันอันศักดิ์สิทธิ์นี้.........ตึกตัก..ตึกตัก.....ใจเต้น.....ด้วยแรงรักที่รอคอย... ขบวนขันหมาก....โห่ฮิ้ว......ร่ายรำมาด้วยความรื่นเริงยินดี............... ภาพเจ้าสาวที่อยากเมียงมองดู...นาทีทองแห่งชีวิต...แม้ทางหน้าต่างก็ มิอาจ ต้องเก็บเนื้อเก็บตัว..รอนาที่ที่ยิ่งใหญ่..ยิ่งกว่านั้น.......... พิธีการ.....ที่เรียบง่าย..อบอุ่น..อ่อนโยน...และท่ามกลางสักขีพยานแห่งรัก ร่วมรับรู้รับทราบ..อย่างยินดีปรีดา.....ให้พร....อวยชัย........... ก้องสองหู...สองใจ....ให้เต็มไปด้วย...สิ่งแสนดี.....แสนงาม..ที่จะฝากฝังใจให้จำจด จนตราบวันตายมาพรากจาก......... อรจึงจำ....จึงคิด....จึงไตร่ตรอง....ที่จะเลือกสิ่งที่อร...เห็นชอบ...เห็นดี...เห็นงาม เพื่อนำทางชีวิตอร....ที่อรสามารถจะลิขิตชีวิตสาวของอรเอง.......... อรเพียงแต่ตั้งใจมั่น...ถ้ารักอร...ต้องรักแม่..พ่อ..รักเกียรติยศ...รักศักดิ์ศรี..ลูกผู้หญิงของอร ...และต้องรักประเพณีแสนดี..แสนงาม...ช่วยกันสืบทอดรักษาให้งามงดจนตราบ ชั่วลูกชั่วหลาน.....สืบไปนานเท่านาน.....นะคะ........... โห่...ฮิ้ว..ขันหมากมาแล้ว...ขันหมากมาแล้ว มาแล้วน้องแก้วรับด้วย วันนี้คนสวยแต่งชุดอะไร ทีแรกพี่จะคิดพาน้องหนี..พอคิดอีกทีก็กลัวน้องอับอาย พี่เป็นชายชาติทหาร พี่ขอรับประกันว่าพี่ยังรักศักดิ์ชาย เรื่องพาหนีพี่ไม่เอาแล้วน้อง เรื่องพาหนีพี่ไม่เอาแล้วน้อง พี่มาตรองคิดดูอดสูแก่ใจ พี่เป็นชายชาตรีควรหรือจะขยี้ประเพณีของไทย รักน้องจึงต้องมาขอแต่ง ถึงสินสอดจะแพง พี่ก็ยอมถวาย พี่พกเงินมาหลายหมื่น เพื่อมาให้ทรามชื่นใส่ตู้เซฟไว้ บอกกับพี่สินวลน้อง ประตูเงิน ประตูทองน้องอยู่ทางไหน จะได้จ่ายเพื่อเปิดทาง เข้าไปหานวลนางแม่ผิวสีไข่ จะได้จูบน้องให้ชื่นหัวใจ จะได้จูบน้องให้ชื่นหัวใจ ให้สมกับที่ได้ยกขันหมากมา...........
26 สิงหาคม 2547 23:34 น. - comment id 317329
ถ้าอัลมิตราอำไปว่า .. ก็รอ บ่าว มาขออยู่เนี่ย ! .. ไม่รู้เหมือนกันว่าจะ ฮา กันทั้งเวปหรือเปล่า ค่ะ ... ดูเทกวนโด้ หรือเปล่าคะ แบบจะลุกไปโดดต่อสู้เองเลย ลุ้นจนเหนื่อยค่ะ ..
