http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=3102 (มนต์รักลูกทุ่ง) ************* ไพลรจนาเรื่องนี้.. ริมคันนา..ยามอุษาฟ้าสาง น้ำค้างทรงหยดเจิมจับยอดข้าวราวระบำเรียวรุ้งแก้ว แพรวพรรณรายพรายพร่างพรม ห่มหอมงามท่ามท่วมท้นใจดวงดิบเดิม เติมงามใจไพลเพลินชมวิวทิวทัศน์ อันอ่อนไหวอันอ่อนหวาน บ้านภายใน..จิตวิญญาณดวงนี้ ที่พลีรักท้องทุ่งไกลกรุงกรง ที่ไพลมิพะวงพากายผันลี้ ผ่านวันคืนหลายทิวาราตรีกาล มาเติมฝันเติมหวาน เติมพลังงามงด.. ธรรมชาติสดแสนพิสุทธิ์ใจ อย่างฝันใฝ่อย่างวาดฝัน อย่างวาดหวังที่ยากยิ่งจะอธิบาย ความงามง่ายที่ปรากฎอยู่ในคลองตา นอกเสียจากว่า อัญมณีไพรจำต้อง.. ขอผนึกจิตวิญญาณรักดั่งดวงเดียวกัน ในงานงามฝันงามไพรพง ดงดอกหญ้าดวงดอกไม้ป่าท้องทุ่งนา ป่าเขาเงาละหานสายธารธารา มาฝากฝันกำนัลแด่ทุกดวงใจ โดยรวมใจขอหยิบยืม บทกวีแสนรักจากบุรุษแห่งสายธาร จากบุรุษแห่งไพรวัลย์*ลำน้ำน่าน* บุรุษอันระรินร่ำระรินรส หยาดหยดงามเงียบเรียบง่าย ใช้ภาษาดินเดิมเติม..ละมุนละม่อมหลอมละลายละลนใจ ให้ไหวหวาม ให้งามคล้ายได้ลงไปคลุกบรรยากาศจริงเสียยิ่งกว่าจริง ในโลกติดดินถวิลไพรพง..ไกลกรุงกรง.. มิพะวงแสงสี.. มีแต่นาข้าวขจี มีแต่วัวแขวนกระดิ่งกรุ๋งกริ๋งๆ มีแต่ดาวพรายพร้อยนับพันดวง สุกใสสว่างกระจ่างเจิดจรัสฟ้าแสนสวย มีแต่อรุณหอมระรวยกลิ่นลอมฟาง ยามพรายพระอาทิตย์สถิตทายทัก น้ำค้างวะวาววับจับดวงดอกข้าวมาแตะแต้ม ริมเรียวแก้มคลอ..พนอพะเน้า พราวพริ้งมาประกอบคำพรรณานะคะ *********** ยามเช้าของชาวนา ลำน้ำน่าน หริ่งเรไรแผ่วเบาจวนเช้าแล้ว เพลงไก่แก้วแซร่ศัพท์รับวันใหม่ เป็นเสียงหวานซ่านรินจากถิ่นไกล ปลุกดวงใจมาตื่นรับกับเวลา หยาดน้ำค้างหยดพราวราวริมรั้ว แสงสลัวค่อยจางกลางอุษา ดุเหว่าแว่วกล่อมคุ้งปลายทุ่งนา เป็นภาษามนต์ไพรในความจน หนาวยังหนาวน้ำค้างวางดอกร่วง จับคอรวงต้นข้าวหนาวอีกหน แม้นหนักหน่วงโน้มคอลงคลอตน สอดซ้อนสานแซมปนบนใบภักดิ์ ริ้วใบขาวเกล็ดหมอกแต้มดอกนั่น ราวสีสันสะท้อนใจให้รู้จัก ความเรียบง่ายถักทอกลางกอรัก โอบรวงหนักไหวชื่นทุกคืนคราว ตื่นเถิดหนอตื่นเถิดยอดดวงใจ มาก่อฟืนก่อไฟไล่ความหนาว ตื่นจากฝันภวังค์ของค่ำยาว มาหุ่งข้าวกลิ่นหอมพร้อมสู่นา เสียงกระดึงวัวควายเริ่มส่ายแล้ว คล้ายเสียงแก้วกรุ่งกริ่งกระดิ่งหนา เป็นเสียงเก่าแก่คร่ำสั่นดังมา เสียงวิญญาญ์ชาติญาณงานและคน รินน้ำข้าวซาวเกลือเพื่อรองท้อง เจียดใบตองรมไฟไล่เกร็ดฝน ห่อก่องข้าวพริกปลาปิ้งมาปน น้ำตาหล่นฟืนควันโรมรันตา เจิมครรลองรุ่งเช้าเมื่อดาวเลื่อน แบกไถเคลื่อนมุ่งไปในอุษา หอมลอมฟางกองฟืนกลางผืนนา ตรงฝั่งฟ้าตะวัน..