URL http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=716 ปริม..เป็นสถาปนิก ถูกว่าจ้างให้สร้างบ้านเลียนแบบพระราชวังโบราณ ในสมัยกลางของชาวอาหรับ เจ้าของ..เป็นหนุ่มหล่อ ทอล ดาร์คแอนแฮนซั่มแสนร่ำรวยและมีอนาคตไกล และ เพียงแค่ไม่กี่ครั้งหลังพบปะฟังทัศนะ เพื่อรับมาออกแบบให้เขาพอใจในงานงาม ตามประสาอาชีพที่จะเรืองรุ่ง หากพบเจอลูกค้าไม่จู้จี้ และ มีทัศนะกว้างไกลพอไปกันได้ มิใช่ให้สถาปนิกออกแบบ และแก้ไปแก้มา จนแบบวิจิตรวิลิศมาหราด้วยไอเดียงาม ได้กลายแบบร่างเป็นโรงลิเกแทนในไม่ช้า สำหรับ*เขา*คุยไม่กี่ครั้ง ปริมก็สามารถสัมผัสได้ ถึงความคิดพิเศษพิสุทธิ์ของเขาอย่างไม่คาดฝัน *หัวใจดวงที่งดงามรักเงียบงัน ฝันอยากแยกโลกและร่าง ห่างๆวิถีภายนอก ที่เขากระซิบบอก เบื่อเหลือทน ราวจนใจ ต้องทนสวมหน้ากากลวงโลกทั้งวัน กับภาระกิจอันวุ่นวายสับสนต้องพบผู้คนวันละมากมาย ฉะนั้น บ้านในฝันของเขาขอให้ซ่อนอยู่ในเงื้อมเงา ภายใต้*ปราการแห่งความสงบ* ที่เขาพยายามยกหนังสือเป็นตั้งมาให้ปริมดูเพื่อรับไอเดีย ให้ดูวังโบราณ ที่สร้างขึ้นในกำแพงหินในศตวรรษที่18 ที่เป็นของราชวงศ์เลบานีสพระองค์หนึ่ง ซึ่งเขาบอกแสนจะประทับใจตั้งแต่นาทีแรกที่เห็น อันดับแรก เขาบอก ปริม..ต้องออกแบบหลอกตา ให้ซ่อนอยู่ท่ามกลางป่าละเมาะ ที่ต้องลัดเลาะเลียบ ซากป้อมกำแพงเมืองโบราณ มีประตูหินโค้ง เต็มด้วยเศษอิฐหักพัง และกำแพงนั้น ต้องทิ้งช่องโหว่ว่างราวร้างไร้รกเรื้อมานาน และให้แฝงมหัศจรรย์เหลือเชื่อไว้นะเบื้องหลัง คือบ้านราววัง..โบราณ หลังป้อมปราการแห่งงามสงบนั้น *เขา* ถามย้ำ ปริมทำได้ไหม..สานฝันให้เขาได้ไหม.. ปริมคลี่ยิ้มหวาน... ก็งานของปริมนี่นา สู้ร่ำเรียนมาจนได้เกียรตินิยม อาชีพอันตรอมตรม ที่บางครั้งบางคราหากเดาอารมณ์ลูกค้าไม่ถูก ก็ต้องแก้แบบครั้งแล้วครั้งเล่า จนกว่าเจ้าของงานจะพอใจ ปริม..ล้มลุกคลุกคลานผ่านหนาวร้อนมา กับเล่ห์เหลี่ยมคนที่มักจะเอาเปรียบกัน มิคงมั่นในสัญญา พากันโกงค่าแบบ มากร้อยพันแบบประสบการณ์ แล้ว ทำไมงานนี้ หัวใจดวงดีดวงงามจะไม่หวั่นไหวดีใจ ที่พลันพลอยกระตุกวาบด้วยปลาบปลื้ม ดื่มด่ำราวพบขุมทรัพย์ล้ำค่ามหาศาล ได้พานพบลูกค้าชั้นเลิศ ราวหัวใจดวงเดียวกัน จะปล่อยฝันให้พลันหลุดลอยไปได้ยังไงกัน เมื่อ..