27 สิงหาคม 2547 00:06 น. - comment id 317341
และ เหลือรอ อิม กับใครดีคะ ที่น่าจะเสี่ยงมาลัยเพชรเด็ดดวงใจ มาคล้องมาลัยมงคลคู่ ที่พี่พุดรออยู่จะไปขอยอมปรากฏตัวในงานแห่ขันหมากหากคนในนี้เป็นเจ้าบ่าวผู้โชคดีนะอิอิ ซึ้งคือสิ่งสุดท้ายหวังให้เข้าตำรา *เรือล่มในน้ำลำธารริมเรือนรัก* ให้จัก ได้ยินระฆังวิวาห์ดังกังวานหวาน ให้คนในร่มรักสักคู่ ได้พบคู่ธรรมคู่ทองคล้องมงคลขวัญมงคลใจไปด้วยกัน ให้หัวใจทองผ่องผุดพบพิสุทธิ์รัก และ หวังทองนั้นจักคู่กัลป์คู่กัป์ปไปตราบชั่วกาล เป็น*ดั่งตำนานฝันมหัศจรรย์รัก* ให้เราได้ร่ายรักบทกวี เสมอเสมือนจิตวิญญาณฝันพลีเดียวกัน ในวันมิ่งมงคลสมรสสมรัก และ หวังจักเป็นคู่สร้างคู่สมระดมพลังปัญญาใจ สรรสร้างโลกใบใหญ่นี้ให้ยิ่งงดงามเป็นทวีคูณนะคะ
27 สิงหาคม 2547 07:02 น. - comment id 317390
..เป็นงานเขียน ..ที่สื่อได้อ่อนหวานมากเลยคะ.. ..ภาพเจ้าสาว ..ในชุดสีขาวบริสุทธิ์.. ให้ความรู้สึกดีจัง ..นะคะ.. ..
27 สิงหาคม 2547 08:09 น. - comment id 317419
โอย ..ตื่นเช้ามาก็ยังรู้ตัวว่า ฝันไป โอย ..อ้ายบ่าวอยู่หนใด ทำไมยังไม่เห็น โอย ..ไม่เหมือนปลาเก๋า ที่กระโดดเข้าหาถุงพรานทะเล เก๋าเอ๊ย มอ มอ มอ มอ มอ ดูโฆษณาชิ้นนี้ทีไร อมยิ้มกับความคิดจริงๆ ค่ะ บ่าวเอ๊ย มอ มอ มอ มอ มอ ..
27 สิงหาคม 2547 09:52 น. - comment id 317463
งามครับกับธรรมชาติที่มันควรเป็น ที่นำมาร้อยเล่นกับตัวอักษร โดย ไม่มีน้อยกว่าหรือมากกว่า เพราะ ว่ามันคือ.......ใช่เลย งดงามมากจนคิด ว่าเว่อร์ ถ้าไม่เคยเจอกับของจริง นี่ คือสิ่งที่คุณพุดพัดชา...จรรลงออกมาให้ ชื่นชมสำหรับผู้นิยมในธรรมชาติจริงๆ ๚ะ๛ size>
27 สิงหาคม 2547 21:52 น. - comment id 317842
ข้าพเจ้ามาทักทายพี่พุดค่ะ ทุกถ้อยคำงามของพี่สาวงดงามเสมอค่ะ .....ระลึกถึงเสมอ.....จากใจค่ะ อาจด้วยวันนีใจหม่นทนทุกข์ อันเป่าปลุกในรู้สึกมิปรารถนา หมดกำลังแม้จะสั่งถ้อยคำลา โอ้น้ำตา........ไยแสดงความอ่อนแอ ................................................ พี่พุดจ้าด้วยใจน้องช้ำเหลือเกินค่ะในกาลนี้ ......รักและระลึกถึงเสมอค่ะ
27 สิงหาคม 2547 22:56 น. - comment id 317881
