ตื่นมารับอุษาหอม รับดวงดอกน้ำค้างระรินรด หยดเพชรพราวกลิ้งงามอะคร้าวกลางใบพฤกษา รับกลิ่นถวิลหาถวิลหวังถวิลหวานจากงามพวงพะยอม รายรอบล้อมวิมานไพรวิมานภักดิ์ ฟังบทเพลงรักบทเพลงฝัน..และ อยากแบ่งปันปลอบประโลมทุกดวงใจในร่มรักนะคะ ฟังด้วยกันสิคะ http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1873 โลกแห่งความฝัน ใหม่ เจริญปุระ : : Key Ab เมื่อชีวิต ยังรักที่จะฝัน และบอกกับใจ ทุกวันที่ผ่านมา ด้วยปีกแห่งฝัน จะโบนบินไปถึงฟ้า หวังจะไปให้ถึงในซักวัน กว่าชีวิต จะพ้นไปอีกวัน อีกกี่ความฝัน ที่ฉันจะไขว่คว้า อีกกี่คำถาม ที่รอคอย การค้นหา แล้วถึงรู้ว่ามัน ไม่มีจริง โลกแห่งความจริง ฉันเป็นเหมือนคนตาบอด โลกแห่งความฝัน ฉันมองเห็นวันสดใส แต่ในวันนี้ โลกแห่งความฝัน ทอดทิ้งฉัน ไปไหน โลกไม่สดใส เหมือนวันก่อน กว่าจะรู้ ชีวิตคืออะไร กว่าจะรู้ หัวใจคงอ่อนล้า เฝ้ารอความฝัน ให้ตกตะกอนช้า ช้า เพื่อให้ฝันชัดเจน และเป็นจริง โลกแห่งความจริง ฉันเป็นเหมือนคนตาบอด โลกแห่งความฝัน ฉันมองเห็นวันสดใส แต่ในวันนี้ โลกแห่งความฝัน ทอดทิ้งฉัน ไปไหน โลกไม่สดใส เหมือนวันก่อน กว่าจะรู้ ชีวิตคืออะไร กว่าจะรู้ หัวใจคงอ่อนล้า เฝ้ารอความฝัน ให้ตกตะกอนช้า ช้า เพื่อให้ฝันชัดเจน และเป็นจริง... *************** และพลันหัวใจ แสนสุขสงบพบดายเดียวล้ำลึก เหมือนหยาดน้ำค้างในไพรพฤกษ์ร่ำระรินในยามดึก ที่รู้สึกราวดั่งจะดื่มกินได้ พอรุ่งรางก็จางหายไป ไม่มีอะไรเป็นนิรันดร์ ในโลกฝันราวคืนวันไร้มิติแห่งกาลเวลา หยาดฝนจากฟ้าดั่งน้ำตานางฟ้า ดั่งน้ำค้างจากตาค้างคาใจ ตกผลึกดั่งเพชรใสนิ่งงามนะกลางใจ น้ำตาใจหยุดไหลนานแล้ว เสียงแผ่วแผ่วแว่วหวานมาจากโค้งคุ้งรุ่งอรุณแห่งปลายฟ้า.. เลือนหายไปกาลเวลากับสายลมอ่อนอุ่นในยามค่ำ ทุกสิ่ง แปรผันยอกย้อนลวงหลอนหลอกใจไปวันวัน ก็เท่านั้นเท่านี้ชีวันชีวีมนุษย์ มิรู้สิ้นสุดตราบใดยังไม่ค้นพบความจริง ว่าทุกสิ่งคืออนิจจังอนัตตา รู้ลบลืม.. คำว่า..*กาลเวลาในอดีตอนาคต* สร้าง เพียงหมดจดใจจับกับปัจจุบันทุกวินาที มิมีโลกฝันใดไม่มีโลกในอดีต ไม่มีเจ้าไม่มีใจใครมาทำให้ทุกข์ทนหม่นหมองครองใจนาน ไม่มีหวานกมลรอใคร.... มี เพียงใจใสนิ่งนิ่ง ทิ้งระทมทับดับด้วยดวงดอกความดี กำลังผลิงามนะกลางใจ ที่รู้ทันเท่า เพียงเท่านั้นเท่านี้นะชีวีขวัญยอดดวงใจ แล้ว ทุกสิ่งในโลกนี้ จะสดใสหอมหวานดั่งดวงดอกไม้ตระการ รอคลี่กลีบแย้มบาน ให้ใจสัมผัสละมุนกรุ่นกลิ่นได้ทุกนาที รู้เพียงนาที นี้เรายังมีดวงตาดีดวงใจงาม มองทุกงามในสรรพสิ่ง รู้นิ่งพินิจ..มีสติมีสมาธิ มิหลุดไหลหวนหาใครไหวคะนึงครวญ และ ในความนิ่งงันเงียบงามนั้น พลันจะพบพรายแสงสว่างพร่างพา มิติว่างกลางเวลา.. ให้เกิดระลึกรู้ โลกนี้.ช่างน่าอยู่ดูงามเสียนี่กระไร..
4 กรกฎาคม 2547 10:16 น. - comment id 292954
เขียนกลอนได้สุดยอดจริง ๆ ค่ะ แวะมาชื่นชมบทกลอนของคุณนะคะ
4 กรกฎาคม 2547 10:16 น. - comment id 292956
พุด..ต้องรบไปทำธุระนะคะ ฝากทุกดวงใจ..ที่ระทมทับดับด้วยคำนี้นะคะ ลืม.....ให้สิ้นซาก ฉันยกหูโทรศัพท์ แล้ววางลง เป็นครั้งที่เท่าไร จำไม่ได้เลย รู้แต่ว่าวางลง โดยที่ไม่..แม้แต่ จะกดเลขหมาย ซึ่งจำได้อย่างแม่นยำ ไม่น่าเชื่อเลยว่า.....ใจของฉันจะสับสน ได้ถึงเพียงนี้.... หลายปีมาแล้ว..ที่ฉันจะต้องโทรถึงคุณ ในวันนี้ เดือนนี้ เพื่อ อวยพรวันเกิดให้คุณ นอกเหนือจากความปรารถนาดีที่อยากให้คุณ มีความสุขมากที่สุดแล้ว ฉันก็อยากให้คุณรู้ว่า ฉันยังคงคิดถึงและรักคุณเสมอมา....นะคนดี ทุกปีเช่นกันที่เสียงคุณจะตื่นเต้น ดีใจ ไม่เปลี่ยนแปลง คุณคงดีใจและแสนภูมิใจ ที่ยังมีผู้หญิงคนนี้ ยังคงโง่งม..เฝ้าหลงรัก หลงคอย โดยรู้ว่า..ไม่..แม้แต่จะได้พบกัน ไม่..แม้เพียงรอสบตา..หาคำตอบ.. ฉัน..เคยบอกคุณว่า..อยากพบคุณสักครั้ง ก่อนที่จะตัดใจ เดินไปจากชีวิตคุณแบบไม่ค้างคา ไม่ไยดี ไม่หวนไห้ คิดถึง รำพึงรำพัน ถึงคืนวันเก่าก่อนที่แสนดีมีค่า ในความทรงจำรำลึก ของเราอีกต่อไป ฉันยินดีจะไปเสียทีอย่างที่ลูกผู้หญิงที่ยังมีศักดิ์ศรี ควรจะยอมรับความจริง... ว่า...โลกนี้ ไม่เหลือเยื่อใย ต่อไปอีกแล้ว ระหว่างเรา และไม่เหลือแม้คำว่าคิดถึงและห่วงใย ที่จะเกาะเกี่ยวให้ดวงใจ ช้ำทุกข์ตรมอีกยาวยืน........... ฉันแค่อยากนั่งตรงหน้าคุณ มองตาคุณตรงๆ และขอถามคุณ เพียงคำถามเดียว แม้กายใจอยากจะโผ เข้าหาอ้อมกอดคุณที่เคยแนบแน่น เร่าร้อนรุนแรงอย่างที่เคยเป็น ด้วยแรงรักแรงคิดถึง นานเนาของการพรากจากมานับเป็นสิบปี คำถามเดียวนี้ ที่ต้องการแค่คำตอบเดียว เท่านั้นกลับมา ที่ฉันได้เตรียมใจ พร้อมรับฟัง คำพิพากษา และพร้อมจะกล่าวคำลา ไปจากคุณทั้งในโลกนี้ และโลกหน้า ไม่ให้ตามติดทั้งกายและจิตวิญญาณ แบบขอกรวดน้ำ คว่ำขัน แก่กันนะคนดี ในดวงใจ ที่ไม่อยากพบเจออีกแล้วไม่ว่าชาตินี้ชาติไหนระหว่างเรา คำถามหนึ่งเดียวในใจดวงนี้ ของลูกผู้หญิงคนหนึ่งคนนี้ ที่เคยเททุ่มทอดใจ พลีให้ อย่างหมดจิตหมดใจ คำถามมีว่า...ในใจคุณนั้น เคยมีฉันอยู่บ้างไหม แบบผู้หญิงคนพิเศษ.. เหมือนดังใจฉัน ที่แอบซุกซ่อนคุณไว้ เป็นหนึ่งเดียวในใจ มิรู้เลือนลืม... แต่มาวันนี้...แปลกสิ้นดี ที่แม้อยากจะถามคุณมากสักเพียงใด ฉันก็ไม่ต้องการ แกล้งโง่ หลอกตัวเองให้หลงรอคำตอบ..ต่อไปอีกแล้ว... ดวงตาฉันใส ดวงใจฉันสว่าง เพราะฉันฉลาดขึ้น และหาคำตอบนั้น ให้ใจตัวเองพบแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องถามคุณเลย... ระหว่างเรานั้น ถ้าฉันไม่หลอกตัวเองมานานนับสิบปี แบบคนที่งมงายอยู่กับโลกแห่งความฝัน ฉันก็น่าจะรู้ว่า มันจบกันไปนานแล้ว ... คำตอบนั้น มันอยู่ที่ตรงนี้ต่างหาก ตรง ที่..ใจของฉันเอง ..ใช่เธอ! คำๆเดียวที่ง่ายๆสั้นๆ.ตรงไปตรงมา ตรงใจ ...อย่างที่สุด.. เพียงถ้ามีปัญญาและเปิดใจยอมรับ.. คำนั้นคือคำว่า....ลืม!.............ลืม........... ลืมเสียเถิด อย่าคิดถึง!........ และ..ลืม!........เถิดนะว่า ...เราเคยรู้จักกัน...และ ระหว่างเรานั้น.......สวย...ที่สุด ถ้าจะ..จบสิ้นกัน.... ด้วยคำๆนี้ .... ลืมเสียที..... ลืมทุกสิ่ง.... ให้สิ้นซาก....จากนี้ไป...จนวันตาย แถมบทกวีที่เขียนในนามสาวบ้านนาและตั้งใจจะนำมารวมไว้ในหน้าสมาชิกค่ะ เนื้อดินดีเพาะพืชพันธุ์เนื้อใจนั้นเพาะความดี ..... นั่งโดดเดี่ยวเปลี่ยวใจริมทะเลกว้าง โลกอ้างว้างร้างไร้ใจสลาย ขอบฟ้าไกลน้ำจรดฟ้ายิ่งเดียวดาย ใจสลายคล้ายเศษแก้วแล้วนะใจ... ก้มลงกอบหัวใจหวังคืนกลับ เศษแก้วยับกับธุลีที่ร้าวไหว หยาดน้ำตาราวหยาดฝนตกต้องใจ หยาดเลือดไหลไหวสะเทือนเตือนเจ็บจำ.. ใจดวงงามนิ่งงันกับฝันร้าย โลกสลายหายวับรับรอยช้ำ ใจดวงหวานรานร้าวทุกข์ระกำ จนบอบช้ำย้ำรอยแผลแพ้ทั้งใจ... ทรุดกายลงแหงนวอนฟ้าท้าลมฝน พระเบื้องบนทอดทิ้งลูกฤาไฉน ร่างทั้งร่างทั้งเลือดเนื้อและหัวใจ ท่านใช่ไหมรู้ดีที่เป็นมา.. ก้มลงกราบกินดินทรายขอหมายมาด กี่ภพชาติให้ลูกพ้นพิพากษา จากคำคนผู้ไม่รู้ไม่เห็นในวิญญาญ์ ลูกเหว่ว้าหาทางธรรมน้อมนำใจ.. สวดขอพรกี่พันครั้งหาทางออก ลบช้ำชอกสร้างพลังเริ่มหวังใหม่ ลืมเงาเศร้าลบรอยร้าว เคี่ยว..เนื้อใจ.. หวังหว่านไถเพาะพืชพันธุ์สร้างฝันดีมอบโลกงาม
4 กรกฎาคม 2547 10:22 น. - comment id 292963
วางหัวใจไว้ตรงกลางระหว่างพลบ ให้ความมืดเลือนลบน้ำตาไหล รอรุ่งเช้าหยาดน้ำตาคงหายไป เหลือดวงใจดวงเก่าเหงาไม่วาย
4 กรกฎาคม 2547 14:33 น. - comment id 293074
มาเรื่องเดียวกันนี้ แบบนี้ต้องใช้แผนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ออมแรงไว้ดูบอลครับ น้ำค้างพราว วาววับ งามจับจิต ในนิมิต จักดูดดื่ม ปลื้มสดใส กอบลงจอก จักจิบ จนล้นใบ ครั้นยามสาย มลายวับ ไปกับตา
4 กรกฎาคม 2547 18:10 น. - comment id 293168
ได้ชื่นชมงานงามหลายต่อดีจัง
4 กรกฎาคม 2547 18:50 น. - comment id 293183
สายลม-กาลเวลา พัดพาสิ่งเก่า-เก่าไป แม้แต่คนที่เข้าใจ ก็จากไปพร้อม-สัญญา แวบมานิดหนึ่ง เด๋วเน็ตหลุดคงแย่ แวบมาอ่าน อ่าน อ่านอีกแร่ะ ชอบอ่ะครับ เน็ตเมกไม่ค่อยแข็งแรง ไปก่อนนะ เด๋วเน็ตหลุดอีก ป.ล. หลุด 5 ครั้งแย้ว แค่ 10 นาทีที่เข้ามา
4 กรกฎาคม 2547 19:02 น. - comment id 293189
โลกแสนสวย..ดูได้..ด้วยหัวใจ ยิ้มละไม..ก็ใช้..หัวใจสัมผัส ตาสดใส..คือดวงใจ..ในมนัส ความจริงจัด..จึงสวย..ด้วยใจมอง ..................................................
4 กรกฎาคม 2547 20:47 น. - comment id 293256
โลกสวยถ้าเราสร้าง โลกอ้างว้างถ้าเราหม่น โลกสุขไม่ทุกข์ทน ถ้าทุกคนมาช่วยกัน *-*แต่งได้ดีนะค่ะ ชอบเรื่องนี้ค่ะ*-*
5 กรกฎาคม 2547 00:59 น. - comment id 293407
ชอบเนื้อหาจัง.. แต่งได้เพราะมากๆๆ ชื่นชมเสมอ...
9 กรกฎาคม 2547 13:06 น. - comment id 295559
รื่นอารมณ์ในทุกคำถ้อยค่ะ ข้าพเจ้ามาทักทายพี่พุด... ทุกคำกวีของพี่พุดมิเคยห่างไปจากใจข้าพเจ้าเลย..ชื่นชมเสมอค่ะ