ทอนั่นแล้ว กระจาบจ้อยบินพรูสู่ดงดอน ทิ้งคบคอนเดียวดายปลายตาลแถว ดอกโสนร่วงรมพรมนาแนว กลางทำนองเจื้อยแจ้วของอรุณ นกกระยางบินลู่สู่หนองหน้า บินข้ามป่าทุ่งโศกเมื่อโลกหมุน ตะวันเช้าฉายรอพอเจือจุล ธรรมชาติสมดุลเกื้อหนุนนั่น ความสามัญปูทางกลางทุ่งทอง เจิมครรลองให้เห็นเป็นทุ่งฝัน เมื่อยามเช้าปลุกตื่นทุกคืนวัน หวังสวรรค์ท้องทุ่งจรุงมิตร เช้าชื้นแล้วดวงใจใครรู้เห็น ความลำเค็ญโน้มหน่วงกลางดวงจิต ผู้สืบสายเทือกท้าวข้าวชีวิต เป็นดอกเหงื่อผลผลิต...เนรมิตเมือง.. และอีกบท เส้นทางสู่ชนบท ลำน้ำน่าน เมื่อลมล่องข้าวเบาเงาเมฆเคลื่อน ท่ามกลางเดือนฝนฟ้าจะลาล่อง ริ้วรวงข้าวแตกดอกออกรวงรอง มีเพียงฉันเที่ยวท่องล่องเรื่อยมา จากถนนเมืองเก่าเงาโอฬาร มีเพียงบ้านทอดนิ่งชินหนักหนา ข้างนอกรุ่งในบ้านร้างทางน้ำตา มองขอบฟ้าแคบนิดขังปิดไว้ เงาตะวันเคลื่อนคล้อนสะท้อนดวง เมื่อฝนร่วงหล่นนานวิญญาณไหว บ้านหลังเก่าทอดเผยเปรยรำไร ติดปีกฝันวิญญาณไพรให้กระเซ็น สู่เส้นทางรายล้อมด้วยกองฟาง ถูกปล่อยร้างสีหม่นจนเลือนเห็น เถาย่านางยอดสล้างกลางลำเค็ญ ไม่เคยเว้นแตกช่อกอชีวิต คือเส้นทางสายนั่นฉันเคยผ่าน ทุกวันวานภาพเก่าเงาตามติด ถือปิ่นโตตามแม่สูงแค่นิด ดอกข้าวติดแตะแก้มแย้มทายทัก ฉันเปียกโชกแล้วแม่แท้ไม่ทัน แม่ยิ้มหันหัวเราะเพราะข้าวหนัก หยุดเดินทางให้ฉันนั้นผ่อนพัก หยิบปิ่นโตแห่งรักไปถือแทน แม่บอกฉันนั่นคือลูกชาวนา เกิดใต้ฟ้านาดินถิ่นหวงแหงน ในความจนรากเหง้าเราขาดแคลน แต่ดวงใจฉาบแน่นแผ่นทองทัน รายริมทางพร่างพราวด้วยข้าวรวง ฝนจากสรวงปราดหนึ่งตรงบึงนั่น แม่บอกกล่าวฝนฤดูผู้กำนัล โปรยฝนฝันไล่ล่องท้องข้าวเบา หยาดน้ำค้างแต้มดอกหมอกตรงโน้น เสียงตะโพนแว่วฟังดังหงอยเหงา พระสงฆ์เดินฝ่าน้ำค้างย่างแผ่วเบา ทุกยามเช้าบิณบาตรตามยาตรา แม่และฉันสวนทางกลางครรลอง พระท่านมองเงียบนิ่งยิ่งค้นหา แม่บรรจงตักข้าวเคล้าแกงปลา อธิษฐานต่อหน้าพระพุทธพงศ์ ให้ลูกชายชาวนาทายาทหนึ่ง ได้พบซึ้งรสธรรมนำสู่หงษ์ ถางเส้นทางร้างไร้ในกลางดง สืบเกวียนกงบรรทุกข้าวชาวนาไป ไปหว่านหวังกลางทางทุกย่างก้าว ให้ข้าวขาวแตกดอกงอกไสว ในสามัญสำนึกตรึกตรองใจ สืบสกลคงไว้ความสามัญ แม่วางข้าวช้าลงตรงบาตรพระ ทุกผัสสะเงียบนิ่งคล้ายปริ่มฝัน เรื่อลำแสงสะท้อนงามตามตะวัน เส้นทางฝันสายรวงข้าว...ฉันเข้าใจ ------------------------ ไพล เลือกที่จะเดินทางโดยรถไฟสายกรุงเทพ-บัตเตอร์เวิร์ธ หนีห่างไกลกรุงมาหลายร้อยไมล์ มาสัมผัสแดนดินในฝัน อันบรรเจิดใจพิไลพิลาส มาฝากชีวีกวาดลานวัดหน้าโบสถ์คร่ำ มาวางดวงดอกไม้ไทย ดวงดอกปีบกลีบดอกไม้มากละไมหอมละมุน ถวายหน้าพระพักตร์พระพุทธผู้บริสุทธิคุณ มาศึกษาพรรณไม้มากกว่าพันพฤกษาที่มากค่าอนุรักษ์ ภายในวัดที่จะน้อมนำมารจนาพรรณาทีหลังนะคะ มาแหงนเงยเชยชมต้นจันทร์งาม ลูกเหลืองพรายพร่างดั่งช่อทองคำ มายืนร้องไห้ร่ำไรเดียวดาย บนระเบียงโบสถ์เก่าบนเนินผา เมื่อสายตาพาพานพบดงตาลเบื้องล่าง ให้พลันพร่างดวงใจไหวงาม ระลึกนึกย้อนรอยอดีตอันงามเรืองรุ่ง มาเรียงร้อยร่ำรสบทกวี ตอบถ้อยท่านพระครูเจ้าอาวาสวัด หลังฟังธรรมยามเช้าหลังสนทนาธรรม ด้วย*งามดวงใจใครจะรู้นี้*ที่ช่างแสนโชคดี ที่ได้มาตักบาตรริมถนนสายรวงข้าวสายงาม ริมทางชนบทแสนไกล ยาม พระบวชใหม่สองรูปเดินบิณฑบาตรด้วยกัน และ เบื้องหลังงาม..ราวภาพฝันนั้น ได้สอนธรรมะอันยิ่งใหญ่ เมื่อมีสุนัขพันธุ์ไทยท้องโตแสนกตัญญู ที่.. พระท่านเล่าว่า..ไล่เท่าไรก็ไม่ยอม พร้อมที่จะไปแอบรอที่หน้าประตูวัด รอ ที่จะเคียงข้างตามรอยพระออกไปบิณฑบาตรทุกเช้า ราวรู้หน้าที่ ราวมีความสำนึกลึกล้ำ ในพระธรรมอันมากเมตตานามว่ากตเวทิคุณ แม้นเสี่ยงกับการการที่รถจะเฉี่ยวชนทับ กับเส้นทางอันแสนลำบากขรุขระแสนไกล ไปตามท้องทุ่งนาบ้านชาวบ้าน บทบันดาลใจ.. จึงบังเกิดนะกลางใจ ให้ไพลรจนาบทกวี ที่แสนจะซึ้งซาบดวงใจ ในยามที่ใจได้สัมผัสภาพนั้น จนต้องนำมาอ่านตอบท่านเจ้าอาวาสในศาลาวัด ท่ามกลางชาวบ้านดวงใจอิ่มงาม หน้าตาใสซื่อถือมั่นในหลักธรรมคำสอนใจ ที่ยังยึดมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ที่จะทะนุบำรุงศาสนา ยังพากันมาวัด.. พร้อมด้วยอาหารคาวหวานในปิ่นโตงาม.. ท่านพระครูถามไพลว่า *มาที่นี่ได้เห็นอะไรบ้าง* และ ไพล ก็เรียนขออนุญาติตอบท่าน ด้วยบทกวีนี้ค่ะที่แต่งสดไม่กี่นาทีก่อนหน้านั้นค่ะ ทุกดวงใจในร่มรักเรือนไทยเรือนทอง ที่ไพล อดจะรีบนำมาร้อยเรียงฝากทายทัก ในค่ำคืนนี้ไม่ได้ ทั้งๆที่ ยังเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทาง อันระหกระเหิรราวนกปีกหัก เพิ่งบินกลับมาจากรวงรังแสนรัก ที่อยากฝังฝากใจไปตราบชั่วกาลนานนิรันดร์ค่ะ ในผืนดินฝันอันไกลลิบทิวทิพย์ทุ่งรวงทอง ปองขวัญสวรรค์ลอยเลื่อนขอบฟ้าขลิบทอง และกับ ละออละอองนวลหมอกคลี่คลุมห่มหอมท้องทุ่งรวงทอง กับงามตะวันส่องเศร้า ยามเข้าไต้เข้าไฟพลบโพล้เพล้ เหว่ว้าพาเปลี่ยวเหงา ยามเงยแหงนเห็นมวลหมู่นกไพรผกโผผิน บินกลับรังในยามเย็นย่ำสนธยาหวาน ผ่านยอดตาล..เดียวดาย..ราวไร้สิ้นหวัง และ ในนาทีนั้น กับค่ำคืนนี้ กับจันทร์เสี้ยวเกี่ยวกิ่งฟ้า ไพลพร้อมพลีมาขอฝาก ดอกพุดพิสุทธิ์หอมงาม พร้อม ดวงดอกเข็มขาว ที่ยังบานพร่างบานพราวอยู่ตรงหน้า ด้วยค่าคำกระซิบรักและคำว่าคิดถึงล้นใจแล้วค่ะ และ ไพล..ยังมีภาคสมบรูณ์ ในเส้นทางสายใต้ เส้นทางสายแสวงหา เส้นทางสายฝนสายฝันนิรันดร์รัก ที่ไพล ตั้งใจจะใช้เดินทางกลับบ้าน*หลังที่สอง* สิงคโปร์ แต่..ต้องตัดสินใจกลับ เมื่อรถไฟที่จะเข้ามาเลย์ลงใต้นั้น หันไปเห็นทหารคุมขบวนด้วยอาวุธค่ะ สถานการณ์ยังอึมครึมอยู่ค่ะ และทุกลีลาการค้นพบไพลได้บันทึกรักรจนา นับจากวันแรกที่พรากลาไกลกรุงกรงค่ะ อย่าลืมหลงพลาดตามติด อ่านต่อนะคะ ******* แสงแดดอ่อนในยามเช้าทอทอดจับ จีวรวับเหลืองทองผ่องอุษา ท่ามทุ่งข้าวเขียวไพลไกลสุดตา ซึ้งศรัทธาปิติธรรมนำทางใจ.. สุนัขขาวท้องลูกอ่อนซ่อนคำสอน ตามจีวรกตัญญูพระบวชใหม่ สอนธรรมะกตเวทิตาซาบซึ้งใจ น้ำตาไหลเช้าวันนี้ปิติธรรม.. ในโบสถ์คร่ำพักตร์พระพุทธพิสุทธิ์กระจ่าง สอนทางว่างสงบใจเลิศใสล้ำ ให้พระธรรมนำทางห่างทุกข์ทุกเช้าค่ำ หวังรินร่ำรสความดีที่เหนือคน.. วางและว่างวางแล้วว่างกลางใจใส เหนือดวงใจเทิดพระพุทธิ์หยุดสับสน ฝึกดวงจิตสว่างสะอาดสงบสยบโลกที่วกวน กราบแทบเท้าสงฆ์นำทางใจใฝ่สร้างบุญ.. ถวายข้าวตามรอยนางสุชาดามธุปายาส จิตสะอาดอิ่มงามตามเกื้อหนุน รู้เมตตาเสียสละสร้างสมบุญ ใจหอมกรุ่นราวมะลิขาวยามเช้านี้ปิติงามยามพบธรรม! *******
20 สิงหาคม 2547 01:04 น. - comment id 313291
ปริ่มธรรมชาติทอสานในกานท์ขับ อิ่มประทับดวงจิตลิขิตฝัน เรียงร้อยรสพจนาถกานต์ประพันธ์ อันเสกสรรค์แจ้งจำนรรจ์จากหทัย .................................................. ข้าพเจ้ามาทักทายพี่พุด ทุกถ้อยรจนางดงามเสมอค่ะ....... ....คิดถึงพี่พุดค่ะ :)
20 สิงหาคม 2547 01:24 น. - comment id 313295
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=3102 มนต์รักลูกทุ่ง ละครทีวี : : Key G หอมเอยหอมดอกกระถิน รวยระรินเคล้ากลิ่นกองฟาง เห็ดตับเต่าขึ้นอยู่ริมเถาหญ้านาง มองเห็นบัวสล้างลอยปริ่มริมบึง อยากจะเด็ดมาดอมหอมหน่อย ลองเอื้อมมือค่อยค่อย ก็เอื้อมไม่ถึง อยากจะแปลงร่างเป็นแมลงภู่ผึ้ง แปลงได้จะบินไปคลึงเคล้าเจ้า บัวตูมบัวบาน หอมดินเคล้ากลิ่นไอฝน อวลระคนธ์หอมแก้มนงคราญ ขลุ่ยเป่าแผ่ว พริ้วผ่านทิวแถวต้นตาล มนต์รักเพลงชาวบ้านลูกทุ่งแผ่วมา ได้คันเบ็ดสักคันพร้อมเหยื่อ มีน้องนางแก้มเรื่อนั่งเคียงตกปลา ทุ่งรวงทองของเรานี้มีคุณค่า มนต์รักลูกทุ่งบ้านนา หวานแว่วแผ่วดังกังวาน โอ้เจ้าช่อนกยูง แว่วเสียงเพลงมนต์รักลูกทุ่ง ซ้ำหอมน้ำปรุงที่แก้มนงคราญ...
20 สิงหาคม 2547 06:29 น. - comment id 313327
งดงาม..มากเลยคะ.. ผู้หญิง ..ที่อ่อนหวาน ..และแสนดี ..ของทุกคน.. ..เรนชอบ.. ทุกอย่าง ..ที่เป็น.. อยากเห็น ..ทุกที ..ที่ใช่.. อยาก..แอบฝัน ..ได้ใกล้ .. อยากซบไหล่ ..ในอ้อมกอด .. ที่แสน งดงาม.. ..เรน..อรุณสวัสดิ์ ..พี่พุดพัดชา ..นะคะ..
20 สิงหาคม 2547 07:38 น. - comment id 313355
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=314 บ้านเรา บ้าน เรา แสน สุขใจ แม้จะอยู่ ที่ไหน ไม่สุขใจ เหมือนบ้านเรา คำ ว่าไท ซึ้งใจ เพราะใช่ ทาสเขา ด้วยพระบารมีล้นเกล้า คุ้มเรา ร่มเย็น สุขสันต์ รุ่ง ทิพย์ ฟ้า ขลิบทอง พริ้วแดดส่อง สดใส งามจับใจ มิใช่ฝัน ปวง สตรี สมเป็นศรีชาติ เฉิดฉัน ดอก ไม้ชาติไทยยึดมั่น หอมทุกวัน ระบือ ไกล บุญ นำพา กลับมาถึงถิ่น ทรุดกายลงจูบดิน ไม่ถวิลอายใคร หัว ใจฉัน ใครรับฝาก เอาไว้ จาก กัน แสน ไกล ยังเก็บไว้ หรือเปล่า เมฆ จ๋า ฉัน ว้า เหว่ ใจ ขอวานหน่อยได้ไหม ลอยล่องไป ยังบ้านเขา จง หยุดพัก แล้วครวญรับฝาก กับสาว ว่าฉันคืนมาบ้านเก่า ขอยึดเอา ไว้เป็น เรือน ตาย...
20 สิงหาคม 2547 08:20 น. - comment id 313360
อรุณหวานสวัสดิ์..ค่ะ ทุกดวงใจในร่มรักเรือนไทยเรือนทอง พุดพัดชากลับมาแล้วค่ะ..นะคะ และ กับมากเรื่องร้อยรักรัดร้อย ดั่งสายสร้อยใจใสงามอิ่มเย็น ที่หวังจะเฟ้นค่าคำนำมาฝากนะคะ พุด.. แสนซาบซึ้งใจ กับทุกภาพงาม กับภาพจริง ที่นะบัดนี้มาสถิตทอดนะกลางใจ เป็นนิรันดร์รักแล้วค่ะ กับประสบการณ์หวานล้ำละมุนค่า ที่พุด..ได้สัมผัสมา ทั้งธรรมชาติท้องทุ่งนา ดงตาลโตนดเหว่ว้ายืนต้นดายเดียวเฝ้ารอ.. ผู้พรากไกล*บ้านเกิด*แม่พ่อ และฝูงวัว..น้ำตาคลอ รอคนมาไล้ลูบโลมประจงจูบ และ กับผู้คนชนบท ที่ยังงามงดในวิถีงามเงียบเรียบง่าย สมถะ รู้รักษาวัฒนธรรมอันงามล้ำค่า การตักบาตรทำบุญ.. ให้หัวใจอิ่มกุศลปิติธรรม น้อมนำใจกระจ่าง พร่างแสงพรายจรัสจ้า พาจิตวิญญาณละเมียดละไม พาดวงใจใสสวย ด้วยแรงรักศรัทธา ที่มากล้นค่าในโลกวายวุ่น ชุลมุนด้วยการแสวงหาสุขภายนอกร่าง มิอิ่มงามมิอิ่มเต็มกับวัตถุภายนอก ที่มากลวงหลอนหลอกใจ ให้หลงตามๆกันไป.. ในกระแสโลกย์อันเชี่ยวกราก และ นะอุษานาทีนี้ พุด.. ขอฝากกระซิบค่าคำ จบ ด้วยบทสัมภาษณ์บางประโยคจาก พระบวชใหม่ พุด..ถาม เหตุที่ท่านมาบวชในพรรษา ท่าน..ตอบพุดว่า *ท่านเป็นตำรวจตระเวณชายแดน ที่กำลังแรงร้อนระอุอยู่นะเวลานี้* และ พี่ชายท่านที่มีอายุแค่40ปี เป็นตำรวจตระเวณชายแดนเหมือนท่าน เพิ่งถูกยิงเสียชีวิตไม่กี่วันก่อนหน้านี้* โยมพ่อโยมแม่เลยขอให้ท่านบวชอุทิศให้ ท่านบอกว่า *หลังจากอออกพรรษา* ตามหน้าที่ลูกผู้ชายไทยชายชาติทหาร ท่านจะต้องกลับไปเป็นตำรวจตระเวณชายแดน ปกบ้านป้องเมืองอีก.. แม้จะเสี่ยงชีวิตเสี่ยงภัย ท่านบอก ขอตายอย่างภาคภูมิใจ หากมีธงชาติไทยพลีคารวะคลุมร่าง.. ตามอย่างเลือดทรนงพี่ชาย..ผุ้น่าภาคภูมิใจ และ นี่คือ สิ่งที่พุด จะรจนาภาคต่อไป.. ด้วยน้ำตาแห่งศรัทธารักและปิติค่ามนุษย์ ที่เปรียบประดุจดั่งเทพบุตรชาวดิน หากมากล้นเกียรติคุณแห่งความดี ดั่งดวงดาวประดับฟ้ายามราตรีที่มืดดำ ดั่งดวงดอกไม้ไพรประดับหล้าแสนงาม ดั่งสายธารดับร้อนแล้งแห่งโลกแย่งชิง ที่พุด.. แสนนิยมยกย่อง ให้งามผ่องนำทางใจ. หวังทุกดวงใจจะมองเห็นในค่างามนี้นะคะ ด้วยน้ำตาค่ะทุกคนดี ที่พุดยินดีพลีมอบ..นะนาทีนี้และนาทีหน้า หวังว่า จะเป็นบทเรียนใจพลังใจให้กับเรานะคะ ด้วยแรงแห่งรัก แรงแห่งคิดถึงคะนึงหามากล้นใจแล้วค่ะ
20 สิงหาคม 2547 09:19 น. - comment id 313372
คงมิต้องบอกว่าร้อยต่อความรู้สึกได้งามดั่งไหน. แต่งานนี้จะบอกแฝงแจ้งสิ่งใดว่ารักมากรักมายเช่นนั้นหรือ (อิอิ) แต่งานงามคุณลำน้ำน่านช่างงามนักจริงดั่งพี่ว่า แหละเขียนได้ดีแท้ เส้นทางธรรมเส้นทางนั่น งามสะอาดครับพี่ ขอให้มีให้ได้ดั่งวาดหวังครับ.มารับมาทายทัก ให้แจ้งใจสักครั้งหนึ่ง
20 สิงหาคม 2547 10:10 น. - comment id 313389
พี่พุด..เปิดจอเปิดใจไว้ ให้สายใยรักทุกดวงใจในร่มรักเรือนทอง แห่งผองเรา มาระรินหวานหอมห่มห้องห้วงใจ คนพรากไกลบ้าน..เพิ่งคืนกลับมาค่ะ นะคะ และพี่พุดทำงานไป และกลับมารอตอบถ้อยร้อยรัดร้อยรัก ลำดับแรกค่ะ น้องแว่นดอย.. ที่พี่พุดเฝ้าหลงคอยแล้วมิเคยน้อยใจรักค่ะ จะกลับมาหาพี่พุดดั่งบูมเมอแรงรัก แบบรู้จักรู้ใจ..รักเนือ้ใจพี่พุดอย่างจริงแท้ ให้พี่พุด..มีพลังสร้างงานงามค่ะคนดี ด้วยน้ำตาแห่งปิติใจค่ะ ******* และ อีก*หนึ่งในทรวง* ในหอมห้วงดวงใจพี่พุด มายาวยืนยาวนานเฉกเช่นกัน น้องเรน *สายฝนสายฝันนิรันดร์รัก นะกลางใจพี่พุดผู้พิสมัย พิสุทธิ์รัก ราวสายวสันต์ลีลามาพร่างใจ มางามใสพิสุทธิ มาพรายพร่างพรมห่มหอมงามซึ้ง หวานละมุนค่าคำค่ะน้องน้อย ผู้สะท้อนถ้อยสะท้านซึ้งตรึงแทน งามดวงใจน้องเช่นกันนะคะ คนดี.. ****** มาถึง อีกหนึ่งชีวา *แทนใจแทนไทแทนคุณ* ผู้หมุนรักละมุนกรุ่นละเมียดในรักแท้ มิแพ้ใจมิแพ้ใครมิพ่ายระยะทางค่ะ แม้นอ้างว้าง หากงดงามด้วยเนื้อใจสุภาพบุรุษไพรพง ผู้คงมันหนักแน่นในอนงค์น้องนางเดียว มิยอมเหลียวแลหญิงใด. ไม่แปรใจเปลี่ยนจิต.. ช่างน่าชื่นชมยกย่องค่ะ ที่มิปันใจฝากรักมากรัก และ คนดี.. พี่พุด..ฉลาดมากกว่านะค่ะ..อิอิ ที่ขอหยิบยืมงานลำน้ำน่านมา เนื่องจากว่างานงามล้ำนั่น บอกทุกวิญญาณฝันอันจริงแท้แทนได้ และดีกว่าจะมาเสียเวลาพรรณาภาพเอง..อิอิ ด้วยเกรงจะไม่งามเท่า ก็เท่านั้นก็เท่านี้ และกับ ทุกกวี ที่รักพงไพรหัวใจดิบเดิม ติดดินถวิลงามง่ายรักสายธารธรรม พี่พุดมักปันใจให้เสมอมาค่ะทุกดวงใจ แบบไม่เลือกที่รักมักที่ชังดอกนะคะ หวังว่า.. จะเป็นดั่งพลังสร้างสรรรวมฝัน เอื้อโอบให้โลกละไมละมุน ให้หอมหวานกรุ่นด้วยดวงดอกไม้ ดับร้อนเร่าควันไฟจากปลายกระบอกปืน ที่ นับวัน..จะทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ ให้สิ้นสุดแหลกสลายคล้ายมาล้างโลก พี่พุด เพียงธุลีดิน ที่หวังถวิลฝากความงามประดับหล้า นิยามรักธรรมชาติธรรมะธรรมดาใจ ก่อน ดวงชีวาดวงไพรดวงดายเดียวเหว่ว้า จะลาลับกลายกลับคืนเป็นหนึ่งเดียวกับผืนพสุธาที่คงมิช้านาน..แล้วกระมังค่ะแทน ด้วยรักภักดิพลีใจ
20 สิงหาคม 2547 10:20 น. - comment id 313394
งดงามมากครับเส้นทางธรรม ลำนำออกมาได้อย่างจริงใจ และจริงจังจนคล้ายกับเส้น ทางฝันของดวงใจที่ถูกวาด ออกมาจากจิตใต้สำนึก๚ะ๛ size>
20 สิงหาคม 2547 11:10 น. - comment id 313430
แทนใจแทนทุกความรู้สึกดีดีค่ะ จากใจพุดพัดชาและแทน ทุกดวงใจในร่มรักเรือนไทย ที่เราทุกคนคงมีความคิดเดียวกันว่า ช่าง*ถือเป็นโชค* ที่ได้รู้จักและด้วยรัก และซึ้งซาบในน้ำใจคุณค่ะ คุณRobert TingNongNoi http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2552 ดีใจที่มีเธอ แหวน ฐิติมา สุตสุนทร : : Key D จะหวาดจะกลัว สักเพียงใด รู้ว่ามีสายตาที่เป็นห่วง จะหวั่นในใจ สักเท่าใด รู้ว่ามี คนที่คอยห่วง อยากจะตอบแทน ในความ ห่วงใย อยากปล่อย ใจ อย่าง ที่นึก อยากจะตอบแทน ในความ รู้สึก ว่าดีใจ ที่มีเธอ จะอีกจะไกล สักเพียงใด รู้ว่ามี เธอคอยเป็นเพื่อน จะเหนื่อยจะล้า สักเท่าใด รู้ว่าใจ เรามีสองดวง อยากจะตอบแทน ดวงใจ ที่ดี ที่มี ให้เป็นความ หวัง เป็นกำลังใจ และเป็น พลัง ฉันดีใจ ที่มีเธอ รักเธอ รักเธอ รักเธอ อยากจะตอบแทน ในความ ห่วงใย อยากปล่อยใจอย่าง ที่นึก อยากจะตอบแทน ในความ รู้สึก ว่าดีใจ ที่มีเธอ อยากจะตอบแทน ดวงใจ ที่ดี ที่มีให้เป็นความ หวัง เป็นกำลังใจ และเป็น พลัง ฉันดีใจ ที่ มี เธอ...
20 สิงหาคม 2547 13:01 น. - comment id 313501
อ่านงานคุณพุดครั้งใด สบายใจทุกครั้งเลยค่ะ และ ก็ชองงานของคุณลำน้ำน่านมากเช่นกันด้วยค่ะ ..............................................................................
20 สิงหาคม 2547 14:56 น. - comment id 313555
โอ้ยช่างร้อยรสรจนาจินตอาบกานท์ไว้ได้รสเอิบอิ่มจนตาลายเสียจริงๆงานดีๆแม้นจะละลานตาเราก็ต้องอ่านงานได้เพริศแพร้วพรรณรายรายรอบท้องทุ่งอันได้ชื่อว่าพลีรักเพื่อรวงทองอันขาวผ่องท้องทุ่งสีทองอร่ามแสงแววแวมแซมด้วยเสียงนาๆนัปกาล อิอิเลียนแบบมิได้ดอกต้องหัวร่อตัวเองจ้า อิอิ คิดถึงเสมอจ้าแม่พุดพัดชา แก้วประเสริฐ.
20 สิงหาคม 2547 14:57 น. - comment id 313556
คุณลี่คะ ขอขอบคุณค่ะที่ให้เกียรติ รักบุรุษแห่งสายธารกับ สาวงามแห่งไพรพฤกษ์ นะคะและ สำหรับเรานั้น เกิดมาได้พานพบกันอันถือเป็นโชคค่ะ ได้มาสู้อุตส่าห์สร้างฝัน รังสรรงานงามเงียบ ผนึกดวงวิญญาณผ่านพลี มอบกำนัลแด่โลกและทุกดวงใจ ราวทูอินวันอินฝันพลีเลยละค่ะ เพื่อดับร้อนให้ผ่อนพักใจ ด้วยน้ำใจที่ใสเย็น ด้วยดวงดอกไม้และธรรมะ ธรรมชาติงาม ด้วยความหวานแห่งงามเงียบเรียบง่าย ที่มิพักต้องใช้เงินงามซื้อ เพียงเพียรสร้างทัศนคติ มองชีวีนี้ให้เลิกสะสมวัตถุ เพาะบ่มเพียงคุณความดี ที่หอมชีวีตราบนานเท่านาน ตามติดจิตวิญญาณไปทุกภพทุกชาติ เราสองให้หวานหวังพลังใจ ภาวนา..ให้งานที่เรารักรจนา ดั่งด้วยใจ พาให้ทุกคนค้นพบขุมทรัพย์ภายใน ที่งามจริงยิ่งกว่าเพชรแพงเสียอีกค่ะ ลองมองหานะคะ และแม้นจะเหว่ว้าดายเดียวบ้าง ในเส้นทางสายฝันนิรันดร์รัก ทีมักจำต้องมีบทเรียนใจ..ไว้กำกับใจ มินานนักก็จักรู้วางให้ว่างใสกระจ่างจิต ให้คิดดีคิดได้คิดชอบ เนื่องจากอิ่มเต็มในทุกข์ทุกรัก ถึงจักรู้สึกเบื่อรักเบื่อโลก วนวงกรรมซ้ำๆรอยเดิมค่ะ และ หากใครแม้นดวงใจ มีเนื้อนาบุณย์เก่าเสริมส่งดวงชะตา และเราเองเพียรพาลิขิตชีวิต ไปตามครรลองที่งดงาม จะมิต้องตาม รอยโลกย์รอยโศกรอยกรรมนานค่ะ จะพาลเพียรพบ หาทางออกแบบมิต้องบอบช้ำใจ ก่อนสายเกินค่ะ หากเราเผชิญพบคู่ที่จิตมิเสมอ แต่ทว่า หากวิบากใจวิบากรรมยังมิสิ้น หัวใจดวงทองยังต้องถวิลวาดสวาทหวาม ก็แค่เพียรตามรู้ทัน และหันมาเพียรมากขึ้นๆ ฝึกสมาธิรู้วางว่าง หาทางให้ใจ มีสติมีปัญญาและภาวนาค่ะ ภาวนา..อย่าพบทุกข์รักเลยค่ะ เพราะลงท้ายก็เหมือน ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ *ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์* และ หากจิตวิญญาณมิอาจหลีกพ้น วิบากเก่าวิบากกรรม ก็เพียงขออย่าให้ช้ำตรอมใจ ให้รู้รักเย็นรักเป็นรักรอ..ขออธิษฐานใจ เพียงนั้นค่ะคนดี.. ที่พลีพร้อมยอมรับกรรมใจ.. ******** ด้วยซึ้งในพลังคำกำลังใจนะคะ
20 สิงหาคม 2547 17:07 น. - comment id 313637
งดงามในภาษา.. ชอบมาอ่าน..มาดู..งานของพี่.. ได้อรรถรสเยี่ยมเลย... ^___^
20 สิงหาคม 2547 17:18 น. - comment id 313638
++ อยากจะเป็นเช่นนางสุชาดา ได้ใส่บาตรพระสัมมาปิติสม สู่สวรรค์ทุกภพชาติรื่นภิรมย์ อธิษฐานยกตนเข้าพระนิพพาน.. +++++++++++++++++++++++++++ แต่งไม่เก่งนะคะ ...แต่อยากจะแต่งบ้าง....
20 สิงหาคม 2547 18:27 น. - comment id 313649
พี่พุดค่ะ... งามทั้งรูปภาพ..งามทั้งบทกลอน...งามทั้งลำนำ.. ดาหลาชื่นชมผลงานพี่พุดเสมอนะคะ..อ่านทุกครั้งค่ะ.... ดาหลาขอให้พี่พุดมีความสุขสมหวังในสิ่งที่รอคอยนะค่ะ... รักและคิดถึงมากค่ะ.
20 สิงหาคม 2547 21:53 น. - comment id 313761
ฝากดูแลความรู้สึกกัน เวลาไม่มีฉันอยู่ใกล้-ใกล้ ฝากให้เธอเก็บความห่วงใย เอาใจใส่กันบ้างเมื่อห่างกัน ฯ แวะมาเยี่ยมครับพี่ ll๛เมกกะ๛ll ~*~ ll๛ผู้ชายอารมณ์ดี๛ll
20 สิงหาคม 2547 21:58 น. - comment id 313763
อ่านหนึ่งเหมือนได้สอง เพราะพบสองผลงานสองนักเขียน ที่มาในแบบฉบับคล้าย ๆ กัน ประทับใจมากครับสำหรับเรื่องราวที่ประสบพบพาน แล้วนำมาเรียงร้อยรจนาได้ซาบซึ้งใจมาก ท่องไปในใต้หล้า ล้วนพบหาหลายหลากเห็น ฟังแล้วรื่นร่มเย็น เปรียบเหมือนเช่นเพลินพิมาน
21 สิงหาคม 2547 01:24 น. - comment id 313874
.......... ผมชอบบทกวีของพี่ลำน้ำน่านเหมือนกันครับ มีความฉ่ำชื่อใจยามได้อ่าน(และวิจิตรแอบเอาเป็นแบบเขียนด้วย) ทั้งสองบทกวีเป็นความลงตัวของผู้จัดแต่งครับ คนหนึ่งเขียนด้วยความฉ่ำชื่นตามธรรมชาติวิสัยอีกคนก็บอกเล่าเรื่องของธรรมชาติด้วยปรัญญา(ไม่รู้ว่าวิจิตรวิจารณ์บทกวีของคนแต่งถูกหรือเปล่า แต่วิจิตรอ่านแล้วเห็นเป็นอย่างนี้จริงๆ)
21 สิงหาคม 2547 11:52 น. - comment id 314050
ค่ำคืนที่ผ่านมาพี่พุดฟังบทเพลงเนรัญชราบรรเลง พริ้งพราวระนาดแก้ว แว่วเสียงสายน้ำระรินไหล พาหัวใจพี่พุดให้รำลึกนึกถึงอดีต แม้นจะฟังบรรเลงคนเดียวก็ตามที และ พี่พุดก็น้ำตารื้นชื้นตา กับค่าคำของน้องๆนะคะ น้อง- namsai น้องดาหลาดอกไม้ในดวงใจพี่พุด และขอให้หัวใจน้องจงผ่องผุดดั่งทองคำนะคะ ที่ระรินร่ำคำที่ทำให้พี่พุดแสนซึ้งใจจังค่ะคนดี รักทุกดวงใจนะคะ
22 สิงหาคม 2547 23:41 น. - comment id 314981
ลำน้ำนานเดินทางยาวนานไกล มารวมสายที่ปากน้ำโพเป็นเจ้าพระยา ก่อนคือเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงปากท้องไทยถิ่นกลาง ต่อมา...การพัฒนาที่ไร้ทิศทาง แม่น้ำเจ้าพระยาเคยล้ำค่าคล้ายว่าเป็นลำไส้ใหญ่เน่าเหม็นแล้วเพราะมลพิษ ขอเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายน้ำใจคือสิ่งแวดล้อมที่ดีที่สุด ความสุนทรีย์มีจริง
23 สิงหาคม 2547 22:49 น. - comment id 315544
นานมากแล้วที่ไม่ได้เจอกับผลงานของคุณลำน้ำน่านเลย แต่ไม่ว่าจะอ่านครั้งใดก็ยอมรับว่าฝีมือยอดเยี่ยมจริง ๆ ค่ะ คิดถึงคุณพี่พุดเสมอนะค่ะ