เธอคือเมฆเสกสายหวานมาห้อมห่ม มาพร่างพรมขวัญเจ้าคราวเหน็บหนาว เธอคือสร้อยร้อยสวยด้วยรวงดาว คล้องฝันพราวรับขวัญพลีราตรีเพ็ญ.. ราวสายลมพรมผ่านลุกขึ้นสู้ โลกยังอยู่ดอกไม้หวานบานให้เห็น แม้นดายเดียวเปลี่ยวร้าวใจเยียบเย็น เธอยังเป็นเช่นเทียนทองส่องกลางใจ ราวรุ้งเรียวเกี่ยวฟ้าทางช้างเผือก ลบหนาวเยือกให้อุ่นพร่างสว่างไสว รจนาบทกวีที่งามงดหมดจดใจ ระรินไหวลบโลกร้อนสอนกมล... เธอคือสายธารหวานพรมห่มหอมร่าง ให้ฉ่ำพร่างฉ่ำชื่นดุจสายฝน เธอนั้นหรือคือน้ำค้างกลางกลีบรสสุคนธ์ เธอคือคนของสายธรรมนำชีวี.. เธอคือตะวันอันโอบเอื้อมนุษยชาติ สว่างวาดรจนาร้อยสร้อยศักดิ์ศรี เธอนะหรือคือยอดงามยอดความดี เป็นสร้อยสีสร้อยแสงสร้างแรงรัก.. เธอคือไม้ไพรในป่าเมืองมนุษย์ สร้างพิสุทธิ์ดุจร่มธรรมล้ำค่านัก เธอคือใครใครคือเธอเล่ายอดรัก ยอมพลีภักดิ์ศรัทธารักศรัทธาใจในวันนี้.. ********* หลังอ่านหนังสือธรรมะ คำสอนธิเบตเพื่อการอยู่ และตายอย่างไร้ทุกข์ *เหนือห้วงมหรรณพ* จาก THE TIBETAN BOOK OF LIVING AND DYING (part 1 Living ) โซเกียล รินโลเปซ เขียน พระไพศาล วิสาโล แปล พุดรู้สึกผิดกับบางคนมากค่ะ จนอยากทำความเข้าใจ และเล่มสำคัญ ผลงานของกวีรางวัลดีเด่นจาก คณะกรรมการหนังสืทอแห่งชาติปี2539 และ2545 รวมบทกวี *ที่ซึ่งขุนเขาทะลุเมฆ* กานติ ณ ศรัทธาคนทุ่งสงอย่างะเอียดละออ พุดรักคำว่า การอ่านคือ *การบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญา* และกับคำ **ที่ซึ่งขุนเขาทะลุเมฆ บางวันฝนเสกรักโปรยหว่าน บางวันดอกไม้ได้เบ่งบาน และบางวันลมสะท้านก็ทระนง* พุด คิดว่ามีกวีในนี้ บางท่านรจนาได้งามพอกันเลยค่ะ และ อาจจะลำเอียง พุดว่างามกว่าด้วยซ้ำอิอิ หากส่งเข้าประกวด พันดาวเดาสิว่าใครคะเขาคนนั้นอิอิ ******* พุดพัดชาคิดถึงใครบางคน หลังอ่านหนังสือสองเล่มจบลง อย่างล้นใจ ที่เคยพลีใจแบ่งฝันปันงาม ด้วยความรักด้วยความหวัง ด้วยตั้งใจจะให้กำลังใจ ด้วยรักปรารถนาดี อยากเล่าความงดงามปลุกปลอบชีวี อยากให้คนดีได้อ่านหนังสือสองเล่มนี้ เพียงนั้น ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
28 สิงหาคม 2547 10:07 น. - comment id 318001
พุดค่ะ เป็นเกียรติที่ได้รับเมล์ค่ะ และหากรักงานพุด และอยากรู้จักรู้ใจพุด อย่างละเอียดละเมียดละไม ก็ฝากอ่านงานพุด500กว่าเรื่องนะคะ ปีนี้จะอ่านหมดมั้ยละคะอิอิ ความเป็นพุด.. ก็จะบอกในงานนั้นแล้วละค่ะคนดี พุด เคยมีความสุขวาง งามเงียบเรียบง่ายมาแสนนานค่ะ และ นาทีนี้บทเรียนชีวีก็ได้สัจจธรรมค่ะ ให้ลองอ่านหนังสือข้างล่างนะคะ โดยเฉพาะเล่มแรก ทำให้พุดอยากรจนาฝากคำสอนเตือนใจ ทุกมิ่งมิตรสนิทใจเลยละคะ ที่พุดเชื่อว่า เราผู้รักการอ่านและรักรจนา เท่ากับว่า เราเพียรเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญาให้บังเกิดในจิตขึ้นแล้ว พุด.. ฝากความรักและทุกสิ่ง ที่จะบอกความเป็นชีวิต กำนัลแด่ทุกคุณที่เมล์มาด้วยรักและชื่นชมพุด..