*เขา* คนดีนั้น เปิดไฟเขียว ให้ สาวปริมใส่ฝันได้เต็มที่พลีจิตวิญญาณได้เกินร้อย แล้วเรื่องอะไรจะถอยหลัง ทั้งๆที่ยังไม่ทันชกหรือออกหมัดฮุคด้วยเล่า ปริมเพียงหวังรุกให้ลูกค้ายอมรับนับถือฝีมือ ในแนวที่ปริมแสนรักแสนถนัด ราวกำลังได้ออกแบบบ้านสร้างหวังหวานผ่าน ความคิดว่าคือรังรักในจินตนาการของตัวเอง ให้บรรเลงอย่างไม่ต้องเกรงใจใคร.. ชั่วไม่นานวัน...แบบร่างพร้อมภาพเหมือนจริง..งามกว่าจริง ภาพเพอร์สเปคตีพที่สายงานอาชีพต้องสเก๊ต เผด็จใจชนะใจลูกค้า ที่บางคราบางคนดูแปลนไม่ออกบอกไม่ถูก.. ไม่กล้าตัดสินใจจะถีบส่งไปดี หรือจะรับไว้..ก็แล้วแต่ฝีมือ..ฝากใจ สำหรับงานนี้ *เขา..คนดี *ตะลึงตะไล ราวร่างใจแทบผวามากอดปริม ผู้ยิ้มอิ่มเอมทายใจเดาใจถูก *เขา*ระล่ำระลัก เหมือนเด็กๆ ที่ปริมนั้นได้เสกสรรฝันให้เป็นจริงในกระดาษแล้ว และ นี่เพียงขนาดแค่วิมานในอากาศกระดาษ เพียงนั้น เขายังดีใจเพียงนี้แล้ว วันที่ฝันเขาถูกสร้างเนรมิตรให้จริงจะยิ่งสักเพียงไหน เขาคงเหมือน เด็กได้ของขวัญพิเศษถูกใจที่ราวรอคอยมาทั้งชีวิตเลยทีเดียว เขายามย้ำซ้ำๆว่าปริมทำได้ไง ... ทำไม เหมือนถอดใจถอดจิตวิญญาณเขาออกมาได้ อย่างหมดจดงดงามใจมากเหลือเกินแล้ว . ปริมไร้คำตอบ ก้มลงลอบมองภาพเพอร์สเปคทีพตรงหน้า ที่มี ทั้งภาพเบิร์ด อายวิว ภาพด้านข้างด้านหน้า และภาพงามจริงราวจำลองมา จากความฝันที่ทำให้ นิ่งงันอั้นอึ้ง กันทั้งคู่ ใช่แล้ว ปริมทำได้ไง ก็ไม่รู้ รู้เพียงว่าตอนนั่งออกแบบ รังรักในจินตนาการ..งานนี้นั้น ปริมเปิดบทเพลงฝันฟังคลอเคล้าใจไปตลอดเวลา และ สมมุติตัวเองว่าบ้านหลังนั้น คือบ้านในฝันของปริมเองนะซี จะมีอะไร นี่คือเคล็ดลับที่ปริมมักใช้สายใจสายใยรัก ถักทอทอดสอดประสานผ่านความคิดมาเป็นรูปเป็นร่าง สวมวิญญาณ ผ่านความรู้สึก.... หรือลึกลึก ปริมอาจจะรอเวลา ที่จะทำงานด้วยหัวใจด้วยจิตวิญญาณ มานานนักหนาแล้วก็เป็นได้ ที่เป็นบ้านงามเรียบง่าย คล้ายปราสาทแห่งความฝัน เบื้องหลังปราการอันงามเงียบ ที่นึกรักความงามดิ่งลึก แบบเข้าถึงความรู้สึกอันแสนอลังการยิ่งใหญ่ ในขณะ ที่หวังให้หัวใจผู้อาศัยอยู่ภายใน มีแต่ความร่มเย็นสงบงาม ท่ามกลางสงครามความขัดแย้ง แห่งโลกภายนอกที่ร้อนแรงระอุในเชิงธุรกิจ *เขาบอก* ให้ปริมสร้างกำแพงบ้านลอกเลียนแบบของเก่า สร้างรอยปูนกระเทาะและ ทิ้งรอยคราบเก่าๆต่างๆอย่างเสมือนราวรอยอดีต ผ่านกาลเวลามายาวนานนัก อย่างละเอียดละออ และ ขอให้มีรอยหลุดลอกบอกความเป็นบ้านเก่า ซ่อนเอาทุกเทคนิคการติดตั้งอย่างแนบเนียน โอ้ละหนอหัวใจสถาปนิกสาวช่างฝัน ผู้ขยันวาดวิมานในอากาศในกระดาษก่อนการสร้างจริง ถึงกันนิ่งงัน ด้วยซึ้งฝัน ไปกับเจ้าของที่จะกลายเป็นจริงในไม่ช้า ช่างแสนน่าจะปลาบปลื้มภาคภูมิใจ ในชีวีหนึ่งนี้ ในอาชีพนี้ที่ได้สัมผัสอะไรมามากมาย ได้รู้จักเศรษฐีเจ้าของโครงการ ได้ผ่านงานและโลกวัตถุมากมี โลกคนรวยที่มีเงินล้นฟ้าหาความสุขไม่ได้ เวลาให้สร้างบ้านให้ออกแบบตามไปทุบไป ด้วยเชื่อพลังในเรื่องฮวงจุ้ย บางทีแก้แบบไปแก้แบบมา พาเครียดทั้งผู้ออกแบบ และเจ้าของที่ต้องมาเสียเงินทองมากมาย เนื่องจากมารู้จักซินแสทายทักทีหลัง ให้ไม่มั่นใจ ไม่นานเท่าไร ก็เครียดเส้นโลหิตแตก แทบไม่ได้อาศัยบ้านอยู่ ที่แสนหรูแสนแพง และ นี่คือชีวีมนุษย์ ที่มิสุดสิ้นความต้องการมากมายมากมี อยากมีบ้านภายนอกงาม หากลืมสร้างบ้านภายใน สร้างฐานรากแห่งดวงใจให้แข็งแรง รองรับสรรพสิ่งที่วิ่งใส่วิ่งชนได้ ให้รู้รักรู้หยุด รู้จักรู้จับ รับงามเงียบในทุกยาม เพราะ หากเราคิด....คิด มิรู้หยุด ในที่สุดหัวใจ..จะไม่พานพบบ้านใดใดเลย ที่แสนสุขสงบใจ...แม้แต่เพียงหลังเดียว และ จิตวิญญาณ ต้องเที่ยวท่องแบบร้างไร้ คล้ายจนเสียยิ่งกว่า..คน ผู้ไม่มีบ้านภายนอกหลอกอวดใครอวดบารมี หากทว่า *เขาคนดี*นั้นมีบ้านภายในบ้านในดวงใจ แสนสวยใสงดงามละไมละเมียดแข็งแรง ใจที่ร่ำรวย ด้วยความดี มี สมาธิ สติ มีปัญญา พาให้หลุดพ้นจากวังวนเวียนว่ายในวัฎฎสงสาร ที่มิต้องหวานชื่นต้องขื่นขมระทมทับ และแตกดับดวงใจดวงจิต ติดหลงกลับมารับว้าเหว่เดียวดายดายเดียว นับอสงไขยในเวลามิอาจหลุดพ้น....ผลกรรม..
3 กรกฎาคม 2547 19:07 น. - comment id 292674
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=716 บ้านของเรา บ้าน คือวิมานของเรา เราซื้อเราเช่า เราปลูกของเรา ตาม ใจ ย่อมเป็นสถานทิพย์วิมานพอหาได้ เป็นที่เกิด ที่ ตาย ที่เราสร้างเอาไว้คอยท่า บ้าน คือวิมานของ คน ถึงแม้ยากจน ก็ต้องดิ้นรน อย่าจนปัญญา หาบ้านสักหลัง ที่พอประทังชีวา เพื่อสนิทในนิทรา ให้ตื่นมามองโลกชื่นใจ บ้าน ฉัน มีเพลงฝันให้ฟัง มีเสียงระฆัง จากกังสดาลพริ้งไป มีสวนไม้ดอก ผลิบานก้านกอช่อใบ มีความรัก มีน้ำใจ มีให้อภัย มีกรุณา บ้าน คือวิมานของเรา ยามพบความเศร้า รีบกลับบ้านเรา จะเปรมปรีดา เพราะบ้านมีรัก น้ำใจอภัยกรุณา คอยเราอยู่ทุกเวลา ในชายคาเขตบ้านของเรา บ้าน ฉัน มีเพลงฝันให้ฟัง มีเสียงระฆัง จากกังสดาลพริ้งไป มีสวนไม้ดอก ผลิบานก้านกอช่อใบ มีความรัก มีน้ำใจ มีให้อภัย มีกรุณา บ้าน คือวิมานของเรา ยามพบความเศร้า รีบกลับบ้านเรา จะเปรมปรีดา เพราะบ้านมีรัก น้ำใจอภัยกรุณา คอยเราอยู่ทุกเวลา ในชายคาเขตบ้านของเรา...
3 กรกฎาคม 2547 19:29 น. - comment id 292681
ตรงหน้าพุดนะนาทีนี้ มีตะกร้าการะเวกหวานบานเศร้าล้นตะกร้าค่ะ พุดขอฝากหวานหอมเศร้า ให้เคล้าคลองานอันรื่นรมย์นะคะ และ ในราตรีนี้กับจันทร์ใจดีดวงดีดวงเดิม ให้เติมน้ำผึ้งฝันพระจันทร์หวานหยาด ผ่านทุกสายใจสายใยรักในร่มรักเรือนไทยนะคะ พุด..จะจุดเทียนทองให้ส่องประกายงาม หยิบหนังสือธรรมมะของหลวงพ่อเทียน มาวางเคียงใจ หยิบอ่านนะคะแล้วจะนอนนิทราหลับฝันดีค่ะ พร้อมพลีดวงดอกการะเวกวางเคียงหมอน ให้หอมหวานหอมงามหอมท่ามท่วมใจ ให้พิไลล้ำพิสุทธิ์ใสเลยค่ะทุกดวงใจรัก ด้วยรักคิดถึงมากมายคล้ายจะล้นใจแล้ว
3 กรกฎาคม 2547 19:44 น. - comment id 292684
http://www.thaipoem.com/web/poemedit.php?id=33235 หยุดคิด เสียทีดีไหมเธอ..พุดพัดชา ค่ำคืนนี้ จันทร์ครึ่งดวง ลอยเอียง เคียงคู่ฟ้า ยามราตรี แสงจันทรา นวลละออ ทอแสง ขับความมืดหม่น บนผืนฟ้า อากาศ....ร้อน...อบอ้าว ไร้ลมรำเพย แต่...ใจดวง..กลับสงบงาม นิ่งฉ่ำเย็น อย่างน่าแปลก จันทร์ครึ่งซีก กำลังสอนใจ ใครบ้างล่ะหนอ.....ที่กำลังอยากแบ่งปันฝันฝากใจไปกับ มวลหมู่ดาราบนฟ้ากว้าง......... จันทร์ครึ่งซีก รอวัน....บานเต็มดวง......เหมือนทุกดวงใจ รอบานเบิก ดังบัวในบึงกว้าง ที่รอบาน..หวานแย้ม...รับแสงอาทิตย์อุทัย และ ดังใจเราที่รอแสงธรรม แสงทอง ส่องใจ ให้หยดน้ำค้างบนใบบัวและหยดน้ำตาในใจเรา มลายหายไปกับแสงอรุณรุ่ง...เพื่อชีวิตนี้ ที่มิมีวันมอดสิ้นหวัง ขอแค่เพียงเติมต่อ คิดดี ทำดี มีรัก ใช่ไหมเล่าเธอ....... จันทร์กระจ่างฟ้า กระจ่างใจ สว่างไสว เปรียบดังยามใจเราเป็นสุข ยามเราทุกข์ ดังจันทร์แรม รักก็แรมร้างลา พาใจให้มืดหมองหม่น..... ธรรมชาติของจันทรา และดารางาม หมุนเวียนเปลี่ยนผัน กำลังสอนใจเรา ให้ยอมรับความจริงแท้ แน่นอน....นะดวงใจ ดวง....หยิบหนังสือ บนหัวนอน เพื่อนคู่ยากหลากหลายเล่ม ก้าวรักในรอยจำ..A WALK TO REMEMBER หอมกลิ่นภูเขา..ของสร้อยแก้ว คำมาลา ไร้พรมแดน...ของลาวคำหอม และโลกสีน้ำเงิน ของอัศศิริ มาประโลมใจไปกับคืนค่ำนี้ ที่จันทราท้าแสงนวล โลมไล้หมองหม่น บนฟากฟ้า..... แลลอดผ่านหน้าต่างบานกว้าง ผ่านใบจำปี กวัดไกว ไหวลม แสงทองอาบส่องยอดไม้มา เยือนแย้มยิ้มอยู่ ภายในใจ ดวงงามยามนี้ ให้ใสงาม ฉ่ำเย็น.... แสงจันทร์อาบกายให้แสนหวานละมุน และดวงกำลังหยิบ หนังสือของ..หลวงพ่อเทียน... ที่ดังแสงเทียน แสงทอง ส่องสว่าง อาบเส้นทางใจ ให้แสนสงบงาม ไปตามกัน..... แสงจันทร์...แสงธรรม..แสงเทียน กำลังหลอมละลายให้ดวงนอนหลับฝันดี ในราตรีนี้ ที่เราทุกคนมีสิทธิ์ เลือกอบร่ำ พร่ำบ่มใจ เพื่อเอิบงาม ได้เท่าเทียมกัน..... คิด.....ไปทำไมเล่า..คนเรานั้นคิดอยู่เสมอ เหมือนดังกระแสน้ำ การหลงติดกับความคิด ก็เหมือนกับ การตักน้ำมาเก็บไว้ แต่ถ้ามีสติรู้เท่าทันความคิดนั้นๆ ก็เหมือนน้ำไหลมา แล้วก็ผ่านไป... การหลงติดในความคิด ทำให้เกิดทุกข์......... หยุด... ให้เป็น..ทันที ที่คิด จับดวงจิตที่คิดเพ้อให้หยุด..ให้ทัน..ท่วงที มีมีสานต่อ ก่อตรมระทมทุกข์ โอ้ดวงใจ.....คนดี...ไม่ว่ายามนี้ อยู่หนใด คิดดี คิดร้าย คิดหมาย คิดมั่น คิดฝัน คิดปอง คิดอยากลอง คิดอยากเล่น คิด......คิด....คิด....จะตาย จะเป็น ใครเล่ารู้.....นอกจากใจเราดวงนี้ที่ทุกข์ทน...เกินทาน. ดวง....ขอวอน... ด้วยใจดวงนี้ ที่พลีให้ เพื่อนร่วมโลก ลดโศกเศร้า รานร้าวฤดี ด้วยค่ำคืนนี้ ที่แสนงาม ผ่านจันทร์เสี้ยวดวงเศร้า ทุกคราครั้งที่นั่งมองนะคนดี ที่แสนรัก.......
3 กรกฎาคม 2547 20:04 น. - comment id 292693
ความรักก้อเหมือนกับการเดินทาง มีบ้างอุปสรรคมาขวางกั้น เพียงแค่หัวใจสองดวงมั่นคงต่อกัน อุปสรรคนับพันไม่อาจทำลาย อืม ขออนุญาตปิ๊นส์บทความนี้มาอ่านด้วยนะครับ ทั้งหมดของหน้าเวบนี้ ชอบครับ จะเอามานั่งอ่าน สายตาไม่ดีครับ
3 กรกฎาคม 2547 20:15 น. - comment id 292700
ความหมายของมันอยู่ที่ความพอใจทั้งสองฝ่ายวึ่งเป็นเรื่อง คนอยู่ไม่ได้ทำ คนทำไม่ได้อย
3 กรกฎาคม 2547 21:01 น. - comment id 292719
เรน..รัก..ทุกงานเขียน..ของพี่พุดนะคะ.. อ่อนหวาน..แฝงความมีชีวิต ..ที่น่าสัมผัส..มากเลยคะ.. เรน..ไม่รู้ ..มัย? น๊า .พี่พุด..เขียนงาน ได้..งดงาม..มากเลยคะ.. สื่อ ..ตัวอักษร ..ได้ราวเนรมิต.. เรน..นึกภาพตาม ..ที่บรรยาย .. ได้จริงๆนะคะ...
3 กรกฎาคม 2547 21:30 น. - comment id 292736
ผู้หญิงไร้เงาก็ชอบเกี่ยวกับการตกแต่งบ้านนะค่ะ ถึงแม้จะไม่ได้เรียนทางสายนี้ก็ตาม แต่บอกตรงๆ ชอบแต่งบ้านมากเหมือนกันค่ะ อยากเห็นบ้านหลังนี้จัง คงสวยน่าดู น่าอยู่มากเลยนะค่ะ
3 กรกฎาคม 2547 22:46 น. - comment id 292772
อ่านเพลินดีครับ จากบ้านเป็นเพียงแค่ทีซุกหัวนอน คงมองใหม่ว่าบ้านคือวิมานของเรา(ตามเพลง) นกน้อยทำรังแต่พอตัว(ตามโฆษณา) ชัยชนะคงไม่มีปัญญาหาช่างออกแบบอย่างปริม แต่คงออกแบบเอง ชัยชนะคิดว่า คนเราย่อมฝันมีบ้านเป็นการส่วนตัวกันทุกคน ก็ขอให้สมดั่งฝันใฝ่กันทุกคนนะครับ
3 กรกฎาคม 2547 22:51 น. - comment id 292776
มาอ่านจินตนาการผ่านตัวอักษรของพี่พุดพัดชาค่ะ .. ทำได้ดี .. เปรียบสถาปนิกที่ออกแบบสิ่งก่อสร้างด้วยหัวใจรัก มักเป็นสิ่งที่ผู้มีดนตรีในหัวใจเป็นกันค่ะ ^_^ .............................. ไม่ค่อยได้มาทักทายพี่พุดพัดชามากนัก . แต่ไม่เคยลืมติดตามผลงานค่ะ ..
4 กรกฎาคม 2547 02:27 น. - comment id 292842
มองชีวิตคิดงามตามธรรมชาติ ใสสะอาดวาดไปไม่เกินฝัน จะทุกข์สุขทุกอย่าง..ปล่อย...ช่างมัน ปีญหาแท้คือแพรพรรณ....ไยรันทด
4 กรกฎาคม 2547 08:00 น. - comment id 292881
ถอดหัวใจสถาปนิกออกมาเขียน เคยดุรายการสถาปนิกบริภาษซินแสนักดูฮวงจุ้ยทางทีวี มันมาก ตัวอย่างที่เห็นชัด ธนาคารกสิกรไทยสำนักงานใหญ่ตั้งตระหง่านริมน้ำเจ้าพระยาติดสะพานพระราม 9 เขาออกแบบสัญญลักษณ์รวงข้าวไว้งดงาม ซินแส บอกว่าไม่ถูกโหงวเฮ้งไม่ถูกฮวงจุ้ย ให้เติมวงกลม ให้เติมน้ำเป็นระรอก ดูแล้วเหมือนกอสวะ เปลี่ยนทั่วประเทศหมดไปเท่าไรผู้ถือหุ้นน่าจะฟ้องผู้บริหารเอาเงินส่วนแบ่งกำไรไปใช้ไม่ถูกหลักการบริหารการเงิน อิอิ
4 กรกฎาคม 2547 10:02 น. - comment id 292933
ปริมขยันรับงาน งานเดิมยังไม่เสร็จ ก็มีงานใหม่เข้ามาใหม่อีกแล้ว ดูู่ไปดูไปแล้วไม่น่าจน
9 กรกฎาคม 2547 13:10 น. - comment id 295564
อิ่มอุ่นทุกความงดงามค่ะพี่พุด ข้าพเจ้ามาทักทายพี่พุดค่ะ