ด้วย ทุกถ้อยจากหนังสือ คำสอนธิเบตเพื่อการอยู่ และตายอย่างไร้ทุกข์ *เหนือห้วงมหรรณพ* จาก THE TIBETAN BOOK OF LIVING AND DYING (part 1 Living ) โซเกียล รินโลเปซ เขียน พระไพศาล วิสาโล แปล ****** คนดี สิ่งนี้สามารถทำให้เราค่อยๆ ล่วงลาพ้นทุกข์รัก วิบากกรรม ที่กระหน่ำซ้ำซัดมาค่ะ เราจักต้องเรียนรู้โลกนะคะ เพื่อหาดวงจิตเป็นอิสราค่ะ คุณรักงานพุด คุณย่อมทราบว่าพุด มักฝากข้อคิดเตือนใจไว้เสมอมา ในงานเก่าก่อนที่พุดรู้วางว่างค่ะ แม้นหัวใจพุด..บางครั้ง จะละไมมากไปหน่อยในระยะหลัง ตามกรรมตามวิบากใจ และ พุด ได้ เรียนรู้จากใจตนเอง ที่วิ่งหนีเพรงกรรมไม่พ้น หากอย่าให้นานเกินที่จะรู้หยุดรู้ดับค่ะ และ รักคือไฟค่ะ รักคือทุกข์ค่ะ อย่าลองเล่นเลยนะคะ ขอฝากไว้ พุด ดีใจค่ะที่มีเมล์หลายคุณเข้ามา เล่าเรื่องคุณมาสิคะ พุดยินดีรับฟังค่ะ อย่าลืมนะคะ หากอยากทราบว่าพุด เพียรฝากอะไรถึงคุณ จากดวงใจแสนรัก จงอ่านหนังสือเล่มบนนะคะ ร้านซีเอ็ดมีค่ะ และ อีกเล่มนะคะ พลังแห่งจิตปัจจุบัน หนทางสู่แสงแห่งปัญญา Eckhart Tolle THE POWER OF NOW A GUIDE TO SPIRITUAL ENLIGHTENMENT หนึ่งในหนังสือดีที่สุด ที่วางแผงในช่วงหลายปีมานี้ ทุกประโยคนั้นเต็มไปด้วยพลังและสัจธรรม พุดรักเล่มนี้มากค่ะ ไปใต้ได้ถวายให้พระไปแล้วค่ะ เลยต้องมาหาใหม่ และ มีอีกสองเล่ม ที่ยังตามไม่พบค่ะ โดยนักเขียนคนนี้ที่มหัศจรรย์มากค่ะ พุดได้แนะนำให้ใครๆ หาไว้อ่านจนได้ผลหลายท่านแล้วค่ะ ******** พุดฝากบทเพลงนี้ให้ไปฟังนะคะ http://www.thaipoem.com/web/linkmain.php?url=http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=255 สุดท้าย ทุกดวงใจที่เมล์มา พุดขอคารวะด้วย ทุกคำตอบ ในทุกถ้อยแทนใจพุด ในหนังสือที่บอกความคิดพุดแจ่มชัดยิ่งแล้วค่ะ ******* อรุณหวาน
19 มิถุนายน 2550 02:55 น. - comment id 415036
น่ารักมากเลย อ่านแล้วหวานจับใจ ทุกถ้อยคำ เพิ่งเข้ามาครั้งแรก บังเอิญผ่านมา ได้อ่านคำกลอนเพราะ ๆ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง